คำเตือนจาก ดร.นิเวศน์ ที่ผมไม่เข้าใจ
-
- Verified User
- โพสต์: 87
- ผู้ติดตาม: 0
คำเตือนจาก ดร.นิเวศน์ ที่ผมไม่เข้าใจ
โพสต์ที่ 1
ผมได้อ่านหนังสือ รวยหุ้นอย่างพอเพียง ของ ดร.นิเวศน์ ครับ มีอยู่บทหนึ่ง ท่านบอกว่า ให้ระวัง กิจการที่มีข่าวดีเกี่ยวกับการดำเนินงาน เช่น กิจการที่มีโรงงานใช้กำลังการผลิตอย่างเต็มที่ แล้วกำลังจะเปิดโรงงานแห่งใหม่ ทำให้กำไรของบริษัทเพิ่มขึ้น ผมคิดดูแล้ว เรื่องการเจริญเติบโตของกิจการน่าจะเป็นเรื่องดี
-
- Verified User
- โพสต์: 298
- ผู้ติดตาม: 0
คำเตือนจาก ดร.นิเวศน์ ที่ผมไม่เข้าใจ
โพสต์ที่ 2
ผมเข้าใจอย่างนี้ครับ
1.การเปิดโรงงานใหม่จะทำให้ต้องใช้การลงทุนสูงเงินทุนอาจจะมาจากการเพิ่มหุ้นก็ได้
2. โรงงานเดิมCap เต็มแล้วจริงหรือเปล่า หรือว่าบริหารงานไม่เก่งเอาแต่ขยายโรงงานอย่างเดียว ความจริงแล้วต้องบริหารจัดการอย่างดีก่อนเกิดประสิทธิผลมากที่สุด ค่อยขยายโรงงาน
3.การขยายโรงงานจะต้องใช้คนมากขึ้น ถ้าจัดการไม่เก่งจริงๆๆ ก็มีโอกาสขาดทุนได้เหมือนกัน ไม่ใช่จะระดมทุนจากผู้ถือหุ้นมาลงทุนอย่างเดียวก็ไม่ไหว
Idea จาก Production Engineer
1.การเปิดโรงงานใหม่จะทำให้ต้องใช้การลงทุนสูงเงินทุนอาจจะมาจากการเพิ่มหุ้นก็ได้
2. โรงงานเดิมCap เต็มแล้วจริงหรือเปล่า หรือว่าบริหารงานไม่เก่งเอาแต่ขยายโรงงานอย่างเดียว ความจริงแล้วต้องบริหารจัดการอย่างดีก่อนเกิดประสิทธิผลมากที่สุด ค่อยขยายโรงงาน
3.การขยายโรงงานจะต้องใช้คนมากขึ้น ถ้าจัดการไม่เก่งจริงๆๆ ก็มีโอกาสขาดทุนได้เหมือนกัน ไม่ใช่จะระดมทุนจากผู้ถือหุ้นมาลงทุนอย่างเดียวก็ไม่ไหว
Idea จาก Production Engineer
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
คำเตือนจาก ดร.นิเวศน์ ที่ผมไม่เข้าใจ
โพสต์ที่ 3
ท่านคงหมายถึงประมาณนี้ครับ
-อาจจะต้องใช้เงินทุนเพิ่มในการลงทุน ถ้ากู้ก็มีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเพิ่ม
-มีความไม่แน่นอนหลายอย่าง เช่น ถ้าสร้างโรงงานใหม่ พนักงานก็ต้องเรียนรู้กันใหม่ อาจจะมีของเสียมาก โรงงานยังผลิตได้ไม่เต็มที่ มีค่าใช้จ่ายค่าเสื่อมเพิ่ม
-อาจต้องหาลูกค้ารายใหม่ ที่ต้องลดราคาเพื่อเรียกลูกค้า
-อาจจะต้องใช้เงินทุนเพิ่มในการลงทุน ถ้ากู้ก็มีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเพิ่ม
-มีความไม่แน่นอนหลายอย่าง เช่น ถ้าสร้างโรงงานใหม่ พนักงานก็ต้องเรียนรู้กันใหม่ อาจจะมีของเสียมาก โรงงานยังผลิตได้ไม่เต็มที่ มีค่าใช้จ่ายค่าเสื่อมเพิ่ม
-อาจต้องหาลูกค้ารายใหม่ ที่ต้องลดราคาเพื่อเรียกลูกค้า
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
- atsu
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1220
- ผู้ติดตาม: 1
คำเตือนจาก ดร.นิเวศน์ ที่ผมไม่เข้าใจ
โพสต์ที่ 4
ผมคิดว่าท่านคงพยายามเตือนในทำนองว่า
พอกำลังการผลิตเก่าเต็ม แล้วมีออร์เดอร์มากเกิน
การเปิดโรงงานใหม่เพื่อรับงานเพิ่มดูเหมือนจะทำให้กำไรเติบโตได้มากขึ้น
ถ้าโรงงานใหม่ทำมาร์จิ้นได้เท่าโรงงานเก่า
แต่ในความจริงแล้วการเริ่มโรงงานใหม่มันไม่ได้เป็นอย่างงั้นครับ
เพราะมันมีช่วงเวลาพอสมควรกว่าระบบทุกอย่างจะเข้าที่ เพราะของเสียช่วงแรกจะเยอะมาก
ดังนั้นช่วงแรกค่าใช้จ่าย(โรงงานใหม่)มันจะกินกำไรไปหมดครับ
อาจติดลบจนทำให้ไปกินกำไรโรงงานเก่าด้วย
ท่านจึงเตือนให้ระวังถ้าช่วงนั้นหุ้นวิ่งเพราะข่าวเปิดโรงงานใหม่รับออร์เดอร์มากขึ้นครับ
พอกำลังการผลิตเก่าเต็ม แล้วมีออร์เดอร์มากเกิน
การเปิดโรงงานใหม่เพื่อรับงานเพิ่มดูเหมือนจะทำให้กำไรเติบโตได้มากขึ้น
ถ้าโรงงานใหม่ทำมาร์จิ้นได้เท่าโรงงานเก่า
แต่ในความจริงแล้วการเริ่มโรงงานใหม่มันไม่ได้เป็นอย่างงั้นครับ
เพราะมันมีช่วงเวลาพอสมควรกว่าระบบทุกอย่างจะเข้าที่ เพราะของเสียช่วงแรกจะเยอะมาก
ดังนั้นช่วงแรกค่าใช้จ่าย(โรงงานใหม่)มันจะกินกำไรไปหมดครับ
อาจติดลบจนทำให้ไปกินกำไรโรงงานเก่าด้วย
ท่านจึงเตือนให้ระวังถ้าช่วงนั้นหุ้นวิ่งเพราะข่าวเปิดโรงงานใหม่รับออร์เดอร์มากขึ้นครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 870
- ผู้ติดตาม: 0
คำเตือนจาก ดร.นิเวศน์ ที่ผมไม่เข้าใจ
โพสต์ที่ 5
เห็นด้วยกับข้างบน
แต่ผม เพิ่มเติม เท่าที่เข้าใจ ว่า แต่ละโรงงานก็มี ธุรกิจแตกต่างกันไป อย่างถ้าเป็นโรงงานพวก รับจ้างผลิตแล้วสามารถ ตกลงออเดอล่วงหน้าได้แล้ว และบริษัทก็เป็นผู้นำ เช่นพวก stanly ccet พวกนี้ คงไม่มีปัญหาในการเพิ่มโรงงาน
แต่ มีกรณีนึงที่ น่าจะตรงกับ บทความนั้นคือ tgci หลายปีก่อนที่ ก่อสร้างบ้าน บูมๆ บริษัทกำไรโตมาก หุ้นก็วิ่งกระฉูด แล้ว ก็ตัดสินใจขยายกำลังการผลิตนานแล้วผมก็จำไม่แม่นน่ะ ปรากฏตลาดบ้าน ตกลงและฉะลอตัว ก็ขาดทุนบาน อย่างที่เห็นทุกวันนี้แหละ อีกตัวก็พวกอิฐมวลเบา หลายบริษัทในตลาด
แต่ผม เพิ่มเติม เท่าที่เข้าใจ ว่า แต่ละโรงงานก็มี ธุรกิจแตกต่างกันไป อย่างถ้าเป็นโรงงานพวก รับจ้างผลิตแล้วสามารถ ตกลงออเดอล่วงหน้าได้แล้ว และบริษัทก็เป็นผู้นำ เช่นพวก stanly ccet พวกนี้ คงไม่มีปัญหาในการเพิ่มโรงงาน
แต่ มีกรณีนึงที่ น่าจะตรงกับ บทความนั้นคือ tgci หลายปีก่อนที่ ก่อสร้างบ้าน บูมๆ บริษัทกำไรโตมาก หุ้นก็วิ่งกระฉูด แล้ว ก็ตัดสินใจขยายกำลังการผลิตนานแล้วผมก็จำไม่แม่นน่ะ ปรากฏตลาดบ้าน ตกลงและฉะลอตัว ก็ขาดทุนบาน อย่างที่เห็นทุกวันนี้แหละ อีกตัวก็พวกอิฐมวลเบา หลายบริษัทในตลาด
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
คำเตือนจาก ดร.นิเวศน์ ที่ผมไม่เข้าใจ
โพสต์ที่ 7
ใช้กำลังการผลิตเต็มมองได้คือ ค่าโสหุ้ย มันกำลังเพิ่มขึ้น
ถึงจุดๆหนึ่งมันต้องขยายเพราะว่า ต้นทุนสินค้ามันไม่ได้อยู่ในจุดที่ต่ำที่สุด
ทำให้ผลิตออกมาแล้วไม่คุ้มค่าเท่าไร
ส่วนกำลังเปิดโรงงานใหม่นี้
มันจัดการเล่นได้สองทางคือ
1. ทดสอบโรงงานอยู่นั้นและ ไม่ยอมบันทึกเป็นสินทรัพย์ซักที
อันนี้ต้องให้ ผู้ตรวจสอบดูด้วยว่า มันเหมาะสมหรือเปล่า
2. เมื่อเปิดโรงงานใหม่ ทุกอย่างไม่เข้าที่เข้าทาง ของที่ผลิตแล้วไม่ได้คุณภาพก็มีมากในช่วงต้น เมื่อใช้เวลาซักระยะหนึ่งทั้งเครื่องจักรและคนที่ทำงานกับเครื่องจักร ก็สามารถปรับตัวเข้าหากันได้ (ช่วงในการเรียนรู้ เหมือนคนที่แต่งงานกันอยู่ในช่วงน้ำผึ้งพระจันทร์) ทำให้ของเสียมันมาก
(ได้จากที่เรียนจากพี่มน ขอบคุณพี่มนน่าครับที่ให้โอกาสไปนั่งเรียนใน Biz Model )
ถึงจุดๆหนึ่งมันต้องขยายเพราะว่า ต้นทุนสินค้ามันไม่ได้อยู่ในจุดที่ต่ำที่สุด
ทำให้ผลิตออกมาแล้วไม่คุ้มค่าเท่าไร
ส่วนกำลังเปิดโรงงานใหม่นี้
มันจัดการเล่นได้สองทางคือ
1. ทดสอบโรงงานอยู่นั้นและ ไม่ยอมบันทึกเป็นสินทรัพย์ซักที
อันนี้ต้องให้ ผู้ตรวจสอบดูด้วยว่า มันเหมาะสมหรือเปล่า
2. เมื่อเปิดโรงงานใหม่ ทุกอย่างไม่เข้าที่เข้าทาง ของที่ผลิตแล้วไม่ได้คุณภาพก็มีมากในช่วงต้น เมื่อใช้เวลาซักระยะหนึ่งทั้งเครื่องจักรและคนที่ทำงานกับเครื่องจักร ก็สามารถปรับตัวเข้าหากันได้ (ช่วงในการเรียนรู้ เหมือนคนที่แต่งงานกันอยู่ในช่วงน้ำผึ้งพระจันทร์) ทำให้ของเสียมันมาก
(ได้จากที่เรียนจากพี่มน ขอบคุณพี่มนน่าครับที่ให้โอกาสไปนั่งเรียนใน Biz Model )
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
คำเตือนจาก ดร.นิเวศน์ ที่ผมไม่เข้าใจ
โพสต์ที่ 8
เปิดโรงงานใหม่ต้องดูเพิ่มเติมด้วยว่า
สร้างสินค้าใหม่มากด้วยหรือเปล่า
หรือว่า เป็นสินค้าตัวเดิม
หากเป็นสินค้าตัวใหม่นั้นคือ การสร้าง S ตัวใหม่
ถ้าหากเป็นสินค้าตัวเดิมแสดงว่า เป็นการเพิ่มเพื่อเป็นการลดต้นทุน
ขอบคุณครับรู้อันนี้จากพี่มน (ไม่รู้พี่มนเปิดอีกเมื่อไร จะได้นั่งฟังอีกรอบ)
สร้างสินค้าใหม่มากด้วยหรือเปล่า
หรือว่า เป็นสินค้าตัวเดิม
หากเป็นสินค้าตัวใหม่นั้นคือ การสร้าง S ตัวใหม่
ถ้าหากเป็นสินค้าตัวเดิมแสดงว่า เป็นการเพิ่มเพื่อเป็นการลดต้นทุน
ขอบคุณครับรู้อันนี้จากพี่มน (ไม่รู้พี่มนเปิดอีกเมื่อไร จะได้นั่งฟังอีกรอบ)
-
- Verified User
- โพสต์: 341
- ผู้ติดตาม: 0
คำเตือนจาก ดร.นิเวศน์ ที่ผมไม่เข้าใจ
โพสต์ที่ 9
จากประสบการณ์ที่เคยทำงานโรงงาน ช่วงเปิดโรงงานใหม่ ต้องฝึกอบรมพนักงานใหม่ๆ ติดตั้งและทดสอบเครื่องจักร ฯลฯ
กว่าจะสามารถเริ่มงานผลิตได้แบบจริงๆ จังๆ ก็ต้องใช้เวลาประมาณ 1 ปีแน่ะ แต่กว่าจะสามารถผลิตได้แบบโรงงานเก่าก็ต้อง 2-3 ปีขึ้นไปโน่น
กว่าจะสามารถเริ่มงานผลิตได้แบบจริงๆ จังๆ ก็ต้องใช้เวลาประมาณ 1 ปีแน่ะ แต่กว่าจะสามารถผลิตได้แบบโรงงานเก่าก็ต้อง 2-3 ปีขึ้นไปโน่น
-
- Verified User
- โพสต์: 393
- ผู้ติดตาม: 0
คำเตือนจาก ดร.นิเวศน์ ที่ผมไม่เข้าใจ
โพสต์ที่ 10
ความเห็นนะครับ
เหตุผล/ความเหมาะสม
-ที่มีอยู่ใช้เต็มกำลังหรือยัง
-แนวโน้มตลาด ไม่ใช่ว่าสร้างเสร็จพอดีตลาดอิ่มตัว
-การแข่งขัน บริษัทฯได้เปรียบหรือเป็นผู้นำหรือไม่
-ทุนครับ เรื่องใหญ่ กู้หรือใช้เงินเก็บที่ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ จุดคุ้มทุนอย่างไร
อย่างกรณีของ TPC (ผมไม่มีหุ้นนะคับ) ก็น่าจะถือว่าสอดคล้องกับแนวโน้มตลาดและการเติบโตนะครับ ส่วนการไปลงทุนในเวียตนามก็ยิ่งเสริม เพราะเพิ่งแต่งงานกับทุนนิยม เหมือนบ้านเราตอนนั้นเลย
แต่ SVI นี่ดูเหมือนจะเสี่ยงพอควรนะครับ กลัวว่าพอโรงงานเสร็จไม่มีออเดอร์(แต่ผมถืออยู่)
เหตุผล/ความเหมาะสม
-ที่มีอยู่ใช้เต็มกำลังหรือยัง
-แนวโน้มตลาด ไม่ใช่ว่าสร้างเสร็จพอดีตลาดอิ่มตัว
-การแข่งขัน บริษัทฯได้เปรียบหรือเป็นผู้นำหรือไม่
-ทุนครับ เรื่องใหญ่ กู้หรือใช้เงินเก็บที่ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ จุดคุ้มทุนอย่างไร
อย่างกรณีของ TPC (ผมไม่มีหุ้นนะคับ) ก็น่าจะถือว่าสอดคล้องกับแนวโน้มตลาดและการเติบโตนะครับ ส่วนการไปลงทุนในเวียตนามก็ยิ่งเสริม เพราะเพิ่งแต่งงานกับทุนนิยม เหมือนบ้านเราตอนนั้นเลย
แต่ SVI นี่ดูเหมือนจะเสี่ยงพอควรนะครับ กลัวว่าพอโรงงานเสร็จไม่มีออเดอร์(แต่ผมถืออยู่)
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4562
- ผู้ติดตาม: 0
คำเตือนจาก ดร.นิเวศน์ ที่ผมไม่เข้าใจ
โพสต์ที่ 12
[quote="pawiga"]เห็นด้วยกับข้างบน
แต่ผม เพิ่มเติม เท่าที่เข้าใจ ว่า แต่ละโรงงานก็มี ธุรกิจแตกต่างกันไป
แต่ผม เพิ่มเติม เท่าที่เข้าใจ ว่า แต่ละโรงงานก็มี ธุรกิจแตกต่างกันไป
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
-
- Verified User
- โพสต์: 87
- ผู้ติดตาม: 0
คำเตือนจาก ดร.นิเวศน์ ที่ผมไม่เข้าใจ
โพสต์ที่ 13
ผมมองว่า การที่กำลังผลิดเดิมเต็ม จนต้องเปิด โรงงานใหม่ น่าจะแยกเป็นสองกรณี คือ เป็นหุ้นวัฏจักรหรือไม่ เพราะ นี่เป็นสัญญาณของการอิ่มตัวในวัฏจักรรอบนั้นๆ แต่หากว่า เป็นกลุ่มแข็งแกร่ง หรือ กลุ่มโตเร็ว การขยายกิจการ ผมจะมองถึง ประวัติการขยายกิจการในอดิต ว่าเป็นอย่างไร หากประสบความสำเร็จอย่างสม่ำเสมอ บริษัทน่าจะก้าวหน้าต่อๆไปครับ
- Sumotin
- Verified User
- โพสต์: 1141
- ผู้ติดตาม: 0
คำเตือนจาก ดร.นิเวศน์ ที่ผมไม่เข้าใจ
โพสต์ที่ 14
[quote="crazyrisk"][quote="pawiga"]เห็นด้วยกับข้างบน
แต่ผม เพิ่มเติม เท่าที่เข้าใจ ว่า แต่ละโรงงานก็มี ธุรกิจแตกต่างกันไป
แต่ผม เพิ่มเติม เท่าที่เข้าใจ ว่า แต่ละโรงงานก็มี ธุรกิจแตกต่างกันไป
Timing is everything, no matter what you do.
CAGR of 34% in the past 15 years of investment
CAGR of 34% in the past 15 years of investment
-
- Verified User
- โพสต์: 298
- ผู้ติดตาม: 0
คำเตือนจาก ดร.นิเวศน์ ที่ผมไม่เข้าใจ
โพสต์ที่ 15
การเปิดโรงงานใหม่ต้องดูฝีมือผู้บริหารด้วยและดูประวัติว่ามีการขยายโรงงานมาหลายครั้งแล้วก็เชื่อถือฝีมือได้พอสมควรแต่ถ้าเพิ่งจะขยายและใหญ่กว่าเดิมมากก็จะต้องคิดเพิ่มอีกนะครับ ว่าต้องก้าวอีกไกลไหม Order เพียงพอไหมแต่อย่างStanly ผมว่าOK นะ เพราะขยายเป็นโรงงานที่ 5 แล้ว น่าจะนำประสบการณ์เดิมมาปรับปรุงให้ดีมากขึ้น มีประสิทธิภาพอย่างรวดเร็ว
-
- Verified User
- โพสต์: 362
- ผู้ติดตาม: 0
คำเตือนจาก ดร.นิเวศน์ ที่ผมไม่เข้าใจ
โพสต์ที่ 18
น่าจะเป็นเรื่องของ Productivity (ผลิตภาพทางการผลิต) ครับ
การขยายหรือเพิ่มพื้นที่การผลิต อาจจะผลิตได้สินค้าจำนวนมากขึ้นจริง แต่ผลิตภาพอาจจะไม่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ผลิตภาพ คือ ผลผลิตต่อหน่วยผลิต หน่วยผลิตมากขึ้นแต่ถ้าสินค้าที่ผลิตได้เพิ่มขึ้นไม่มาก ผลิตภาพก็น้อยลง ไม่เพิ่มขึ้นตามการกำลังการผลิต ทำให้หการเพิ่มไม้สร้างเงินสดได้ ปัญหาต่อเนื่อง ก็จะย้อนกลับไปสู่เงินลงทุน ทีมีผลตอบแทนที่ไม่เป็นไปตามคาดหวังผู้ถือหุ้น หรือไม่มีเงินไปจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ ครับ
การขยายหรือเพิ่มพื้นที่การผลิต อาจจะผลิตได้สินค้าจำนวนมากขึ้นจริง แต่ผลิตภาพอาจจะไม่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ผลิตภาพ คือ ผลผลิตต่อหน่วยผลิต หน่วยผลิตมากขึ้นแต่ถ้าสินค้าที่ผลิตได้เพิ่มขึ้นไม่มาก ผลิตภาพก็น้อยลง ไม่เพิ่มขึ้นตามการกำลังการผลิต ทำให้หการเพิ่มไม้สร้างเงินสดได้ ปัญหาต่อเนื่อง ก็จะย้อนกลับไปสู่เงินลงทุน ทีมีผลตอบแทนที่ไม่เป็นไปตามคาดหวังผู้ถือหุ้น หรือไม่มีเงินไปจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ ครับ