ทำไมคนยังทำธุรกิจที่ ROA ต่ำๆ อีก??
-
- Verified User
- โพสต์: 1104
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมคนยังทำธุรกิจที่ ROA ต่ำๆ อีก??
โพสต์ที่ 1
ธุรกิจที่ ROA ต่ำๆ คือการใช้ Asset ที่ไม่คุ้มค่า
บางธุรกิจต่ำกว่า ผลตอบเเทนดอกเบี้ยซะอีก เช่น
กลุ่มธนาคาร
เเต่ทำไมยังมีคนทำธุรกิจพวกนี้อยู่อีก????
:?: :?: :?:
บางธุรกิจต่ำกว่า ผลตอบเเทนดอกเบี้ยซะอีก เช่น
กลุ่มธนาคาร
เเต่ทำไมยังมีคนทำธุรกิจพวกนี้อยู่อีก????
:?: :?: :?:
สิ่งทั้งหลายเกิดขึ้นในเบื้องต้น ตั้งอยู่ เเละดับไปในที่สุด
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1067
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมคนยังทำธุรกิจที่ ROA ต่ำๆ อีก??
โพสต์ที่ 3
เพราะ ROA มันรวมสินทรัพย์ส่วนที่เจ้าของไม่ได้เป็นเจ้าของด้วยครับ
งงป่าวครับ ผมก็งง :shock:
อย่างธนาคาร สินทรัพย์ส่วนใหญ่ของเขาก็คือเงินฝากของลูกค้า หรือก็คือเจ้าหนี้
ในขณะที่ส่วนของผู้ถือหุ้นจะมีมูลค่าอยู่น้อยกว่ามาก (d/e สูง อย่าง kbank,scb ก็ 8-9 เท่า)
ซึ่งนั่นจะทำให้ ROE สูง จนเป็นที่พอใจของนักลงทุนได้ครับ กิจการจึงได้เกิดขึ้น
ลักษณะพวกนี้เงินกู้จะสูง ครับ แต่ดู ROE ก็ยังถือว่าไล่ ๆ กันกับอุตสาหกรรมอื่น
ผมอธิบายงง ๆ ๆ แหะ
คงต้องพึ่งท่านอื่นมาเสริมล่ะครับ
งงป่าวครับ ผมก็งง :shock:
อย่างธนาคาร สินทรัพย์ส่วนใหญ่ของเขาก็คือเงินฝากของลูกค้า หรือก็คือเจ้าหนี้
ในขณะที่ส่วนของผู้ถือหุ้นจะมีมูลค่าอยู่น้อยกว่ามาก (d/e สูง อย่าง kbank,scb ก็ 8-9 เท่า)
ซึ่งนั่นจะทำให้ ROE สูง จนเป็นที่พอใจของนักลงทุนได้ครับ กิจการจึงได้เกิดขึ้น
ลักษณะพวกนี้เงินกู้จะสูง ครับ แต่ดู ROE ก็ยังถือว่าไล่ ๆ กันกับอุตสาหกรรมอื่น
ผมอธิบายงง ๆ ๆ แหะ
คงต้องพึ่งท่านอื่นมาเสริมล่ะครับ
... จุดเริ่มต้นของคนเราไม่สำคัญ
มันสำคัญที่ว่าเขาวิ่งได้เร็วแค่ไหนตะหาก ...
มันสำคัญที่ว่าเขาวิ่งได้เร็วแค่ไหนตะหาก ...
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2273
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมคนยังทำธุรกิจที่ ROA ต่ำๆ อีก??
โพสต์ที่ 4
ทำแล้วออกไม่ได้
ลูกจ้าง พนักงาน ที่ต้องเลี้ยงดู
ความภูมิใจส่วนตัว ไม่อยากเลิกทำธุรกิจที่ปลุกปั้นมานาน
ยังหารายได้ทางอื่นไม่ได้ ทรัพสินก็ขายออกไปไม่ได้ราคา
รอจังหวะว่ามันคงฟื้น
และอีกหลายๆอย่าง สรุปแล้ว แล้วแต่ครับ ต้องไปดูลึกๆเป็นกรณีๆ ไป
ลูกจ้าง พนักงาน ที่ต้องเลี้ยงดู
ความภูมิใจส่วนตัว ไม่อยากเลิกทำธุรกิจที่ปลุกปั้นมานาน
ยังหารายได้ทางอื่นไม่ได้ ทรัพสินก็ขายออกไปไม่ได้ราคา
รอจังหวะว่ามันคงฟื้น
และอีกหลายๆอย่าง สรุปแล้ว แล้วแต่ครับ ต้องไปดูลึกๆเป็นกรณีๆ ไป
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
- doodeemak
- Verified User
- โพสต์: 411
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมคนยังทำธุรกิจที่ ROA ต่ำๆ อีก??
โพสต์ที่ 5
ขออนุญาตเสริมคุณ Capo ครับ
ROA ต่ำอาจจะดีก็ได้นะครับ ถ้า... Asset ที่สูงปรี๊ดนั้น finance มาจากเงินเจ้าหนี้การค้า
ยกตัวอย่างบริษัทผลิต อาจจะเห็นภาพชัดกว่านะครับ
เช่น เราทำร้านก๋วยเตี๋ยวปีนึงกำไร 2 บาท มีทรัพย์สินที่ใช้ในการดำเนินการ 100 บาท ROA จะเท่ากับ 2% ซึ่งดูเหมือนว่า ฝากแบงค์อาจจะดีกว่า
แต่ถ้าเรามองฝั่งของเงินลงทุนจริงๆ (ด้าน Liability & Equity) เรากลับพบว่าเราลงทุนเพียงแค่ 10 บาท กู้เค้ามาอีก 5 บาท ที่เหลือมาจากเจ้าหนี้การค้า 85 บาท (เพราะเราซี้กับคนขายเส้นก๋วยเตี๋ยว เลยได้ term การชำระหนี้ยาว) เราจะพบว่า ROE จะเท่ากับ 20% และ ROIC เท่ากับ 13% ซึ่งก็ยังพอใช้ได้ เพียงแต่อาจจะมีความเสี่ยงในเรื่องการชำระหนี้ระยะสั้นที่ควรต้องระวัง
ดังนั้นผมว่า ROA สูง ROIC สูงมาก ROE สูงมากๆๆๆ เนื่องจาก Profit Margin สูงและ Sales growth สูง ดีที่สุดนะครับ :D
ROA ต่ำอาจจะดีก็ได้นะครับ ถ้า... Asset ที่สูงปรี๊ดนั้น finance มาจากเงินเจ้าหนี้การค้า
ยกตัวอย่างบริษัทผลิต อาจจะเห็นภาพชัดกว่านะครับ
เช่น เราทำร้านก๋วยเตี๋ยวปีนึงกำไร 2 บาท มีทรัพย์สินที่ใช้ในการดำเนินการ 100 บาท ROA จะเท่ากับ 2% ซึ่งดูเหมือนว่า ฝากแบงค์อาจจะดีกว่า
แต่ถ้าเรามองฝั่งของเงินลงทุนจริงๆ (ด้าน Liability & Equity) เรากลับพบว่าเราลงทุนเพียงแค่ 10 บาท กู้เค้ามาอีก 5 บาท ที่เหลือมาจากเจ้าหนี้การค้า 85 บาท (เพราะเราซี้กับคนขายเส้นก๋วยเตี๋ยว เลยได้ term การชำระหนี้ยาว) เราจะพบว่า ROE จะเท่ากับ 20% และ ROIC เท่ากับ 13% ซึ่งก็ยังพอใช้ได้ เพียงแต่อาจจะมีความเสี่ยงในเรื่องการชำระหนี้ระยะสั้นที่ควรต้องระวัง
ดังนั้นผมว่า ROA สูง ROIC สูงมาก ROE สูงมากๆๆๆ เนื่องจาก Profit Margin สูงและ Sales growth สูง ดีที่สุดนะครับ :D
Inactive investor
-
- Verified User
- โพสต์: 170
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมคนยังทำธุรกิจที่ ROA ต่ำๆ อีก??
โพสต์ที่ 6
[quote="doodeemak"]ขออนุญาตเสริมคุณ Capo ครับ
ROA ต่ำอาจจะดีก็ได้นะครับ ถ้า... Asset ที่สูงปรี๊ดนั้น finance มาจากเงินเจ้าหนี้การค้า
ยกตัวอย่างบริษัทผลิต อาจจะเห็นภาพชัดกว่านะครับ
เช่น เราทำร้านก๋วยเตี๋ยวปีนึงกำไร 2 บาท มีทรัพย์สินที่ใช้ในการดำเนินการ 100 บาท ROA จะเท่ากับ 2% ซึ่งดูเหมือนว่า ฝากแบงค์อาจจะดีกว่า
แต่ถ้าเรามองฝั่งของเงินลงทุนจริงๆ (ด้าน Liability & Equity) เรากลับพบว่าเราลงทุนเพียงแค่ 10 บาท กู้เค้ามาอีก 5 บาท ที่เหลือมาจากเจ้าหนี้การค้า 85 บาท (เพราะเราซี้กับคนขายเส้นก๋วยเตี๋ยว เลยได้ term การชำระหนี้ยาว) เราจะพบว่า ROE จะเท่ากับ 20% และ ROIC เท่ากับ 13% ซึ่งก็ยังพอใช้ได้ เพียงแต่อาจจะมีความเสี่ยงในเรื่องการชำระหนี้ระยะสั้นที่ควรต้องระวัง
ดังนั้นผมว่า ROA สูง ROIC สูงมาก ROE สูงมากๆๆๆ เนื่องจาก Profit Margin สูงและ Sales growth สูง ดีที่สุดนะครับ
ROA ต่ำอาจจะดีก็ได้นะครับ ถ้า... Asset ที่สูงปรี๊ดนั้น finance มาจากเงินเจ้าหนี้การค้า
ยกตัวอย่างบริษัทผลิต อาจจะเห็นภาพชัดกว่านะครับ
เช่น เราทำร้านก๋วยเตี๋ยวปีนึงกำไร 2 บาท มีทรัพย์สินที่ใช้ในการดำเนินการ 100 บาท ROA จะเท่ากับ 2% ซึ่งดูเหมือนว่า ฝากแบงค์อาจจะดีกว่า
แต่ถ้าเรามองฝั่งของเงินลงทุนจริงๆ (ด้าน Liability & Equity) เรากลับพบว่าเราลงทุนเพียงแค่ 10 บาท กู้เค้ามาอีก 5 บาท ที่เหลือมาจากเจ้าหนี้การค้า 85 บาท (เพราะเราซี้กับคนขายเส้นก๋วยเตี๋ยว เลยได้ term การชำระหนี้ยาว) เราจะพบว่า ROE จะเท่ากับ 20% และ ROIC เท่ากับ 13% ซึ่งก็ยังพอใช้ได้ เพียงแต่อาจจะมีความเสี่ยงในเรื่องการชำระหนี้ระยะสั้นที่ควรต้องระวัง
ดังนั้นผมว่า ROA สูง ROIC สูงมาก ROE สูงมากๆๆๆ เนื่องจาก Profit Margin สูงและ Sales growth สูง ดีที่สุดนะครับ
Dare to win...
- ayethebing
- Verified User
- โพสต์: 2125
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมคนยังทำธุรกิจที่ ROA ต่ำๆ อีก??
โพสต์ที่ 7
ในบางทีเราไม่สามารถเอาอัตราส่วนทางการเงินตัวเดียวกันไปอธิบายธุรกิจที่แตกต่างกันได้
เช่นถ้าจะดูธุรกิจผลิตก็ดูพวกอัตราส่วนรอบหมุนของสินค้าคงคลังหรือ ROA ได้ ธุรกิจอสังหาก็คงอีกแบบ ธุรกิจบริการก็คงอีกแบบเหมือนกัน
ถ้าเป็นธุรกิจประกันภัยการดูอัตราค่าสินไหมทดแทนที่สามารถใช้วัดความสามารถของการประเมินความเสี่ยง (Underwriting) กับอัตราผลตอบแทนเงินลงทุนซึ่งเป็นแกนหลักสองแกนของธุรกิจประกันภัย มีความสำคัญมากกว่าการดู ROA
ส่วนธุรกิจ bank ยอมรับว่าไม่มีความรู้เลย แต่ถ้าจะจริงนะครับ ที่ Asset ของธนาคารรวมเงินฝากด้วยถ้ายังงี้ยิ่งใช้ ROA ไม่ได้เลย
เช่นถ้าจะดูธุรกิจผลิตก็ดูพวกอัตราส่วนรอบหมุนของสินค้าคงคลังหรือ ROA ได้ ธุรกิจอสังหาก็คงอีกแบบ ธุรกิจบริการก็คงอีกแบบเหมือนกัน
ถ้าเป็นธุรกิจประกันภัยการดูอัตราค่าสินไหมทดแทนที่สามารถใช้วัดความสามารถของการประเมินความเสี่ยง (Underwriting) กับอัตราผลตอบแทนเงินลงทุนซึ่งเป็นแกนหลักสองแกนของธุรกิจประกันภัย มีความสำคัญมากกว่าการดู ROA
ส่วนธุรกิจ bank ยอมรับว่าไม่มีความรู้เลย แต่ถ้าจะจริงนะครับ ที่ Asset ของธนาคารรวมเงินฝากด้วยถ้ายังงี้ยิ่งใช้ ROA ไม่ได้เลย
ขอนไม้อันนิ่งสงบ