SE-ED/APRINT/B2S
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 242
- ผู้ติดตาม: 0
SE-ED/APRINT/B2S
โพสต์ที่ 3
ผมเคยไปยืนดูที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า รู้สึกว่าคนเข้า B2S เยอะครับ (แน่อยู่แล้ว สาขาใหญ่ออกขนาดนั้น) ถ้าเทียบต่อพื้นที่ ไม่แน่ใจครับ
แต่ที่น่าสังเกตกว่านั้น คือ คนที่เข้า B2S ส่วนมากจะมายืนอ่านนิตยสารต่างๆ คนที่เข้าไปเลือกดูหนังสือดูบางตา
และจำนวนคนที่มาจ่ายเงินซื้อหนังสือ ไม่หนาแน่นเท่า SE-ED นะครับ พนักงานห่อปกก็เป็น part time ซึ่งห่อปกได้ช้ากว่า SE-ED มาก
ผมจึงคิดเข้าข้างตัวเอง ว่า ร้าน SE-ED ยังน่าเข้ามากกว่า
ส่วนร้านนายอินทร์ในห้างเดียวกัน(พื้นที่น้อย) ทำเลดี แต่ ความหลากหลายของหนังสือต่ำกว่า SE-ED อย่างมาก ที่ cashier ว่างเกือบจะตลอดเวลาเลยครับ
แต่ที่น่าสังเกตกว่านั้น คือ คนที่เข้า B2S ส่วนมากจะมายืนอ่านนิตยสารต่างๆ คนที่เข้าไปเลือกดูหนังสือดูบางตา
และจำนวนคนที่มาจ่ายเงินซื้อหนังสือ ไม่หนาแน่นเท่า SE-ED นะครับ พนักงานห่อปกก็เป็น part time ซึ่งห่อปกได้ช้ากว่า SE-ED มาก
ผมจึงคิดเข้าข้างตัวเอง ว่า ร้าน SE-ED ยังน่าเข้ามากกว่า
ส่วนร้านนายอินทร์ในห้างเดียวกัน(พื้นที่น้อย) ทำเลดี แต่ ความหลากหลายของหนังสือต่ำกว่า SE-ED อย่างมาก ที่ cashier ว่างเกือบจะตลอดเวลาเลยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1992
- ผู้ติดตาม: 0
SE-ED/APRINT/B2S
โพสต์ที่ 4
แหม... ไม่พูดถึงแพร่พิทยามั่งเลย :lovl:chut เขียน:ผมเคยไปยืนดูที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า รู้สึกว่าคนเข้า B2S เยอะครับ (แน่อยู่แล้ว สาขาใหญ่ออกขนาดนั้น) ถ้าเทียบต่อพื้นที่ ไม่แน่ใจครับ
แต่ที่น่าสังเกตกว่านั้น คือ คนที่เข้า B2S ส่วนมากจะมายืนอ่านนิตยสารต่างๆ คนที่เข้าไปเลือกดูหนังสือดูบางตา
และจำนวนคนที่มาจ่ายเงินซื้อหนังสือ ไม่หนาแน่นเท่า SE-ED นะครับ พนักงานห่อปกก็เป็น part time ซึ่งห่อปกได้ช้ากว่า SE-ED มาก
ผมจึงคิดเข้าข้างตัวเอง ว่า ร้าน SE-ED ยังน่าเข้ามากกว่า
ส่วนร้านนายอินทร์ในห้างเดียวกัน(พื้นที่น้อย) ทำเลดี แต่ ความหลากหลายของหนังสือต่ำกว่า SE-ED อย่างมาก ที่ cashier ว่างเกือบจะตลอดเวลาเลยครับ
ความเห็นผมคือ คนจะเดินดูหนังสือเขาไม่เลือกชื่อร้านหรอกครับ เขาเดินเข้าไปเพราะเขาอยากเลือกอ่านหรือซื้อหนังสือที่เขาชอบ ร้านไหนมีก็เข้า ปัจจัยสำคัญอยู่ที่ทำเลมากกว่า ร้านไหนทำเลดี ใหญ่หน่อย หนังสือเยอะ คนก็จะเข้ามากเป็นธรรมดา
ถ้าทำร้านใหญ่อย่างเดียว (B2S) แต่ละร้านจะมีหนังสือมาก หลากหลาย คนจะชอบเข้า แต่ทำร้านอย่างนี้ได้น้อยเพราะลงทุนสูง ต้องอยู่ในที่ ๆ เป็นศูนย์การค้า ร้านขนาดเล็กลงมาหน่อย (SE-ED, Naiin) จะมีหนังสือน้อยหน่อย แต่ทุนต่ำกว่า และกระจายไปได้หลายที่
ในด้าน Naiin เขาไม่ได้มองประโยชน์เรื่องร้านหนังสืออย่างเดียว เพราะ ไม่ใช่กิจการหลักของ APRINT แต่เขาน่าจะมองว่าร้านจะช่วยเป็นที่กระจายผลิตภัณฑ์ของสำนักพิมพ์มากกว่า สังเกตได้จากเกือบทุกร้านจะมี shelf ที่จัดสำหรับนิตยสารและหนังสือในเครือเป็นการเฉพาะ แยกออกมาให้เด่นชัด มีการโฆษณาหรือลดราคาพิเศษมากกว่าหนังสือจากสำนักพิมพ์อื่น
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
SE-ED/APRINT/B2S
โพสต์ที่ 5
B2S ยึดติดกับกลุ่มของเซ็นทรัส เพราะเป็นบริษัทลูก กึ่งๆร้านหนังสือของไทยและเทศ ถ้าจะเห็นจริงเชิญไปชมที่เซ็นทรัสเวิร์ดได้ ใหญ่จริงอันนั้น ลอกมาจากญี่ปุ่น
Se-ed อยู่ตามห้างทั่วไป ไม่มี Stand alone ระยะหลังมีตามโลตัส บิ๊กซี พวกนี้ ส่วนใหญ่
Aprint สาขาน้อยมีพวก Stand alone เวลาออกงานสัปดาห์หนังสือที่คนในบูตนี้เพียบทุกช่วงเวลา
สุดท้ายต้องดูว่า หนังสืออะไรที่ทำรายได้ดี
อย่างเช่น วรรณกรรมเยาวชน ตอนนี้ยกให้ นานมีไป เพราะได้ลิขสิทธิ์ Harry potter ทั้งหมด เป็นต้น
ส่วนของ Aprint มีพวกจัดบ้าน จัดสวน พวกนี้ต้องยกให้เขาไป ส่วนของ Se-ed คือพวกหนังสือเกี่ยวกับช่าง คอมพิวเตอร์ พวกนี้ เป็นจุดเด่นของเขา
คำถามเกิดขึ้นว่า อะไรคือสิ่งที่ทั้งสามมี และอะไรคือจุดเด่นของตัวมันเอง โดยที่ไม่ต้องเอาหนังสือคนอื่นมาขายในร้านแล้วจะอยู่รอดไหม
Se-ed อยู่ตามห้างทั่วไป ไม่มี Stand alone ระยะหลังมีตามโลตัส บิ๊กซี พวกนี้ ส่วนใหญ่
Aprint สาขาน้อยมีพวก Stand alone เวลาออกงานสัปดาห์หนังสือที่คนในบูตนี้เพียบทุกช่วงเวลา
สุดท้ายต้องดูว่า หนังสืออะไรที่ทำรายได้ดี
อย่างเช่น วรรณกรรมเยาวชน ตอนนี้ยกให้ นานมีไป เพราะได้ลิขสิทธิ์ Harry potter ทั้งหมด เป็นต้น
ส่วนของ Aprint มีพวกจัดบ้าน จัดสวน พวกนี้ต้องยกให้เขาไป ส่วนของ Se-ed คือพวกหนังสือเกี่ยวกับช่าง คอมพิวเตอร์ พวกนี้ เป็นจุดเด่นของเขา
คำถามเกิดขึ้นว่า อะไรคือสิ่งที่ทั้งสามมี และอะไรคือจุดเด่นของตัวมันเอง โดยที่ไม่ต้องเอาหนังสือคนอื่นมาขายในร้านแล้วจะอยู่รอดไหม
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
SE-ED/APRINT/B2S
โพสต์ที่ 6
เมื่อสองปีที่แล้ว ผมได้เคยโพสหลักการเก็บเงินของพวกสำนักพิมพ์ สายส่ง ร้านค้า และคนเขียนเอาไว้ แล้วมา review ความทรงจำในหัวอีกรอบหนึ่งดังนี้
คนเขียนเป็นผู้ที่ออกหนังสือ ไม่ว่าทำเองหรือฝากขาย ก็ต้องมีสำนักพิมพ์หากพิมพ์เองก็ต้องจ่ายเองแบกภาระอันนี้ไปเต็มมีเครดิตให้ 30-90 วันในการจ่ายค่าพิมพ์ แต่ถ้าหากไม่ได้พิมพ์เองก็ สำนักพิมพ์จ่ายเป็น % ในยอดขายหรือตามจำนวนเล่มที่ขายว่า ขาย 1 เล่มให้คนเขียนเท่าไร คนเขียนได้รับตังค์ หลังจากที่สำนักพิมพ์รู้ยอด 30-60 วัน ถ้าฝากขายก็ประมาณนี้ด้วย
จากสำนักพิมพ์มาที่สายส่ง เป็นคนรวมรวบหนังสือมาส่งให้แก่ทางร้านจำหน่ายต่างๆ ซึ่งสายส่งได้รับเครดิตประมาณ 30,45,60 วันจากสำนักพิมพ์ และสายส่งก็ให้เครดิตร้านประมาณ 30-45 วัน
ร้านสามารถเอาเงินไปหมุนก่อนที่จะจ่ายเงินให้สายส่งและสำนักพิมพ์ได้ ในระยะเวลาหนึ่งเลยที่เดียว และกว่าจะถึงมือคนเขียนหนังสือได้ก็หลายเดือนเลยล่ะเนี่ย
หากร้านมีปัญหาไม่จ่ายเงิน งานนี้สายส่งกระทบ สำนักพิมพ์กระทบไปด้วย แต่อย่างไงสายส่งมีหน้าที่หาเงินมาจ่ายแทนได้แน่นอน แต่ได้น้อยกว่ายอดจริงๆ จุดนี้ต้องระวังไว้ด้วยล่ะกัน ในยามที่เศรษฐกิจไม่ดี
ทั้งหมดคือวงจรของการขายหนังสือ
หากมีผิดพลาดอะไรจุดไหนก็แก้ไขได้
ผมจะได้ปรับองค์ความรู้เรื่องนี้ในหัวสมอง
แต่จะว่าไป ใน TVI ก็มีคนเขียนอยู่หลายคน ที่รู้คือ พี่ WEB ,พี่สุมาอี้,พี่คลายเครียด เป็นต้น ต้องไปถามพวกพี่ๆเขาเพิ่มเติมได้ เพราะสองคนนี้เป็นปลายน้ำน่าจะรู้อะไรเกี่ยวกับธุรกิจนี้บ้างล่ะเนี่ย
คนเขียนเป็นผู้ที่ออกหนังสือ ไม่ว่าทำเองหรือฝากขาย ก็ต้องมีสำนักพิมพ์หากพิมพ์เองก็ต้องจ่ายเองแบกภาระอันนี้ไปเต็มมีเครดิตให้ 30-90 วันในการจ่ายค่าพิมพ์ แต่ถ้าหากไม่ได้พิมพ์เองก็ สำนักพิมพ์จ่ายเป็น % ในยอดขายหรือตามจำนวนเล่มที่ขายว่า ขาย 1 เล่มให้คนเขียนเท่าไร คนเขียนได้รับตังค์ หลังจากที่สำนักพิมพ์รู้ยอด 30-60 วัน ถ้าฝากขายก็ประมาณนี้ด้วย
จากสำนักพิมพ์มาที่สายส่ง เป็นคนรวมรวบหนังสือมาส่งให้แก่ทางร้านจำหน่ายต่างๆ ซึ่งสายส่งได้รับเครดิตประมาณ 30,45,60 วันจากสำนักพิมพ์ และสายส่งก็ให้เครดิตร้านประมาณ 30-45 วัน
ร้านสามารถเอาเงินไปหมุนก่อนที่จะจ่ายเงินให้สายส่งและสำนักพิมพ์ได้ ในระยะเวลาหนึ่งเลยที่เดียว และกว่าจะถึงมือคนเขียนหนังสือได้ก็หลายเดือนเลยล่ะเนี่ย
หากร้านมีปัญหาไม่จ่ายเงิน งานนี้สายส่งกระทบ สำนักพิมพ์กระทบไปด้วย แต่อย่างไงสายส่งมีหน้าที่หาเงินมาจ่ายแทนได้แน่นอน แต่ได้น้อยกว่ายอดจริงๆ จุดนี้ต้องระวังไว้ด้วยล่ะกัน ในยามที่เศรษฐกิจไม่ดี
ทั้งหมดคือวงจรของการขายหนังสือ
หากมีผิดพลาดอะไรจุดไหนก็แก้ไขได้
ผมจะได้ปรับองค์ความรู้เรื่องนี้ในหัวสมอง
แต่จะว่าไป ใน TVI ก็มีคนเขียนอยู่หลายคน ที่รู้คือ พี่ WEB ,พี่สุมาอี้,พี่คลายเครียด เป็นต้น ต้องไปถามพวกพี่ๆเขาเพิ่มเติมได้ เพราะสองคนนี้เป็นปลายน้ำน่าจะรู้อะไรเกี่ยวกับธุรกิจนี้บ้างล่ะเนี่ย
- hongvalue
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2703
- ผู้ติดตาม: 0
SE-ED/APRINT/B2S
โพสต์ที่ 8
พี่ชัด ด.ร. บอกว่าเวลาลงทุน อย่า bias นะครับ หึหึchut เขียน: ผมจึงคิดเข้าข้างตัวเอง ว่า ร้าน SE-ED ยังน่าเข้ามากกว่า
สนใจเรื่องบัญชี กลยุทธ์ลงทุน fundflow แจมได้ที่ blog ผม
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
- Golden Stock
- Verified User
- โพสต์: 615
- ผู้ติดตาม: 0
SE-ED/APRINT/B2S
โพสต์ที่ 9
จากที่เห็นด้วยตา SE-ED คนเข้าเยอะกว่าครับ แต่ก็ไม่ทุกสาขา ซึ่งผมว่ามันขึ้นอยู่ว่าไปตั้งในห้างสรรพสินค้าไหนด้วย อย่างเช่น เซ็นทรัล บางนา ซีเอ็ดคนเข้าเยอะ หากไปที่ซีคอนฯ ร้านหนังสือในห้างนั้นคนเข้าน้อย ไม่ว่าจะเป็นซีเอ็ด ดอกหญ่า ดวงกมล หรือร้านนายอินทร์
- Linzhi
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1522
- ผู้ติดตาม: 1
SE-ED/APRINT/B2S
โพสต์ที่ 10
ดูแล้ว SE-ED คนเข้าเยอะกว่าครับ
แต่โดยรวมผมชอบ B2S มากกว่าเพราะมีหนังสือตปท. มีเครื่องเขียน เดินเพลินกว่า อ่านเพลินกว่า แต่ที่ชอบที่สุดคือ Kinokuniya (แต่มีแค่ 3 สาขาเอง แย่จัง)
สำหรับหนังสือไทย ผมชอบ SE-ED มากกว่า จัดแล้วดูง่ายกว่าเยอะ
แบรนด์อื่น ๆ ผมแทบไม่ดู pocket book เลย เอาความสะดวกเข้าว่าซื้อ magazine
SE-ED ไม่กลัวคู่แข่งเท่าไหร่ กลัว Lotus มากกว่า 555 เด๋วเป็นแบบบ้านไร่กาแฟ และสายส่งเมืองไทย margin เยอะสุด ๆ อนาคตไม่รู้จะได้แบบนี้รึเปล่า
ดูแค่คนเข้าร้านบางทีอาจจะไม่พอนะครับ
แต่โดยรวมผมชอบ B2S มากกว่าเพราะมีหนังสือตปท. มีเครื่องเขียน เดินเพลินกว่า อ่านเพลินกว่า แต่ที่ชอบที่สุดคือ Kinokuniya (แต่มีแค่ 3 สาขาเอง แย่จัง)
สำหรับหนังสือไทย ผมชอบ SE-ED มากกว่า จัดแล้วดูง่ายกว่าเยอะ
แบรนด์อื่น ๆ ผมแทบไม่ดู pocket book เลย เอาความสะดวกเข้าว่าซื้อ magazine
SE-ED ไม่กลัวคู่แข่งเท่าไหร่ กลัว Lotus มากกว่า 555 เด๋วเป็นแบบบ้านไร่กาแฟ และสายส่งเมืองไทย margin เยอะสุด ๆ อนาคตไม่รู้จะได้แบบนี้รึเปล่า
ดูแค่คนเข้าร้านบางทีอาจจะไม่พอนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 689
- ผู้ติดตาม: 0
SE-ED/APRINT/B2S
โพสต์ที่ 12
โหวตตามประสาคนเมืองนะครับ
ขอโหวตให้ B2S เช่นกันครับ โดยเฉพาะที่สาขา central world รูปแบบร้านทำออกมาดีมาก หนังสือก็มากมายหลากหลาย
ส่วน SE-ED นี่ตั้งแต่ kinokuniya เปิดผมแทบไม่ได้เข้าไปอีกเลย
ตะก่อนยังไปๆมาๆระหว่าง ศูนย์หนังสือจุฬากะ SE-ED เด๋วนี้ ถ้าไปแถวนั้นก็แวะไป kinokuniya ที่เดียว :shock: :shock: :shock:
ขอโหวตให้ B2S เช่นกันครับ โดยเฉพาะที่สาขา central world รูปแบบร้านทำออกมาดีมาก หนังสือก็มากมายหลากหลาย
ส่วน SE-ED นี่ตั้งแต่ kinokuniya เปิดผมแทบไม่ได้เข้าไปอีกเลย
ตะก่อนยังไปๆมาๆระหว่าง ศูนย์หนังสือจุฬากะ SE-ED เด๋วนี้ ถ้าไปแถวนั้นก็แวะไป kinokuniya ที่เดียว :shock: :shock: :shock:
- sirivajj
- Verified User
- โพสต์: 985
- ผู้ติดตาม: 0
SE-ED/APRINT/B2S
โพสต์ที่ 14
ผมประทับใจ B2S และแวะเข้าไปเดินดูบ่อยกว่า SE-ED นะครับ
อย่างไรก็ดี ถ้าถามว่า อุดหนุนหรือเปล่า
ตอบตามตรงว่า ค่อนข้างน้อยทั้ง 2 ร้าน
เพราะหนังสือที่อยากได้ หรือเรื่องที่ผมสนใจ มักไม่อยู่ที่ในร้านทั้ง 2
และหรือถ้ามีบางครั้งก็อาจแพงกว่าที่ kino เสียอีก
ผมชอบที่จะซื้อหนังสือในงานสัปดาห์หนังสือมากกว่า
โดยซื้อกับที่สำนักพิมพ์เลย ครับ
อย่างไรก็ดี ถ้าถามว่า อุดหนุนหรือเปล่า
ตอบตามตรงว่า ค่อนข้างน้อยทั้ง 2 ร้าน
เพราะหนังสือที่อยากได้ หรือเรื่องที่ผมสนใจ มักไม่อยู่ที่ในร้านทั้ง 2
และหรือถ้ามีบางครั้งก็อาจแพงกว่าที่ kino เสียอีก
ผมชอบที่จะซื้อหนังสือในงานสัปดาห์หนังสือมากกว่า
โดยซื้อกับที่สำนักพิมพ์เลย ครับ
What do you mean.?
-
- Verified User
- โพสต์: 73
- ผู้ติดตาม: 0
SE-ED/APRINT/B2S
โพสต์ที่ 15
i always buy books at b2s cos i'm holding Central card where i can get discount and i can collect points for the 1st card. Moreover, there're chairs to sit & read.
But i saw people mostly buy stationery at b2s.
However i think cashier service of b2s is wose than Se-ed's. cos the service is quite slow.
But i saw people mostly buy stationery at b2s.
However i think cashier service of b2s is wose than Se-ed's. cos the service is quite slow.
- Alastor
- Verified User
- โพสต์: 2590
- ผู้ติดตาม: 0
SE-ED/APRINT/B2S
โพสต์ที่ 16
Retails ของกลุ่ม Central น่ากลัวมากครับ เดี๋ยวนี้ผมก็เลิกเข้า SE-ED แล้ว นอกจากจะรู้ว่ามีหนังสือที่หาอยู่จริงๆ จะได้ใช้บัตรลด ไม่อยากเสียเวลาในร้าน บรรยากาศของ B2S ดีกว่าเยอะครับ
ที่นับๆดู Central มี Central Plaza, Big C, B2S, Home Work, Power Buy, Power Buy IT น่ากลัวจริงๆแบบนี้สามารถออก promotion ที่เป็น Synergy แบบกลุ่ม TRUE ได้เลยนะครับ
ที่นับๆดู Central มี Central Plaza, Big C, B2S, Home Work, Power Buy, Power Buy IT น่ากลัวจริงๆแบบนี้สามารถออก promotion ที่เป็น Synergy แบบกลุ่ม TRUE ได้เลยนะครับ
Wir sind das Rar, der Stolz und der Wert
-
- Verified User
- โพสต์: 23
- ผู้ติดตาม: 0
SE-ED/APRINT/B2S
โพสต์ที่ 17
ผมประทับใจ B2S มากกว่าครับ แต่ผมว่า ถ้ามอง ทั่วประเทศในต่างจังหวัด ผมว่า Se-ed มีสาขาเยอะ กว่า เท่าที่ผมเห็นมารู้สึก ที่ไหนมี lotus ที่นั่นมี SE -ED น่ะครับ ^^
แต่ไม่ทราบเรื่องสัดส่วนผู้ซื้อ น่ะครับ ว่าใครเยอะกว่าคนเมืองหรือต่างจังหวัด
ส่วน APRINT นั่น ผมว่า ร้านนายอินทร์ หายากๆๆ แต่จุดเด่น เหมือนที่พี่ข้างบนบอกครับ เน้นทำหนังสือก่ะออกบูท มากกว่าร้านหนังสือ
ปล.หนังสือ Aprint ถ้าจำไม่ผิด ค่าโฆษณาในหนังสือเค้าแพงๆ
แต่ไม่ทราบเรื่องสัดส่วนผู้ซื้อ น่ะครับ ว่าใครเยอะกว่าคนเมืองหรือต่างจังหวัด
ส่วน APRINT นั่น ผมว่า ร้านนายอินทร์ หายากๆๆ แต่จุดเด่น เหมือนที่พี่ข้างบนบอกครับ เน้นทำหนังสือก่ะออกบูท มากกว่าร้านหนังสือ
ปล.หนังสือ Aprint ถ้าจำไม่ผิด ค่าโฆษณาในหนังสือเค้าแพงๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 1822
- ผู้ติดตาม: 0
SE-ED/APRINT/B2S
โพสต์ที่ 18
ซีเอ็ด มีทั้งสายส่งและรับมาขายร้านตัวเอง
b2s มีแต่รับมาขายร้านตัวเอง ส่วนต่างกำไรมันห่างกันเยอะ สิ่งที่แตกต่างคงเป็นรูปแบบธุรกิจมากกว่า ว่าเน้นลูกค้ากลุ่มไหน
ส่วนตัวผมเข้าซีเอ็ดซื้อหนังสือไทย ส่วนหนังสือนอก ไปทั้ง b2s asiabook kino และ ศูนย์หนังสือจุฬา แต่จริงๆก็เอาสะดวกว่าไปห้างไหนก็หาร้านในห้างนั้น
พอดีช่วงนี้ไปเมเจอร์ รัชโยธิน มีร้านหนังสือในนั้นสองร้าน ใกล้ๆกัน ก็ไม่ใช่ร้านดังๆที่ผมพูดด้านบนเลย
b2s มีแต่รับมาขายร้านตัวเอง ส่วนต่างกำไรมันห่างกันเยอะ สิ่งที่แตกต่างคงเป็นรูปแบบธุรกิจมากกว่า ว่าเน้นลูกค้ากลุ่มไหน
ส่วนตัวผมเข้าซีเอ็ดซื้อหนังสือไทย ส่วนหนังสือนอก ไปทั้ง b2s asiabook kino และ ศูนย์หนังสือจุฬา แต่จริงๆก็เอาสะดวกว่าไปห้างไหนก็หาร้านในห้างนั้น
พอดีช่วงนี้ไปเมเจอร์ รัชโยธิน มีร้านหนังสือในนั้นสองร้าน ใกล้ๆกัน ก็ไม่ใช่ร้านดังๆที่ผมพูดด้านบนเลย
-
- Verified User
- โพสต์: 1104
- ผู้ติดตาม: 0
SE-ED/APRINT/B2S
โพสต์ที่ 21
ชอบ B2S มากกว่า น่า เดิน น่าอ่านจัดหนังสือหาง่าย
มีมุมกาเเฟ ฟังเพลง บันเทิง
se-ed จัดร้านดู รกๆยังไงไม่รู้ถ้าจะเข้า se-ed ต้องอยากซื้อหนังสือจิงๆ
Naiin นี่ร้านสวยเเต่ Model นี้จะไปรอดหรือเปล่า เปิดร้าน stand alone
:lol:
มีมุมกาเเฟ ฟังเพลง บันเทิง
se-ed จัดร้านดู รกๆยังไงไม่รู้ถ้าจะเข้า se-ed ต้องอยากซื้อหนังสือจิงๆ
Naiin นี่ร้านสวยเเต่ Model นี้จะไปรอดหรือเปล่า เปิดร้าน stand alone
:lol:
สิ่งทั้งหลายเกิดขึ้นในเบื้องต้น ตั้งอยู่ เเละดับไปในที่สุด
-
- Verified User
- โพสต์: 19
- ผู้ติดตาม: 0
SE-ED/APRINT/B2S
โพสต์ที่ 22
สำหรับผม พวกซื้อหนังสือมองที่ราคามากกว่าบรรยากาศร้าน เพราะ ของเหล่านี้ซื้อที่ไหนก็เหมือนกัน เดี๋ยวนี้ตามอินเตอร์เนตมากกว่าส่วนลดเกือบ20% ซื้อหน้าร้านไม่ค่อยลดขายกันตามราคาบนปกเลย
ผมสงสัยว่าทำไมร้านเหล่านี้ไม่มาเปิดขายในอินเตอร์เนตแบบอเมซอนบ้างเพราะหนังสือบางเล่มไม่จำเป็นต้องไปลองอ่านตามร้านเช่นแฮรี่ พอตเตอร์หรือถ้าต้องไปลองอ่านตามร้าน ผมก็กลับมาซื้อจากเนตอยู่ดี
ผมสงสัยว่าทำไมร้านเหล่านี้ไม่มาเปิดขายในอินเตอร์เนตแบบอเมซอนบ้างเพราะหนังสือบางเล่มไม่จำเป็นต้องไปลองอ่านตามร้านเช่นแฮรี่ พอตเตอร์หรือถ้าต้องไปลองอ่านตามร้าน ผมก็กลับมาซื้อจากเนตอยู่ดี
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
SE-ED/APRINT/B2S
โพสต์ที่ 24
คุณระรินมีแฟนรึยังครับคุณalastor
เอาตามความรู้สึกส่วนตัวผม :lol:
ชอบเข้าร้านB2S นอกจากหนังสือยังมีเครื่องเขียน กว้างขวางดีฯลฯ
หากตั้งใจจะซื้อหนังสือ จะเลือกร้านที่ตรงกับสำนักพิมพ์
จะได้ลดราคามากหน่อย
ซื้อออนไลน์จากnaiin มีเมสเซนเจอร์เอาหนังสือมาส่ง
ซื้อจากมติชน ซีเอ็ด ส่งมาทางไปรษณีย์
ทั้งซีเอ็ดและนายอินทร์ ห่อปกมาอย่างดี
เอาตามความรู้สึกส่วนตัวผม :lol:
ชอบเข้าร้านB2S นอกจากหนังสือยังมีเครื่องเขียน กว้างขวางดีฯลฯ
หากตั้งใจจะซื้อหนังสือ จะเลือกร้านที่ตรงกับสำนักพิมพ์
จะได้ลดราคามากหน่อย
ซื้อออนไลน์จากnaiin มีเมสเซนเจอร์เอาหนังสือมาส่ง
ซื้อจากมติชน ซีเอ็ด ส่งมาทางไปรษณีย์
ทั้งซีเอ็ดและนายอินทร์ ห่อปกมาอย่างดี
==หากบริษัทไม่ได้อยู่ในตลาดฯ หุ้นยังน่าซื้อหรือไม่ ==
-
- Verified User
- โพสต์: 511
- ผู้ติดตาม: 0
SE-ED/APRINT/B2S
โพสต์ที่ 26
เคยอ่านผ่านๆ ตา เหมือนว่าเธอกำลังจะแต่งงานหรือหมั้นแล้วนะครับ กับหนุ่มผู้โชคดีที่ทำงานใน APRINT แหละคุณระรินมีแฟนรึยังครับคุณalastor
ย้ำ อ่านมาผ่านๆ นะครับ
VI ฝึกหัด
-
- Verified User
- โพสต์: 144
- ผู้ติดตาม: 0
SE-ED/APRINT/B2S
โพสต์ที่ 27
B2S ชอบไปเดินเล่น เพราะสถานที่กว้างขวาง เหมาะสำหรับการเดินเล่นจริงๆ
SE-ED ชอบที่จะไปซื้อหนังสือร้านนี้เพราะมีบัตรลด สาขาเยอะสุด ไปห้างไหนก็เจอ คนแน่นไม่เหงา :lol:
APRINT ชอบไปนั่งอ่านหนังสือ แล้วก็ซื้อหนังสือ เพราะมีบัตรลด เสียดายว่าหนังสือน้อยไปหน่อย แต่บรรยากาศเป็นกันเองดี :lol:
SE-ED ชอบที่จะไปซื้อหนังสือร้านนี้เพราะมีบัตรลด สาขาเยอะสุด ไปห้างไหนก็เจอ คนแน่นไม่เหงา :lol:
APRINT ชอบไปนั่งอ่านหนังสือ แล้วก็ซื้อหนังสือ เพราะมีบัตรลด เสียดายว่าหนังสือน้อยไปหน่อย แต่บรรยากาศเป็นกันเองดี :lol:
นิยามของเกรแฮม
Marign Of Safety คือ "การทำให้การคาดการณ์อนาคตอย่างแม่นยำ เป็นเรื่องไม่จำเป็น"
Marign Of Safety คือ "การทำให้การคาดการณ์อนาคตอย่างแม่นยำ เป็นเรื่องไม่จำเป็น"
-
- Verified User
- โพสต์: 238
- ผู้ติดตาม: 0
SE-ED/APRINT/B2S
โพสต์ที่ 28
เทอมที่แล้วเรียนวิชา Retail Management มี guest speaker เป็นฝ่ายจัดซื้อของ Central มาบรรยายโดยเขายกตัวอย่าง B2S ให้ฟัง
เขาบอกว่า B2S key conceptจริงๆทำเป็นร้านหนังสือ แต่จริงๆแล้วยอดขายหนังสือมีเพียงประมาณ 30% ของยอดขายทั้งร้าน โดยมากจะ(หลอก)ขายเครื่องเขียนได้มากกว่า
โดยบอกว่าที่ทำเป็นร้านหนังสือ เพราะมันดูขลังกว่า ถ้าทำร้านเครื่องเขียนโดยตรงคนอาจจะเข้าไม่เยอะขนาดนี้
เขาบอกว่าทำ inventory ร้านหนังสือทำยากที่สุด หนังสือไม่บูดไม่เน่าก็จริงแต่ถ้าจัดการ inventory ไม่ดีล่ะก็ ขายหนังสือไม่ออกเหมือนกันแล้วก็เปลืองshelfอีกด้วย เพราะว่าหลังๆมีหนังสือออกมาใหม่บ่อยมากและเยอะมากจนจัด shelf ให้ไม่พอ ต้องใช้ wall และใช้โต๊ะในการหลอกล่อลูกค้าเหมือนกัน (เพราะลูกค้าส่วนมากคิดว่าหนังสือที่วางไว้ตรงโต๊ะและwall จะเป็นพวก best seller หรือไม่ก็หนังสือลดราคา เพราะหนังสือที่วางไว้ตรงนี้จะระบายได้เร็วมากถึงมากที่สุด)
แล้วยังสำทับด้วยว่า ถ้าเทียบยอดขายสาขาต่อสาขากับ Se-ed แล้ว B2S มียอดขายสูงกว่า (จริงหรือเปล่า อันนี้โปรดใช้วิจารณญาณนะครับ)
เขาบอกว่า B2S key conceptจริงๆทำเป็นร้านหนังสือ แต่จริงๆแล้วยอดขายหนังสือมีเพียงประมาณ 30% ของยอดขายทั้งร้าน โดยมากจะ(หลอก)ขายเครื่องเขียนได้มากกว่า
โดยบอกว่าที่ทำเป็นร้านหนังสือ เพราะมันดูขลังกว่า ถ้าทำร้านเครื่องเขียนโดยตรงคนอาจจะเข้าไม่เยอะขนาดนี้
เขาบอกว่าทำ inventory ร้านหนังสือทำยากที่สุด หนังสือไม่บูดไม่เน่าก็จริงแต่ถ้าจัดการ inventory ไม่ดีล่ะก็ ขายหนังสือไม่ออกเหมือนกันแล้วก็เปลืองshelfอีกด้วย เพราะว่าหลังๆมีหนังสือออกมาใหม่บ่อยมากและเยอะมากจนจัด shelf ให้ไม่พอ ต้องใช้ wall และใช้โต๊ะในการหลอกล่อลูกค้าเหมือนกัน (เพราะลูกค้าส่วนมากคิดว่าหนังสือที่วางไว้ตรงโต๊ะและwall จะเป็นพวก best seller หรือไม่ก็หนังสือลดราคา เพราะหนังสือที่วางไว้ตรงนี้จะระบายได้เร็วมากถึงมากที่สุด)
แล้วยังสำทับด้วยว่า ถ้าเทียบยอดขายสาขาต่อสาขากับ Se-ed แล้ว B2S มียอดขายสูงกว่า (จริงหรือเปล่า อันนี้โปรดใช้วิจารณญาณนะครับ)