ถ้านักลงทุนทุกคนในตลาดเป็น Value Investor ทั้งหมดจะเป็นยังไง
- SEHJU
- Verified User
- โพสต์: 1238
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้านักลงทุนทุกคนในตลาดเป็น Value Investor ทั้งหมดจะเป็นยังไง
โพสต์ที่ 1
ถ้าหากนักลงทุนในตลาดทุกคนเป็นแวยูหมดเนี่ยจะส่งผลยังไงบ้างครับ
ทั้งข้อดีข้อเสีย แล้วใครจะได้รับผลกระทบอะไรบ้างครับ ช่วยแสดงความคิดเห็นด้วยครับ
ทั้งข้อดีข้อเสีย แล้วใครจะได้รับผลกระทบอะไรบ้างครับ ช่วยแสดงความคิดเห็นด้วยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2496
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้านักลงทุนทุกคนในตลาดเป็น Value Investor ทั้งหมดจะเป็นยังไง
โพสต์ที่ 2
คงกร่อยๆค่ะ
ทุกคนจะคำนวน mos กันทั้งตลาด
ต้องรอว่าใครคำนวนพลาด มากน้อย เท่านั้น
และก็ เป้าหมายราคา จะเปลี่ยนมาเป็นแค่ เท่าราคา mos ตามที่นลท.จะเห็นว่า เป็นราคาที่ได้ส่วนลดถือยาวๆได้เป็น 2-3 ปีขึ้นไป
ตลาดคงไปแบบเตี้ยๆ พีอี อาจจะลงไปเล่นซัก 5-6 เท่า
ราคาแพนิค ตลาดคงพีอีราวๆ 3-4 เท่า ,ถ้ารายตัว mos อาจจะต้องมาก 70-80% ขึ้นไป หุ้นจึงจะเด้งได้
ผลตอบแทนปันผลที่พอใจจะถือยาวๆ คงไปว่ากันแถวๆ มากกว่าพันธบัตรชั้นดีซัก 2 เท่าขึ้นไป
เป้าหมายตามสูตรที่นักวิเคราะห์ตอนนี้ให้ๆกัน จะไม่มีวันไปถึง ต้องรอจนกว่าผลประกอบการดีขึ้น mos จึงปรับราคาขึ้นมาได้ (เพราะราคาเป้าหมายคือราคา mos อย่างที่บอก)
แล้วก็ จะไม่ค่อยมีหุ้นที่เคลื่อนไหวแอ่นแต้ หวือหวา ต้องไปเนิบๆเท่านั้น ยกเว้นผลปลากรอบออกมาช๊อคตลาดมากๆจริงๆ
ผลตอบแทนที่ดี จะมาจากผลปลากรอบเป็นหลัก
เพราะอาการ แพนิคซื้อ แพนิคขาย จะเกิดขึ้นไม่มากนัก ส่วนต่างแบบชนิดกำไรเหลือเชื่อ จึงไม่น่าจะเกิดจากความงี่เง่าของตลาดบ่อยๆ อย่างตำราแวยู่ทั้งหลายบอกไว้
ได้โปรดเถิด อย่าเป็นเช่นนั้นเลย
เอาอย่างเดิมแหละ อิอิ
ทุกคนจะคำนวน mos กันทั้งตลาด
ต้องรอว่าใครคำนวนพลาด มากน้อย เท่านั้น
และก็ เป้าหมายราคา จะเปลี่ยนมาเป็นแค่ เท่าราคา mos ตามที่นลท.จะเห็นว่า เป็นราคาที่ได้ส่วนลดถือยาวๆได้เป็น 2-3 ปีขึ้นไป
ตลาดคงไปแบบเตี้ยๆ พีอี อาจจะลงไปเล่นซัก 5-6 เท่า
ราคาแพนิค ตลาดคงพีอีราวๆ 3-4 เท่า ,ถ้ารายตัว mos อาจจะต้องมาก 70-80% ขึ้นไป หุ้นจึงจะเด้งได้
ผลตอบแทนปันผลที่พอใจจะถือยาวๆ คงไปว่ากันแถวๆ มากกว่าพันธบัตรชั้นดีซัก 2 เท่าขึ้นไป
เป้าหมายตามสูตรที่นักวิเคราะห์ตอนนี้ให้ๆกัน จะไม่มีวันไปถึง ต้องรอจนกว่าผลประกอบการดีขึ้น mos จึงปรับราคาขึ้นมาได้ (เพราะราคาเป้าหมายคือราคา mos อย่างที่บอก)
แล้วก็ จะไม่ค่อยมีหุ้นที่เคลื่อนไหวแอ่นแต้ หวือหวา ต้องไปเนิบๆเท่านั้น ยกเว้นผลปลากรอบออกมาช๊อคตลาดมากๆจริงๆ
ผลตอบแทนที่ดี จะมาจากผลปลากรอบเป็นหลัก
เพราะอาการ แพนิคซื้อ แพนิคขาย จะเกิดขึ้นไม่มากนัก ส่วนต่างแบบชนิดกำไรเหลือเชื่อ จึงไม่น่าจะเกิดจากความงี่เง่าของตลาดบ่อยๆ อย่างตำราแวยู่ทั้งหลายบอกไว้
ได้โปรดเถิด อย่าเป็นเช่นนั้นเลย
เอาอย่างเดิมแหละ อิอิ
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 1
ถ้านักลงทุนทุกคนในตลาดเป็น Value Investor ทั้งหมดจะเป็นยังไง
โพสต์ที่ 4
เป็นไปไม่ได้
เปรียบได้กับการขับรถไปเที่ยวเชียงใหม่โดยไม่แวะข้างทาง
ทุกคนรู้ว่าต้องไปทางเหนือ แต่ บางคนแวะข้างทาง บางคนเจอรถติดเปลี่ยนใจลงใต้ไปเที่ยวทะเลแทน
เปรียบได้กับการขับรถไปเที่ยวเชียงใหม่โดยไม่แวะข้างทาง
ทุกคนรู้ว่าต้องไปทางเหนือ แต่ บางคนแวะข้างทาง บางคนเจอรถติดเปลี่ยนใจลงใต้ไปเที่ยวทะเลแทน
-
- Verified User
- โพสต์: 7514
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถ้านักลงทุนทุกคนในตลาดเป็น Value Investor ทั้งหมดจะเป็นย
โพสต์ที่ 5
ผมว่าไม่มีทางจะเป็นไปได้ครับ เพราะในตลาดที่พัฒนาแล้ว มีนักลงทุนแนววีไออยู่น้อย เมื่อเทียบกับนักเก็งกำไรSEHJU เขียน:ถ้าหากนักลงทุนในตลาดทุกคนเป็นแวยูหมดเนี่ยจะส่งผลยังไงบ้างครับ
ทั้งข้อดีข้อเสีย แล้วใครจะได้รับผลกระทบอะไรบ้างครับ ช่วยแสดงความคิดเห็นด้วยครับ
แต่ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริง คือทุกคนเป็นวีไอหมด แต่อย่าลืมว่าวีไอก็แยกย่อยไปอีกหลายกลุ่ม หลายแนวทางการลงทุน มันเป็นอะไรที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวส่วนบุคคลจริงๆครับในเรื่องการลงทุน
หรือแม้ว่าจะเป็นอะไรๆที่คล้ายๆกัน หรือแม้แต่วิเคราะห์แล้วได้ตัวเลขทางบัญชีและมุมมองความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจจะเหมือนกันทุกประการ ค่าmos ก็เป็นจุดเดียวกัน แต่สุดท้ายการตัดสินใจ หรือจังหวะการลงทุน หรือมุมมอง ความกล้า ความกลัว ความโลภ ความมีระเบียบวินัยและความอดทน แต่ละคนมีก็ไม่เหมือนกันอยู่ดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีผลทำให้ ผลตอบแทนการลงทุนก็จะออกมาไม่เหมือนกันอยู่ดี
-
- Verified User
- โพสต์: 1992
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้านักลงทุนทุกคนในตลาดเป็น Value Investor ทั้งหมดจะเป็นยังไง
โพสต์ที่ 6
ถ้าเป็นจริง คือทุกคนใช้หลัก VI กันหมด
ก็ยังมีการซื้อขายอยู่ดีครับ ทุกคนมอง MOS ไม่เหมือนกัน และไม่เท่ากัน
บางคนถือหลัก Graham มาก บางคนใช้หลัก Fisher มากกว่า บางคนผสมผสานกันแบบ Buffett หรือบางคนใช้หลัก versatile แบบ Peter Lynch
ที่แน่ ๆ คือ ถ้าเป็น VI กันหมด หรือส่วนใหญ่ในตลาด จะไม่เห็นหุ้นเน่า ๆ อย่างพวกที่รู้ ๆ กันอยู่ trade กันเป็นบ้าเป็นหลัง ไม่เห็น บล.ที่เน้นแต่กระตุ้นให้คนเก็งกำไร เพื่อหวังค่าคอม เหมือนที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้
ก็ยังมีการซื้อขายอยู่ดีครับ ทุกคนมอง MOS ไม่เหมือนกัน และไม่เท่ากัน
บางคนถือหลัก Graham มาก บางคนใช้หลัก Fisher มากกว่า บางคนผสมผสานกันแบบ Buffett หรือบางคนใช้หลัก versatile แบบ Peter Lynch
ที่แน่ ๆ คือ ถ้าเป็น VI กันหมด หรือส่วนใหญ่ในตลาด จะไม่เห็นหุ้นเน่า ๆ อย่างพวกที่รู้ ๆ กันอยู่ trade กันเป็นบ้าเป็นหลัง ไม่เห็น บล.ที่เน้นแต่กระตุ้นให้คนเก็งกำไร เพื่อหวังค่าคอม เหมือนที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้
-
- Verified User
- โพสต์: 139
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้านักลงทุนทุกคนในตลาดเป็น Value Investor ทั้งหมดจะเป็นยังไง
โพสต์ที่ 7
การลงทุนแบบ VI นี่มีหลายสำนักนะครับมีกลยุทธ์และวิธีการลงทุนที่ต่างกันไป อย่างที่คุณ Mprandy ว่ามาถูกต้องเลยแหละครับ
เอาเฉพาะใน Thaivi เนี่ยมีีกี่คนที่ลงทุนแบบ VI 100% ทั้งพอร์ตเลยด้วย ท่านที่เก่งๆ ก็ยังห้ามใจไม่เล่นสั้นไม่ได้เลย บางท่านก็ชอบ Asset play อีก
หืม ... แล้วที่สำคัญครับ ถึงทุกคนจะรู้พื้นฐานและมูลค่าของหุ้นดีก็ตาม
แต่ในตลาดหุ้น "ความโลภ" มีอิทธิพลมากครับ ... และนั่นเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ สมมติฐานนี้ไม่น่าจะเป็นจริงได้ 8)
เอาเฉพาะใน Thaivi เนี่ยมีีกี่คนที่ลงทุนแบบ VI 100% ทั้งพอร์ตเลยด้วย ท่านที่เก่งๆ ก็ยังห้ามใจไม่เล่นสั้นไม่ได้เลย บางท่านก็ชอบ Asset play อีก
หืม ... แล้วที่สำคัญครับ ถึงทุกคนจะรู้พื้นฐานและมูลค่าของหุ้นดีก็ตาม
แต่ในตลาดหุ้น "ความโลภ" มีอิทธิพลมากครับ ... และนั่นเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ สมมติฐานนี้ไม่น่าจะเป็นจริงได้ 8)
ไม่ได้คิดว่ามันคือความล้มเหลว เพียงแต่เราค้นพบหนทางที่ทำแล้วไม่ประสบความสำเร็จเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งอย่าง .. แก้ไขซะ!!
- SEHJU
- Verified User
- โพสต์: 1238
- ผู้ติดตาม: 0
ขอบคุณครับ
โพสต์ที่ 8
ขอบคุณมากครับ ได้แง่คิดเยอะเลย คงเหมือนกับประเทศๆหนึ่ง หากประเทศนั้นมีแต่คนทำอาชีพเดียวกันหมดนี่ก็คงจะแปลกๆ สรุปว่าเป็นไปไม่ได้แน่ๆ เพราะถ้าเป็นไปได้ ก็หมายความว่าทุกคนคิดคล้ายกันหมด (ซึ่งไม่มีทางเกิดขึ้น) สุดท้ายความโลภและความกลัวนั้นก็ต้องอยู่คู่กับตลาดตลอดไป