subprime คืออะไรมีผลอย่างไรกับการลงทุน
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1063
- ผู้ติดตาม: 0
subprime คืออะไรมีผลอย่างไรกับการลงทุน
โพสต์ที่ 1
เห็นที่กระทิงเขียวครับ เขียนโดยพี่ pknight
อ่านเข้าใจง่ายดีเลยนำมาฝากครับ
Subprime แยกออกเป็นสองคำ
Sub = ต่ำกว่า
Prime = มาจาก Prime Rate คือดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี
ดังนั้น Subprime Loan ก็คือเงินกู้ที่สถาบันการเงินปล่อยกู้แก่ผู้กู้ที่มีความเสี่ยงสูง และมักจะถูกปฎิเสธการให้กู้เงินจากสถาบันการเงินหลัก เช่น ธนาคารพานิชย์
เงินกู้นี้อาจจะรวมถึงบัตรเครดิต เงินกู้ซื้อบ้าน และอื่นๆ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น ณ
ขณะนี้เกิดจาก เงินกู้สำหรับการซื้อบ้านและอสังหาริมทรัพย์
แล้วปัญหามันเกิดขึ้นได้อย่างไร?
ให้ลองนึกภาพตามคำอธิบายนะครับ
บริษัทเงินทุน กระทิงเขียว ปล่อยเงินกู้บ้านแก่ลูกค้าความเสี่ยงสูง
ต่อมา บริษัทเงินทุน กระทิงเขียว ปล่อยเงินกู้ซะเต็มพอร์ต แต่ยังต้องการ
ขยายพอร์ต จึง นำเอา พอร์ตเงินกู้ที่มีอยู่ เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในการ
ออกตราสารหนี้ เพื่อนำเงินมาหมุนต่อไป
คราวนี้ สมมุติมี หน่วยงานที่สอง สมมุติว่าเป็น บริษัทประกันชีวิต จตุคามคุ้มภัย
บริษัทประกันชีวิต จตุคามคุ้มภัย ต้องการนำเงินที่มีอยู่จากเบี้ยประกันที่ได้รับ
ไปลงทุนในตราสารหนี้ความเสี่ยงสูง จึงตกลงไปซื้อ ตราสารหนี้ของบริษัท
เงินทุนกระทิงเขียว
เราติต่างว่า ตราสารหนี้ของ บริษัทเงินทุนกระทิงเขียว จ่ายดอกเบี้ย 8%
แต่ด้วยเพราะความเป็นบริษัทประกัน ซึ่งรับความเสี่ยงได้ไม่มาก
บริษัทประกันชีวิต จตุคามคุ้มภัย จึงออกตราสารอนุพันธ์ที่เรียกว่า
CREDIT DEFAULT SWAP
CREDIT DEFAULT SWAP คืออะไร
CREDIT DEFAULT SWAP คือตราสารอนุพันธ์ชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นการตกลงระหว่าง
ผู้ออกตราสาร และ ผู้ซื้อตราสาร ว่า ผู้ออกตราสารสัญญาว่าจะจ่ายดอกเบี้ยให้
X % โดย ผู้ถือตราสารสัญญาว่าจะจ่ายชดเชยความเสียหายในกรณีที่เกิดเหตุการณ์
ทางเครดิต อาทิ การประกาศไม่จ่ายหนี้
มาดู ตัวอย่าง ในกรณี บริษัทประกัน จตุคามคุ้มภัย และ กองทุนละลายทรัพย์
เมื่อบริษัท ประกันจตุคามคุ้มภัย ทำการซื้อตราสารหนี้มาจาก บริษัทเงินทุนกระทิงเขียว
ซึ่งจากดอกเบี้ยให้ 10% คราวนี้บริษัทประกัน จตุคามคุ้มภัย ก็ไปติดต่อ กองทุนละลายทรัพย์
ให้มาซื้อ Credit Default Swap โดยหลังจากประเมินความเสี่ยงแล้ว ตกลงกันที่
บริษัทประกันจตุคามคุ้มภัย จ่ายเงินให้ กองทุนละลายทรัพย์ ปีละ 4% ของมูลหนี้
ของตราสารหนี้ บริษัทประกันจะได้ผลตอบแทนลดลงจาก 10% เหลือ 6% แต่
บริษัทประกันได้กำจัดความเสี่ยงเรื่องการเบี้ยวหนี้โดย
Credit Default Swap นั้นเป็นตราสารอนุพันธ์ เหมือนกัน SET 50 Index Futuresดังนั้นเวลาตกลงซื้อขายกัน กองทุนละลายทรัพย์อาจจะวางเงินแค่ 10% ของมูลค่า
ตราสารหนี้ทั้งหมด แต่ได้กลับมาปีละถึง 4% ของมุลค่าตราสารหนี้ทั้งหมดนั้นถือ
เป็นกำไรถึง 40% ต่อปี
แต่แล้ววันหนึ่ง ตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มมีปัญหา เศรษฐกิจเริ่มชะลอ ราคาบ้านเริ่ม
ดิ่งลง เพราะปัญหาสร้างมากเกินไป กลุ่มคนที่กู้เงินมาซื้อบ้านเพื่อเก็งกำไรเริ่มมี
ปัญหาในการจ่ายคืนนี้
บริษัทเงินทุน กระทิงเขียวมีปัญหาในการเรียกชำระเงิน ในขณะที่ลูกค้าเริ่มฟ้อง
ล้มละลายตัวเอง หนี้เสียเริ่มพุ่ง ซึ่งส่งผลต่อสภาพคล่องบริษัท และความสามารถ
ในการชำระคืนหนี้
จนในที่สุด บริษัทเงินทุน กระทิงเขียว ขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง จนไม่สามารถ
จ่ายคืนหนี้ได้ และประกาศยกเลิกการชำระหนี้ และล้มละลายไปในที่สุด แต่เรื่อง
ไม่จบแค่นั้น
ในภาวะปกติ บริษัทประกันชีวิต จตุคามคุ้มภัย ก็จะต้องแทงมูลหนี้ตรงหนี้เป็นหนี้สูญ
เพราะบริษัทเงินทุน กระทิงเขียวเบี้ยวหนี้ แต่เพราะได้ทำ SWAP ไว้กับกองทุนละลายทรัพย์
กองทุนละลายทรัพย์จะต้องชำระค่าความเสียหายทั้งหมดแก่บริษัทประกันชีวิต จตุคามคุ้มภัย
คราวนี้สมมุติว่า ตัวตราสารหนี้มีมูลค่าทั้งหมด 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งหมายถึง
เมื่อการวางเงินครั้งแรกในการซื้อ Credit Default Swap ของบริษัทประกันชีวิต
จตุคามคุ้มภัย วางไว้เพียง 500 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นคือ
5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ กองทุนละลายทรัพย์ต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 4.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ
นั้นคือการขาดทุนทันทีถึง 900%
เอาแล้วสิครับ คราวนี้กองทุนละลายทรัพย์จะทำอย่างไรถึงจะหาเงินมาได้
4.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ตัวกองทุนเองก็ไม่มีเงิน แถมส่วนสินทรัพย์ที่เหลือ
อยู่ก็ไม่พอ ส่วนทุนกลายเป็นติดลบ บริษัทจัดการกองทุนที่จัดการกองทุนละลายทรัพย์
ติต่างว่า ชื่อ บริษัทจัดการกองทุน กรีนบูล ก็ต้องนำเงินมาเติมให้ตัวกองทุนแล้ว
ปิดกองทุนไป แต่คราวนี้ บริษัทจัดการกองทุน กรีนบูล เป็นส่วนหนึ่งของ
บริษัทหลักทรัพย์ กรีนบูล ซึ่งมีการลงทุนอยู่ทั่วโลก รวมถึงหุ้น นโยบายการลงทุน
ของบริษัทหลักทรัพย์ กรีนบูล มีการกำหนดสัดส่วนไว้อย่างชัดเจน ดังนั้นเมื่อ
บริษัทหลักทรัพย์ กรีนบูล ต้องเอาเงินมาเติมให้ บริษัทจัดการกองทุน จึงต้องขาย
หุ้นออกทั่วโลก อย่างเท่าเทียมเพื่อรักษาสัดส่วนไว้ตามนโยบาย
และนั่นคือ สิ่งที่อาจจะกำลังเกิดขึ้นอยู่ ณ ปัจจุบัน หรือเป็นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
ในอนาคต ตราบใดที่ตลาดอสังหาของอเมริกา ยังมีปัญหาอยู่ต่อไป ซึ่งรวมถึง
ราคาอสังหาริมทรัพย์ยังคงลดลงต่อเนื่อง
ข้อมูลอื่นๆ
Subprime Loan มีมูลค่า 6 แสนล้านเหรียญสหรัฐในปี 2006 คิดเป็น 1 ใน 5 ของ
ยอดเงินกู้เพื่อซื้อบ้านทั้งหมดของสหรัฐ
สมาคมสว๊อป และอนุพันธ์นานาชาติ ประมาณการณ์ไว้ว่า ในครึ่งปีแรกของ 2006
มูลค่าอนุพันธ์ที่ผูกกับตราสารหนี้ มีมูลค่าสูงถึง 26 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
บริษัทที่ล้มละลายไปแล้วอันเนื่องมาจากผลของ วิกฤตการณ์ที่กำลังก่อตัวได้แก่
1) New Century Financial Corp ซึ่งเคยเป็นผู้มีมาร์เก็ตแชร์อันดับสอง ในการปล่อยเงินกู้
Subprime
2 ) กองทุนในความดูแลของ Bear Stearns 2 กองทุน
3 ) และล่าสุดเมื่อวันจันทร์นี้ 30 กรกฎา กองทุน Hedge fund Sowood Capital
ขาดทุนมากกว่า 50% จนทำให้ต้องปิดกองทุน แล้วขายสินทรัพย์ที่เหลือให้อีก
กองทุนซึ่งใหญ่กว่า
อ่านเข้าใจง่ายดีเลยนำมาฝากครับ
Subprime แยกออกเป็นสองคำ
Sub = ต่ำกว่า
Prime = มาจาก Prime Rate คือดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี
ดังนั้น Subprime Loan ก็คือเงินกู้ที่สถาบันการเงินปล่อยกู้แก่ผู้กู้ที่มีความเสี่ยงสูง และมักจะถูกปฎิเสธการให้กู้เงินจากสถาบันการเงินหลัก เช่น ธนาคารพานิชย์
เงินกู้นี้อาจจะรวมถึงบัตรเครดิต เงินกู้ซื้อบ้าน และอื่นๆ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น ณ
ขณะนี้เกิดจาก เงินกู้สำหรับการซื้อบ้านและอสังหาริมทรัพย์
แล้วปัญหามันเกิดขึ้นได้อย่างไร?
ให้ลองนึกภาพตามคำอธิบายนะครับ
บริษัทเงินทุน กระทิงเขียว ปล่อยเงินกู้บ้านแก่ลูกค้าความเสี่ยงสูง
ต่อมา บริษัทเงินทุน กระทิงเขียว ปล่อยเงินกู้ซะเต็มพอร์ต แต่ยังต้องการ
ขยายพอร์ต จึง นำเอา พอร์ตเงินกู้ที่มีอยู่ เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในการ
ออกตราสารหนี้ เพื่อนำเงินมาหมุนต่อไป
คราวนี้ สมมุติมี หน่วยงานที่สอง สมมุติว่าเป็น บริษัทประกันชีวิต จตุคามคุ้มภัย
บริษัทประกันชีวิต จตุคามคุ้มภัย ต้องการนำเงินที่มีอยู่จากเบี้ยประกันที่ได้รับ
ไปลงทุนในตราสารหนี้ความเสี่ยงสูง จึงตกลงไปซื้อ ตราสารหนี้ของบริษัท
เงินทุนกระทิงเขียว
เราติต่างว่า ตราสารหนี้ของ บริษัทเงินทุนกระทิงเขียว จ่ายดอกเบี้ย 8%
แต่ด้วยเพราะความเป็นบริษัทประกัน ซึ่งรับความเสี่ยงได้ไม่มาก
บริษัทประกันชีวิต จตุคามคุ้มภัย จึงออกตราสารอนุพันธ์ที่เรียกว่า
CREDIT DEFAULT SWAP
CREDIT DEFAULT SWAP คืออะไร
CREDIT DEFAULT SWAP คือตราสารอนุพันธ์ชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นการตกลงระหว่าง
ผู้ออกตราสาร และ ผู้ซื้อตราสาร ว่า ผู้ออกตราสารสัญญาว่าจะจ่ายดอกเบี้ยให้
X % โดย ผู้ถือตราสารสัญญาว่าจะจ่ายชดเชยความเสียหายในกรณีที่เกิดเหตุการณ์
ทางเครดิต อาทิ การประกาศไม่จ่ายหนี้
มาดู ตัวอย่าง ในกรณี บริษัทประกัน จตุคามคุ้มภัย และ กองทุนละลายทรัพย์
เมื่อบริษัท ประกันจตุคามคุ้มภัย ทำการซื้อตราสารหนี้มาจาก บริษัทเงินทุนกระทิงเขียว
ซึ่งจากดอกเบี้ยให้ 10% คราวนี้บริษัทประกัน จตุคามคุ้มภัย ก็ไปติดต่อ กองทุนละลายทรัพย์
ให้มาซื้อ Credit Default Swap โดยหลังจากประเมินความเสี่ยงแล้ว ตกลงกันที่
บริษัทประกันจตุคามคุ้มภัย จ่ายเงินให้ กองทุนละลายทรัพย์ ปีละ 4% ของมูลหนี้
ของตราสารหนี้ บริษัทประกันจะได้ผลตอบแทนลดลงจาก 10% เหลือ 6% แต่
บริษัทประกันได้กำจัดความเสี่ยงเรื่องการเบี้ยวหนี้โดย
Credit Default Swap นั้นเป็นตราสารอนุพันธ์ เหมือนกัน SET 50 Index Futuresดังนั้นเวลาตกลงซื้อขายกัน กองทุนละลายทรัพย์อาจจะวางเงินแค่ 10% ของมูลค่า
ตราสารหนี้ทั้งหมด แต่ได้กลับมาปีละถึง 4% ของมุลค่าตราสารหนี้ทั้งหมดนั้นถือ
เป็นกำไรถึง 40% ต่อปี
แต่แล้ววันหนึ่ง ตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มมีปัญหา เศรษฐกิจเริ่มชะลอ ราคาบ้านเริ่ม
ดิ่งลง เพราะปัญหาสร้างมากเกินไป กลุ่มคนที่กู้เงินมาซื้อบ้านเพื่อเก็งกำไรเริ่มมี
ปัญหาในการจ่ายคืนนี้
บริษัทเงินทุน กระทิงเขียวมีปัญหาในการเรียกชำระเงิน ในขณะที่ลูกค้าเริ่มฟ้อง
ล้มละลายตัวเอง หนี้เสียเริ่มพุ่ง ซึ่งส่งผลต่อสภาพคล่องบริษัท และความสามารถ
ในการชำระคืนหนี้
จนในที่สุด บริษัทเงินทุน กระทิงเขียว ขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง จนไม่สามารถ
จ่ายคืนหนี้ได้ และประกาศยกเลิกการชำระหนี้ และล้มละลายไปในที่สุด แต่เรื่อง
ไม่จบแค่นั้น
ในภาวะปกติ บริษัทประกันชีวิต จตุคามคุ้มภัย ก็จะต้องแทงมูลหนี้ตรงหนี้เป็นหนี้สูญ
เพราะบริษัทเงินทุน กระทิงเขียวเบี้ยวหนี้ แต่เพราะได้ทำ SWAP ไว้กับกองทุนละลายทรัพย์
กองทุนละลายทรัพย์จะต้องชำระค่าความเสียหายทั้งหมดแก่บริษัทประกันชีวิต จตุคามคุ้มภัย
คราวนี้สมมุติว่า ตัวตราสารหนี้มีมูลค่าทั้งหมด 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งหมายถึง
เมื่อการวางเงินครั้งแรกในการซื้อ Credit Default Swap ของบริษัทประกันชีวิต
จตุคามคุ้มภัย วางไว้เพียง 500 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นคือ
5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ กองทุนละลายทรัพย์ต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 4.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ
นั้นคือการขาดทุนทันทีถึง 900%
เอาแล้วสิครับ คราวนี้กองทุนละลายทรัพย์จะทำอย่างไรถึงจะหาเงินมาได้
4.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ตัวกองทุนเองก็ไม่มีเงิน แถมส่วนสินทรัพย์ที่เหลือ
อยู่ก็ไม่พอ ส่วนทุนกลายเป็นติดลบ บริษัทจัดการกองทุนที่จัดการกองทุนละลายทรัพย์
ติต่างว่า ชื่อ บริษัทจัดการกองทุน กรีนบูล ก็ต้องนำเงินมาเติมให้ตัวกองทุนแล้ว
ปิดกองทุนไป แต่คราวนี้ บริษัทจัดการกองทุน กรีนบูล เป็นส่วนหนึ่งของ
บริษัทหลักทรัพย์ กรีนบูล ซึ่งมีการลงทุนอยู่ทั่วโลก รวมถึงหุ้น นโยบายการลงทุน
ของบริษัทหลักทรัพย์ กรีนบูล มีการกำหนดสัดส่วนไว้อย่างชัดเจน ดังนั้นเมื่อ
บริษัทหลักทรัพย์ กรีนบูล ต้องเอาเงินมาเติมให้ บริษัทจัดการกองทุน จึงต้องขาย
หุ้นออกทั่วโลก อย่างเท่าเทียมเพื่อรักษาสัดส่วนไว้ตามนโยบาย
และนั่นคือ สิ่งที่อาจจะกำลังเกิดขึ้นอยู่ ณ ปัจจุบัน หรือเป็นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
ในอนาคต ตราบใดที่ตลาดอสังหาของอเมริกา ยังมีปัญหาอยู่ต่อไป ซึ่งรวมถึง
ราคาอสังหาริมทรัพย์ยังคงลดลงต่อเนื่อง
ข้อมูลอื่นๆ
Subprime Loan มีมูลค่า 6 แสนล้านเหรียญสหรัฐในปี 2006 คิดเป็น 1 ใน 5 ของ
ยอดเงินกู้เพื่อซื้อบ้านทั้งหมดของสหรัฐ
สมาคมสว๊อป และอนุพันธ์นานาชาติ ประมาณการณ์ไว้ว่า ในครึ่งปีแรกของ 2006
มูลค่าอนุพันธ์ที่ผูกกับตราสารหนี้ มีมูลค่าสูงถึง 26 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
บริษัทที่ล้มละลายไปแล้วอันเนื่องมาจากผลของ วิกฤตการณ์ที่กำลังก่อตัวได้แก่
1) New Century Financial Corp ซึ่งเคยเป็นผู้มีมาร์เก็ตแชร์อันดับสอง ในการปล่อยเงินกู้
Subprime
2 ) กองทุนในความดูแลของ Bear Stearns 2 กองทุน
3 ) และล่าสุดเมื่อวันจันทร์นี้ 30 กรกฎา กองทุน Hedge fund Sowood Capital
ขาดทุนมากกว่า 50% จนทำให้ต้องปิดกองทุน แล้วขายสินทรัพย์ที่เหลือให้อีก
กองทุนซึ่งใหญ่กว่า
- 2nd wind
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 602
- ผู้ติดตาม: 0
subprime คืออะไรมีผลอย่างไรกับการลงทุน
โพสต์ที่ 2
จากที่ได้อ่านภาคปฐมบท
ผมจินตนาการขั้นต่อไปภาคทุติย คือ ภาคการเงินที่มีลูกค้ารายใหญ่เป็นภาคอสังหา ที่อาศัยแหล่งเงินจากกองทุนที่คนทั่วไปเอาเงินทำงานไปลงทุน ต่างก็ขาดทุนจากภาคอสังหา ต้องขายทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงอื่นๆด้วยความเร่งรีบ ทำให้มูลค่าทรัพย์สินแทบทุกชนิดลดมูลค่าลง ทำให้ภาคการเงินเกิดวิกฤตศรัทธาอย่างหนัก เงินลงทุนที่ประชาชนส่วนใหญ่ลงทุนกันเอาไว้ต่างก็ให้ผลตอบแทนลดลงอย่างน่าใจหาย เกิดการบริโภคสินค้าต่างๆลดลง ภาคการลงทุนต่างๆก็ลดเป้าหมายลง กำไรลดลง รัฐอยากกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลดดอกเบี้ยก็ยาก ไม่ตรงจุด ลดแล้วเงินอ่อนเกินเดี๋ยวไม่ดึงดูดเงินลงทุนจากต่างชาติ มาตรการต่างๆก็จะเป็นแค่การยื้อเอาไว้ สุดท้ายก็ขาดผึง เข้าสู่การถดถอยของแทบทุกอุตสาหกรรม และแผ่ความเสียหายไปในวงกว้างถึงระดับประเทศ เกิดไปเรื่อยๆ จนเกิดการเปลี่ยนแปลงการปล่อยสินเชื่อ การไม่เร่งสร้างดีมานด์เทียม การเคลียร์หนี้เก่าให้ไม่เพิ่มอีก
ไม่รู้ผมคิดเวอร์เกินไปหรือเปล่า
ผมจินตนาการขั้นต่อไปภาคทุติย คือ ภาคการเงินที่มีลูกค้ารายใหญ่เป็นภาคอสังหา ที่อาศัยแหล่งเงินจากกองทุนที่คนทั่วไปเอาเงินทำงานไปลงทุน ต่างก็ขาดทุนจากภาคอสังหา ต้องขายทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงอื่นๆด้วยความเร่งรีบ ทำให้มูลค่าทรัพย์สินแทบทุกชนิดลดมูลค่าลง ทำให้ภาคการเงินเกิดวิกฤตศรัทธาอย่างหนัก เงินลงทุนที่ประชาชนส่วนใหญ่ลงทุนกันเอาไว้ต่างก็ให้ผลตอบแทนลดลงอย่างน่าใจหาย เกิดการบริโภคสินค้าต่างๆลดลง ภาคการลงทุนต่างๆก็ลดเป้าหมายลง กำไรลดลง รัฐอยากกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลดดอกเบี้ยก็ยาก ไม่ตรงจุด ลดแล้วเงินอ่อนเกินเดี๋ยวไม่ดึงดูดเงินลงทุนจากต่างชาติ มาตรการต่างๆก็จะเป็นแค่การยื้อเอาไว้ สุดท้ายก็ขาดผึง เข้าสู่การถดถอยของแทบทุกอุตสาหกรรม และแผ่ความเสียหายไปในวงกว้างถึงระดับประเทศ เกิดไปเรื่อยๆ จนเกิดการเปลี่ยนแปลงการปล่อยสินเชื่อ การไม่เร่งสร้างดีมานด์เทียม การเคลียร์หนี้เก่าให้ไม่เพิ่มอีก
ไม่รู้ผมคิดเวอร์เกินไปหรือเปล่า
คนมีโชค คือ คนที่พร้อมเสมอเมื่อโอกาสยังมาไม่ถึง และใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ยามโอกาสมาถึง
-
- Verified User
- โพสต์: 348
- ผู้ติดตาม: 0
subprime คืออะไรมีผลอย่างไรกับการลงทุน
โพสต์ที่ 3
ผมว่าถ้าเป็ฯตามที่เล่ามาให้ฟังมีข้อสังเกตุบางประการ
กรณ๊ที่ที่เป็นการปล่อยกู้อสังหาริมทรัพย์ การขาดทุนคไม่ค่อยมากนักเนื่องจากมีอลังหาริมทรัพย์ค้ำประกัน ถึงแม้ราคาอาจจะตกลงแต่ตอนปล่อยกู้ก็คงไม่ได้ปล่อยเต็ม 100% อยู่แล้ว ผมว่าไม่ค่อยน่ากลัว
กรณ๊ที่น่ากลัวเป็นการปล่อยเงนกู้ผ่านบัตรเครดิตต่างหาก เพราะไม่มีหลักประกันอะไรเลยน่ากลัวจริง แต่คิดว่าเป็นเงินจำนวนไม่มากกว่าข้างบนเพราะทุกบริษัทฯต่างก็กลัวกรณีอยู่แล้ว
สรุปสุดท้ายอยู่ที่สัดส่วนของการปล่อยกู้ทั้ง 2 ส่วนนี้เป็นอย่างไร ตัวเลขที่กล่าวมาอ้างเป็นตัวเลขสินเชื่อของsub prime ทั้งหมดแต่ไม่น่าเสียหายทั้งหมด
กรณ๊ที่ที่เป็นการปล่อยกู้อสังหาริมทรัพย์ การขาดทุนคไม่ค่อยมากนักเนื่องจากมีอลังหาริมทรัพย์ค้ำประกัน ถึงแม้ราคาอาจจะตกลงแต่ตอนปล่อยกู้ก็คงไม่ได้ปล่อยเต็ม 100% อยู่แล้ว ผมว่าไม่ค่อยน่ากลัว
กรณ๊ที่น่ากลัวเป็นการปล่อยเงนกู้ผ่านบัตรเครดิตต่างหาก เพราะไม่มีหลักประกันอะไรเลยน่ากลัวจริง แต่คิดว่าเป็นเงินจำนวนไม่มากกว่าข้างบนเพราะทุกบริษัทฯต่างก็กลัวกรณีอยู่แล้ว
สรุปสุดท้ายอยู่ที่สัดส่วนของการปล่อยกู้ทั้ง 2 ส่วนนี้เป็นอย่างไร ตัวเลขที่กล่าวมาอ้างเป็นตัวเลขสินเชื่อของsub prime ทั้งหมดแต่ไม่น่าเสียหายทั้งหมด
- กระทิงแดง
- Verified User
- โพสต์: 952
- ผู้ติดตาม: 0
subprime คืออะไรมีผลอย่างไรกับการลงทุน
โพสต์ที่ 5
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ กำลังหาข้อมูลอยู่พอดี
คล้ายๆกับการทำ securitized loans ของพวกบัตรเครดิตเลย เพียงแต่ loans ทีทำ securitized น่าจะเป็นลูกหนี้ดี
วิกฤตทางเศรษฐกิจ มักเกิดขึ้นในรูปแบบใหม่ๆ ไม่เหมือนอดีตที่ผ่านมา ครั้งนี้อาจจะเป็นรอบใหม่ก็ได้ ไม่มีใครรู้ แต่ควรระวัง
คล้ายๆกับการทำ securitized loans ของพวกบัตรเครดิตเลย เพียงแต่ loans ทีทำ securitized น่าจะเป็นลูกหนี้ดี
วิกฤตทางเศรษฐกิจ มักเกิดขึ้นในรูปแบบใหม่ๆ ไม่เหมือนอดีตที่ผ่านมา ครั้งนี้อาจจะเป็นรอบใหม่ก็ได้ ไม่มีใครรู้ แต่ควรระวัง
"The enemy is a very good teacher" Dalai Lama
"Confidence doesn't come from being right all the time; it comes
from surviving the many occasions of being wrong." B.N. Steenbarger
"Luck is where preparation meets opportunity"
"Confidence doesn't come from being right all the time; it comes
from surviving the many occasions of being wrong." B.N. Steenbarger
"Luck is where preparation meets opportunity"
- กระทิงแดง
- Verified User
- โพสต์: 952
- ผู้ติดตาม: 0
Re: subprime คืออะไรมีผลอย่างไรกับการลงทุน
โพสต์ที่ 8
อันนี้อาจหมายถึง การที่ต้องตั้งสำรองหนี้เสียเพิ่มขึ้น ทำให้ต้องหาเงินสดมาเพิ่ม เพื่อตั้งเป็นทุนสำรอง (เหมือนแบงค์) ตามสัดส่วนของ NPLs ทำให้ต้องหาทางออก คือhansome เขียน:เห็นที่กระทิงเขียวครับ เขียนโดยพี่ pknight
อ่านเข้าใจง่ายดีเลยนำมาฝากครับ
เอาแล้วสิครับ คราวนี้กองทุนละลายทรัพย์จะทำอย่างไรถึงจะหาเงินมาได้
4.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ตัวกองทุนเองก็ไม่มีเงิน แถมส่วนสินทรัพย์ที่เหลือ
อยู่ก็ไม่พอ ส่วนทุนกลายเป็นติดลบ บริษัทจัดการกองทุนที่จัดการกองทุนละลายทรัพย์
ติต่างว่า ชื่อ บริษัทจัดการกองทุน กรีนบูล ก็ต้องนำเงินมาเติมให้ตัวกองทุนแล้ว
ปิดกองทุนไป แต่คราวนี้ บริษัทจัดการกองทุน กรีนบูล เป็นส่วนหนึ่งของ
บริษัทหลักทรัพย์ กรีนบูล ซึ่งมีการลงทุนอยู่ทั่วโลก รวมถึงหุ้น นโยบายการลงทุน
ของบริษัทหลักทรัพย์ กรีนบูล มีการกำหนดสัดส่วนไว้อย่างชัดเจน ดังนั้นเมื่อ
บริษัทหลักทรัพย์ กรีนบูล ต้องเอาเงินมาเติมให้ บริษัทจัดการกองทุน จึงต้องขาย
หุ้นออกทั่วโลก อย่างเท่าเทียมเพื่อรักษาสัดส่วนไว้ตามนโยบาย
1. เพิ่มทุน
2. ขายสินทรัพย์ที่มีอยู่
3. อื่นๆ
หากทางบริษัทฯ ใช้ข้อ 2. ก็อาจทำให้มีการขายทรัพย์สินที่มีสภาพคล่องสูง เช่น หุ้น ซึ่งอาจทำให้หุ้นตกเยอะๆก็เป็นได้ครับ
"The enemy is a very good teacher" Dalai Lama
"Confidence doesn't come from being right all the time; it comes
from surviving the many occasions of being wrong." B.N. Steenbarger
"Luck is where preparation meets opportunity"
"Confidence doesn't come from being right all the time; it comes
from surviving the many occasions of being wrong." B.N. Steenbarger
"Luck is where preparation meets opportunity"
- Nok-Yuck
- Verified User
- โพสต์: 35
- ผู้ติดตาม: 0
subprime คืออะไรมีผลอย่างไรกับการลงทุน
โพสต์ที่ 13
ขอบคุณมากเลยค่ะ
วันนีอ่านหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ พูดถึงเรื่อง subprime อ่านแล้ว งง งง งง แล้วก็งง แต่พอมาอ่านที่กระทู้นี้ ช่วยให้เข้ามากขึ้นค่ะ
วันนีอ่านหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ พูดถึงเรื่อง subprime อ่านแล้ว งง งง งง แล้วก็งง แต่พอมาอ่านที่กระทู้นี้ ช่วยให้เข้ามากขึ้นค่ะ
เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง เลยตัดสินใจมาสมัครเป็นสมาชิก TVI
-
- Verified User
- โพสต์: 2496
- ผู้ติดตาม: 0
subprime คืออะไรมีผลอย่างไรกับการลงทุน
โพสต์ที่ 15
แล้วอย่างนี้ จะมีผลอย่างไรคะ
รบกวนผู้รู้เศรษฐศาสตร์หรือการเงิน ด้วยค่ะธนาคารกลางเอเชียจับมือลดความแตกตื่นตลาดเงินตรา
11:56 น.
ธนาคารกลางของหลายประเทศในเอเชียอัดธนาคารกลางเอเชียจับมือลดความแตกตื่นตลาดเงินตราฉีดเม็ดเงินพิเศษเข้าสู่ระบบธนาคารวันนี้ นอกจากนี้ ยังมีเสียงเรียกร้องให้ธนาคารกลางชาติอื่น ๆ ร่วมมือในการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมในการลดความตื่นตระหนกของตลาดสินเชื่อโลก
ธนาคารกลางทั้งญี่ปุ่น ออสเตรเลียอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบธนาคารไปแล้ว 8,450 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 287,000 ล้านบาท และ 4,190 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 140,000 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่เกาหลีใต้และสิงคโปร์ ยืนยันว่าเตรียมที่จะเข้าแทรกแซงเพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินในประเทศ โดยเฉพาะการอัดฉีดเม็ดเงินสู่ระบบเช่นกันหากพิจารณาแล้วมีความจำเป็น
มาตรการดังกล่าว มีขึ้นหลังจากธนาคารกลางยุโรปเพิ่งมีมาตรการอัดฉีดเม็ดเงินมากเป็นประวัติการณ์ จากปัญหาการชะลอให้สินเชื่อด้านที่อยู่อาศัยในสหรัฐจะส่งผลกระทบต่อเนื่องจนกระทั่งลุกลามกลายเป็นสภาวะวิกฤติเศรษฐกิจทั่วโลก
-
- Verified User
- โพสต์: 715
- ผู้ติดตาม: 0
subprime คืออะไรมีผลอย่างไรกับการลงทุน
โพสต์ที่ 16
ลองไปหา ประชาชาติธุรกิจมาอ่านดูนะครับ พูดเรื่อง subprime ไว้เยอะ และเข้าใจได้ง่ายทีเดียว
เท่าที่อ่าน Subprime คือสินเชื่อบ้านที่ค่อนข้างเสี่ยงและก็เป็นกลุ่มลูกหนี้ที่ประวัติไม่ดี เช่น เคยผิดชำระมาก่อน หรือพึ่งเคยกู้ซื้อบ้านครั้งแรก รายได้น้อย
และ Subprime เป็น สัดส่วนสินเชื่อที่น้อยมากถ้าเทียบกับทั้งระบบของ อเมริกา ปัญหาก็คือ ถ้ามองลงก็คือมองว่า ชนวน Subprime เป็นตัวสะท้อนให้เห็นว่า ระบบของอเมริกาแย่แล้ว เศรษฐกิจ กำลังจะเริ่มทดถอย อันนี้ก็น่ากลัว แต่ถ้ามองขึ้นก็คือมองว่า อเมริกาน่าจะ handle กับปัญหานี้ได้ เพราะ subprime ยังเป็น ส่วนน้อย อะไรก็ว่าไป
ปัญหาถัดมาที่จะเกิดก็คือ เค้าบอกว่า พอตลาด อนุพันธ์ของอเมริกาเกิดกรณีเจ๊งกันขึ้นมาอย่างนี้แล้ว เงินจาก hedgefund ก็จะยิ่งผันผวนเพราะอยู่ในอเมริกาเงินไม่ปลอดภัยแล้ว เงินเหล่านี้จะ ไหลเข้า ไหลออกประเทศเล็กๆ กันมากขึ้นทำให้ค่าเงินผันผวน อย่างเลวร้ายคือ เศรษฐกิจอเมริกาตกต่ำจริง แถมเงินร้อนยังไหลเข้าไทยมากขึ้น ค่าเงินจะยิ่งแข็ง และกำลังซื้อจากอเมริกาก็จะลด ภาคส่งออกก็จะยิ่งแย่
เท่าที่อ่าน Subprime คือสินเชื่อบ้านที่ค่อนข้างเสี่ยงและก็เป็นกลุ่มลูกหนี้ที่ประวัติไม่ดี เช่น เคยผิดชำระมาก่อน หรือพึ่งเคยกู้ซื้อบ้านครั้งแรก รายได้น้อย
และ Subprime เป็น สัดส่วนสินเชื่อที่น้อยมากถ้าเทียบกับทั้งระบบของ อเมริกา ปัญหาก็คือ ถ้ามองลงก็คือมองว่า ชนวน Subprime เป็นตัวสะท้อนให้เห็นว่า ระบบของอเมริกาแย่แล้ว เศรษฐกิจ กำลังจะเริ่มทดถอย อันนี้ก็น่ากลัว แต่ถ้ามองขึ้นก็คือมองว่า อเมริกาน่าจะ handle กับปัญหานี้ได้ เพราะ subprime ยังเป็น ส่วนน้อย อะไรก็ว่าไป
ปัญหาถัดมาที่จะเกิดก็คือ เค้าบอกว่า พอตลาด อนุพันธ์ของอเมริกาเกิดกรณีเจ๊งกันขึ้นมาอย่างนี้แล้ว เงินจาก hedgefund ก็จะยิ่งผันผวนเพราะอยู่ในอเมริกาเงินไม่ปลอดภัยแล้ว เงินเหล่านี้จะ ไหลเข้า ไหลออกประเทศเล็กๆ กันมากขึ้นทำให้ค่าเงินผันผวน อย่างเลวร้ายคือ เศรษฐกิจอเมริกาตกต่ำจริง แถมเงินร้อนยังไหลเข้าไทยมากขึ้น ค่าเงินจะยิ่งแข็ง และกำลังซื้อจากอเมริกาก็จะลด ภาคส่งออกก็จะยิ่งแย่
-
- Verified User
- โพสต์: 185
- ผู้ติดตาม: 0
subprime คืออะไรมีผลอย่างไรกับการลงทุน
โพสต์ที่ 17
ขอบคุณครับ อ่านแล้วเข้าใจง่ายดี
- 2nd wind
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 602
- ผู้ติดตาม: 0
subprime คืออะไรมีผลอย่างไรกับการลงทุน
โพสต์ที่ 18
ขอเอาข่าวที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์มาแปะนะครับ
อัดเงินเข้าตลาดเงินยุโรปคลายวิกฤตการณ์ขาดสภาพคล่อง
วิกฤตการณ์ดังกล่าวเกิดจากปัญหาในตลาดรองด้านอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐ ซึ่งให้บริการกลุ่มผู้กู้ยืม หรือกลุ่มลูกหนี้เพื่อจับจองซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่มีสถานะความเสี่ยงสูงกว่ากลุ่มลูกหนี้ในตลาดหลัก เนื่องจากกลุ่มลูกหนี้ดังกล่าวไม่มีเงินจ่ายชำระหนี้สถาบันการเงิน หรือกองทุนต่าง ๆ ที่สนับสนุนโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย เพราะเผชิญภาวะต้นทุนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูงขึ้น ในขณะที่การแสวงผลกำไรในตลาดไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เพราะราคาอสังหาริมทรัพย์ตกต่ำลง พร้อม ๆ กับภาวะตลาดที่ซบเซาลง ส่งผลกระทบให้สถาบันการเงิน และกองทุนดังกล่าวขาดสภาพคล่อง และระงับการปล่อยสินเชื่อโครงการใหม่ ส่งผลกระทบต่อเนื่องให้สถาบันการเงิน และกองทุนอื่น ๆ นอกสหรัฐที่ปล่อยกู้ให้แก่ลูกค้าในสหรัฐถอนการลงทุนในสหรัฐ สร้างความตื่นตระหนกต่อนักลงทุนทั่วโลก ฉุดดัชนีหุ้นทั่วโลกร่วงลงกราวรูดติดต่อกันเป็นวันที่ 2 และส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา และตลาดน้ำมันทั่วโลกด้วย
นอกจากธนาคารกลางยุโรปแล้ว ธนาคารกลางของประเทศสำคัญอื่น ๆ ก็ได้อัดฉีดเงินทุนเข้าตลาดการเงินในประเทศตน เพื่อหวังร่วมคลี่คลายวิกฤต เช่น ธนาคารกลางสหรัฐอัดฉีดเงินทุนจำนวน 24,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 792,000 ล้านบาท) ธนาคารกลางญี่ปุ่นจำนวน 8,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 280,500 ล้านบาท) และธนาคารกลางออสเตรเลียจำนวน 4,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 138,600 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ชี้ว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ของธนาคารกลางกลุ่มชาติสำคัญกลับยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงความรุนแรงของปัญหา และโหมกระพือความวิตกในหมู่นักลงทุนทั่วโลก
รายงานล่าสุดแจ้งว่า ดัชนีหุ้นสำคัญ ๆ ในตลาดหุ้นสำคัญทั่วยุโรปเปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ (ตามเวลาท้องถิ่น) หรือช่วงบ่ายวันนี้ตามเวลาในไทย ร่วงลงต่อเนื่องเฉลี่ยอีกราว ร้อยละ 2 ในขณะที่ดัชนีหุ้นในตลาดหุ้นต่าง ๆ ทั่วทวีปเอเชีย รวมทั้งตลาดหุ้นไทย ปิดตลาดวันนี้ ดิ่งลงโดยเฉลี่ยร้อยละ 2-4 หลังจากดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ในตลาดหุ้นนิวยอร์กของสหรัฐ ดิ่งลง 387.18 จุด หรือเกือบร้อยละ 3 วานนี้ และนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนีหุ้นดาวโจนส์จะดิ่งลงต่อเนื่องเมื่อเปิดตลาดเช้าวันนี้ (ตามเวลาท้องถิ่นนิวยอร์ก) หรือค่ำวันนี้ตามเวลาในไทย
นักวิเคราะห์เตือนด้วยว่า ถ้าภาวะการขาดสภาพคล่องในตลาดระหว่างประเทศรุนแรงถึงขั้นที่สถาบันการเงินต่าง ๆ ไม่สามารถปล่อยสินเชื่อโครงการต่าง ๆ แก่ธุรกิจอื่น ๆ นอกภาคอสังหาริมทรัพย์ และแก่ผู้บริโภค อาจส่งผลกระทบทำให้เศรษฐกิจโลกชะงักงัน และอาจรุนแรงถึงขั้นวิกฤต ส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมันเพราะอุปสงค์จะลดลง และต่อตลาดสินค้า และบริการอื่น ๆ ทั่วโลก เพราะผู้ประกอบการไม่มีเงินทุนขยายการลงทุน
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ไทยคาดการณ์ว่า ดัชนีหุ้นไทยจะดีดตัวกลับ และปรับเพิ่มขึ้นในสัปดาห์หน้าหลังจากปรับลดลงรวม 32.89 จุด หรือร้อยละ 3.93 ตลอดสัปดาห์นี้ เนื่องจากสถาบันการเงินในไทยเข้าไปลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์สหรัฐในวงจำกัด จึงได้รับผลกระทบไม่มาก.-
http://www.posttoday.com/breakingnews.p ... &id=184272
อัดเงินเข้าตลาดเงินยุโรปคลายวิกฤตการณ์ขาดสภาพคล่อง
วิกฤตการณ์ดังกล่าวเกิดจากปัญหาในตลาดรองด้านอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐ ซึ่งให้บริการกลุ่มผู้กู้ยืม หรือกลุ่มลูกหนี้เพื่อจับจองซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่มีสถานะความเสี่ยงสูงกว่ากลุ่มลูกหนี้ในตลาดหลัก เนื่องจากกลุ่มลูกหนี้ดังกล่าวไม่มีเงินจ่ายชำระหนี้สถาบันการเงิน หรือกองทุนต่าง ๆ ที่สนับสนุนโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย เพราะเผชิญภาวะต้นทุนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูงขึ้น ในขณะที่การแสวงผลกำไรในตลาดไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เพราะราคาอสังหาริมทรัพย์ตกต่ำลง พร้อม ๆ กับภาวะตลาดที่ซบเซาลง ส่งผลกระทบให้สถาบันการเงิน และกองทุนดังกล่าวขาดสภาพคล่อง และระงับการปล่อยสินเชื่อโครงการใหม่ ส่งผลกระทบต่อเนื่องให้สถาบันการเงิน และกองทุนอื่น ๆ นอกสหรัฐที่ปล่อยกู้ให้แก่ลูกค้าในสหรัฐถอนการลงทุนในสหรัฐ สร้างความตื่นตระหนกต่อนักลงทุนทั่วโลก ฉุดดัชนีหุ้นทั่วโลกร่วงลงกราวรูดติดต่อกันเป็นวันที่ 2 และส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา และตลาดน้ำมันทั่วโลกด้วย
นอกจากธนาคารกลางยุโรปแล้ว ธนาคารกลางของประเทศสำคัญอื่น ๆ ก็ได้อัดฉีดเงินทุนเข้าตลาดการเงินในประเทศตน เพื่อหวังร่วมคลี่คลายวิกฤต เช่น ธนาคารกลางสหรัฐอัดฉีดเงินทุนจำนวน 24,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 792,000 ล้านบาท) ธนาคารกลางญี่ปุ่นจำนวน 8,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 280,500 ล้านบาท) และธนาคารกลางออสเตรเลียจำนวน 4,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 138,600 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ชี้ว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ของธนาคารกลางกลุ่มชาติสำคัญกลับยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงความรุนแรงของปัญหา และโหมกระพือความวิตกในหมู่นักลงทุนทั่วโลก
รายงานล่าสุดแจ้งว่า ดัชนีหุ้นสำคัญ ๆ ในตลาดหุ้นสำคัญทั่วยุโรปเปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ (ตามเวลาท้องถิ่น) หรือช่วงบ่ายวันนี้ตามเวลาในไทย ร่วงลงต่อเนื่องเฉลี่ยอีกราว ร้อยละ 2 ในขณะที่ดัชนีหุ้นในตลาดหุ้นต่าง ๆ ทั่วทวีปเอเชีย รวมทั้งตลาดหุ้นไทย ปิดตลาดวันนี้ ดิ่งลงโดยเฉลี่ยร้อยละ 2-4 หลังจากดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ในตลาดหุ้นนิวยอร์กของสหรัฐ ดิ่งลง 387.18 จุด หรือเกือบร้อยละ 3 วานนี้ และนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนีหุ้นดาวโจนส์จะดิ่งลงต่อเนื่องเมื่อเปิดตลาดเช้าวันนี้ (ตามเวลาท้องถิ่นนิวยอร์ก) หรือค่ำวันนี้ตามเวลาในไทย
นักวิเคราะห์เตือนด้วยว่า ถ้าภาวะการขาดสภาพคล่องในตลาดระหว่างประเทศรุนแรงถึงขั้นที่สถาบันการเงินต่าง ๆ ไม่สามารถปล่อยสินเชื่อโครงการต่าง ๆ แก่ธุรกิจอื่น ๆ นอกภาคอสังหาริมทรัพย์ และแก่ผู้บริโภค อาจส่งผลกระทบทำให้เศรษฐกิจโลกชะงักงัน และอาจรุนแรงถึงขั้นวิกฤต ส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมันเพราะอุปสงค์จะลดลง และต่อตลาดสินค้า และบริการอื่น ๆ ทั่วโลก เพราะผู้ประกอบการไม่มีเงินทุนขยายการลงทุน
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ไทยคาดการณ์ว่า ดัชนีหุ้นไทยจะดีดตัวกลับ และปรับเพิ่มขึ้นในสัปดาห์หน้าหลังจากปรับลดลงรวม 32.89 จุด หรือร้อยละ 3.93 ตลอดสัปดาห์นี้ เนื่องจากสถาบันการเงินในไทยเข้าไปลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์สหรัฐในวงจำกัด จึงได้รับผลกระทบไม่มาก.-
http://www.posttoday.com/breakingnews.p ... &id=184272
คนมีโชค คือ คนที่พร้อมเสมอเมื่อโอกาสยังมาไม่ถึง และใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ยามโอกาสมาถึง
-
- Verified User
- โพสต์: 1992
- ผู้ติดตาม: 0
subprime คืออะไรมีผลอย่างไรกับการลงทุน
โพสต์ที่ 19
Subprime เป็นปัญหาหนึ่งในภาคอสังหาของสหรัฐเท่านั้นครับ ยังมีเรื่องการเก็งกำไรอสังหาอีกด้วยที่รอวันระเบิด
สามสี่ปีที่ผ่านมาราคาอสังหาในสหรัฐเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 20-30% บางที่ขึ้นมากกว่านี้อีก มีคนเฮโลตามกันเข้ามาเพียบ ซื้อแล้วรอขาย
ตอนนี้พอตลาดช็อค ก็เลยหยุดกันหมด เงินกู้ที่แม้จะไม่ใช่ subprime แต่อาจจะเป็น NPL กันได้เหมือนกัน ถ้ากู้มาเก็งกำไร
ชัดที่สุดตอนนี้คือรัฐฟลอริดา บางเมืองเช่นไมอามี่ ล้มระเนระนาดกันเป็นแถว
คาดว่าปัญหาอสังหาปัญหาเดียวอาจทำให้รัฐฟลอริดาเข้าสู่ภาวะถดถอยเลยทีเดียว
สามสี่ปีที่ผ่านมาราคาอสังหาในสหรัฐเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 20-30% บางที่ขึ้นมากกว่านี้อีก มีคนเฮโลตามกันเข้ามาเพียบ ซื้อแล้วรอขาย
ตอนนี้พอตลาดช็อค ก็เลยหยุดกันหมด เงินกู้ที่แม้จะไม่ใช่ subprime แต่อาจจะเป็น NPL กันได้เหมือนกัน ถ้ากู้มาเก็งกำไร
ชัดที่สุดตอนนี้คือรัฐฟลอริดา บางเมืองเช่นไมอามี่ ล้มระเนระนาดกันเป็นแถว
คาดว่าปัญหาอสังหาปัญหาเดียวอาจทำให้รัฐฟลอริดาเข้าสู่ภาวะถดถอยเลยทีเดียว
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
subprime คืออะไรมีผลอย่างไรกับการลงทุน
โพสต์ที่ 20
ยังจำกันได้หรือไม่ เมืองไทยเกิดวิกฤติตอนปี 2540 หรือ 1997 ปีนี้ 2550 หรือ 2007 ครบ 10 ปีพอดีถึงมีเรื่องนี้เกิดขึ้น
ถ้าใครไปอ่านหนังสือเรื่อง ฟองสบู่ หรือ Bubble ในอดีต ฟองสบู่ที่แตกส่วนใหญ่มาจากภาคอสังหาริมทรัพย์ไม่ว่าที่อังกฤษ ที่ญี่ปุ่น ที่อเมริกา รวมทั้งประเทศไทยของเราด้วย
จุดนี้ทำให้เขากลัวกันว่า มันจะลุกลามไปทั่ว เพราะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาใหญ่มาก ถ้ามีอะไรไปก็ทำให้ประเทศอื่นกระทบกระเทือนไปด้วย
ณ ตอนนี้สถานการณ์คือ ธนาคารกลางหลายตอนหลายแห่งอัดเงินเข้าสู่ตลาดเงินแล้ว อันนี้ส่งผลทำให้เงินที่มีอยู่ด้อยค่าลงไป และช่วยให้มีสภาพคล่องมาขึ้น เมื่อจบเหตุการณ์ต้องดูดสภาพคล่องส่วนเกินที่มีผลจากเรื่องนี้ออกไป แต่ตอนนี้ต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าก่อน
แต่ให้ข้อสังเกตว่า ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ยังไม่ได้ออกมาตราการอะไรที่แรงในการจัดการเรื่องนี้เลย และยังไม่หันหน้ารับคำปรึกษากับองค์กรต่างๆเช่น IMF เป็นต้น ในการแก้ไขปัญหานี้
แปลกล่ะเนี่ย หรือว่า นักลงทุนวิตกกังวลไปเอง
ถ้าใครไปอ่านหนังสือเรื่อง ฟองสบู่ หรือ Bubble ในอดีต ฟองสบู่ที่แตกส่วนใหญ่มาจากภาคอสังหาริมทรัพย์ไม่ว่าที่อังกฤษ ที่ญี่ปุ่น ที่อเมริกา รวมทั้งประเทศไทยของเราด้วย
จุดนี้ทำให้เขากลัวกันว่า มันจะลุกลามไปทั่ว เพราะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาใหญ่มาก ถ้ามีอะไรไปก็ทำให้ประเทศอื่นกระทบกระเทือนไปด้วย
ณ ตอนนี้สถานการณ์คือ ธนาคารกลางหลายตอนหลายแห่งอัดเงินเข้าสู่ตลาดเงินแล้ว อันนี้ส่งผลทำให้เงินที่มีอยู่ด้อยค่าลงไป และช่วยให้มีสภาพคล่องมาขึ้น เมื่อจบเหตุการณ์ต้องดูดสภาพคล่องส่วนเกินที่มีผลจากเรื่องนี้ออกไป แต่ตอนนี้ต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าก่อน
แต่ให้ข้อสังเกตว่า ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ยังไม่ได้ออกมาตราการอะไรที่แรงในการจัดการเรื่องนี้เลย และยังไม่หันหน้ารับคำปรึกษากับองค์กรต่างๆเช่น IMF เป็นต้น ในการแก้ไขปัญหานี้
แปลกล่ะเนี่ย หรือว่า นักลงทุนวิตกกังวลไปเอง
- 2nd wind
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 602
- ผู้ติดตาม: 0
subprime คืออะไรมีผลอย่างไรกับการลงทุน
โพสต์ที่ 22
ผมว่าข่าวนี้ช่วยบอกเหตุผลว่าทำไมธนาคารกลางทั้งหลายถึงต้องอัดฉีดเงินเข้าสู่ภาคการเงินมากขึ้น
ธ.ชาติทั่วโลกอัดฉีดสภาพคล่อง ECBปั๊ม2วันซ้อนสู้'สินเชื่อตึงตัว'
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 11 สิงหาคม 2550 03:53 น.
เอเจนซี/เอเอฟพี - บรรดาแบงก์ชาติแถบเอเชียวานนี้(10) ร่วมขบวนธนาคารกลางทั่วโลก ในการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินการธนาคาร หรืออย่างน้อยก็ประกาศความพร้อมที่จะดำเนินการเช่นนั้น เพื่อทำให้ตลาดคลายความตื่นตระหนกเรื่องภาวะหนี้สินตึงตัว ท่ามกลางการลุกลามขยายตัวของวิกฤตสินเชื่อเคหะประเภทด้อยมาตรฐาน หรือ "ซับไพรม์" ในสหรัฐฯ
ธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) แจ้งกับพวกเทรดเดอร์วานนี้ว่า กำลังอัดฉีดเงินอีก 61,050 ล้านยูโร (83,500 ล้านดอลลาร์) เข้าสู่ตลาดการธนาคารของแถบยูโรโซน เพื่อรับมือกับปัญหาขาดสภาพคล่อง เป็นการเพิ่มเติมจากที่ในวันพฤหัสบดี(9) ได้อัดฉีดเงินเข้าระบบแล้ว 94,800 ล้านยูโร (130,600 ล้านดอลลาร์) อันเป็นสถิติสูงสุดเท่าที่อีซีบีเคยทำมาอยู่แล้ว
รวมทั้ง 2 วัน อีซีบีกำลังปั๊มเงินเข้าระบบไม่ต่ำกว่า 155,850 ล้านยูโร (212,980 ล้านดอลลาร์) โดยที่บรรดาธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ในเขตยูโรโซน สามารถมาขอกู้เงินเหล่านี้ได้ เพื่อใช้แก้ปัญหาขาดสภาพคล่องของตนเอง ทั้งนี้อีซีบีคิดอัตราดอกเบี้ย 4.0% สำหรับเงินกู้ขั้นต่ำ 1,000 ล้านยูโร
จากการออกโรงเป็นเจ้าแรกของธนาคารกลางยุโรป ทางด้านธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ก็ได้เดินตามในวันพฤหัสบดี ด้วยการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบธนาคารของอเมริกาประมาณ 24,000 ล้านดอลลาร์
เมื่อถึงช่วงเวลาทำการของฟากเอเชีย-แปซิฟิกวานนี้ ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น(บีโอเจ) และ รีเสิร์ฟ แบงก์ ออฟ ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นธนาคารกลางของแดนอาทิตย์อุทัยและแดนจิงโจ้ตามลำดับ ก็ได้ปล่อยเงินเข้าสู่ระบบการเงินการธนาคาร ในปริมาณมากกว่าปกติ ด้วยเหตุผลว่าเพื่อป้องกันไม่ให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นทะยานแรง ถึงแม้อยู่ในปริมาณน้อยกว่าทางยุโรปและสหรัฐฯ
เจ้าหน้าที่ผู้หนึ่งของบีโอเจแจ้งว่า วานนี้ทางแบงก์ได้อัดฉีดเงินโดยผ่านช่องทางดำเนินการในตลาดเงินตามปกติ เป็นจำนวน 1.0 ล้านล้านเยน (8,450 ล้านดอลลาร์) สูงกว่าที่ตลาดคาดหมายกัน
ส่วน รีเสิร์ฟ แบงก์ ออฟ ออสเตรเลีย บอกว่า ได้ปั๊มเงินเข้าระบบ 4,950 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (4,190 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) สูงกว่าสองเท่าตัวของปริมาณตามปกติ
ในเวลาเดียวกัน บรรดาเทรดเดอร์เผยว่า มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, และไต้หวัน ต่างก็ก้าวออกมาสนับสนุนสกุลเงินตราของพวกตน ด้วยการเทขายเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในยามที่กระแสความวิตกซึ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับภาวะตลาดสินเชื่อ กำลังก่อให้เกิดแรงเทขายสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก
นอกจากนั้น ธนาคารกลางอีกหลายแห่งในเอเชีย ได้ออกคำแถลงว่าพร้อมที่จะปล่อยเงินเข้าระบบทันที หากพบสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดเงินกำลังตึงตัว
จางเบืองหวา ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศเกาหลี ให้สัมภาษณ์ว่า แบงก์ชาติเกาหลีใต้พร้อมที่จะลงมือปฏิบัติการ เพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินแดนโสมขาว
เช่นเดียวกับ อองชองที รองกรรมการผู้จัดการทบวงการเงินแห่งสิงคโปร์ ซึ่งทำหน้าที่เสมือนธนาคารกลางของนครรัฐแห่งนี้ ก็แถลงข่าวว่า ถ้าเกิดปัญหาติดขัดด้านสภาพคล่องขึ้นมา ทบวงการเงินสิงคโปร์จะอัดฉีดสภาพคล่องมากขึ้นทันที ทว่าในเวลานี้ ยังสามารถบริหารสภาพคล่องได้ตามปกติไม่เปลี่ยนแปลง
บรรดาเทรดเดอร์ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า แม้ทบวงไม่ได้อัดฉีดเงินทุนเข้าสู่ระบบโดยตรง แต่ก็ได้ปล่อยให้เหลือเงินสดไว้ในตลาดมากกว่าปกติแล้ว
สำหรับ ทบวงการเงินฮ่องกงแจ้งว่า ยังไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องปั๊มเงินเข้าสู่ระบบ แต่ก็กำลังเฝ้าติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด
ความเคลื่อนไหวของบรรดาธนาคารกลางทั่วโลกนำโดยอีซีบีคราวนี้ ได้รับทั้งเสียงชมเชยและเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากเหล่านักวิเคราะห์
ออเรลิโอ มาคาริโอ นักวิเคราะห์แห่งยูนิเครดิต ธนาคารอิตาลี ชี้ว่า สิ่งที่ธนาคารกลางกระทำได้ช่วยผ่อนคลายความหวาดกลัวเกี่ยวกับสินเชื่อตึงตัว และจะช่วยให้ตลาดหลักทรัพย์ลดความปั่นป่วนได้ง่ายขึ้น
ทว่า จิมมี โก๊ะ นักยุทธศาสตร์ตลาดเงินตรา แห่ง ยูไนเต็ด โอเวอร์ซีส์ แบงก์ (ยูโอบี) ของสิงคโปร์ ให้ความเห็นว่า "สิ่งที่พวกธนาคารกลางกำลังทำกันอยู่ คือ การประสานร่วมมือกันในความพยายามที่จะอัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบ และเรื่องที่กำลังสร้างความกังวลใจจากการกระทำเช่นนี้ก็คือ พวกเขาต้องทำเช่นนี้ก็ต่อเมื่อระบบไม่ได้กำลังทำงานอย่างที่ควรจะต้องทำได้นั่นเอง"
http://www.manager.co.th/Around/ViewNew ... 0000094169
ธ.ชาติทั่วโลกอัดฉีดสภาพคล่อง ECBปั๊ม2วันซ้อนสู้'สินเชื่อตึงตัว'
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 11 สิงหาคม 2550 03:53 น.
เอเจนซี/เอเอฟพี - บรรดาแบงก์ชาติแถบเอเชียวานนี้(10) ร่วมขบวนธนาคารกลางทั่วโลก ในการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินการธนาคาร หรืออย่างน้อยก็ประกาศความพร้อมที่จะดำเนินการเช่นนั้น เพื่อทำให้ตลาดคลายความตื่นตระหนกเรื่องภาวะหนี้สินตึงตัว ท่ามกลางการลุกลามขยายตัวของวิกฤตสินเชื่อเคหะประเภทด้อยมาตรฐาน หรือ "ซับไพรม์" ในสหรัฐฯ
ธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) แจ้งกับพวกเทรดเดอร์วานนี้ว่า กำลังอัดฉีดเงินอีก 61,050 ล้านยูโร (83,500 ล้านดอลลาร์) เข้าสู่ตลาดการธนาคารของแถบยูโรโซน เพื่อรับมือกับปัญหาขาดสภาพคล่อง เป็นการเพิ่มเติมจากที่ในวันพฤหัสบดี(9) ได้อัดฉีดเงินเข้าระบบแล้ว 94,800 ล้านยูโร (130,600 ล้านดอลลาร์) อันเป็นสถิติสูงสุดเท่าที่อีซีบีเคยทำมาอยู่แล้ว
รวมทั้ง 2 วัน อีซีบีกำลังปั๊มเงินเข้าระบบไม่ต่ำกว่า 155,850 ล้านยูโร (212,980 ล้านดอลลาร์) โดยที่บรรดาธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ในเขตยูโรโซน สามารถมาขอกู้เงินเหล่านี้ได้ เพื่อใช้แก้ปัญหาขาดสภาพคล่องของตนเอง ทั้งนี้อีซีบีคิดอัตราดอกเบี้ย 4.0% สำหรับเงินกู้ขั้นต่ำ 1,000 ล้านยูโร
จากการออกโรงเป็นเจ้าแรกของธนาคารกลางยุโรป ทางด้านธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ก็ได้เดินตามในวันพฤหัสบดี ด้วยการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบธนาคารของอเมริกาประมาณ 24,000 ล้านดอลลาร์
เมื่อถึงช่วงเวลาทำการของฟากเอเชีย-แปซิฟิกวานนี้ ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น(บีโอเจ) และ รีเสิร์ฟ แบงก์ ออฟ ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นธนาคารกลางของแดนอาทิตย์อุทัยและแดนจิงโจ้ตามลำดับ ก็ได้ปล่อยเงินเข้าสู่ระบบการเงินการธนาคาร ในปริมาณมากกว่าปกติ ด้วยเหตุผลว่าเพื่อป้องกันไม่ให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นทะยานแรง ถึงแม้อยู่ในปริมาณน้อยกว่าทางยุโรปและสหรัฐฯ
เจ้าหน้าที่ผู้หนึ่งของบีโอเจแจ้งว่า วานนี้ทางแบงก์ได้อัดฉีดเงินโดยผ่านช่องทางดำเนินการในตลาดเงินตามปกติ เป็นจำนวน 1.0 ล้านล้านเยน (8,450 ล้านดอลลาร์) สูงกว่าที่ตลาดคาดหมายกัน
ส่วน รีเสิร์ฟ แบงก์ ออฟ ออสเตรเลีย บอกว่า ได้ปั๊มเงินเข้าระบบ 4,950 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (4,190 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) สูงกว่าสองเท่าตัวของปริมาณตามปกติ
ในเวลาเดียวกัน บรรดาเทรดเดอร์เผยว่า มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, และไต้หวัน ต่างก็ก้าวออกมาสนับสนุนสกุลเงินตราของพวกตน ด้วยการเทขายเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในยามที่กระแสความวิตกซึ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับภาวะตลาดสินเชื่อ กำลังก่อให้เกิดแรงเทขายสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก
นอกจากนั้น ธนาคารกลางอีกหลายแห่งในเอเชีย ได้ออกคำแถลงว่าพร้อมที่จะปล่อยเงินเข้าระบบทันที หากพบสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดเงินกำลังตึงตัว
จางเบืองหวา ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศเกาหลี ให้สัมภาษณ์ว่า แบงก์ชาติเกาหลีใต้พร้อมที่จะลงมือปฏิบัติการ เพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินแดนโสมขาว
เช่นเดียวกับ อองชองที รองกรรมการผู้จัดการทบวงการเงินแห่งสิงคโปร์ ซึ่งทำหน้าที่เสมือนธนาคารกลางของนครรัฐแห่งนี้ ก็แถลงข่าวว่า ถ้าเกิดปัญหาติดขัดด้านสภาพคล่องขึ้นมา ทบวงการเงินสิงคโปร์จะอัดฉีดสภาพคล่องมากขึ้นทันที ทว่าในเวลานี้ ยังสามารถบริหารสภาพคล่องได้ตามปกติไม่เปลี่ยนแปลง
บรรดาเทรดเดอร์ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า แม้ทบวงไม่ได้อัดฉีดเงินทุนเข้าสู่ระบบโดยตรง แต่ก็ได้ปล่อยให้เหลือเงินสดไว้ในตลาดมากกว่าปกติแล้ว
สำหรับ ทบวงการเงินฮ่องกงแจ้งว่า ยังไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องปั๊มเงินเข้าสู่ระบบ แต่ก็กำลังเฝ้าติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด
ความเคลื่อนไหวของบรรดาธนาคารกลางทั่วโลกนำโดยอีซีบีคราวนี้ ได้รับทั้งเสียงชมเชยและเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากเหล่านักวิเคราะห์
ออเรลิโอ มาคาริโอ นักวิเคราะห์แห่งยูนิเครดิต ธนาคารอิตาลี ชี้ว่า สิ่งที่ธนาคารกลางกระทำได้ช่วยผ่อนคลายความหวาดกลัวเกี่ยวกับสินเชื่อตึงตัว และจะช่วยให้ตลาดหลักทรัพย์ลดความปั่นป่วนได้ง่ายขึ้น
ทว่า จิมมี โก๊ะ นักยุทธศาสตร์ตลาดเงินตรา แห่ง ยูไนเต็ด โอเวอร์ซีส์ แบงก์ (ยูโอบี) ของสิงคโปร์ ให้ความเห็นว่า "สิ่งที่พวกธนาคารกลางกำลังทำกันอยู่ คือ การประสานร่วมมือกันในความพยายามที่จะอัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบ และเรื่องที่กำลังสร้างความกังวลใจจากการกระทำเช่นนี้ก็คือ พวกเขาต้องทำเช่นนี้ก็ต่อเมื่อระบบไม่ได้กำลังทำงานอย่างที่ควรจะต้องทำได้นั่นเอง"
http://www.manager.co.th/Around/ViewNew ... 0000094169
คนมีโชค คือ คนที่พร้อมเสมอเมื่อโอกาสยังมาไม่ถึง และใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ยามโอกาสมาถึง
- 2nd wind
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 602
- ผู้ติดตาม: 0
subprime คืออะไรมีผลอย่างไรกับการลงทุน
โพสต์ที่ 23
[quote="007-s"]แล้วอย่างนี้ จะมีผลอย่างไรคะ
[quote]ธนาคารกลางเอเชียจับมือลดความแตกตื่นตลาดเงินตรา
11:56 น.
[quote]ธนาคารกลางเอเชียจับมือลดความแตกตื่นตลาดเงินตรา
11:56 น.
คนมีโชค คือ คนที่พร้อมเสมอเมื่อโอกาสยังมาไม่ถึง และใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ยามโอกาสมาถึง
-
- Verified User
- โพสต์: 1598
- ผู้ติดตาม: 0
subprime คืออะไรมีผลอย่างไรกับการลงทุน
โพสต์ที่ 24
ขอบคุณคับ
อย่ามัวติดกับเรื่องในอดีต กังวลกับเรื่องในอนาคต จนลืมว่าปัจจุบันต้องทำอะไร
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
subprime คืออะไรมีผลอย่างไรกับการลงทุน
โพสต์ที่ 25
อาจจะใช้ยาสูตรเดิมไม่ได้ผลหรือเปล่าเนี่ย
อัดฉีดแล้ว ยาขนานแรกน่าจะออกผลได้ประมาณไม่กี่อาทิตย์ เพราะมูลค่าการอัดฉีดนี้สูงมากๆๆ
ถ้าไม่ได้ผลงานนี้ไม้สองคือ ลดดอกเบี้ย คัทหนี้อันขนาดใหญ่หรือเปล่า
ถ้าได้ผลคือ กลับมาสู่สภาพปกติได้
อัดฉีดแล้ว ยาขนานแรกน่าจะออกผลได้ประมาณไม่กี่อาทิตย์ เพราะมูลค่าการอัดฉีดนี้สูงมากๆๆ
ถ้าไม่ได้ผลงานนี้ไม้สองคือ ลดดอกเบี้ย คัทหนี้อันขนาดใหญ่หรือเปล่า
ถ้าได้ผลคือ กลับมาสู่สภาพปกติได้
- trillionaire
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1090
- ผู้ติดตาม: 1
subprime คืออะไรมีผลอย่างไรกับการลงทุน
โพสต์ที่ 26
Subprime Loan วิกฤติสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์สหรัฐฯที่กระทบตลาดหุ้นทั่วโลก
-----------------------------------------------------------------------
นส.อุสรา วิไลพิชญ์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Hard Topic ทาง Money Channel ว่า ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงตลาดหุ้นไทยได้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยมีสาเหตุหลักมาจากปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ประเภทด้อยมาตรฐาน (Subprime Loan) ของสหรัฐอเมริกา
Subprime Loan เป็นสินเชื่อประเภทหนึ่งของสหรัฐฯ ที่ให้เงินกู้กับผู้ขอสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์มากกว่าหรือเท่ากับมูลค่าของหลักทรัพย์ จากปกติจะให้สินเชื่อประมาณ 80% ของมูลค่าหลักทรัพย์เท่านั้น นอกจากนี้ถ้าราคาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น ผู้ขอสินเชื่อก็สามารถขอวงเงินกู้เพิ่มเติมตามราคาหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นมาได้ ซึ่งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา สินเชื่อ Subprime ได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากราคาอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯ ได้เพิ่มสูงขึ้นมาก แต่ขณะนี้ราคาอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯ ได้ลดลง ทำให้ธนาคารพาณิชย์ของสหรัฐฯ ต้องการเงินกู้คืน เพื่อป้องกันความเสี่ยง เมื่อผู้ขอสินเชื่อไม่มีเงินมาชำระ จึงกลายเป็นสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL)
สาเหตุที่ทำให้ปัญหาสินเชื่อ Supprime ส่งผลกระทบไปทั่วโลก เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ของสหรัฐฯ มีการออกตราสารหนี้ที่เรียกว่า Collatteral Debt Obligation (CDO) โดยนำสินเชื่อ Subprime เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน เมื่อราคาอสังหาริมทรัพย์ลดลง ก็มีผลให้มูลค่าของ CDO ลดลงตามไปด้วย และมีผลกระทบต่อเนื่องไปถึงผู้ที่ลงทุนใน CDO ซึ่งมีอยู่ทั่วโลก
ส่วนสาเหตุที่นักลงทุนนิยมเข้าไปลงทุนใน CDO เนื่องจากเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง โดย CDO ที่มีอันดับเครดิตต่ำบางประเภท ให้ผลตอบแทนสูงถึง 10% ส่วน CDO ที่มีอันดับเครดิตที่ดี อัตราผลตอบแทนก็จะลดลงมา แต่ปัญหาของการลงทุนใน CDO คือ มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง มีสภาพคล่องน้อย และไม่มีตลาดมารองรับในช่วงที่ผู้ถือหน่วยลงทุนต้องการขาย ทำให้ธนาคารพาณิชย์และกองทุนที่ลงทุนใน CDO ต้องนำเงินทุนมารับซื้อหน่วยลงทุนคืน
นส.อุสราเป็นห่วงว่า เมื่อธนาคารพาณิชย์และกองทุนที่ลงทุนใน CDO มีสภาพคล่องไม่มากพอ อาจจะมีความจำเป็นต้องขายสินทรัพย์ที่ไปลงทุนไว้ทั่วโลก ซึ่งตลาดหุ้นก็เป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง และให้ผลตอบแทนที่ดี จึงอาจจะทำให้เกิดการถอนการลงทุนจากตลาดหุ้นทั่วโลกได้
นส.อุสราบอกว่า ปัญหาสินเชื่อ Subprime สามารถแก้ไขได้ ถ้าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ลดอัตราดอกเบี้ยลง เพราะจะทำให้ประชาชนรู้สึกว่าปัญหาได้ถึงจุดต่ำสุดแล้ว และกล้าที่จะลงทุนอีกครั้ง ส่วนการที่ธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ ได้อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบไปแล้วนั้น ก็จะช่วยได้เฉพาะธนาคารของแต่ละประเทศเท่านั้น
นส.อุสราบอกว่า ถ้าตลาดการเงินโลกยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากปัจจุบัน ก็มีโอกาสที่ค่าเงินบาทจะอ่อนค่าลงอีก ดังนั้น จึงอยากให้ผู้ส่งออกชะลอการขายเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ไว้ก่อน ส่วนผู้นำเข้าก็ควรจะซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เก็บไว้บางส่วน นอกจากนี้ยังแนะนำให้ผู้ประกอบการจับตามองค่าเงินบาทที่ 34.15 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เพราะถ้าค่าเงินบาทอ่อนค่าหลุด 34.15 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อใด จะทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงไปแตะที่ระดับ 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างรวดเร็ว
นายเกษม พันธ์รัตนมาลา กรรมการ บล.ซีไอเอ็มบี-จีเค (ประเทศไทย) บอกว่า ปัญหาสินเชื่อ Subprime ของสหรัฐฯ อาจจะทำให้กองทุนที่ลงทุนในสินเชื่อ Subprime ถอนการลงทุนจากตลาดหุ้นไทย เพราะมีความจำเป็นต้องถือเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ไว้ให้นักลงทุนที่ต้องขายหน่วยลงทุนออกไป
ทั้งนี้ เชื่อว่ากองทุนเหล่านี้จะขายหุ้นในตลาดหุ้นทั่วโลกต่อไปอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากยังไม่สามารถประเมินขนาดของปัญหาได้ นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ด้วย ส่วนวิธีแก้ปัญหาการขาดสภาพคล่องนั้น ธนาคารกลางของแต่ละประเทศก็สามารถทำได้ โดยการเพิ่มสภาพคล่องให้กับสถาบันการเงินภายในประเทศ
ส่วนกรณีที่มีธนาคารพาณิชย์ของไทยจำนวน 4 แห่ง ที่เข้าไปลงทุนในตราสาร CDO นั้น เชื่อว่าปัญหาสินเชื่อ Subprime จะไม่ค่อยมีกระทบต่อธนาคารทั้ง 4 แห่ง เพราะมีสัดส่วนการลงทุนในสินเชื่อ Subprime ไม่มากนัก
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Har ... fault.aspx
-----------------------------------------------------------------------
นส.อุสรา วิไลพิชญ์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Hard Topic ทาง Money Channel ว่า ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงตลาดหุ้นไทยได้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยมีสาเหตุหลักมาจากปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ประเภทด้อยมาตรฐาน (Subprime Loan) ของสหรัฐอเมริกา
Subprime Loan เป็นสินเชื่อประเภทหนึ่งของสหรัฐฯ ที่ให้เงินกู้กับผู้ขอสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์มากกว่าหรือเท่ากับมูลค่าของหลักทรัพย์ จากปกติจะให้สินเชื่อประมาณ 80% ของมูลค่าหลักทรัพย์เท่านั้น นอกจากนี้ถ้าราคาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น ผู้ขอสินเชื่อก็สามารถขอวงเงินกู้เพิ่มเติมตามราคาหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นมาได้ ซึ่งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา สินเชื่อ Subprime ได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากราคาอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯ ได้เพิ่มสูงขึ้นมาก แต่ขณะนี้ราคาอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯ ได้ลดลง ทำให้ธนาคารพาณิชย์ของสหรัฐฯ ต้องการเงินกู้คืน เพื่อป้องกันความเสี่ยง เมื่อผู้ขอสินเชื่อไม่มีเงินมาชำระ จึงกลายเป็นสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL)
สาเหตุที่ทำให้ปัญหาสินเชื่อ Supprime ส่งผลกระทบไปทั่วโลก เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ของสหรัฐฯ มีการออกตราสารหนี้ที่เรียกว่า Collatteral Debt Obligation (CDO) โดยนำสินเชื่อ Subprime เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน เมื่อราคาอสังหาริมทรัพย์ลดลง ก็มีผลให้มูลค่าของ CDO ลดลงตามไปด้วย และมีผลกระทบต่อเนื่องไปถึงผู้ที่ลงทุนใน CDO ซึ่งมีอยู่ทั่วโลก
ส่วนสาเหตุที่นักลงทุนนิยมเข้าไปลงทุนใน CDO เนื่องจากเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง โดย CDO ที่มีอันดับเครดิตต่ำบางประเภท ให้ผลตอบแทนสูงถึง 10% ส่วน CDO ที่มีอันดับเครดิตที่ดี อัตราผลตอบแทนก็จะลดลงมา แต่ปัญหาของการลงทุนใน CDO คือ มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง มีสภาพคล่องน้อย และไม่มีตลาดมารองรับในช่วงที่ผู้ถือหน่วยลงทุนต้องการขาย ทำให้ธนาคารพาณิชย์และกองทุนที่ลงทุนใน CDO ต้องนำเงินทุนมารับซื้อหน่วยลงทุนคืน
นส.อุสราเป็นห่วงว่า เมื่อธนาคารพาณิชย์และกองทุนที่ลงทุนใน CDO มีสภาพคล่องไม่มากพอ อาจจะมีความจำเป็นต้องขายสินทรัพย์ที่ไปลงทุนไว้ทั่วโลก ซึ่งตลาดหุ้นก็เป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง และให้ผลตอบแทนที่ดี จึงอาจจะทำให้เกิดการถอนการลงทุนจากตลาดหุ้นทั่วโลกได้
นส.อุสราบอกว่า ปัญหาสินเชื่อ Subprime สามารถแก้ไขได้ ถ้าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ลดอัตราดอกเบี้ยลง เพราะจะทำให้ประชาชนรู้สึกว่าปัญหาได้ถึงจุดต่ำสุดแล้ว และกล้าที่จะลงทุนอีกครั้ง ส่วนการที่ธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ ได้อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบไปแล้วนั้น ก็จะช่วยได้เฉพาะธนาคารของแต่ละประเทศเท่านั้น
นส.อุสราบอกว่า ถ้าตลาดการเงินโลกยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากปัจจุบัน ก็มีโอกาสที่ค่าเงินบาทจะอ่อนค่าลงอีก ดังนั้น จึงอยากให้ผู้ส่งออกชะลอการขายเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ไว้ก่อน ส่วนผู้นำเข้าก็ควรจะซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เก็บไว้บางส่วน นอกจากนี้ยังแนะนำให้ผู้ประกอบการจับตามองค่าเงินบาทที่ 34.15 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เพราะถ้าค่าเงินบาทอ่อนค่าหลุด 34.15 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อใด จะทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงไปแตะที่ระดับ 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างรวดเร็ว
นายเกษม พันธ์รัตนมาลา กรรมการ บล.ซีไอเอ็มบี-จีเค (ประเทศไทย) บอกว่า ปัญหาสินเชื่อ Subprime ของสหรัฐฯ อาจจะทำให้กองทุนที่ลงทุนในสินเชื่อ Subprime ถอนการลงทุนจากตลาดหุ้นไทย เพราะมีความจำเป็นต้องถือเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ไว้ให้นักลงทุนที่ต้องขายหน่วยลงทุนออกไป
ทั้งนี้ เชื่อว่ากองทุนเหล่านี้จะขายหุ้นในตลาดหุ้นทั่วโลกต่อไปอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากยังไม่สามารถประเมินขนาดของปัญหาได้ นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ด้วย ส่วนวิธีแก้ปัญหาการขาดสภาพคล่องนั้น ธนาคารกลางของแต่ละประเทศก็สามารถทำได้ โดยการเพิ่มสภาพคล่องให้กับสถาบันการเงินภายในประเทศ
ส่วนกรณีที่มีธนาคารพาณิชย์ของไทยจำนวน 4 แห่ง ที่เข้าไปลงทุนในตราสาร CDO นั้น เชื่อว่าปัญหาสินเชื่อ Subprime จะไม่ค่อยมีกระทบต่อธนาคารทั้ง 4 แห่ง เพราะมีสัดส่วนการลงทุนในสินเชื่อ Subprime ไม่มากนัก
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Har ... fault.aspx
-
- Verified User
- โพสต์: 715
- ผู้ติดตาม: 0
subprime คืออะไรมีผลอย่างไรกับการลงทุน
โพสต์ที่ 27
การอัดฉีดเงินเข้าระบบ ของธนาคารของ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และ ธนาคารแถบยุโรป เข้าใจว่าอัดฉีดเป็นสกุลเงิน ของแต่ละประเทศนั้นๆ ถ้าอย่างนั้นจะทำให้ Money Supply ที่เป็น ของสกุลเงินหลักๆ ในโลกที่ไม่ใช่ US dollar มากขึ้น ถ้าอย่างนั้นในระยะสั้นๆ ถึงกลางๆ เงินยูเอส ดอลล์น่าจะแข็งค่าขึ้น รึเปล่าครับ ?
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1063
- ผู้ติดตาม: 0
subprime คืออะไรมีผลอย่างไรกับการลงทุน
โพสต์ที่ 28
ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดระยะสั้นเงินต้องไหลเข้า
เพื่อไปคืนการไถ่ถอนกองทุนเพราะฉะนั้นน่าจะ
แข็งขึ้น
แต่กองทุนในประเทศรวมทั้งเศรษฐีทั้งหลาย
ต้องขนเงินออกเพราะฉะนั้นเงินน่าจะอ่อนลง
อืมคิดแล้วสับสน
เพื่อไปคืนการไถ่ถอนกองทุนเพราะฉะนั้นน่าจะ
แข็งขึ้น
แต่กองทุนในประเทศรวมทั้งเศรษฐีทั้งหลาย
ต้องขนเงินออกเพราะฉะนั้นเงินน่าจะอ่อนลง
อืมคิดแล้วสับสน
-
- Verified User
- โพสต์: 715
- ผู้ติดตาม: 0
subprime คืออะไรมีผลอย่างไรกับการลงทุน
โพสต์ที่ 29
ถ้าไปคืนการไถ่ถอนของกองทุน คือไป อุดหนี้ ความเสียหายที่เกิดจาก subprime CDO ก็ น่าจะอ่อนนะครับ บวก กับ เด้ง ที่ money supply มากขึ้นอีก ผมคิดว่า ดอลล์ น่าจะแข็งขึ้น ในระยะสั้นๆนะครับ(อาทิตย์ เดือน) ระยะยาวๆไม่รู้ ถ้าหากว่าี ปัญหาลามไปถึง Prime อีก เงินดออล์น่าจะอ่อน เพราะพื้นฐานไม่ไหวแล้วhansome เขียน:ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดระยะสั้นเงินต้องไหลเข้า
เพื่อไปคืนการไถ่ถอนกองทุนเพราะฉะนั้นน่าจะ
แข็งขึ้น
แต่กองทุนในประเทศรวมทั้งเศรษฐีทั้งหลาย
ต้องขนเงินออกเพราะฉะนั้นเงินน่าจะอ่อนลง
อืมคิดแล้วสับสน
- bmw2681
- Verified User
- โพสต์: 710
- ผู้ติดตาม: 0
subprime คืออะไรมีผลอย่างไรกับการลงทุน
โพสต์ที่ 30
สงสัยว่า Subprime คือ หนึ่งในวิธีทุบเอาของถูกจากนักลงทุนอ่อนหัด ซะแล้ว อิอิ...
Every passing minute is a chance to turn it all around
http://bmw2681.wordpress.com
http://bmw2681.wordpress.com