สงสัยเรื่องราคาหุ้นต่ำกว่าพาร์
-
- Verified User
- โพสต์: 6
- ผู้ติดตาม: 0
สงสัยเรื่องราคาหุ้นต่ำกว่าพาร์
โพสต์ที่ 1
ผมมือใหม่เพิ่งเริ่มสนใจจริงจังเลยนะครับ ยังต้องเรียนรู้อีกมาก ปัจจุบันยังไม่มีปอดของตัวเองเลยครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ
เริ่มคำถามเลยนะครับ
พอดีผมมองๆไปเจอหุ้นตัวนึงราคาปัจจุบันต่ำกว่าราคาพาร์ อย่างนี้มีความหมายว่าอะไรหรือเปล่าครับ หมายถึงเราซื้อได้ถูกกว่าเจ้าของหรือเปล่า
แล้วอย่างนี้ถือว่า ดีหรือไม่ดี
คำถามที่2 หุ้นที่ Market Cap น้อยกว่า ส่วนของผู้ถือหุ้น มี นัยสำคัญ อะไรหรือเปล่า ดีหรือไม่ดี อย่างไร
ส่วนตัวผมมองว่า น่าจะดีนะ เพราะเหมือนว่าถ้าเราควักเงินซื้อหุ้นทั้งหมดแล้ว ก็ยังกำไร เพราะส่วนของผู้ถือหุ้น มากกว่า เงินที่ควักซื้อไป
จากคำถามที่2 เราสามารถ เอาข้อนี้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจเลือกซื้อหุ้นได้มั้ย ถ้าได้ ต้องดูอะไรเพิ่มเติมมั่งครับ
เริ่มคำถามเลยนะครับ
พอดีผมมองๆไปเจอหุ้นตัวนึงราคาปัจจุบันต่ำกว่าราคาพาร์ อย่างนี้มีความหมายว่าอะไรหรือเปล่าครับ หมายถึงเราซื้อได้ถูกกว่าเจ้าของหรือเปล่า
แล้วอย่างนี้ถือว่า ดีหรือไม่ดี
คำถามที่2 หุ้นที่ Market Cap น้อยกว่า ส่วนของผู้ถือหุ้น มี นัยสำคัญ อะไรหรือเปล่า ดีหรือไม่ดี อย่างไร
ส่วนตัวผมมองว่า น่าจะดีนะ เพราะเหมือนว่าถ้าเราควักเงินซื้อหุ้นทั้งหมดแล้ว ก็ยังกำไร เพราะส่วนของผู้ถือหุ้น มากกว่า เงินที่ควักซื้อไป
จากคำถามที่2 เราสามารถ เอาข้อนี้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจเลือกซื้อหุ้นได้มั้ย ถ้าได้ ต้องดูอะไรเพิ่มเติมมั่งครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 56
- ผู้ติดตาม: 0
สงสัยเรื่องราคาหุ้นต่ำกว่าพาร์
โพสต์ที่ 3
ดีแล้วครับที่เป็นคนไฝ่รู้
วันข้างหน้า คุณมี Port ลงทุนเป็นของตัวเองจะได้มีความพร้อมครับ
สมมติ นานมาแล้ว คุณหุ้นกับเพื่อนเปิดร้ายขายก๋วยเตี๋ยวมูลค่า 1 ล้านบาท พาร์ 100 แบ่งเป็น 10,000 หุ้น
กิจการ ทรงๆ ทรุดๆ มูลค่ากิจการลดเหลือ 5 แสนบาท
อยู่มาวันหนึ่ง เพื่อนคุณสุดแสนจะใจดีเหลือเกิน ขายหุ้นในส่วนของเค้าให้คุณ ในราคา 99 บาทต่อหุ้น (ต่ำกว่าพาร์) คุณอาจจะดีใจ (ก็ได้น่ะ ห้ามกันไม่ได้หรอกครับ) แต่แฟนคุณที่บ้านคงเป็นลม
ความเห็นกวน teen ไปบ้าง ขออภัย ครับ
วันข้างหน้า คุณมี Port ลงทุนเป็นของตัวเองจะได้มีความพร้อมครับ
สมมติ นานมาแล้ว คุณหุ้นกับเพื่อนเปิดร้ายขายก๋วยเตี๋ยวมูลค่า 1 ล้านบาท พาร์ 100 แบ่งเป็น 10,000 หุ้น
กิจการ ทรงๆ ทรุดๆ มูลค่ากิจการลดเหลือ 5 แสนบาท
อยู่มาวันหนึ่ง เพื่อนคุณสุดแสนจะใจดีเหลือเกิน ขายหุ้นในส่วนของเค้าให้คุณ ในราคา 99 บาทต่อหุ้น (ต่ำกว่าพาร์) คุณอาจจะดีใจ (ก็ได้น่ะ ห้ามกันไม่ได้หรอกครับ) แต่แฟนคุณที่บ้านคงเป็นลม
ความเห็นกวน teen ไปบ้าง ขออภัย ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1372
- ผู้ติดตาม: 1
สงสัยเรื่องราคาหุ้นต่ำกว่าพาร์
โพสต์ที่ 4
ไม่มีใครที่รู้ตั้งแต่เกิด ดังนั้นไม่มีคำถามไหนไร้สาระเกินไปหรอกครับRuoK? เขียน:สงสัยคำถามผมจะไร้สาระเกินไป
แต่ที่พี่ๆ เขาไม่เข้ามาตอบคงเพราะตอบไม่ได้ :lol: แซวเล่นครับ
ต้องแยกระหว่างราคา พาร์ (Par value) กับราคาตามบัญชี( Book value) นะครับ ส่วนมากการเทียบราคาหุ้นจะเทียบกับราคาตามบัญชี มากกว่า
ข้อแรก การที่ราคาหุ้นต่ำกว่าราคาพาร์ เกิดจาก
1 บริษัทนั้นมีขาดทุนสะสม ทำให้ส่วนทุนลดลง
2 อาจเป็นบริษัทใหม่ที นายตลาด ยังไม่ให้ความสนใจ ราคาเลยไม่ขึ้น มิหน่ำซ้ำยังตกด้วย
3 บริษัทอาจมีกำไรน้อยเกินกว่านักลงทุนสนใจเลยให้ราคาต่ำ
ข้อ 2 ราคาตามบัญชีคิดง่ายๆ คือ ส่วนของผู้ถือหุ้น/จำนวนหุ้น
ส่วนที่พี่ Ruok? ถามว่าหุ้นที่ Mar.cap. ต่ำกว่า ส่วนของผู้ถือหุ้น คงคล้ายๆกับข้อแรกนะครับ
ลองอ่านกระทู้เก่าๆดูนะครับ
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... db9e451bb9
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=23413
สติมา ปัญญาเกิด
- Ryuga
- Verified User
- โพสต์: 1771
- ผู้ติดตาม: 0
สงสัยเรื่องราคาหุ้นต่ำกว่าพาร์
โพสต์ที่ 5
1.1พอดีผมมองๆไปเจอหุ้นตัวนึงราคาปัจจุบันต่ำกว่าราคาพาร์ อย่างนี้มีความหมายว่าอะไรหรือเปล่าครับ
- มีหลายความหมายครับ 8)
1.2 หมายถึงเราซื้อได้ถูกกว่าเจ้าของหรือเปล่า
- ก็ไม่แน่เสมอไปหรอก
1.3 แล้วอย่างนี้ถือว่า ดีหรือไม่ดี
- ข้อมูลน้อยไป ตอบไม่ได้ครับ
คำถามที่2.1 หุ้นที่ Market Cap น้อยกว่า ส่วนของผู้ถือหุ้น มี นัยสำคัญ อะไรหรือเปล่า
- ก็มีหลายนัยสำคัญครับ
2.2 ดีหรือไม่ดี อย่างไร
-ก็ยังตอบไม่ได้อีกแหละครับ
ส่วนตัวผมมองว่า น่าจะดีนะ เพราะเหมือนว่าถ้าเราควักเงินซื้อหุ้นทั้งหมดแล้ว ก็ยังกำไร เพราะส่วนของผู้ถือหุ้น มากกว่า เงินที่ควักซื้อไป
- BV มีอะไรมากมายให้จาระไนอยู่ครับ :lol: ขอยกตัวอย่าง TPIPL ตั้งแต่วิกฤติ 40 มา ราคาต่ำบุ๊ค(เกือบจะ)ตลอด ปีที่แล้วยังมีคนหลงกลบอกว่าถูกเหลือเกิน บุ๊ค 40 กว่าบาท (ราคาตลาด 20 กว่า) โดนเฮียประชัยแกเพิ่มทุนเท่าครึ่ง (10 บาท กับ 10.15 ) หน้าหงายปีกงอกกันเป็นแถวครับ
ตอนนี้บุ๊ค 25 บาท ราคาตลาด 8 บาท คนยังไม่อยากได้เลยครับ
2.3 จากคำถามที่2 เราสามารถ เอาข้อนี้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจเลือกซื้อหุ้นได้มั้ย
- ตอบตรงๆ ว่าไม่ได้ครับ ข้อมูลน้อยไป
2.4 ถ้าได้ ต้องดูอะไรเพิ่มเติมมั่งครับ
- เยอะครับ
หุ้นต่ำบุ๊คหรือต่ำพาร์ ไม่ได้หมายความว่าถูกครับ แต่ต้องดูที่ว่า กิจการนั้นสามารถสร้างอัตราผลตอบแทนจากการประกอบการได้มากน้อยแค่ไหนเมื่อคิดจากเงินลงทุนที่ใช้ไป
ขอยกตัวอย่าง สวนหนูนรก (N-PARK)
เจ้านี้ตอนกลับมาเทรดใหม่ พาร์ 100 นะครับ ตอนนี้พาร์ 1 ก็ไม่ใช่แตกหุ้น แต่เป็นเพราะเขาลดพาร์
จาก 100 เป็น 25
จาก 25 เป็น 10
จาก10 เป็น 3
จาก 3 เป็น 1
ทั้งกลบส่วนต่ำมูลค่าหุ้นและขาดทุนสะสม
ถ้าเขาลดไปเป็นพาร์ 10 สตางค์ ก็อาจเป็นหุ้นเกินพาร์ได้ระยะนึงครับ :lol:
ขอยกตัวอย่างอุตสาหกรรมพรมไทย (TCMC)
เจ้านี้อยู่ในตลาดมาเกือบ 3 ทศวรรษ ทุกวันนี้ก็ยังต่ำพาร์อยู่เช่นเดิม ซึ่งก็เหมาะสมดีเพราะเขาสร้างอัตราผลตอบแทนจากเงินลงทุนได้ห่วยมาก ชนะเงินเฟ้อได้ก็บุญโขแล้วครับ
ลองดูกระทู้หุ้นต่ำบุ๊คก็ได้ครับ ตอนนี้ถ้าลองอัพเดตดูจะเห็นว่า มีหลายเจ้าเป็นอดีตหุ้นต่ำบุ๊คไปแล้ว(ปัจจุบันเกินบุ๊คเพราะขาดทุนอย่างแรง) หรือไม่ก็กลายเป็นหุ้นไร้บุ๊ค (ล้มละลายแย้ว)
- มีหลายความหมายครับ 8)
1.2 หมายถึงเราซื้อได้ถูกกว่าเจ้าของหรือเปล่า
- ก็ไม่แน่เสมอไปหรอก
1.3 แล้วอย่างนี้ถือว่า ดีหรือไม่ดี
- ข้อมูลน้อยไป ตอบไม่ได้ครับ
คำถามที่2.1 หุ้นที่ Market Cap น้อยกว่า ส่วนของผู้ถือหุ้น มี นัยสำคัญ อะไรหรือเปล่า
- ก็มีหลายนัยสำคัญครับ
2.2 ดีหรือไม่ดี อย่างไร
-ก็ยังตอบไม่ได้อีกแหละครับ
ส่วนตัวผมมองว่า น่าจะดีนะ เพราะเหมือนว่าถ้าเราควักเงินซื้อหุ้นทั้งหมดแล้ว ก็ยังกำไร เพราะส่วนของผู้ถือหุ้น มากกว่า เงินที่ควักซื้อไป
- BV มีอะไรมากมายให้จาระไนอยู่ครับ :lol: ขอยกตัวอย่าง TPIPL ตั้งแต่วิกฤติ 40 มา ราคาต่ำบุ๊ค(เกือบจะ)ตลอด ปีที่แล้วยังมีคนหลงกลบอกว่าถูกเหลือเกิน บุ๊ค 40 กว่าบาท (ราคาตลาด 20 กว่า) โดนเฮียประชัยแกเพิ่มทุนเท่าครึ่ง (10 บาท กับ 10.15 ) หน้าหงายปีกงอกกันเป็นแถวครับ
ตอนนี้บุ๊ค 25 บาท ราคาตลาด 8 บาท คนยังไม่อยากได้เลยครับ
2.3 จากคำถามที่2 เราสามารถ เอาข้อนี้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจเลือกซื้อหุ้นได้มั้ย
- ตอบตรงๆ ว่าไม่ได้ครับ ข้อมูลน้อยไป
2.4 ถ้าได้ ต้องดูอะไรเพิ่มเติมมั่งครับ
- เยอะครับ
หุ้นต่ำบุ๊คหรือต่ำพาร์ ไม่ได้หมายความว่าถูกครับ แต่ต้องดูที่ว่า กิจการนั้นสามารถสร้างอัตราผลตอบแทนจากการประกอบการได้มากน้อยแค่ไหนเมื่อคิดจากเงินลงทุนที่ใช้ไป
ขอยกตัวอย่าง สวนหนูนรก (N-PARK)
เจ้านี้ตอนกลับมาเทรดใหม่ พาร์ 100 นะครับ ตอนนี้พาร์ 1 ก็ไม่ใช่แตกหุ้น แต่เป็นเพราะเขาลดพาร์
จาก 100 เป็น 25
จาก 25 เป็น 10
จาก10 เป็น 3
จาก 3 เป็น 1
ทั้งกลบส่วนต่ำมูลค่าหุ้นและขาดทุนสะสม
ถ้าเขาลดไปเป็นพาร์ 10 สตางค์ ก็อาจเป็นหุ้นเกินพาร์ได้ระยะนึงครับ :lol:
ขอยกตัวอย่างอุตสาหกรรมพรมไทย (TCMC)
เจ้านี้อยู่ในตลาดมาเกือบ 3 ทศวรรษ ทุกวันนี้ก็ยังต่ำพาร์อยู่เช่นเดิม ซึ่งก็เหมาะสมดีเพราะเขาสร้างอัตราผลตอบแทนจากเงินลงทุนได้ห่วยมาก ชนะเงินเฟ้อได้ก็บุญโขแล้วครับ
ลองดูกระทู้หุ้นต่ำบุ๊คก็ได้ครับ ตอนนี้ถ้าลองอัพเดตดูจะเห็นว่า มีหลายเจ้าเป็นอดีตหุ้นต่ำบุ๊คไปแล้ว(ปัจจุบันเกินบุ๊คเพราะขาดทุนอย่างแรง) หรือไม่ก็กลายเป็นหุ้นไร้บุ๊ค (ล้มละลายแย้ว)
Low Profile High Profit
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
- preecha_w
- Verified User
- โพสต์: 94
- ผู้ติดตาม: 0
สงสัยเรื่องราคาหุ้นต่ำกว่าพาร์
โพสต์ที่ 6
ไปกระทู้แนะนำหนังสือดูครับ มีอะไรต้องศึกษาเพิ่มครับ
อ่านให้จบสักเล่มสองเล่มจะเข้าใจขึ้นครับ
วัดสวนแก้วมีหนังสือ อยากอ้วน และอื่นๆ
ถ้าโชคดีจะพบหนังสือดีที่ไม่แพงครับ
ศึกษาและศึกษา เว็บนี้มีบทความดีๆมากมาย ตลุยอ่านเลยครับ
ผมเองก็ต้องศึกษาอีกเยอะ
อ่านให้จบสักเล่มสองเล่มจะเข้าใจขึ้นครับ
วัดสวนแก้วมีหนังสือ อยากอ้วน และอื่นๆ
ถ้าโชคดีจะพบหนังสือดีที่ไม่แพงครับ
ศึกษาและศึกษา เว็บนี้มีบทความดีๆมากมาย ตลุยอ่านเลยครับ
ผมเองก็ต้องศึกษาอีกเยอะ
- newbie_12
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2912
- ผู้ติดตาม: 1
สงสัยเรื่องราคาหุ้นต่ำกว่าพาร์
โพสต์ที่ 7
หุ้นต่ำกว่าพาร์ ส่วนใหญ่ไม่ดี เน้นว่าส่วนใหญ่นะครับ
เพราะอาจจะเกิดจากที่บริษัทดำเนินงานได้ไม่ดี กำไรไม่มี อาจจะขาดทุนมาเรื่อย นักลงทุนยังมองไม่เห็นอนาคต มันก็เลยทำให้ราคาตกต่ำ
แต่ถ้าหุ้นที่กำไรมาเรื่อยๆ อนาคตดีมีการเติบโต แต่ราคาต่ำกว่าพาร์นี่สิ น่าสน เพราะราคาต่ำพาร์ หมายถึงเราลงทุนในมูลค่าที่ถูกกว่าเจ้าของกิจการอีกนะครับ เหมือนที่ดร นิเวศน์บอกซื่อแบงค์ 20 ได้ในราคา 10 บาท
เพราะอาจจะเกิดจากที่บริษัทดำเนินงานได้ไม่ดี กำไรไม่มี อาจจะขาดทุนมาเรื่อย นักลงทุนยังมองไม่เห็นอนาคต มันก็เลยทำให้ราคาตกต่ำ
แต่ถ้าหุ้นที่กำไรมาเรื่อยๆ อนาคตดีมีการเติบโต แต่ราคาต่ำกว่าพาร์นี่สิ น่าสน เพราะราคาต่ำพาร์ หมายถึงเราลงทุนในมูลค่าที่ถูกกว่าเจ้าของกิจการอีกนะครับ เหมือนที่ดร นิเวศน์บอกซื่อแบงค์ 20 ได้ในราคา 10 บาท
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
สงสัยเรื่องราคาหุ้นต่ำกว่าพาร์
โพสต์ที่ 8
เล่าคำว่า PAR ก่อน
คำว่า PAR ตัวนี้ในวงการกอล์ฟ หมายถึง ตีเท่ากับจำนวนครั้งในหลุมนั้น
ถ้าตีน้อยกว่าก็ได้ โบกี อีเกอร์ (-1,-2) ตามลำดับ
ถ้าตีมากกว่า ก็ได้ +1,+2
ถ้าเป็นมือสมัครเล่นเมื่อจบทุกหลุมแล้ว ก็เอาแต้มต่อมาหักลบด้วย
ถึงได้ SCORE รวม
มาเข้าเรื่องหุ้นกัน
PAR หมายถึงราคาหุ้นที่จดทะเบียนไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ถ้าขายเกินกว่าราคาพาร์ หมายความว่า มีส่วนเกินมูลค่าหุ้นไปปรากฏในส่วนของผู้ถือหุ้น
ถ้าขายต่ำกว่าราคาพาร์ หมายความว่า ขายหุ้นได้ต่ำว่าราคาที่จดทะเบียนไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ทำให้ไปปรากฏในส่วนของผู้ถือหุ้น เหมือนกัน
ราคาพาร์นั้นปรากฏในส่วนแรกของราคาผู้ถือหุ้น บอกเพียงแค่ว่า มันมีค่าเท่าไร ที่จดกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า คนละตัวกับทุนเริ่มต้นน่าครับ
เมื่อจบบรรทัดนั้นแล้ว สังเกตว่ามีเส้นสองเส้นแสดงว่า ส่วนที่ตามมานั้นไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว
ราคาพาร์ใช้งานในทางบัญชีเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับงบ มันตายตั้งแต่จดทะเบียนเสร็จกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้วครับ
คำว่า PAR ตัวนี้ในวงการกอล์ฟ หมายถึง ตีเท่ากับจำนวนครั้งในหลุมนั้น
ถ้าตีน้อยกว่าก็ได้ โบกี อีเกอร์ (-1,-2) ตามลำดับ
ถ้าตีมากกว่า ก็ได้ +1,+2
ถ้าเป็นมือสมัครเล่นเมื่อจบทุกหลุมแล้ว ก็เอาแต้มต่อมาหักลบด้วย
ถึงได้ SCORE รวม
มาเข้าเรื่องหุ้นกัน
PAR หมายถึงราคาหุ้นที่จดทะเบียนไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ถ้าขายเกินกว่าราคาพาร์ หมายความว่า มีส่วนเกินมูลค่าหุ้นไปปรากฏในส่วนของผู้ถือหุ้น
ถ้าขายต่ำกว่าราคาพาร์ หมายความว่า ขายหุ้นได้ต่ำว่าราคาที่จดทะเบียนไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ทำให้ไปปรากฏในส่วนของผู้ถือหุ้น เหมือนกัน
ราคาพาร์นั้นปรากฏในส่วนแรกของราคาผู้ถือหุ้น บอกเพียงแค่ว่า มันมีค่าเท่าไร ที่จดกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า คนละตัวกับทุนเริ่มต้นน่าครับ
เมื่อจบบรรทัดนั้นแล้ว สังเกตว่ามีเส้นสองเส้นแสดงว่า ส่วนที่ตามมานั้นไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว
ราคาพาร์ใช้งานในทางบัญชีเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับงบ มันตายตั้งแต่จดทะเบียนเสร็จกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้วครับ
- น้ำครึ่งแก้ว
- Verified User
- โพสต์: 1098
- ผู้ติดตาม: 0
สงสัยเรื่องราคาหุ้นต่ำกว่าพาร์
โพสต์ที่ 9
อืมมม...............ทึ่งกับข้อมูล ความรู้ของคุณ Ryuga มากเลยครับ :lol: :lol:
" ชีวิตไม่เคยขาดความหวาน "
- น้ำครึ่งแก้ว
- Verified User
- โพสต์: 1098
- ผู้ติดตาม: 0
สงสัยเรื่องราคาหุ้นต่ำกว่าพาร์
โพสต์ที่ 10
มาช่วยเพิ่มเติมครับ เพื่อเป็นกรณีตัวอย่างจะได้ไม่ติดกับดัก กับตัวเลขต่างๆมากจนเกินไปครับ
ยก กรณีที่คุณ ryuga ยกมาแล้วกันนะครับ
แล้วราคาก็ค่อยๆไถล ลงมาจาก 30 กว่าบาท มาเป็น 10 บาทนิดๆ ตอนก่อนประกาศเพิ่มทุนแค่วันเดียว (ซึ่งเป็นราคาที่เกือบจะเท่ากับที่เพิ่มทุนเลย บังเอิญจัง ไม่รู้ใครปล่อยหุ้นออกมาเนอะ ส่วนกลต...........ไม่รู้ไปไหน) แล้วก็มีข่าวนี้ออกมาให้เจ็บช้ำใจ
แต่ปรากฏว่าเงินไม่พอก็เลย เพิ่มทุนได้แค่ 1 เด้งครึ่งเองครับ ตามนี้อะครับ
เพราะรายย่อยประมาณครึ่งหนึ่งไม่เพิ่มทุน เฮียแกเลยเอาไปแจกพี่น้องช่วยกันเพิ่ม (ก็ดี ซื้อถูกไป 15 สตางค์ ) ประมาณ 400 ล้านหุ้น เลยทำให้เงินที่กะจะเพิ่มทุน PP ไม่พอเพราะเอามาเก็บศพรายย่อยนั่นเอง
จบแล้วครับ ขอบคุณครับผม
ปล...ฝากรบกวนคุณ ryuga ด้วยนะครับ
ไม่ทราบว่าหุ้น PP ที่เหลือของเฮียแกจะเอามาเพิ่มทุนได้อีกรึเปล่าครับนี่อ่านอันนี้แล้วยังงง ครับผม
ยก กรณีที่คุณ ryuga ยกมาแล้วกันนะครับ
อันนี้คุณประชัยพยายามย้ำให้นักลงทุนฟังว่า ราคานะถูกมากนะ มาซื้อกันเร็วซื้อแล้วกำไรทันทีนะ ต่ำกว่าบุ๊คตั้งเยอะเลยส่วนตัวผมมองว่า น่าจะดีนะ เพราะเหมือนว่าถ้าเราควักเงินซื้อหุ้นทั้งหมดแล้ว ก็ยังกำไร เพราะส่วนของผู้ถือหุ้น มากกว่า เงินที่ควักซื้อไป
- BV มีอะไรมากมายให้จาระไนอยู่ครับ ขอยกตัวอย่าง TPIPL ตั้งแต่วิกฤติ 40 มา ราคาต่ำบุ๊ค(เกือบจะ)ตลอด ปีที่แล้วยังมีคนหลงกลบอกว่าถูกเหลือเกิน บุ๊ค 40 กว่าบาท (ราคาตลาด 20 กว่า) โดนเฮียประชัยแกเพิ่มทุนเท่าครึ่ง (10 บาท กับ 10.15 ) หน้าหงายปีกงอกกันเป็นแถวครับ
แล้วราคาก็ค่อยๆไถล ลงมาจาก 30 กว่าบาท มาเป็น 10 บาทนิดๆ ตอนก่อนประกาศเพิ่มทุนแค่วันเดียว (ซึ่งเป็นราคาที่เกือบจะเท่ากับที่เพิ่มทุนเลย บังเอิญจัง ไม่รู้ใครปล่อยหุ้นออกมาเนอะ ส่วนกลต...........ไม่รู้ไปไหน) แล้วก็มีข่าวนี้ออกมาให้เจ็บช้ำใจ
จริงๆ พี่แกตั้งใจเพิ่มทุน 2 เด้งหน่อยๆเลยด้วยครับผม กะเอาให้เจ้าหนี้นายแบงค์รวมถึงรายย่อยทั้งหลาย ตายฮ่า! กันเลยที่เดียวบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ขอแจ้งมติที่ประชุมผู้บริหารในฐานะผู้
บริหารแผนของบริษัทฯ ครั้งที่ 6/2549 เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2549 อนุมัติการเสนอขายหุ้น
สามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ดังนี้
1. อนุมัติการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 1 หุ้นสามัญ
เดิมต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ เป็นจำนวน 807,500,000 หุ้น ในราคาเสนอขายหุ้นละ 10 บาท
โดยบริษัทฯ จะทำการปิดสมุดทะเบียนเพื่อสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมใน
วันที่ 18 กรกฎาคม 2549 เวลา 12.00 น. และกำหนดระยะเวลาจองซื้อและชำระเงินค่าหุ้น
ในวันที่ 7 - 11 สิงหาคม 2549
2. อนุมัติการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 857,768,212 หุ้น ให้แก่บุคคลโดย
เฉพาะเจาะจง (ตามรายละเอียดปรากฏตามแบบรายงานการเพิ่มทุนแนบท้าย) ในราคาเสนอ
ขายหุ้นละ 10.15 บาท โดยกำหนดระยะเวลาจองซื้อและชำระเงินค่าหุ้นในวันที่ 21 สิงหาคม
2549 โดยผู้จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนในส่วนนี้จะมีระยะเวลาการห้ามขายหุ้นที่จองซื้อดังกล่าวเป็น
เวลา 2 ปี นับจากวันจองซื้อหุ้น
แต่ปรากฏว่าเงินไม่พอก็เลย เพิ่มทุนได้แค่ 1 เด้งครึ่งเองครับ ตามนี้อะครับ
เพราะรายย่อยประมาณครึ่งหนึ่งไม่เพิ่มทุน เฮียแกเลยเอาไปแจกพี่น้องช่วยกันเพิ่ม (ก็ดี ซื้อถูกไป 15 สตางค์ ) ประมาณ 400 ล้านหุ้น เลยทำให้เงินที่กะจะเพิ่มทุน PP ไม่พอเพราะเอามาเก็บศพรายย่อยนั่นเอง
เรื่องก็เอวังด้วยประการฉะนี้นั่นเอง เป็นตัวอย่างของผู้บริหารที่ดีจริงๆครับ ถึงว่าพี่ๆหลายคนให้ความสำคัญกับ ความโปร่งใสของผู้บริหารพอๆกับตัวกิจการเลยทีเดียว คงเพราะความเสียหายจากความ....ของผู้บริหารนี่สร้างความหายนะได้มากจนพูดไม่ออกเลยทีเดียวครับผมบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ขอรายงานให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ
ไทย ทราบว่า เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2549 บริษัทฯประสบความสำเร็จในการระดมทุนจำนวนรวม
12,175,600,000 บาท โดยเป็นการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน
8,075,000,000 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน 807,500,000 หุ้น ในราคาขายหุ้นละ
10 บาท และโดยการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลโดยเฉพาะเจาะจงจำนวน 4,100,600,000
บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน 404,000,000 หุ้น ในราคาขายหุ้นละ 10.15 บาท
จบแล้วครับ ขอบคุณครับผม
ปล...ฝากรบกวนคุณ ryuga ด้วยนะครับ
ไม่ทราบว่าหุ้น PP ที่เหลือของเฮียแกจะเอามาเพิ่มทุนได้อีกรึเปล่าครับนี่อ่านอันนี้แล้วยังงง ครับผม
:lol: :lol: แฮะๆ หรือว่าไม่ต้องเพิ่มแล้วเพราะตอนนี้เก็บในกระดานถูกกว่าเยอะเลยนะครับ :lol: :lol:ใช้สิทธิจองซื้อหุ้นเป็นจำนวนรวม 243,200,000 หุ้น ตามรายละเอียด ดังนี้
1.นางบุญศรี เลี่ยวไพรัตน์ จำนวน 80,400,000 หุ้น
2.ดร.ประมวล เลี่ยวไพรัตน์ จำนวน 80,400,000 หุ้น
3.นายประหยัด เลี่ยวไพรัตน์ จำนวน 80,400,000 หุ้น
4.นายกิตติ วงศ์จริงตรง จำนวน 1,000,000 หุ้น
5.นางนารา วงศ์จริงตรง จำนวน 1,000,000 หุ้น
รวม จำนวน 243,200,000 หุ้น
ส่วนหุ้นที่ไม่มีผู้ใช้สิทธิจองซื้อจำนวนรวม 614,568,212 หุ้น นั้น บริษัทฯได้ดำเนิน
การตามมติที่ประชุมผู้บริหารในฐานะผู้บริหารแผนของบริษัทฯ ครั้งที่ 6/2549 เมื่อวันที่ 30
มิถุนายน 2549 ซึ่งได้มอบอำนาจให้ฝ่ายจัดการของบริษัทฯ มีอำนาจในการจัดสรรและเสนอขาย
หุ้นส่วนที่เหลือได้ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการตามคำแถลงที่บริษัทฯ ได้ยื่นต่อศาล
ล้มละลายกลางเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2549 และศาลล้มละลายกลางได้ลงบันทึกรับทราบเมื่อวันที่
5 กรกฎาคม 2549 แล้ว โดยเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2549 บริษัทฯ ได้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนส่วน
ที่เหลือจากการเสนอขายให้แก่บุคคลโดยเฉพาะเจาะจงเพิ่มเติม ในราคาหุ้นละ 10.15 บาท โดย
มีกำหนดวันชำระเงินค่าจองซื้อหุ้นในวันที่ 21 สิงหาคม 2549 ให้แก่บุคคลซึ่งแสดงความประสงค์ใน
การจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนส่วนที่เหลือ ดังต่อไปนี้
1. นางอรพิน เลี่ยวไพรัตน์ จำนวน 80,400,000 หุ้น
2. นายภากร เลี่ยวไพรัตน์ จำนวน 80,400,000 หุ้น
รวม จำนวน 160,800,000 หุ้น
ดังนั้น จึงมีผู้จองซื้อหุ้นรวมทั้งสิ้น 7 ท่าน คิดเป็นจำนวนหุ้นรวม 404,000,000 หุ้น
โดยมีหุ้นส่วนที่เหลืออีกจำนวน 453,768,212 หุ้น ซึ่งฝ่ายจัดการของบริษัทฯ จะได้แจ้งให้ที่ประชุม
ผู้บริหารในฐานะผู้บริหารแผนพิจารณาดำเนินการต่อไป
ผู้จองซื้อหุ้นรวม 7 ท่าน ได้ชำระเงินค่าจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนรวม
404,000,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 10.15 บาท เป็นจำนวนเงินรวม 4,100,600,000 บาท
เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2549 เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทำให้การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคล
โดยเฉพาะเจาะจงเป็นไปตามข้อกำหนดของแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ (ซึ่งกำหนดให้บริษัทฯต้อง
ระดมทุนโดยการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลโดยเฉพาะเจาะจงเป็นจำนวนเงินไม่ต่ำกว่า
4,000,000,000 บาท) ส่งผลให้การระดมทุนเพื่อชำระหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯประสบ
ความสำเร็จด้วยดี
" ชีวิตไม่เคยขาดความหวาน "
- Ryuga
- Verified User
- โพสต์: 1771
- ผู้ติดตาม: 0
สงสัยเรื่องราคาหุ้นต่ำกว่าพาร์
โพสต์ที่ 14
ปี 48 TPIPL เขามีหนี้ตามแผนปรับโครงสร้างหนี้อยู่เกือบ 30,000 ล้าน เจ้าหนี้เขายิ่งบีบให้จ่ายภายในปี 50 อาศัยแค่กระแสเงินสดกระจอกงอกง่อยปีละ 3,000-4,000 ล้าน ยังไงก็ใช้หนี้ไม่ทันหรอก ไหนยังควรจะหักไปลงทุนรักษาสถานภาพการประกอบธุรกิจของเขาอีก ตอนนั้นกลิ่นเพิ่มทุนมันโอ่ๆ แล้วครับ ผมก็เดาๆ เอาว่าแกคงเพิ่มทุน แต่จะตอนไหน แบบไหน ยังไง ราคาเท่าไหร่ ย่อมมีแต่เจ้าของเท่านั้นที่รู้เพราะมันเป็นเกมของรายใหญ่ รายย่อยไม่เกี่ยว
พอเฮียแกประกาศเพิ่มทุนชัดเจนแล้วเท่านั้นแหละ แมงเม่าเกลื่อนเลยทีเดียว หากมีต้นทุน 20 บาท แล้วซื้อหุ้นเพิ่มทุนของเฮียแก หากขายไปตอนราคาหุ้นวิ่งขึ้น 15 ก็แค่ได้ทุนคืน หากโชคดีไปขายแถว 17 บาท ก็ได้กำไรมานิดหน่อยภายในระยะเวลาปีกว่าๆ ไม่คุ้มกันเล้ย
ตอนต้นปี 46 เห็นแกกันเงินบริษัทมา 300 กว่าล้านให้บริษัทย่อยซื้อหุ้นคืนเพราะจะเอาไปบริจาค บริจาคบ้าบออะไรก็ไม่รู้ล่ะ ผมก็ไม่อยากรู้หรอกแต่ กลต. สั่งแก้งบ (เหอๆ สะใจ ) ไม่รู้ว่าที่จริงแล้วเป็นแผนการผ่องถ่ายเงินบริษัทไปเข้ากระเป๋าใครอ๊ะป่าว
ทุนจดทะเบียนเกินนิดๆ หน่อยๆ ไม่ต้องสนใจก็ได้ครับ หากแกอยากจะเพิ่มทุนอีกก็คงเอาจนสะใจแบบที่แล้วๆ มานั่นแหละ ยังไงก็เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่แล้ว ใครจะไปค้านมติใหม่ของแก หนี้ก็ลดลงมาเยอะแล้วคิดว่าเพิ่มทุนครั้งต่อไปคงไม่น่าเกลียดเท่าครั้งล่าสุด
ลำพังเวลาที่เฮียแกมาหาเสียงป่าวประกาศว่าเก่งอย่างนั้น มีประสบการณ์การทำงานอย่างนี้เพียงไม่กี่สิบวัน มีหรือจะสู้สิบกว่าปีที่เฮียแกพิสูจน์ตัวเองผ่านการบริหารจัดการบริษัทแกเองในตลาดหลักทรัพย์ได้ ผมฟังลุงประชัยโดเรมอนหาเสียงทีไรเป็นขำทุกครั้ง ยืนยันว่าชอบฟังมากครับ :lol:
พอเฮียแกประกาศเพิ่มทุนชัดเจนแล้วเท่านั้นแหละ แมงเม่าเกลื่อนเลยทีเดียว หากมีต้นทุน 20 บาท แล้วซื้อหุ้นเพิ่มทุนของเฮียแก หากขายไปตอนราคาหุ้นวิ่งขึ้น 15 ก็แค่ได้ทุนคืน หากโชคดีไปขายแถว 17 บาท ก็ได้กำไรมานิดหน่อยภายในระยะเวลาปีกว่าๆ ไม่คุ้มกันเล้ย
ตอนต้นปี 46 เห็นแกกันเงินบริษัทมา 300 กว่าล้านให้บริษัทย่อยซื้อหุ้นคืนเพราะจะเอาไปบริจาค บริจาคบ้าบออะไรก็ไม่รู้ล่ะ ผมก็ไม่อยากรู้หรอกแต่ กลต. สั่งแก้งบ (เหอๆ สะใจ ) ไม่รู้ว่าที่จริงแล้วเป็นแผนการผ่องถ่ายเงินบริษัทไปเข้ากระเป๋าใครอ๊ะป่าว
ทุนจดทะเบียนเกินนิดๆ หน่อยๆ ไม่ต้องสนใจก็ได้ครับ หากแกอยากจะเพิ่มทุนอีกก็คงเอาจนสะใจแบบที่แล้วๆ มานั่นแหละ ยังไงก็เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่แล้ว ใครจะไปค้านมติใหม่ของแก หนี้ก็ลดลงมาเยอะแล้วคิดว่าเพิ่มทุนครั้งต่อไปคงไม่น่าเกลียดเท่าครั้งล่าสุด
ลำพังเวลาที่เฮียแกมาหาเสียงป่าวประกาศว่าเก่งอย่างนั้น มีประสบการณ์การทำงานอย่างนี้เพียงไม่กี่สิบวัน มีหรือจะสู้สิบกว่าปีที่เฮียแกพิสูจน์ตัวเองผ่านการบริหารจัดการบริษัทแกเองในตลาดหลักทรัพย์ได้ ผมฟังลุงประชัยโดเรมอนหาเสียงทีไรเป็นขำทุกครั้ง ยืนยันว่าชอบฟังมากครับ :lol:
Low Profile High Profit
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
- น้ำครึ่งแก้ว
- Verified User
- โพสต์: 1098
- ผู้ติดตาม: 0
สงสัยเรื่องราคาหุ้นต่ำกว่าพาร์
โพสต์ที่ 15
แฮ่ๆๆ..........กลายเป็นประเด็นเรื่อง TPIPL ซะงั้น
แต่ถือซะว่าเป็นตัวอย่างของบริษัทที่มีตัวเลขทางบัญชี น่าสนใจ(ค่า BV PE อะไรก็ต่ำเหลือเกิน ยิ่งถ้าเทียบกับ ปูนใหญ่-ปูนกลาง ยิ่งแล้วใหญ่)
แถมเป็นธุรกิจที่น่าจะดี (ปูนซีเมนต์ ยึดติดกับการก่อสร้างต่างๆทั้ง ภาคอสังหา และโครงการใหญ่ๆของรัฐ แถมต้นทุนสัมปทานถือว่าถูกมากๆ)
สำหรับราคานี้ในความเห็นผมก็เป็นราคาที่ค่อนข้างต่ำ(แต่ไม่รู้จะต่ำไปเหลือ 5-6 บาท เหมือนที่หลายคนคาดรึเปล่าก็ไม่รู้)
แต่อยากให้ระวังๆไว้บ้าง เพราะยังไม่รู้เลยว่ายังมีระเบิดเวลาอีกกี่ลูกที่เฮียเหลียวเลี่ยว แกวางไว้อีกบ้างก็ไม่รู้
เท่าที่เห็นๆก็เรื่อง โรงปูนโรงที่ 4 ที่กำลังรอตัดสินศาลสุดท้ายอยู่(ศาลต้นๆ แพ้มาแล้ว คาดว่าคงตัดสินได้ภายในปี '51 นี้แหละครับ)
ก็น่าจะเป็นจุดสังเกตุไว้บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ อันนั้นก็ 2 พันกว่าล้าน + ดอก
ขอบคุณมากครับผม
ปล.. เข้าใจแล้วว่าที่ ป๋าเหนาะพูดไว้ประมาณว่า ทางการเมืองคุณประชัยเหมือนเด็กอนุบาล นี่คืออะไร :lol:
หรือเป็นเพราะกรรมที่แกก่อไว้กับผู้ถือหุ้นกับเจ้าหนี้รึเปล่าก็ไม่รู้นะ แต่ก็น่าคิดว่ายิ่งแกมาเสียกับการเมืองอย่างนี้
ไม่รู้จะไปเอาคืนกับผู้ถือหุ้นอีกสักเท่าไหร่นะเนี้ย ....... เฮ้อ กรรม
แต่ถือซะว่าเป็นตัวอย่างของบริษัทที่มีตัวเลขทางบัญชี น่าสนใจ(ค่า BV PE อะไรก็ต่ำเหลือเกิน ยิ่งถ้าเทียบกับ ปูนใหญ่-ปูนกลาง ยิ่งแล้วใหญ่)
แถมเป็นธุรกิจที่น่าจะดี (ปูนซีเมนต์ ยึดติดกับการก่อสร้างต่างๆทั้ง ภาคอสังหา และโครงการใหญ่ๆของรัฐ แถมต้นทุนสัมปทานถือว่าถูกมากๆ)
สำหรับราคานี้ในความเห็นผมก็เป็นราคาที่ค่อนข้างต่ำ(แต่ไม่รู้จะต่ำไปเหลือ 5-6 บาท เหมือนที่หลายคนคาดรึเปล่าก็ไม่รู้)
แต่อยากให้ระวังๆไว้บ้าง เพราะยังไม่รู้เลยว่ายังมีระเบิดเวลาอีกกี่ลูกที่เฮียเหลียวเลี่ยว แกวางไว้อีกบ้างก็ไม่รู้
เท่าที่เห็นๆก็เรื่อง โรงปูนโรงที่ 4 ที่กำลังรอตัดสินศาลสุดท้ายอยู่(ศาลต้นๆ แพ้มาแล้ว คาดว่าคงตัดสินได้ภายในปี '51 นี้แหละครับ)
ก็น่าจะเป็นจุดสังเกตุไว้บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ อันนั้นก็ 2 พันกว่าล้าน + ดอก
ขอบคุณมากครับผม
ปล.. เข้าใจแล้วว่าที่ ป๋าเหนาะพูดไว้ประมาณว่า ทางการเมืองคุณประชัยเหมือนเด็กอนุบาล นี่คืออะไร :lol:
หรือเป็นเพราะกรรมที่แกก่อไว้กับผู้ถือหุ้นกับเจ้าหนี้รึเปล่าก็ไม่รู้นะ แต่ก็น่าคิดว่ายิ่งแกมาเสียกับการเมืองอย่างนี้
ไม่รู้จะไปเอาคืนกับผู้ถือหุ้นอีกสักเท่าไหร่นะเนี้ย ....... เฮ้อ กรรม
" ชีวิตไม่เคยขาดความหวาน "
- Ryuga
- Verified User
- โพสต์: 1771
- ผู้ติดตาม: 0
สงสัยเรื่องราคาหุ้นต่ำกว่าพาร์
โพสต์ที่ 16
นั่นซิครับ ผมเห็นลุงประชัยแกมีสีสันดีเลยพาดพิงซะหน่อย 8)
ยังไงก็พอจะเห็นใจอยู่บ้างครับ เห็นนโยบายพรรคลุงเค้านับว่าเปี่ยมไปด้วยจินตนาการอันสูงส่ง ฟังไปก็ชวนให้เคลิ้มๆ ฝันๆ ติดจะฝันเฟื่องเอาการอยู่ เลยไม่ค่อยจะแปลกใจนักครับว่าทำไมลุงแกถึงยอมรับความจริงได้ช้ากว่าบุคคลทั่วไป เงินทองก็ลงทุนไปโข ทั้งเงินตัวเอง ทั้งเงิน TPIPL สุดท้ายก็ไม่ใช่จะได้อะไรเท่าไหร่ นับว่าไม่เฉพาะธุรกิจเท่านั้นที่ลุงประชัยเค้าสร้างอัตราผลตอบแทนทางการลงทุนได้ห่วย เพราะเรื่องการเมืองก็ด้วยเหมือนกัน 8)
ยังไงก็พอจะเห็นใจอยู่บ้างครับ เห็นนโยบายพรรคลุงเค้านับว่าเปี่ยมไปด้วยจินตนาการอันสูงส่ง ฟังไปก็ชวนให้เคลิ้มๆ ฝันๆ ติดจะฝันเฟื่องเอาการอยู่ เลยไม่ค่อยจะแปลกใจนักครับว่าทำไมลุงแกถึงยอมรับความจริงได้ช้ากว่าบุคคลทั่วไป เงินทองก็ลงทุนไปโข ทั้งเงินตัวเอง ทั้งเงิน TPIPL สุดท้ายก็ไม่ใช่จะได้อะไรเท่าไหร่ นับว่าไม่เฉพาะธุรกิจเท่านั้นที่ลุงประชัยเค้าสร้างอัตราผลตอบแทนทางการลงทุนได้ห่วย เพราะเรื่องการเมืองก็ด้วยเหมือนกัน 8)
Low Profile High Profit
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
- น้ำครึ่งแก้ว
- Verified User
- โพสต์: 1098
- ผู้ติดตาม: 0
สงสัยเรื่องราคาหุ้นต่ำกว่าพาร์
โพสต์ที่ 17
ผมว่าที่เฮียแก ego จัดอย่างนี้ คงเป็นเพราะชีวิตแกเจอแต่อะไร
ดีๆมาตลอด(ครอบครัวรวย ตัวเองเรียนเก่ง ทำอะไรก็ที่ 1 ตลอด)
เลยไม่ค่อยยอมรับกับความล้มเหลวซึ่งเป็นองค์ประกอบหนึ่ง
ของสัตว์โลก เลยทำให้แกเลือกจะฟังหรือเข้าใจแต่สิ่งที่แกรู้สึกว่า
เป็น positive อย่างเดียวส่วนอะไรที่เป็นความล้มเหลวผิดหวังนี่แกปิด
ทุกโสตการรับรู้ทั้งหมดทั้งสิ้นเลย
ยิ่งฟังตอนแกออกรายการ เฮียยุทธที่สัมภาษณ์แล้วแซวแกว่า
หมอดูทักว่าแกจะได้เป็นนายก แกก็บอกว่าไม่ได้เชื่อทั้งหมดนะ
แต่เชื่อแค่ 70-80% เอง แถมตอนหาเสียงก็เล่นงานทุกพรรคเลยไม่ว่าพรรคไหน
แกด่าแหลก พรรคนั้นเลวอย่างนั้น พรรคนี้เลวอย่างนี้ สงสัย
แกคิดว่าแกคงตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้มั้งเลยไม่กะเอาญาติกับใครเลย
เมื่อเช้าฟังแกบ่นน้อยใจคนกรุง แถมกัดคนกทมใจร้ายที่ทำให้แกสอบตก
แถมบอกว่าไม่เลือกข้างแล้วอะครับ จะพรรคไหนหรือรัฐมนตรีกระทรวง
ไหนก็ได้แกรับได้หมด(โห....ไม่รู้ตัวอย่างแรง)
เอ้อไปๆมาๆ.............กลายเป็นประเด็นส่วนบุคคลไปซะได้
สงสัยเจ้าของกระทู้จะงง ทำไมคุยไปคุยมา กลายเป็นเรื่อง น้องพอลลีน กับ เฮียโดเรม่อนซะได้ :lol: :lol:
ปล..ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เมื่อวานอ่านข่าว posttaday
วันที่ 25/12 เห็นภรรยาสุดที่ love เฮียแกพูดทำนองว่า
เพราะศาลตัดสินปรับ พอลลีน 6000กว่าล้าน กับจำคุก
เฮียแกทำให้แผนปรับโครงสร้างหนี้มีปัญหา ผู้ให้กู้มีความ
ไม่มั่นใจ และทำให้แผนกู้เงินมาลงทุนมีปัญหา เจ๊พูดกลายๆ
ว่า อาจจำเป็นต้องรบกวนผู้ถือหุ้นอีกครั้ง
ถ้าอ่านมาแล้วตาไม่ฝาด คงต้องร้องโอ้โห....เลยครับพี่ท่าน
แต่คงอย่างที่คุณ ryuga ว่าไว้นะครับผมว่าเพิ่มทุนอย่างไร
ราคาคงไม่ทุเรศไปกว่าครั้งที่ผ่านมาแล้วนะครับ เอ...หรือไม่แน่หว่า :lol:
ขอบคุณครับ
ดีๆมาตลอด(ครอบครัวรวย ตัวเองเรียนเก่ง ทำอะไรก็ที่ 1 ตลอด)
เลยไม่ค่อยยอมรับกับความล้มเหลวซึ่งเป็นองค์ประกอบหนึ่ง
ของสัตว์โลก เลยทำให้แกเลือกจะฟังหรือเข้าใจแต่สิ่งที่แกรู้สึกว่า
เป็น positive อย่างเดียวส่วนอะไรที่เป็นความล้มเหลวผิดหวังนี่แกปิด
ทุกโสตการรับรู้ทั้งหมดทั้งสิ้นเลย
ยิ่งฟังตอนแกออกรายการ เฮียยุทธที่สัมภาษณ์แล้วแซวแกว่า
หมอดูทักว่าแกจะได้เป็นนายก แกก็บอกว่าไม่ได้เชื่อทั้งหมดนะ
แต่เชื่อแค่ 70-80% เอง แถมตอนหาเสียงก็เล่นงานทุกพรรคเลยไม่ว่าพรรคไหน
แกด่าแหลก พรรคนั้นเลวอย่างนั้น พรรคนี้เลวอย่างนี้ สงสัย
แกคิดว่าแกคงตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้มั้งเลยไม่กะเอาญาติกับใครเลย
เมื่อเช้าฟังแกบ่นน้อยใจคนกรุง แถมกัดคนกทมใจร้ายที่ทำให้แกสอบตก
แถมบอกว่าไม่เลือกข้างแล้วอะครับ จะพรรคไหนหรือรัฐมนตรีกระทรวง
ไหนก็ได้แกรับได้หมด(โห....ไม่รู้ตัวอย่างแรง)
เอ้อไปๆมาๆ.............กลายเป็นประเด็นส่วนบุคคลไปซะได้
สงสัยเจ้าของกระทู้จะงง ทำไมคุยไปคุยมา กลายเป็นเรื่อง น้องพอลลีน กับ เฮียโดเรม่อนซะได้ :lol: :lol:
ปล..ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เมื่อวานอ่านข่าว posttaday
วันที่ 25/12 เห็นภรรยาสุดที่ love เฮียแกพูดทำนองว่า
เพราะศาลตัดสินปรับ พอลลีน 6000กว่าล้าน กับจำคุก
เฮียแกทำให้แผนปรับโครงสร้างหนี้มีปัญหา ผู้ให้กู้มีความ
ไม่มั่นใจ และทำให้แผนกู้เงินมาลงทุนมีปัญหา เจ๊พูดกลายๆ
ว่า อาจจำเป็นต้องรบกวนผู้ถือหุ้นอีกครั้ง
ถ้าอ่านมาแล้วตาไม่ฝาด คงต้องร้องโอ้โห....เลยครับพี่ท่าน
แต่คงอย่างที่คุณ ryuga ว่าไว้นะครับผมว่าเพิ่มทุนอย่างไร
ราคาคงไม่ทุเรศไปกว่าครั้งที่ผ่านมาแล้วนะครับ เอ...หรือไม่แน่หว่า :lol:
ขอบคุณครับ
" ชีวิตไม่เคยขาดความหวาน "