npc กับ ราคา เอธิลีน ตอนนี้
-
- ผู้ติดตาม: 0
npc กับ ราคา เอธิลีน ตอนนี้
โพสต์ที่ 1
คือหนู สนใจตัวนี้ค่ะ พี่ๆ แต่ ไม่รู้ว่า ราคา เอธิลีน ตอนนี้เท่าไรแล้ว พี่ๆคนไหนพอทราบบ้างค่ะ ช่วยบอกที แล้วข้อมูล ราคาปิโตรเคมี จะดูจากเวปไหนค่ะ ขอบคุณค่ะ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
npc กับ ราคา เอธิลีน ตอนนี้
โพสต์ที่ 2
น่าแปลกที่ราคาหุ้นที่เป็นหุ้นพื้นฐานดีอย่าง ์NPC จะผันผวนอย่างนี้ครับ
โดยปลายปีที่แล้ว ขึ้นไปถึงประมาณ 150 บาท และลดลงเหลือแค่ 89 บาทเมื่อไม่นานมานี้ โดยวันนี้ปิดที่ 101 บาท
จุดเด่นที่สุดของ NPC คือเป็นผู้ผลิต เอทธิลีน และโปรพิลีน จากแก็สธรรมชาิติ ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่มีราคาถูกกว่า เนปทาซึ่งเป็นวัตถุดิบส่วนใหญ่ของคู่แข่ง ทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำ เป็นจุดแข็งที่สุดของ NPC โดยเฉพาะตอนนี้ที่ราคาเนฟทาปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน
ราคาปัจจุบันของผลิตภัณฑ์ทั้งสองชนิด ผมไม่ทราบครับ ใครทราบก็ช่วยบอกกันหน่อยนะครับ แต่คุณ วิโรจน์ เคยให้สัมภาษณ์ ว่าราคาเฉลี่ยปี 47 ประมาณ 600 ีus$/ton ในขณะที่ราคาปี 46 เฉลี่ยที่ 512 us$/ton
ไตรมาส สาม คงเริ่มการผลิต HDPE คาดว่าใช้กำลังการผลิต 50 % และจะเพิ่มเป็น 80 % ในปี 2005 นอกจากนั้นยังมีโครงการจะผลิต LDPE/LLDPE
และโครงการต่อเนื่องอีกหลายผลิตภัณฑ์
ผู้บริหารท่านนึงเคยให้สัมภาษณ์ปีที่แล้วว่า NPC จะำทำกำไรได้ 5,000 ล้านบาท แต่ผมไม่แน่ใจว่าหมายถึงปีไหนครับ..
ไม่ทราบว่าผู้เชี่ยวชาญคุณ somjook และี่พี่ธันวา มีความเห็นอย่างไรบ้างครับ
และพี่ธันวาได้ซื้อคืนที่ร้อยต้นๆ บ้างไหมครับ :lol:
โดยปลายปีที่แล้ว ขึ้นไปถึงประมาณ 150 บาท และลดลงเหลือแค่ 89 บาทเมื่อไม่นานมานี้ โดยวันนี้ปิดที่ 101 บาท
จุดเด่นที่สุดของ NPC คือเป็นผู้ผลิต เอทธิลีน และโปรพิลีน จากแก็สธรรมชาิติ ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่มีราคาถูกกว่า เนปทาซึ่งเป็นวัตถุดิบส่วนใหญ่ของคู่แข่ง ทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำ เป็นจุดแข็งที่สุดของ NPC โดยเฉพาะตอนนี้ที่ราคาเนฟทาปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน
ราคาปัจจุบันของผลิตภัณฑ์ทั้งสองชนิด ผมไม่ทราบครับ ใครทราบก็ช่วยบอกกันหน่อยนะครับ แต่คุณ วิโรจน์ เคยให้สัมภาษณ์ ว่าราคาเฉลี่ยปี 47 ประมาณ 600 ีus$/ton ในขณะที่ราคาปี 46 เฉลี่ยที่ 512 us$/ton
ไตรมาส สาม คงเริ่มการผลิต HDPE คาดว่าใช้กำลังการผลิต 50 % และจะเพิ่มเป็น 80 % ในปี 2005 นอกจากนั้นยังมีโครงการจะผลิต LDPE/LLDPE
และโครงการต่อเนื่องอีกหลายผลิตภัณฑ์
ผู้บริหารท่านนึงเคยให้สัมภาษณ์ปีที่แล้วว่า NPC จะำทำกำไรได้ 5,000 ล้านบาท แต่ผมไม่แน่ใจว่าหมายถึงปีไหนครับ..
ไม่ทราบว่าผู้เชี่ยวชาญคุณ somjook และี่พี่ธันวา มีความเห็นอย่างไรบ้างครับ
และพี่ธันวาได้ซื้อคืนที่ร้อยต้นๆ บ้างไหมครับ :lol:
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1011
- ผู้ติดตาม: 0
npc กับ ราคา เอธิลีน ตอนนี้
โพสต์ที่ 3
คุณลูกอิสานนี่จำแม่นจริงๆ
ความจริงผมก็แปลกใจกับราคาที่ผันผวนของ NPC มาครับทั้งๆที่พื้นฐานดีมาก
ตอนนี้ผมเริ่มลงทุนแบบเน้นๆ มากขึ้นครับ กะว่าจะเหลือเพียง 5-6 ตัว
ก็เลยถือโอกาสทยอยปรับพอร์ตในช่วงที่ผ่านมาครับ
NPC เป็นตัวหนึ่งที่กะว่าจะไม่ถือยาวมาก ก็เลยถือโอกาสขายหมูที่ราคา 98 บาทในช่วงที่ผ่านมาครับ ก่อนหน้านี้เคยขายออกไป 1/3 ที่ราคา 150 บาท (คุยแล้วจะหาว่าพูด )
ส่วนหนึ่งของสาเหตุที่ขาย ก็เพราะสงสัยว่าตัวเองจะไม่เข้าใจธุรกิจนี้ดีพอ หรืออย่างน้อยก็ควรเข้าใจสักครึ่งหนึ่งของคุณ somjook นะ
อีกอย่าง ผมทราบว่าตอนนี้เมืองจีนไม่ต้องการให้เศรษฐกิจโตเร็วเกินไป ผมกลัวว่าจะกระทบกับอุตสหกรรมเคมีบ้านเรานะครับ
สุดท้าย ผมเข้าใจ NPC มีการหยุดการผลิต 10 วันเมื่อเดื่อนมกราคมที่ผ่านมา อาจจะทำให้ปริมาณการผลิตลดลงประมาณ 10-11% รวมทั้งผลประกอบการด้วย แต่ก็คงเป็นช่วงสั้นเท่านั้น
ทั้งหมดนี้คิดเอาเองทั้งนั้น และก็ไม่มีเจตนาเป็นอย่างอื่นอย่างใดครับ
ยังคิดว่า NPC เป็นหุ้นที่น่าลงทุนมากในกลุ่มเคมี เพียงแต่ว่าผมต้องการลดจำนวนตัวเท่านั้น จีงหาเหตุผลมาสนับสนุนนะครับ
ความจริงผมก็แปลกใจกับราคาที่ผันผวนของ NPC มาครับทั้งๆที่พื้นฐานดีมาก
ตอนนี้ผมเริ่มลงทุนแบบเน้นๆ มากขึ้นครับ กะว่าจะเหลือเพียง 5-6 ตัว
ก็เลยถือโอกาสทยอยปรับพอร์ตในช่วงที่ผ่านมาครับ
NPC เป็นตัวหนึ่งที่กะว่าจะไม่ถือยาวมาก ก็เลยถือโอกาสขายหมูที่ราคา 98 บาทในช่วงที่ผ่านมาครับ ก่อนหน้านี้เคยขายออกไป 1/3 ที่ราคา 150 บาท (คุยแล้วจะหาว่าพูด )
ส่วนหนึ่งของสาเหตุที่ขาย ก็เพราะสงสัยว่าตัวเองจะไม่เข้าใจธุรกิจนี้ดีพอ หรืออย่างน้อยก็ควรเข้าใจสักครึ่งหนึ่งของคุณ somjook นะ
อีกอย่าง ผมทราบว่าตอนนี้เมืองจีนไม่ต้องการให้เศรษฐกิจโตเร็วเกินไป ผมกลัวว่าจะกระทบกับอุตสหกรรมเคมีบ้านเรานะครับ
สุดท้าย ผมเข้าใจ NPC มีการหยุดการผลิต 10 วันเมื่อเดื่อนมกราคมที่ผ่านมา อาจจะทำให้ปริมาณการผลิตลดลงประมาณ 10-11% รวมทั้งผลประกอบการด้วย แต่ก็คงเป็นช่วงสั้นเท่านั้น
ทั้งหมดนี้คิดเอาเองทั้งนั้น และก็ไม่มีเจตนาเป็นอย่างอื่นอย่างใดครับ
ยังคิดว่า NPC เป็นหุ้นที่น่าลงทุนมากในกลุ่มเคมี เพียงแต่ว่าผมต้องการลดจำนวนตัวเท่านั้น จีงหาเหตุผลมาสนับสนุนนะครับ
แก้ไขล่าสุดโดย thanwa เมื่อ พุธ เม.ย. 07, 2004 11:39 pm, แก้ไขไปแล้ว 2 ครั้ง.
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
npc กับ ราคา เอธิลีน ตอนนี้
โพสต์ที่ 4
กำไรของธุรกิจนี้มันแปรไปตามส่วนต่างของราคาวัตถุดิบกับราคาผลิตภัณฑ์ครับ ดูแค่ราคาผลิตภัณฑ์อย่างเดียวไม่ได้ครับ ถึงราคาOlefinจะดีแต่ BenzeneและNepthaสูงตามมาด้วยนะครับอย่าลืม
เป็นบุญหนักหนาเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เป็นคนไทยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
npc กับ ราคา เอธิลีน ตอนนี้
โพสต์ที่ 6
พี่ธันวาแน่มากเลยครับ ขายได้ที่ไฮท์ด้วยก่อนหน้านี้เคยขายออกไป 1/3 ที่ราคา 150 บาท (คุยแล้วจะหาว่าพูด )
ประเ้ด็นนึ่งซึ่งผู้ถือหุ้น NPC สบายใจได้คือ NPC เป็นผู้ผลิตต้นทุนต่ำในโลก
เพราะใช้วัตถุดิบแก็สธรรมชาติซึ่งต้นทุนต่ำกว่าแนฟทา และโรงงานของ NPC ก่อสร้างในช่วงที่มีต้นทุนต่ำครับ
คู่แข่งที่มีต้นทุนต่ำกว่าคือประเทศตะวันออกกลาง และมาเลเซีย
แต่ประเทศผู้บริโภคส่วนใหญ่คือเอเชียตะวันออก คือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี
ดังนั้นผู้ผลิตที่อยู่ใกล้ตลาดมากกว่าจะไ้ด้เปรียบ เพราะอยู่ห่างค่าขนส่งกินหมด ในกรณีมาเลเซีย ต้นทุนวัตถุดิบต่ำกว่าไทย แต่ตลาดในประเทศเล็กกว่าไทยมาก ทำให้ต้องส่งออกสูง ต้นทุนรวมเลยพอๆ กับผู้ผลิตไทยครับ
คู่แข่งในประเทศของ NPC คือ
ROC- ของปูนใหญ่ ซึ่งใช้แนฟทาซึ่งมีราคาแพงกว่า ถึงแม้มีกำลังการผลิตมากกว่า
TOC -ใช้แนฟทา และ ปิโตรเลี่ยมอื่นๆ เป็นวัตถุดิบ แต่ส่วนขยายใช้แก็สเหมือน NPC
TPI - ใช้แนฟทา
จากเหตุผลข้างต้น แม้ราคาผลิตภัณฑ์สุดท้ายจะผันผวน แต่้ด้วยความเป็นผู้ผลผลิตต้นทุนต่ำ ์NPC ก็ยังอยู่ได้ครับ บริษัทได้จัดทำประมาณการราคาผลิตภัณฑ์ที่คาดว่าน่าจะเป็น และราคาผลิจภัณฑ์ในกรณี worst case ในแบบ 56-1 แต่งบการเงินของ NPC ก็ยังแข็งแกร่งมากครับ
ส่วนเรื่องการปิดโรงงาน un planed 10 วันนั้น ผมไม่ทราบเรื่องเลยครับ ไม่มีในข่าวบริษัทด้วยครับ ในงานวิจัยของ ast ก็ไม่ได้บอกเลยครับ
สำหรับหุ้นตลาด สภาพคล่องสูง ที่เป็นหุ้นพื้นฐานดี มีปันผลค่อนข้างสูง มีอัตราการเจริญเติบโต มีความสามารถในการแข่งขันแม้ในภาวะตกต่ำของอุตสาหกรรม มีงบการเงินและกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง ผู้บริหารมีธรรมภิบาล ผมคิดว่า NPC น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอันดับต้นๆ ครับ...
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- ผู้ติดตาม: 0
npc กับ ราคา เอธิลีน ตอนนี้
โพสต์ที่ 7
จะซื้อตอนนี้ ดีเปล่าค่ะ รึว่าไม่ควรซื้อ สับสนค่ะแนะนำด้วย
-
- Verified User
- โพสต์: 211
- ผู้ติดตาม: 0
npc กับ ราคา เอธิลีน ตอนนี้
โพสต์ที่ 8
บริษัท NPCเป็นบริษัทที่ดีมากครับ มีกำไรต่อเนื่องมาตลอดทุกปี (ดูข้อมูลย้อนหลัง 10 ปีได้ แม้ว่าจะเป็นช่วงขาลงของอุตสาหกรรม เนื่องมาจากราคาวัตถุดิบซึ่งคือ อีเทน มีราคาอิงกับราคาก๊าซธรรมชาติ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะมีการปรับทุกๆ 6 เดือนซึ่งถือว่ามีเสถียรภาพพอสมควร ขณะที่ราคาขายอ้างอิงตามราคาตลาดโลก ซึ่งทำให้ในช่วงธุรกิจขาขึ้นนี้บริษัทได้ประโยชน์จากการปรับขึ้นของราคาผลิตภัณฑ์มากกว่าราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น
แต่ที่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่นักคือ NPC เป็นบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมต้นน้ำในขณะที่ต้องหวังพึ่งลูกค้าซึ่งเป็นบริษัทนอกกลุ่มมากทำให้ความสามารถในการแข่งขันต่ำกว่า และมีโอกาสในการสูญเสียลูกค้า ยกตัวอย่างเช่น TPE ซึ่งถือเป็นลูกค้ารายใหญ่ของ NPC เป็นบริษัทของเครือซิเมนต์ไทยเช่นเดียวกับ ROC ที่เป็นผู้ผลิตเอททีลีนเหมือน NPC ทำให้ NPC มีความเสี่ยงที่จะ oversupply สูง
นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ NPC ต้องเริ่มขยายธุรกิจเข้ามาทำเม็ดพลาสติกด้วยเพื่อรองรับเอททีลีนส่วน(ที่อาจจะ)เกินในอนาคต แต่ผมมองว่าการขยายธุรกิจสู่เม็ดพลาสติกก็มีความเสี่ยงด้านการแข่งขันกับเจ้าของตลาดเดิม และธุรกิจนี้ต้องอาศัยความชำนาญและเทคโนโลยีไม่น้อย
ผมเห็นด้วยกับพี่ธันวาครับที่ว่าธุรกิจประเภทนี้อาจไม่เหมาะกับการถือระยะยาวเท่าไหร่นัก เพราะว่าธุรกิจเป็น cycle มีขึ้นมีลงตามอุปสงค์อุปทานของตลาด
แต่ที่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่นักคือ NPC เป็นบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมต้นน้ำในขณะที่ต้องหวังพึ่งลูกค้าซึ่งเป็นบริษัทนอกกลุ่มมากทำให้ความสามารถในการแข่งขันต่ำกว่า และมีโอกาสในการสูญเสียลูกค้า ยกตัวอย่างเช่น TPE ซึ่งถือเป็นลูกค้ารายใหญ่ของ NPC เป็นบริษัทของเครือซิเมนต์ไทยเช่นเดียวกับ ROC ที่เป็นผู้ผลิตเอททีลีนเหมือน NPC ทำให้ NPC มีความเสี่ยงที่จะ oversupply สูง
นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ NPC ต้องเริ่มขยายธุรกิจเข้ามาทำเม็ดพลาสติกด้วยเพื่อรองรับเอททีลีนส่วน(ที่อาจจะ)เกินในอนาคต แต่ผมมองว่าการขยายธุรกิจสู่เม็ดพลาสติกก็มีความเสี่ยงด้านการแข่งขันกับเจ้าของตลาดเดิม และธุรกิจนี้ต้องอาศัยความชำนาญและเทคโนโลยีไม่น้อย
ผมเห็นด้วยกับพี่ธันวาครับที่ว่าธุรกิจประเภทนี้อาจไม่เหมาะกับการถือระยะยาวเท่าไหร่นัก เพราะว่าธุรกิจเป็น cycle มีขึ้นมีลงตามอุปสงค์อุปทานของตลาด
-
- Verified User
- โพสต์: 212
- ผู้ติดตาม: 0
npc กับ ราคา เอธิลีน ตอนนี้
โพสต์ที่ 9
สำหรับเรื่องความเสี่ยงที่จะ over supply นั้น NPC บริษัทมีสัญญาซื้อขายระยะยาวสำหรับผลิตภัณฑ์เอทิลีนร้อยละ 56 และผลิตภัณฑ์โพรพิลีนร้อยละ 94 ของปริมาณการผลิตในปี 2545 โดยสัญญาซื้อขายดังกล่าวเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2534 และจะสิ้นสุดในวันที่ 13 ตุลาคม 2549 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า โดยการต่ออายุสัญญาจะต้องมีการแจ้งล่วงหน้าเป็นเวลาอย่างน้อย 2 ปี ก่อนวันหมดสัญญา ซึ่งขณะนี้บริษัทได้เริ่มดำเนินการเจรจากับลูกค้าเพื่อต่อหรือจัดทำสัญญาใหม่แล้วค่ะkot31 เขียน: แต่ที่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่นักคือ NPC เป็นบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมต้นน้ำในขณะที่ต้องหวังพึ่งลูกค้าซึ่งเป็นบริษัทนอกกลุ่มมากทำให้ความสามารถในการแข่งขันต่ำกว่า และมีโอกาสในการสูญเสียลูกค้า ยกตัวอย่างเช่น TPE ซึ่งถือเป็นลูกค้ารายใหญ่ของ NPC เป็นบริษัทของเครือซิเมนต์ไทยเช่นเดียวกับ ROC ที่เป็นผู้ผลิตเอททีลีนเหมือน NPC ทำให้ NPC มีความเสี่ยงที่จะ oversupply สูง
โดยลักษณะโครงสร้างของธุรกิจโอเลฟินส์จะเป็นการตกลงซื้อขายระหว่างผู้ผลิตกับผู้ซื้อหลักไม่กี่ราย ซึ่งบริษัทได้จัดทำสัญญาซื้อขายผลิตภัณฑ์ระยะยาวกับลูกค้า ซึ่งก็เป็นไปในทำนองเดียวกันกับผู้ผลิตโอเลฟินส์รายอื่นๆ ในประเทศ สำหรับผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์ในส่วนที่เกินจากสัญญา บริษัทจะขายในลักษณะ Spot Volume ซึ่งจะประกอบด้วย ปริมาณ Spot ในประเทศและต่างประเทศ โดยมีสูตรราคาขายอ้างอิงกับราคาตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นหลักค่ะ
-
- Verified User
- โพสต์: 212
- ผู้ติดตาม: 0
npc กับ ราคา เอธิลีน ตอนนี้
โพสต์ที่ 10
สำหรับส้มจุกคิดว่าการที่ NPC เข้ามาทำธุรกิจกลางน้ำด้วยเนี่ยเป็นน่าจะเป็นเพราะต้องการที่จะขยายตลาดเข้ามาสู่ธุรกิจกลางน้ำซึ่งราคาขายสูงกว่าและน่าจะทำกำไรได้สูงกว่าการขาย ethylene เนื่องจากสามารถควบคุมการผลิตได้ดีกว่าเพราะผลิตวัตถุดิบได้เองkot31 เขียน:NPC มีความเสี่ยงที่จะ oversupply สูง
นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ NPC ต้องเริ่มขยายธุรกิจเข้ามาทำเม็ดพลาสติกด้วยเพื่อรองรับเอททีลีนส่วน(ที่อาจจะ)เกินในอนาคต แต่ผมมองว่าการขยายธุรกิจสู่เม็ดพลาสติกก็มีความเสี่ยงด้านการแข่งขันกับเจ้าของตลาดเดิม และธุรกิจนี้ต้องอาศัยความชำนาญและเทคโนโลยีไม่น้อย
ส่วนตัวมองว่าเมื่อ npc มีการผลิต HDPE กำลังการผลิต 250,000 ตันต่อปีประมาณ Q3 '47 ตรงนี้น่าจะทำให้การ consume ethylene เพิ่มสูงขึ้น..... demand มากขึ้น ราคา ethylene น่าจะปรับตัวสูงขึ้น...
แต่พอถึงต้นปี 48 เมื่อ TOC เดินการผลิตส่วนขยาย ethylene ได้ใน Q1 ซึ่งกำลังการผลิตสูงเพิ่มขึ้นเกือบสามแสนตันต่อปี......ตรงนี้คงต้องมาดูว่าตลาด ethylene ณ เวลานั้นเป็นยังไง......
แต่พอถึงปี '49 การ consume ethylene จะเพิ่มขึ้นอีกครั้งเพราะโรงงานอีโอ/อีจี ของ toc ก็จะทำการผลิตเชิงพาณิชย์ค่ะ กำลังการผลิตสูงถึงสามแสนตันต่อปี
แก้ไขล่าสุดโดย SomJook เมื่อ พุธ เม.ย. 14, 2004 4:43 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- Verified User
- โพสต์: 212
- ผู้ติดตาม: 0
npc กับ ราคา เอธิลีน ตอนนี้
โพสต์ที่ 11
ส้มจุกก็เห็นด้วยค่ะว่าธุรกิจนี้เป็น cycle ดังนั้นถ้าจะถือหุ้นกลุ่มนี้ควรจะเรียนรู้ว่าช่วง high-low season นั้นมันอยู่ช่วงไหนค่ะ .....kot31 เขียน:ผมเห็นด้วยกับพี่ธันวาครับที่ว่าธุรกิจประเภทนี้อาจไม่เหมาะกับการถือระยะยาวเท่าไหร่นัก เพราะว่าธุรกิจเป็น cycle มีขึ้นมีลงตามอุปสงค์อุปทานของตลาด
-
- Verified User
- โพสต์: 211
- ผู้ติดตาม: 0
npc กับ ราคา เอธิลีน ตอนนี้
โพสต์ที่ 13
ผมเห็นด้วยกับคุณส้มจุกนะครับที่ว่าการมีสัญญาระยะยาวในเรื่องปริมาณการซื้อขายเอททีลีน จะช่วยให้บริษัทไม่ขาดทุน เพราะสามารถขายผลิตภัณฑ์ได้ในปริมาณขั้นต่ำตามสัญญา แต่ถ้าหากบริษัทลูกค้าสามารถมีทางเลือกมากขึ้นในการซื้อวัตถุดิบ (ส่วนที่เกินจากสัญญา โดยเฉพาะช่วงขาขึ้นของอุตสาหกรรม) จะทำให้บริษัทสูญเสียโอกาสในการทำกำไรจากส่วนนี้ไปครับสำหรับส้มจุกคิดว่าการที่ NPC เข้ามาทำธุรกิจกลางน้ำด้วยเนี่ยเป็นน่าจะเป็นเพราะต้องการที่จะขยายตลาดเข้ามาสู่ธุรกิจกลางน้ำซึ่งราคาขายสูงกว่าและน่าจะทำกำไรได้สูงกว่าการขาย ethylene เนื่องจากสามารถควบคุมการผลิตได้ดีกว่าเพราะผลิตวัตถุดิบได้เอง
ส่วนตัวมองว่าเมื่อ npc มีการผลิต HDPE กำลังการผลิต 250,000 ตันต่อปีประมาณ Q3 '47 ตรงนี้น่าจะทำให้การ consume ethylene เพิ่มสูงขึ้น..... demand มากขึ้น ราคา ethylene น่าจะปรับตัวสูงขึ้น...
แต่พอถึงต้นปี 48 เมื่อ TOC เดินการผลิตส่วนขยาย ethylene ได้ใน Q1 ซึ่งกำลังการผลิตสูงเพิ่มขึ้นเกือบสามแสนตันต่อปี......ตรงนี้คงต้องมาดูว่าตลาด ethylene ณ เวลานั้นเป็นยังไง......
แต่พอถึงปี '49 การ consume ethylene จะเพิ่มขึ้นอีกครั้งเพราะโรงงานอีโอ/อีจี ของ toc ก็จะทำการผลิตเชิงพาณิชย์ค่ะ กำลังการผลิตสูงถึงสามแสนตันต่อปี
ส่วนกรณีการ S/U ของ EO/EG ของ TOC นั้นผมว่าไม่น่าจะกระทบกับ demand supply มากนะครับ เพราะจากที่ผมดูข้อมูลเรื่องกำลังการผลิตของ TOC2 กับ EO/EG Plant ผมเข้าใจว่าจุดประสงค์หลักของการขึ้น TOC2 เพื่อ supply วัตถุดิบส่วนใหญ่ให้กับ EO/EG Plant มากกว่าครับ (กำลังการผลิตของ TOC2 มากกว่า raw material consume ของ EO/EG Plant นิดหน่อย) ดังนั้นเชื่อว่าปริมาณเอททีลีนในตลาดจะยังคงใกล้เคียงเดิม
ส่วนประเด็นเรื่องการขยายเข้าสู่ธุรกิจกลางน้ำของ NPC ผมว่าจริงครับที่การขายเป็นเม็ดพลาสติกจะช่วยให้ margin ของกำไรเพิ่มขึ้น แต่จากประสบการณ์เล็กน้อยที่ผมมีในธุรกิจเม็ดพลาสติก ราคาขายของเม็ดพลาสติกไม่ได้ขึ้นลงตามราคาวัตถุดิบอย่างเดียว หากแต่ขึ้นลงตามปริมาณสินค้าที่มีในตลาดเป็นอย่างมาก หากเกิดการทุ่มตลาดจากทางตะวันออกกลาง คงจะสามารถไปแข่งขันได้ยาก ดังนั้นจะเห็นได้ว่ามีหลายครั้งที่บริษัทผู้ผลิตเม็ดพลาสติกไม่สามารถปรับราคาขึ้นได้ตามราคาก๊าซเอททีลีนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้ margin ลดลง ในกรณีของ NPC ที่มีการเปลี่ยนสัญญาให้ราคาขายเอททีลีนเปลี่ยนแปลงตามราคา HDPE ผมมองว่าเป็นการปรับเพื่อช่วยคงเสถียรภาพรการแข่งขันของ HDPE มากกว่าครับ แต่ผมมองว่าในฐานะผู้ขายเอททีลีน NPC น่าจะลดความได้เปรียบลง เพราะราคาขายต้องไปผูกติดกับ demand-supply ของ HDPE ด้วย
ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นตามความเข้าใจของผมนะครับ ถ้าผิดตรงไหนช่วยแก้ด้วยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 212
- ผู้ติดตาม: 0
npc กับ ราคา เอธิลีน ตอนนี้
โพสต์ที่ 14
ยินดีรับฟังความคิดเห็นค่ะคุณ kot31kot31 เขียน:
ส้มจุกเห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะที่คุณ kot31 บอกว่าราคา HDPE นอกจากขึ้นกับราคากาซ ethylene แล้วยังขึ้นกับ demand / supply ด้วยค่ะ ......เพราะจะเห็นว่าเมื่อใดที่ผู้ใช้รายใหญ่อย่างจีนมีการนำเข้าสูงแล้ว.......ราคาเม็ดพลาสติกจะวิ่งขึ้นไปอย่างรวดเร็ว.......
แต่สำหรับการทุ่มตลาดจากตะวันออกกลางแล้วส้มจุกคิดว่าไม่ค่อยน่ากลัวค่ะเพราะอยู่ค่อนข้างไกลจากบ้านเราซึ่งค่า freight ที่รวมมากับค่าสินค้าก็น่าจะแพงกว่าบ้านเราอยู่แล้ว....... และปกติการนำเข้าจากโซนนั้นก็ค่อนข้างน้อย.....ส่วนใหญ่ก็จะนำเข้าจากในตลาดย่านเอเชียใกล้ๆบ้านเราซะเป็นส่วนใหญ่
จากประสบการณ์ของส้มจุกแล้ว...... ราคาพวกเม็ดพลาสติกเองค่อนข้างจะ sensitive ต่อการเปลี่ยนแปลงราคาวัตถุดิบ...... เมื่อราคาวัตถุดิบมีการเปลี่ยนแปลงผู้ผลิตเม็ดพลาสติกจะทำการปล่อยสินค้าออกในตลาดน้อยกว่าปกติแม้ว่าจะมีสต็อกอยู่....... สินค้าจะขาดตลาดอย่างรวดเร็วเนื่องจากผู้ผลิตจะทำการกันสินค้าไปขายในราคาใหม่ที่สูงขึ้น...... ยิ่งเม็ด PE แล้วราคาจะค่อนข้างเหวี่ยงมากบางครั้งต้องคุยราคากันแบบวันต่อวันเลยค่ะ.......
แต่ฝ่ายที่จะปรับราคาสินค้าขึ้นได้ยากนั้นมักจะเป็นผู้ผลิตสินค้าสำเร็จรูปซะเป็นส่วนใหญ่เพราะมีผู้ผลิตมากรายการแข่งขันสูงมากกว่าผู้ผลิตเม็ดพลาสติกมาก..... ดังนั้นจะเห็นว่าถ้าช่วงไหนเม็ดพลาสติกราคาขึ้นสูงๆ... ผู้ประกอบการที่ทำฟิล์มหรือพวก packaging จะกำไรลดลงค่อนข้างมากเลยค่ะ