การส่งเสริมการส่งออกตอนนี้ดีจริงหรือ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
การส่งเสริมการส่งออกตอนนี้ดีจริงหรือ
โพสต์ที่ 1
GDP เป็นส่วนประกอบของ การลงทุน การบริโภค และการส่งออกการนำเข้า
ปัจจุบัน GDP ของไทย มีสัดส่วนการส่งออกมาขึ้นเรื่อยๆ จนถึงประมาณ 60% ถึง 70% ของ GDP แล้ว
แล้วถ้าเรายังเน้นให้การส่งออกเติบโตเป็น 2 เท่าของการเติบโต GDP แน่นอนว่าสัดส่วนการส่งออกจะมากขึ้นเรื่อยๆในอนาคต
เหมือนเรากำลังพึงพิงเครื่องยนต์เครื่องนี้มากขึ้นเรื่อยๆ แล้วเครื่องยนต์เครื่องนี้เราก็แทบจะไม่สามารถควบคุมปัจจัยอะไรได้มากซักเท่าไร
ไม่ว่าจะเป็นค่าเงิน สภาพเศรษฐกิจของโลก การกีดกันทางการค้า
ถ้าในอนาคตมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เศรษฐกิจไทยที่พึงแต่เครื่องยนต์เครื่องนี้อาจจะหัวทิ่มได้ เพราะเครื่องยนต์เครื่องอื่นสนิมขึ้นหมดแล้ว
ทำไมเราต้องเน้นการส่งออก
เป็นเพราะเรายังคงสนใจตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจใช่หรือไม่
และสอดคล้องกับแนวเศรษฐกิจพอเพียงหรือไม่
ปัจจุบัน GDP ของไทย มีสัดส่วนการส่งออกมาขึ้นเรื่อยๆ จนถึงประมาณ 60% ถึง 70% ของ GDP แล้ว
แล้วถ้าเรายังเน้นให้การส่งออกเติบโตเป็น 2 เท่าของการเติบโต GDP แน่นอนว่าสัดส่วนการส่งออกจะมากขึ้นเรื่อยๆในอนาคต
เหมือนเรากำลังพึงพิงเครื่องยนต์เครื่องนี้มากขึ้นเรื่อยๆ แล้วเครื่องยนต์เครื่องนี้เราก็แทบจะไม่สามารถควบคุมปัจจัยอะไรได้มากซักเท่าไร
ไม่ว่าจะเป็นค่าเงิน สภาพเศรษฐกิจของโลก การกีดกันทางการค้า
ถ้าในอนาคตมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เศรษฐกิจไทยที่พึงแต่เครื่องยนต์เครื่องนี้อาจจะหัวทิ่มได้ เพราะเครื่องยนต์เครื่องอื่นสนิมขึ้นหมดแล้ว
ทำไมเราต้องเน้นการส่งออก
เป็นเพราะเรายังคงสนใจตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจใช่หรือไม่
และสอดคล้องกับแนวเศรษฐกิจพอเพียงหรือไม่
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
การส่งเสริมการส่งออกตอนนี้ดีจริงหรือ
โพสต์ที่ 2
8) เท่าที่ผมตามอ่าน
นัักเศรษฐศาสตร์ระดับโลกหลายๆคน
ไม่เคยแนะให้ไทยเรามาเน้นทางส่งออกเลยนะครับ
ทำไมเราไปคิดว่าเรื่องนี้เป็นจุดแข็งของประเทศเราไปได้ครับ
เพื่อนผมคนนึงว่า วันไหนจีนส่งทุเรียนมาขายเมืองไทยได้เมื่อไร
ก็วันนั้นแหละครับ
ที่เราจะได้รู้ว่าไผเป็นไผ
เมื่อวานอ่านข่าว
คุณกานต์ ผู้จัดการใหญ่ที่scc
เล่าให้ฟังว่าไปนั่งถกกับ
เซียนๆที่ฮ่องกง
เขาทำนายกันว่าเมืองไทยอีก3-5ปี
ฮุ..18-19บาทต่อดอลล่าร์ ครับ
ผมว่าจะเลิกเล่นหุ้น
ไปค้าเงินแทนดีกว่าครับ
นัักเศรษฐศาสตร์ระดับโลกหลายๆคน
ไม่เคยแนะให้ไทยเรามาเน้นทางส่งออกเลยนะครับ
ทำไมเราไปคิดว่าเรื่องนี้เป็นจุดแข็งของประเทศเราไปได้ครับ
เพื่อนผมคนนึงว่า วันไหนจีนส่งทุเรียนมาขายเมืองไทยได้เมื่อไร
ก็วันนั้นแหละครับ
ที่เราจะได้รู้ว่าไผเป็นไผ
เมื่อวานอ่านข่าว
คุณกานต์ ผู้จัดการใหญ่ที่scc
เล่าให้ฟังว่าไปนั่งถกกับ
เซียนๆที่ฮ่องกง
เขาทำนายกันว่าเมืองไทยอีก3-5ปี
ฮุ..18-19บาทต่อดอลล่าร์ ครับ
ผมว่าจะเลิกเล่นหุ้น
ไปค้าเงินแทนดีกว่าครับ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 455
- ผู้ติดตาม: 0
การส่งเสริมการส่งออกตอนนี้ดีจริงหรือ
โพสต์ที่ 4
ยากจะเลี่ยงครับ ไม่งั้นก็ต้องหันไปผลิตให้คนในประเทศใช้ เรียกว่า "ผลิตทดแทนการนำเข้า" ซึ่งก็จะมีหลายอย่างที่ผลิตได้ไม่ดีเท่า ไม่ถูกเท่าของนอก ก็จะได้ของแพงออกมา คนก็ไม่ซื้อใช้ รัฐก็ต้องเข้ามาช่วยเพิ่มภาษีให้ของนอกตัวนั้นแพงขึ้นเกินจำเป็น ของไทยที่ผลิตมาทดแทนนั่นจะได้ขายได้ ทั้งที่ห่วยกว่า
ในยุคโลกาภิวัตน์ ดูเหมือนเรามีแค่สองทางเลือกนี้คือ ผลิตเพื่อส่งออก กับ ผลิตเพื่อภายในและทดแทนการนำเข้า ซึ่งเทรนด์ไปทางหลังชัดเจนอย่างยากจะปฏิเสธได้ครับ เป็นหลัก comparative advantage
เพียงแต่เราไม่ต้องยึดตามนี้เป๊ะๆ 100% บางอย่างที่สำคัญกับความมั่นคง สวัสดิการรัฐ หรือไทยเราเห็นอนาคตที่จะพัฒนาต่อไปได้ ค่อยคุ้มครองเป็นกรณีๆไป
ในยุคโลกาภิวัตน์ ดูเหมือนเรามีแค่สองทางเลือกนี้คือ ผลิตเพื่อส่งออก กับ ผลิตเพื่อภายในและทดแทนการนำเข้า ซึ่งเทรนด์ไปทางหลังชัดเจนอย่างยากจะปฏิเสธได้ครับ เป็นหลัก comparative advantage
เพียงแต่เราไม่ต้องยึดตามนี้เป๊ะๆ 100% บางอย่างที่สำคัญกับความมั่นคง สวัสดิการรัฐ หรือไทยเราเห็นอนาคตที่จะพัฒนาต่อไปได้ ค่อยคุ้มครองเป็นกรณีๆไป
-
- Verified User
- โพสต์: 127
- ผู้ติดตาม: 0
การส่งเสริมการส่งออกตอนนี้ดีจริงหรือ
โพสต์ที่ 6
ถ้าไม่มีส่งออกช่วยดึง ศก.ไว้ คุณคิดว่า ศก.ไทยจะโตสักเท่าใด ???
ปัจจัยรุมเร้าจนดีมานด์ในปท. ย่ำแย่ไปหมดแล้วครับ
สัดส่วนการส่งออกของไทยต่อ GDP ถือว่ายังต่ำครับ
เมื่อเทียบกับ มาเลเซีย หรือ สิงคโปร์.... มันคงเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้
เพราะประชากรของเราเพียง 65 ล้านคน... ไม่ใช่หลายร้อยล้านคน
เราคงต้องทำสิ่งต่างๆ ดีๆ ถูกๆ และเราได้เปรียบ มาขายคนข้างนอกประเทศครับ
ปัจจัยรุมเร้าจนดีมานด์ในปท. ย่ำแย่ไปหมดแล้วครับ
สัดส่วนการส่งออกของไทยต่อ GDP ถือว่ายังต่ำครับ
เมื่อเทียบกับ มาเลเซีย หรือ สิงคโปร์.... มันคงเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้
เพราะประชากรของเราเพียง 65 ล้านคน... ไม่ใช่หลายร้อยล้านคน
เราคงต้องทำสิ่งต่างๆ ดีๆ ถูกๆ และเราได้เปรียบ มาขายคนข้างนอกประเทศครับ
- bsk(มหาชน)
- Verified User
- โพสต์: 3206
- ผู้ติดตาม: 0
การส่งเสริมการส่งออกตอนนี้ดีจริงหรือ
โพสต์ที่ 8
เคยทราบว่าเศรษฐกิจของอเมริกาเติบโตได้เพราะการบริโภคภายในประเทศมีสัดส่วนขนาดใหญ่ จีดีพีไม่ได้ขยายตัวจากการส่งออกเป็นสำคัญ
ประเทศอื่นๆเน้นการเติบโตแบบไหน
เราจะไปถึงจุดนั้นได้มั้ยคับ :roll:
ประเทศอื่นๆเน้นการเติบโตแบบไหน
เราจะไปถึงจุดนั้นได้มั้ยคับ :roll:
-
- Verified User
- โพสต์: 1976
- ผู้ติดตาม: 0
การส่งเสริมการส่งออกตอนนี้ดีจริงหรือ
โพสต์ที่ 9
ส่งออก ถ้าไม่นับสินค้าอิเลกทรอนิกส์ อุตสาหกรรเกษตรเราก็น่าจะแย่นะครับ ซึ่งส่งผลไปสู่ระดับล่างค่อนข้างเยอะ ในขณะที่สินค้าอิเลกทรอนิกหรือรถยนต์ พวกนี้ กระทบ ก็กระทบกระเป๋าต่างชาติ แต่มองแง่ดี คือรักษาระดับให้เสถียร ดึงเงินต่างชาติเข้ามา ว่ามันจะไม่แข็งไปกว่านี้แล้ว
ส่วนปัจจุบัน น่าจะเพียงรักษาให้มันอยู่ได้ หรือ แย่ไปกว่านี้มั้งครับ ส่วนการเติบโตคง ไม่น่าจะเน้นมากในนโยบายอันใหม่ครับ
ส่วนปัจจุบัน น่าจะเพียงรักษาให้มันอยู่ได้ หรือ แย่ไปกว่านี้มั้งครับ ส่วนการเติบโตคง ไม่น่าจะเน้นมากในนโยบายอันใหม่ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 269
- ผู้ติดตาม: 0
การส่งเสริมการส่งออกตอนนี้ดีจริงหรือ
โพสต์ที่ 10
ผมเห็นด้วยกับ คุณฉัตรชัย ครับ ที่ว่าเราพึ่งพาการส่งออกมากไป
ความคิดผม เศรษฐกิจที่ยั่งยืน ไม่น่าพึ่งพาการส่งออกแต่เพียงอย่างเดียว
ถึงพึ่งพาการส่งออกเป็นหลักจริง ก็ควรพัฒนาความสามารถการแข่งขันอย่างยั่งยืน มันถึงจะไปได้ แต่เท่าที่ดู การส่งออกของเรายังพึ่งแต่ อัตราแลกเปลียนอย่างเดียวเอง นั้นแปลว่า ถ้าเราขายไม่ออก เราพยายามทำให้บาทเราอ่อนๆ เพื่อให้ถูกกว่าคนอื่น จึงจะขายได้
เมื่อขายได้แล้วก็มีเงินไหลเข้าประเทศ บาทก็แข็ง ก็มาเรียกร้องให้ ทำบาทอ่อนอีก
พอบาทอ่อนก็ขายของได้ บาทเข้าประเทศ บาทก็แข็งอีก แล้วก็วนเวียนอยู่อย่างนี้
จะทำอย่างนี้ไปได้นานอีกซักเท่าไหร่กัน ใครก็ตามที่มองออกว่าเราทำได้แต่อย่างนี้ ก็ต้องมาเก็งกำไรอยุ่แล้ว ที่เราทำอยุ่มันฝืนตลาด ฝืนธรรมชาติ นะผมว่า
ตอนนี้เราพึ่งพิงการส่งออกมากหรือเปล่า ผมว่า ที่จริงควรจะสนับสนุนให้ผู้ประกอบการของเราเก่งกว่านี้ ออกมาลงทุนกว่านี้ แต่ก็ยากอีก เพราะพวกผู้ประกอบการรายย่อยของเรา มักอยู่ได้ไม่นาน ดังนั้น ตอนนี้ปัจจัยที่จะดันเศรษฐกิจได้ตอนนี้มีแต่การส่งออกเท่านั้น แต่ผมไม่เห็นด้วยที่มาคุมค่าเงินบาท แบบนี้ เพราะถึงต่อให้ได้ผล ก็ทำได้ไม่นาน
ความคิดผม เศรษฐกิจที่ยั่งยืน ไม่น่าพึ่งพาการส่งออกแต่เพียงอย่างเดียว
ถึงพึ่งพาการส่งออกเป็นหลักจริง ก็ควรพัฒนาความสามารถการแข่งขันอย่างยั่งยืน มันถึงจะไปได้ แต่เท่าที่ดู การส่งออกของเรายังพึ่งแต่ อัตราแลกเปลียนอย่างเดียวเอง นั้นแปลว่า ถ้าเราขายไม่ออก เราพยายามทำให้บาทเราอ่อนๆ เพื่อให้ถูกกว่าคนอื่น จึงจะขายได้
เมื่อขายได้แล้วก็มีเงินไหลเข้าประเทศ บาทก็แข็ง ก็มาเรียกร้องให้ ทำบาทอ่อนอีก
พอบาทอ่อนก็ขายของได้ บาทเข้าประเทศ บาทก็แข็งอีก แล้วก็วนเวียนอยู่อย่างนี้
จะทำอย่างนี้ไปได้นานอีกซักเท่าไหร่กัน ใครก็ตามที่มองออกว่าเราทำได้แต่อย่างนี้ ก็ต้องมาเก็งกำไรอยุ่แล้ว ที่เราทำอยุ่มันฝืนตลาด ฝืนธรรมชาติ นะผมว่า
ตอนนี้เราพึ่งพิงการส่งออกมากหรือเปล่า ผมว่า ที่จริงควรจะสนับสนุนให้ผู้ประกอบการของเราเก่งกว่านี้ ออกมาลงทุนกว่านี้ แต่ก็ยากอีก เพราะพวกผู้ประกอบการรายย่อยของเรา มักอยู่ได้ไม่นาน ดังนั้น ตอนนี้ปัจจัยที่จะดันเศรษฐกิจได้ตอนนี้มีแต่การส่งออกเท่านั้น แต่ผมไม่เห็นด้วยที่มาคุมค่าเงินบาท แบบนี้ เพราะถึงต่อให้ได้ผล ก็ทำได้ไม่นาน
-
- Verified User
- โพสต์: 269
- ผู้ติดตาม: 0
การส่งเสริมการส่งออกตอนนี้ดีจริงหรือ
โพสต์ที่ 11
ผมยังคิดว่า การลงทุนภาคเอกชน น่าจะเป็นอันดับแรกในการพัฒนาเศรษฐกิจ เพราะว่า ถ้าหากการลงทุนภาคเอกชนเรามีมากและมีคุณภาพพอ การบริโภค ก็น่าจะตามมา เพราะถ้าธุรกิจเอกชน ออกมาลงทุนทำธุรกิจและไปได้สวย การจับจ่ายใช้สอยก็น่าจะตามมาเอง และเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจด้วย
การกระตุ้น เศรษฐกิจ ด้วยการปล่อยกู้ ให้ประชาชนเอาไปบริโภค : ทำได้เพียงสร้างความคึกคักได้ประเดี๋ยวประด่าวเท่านั้น เพราะสุดท้ายเงินก้อนนี้ก็จะหายไปกับการบริโภค
การกระตุ้น เศรษฐกิจ ด้วยการใช้งบขาดดุล : ดีกว่าการให้ประชาชนกู้ไปใช้จ่ายเฉยๆ แต่น่าจะเป็นการลงทุนพวกสาธารณุปโถค ที่ประชาชนนำไปใช้ได้ และสร้างประโยชน์ส่วนรวม
การกระตุ้นการส่งออก : ดีกว่า 2 ข้อ ข้างต้น เพราะเป็นตัวสร้างรายได้ให้เข้าประเทศ และมีความสำคัญจริงอย่างที่หม่อมอุ๋ยว่า เพียงแต่เราต้องยอมรับว่า การส่งออก(มากกว่านำเข้า) จะทำให้เงินเข้าประเทศมากกว่าออก แน่นอนทำให้บาทแข็ง และทำให้ขายของยากขึ้นในคราวต่อไป ที่เราควรทำคือจะจัดการกับเงินที่เข้ามาอย่างไรจึงจะเหมาะสม มากกว่าไปบิดเบือนอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อให้ขายของได้ในคราวต่อไป (คราวต่อไปถึงขายของได้ บาทก็ต้องแข็งอย่างนี้อีก แล้วจะทำยังไงอีก) แรงเก็งกำไรก็เกิดจากเหตุที่เราฝืนตลาดนี่แหล่ะ เราอ้างว่าที่ต้องออกมาตรการก็เพราะมีแรงเก็งกำไร แต่ว่าแรงเก็งกำไรก็เกิดมาจากการฝืนตลาดมิใช่หรือ แล้วทำไมถึงไม่แก้ที่ต้นเหตุล่ะ
การส่งเสริมการลงทุน : มีประโยชน์มากที่สุด ในความคิดผม แต่ก็เป็นตัวที่ทำได้ยากที่สุดเช่นกัน เพราะการจะบ่มเพาะผู้ประกอบการที่เก่ง ที่เอาตัวรอดในสนามธุรกิจได้ต้องใช้เวลา และความพยายามมาก ต้องเกิดจากคนที่มีความมุ่งมั่นอยากเป็นผู้ประกอบการจริงๆ มีความพยายาม และผู้ที่จะมาให้การอบรมสั่งสอนตั้งมีความรู้ประสบการณ์จริงด้วย ข้อนี้ดีที่สุดในความคิดผม แต่ทำยากที่สุด
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของ ระบบการศึกษา นิสัย ทัศนคติ ระเบียบวินัย ต่างๆมากมาย จิปาถะ ถ้าจะส่งเสริมกันจริงๆ คงยาวนานกว่าจะทำให้มีคุณภาพทั้งระบบได้
เขียนมาซะยาว
สรุปแล้ว ผมว่า ปวดหัวอ่ะ
การกระตุ้น เศรษฐกิจ ด้วยการปล่อยกู้ ให้ประชาชนเอาไปบริโภค : ทำได้เพียงสร้างความคึกคักได้ประเดี๋ยวประด่าวเท่านั้น เพราะสุดท้ายเงินก้อนนี้ก็จะหายไปกับการบริโภค
การกระตุ้น เศรษฐกิจ ด้วยการใช้งบขาดดุล : ดีกว่าการให้ประชาชนกู้ไปใช้จ่ายเฉยๆ แต่น่าจะเป็นการลงทุนพวกสาธารณุปโถค ที่ประชาชนนำไปใช้ได้ และสร้างประโยชน์ส่วนรวม
การกระตุ้นการส่งออก : ดีกว่า 2 ข้อ ข้างต้น เพราะเป็นตัวสร้างรายได้ให้เข้าประเทศ และมีความสำคัญจริงอย่างที่หม่อมอุ๋ยว่า เพียงแต่เราต้องยอมรับว่า การส่งออก(มากกว่านำเข้า) จะทำให้เงินเข้าประเทศมากกว่าออก แน่นอนทำให้บาทแข็ง และทำให้ขายของยากขึ้นในคราวต่อไป ที่เราควรทำคือจะจัดการกับเงินที่เข้ามาอย่างไรจึงจะเหมาะสม มากกว่าไปบิดเบือนอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อให้ขายของได้ในคราวต่อไป (คราวต่อไปถึงขายของได้ บาทก็ต้องแข็งอย่างนี้อีก แล้วจะทำยังไงอีก) แรงเก็งกำไรก็เกิดจากเหตุที่เราฝืนตลาดนี่แหล่ะ เราอ้างว่าที่ต้องออกมาตรการก็เพราะมีแรงเก็งกำไร แต่ว่าแรงเก็งกำไรก็เกิดมาจากการฝืนตลาดมิใช่หรือ แล้วทำไมถึงไม่แก้ที่ต้นเหตุล่ะ
การส่งเสริมการลงทุน : มีประโยชน์มากที่สุด ในความคิดผม แต่ก็เป็นตัวที่ทำได้ยากที่สุดเช่นกัน เพราะการจะบ่มเพาะผู้ประกอบการที่เก่ง ที่เอาตัวรอดในสนามธุรกิจได้ต้องใช้เวลา และความพยายามมาก ต้องเกิดจากคนที่มีความมุ่งมั่นอยากเป็นผู้ประกอบการจริงๆ มีความพยายาม และผู้ที่จะมาให้การอบรมสั่งสอนตั้งมีความรู้ประสบการณ์จริงด้วย ข้อนี้ดีที่สุดในความคิดผม แต่ทำยากที่สุด
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของ ระบบการศึกษา นิสัย ทัศนคติ ระเบียบวินัย ต่างๆมากมาย จิปาถะ ถ้าจะส่งเสริมกันจริงๆ คงยาวนานกว่าจะทำให้มีคุณภาพทั้งระบบได้
เขียนมาซะยาว
สรุปแล้ว ผมว่า ปวดหัวอ่ะ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
การส่งเสริมการส่งออกตอนนี้ดีจริงหรือ
โพสต์ที่ 12
ถ้าปัจจุบัน เรามี GDP เท่ากับ 100 การส่งออกเท่ากับ 65
แล้วเรายังรักษาอัตราการเติบโตของ GDP ปีละ 5% การส่งออกปีละ 12%
อีก 5 ปีต่อมา เราจะมี GDP เท่ากับ 127.63 การส่งออกเท่ากับ 114.55
การส่งออกก็จะคิดเป็น 89.75% ของ GDP
จะเป็นไปได้หรือ
แล้วเรายังรักษาอัตราการเติบโตของ GDP ปีละ 5% การส่งออกปีละ 12%
อีก 5 ปีต่อมา เราจะมี GDP เท่ากับ 127.63 การส่งออกเท่ากับ 114.55
การส่งออกก็จะคิดเป็น 89.75% ของ GDP
จะเป็นไปได้หรือ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 1477
- ผู้ติดตาม: 0
การส่งเสริมการส่งออกตอนนี้ดีจริงหรือ
โพสต์ที่ 13
รบ ไหนๆก็ต้องดูแลเรื่องการเมืองด้วย ขืนบอกโต้ๆว่าจะไม่ส่งเสริมการส่งออก รับรองว่า ลงโลง
I do not sleep. I dream.
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
การส่งเสริมการส่งออกตอนนี้ดีจริงหรือ
โพสต์ที่ 14
ช่วงนี้บ้าข้อมูล
ปี GDP Export Export as % of GDP
2513 147385 14772 10.0%
2523 662482 133197 20.1%
2533 2183545 589812 27.0%
2543 4922731 2777733 56.4%
2547 6576023 3922410 59.6%
ยังไงขอเตือนความจำนิดนึง Export ที่มีผลต่อ GDP คือ net Export เท่านั้น เรานำเข้าเยอะมากเหมือนกัน net Export ก็เลยมีผลน้อยมาใน GDP เช่น ปี 2547 เรานำเข้า 3839753 ล้านล้านบาท หักกลบแล้วทำให้ net Export คิดเป็นเพียงแค่ 1.25% ของ GDP เท่านั้น
สมมติว่า VCDทุกเรื่องที่เราดูเราจ่ายค่าลิขสิทธิ์ Microsoft Office ของทุกบ้านมีลิขสิทธิ์ถูกต้อง ไม่ได้ปล้นเขามา ผมก็ไม่รู้ว่าประเทศไทยจะกลายเป็น net importer อยู่หรือเปล่า :roll:
ปี GDP Export Export as % of GDP
2513 147385 14772 10.0%
2523 662482 133197 20.1%
2533 2183545 589812 27.0%
2543 4922731 2777733 56.4%
2547 6576023 3922410 59.6%
ยังไงขอเตือนความจำนิดนึง Export ที่มีผลต่อ GDP คือ net Export เท่านั้น เรานำเข้าเยอะมากเหมือนกัน net Export ก็เลยมีผลน้อยมาใน GDP เช่น ปี 2547 เรานำเข้า 3839753 ล้านล้านบาท หักกลบแล้วทำให้ net Export คิดเป็นเพียงแค่ 1.25% ของ GDP เท่านั้น
สมมติว่า VCDทุกเรื่องที่เราดูเราจ่ายค่าลิขสิทธิ์ Microsoft Office ของทุกบ้านมีลิขสิทธิ์ถูกต้อง ไม่ได้ปล้นเขามา ผมก็ไม่รู้ว่าประเทศไทยจะกลายเป็น net importer อยู่หรือเปล่า :roll:
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
การส่งเสริมการส่งออกตอนนี้ดีจริงหรือ
โพสต์ที่ 16
[quote="woody"]เมื่อคืนนอนคิดเล่นๆ นึกถึงประเด็นนี้ขึ้นมาจะถามเรื่องตัวเลขพี่ Chatchai พอดีว่ามันเป็น Net Export หรือ Export เฉยๆ สงสัยพลังจิตแรงพี่สุมาอี้เลยมาตอบคำถามให้แล้ว
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
การส่งเสริมการส่งออกตอนนี้ดีจริงหรือ
โพสต์ที่ 17
8) อ่านที่ท่านแม่ทัพเขียนได้ความรุ้เหลือเกินครับสุมาอี้ เขียน:ช่วงนี้บ้าข้อมูล
ปี GDP Export Export as % of GDP
2513 147385 14772 10.0%
2523 662482 133197 20.1%
2533 2183545 589812 27.0%
2543 4922731 2777733 56.4%
2547 6576023 3922410 59.6%
ยังไงขอเตือนความจำนิดนึง Export ที่มีผลต่อ GDP คือ net Export เท่านั้น เรานำเข้าเยอะมากเหมือนกัน net Export ก็เลยมีผลน้อยมาใน GDP เช่น ปี 2547 เรานำเข้า 3839753 ล้านล้านบาท หักกลบแล้วทำให้ net Export คิดเป็นเพียงแค่ 1.25% ของ GDP เท่านั้น
สมมติว่า VCDทุกเรื่องที่เราดูเราจ่ายค่าลิขสิทธิ์ Microsoft Office ของทุกบ้านมีลิขสิทธิ์ถูกต้อง ไม่ได้ปล้นเขามา ผมก็ไม่รู้ว่าประเทศไทยจะกลายเป็น net importer อยู่หรือเปล่า :roll:
ส่วนดีวีดีทีดูอยู่ไม่เคยไปปล้นใครเลยนะครับ
ก็ไปซื้อแถวคลองถม
คนขายว่าเท่าไร
ผมก็จ่ายไปตามทีเ่ขาบอก
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
การส่งเสริมการส่งออกตอนนี้ดีจริงหรือ
โพสต์ที่ 18
สูตร
GDP = C + I + G +( X - M )
C = รายจ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน
I = รายจ่ายเพื่อการลงทุนภาคเอกชนและรัฐบาล
G = รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าและบริการภาครัฐบาล
X = การส่งออก
M = การนำเข้า
ถ้าให้ GDP = 100
X = 65
เราก็จะได้
100 = C + I + G - M + 65
( C + I + G - M) = 100 - 65 = 35
เมื่ออัตราการเติบโตของ GDP ปีละ 5% และ X โตปีละ 12 %
ปีที่ 5 GDP = 127.63 X = 114.55
C + I + G - M = 127.63 - 114.55 = 13.08
ก็แสดงว่า M ก็คงต้องโตขึ้นมากทีเดียว
------------------------------------------------------------------------------------
แต่ประเด็นที่ผมอยากจะบอกก็คือ
การส่งออก 114.55 ถ้ามีปัญหาลดลงซัก 10% หรือลดลง 11.45
จะส่งผลให้ GDP ลดลงถึง 8.97% เชียว ถึงตอนนั้น ผู้ส่งออกต้องการอะไร รัฐบาลและ ธปท.ก็คงต้องยอมให้หมดละครับ
แล้วการส่งออก ใครเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ของโลกครับ มีฐานะทางการเงินเป็นอย่างไร จะสามารถซื้อสินค้าจากประเทศอื่นๆเพิ่มขึ้นอีกมากน้อยแค่ไหน
การให้ภาคส่งออกเติบโตเกินปรกติ โดยไม่ยอมเพิ่ม ส่งเสริม C I และ G เราจะโตอย่างยั่งยืน ตามที่รัฐบาลชุดนี้บอกไว้เป็นนโยบายหรือ
GDP = C + I + G +( X - M )
C = รายจ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน
I = รายจ่ายเพื่อการลงทุนภาคเอกชนและรัฐบาล
G = รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าและบริการภาครัฐบาล
X = การส่งออก
M = การนำเข้า
ถ้าให้ GDP = 100
X = 65
เราก็จะได้
100 = C + I + G - M + 65
( C + I + G - M) = 100 - 65 = 35
เมื่ออัตราการเติบโตของ GDP ปีละ 5% และ X โตปีละ 12 %
ปีที่ 5 GDP = 127.63 X = 114.55
C + I + G - M = 127.63 - 114.55 = 13.08
ก็แสดงว่า M ก็คงต้องโตขึ้นมากทีเดียว
------------------------------------------------------------------------------------
แต่ประเด็นที่ผมอยากจะบอกก็คือ
การส่งออก 114.55 ถ้ามีปัญหาลดลงซัก 10% หรือลดลง 11.45
จะส่งผลให้ GDP ลดลงถึง 8.97% เชียว ถึงตอนนั้น ผู้ส่งออกต้องการอะไร รัฐบาลและ ธปท.ก็คงต้องยอมให้หมดละครับ
แล้วการส่งออก ใครเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ของโลกครับ มีฐานะทางการเงินเป็นอย่างไร จะสามารถซื้อสินค้าจากประเทศอื่นๆเพิ่มขึ้นอีกมากน้อยแค่ไหน
การให้ภาคส่งออกเติบโตเกินปรกติ โดยไม่ยอมเพิ่ม ส่งเสริม C I และ G เราจะโตอย่างยั่งยืน ตามที่รัฐบาลชุดนี้บอกไว้เป็นนโยบายหรือ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
- เพื่อน
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1832
- ผู้ติดตาม: 0
การส่งเสริมการส่งออกตอนนี้ดีจริงหรือ
โพสต์ที่ 19
สงสัยครับคุณฉัตรชัย จากคำถาม หมายความว่า
1.ถ้าไม่เน้นส่งออกแล้ว GDP จะเพิ่มขึ้นรึปล่าวครับ....หรือ
2.ที่จริงแล้วมันไม่ได้เกี่ยวกันโดยตรง แต่เราพยายามเอามันมาเปรียบเทียบกันเอง
ถ้าเป็นกรณีแรก ก็น่าคิดให้ดีอยู่....แต่ถ้าเป็นกรณี2 ก็ไม่เห็นเป็นไรที่จะช่วยเหลือการส่งออกให้ดีขึ้น เพราะเราก็ไม่ได้ไปทำร้ายอะไรกับGDP....รึปล่าวครับ
สงสัยจริงๆครับ อยากได้มุมมองเพิ่ม
1.ถ้าไม่เน้นส่งออกแล้ว GDP จะเพิ่มขึ้นรึปล่าวครับ....หรือ
2.ที่จริงแล้วมันไม่ได้เกี่ยวกันโดยตรง แต่เราพยายามเอามันมาเปรียบเทียบกันเอง
ถ้าเป็นกรณีแรก ก็น่าคิดให้ดีอยู่....แต่ถ้าเป็นกรณี2 ก็ไม่เห็นเป็นไรที่จะช่วยเหลือการส่งออกให้ดีขึ้น เพราะเราก็ไม่ได้ไปทำร้ายอะไรกับGDP....รึปล่าวครับ
สงสัยจริงๆครับ อยากได้มุมมองเพิ่ม
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
การส่งเสริมการส่งออกตอนนี้ดีจริงหรือ
โพสต์ที่ 20
ตามความเห็นของผมนะครับ
ปัจจุบันถ้ารัฐบาลไม่ช่วยเหลือภาคส่งออกให้เติบโตมากๆ แน่นอนว่า GDP คงจะเติบโตลดลง
แต่การช่วยเหลือมากจนผิดปรกติ โดยไม่สนใจเครื่องยนต์เครื่องอื่นเลย อนาคตเครื่องยนต์เครื่องนี้อาจจะไหม้ก็ได้นะครับ โดยที่เครื่องยนต์เครื่องอื่นที่ถูกลืมอาจจะมีสภาพซึกหรอเนื่องจากไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร
ก็รัฐบาลบอกว่าไม่สนใจตัวเลขไม่ใช่หรือครับ สนใจเติบโตแบบยั่งยืนไม่ใช่หรือครับ
ปัจจุบันถ้ารัฐบาลไม่ช่วยเหลือภาคส่งออกให้เติบโตมากๆ แน่นอนว่า GDP คงจะเติบโตลดลง
แต่การช่วยเหลือมากจนผิดปรกติ โดยไม่สนใจเครื่องยนต์เครื่องอื่นเลย อนาคตเครื่องยนต์เครื่องนี้อาจจะไหม้ก็ได้นะครับ โดยที่เครื่องยนต์เครื่องอื่นที่ถูกลืมอาจจะมีสภาพซึกหรอเนื่องจากไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร
ก็รัฐบาลบอกว่าไม่สนใจตัวเลขไม่ใช่หรือครับ สนใจเติบโตแบบยั่งยืนไม่ใช่หรือครับ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
การส่งเสริมการส่งออกตอนนี้ดีจริงหรือ
โพสต์ที่ 21
ตอนสมคิดเข้ามาใหม่ๆ เคยได้ยินแกบอกเหมือนกันว่า ไทยพึ่งพาการส่งออกมากเกินไป อยากให้ภาคการบริโภคภายในประเทศใหญ่ขึ้นกว่านี้ เหมือนเกาหลีใต้ เวลาเศรษฐกิจเขาวูบจะฟื้นเร็วเพราะคนเกาหลีใต้เป็นนักใช้จ่าย
แต่หลังจากนั้นก็ไม่เห็นสมคิดพูดถึงนโยบายนี้อีกเลย กลับมาเล่นตัวเลขส่งออกเหมือนเดิม การทำให้คนไทยใช้จ่ายดูจะเป็นเรื่องยากจริงๆ คนที่มีกำลังซื้อมากๆ มีอยู่แค่กระจุกเล็กนิดเดียว คนส่วนใหญ่ใช้เดือนชนเดือนให้รอดก็จะแย่อยู่แล้ว
เราเอาตัวรอดกันทีละปีมาตลอด พอเห็น GDP จะวูบก็ต้องรีบเร่งภาคส่งออกกับภาครัฐก่อนเพราะทำได้เร็ว พอเป็นอย่างนี้ทุกปีก็เลยไม่มีเวลาคิดอะไรยาวๆ ปีหน้าก็ทำแบบเดิมอีก
ที่จริงแล้วที่ต้องมาเร่ง GDP กันทุกปีก็คงเพราะเราไม่เคยคิดอะไรยาวๆ นี่แหละ เราไม่เคยทำอะไรเพื่อสร้างฐานให้กับการเติบโตในปีต่อๆ ไป Wealth ของเรามันหมดไปกับการบริโภคของภาครัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการขายของกินทุนในภาคส่งออกแบบนี้ทุกปี
แต่หลังจากนั้นก็ไม่เห็นสมคิดพูดถึงนโยบายนี้อีกเลย กลับมาเล่นตัวเลขส่งออกเหมือนเดิม การทำให้คนไทยใช้จ่ายดูจะเป็นเรื่องยากจริงๆ คนที่มีกำลังซื้อมากๆ มีอยู่แค่กระจุกเล็กนิดเดียว คนส่วนใหญ่ใช้เดือนชนเดือนให้รอดก็จะแย่อยู่แล้ว
เราเอาตัวรอดกันทีละปีมาตลอด พอเห็น GDP จะวูบก็ต้องรีบเร่งภาคส่งออกกับภาครัฐก่อนเพราะทำได้เร็ว พอเป็นอย่างนี้ทุกปีก็เลยไม่มีเวลาคิดอะไรยาวๆ ปีหน้าก็ทำแบบเดิมอีก
ที่จริงแล้วที่ต้องมาเร่ง GDP กันทุกปีก็คงเพราะเราไม่เคยคิดอะไรยาวๆ นี่แหละ เราไม่เคยทำอะไรเพื่อสร้างฐานให้กับการเติบโตในปีต่อๆ ไป Wealth ของเรามันหมดไปกับการบริโภคของภาครัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการขายของกินทุนในภาคส่งออกแบบนี้ทุกปี
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1301
- ผู้ติดตาม: 0
การส่งเสริมการส่งออกตอนนี้ดีจริงหรือ
โพสต์ที่ 22
นโยบาย dual track ที่สมคิดว่าไว้ ส่วนหนึ่งก็คือ เป็นการส่งเสริมให้การบริโภคภายในเติบโตขึ้น การส่งเสริม otop ผู้ประกอบการ sme กองทุนต่างๆ ล้วนแล้วแต่ให้เกิดการสร้างตัว สร้างกิจการ ให้เม็ดเงินหมุนเวียนมากขึ้น
การส่งออกยังไงก็ยังสำคัญ แต่มีปัญหาที่เรายังเป็นพวกสินค้า low end สินค้า low margin ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการต้องใช้ค่าแรงต่ำ ทำให้ชนชั้นล่าง มีงานทำแล้วก็ยังมีปัญหาทางศก. เรื่องที่ไม่ค่อยชอบก็คือการอนุญาติแรงงานต่างประเทศเข้ามาทำในอุตสาหกรรม ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการยังคงทำในกรอบเดิมๆ
บางครั้งเวลาไปเดินใน supermarket แล้วเห็นสินค้าสำเร็จรูปโดยเฉพาะอาหารที่นำเข้าจากตปท. เห็นแล้วก็สงสัยทำไมเราไม่ทำเอง ทำไมเราส่งวัตถุดิบให้พวกนี้ทำเป็นสินค้า
ว่าไปแล้วรัฐบาลนี้ อาจจะโดยสภาพัฒน์ ก็เห็นปัญหานี้ หนึ่งในข้อที่รัฐบาลประกาศแนวทางนโยบายทางศก.ก็คือ การเพิ่มการบริโภคภายใน แต่รบ.นี้คงเหมือนในอดีตที่คนเขียน (ส่วนใหญ่เป็นสภาพัฒน์) ไม่ใช่คนทำ คนทำพูดในเรื่องที่คนอื่นเขียน ภาพของนโยบายที่ประกาศก็เป็นแค่กระดาษที่กองไว้
แต่บางที ถ้ารบ.โดยรวมอย่ามายุ่งเลย ปล่อยให้ทุกอย่างขับเคลื่อนไปอย่างเป็นธรรมชาติ แล้วช่วยในเรื่องการพัฒนาและระบบพื้นฐาน คนโดยทั่วไปน่าจะฉลาดพอที่จะปรับตัวกันไป เพราะเวลามองๆไปแล้วทุกวันนี้รบ.เข้ามายุ่งมากเกินไปโดยทีรู้เรื่องในเรื่องที่ทำหรือเปล่าก็ไม่รู้ เอาทรัพยากรที่มี ไปทำเรื่องพัฒนาอย่าง Otop ศูนย์การเรียนรู้ ให้คำปรึกษา แล้วกำกับกติกา enforce law พวกนั้นดีกว่า
ปล. ไม่ใช่เรื่องการเมืองนะ
การส่งออกยังไงก็ยังสำคัญ แต่มีปัญหาที่เรายังเป็นพวกสินค้า low end สินค้า low margin ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการต้องใช้ค่าแรงต่ำ ทำให้ชนชั้นล่าง มีงานทำแล้วก็ยังมีปัญหาทางศก. เรื่องที่ไม่ค่อยชอบก็คือการอนุญาติแรงงานต่างประเทศเข้ามาทำในอุตสาหกรรม ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการยังคงทำในกรอบเดิมๆ
บางครั้งเวลาไปเดินใน supermarket แล้วเห็นสินค้าสำเร็จรูปโดยเฉพาะอาหารที่นำเข้าจากตปท. เห็นแล้วก็สงสัยทำไมเราไม่ทำเอง ทำไมเราส่งวัตถุดิบให้พวกนี้ทำเป็นสินค้า
ว่าไปแล้วรัฐบาลนี้ อาจจะโดยสภาพัฒน์ ก็เห็นปัญหานี้ หนึ่งในข้อที่รัฐบาลประกาศแนวทางนโยบายทางศก.ก็คือ การเพิ่มการบริโภคภายใน แต่รบ.นี้คงเหมือนในอดีตที่คนเขียน (ส่วนใหญ่เป็นสภาพัฒน์) ไม่ใช่คนทำ คนทำพูดในเรื่องที่คนอื่นเขียน ภาพของนโยบายที่ประกาศก็เป็นแค่กระดาษที่กองไว้
แต่บางที ถ้ารบ.โดยรวมอย่ามายุ่งเลย ปล่อยให้ทุกอย่างขับเคลื่อนไปอย่างเป็นธรรมชาติ แล้วช่วยในเรื่องการพัฒนาและระบบพื้นฐาน คนโดยทั่วไปน่าจะฉลาดพอที่จะปรับตัวกันไป เพราะเวลามองๆไปแล้วทุกวันนี้รบ.เข้ามายุ่งมากเกินไปโดยทีรู้เรื่องในเรื่องที่ทำหรือเปล่าก็ไม่รู้ เอาทรัพยากรที่มี ไปทำเรื่องพัฒนาอย่าง Otop ศูนย์การเรียนรู้ ให้คำปรึกษา แล้วกำกับกติกา enforce law พวกนั้นดีกว่า
ปล. ไม่ใช่เรื่องการเมืองนะ
-
- Verified User
- โพสต์: 1474
- ผู้ติดตาม: 0
การส่งเสริมการส่งออกตอนนี้ดีจริงหรือ
โพสต์ที่ 23
หลายท่านในที่นี้อาจจะลืมไปนะครับว่า ในเรื่องการส่งออกมันมีองค์ประกอบทั้ง ดุลการค้า และ ดุลบริการ ซึ่งดุลบริการ เช่น การท่องเที่ยว การศึกษา ก็ถูกบันทึกใน net export เช่นเดียวกัน ไหนๆคุณสุมาอี้รื้อข้อมูลก็ลองแยกดูดุลบริการออกจากดุลการค้าดูหน่อยสิครับ