บ.ไปรษณีย์ไทยจะเข้าตลาดหลักทรัพย์

[terati20]

การออกเเสตมป์นี่เป็นสัมปทานละเปล่า???

ธุรกิจไปรษณีย์นี่ใครๆก็ทำได้ละเปล่า ??



ผมเชื่อว่าไปรษณีย์ได้เปรียบ ตรงที่มี channel เยอะมากๆ  ลองนับดูเดือนๆผมรับจดหมายไม่ต่ำกว่า 5-6 ฉบับ
เเละ คงต่อยอดไปได้เรื่อยๆ

นี่ถ้า ถือหุ้นไปรษณีย์คง ต้องขอรับเอกสาร ทุกอย่าง เช็ค ทางไปรษณีย์ให้หมด

:lol:  :lol:  :lol:  :lol:

[SEHJU]

ผมเคยอ่านหนังสือพิมพ์ รู้สึกว่าจะเป็นกรุงเทพธุรกิจ (ไม่แน่ใจเท่าไหร่ )เมื่อปีกว่าๆได้ เรื่อง บ.ไปรษณีย์ไทย เพราะตัวเลขในนั้นแสดงถึงตัวเลขเปรียบเทียบรายได้ รายจ่าย กำไร ของ บ.ไปรษณีย์ไทย เปรียบเทียบกับบรรดา บ.เอกชน และเคาเตอร์เซอร์วิสต่างๆ จึงได้ไปคุยกับเพื่อนที่ทำงานที่ไปรษณีย์ แม้ตัวเลขจะมีขนาดน้อยกว่ามาก แต่มาจิ้นของกำไรกับดีกว่ามาก ซึ่งหลังจากขาดทุนมานาน และหลังจากได้ปิดโรงเรียนไปรษณีย์ไทยไปก็ได้กลับมาเปิดอีกครั้งได้สองสามปีแล้ว คือว่าเรียนจบหนึ่งปีเป็นลูกหม้อของไปรษณีย์ไทยเลย คล้ายๆนายร้อยตำรวจยังไงยังงั้น
เพื่อนเล่าให้ฟังว่า ผู้บริหารมีนโยบายที่จะแข่งกับ บ.เอกชน เพราะทางด้านสาขาต่างๆก็มีอยู่ทั่วประเทศพร้อมอยู่แล้ว เพียงแต่เพิ่มบริการเข้าไป เห็นว่าจะมีการขายสินค้าด้วย เรื่องหวยออนไลน์ก็เห็นมีพูดบ้าง และที่สำคัญเราไปเดินห้างก็จะเห็นบูตไปรษณีย์ของ บ.เอกชนนั้น ส่วนหนึ่งก็ยังมาส่งต่อมาที่ไปรษณีย์ไทยอีกทีเพราะไปรษณีย์ทำได้ครบวงจรกว่า
ผมว่าผู้บริหารเก่งมากที่สามารถทำให้บ.ไปรษณีย์ไทยฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง
ติดตามกันต่อไปครับ

[Dech]

เย้ๆๆ

[suwat09]

ต้องยอมรับครับว่าผู้บริหารเค้าเก่ง บริหารจากขาดทุน มาจนกำไรได้
ทั้งๆที่ จำนวนพนักงานของไปรษณีย์ก็เยอะพอสมควร แต่ความได้
เปรียบของไปรษณีย์คือ มีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศ และตอนนี้บริการ
หลายๆ บริการก็ปรับปรุงดีขึ้นมาก เช่น บริการ EMS ส่งถึงเร็วจริงๆ

ถ้าจะเอาเข้าตลาดจริงๆ ผมว่าก็น่าสนใจ เพราะอย่างน้อยเค้าก็ต้องปรับปรุงการบริหารให้ดีกว่าเก่าแน่ๆ .....จะคอยดูครับ

[BHT]

มีหนังสือชี้ชวนหรือยังครับ

[mprandy]

การออกเเสตมป์นี่เป็นสัมปทานละเปล่า???

ธุรกิจไปรษณีย์นี่ใครๆก็ทำได้ละเปล่า ??

แสดมป์ไม่ใช่สัมปทานหรอกครับ เพราะจริง ๆ มันคือดวงตราที่ติดซองจดหมายหรือพัสดุเพื่อแสดงให้ทราบว่าผู้ส่งได้จ่ายค่าบริการจัดส่งสินค้านั้นเรียบร้อยแล้ว

ถ้าจะเปรียบเทียบก็เหมือนกับการที่ใช้เครื่องปั๊มอัตโนมัติบนซองจดหมายแทนแสตมป์ที่บอกค่าส่งเสร็จ, หรือการส่ง EMS ที่ไม่จำเป็นต้องติดแสตมป์ก็ได้ หรือถ้าใครใช้บริการ FedEx, UPS ก็ไม่มี

แต่การออกแสตมป์ได้เปรียบมากในด้าน "การสะสม" เพราะถ้าแสตมป์ถูกทำให้มีคุณค่ามากกว่าเพียงแค่เป็นตัวบอกค่าบริการจัดส่ง ไปรษณีย์ก็จะขายแสตมป์นั้นไปเพื่อสะสม โดยคิดเป็นกำไรเนื้อ ๆ (คือได้รับเงินค่าส่งมาแล้วเป็นรายได้ แต่ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการบริการอะไรเลย สบายแฮ) ไปรษณีย์ทุกแห่งในโลกนี้จึงมีการออกแบบแสตมป์ให้สวยงามและส่งเสริมการสะสมแสตมป์ในวงกว้าง

ส่วนเรื่องธุรกิจไปรษณีย์จริง ๆ แล้วใครก็ทำได้ครับ เมกามี FedEx, UPS มาแข่งกับ USPS หรือเยอรมันมี DHL มาแข่งกับ German Post

แต่การแข่งขันในเมืองไทยเป็นเรื่องยาก เพราะหาคนตั้งกิจการและลงทุน infrastructure ทั้งหลายแหล่ (ทั้งคน เครือข่าย และสาขา) ได้ดีพอ ๆ กับไปรษณีย์ แล้วจะทำกำไรเหมือน ๆ หรือดีกว่าเขาได้ยากมาก กิจการนี้จึงมี barrier of entry สูงมาก ๆ (สูงกว่าการตั้งระบบมือถือ หรือเปิดทีวีใหม่อีกช่องด้วยซ้ำ)

[mprandy]

ส่วนเรื่องธุรกิจไปรษณีย์จริง ๆ แล้วใครก็ทำได้ครับ เมกามี FedEx, UPS มาแข่งกับ USPS หรือเยอรมันมี DHL มาแข่งกับ German Post

โทษทีครับ ลืมตัว จริง ๆ เขาชื่อ Deutsche Post  :oops:

[Dech]

ก้าวใหม่ ก้าวใหญ่ ไปรษณีย์ไทย
http://dcopywriter.wordpress.com/2007/11/25/


เคยเขียนไว้เมื่อปีที่แล้วครับ ใครจะไปดูงบก่อนตาม link ไปเลยครับ

[sunsurn]

เดี๋ยวนี้   มีบางส่วนนึกว่าเป็นแผงให้เช่าพระเครื่อง

[MindTrick]

เป็นลูกค้า มานาน ต้องถือสักหน่อย IPO มาร้อยบาทก็เอา ร้อยหุ้นก็ยังดี  :D

Pay at post บัตรบางอัน ไม่เสียค่าธรรมเนียมด้วยครับ เช่น Citi  8)

[mustang]

เห็นด้วยนะคับ กับการที่ไปรษณีย์ไทยจะเข้าตลาดนะคับ
ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงมาสักระยะหนึ่งแล้วละคับในหลายปีที่ผ่านมา คุ้นๆว่าบุรุษไปรษณีย์ที่มาที่บ้านผมมี PDA ด้วยนะคับ และถ้าเป็นเอกสารลงทะเบียนให้เซ็นรับใน PDA ด้วยอะคับ ว่าแต่ IPO กันเมื่อไหร่หรือคับ

[mustang]

http://video.mthai.com/player.php?id=5M1181189310M0
เอาคลิปโคดสะนาของไปรษณีย์ไทยมาฝากกันครับ

[bbendum]

อันที่จริงไปรษณีย์นี่เป็นสัมปทานนะครับ เอกชนห้ามทำแข่ง แต่ที่ปัจจุบันมีทำกันอยู่คือเสียค่าปรับเอาเพราะค่าปรับมันถูก ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ 50 สตางค์ต่อฉบับมั้ง แต่พวก DHL/FedEx ค่าส่งเป็นร้อยเค้าเลยไม่สนใจค่าปรับ :lol:  :lol:

พี่ mprandy ครับ DHL นี่ก็คือ Deutsche Post หละครับ เพราะ Deutsche Post ถือหุ้นใหญ่อยู่ หรือ TNT ก็คือไปรษณีย์เนเธอร์แลนด์นั่นเอง เพราะถือหุ้นใหญ่อยู่ ส่วน FedEx / UPS นี่ผมไม่มีข้อมูล

ถ้าในเมืองไทยไม่มีใครสู้ไปรษณีย์ไทยได้แน่ครับ แต่ถ้าส่งไปเมืองนอกนี่บริการยังสู้เอกชนไม่ได้แต่ราคาก็ถูกกว่ากันพอสมควร เห็นหลังๆมีบริการรับของถึงบ้านแล้ว ก็พัฒนามาเทียบชั้นกับของเอกชนมากขึ้นครับ เป็นหุ้นอีกตัวที่น่าสนใจมากครับ อย่างที่พี่ๆหลายคนบอกว่าต้องลงทุนสูง และกำไรขึ้นกับจำนวนชิ้นที่ส่งเป็นหลัก เพราะชิ้นแรกๆนี่ส่งขาดทุนครับ ต้องส่งให้ได้เลยจุดคุ้มทุนถึงจะเริ่มมีกำไร

[LEQ]

สนใจตัวนี้มากๆ เหมือนกัน
1 สาขากระจายอยู่ทั่วประเทศ ไม่แน่ใจว่ามากกว่า 7/11 หรือเปล่าแต่มีเยอะและอยู่ในทำเลที่ดีมากด้วย

2 ประชาชนในตจว คุ้นเคยกับไปรษณีย์ไทยครับ ไม่ว่าจะเป็นการส่งของและบริการอื่นๆ เช่น โอนเงิน ซื้อตั๋วรถเดินทาง เห็นคนงานที่บ้านใช้ประจำ  ลองนึกดูว่าประชากรในตจว เป็นกี่% ของทั้งประเทศ

3 ผูกขาดการผลิตสแตมป์และของสะสม เวลาออกรุ่นสะสมทีไร ผมเห็นคนจองกันเยอะมากๆ ที่บ้านก็จองให้ตัวเอง ให้คนในครอบครัว ให้ผู้ใหญ่ รวมทั้งเก็บไว้ให้ลูกหลาน แค่บ้านผมก็ปาเข้าไปหลายชุดเหมือนกัน

แม้คนจะส่ง email เยอะแต่ผมว่า จม ก็ classic ดี

[LEQ]

เคยอ่านเรื่องไปรษณีย์ญี่ปุ่น เขาว่าแข็งแกร่งยิ่งกว่า bank เพื่อนๆ คนไหนพอมีความรู้และสามารถเปรียบเทียบไหมครับ

[mprandy]

พี่ mprandy ครับ DHL นี่ก็คือ Deutsche Post หละครับ เพราะ Deutsche Post ถือหุ้นใหญ่อยู่ หรือ TNT ก็คือไปรษณีย์เนเธอร์แลนด์นั่นเอง เพราะถือหุ้นใหญ่อยู่ ส่วน FedEx / UPS นี่ผมไม่มีข้อมูล

No no no... โทดทีคับที่บอกไม่หมด

DHL (Dalsey, Hillblom and Lynn) เป็นบริษัทที่แข่งกับ Deutsche Post ถูกแล้วครับ แต่แข่งกันในด้าน international shipping เป็นหลัก ... ตอนนี้กลายเป็นบริษัทลูกของ Deutsche Post เพราะเข้ามา take over ประมาณ 5 ปีก่อน  

[bbendum]

DHL (Dalsey, Hillblom and Lynn) เป็นบริษัทที่แข่งกับ Deutsche Post ถูกแล้วครับ แต่แข่งกันในด้าน international shipping เป็นหลัก ... ตอนนี้กลายเป็นบริษัทลูกของ Deutsche Post เพราะเข้ามา take over ประมาณ 5 ปีก่อน  

พอดีเพิ่งเริ่มเข้ามาในวงการนี้เมื่อ 3 ปีก่อนครับ เลยไม่ทราบว่าเดิมเป็นคู่แข่งกัน    

[ลุงทีม]

ในฐานะที่ผมชอบสะสมแสตมป์ เกี่ยวข้องกะแสตมป์มาตั้งแต่เด็ก จนโต

มองแบบนักสะสมแสตมป์...

...ขอบอกว่าถ้าเข้าตลาดจิง ก็น่าสนมากครับ...

ผมว่าผู้บริหารแกหัวการค้านะ เด๋วนี้แสตมป์ออกใหม่เพียบ ปีๆนึงเป็น 10 ชุด
ชุดๆ ชุดละประมาณ 3ล้านดวง  ออกได้ไม่นานก็ขายหมด <คิดเล่นๆว่า 30บาท ต่อชุด ปีๆนึงได้เท่าไหร่ > เพราะนักสะสมแห่กันไปซื้อจองกันหมด<จากแต่ก่อนแค่ 5แสน - 1 ล้านดวง> แต่ละชุดก็สวยทั้งนั้น...อีกหน่อยคงเพิ่มเป็น 5ล้านดวงกระมัง...

แสตมป์เด๋วนี้เกือบทุกชุดก็พิมพ์ในเมืองไทย ประหยัดต้นทุนไปอีก ก็บอสัด TBSP นี่แหละ

ตัวกิจการกมีเอกชน มา็แบ่งสรร เช่าสัมปทาน ไปทำต่อได้อีก

แถมยังมีคลื่นความถี่ บางส่วนที่ให้ สามารถให้เอกชนเช่าไปไปบริหารต่อได้อีก <อันนี้้ไม่แน่ใจว่า เด๋วนี้เค้ายกให้ กสท ไปบริหารแต่ผู้เดียวแล้วหรือไม่>

[MindTrick]

ใครรู้บ้างว่า เจ้าแสตมป์นี่ ทางไปรษณีไทย ให้ TKS หรือ APRINT หรือที่ไหนจัดพิมพ์ครับ  :oops:

[BHT]

สาขากระจายทั่วจริง แต่บางสาขาเดินทางไปลำบากเหมือนกันนะครับ

เซเว่นยังสะดวกกว่า

[ลุงทีม]

TBSP ไทยบริติช เซเคียวริตี้ปริ้นติ้ง บอสัดลูกของ TKS ครับ

คงมีเจ้าเดียวกระมังในเมืองไทย ที่มีความสามารถในการจัดพิมพ์แสตมป์ที่ป้องกันการปลอมแปลงได้

พวกสมุด passport ก็ด้วย

[MindTrick]

กำเลย บอร์ด ลาออก ไม่รู้ คนที่ปั้นมาจนพริ้วในขณะนี้ ลาออกไปด้วยไหม ใครทราบบ้างครับ

xMGD> บอร์ดทีโอทีแถลงผลงาน ยกทีมลาออกเว้นนที-สุภา
    26 ก.พ.--ผู้จัดการรายวัน
แหล่งข่าวจากบริษัท ทีโอที กล่าวว่าขณะ
นี้ผู้บริหารและพนักงานทีโอทีส่วนใหญ่กำลังสงสัยพฤติกรรมบอร์ดทีโอทีที่กอด
เก้าอี้แน่นไม่ยอมลาออกทั้งๆ ที่นายมั่น พัธโนทัย รมว. เทคโนโลยีสารสนเทศและ
การสื่อสาร (ไอซีที) ได้ให้สัมภาษณ์ชัดเจนว่า หากบอร์ดทีโอทีที่เหลือ 10 คน
แสดงสปิริตลาออกตาม พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ประธานบอร์ด และม.ล.อนุพร เกษมสันต์
กับนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย กรรมการบอร์ดทีโอที ที่ลาออกตั้งแต่วันที่ 22 ก
.พ.ที่ผ่านมา ภายในสัปดาห์หน้า ก็สามารถแต่งตั้งบอร์ดชุดใหม่เข้ามากำกับดูแลที
โอทีได้ เนื่องจากบอร์ดของหน่วยงานภายใต้สังกัดของไอซีที ได้ลาออกหมดแล้ว
เพื่อเปิดทางให้รมว.ไอซีที แต่งตั้งบอร์ดชุดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นบอร์ดของบริษัท
กสท โทรคมนาคม ที่ลาออกตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา กับบอร์ดบริษัท ไปรษณีย์
ไทย ที่ลาออกเมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา
สำหรับบอร์ดทีโอทีที่เหลืออยู่ 10 คน
ประกอบด้วย พล.ต.อ.ชาญชิต เพียรเลิศ พล.อ.สุเจตน์ วัฒนสุข นางสาวสุภา ปิยะจิตติ
พ.อ.นที ศุกลรัตน์ นายชิต เหล่าวัฒนา พ.อ.รัตนพันธุ์ โรจนะภิรมย์ นายวีรพล
ปานะบุตร นายจาดุร อภิชาตบุตร นายวรพัฒน์ ทิวถนอมและนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์

พนักงานสงสัยว่า คงมีผลประโยชน์ซ่อนเร้นอีกมาก จนทำให้บอร์ดที่เหลือไม่ยอมลา
ออกซะที ทั้งๆที่รมว.ไอซีทีทวงถามสปิริต
กรรมการบอร์ดทีโอทีรายหนึ่งกล่าวว่า
บอร์ดบางคนมีความต้องการลาออกพร้อมพล.อ.สพรั่ง แต่ถูกร้องขอให้ทำงานต่อ ซึ่ง
เห็นว่าการลาออกเป็นสิทธิส่วนบุคคล โดยช่วงเย็นวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมาได้มี
การหารือระหว่างนายชิต เหล่าวัฒนา กับพล.ต.อ.ชาญชิต เพียรเลิศ ซึ่งมีความเห็น
ตรงกันว่าภายหลังการแถลงผลงานของบอร์ดทีโอทีในช่วงเวลา 14.00 น.วันนี้ (27ก.พ.)
ก็จะลาออกจากการเป็นบอร์ดทันที และคาดว่าจะมีบอร์ดอีกบางส่วนลาออกพร้อมกัน

เท่าที่ได้ยินตอนนี้ บอร์ดที่เหลือจะลาออกทั้งหมด ยกเว้น พ.อ.นที ศุกลรัตน์
กับนางสาวสุภา ปิยะจิตติเท่านั้น ที่ยังไม่แสดงท่าทีชัดเจนในขณะนี้ แหล่ง
ข่าวกล่าว
ทั้งนี้ในส่วนของบอร์ดที่อยากลาออก เนื่องจากเห็นว่าเป็นธรรมเนียม
ปฏิบัติและมารยาทที่ดีเมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาล และมี รมว.ไอซีทีคนใหม่ ก็ควร
เปิดโอกาสให้ รมว.ไอซีที แต่งตั้งกรรมการบอร์ดที่ไว้ใจและสามารถทำงานร่วมกันได้
อีกทั้งเห็นว่าหากรมว.ไอซีที ต้องการให้อยู่ทำงานต่อก็สามารถแต่งตั้งเข้ามา
ใหม่ได้ การดันทุรังอยู่เป็นบอร์ดต่อทำให้ถูกมองได้ว่าต้องการตักตวงผลประโยชน์
จากองค์กรแห่งนี้
นอกจากนี้บอร์ดที่ต้องการลาออกยังพบว่า มีการยัดไส้วาระ
พิจารณาโครงการต่างๆมากมายในการประชุมบอร์ดครั้งที่ผ่านมาทั้งๆที่ได้มีการตกลง
กันล่วงหน้าแล้วว่าจะพิจารณาเรื่องผลงานบอร์ดที่จะชี้แจงเท่านั้น โดยเฉพาะมี
การสอดไส้เรื่องโครงการศูนย์ราชการของบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ เข้ามา
โดยต้องการยืมมือบอร์ดให้ล้มผลประมูล เดิมที่คัดเลือกได้บริษัท ทีทีไอ ที่เสนอ
อุปกรณ์ทรีคอม และต้องการให้บอร์ดแก้สเปกเพื่อเอื้อประโยชน์ให้เวนเดอร์ บางราย
โดยอ้างว่าเป็นความต้องการของผู้ใช้ในศูนย์ราชการที่ต้องการอุปกรณ์ซิสโก้
ทีโอ
ทีไม่เคยเสนอผลการประมูลให้บอร์ดรับรู้แต่กลับเสนอให้ล้มประมูลแล้วแก้สเปก
ซึ่งโครงการนี้นายกิตติพงศ์ เตมียะประดิษฐ์ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่เคยเส
นอให้พ.อ.นที มาเป็นผู้จัดการโครงการด้วยซ้ำ แสดงให้เห็นถึงการเชื่อมโยง
ระหว่างกันได้ดี
แหล่งข่าวกล่าวว่า ประเด็นที่ทำให้พ.อ.นทีและนางสาวสุภา ยัง
ไม่อยากแสดงท่าทีชัดเจนว่าจะลาออกหรือไม่ อาจเป็นเพราะสิ่งที่ พล.อ.สพรั่ง
กัลยาณมิตร ฝากให้ดำเนินการต่อเนื่องเช่น แผนพลิกฟื้นธุรกิจ โครงการเทเลคอมพู
ลที่เซ็นเอ็มโอยูกับ เอไอเอส และ โครงการโทรศัพท์มือถือ 3 จี รวมทั้งโครงการลง
ทุนโครงสร้างพื้นฐานการขยายโครงสร้างบรอดแบนด์ไอพี อินเทอร์เน็ต ที่เพิ่งได้
รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ
สภาพัฒน์ วงเงิน4,765 ล้านบาท เมื่อต้นเดือนก.พ.ที่ผ่านมา เนื่องจากในขณะนี้
รู้แล้วว่าเวนเดอร์ที่จะได้โครงการนี้ไปเป็นใคร ที่เหลือเป็นแค่กระบวนการและ
ขั้นตอนในทีโอที ที่มีการวางคนและผู้บริหารไว้ล่วงหน้าให้ทำงานรองรับผลสำเร็จ
ของงานนี้แล้ว
ประเมินคร่าวๆโครงการเหล่านี้รวมกันมากกว่าหมื่นล้านบาท มากจนทำ
ให้บอร์ดบางคนกอดเก้าอี้แน่น และพยายามวิ่งเต้นทุกทางเพื่อให้ตัวเองเป็นบอร์ด
ต่อไป
ด้านนายชิต เหล่าวัฒนา กรรมการบอร์ดทีโอทีกล่าวว่า หลังการแถลงผลงาน
บอร์ดแล้วจะลาออกทันที และมั่นใจว่ารมว.ไอซีที สามารถแต่งตั้งบอร์ดชุดใหม่
เพื่อมากำกับดูแลทีโอทีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
--จบ--
www.manager.co.th

[kookku02]

เดี๋ยวนี้บริการ EMS นั้นเร็วมาก ผมเพิ่งให้ภรรยาส่งของจากเมืองไทย มาญี่ปุ่นใช้เวลาแค่ 4 วันเอง (เนี่ยถ้าไม่นับเวลาที่ของต้องรอ unpack ที่ด่านตรวจสินค้าของญี่ปุ่น และทำการ pack คงจะได้เร็วกว่านี้) และวันเสาร์นั้น ไปรษณีย์เปิดครึ่งวันนั้นคนเยอะมาก ส่วนใหญ่มาส่งพัสดุ กับซื้อธนาณัติ
ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีจะก้าวไกลเพียงใดมี e-mail แต่เราก็ไม่สามารถส่งสินค้าผ่านสายโทรศัพท์หรือใยแก้วนำแสงได้นะครับ เป็นกิจการที่น่าสนใจมาก
มีใครรู้บ้างครับว่าจะไอพีโอ เมื่อไร และหาหนังสือชี้ชวนได้ที่ไหนครับ

[กระโจมไฟ]

ข่าวล่าสุด ไปรษณีย์ไทยยังไม่มีแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์ในช่วงนี้
คงต้องร้องเพลงรอกันไปก่อนครับ
ข่าวจาก "ผู้จัดการ"

ไปรษณีย์ไทยพร้อมลุยธุรกิจลอจิสติกส์

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 17 มีนาคม 2551 10:55 น.


      ไปรษณีย์ไทยรับสนใจลงทุนธุรกิจลอจิสติกส์หรือธุรกิจส่งสินค้าทางบก น้ำ และอากาศ หวังสร้างรายได้มั่นคงระยะยาว เผยขณะนี้อยู่ระหว่างวางแผน คาดแล้วเสร็จภายในปีนี้ เริ่มนำร่องทางบกก่อนด้วยการจับมือกรมส่งออกเพื่อทดสอบสินค้าอุตสาหกรรม ประเดิมเส้นทางอีสานสายแรกเพราะเป็นเส้นที่มีเที่ยวรถขนส่งของจำนวนมาก ออมสินรับยังไม่มีแผนขายหุ้นเพราะรายได้ยังไม่มั่นคง
     
      นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด หรือ ปณท เปิดเผยว่าบริษัทมีแผนแผนการลงทุนทำธุรกิจลอจิสติกส์ขนาดใหญ่ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างดำเนินการศึกษาเกี่ยวกับแนวทางการทำธุรกิจ ความเป็นได้ และเงินลงทุน โดยคาดว่าแผนการลงทุนลอจิสติกส์จะแล้วเสร็จภายในปีนี้ และจะใช้เงินลงทุนจำนวนหลายพันล้านบาท ทั้งนี้ในส่วนของการให้บริการลอจิสติกส์นั้น บริษัทจะเริ่มเปิดโครงการนำร่องการให้บริการโดยร่วมมือกับพันธมิตร ซึ่งทางปณทได้ร่วมลงนามความร่วมมือ (เอ็มโอยู) กับทางกรมส่งเสริมการส่งออกแล้วเมื่อวันที่ 15 มี.ค. เพื่อทดลองรับส่งสินค้าในภาคอุตสาหกรรมและเกษตรในจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือในระยะแรก
     
      อย่างไรก็ดีการที่ปณทเริ่มให้บริการขนส่งสินค้าในภาคอีสานเป็นที่แรก เนื่องจากมีเที่ยวรถขนส่งของและมีระวางว่างเที่ยวกลับจำนวนมาก หากสามารถบริหารงานและรับส่งสินค้าเพิ่มจะเป็นการสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับธุรกิจ รวมทั้งในอนาคตทางปณทจะสร้างโครงข่ายการขนส่งสินค้าให้ครบทุกภาค เนื่องจากบริษัทมีศูนย์ไปรษณีย์ภูมิภาคครอบคลุมทั่วประเทศใน 11 จังหวัด และในปีนี้จะเปิดเพิ่มอีก 2 ศูนย์ ที่พังงา และพิษณุโลก ซึ่งเชื่อว่าจะรองรับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก
     
      ส่วนในเรื่องของจำนวนรถขนส่งสินค้าแบบ Door to Door ปณท.อาจว่าจ้างบริษัทอื่นแทนการลงทุนซื้อรถใหม่เพื่อประหยัดงบลงทุน ซึ่งในการดำเนินธุรกิจดังกล่าว ปณทจะเน้นคุณภาพการขนส่งสินค้า และความปลอดภัยโดยความสำคัญกับการวางระบบด้านไอที และการวางระบบการจัดการที่ดี
     
      นายออมสิน กล่าวต่อไปว่า สภาวะเศรษฐกิจปีนี้จะไม่ส่งผลกระทบกับรายได้ของบริษัทมากนัก ซึ่งคาดว่ารายได้ในปีนี้จะเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 6-7 % และผลกำไรก็น่าจะปรับตัวดีขึ้น และมีกำไรก่อนหลักภาษีทีประมาณ 2,800 ล้านบาท และมีรายได้มากกว่า 14,000 ล้านบาท
     
      ส่วนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยขณะนี้ทางบริษัทยังไม่มีแผนใดๆ เนื่องจากสถานการณ์การเงินของบริษัทยังมั่นคง โดยมีรายได้ และผลกำไรที่เพิ่มขึ้นทุกปี หลังจากที่มีการแปรรูปมาเป็นบริษัทจำกัด      
      "ไม่จำเป็นต้องมีการระดมทุน เพราะบริษัทไม่มีแผนธุรกิจขนาดใหญ่ในปีนี้จึงไม่จำเป็นต้องใช้เงิน แต่หากต้องใช้เงินลงทุนมากก็จะเข้าตลาดฯ มั่นใจว่า บริษัทจะประสบความสำเร็จ ส่วนแผนการที่จะนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ของปณท คาดว่าอาจจะเป็นช่วงปลายปี 2552 หรือ ต้นปี 2553 เนื่องจากทางบริษัทอยู่ระหว่างการวางแผนดำเนินธุรกิจด้านลอจิสติกส์ครบวงจร ซึ่งถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ และต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง"
   :roll:    

[MindTrick]

^
^
ตกลง จะเอาไงคับทรั่นนน คนเขียนข่าวเดา ฟรือ ท่านโดรหบอกถามจนหลุด..

ตอนนี้ ในปณ. กล่องขึ้นราคากันเป็น 20-30%  มาร์จิ้นเกินร้อย % แน่ๆ

ขายแต่กล่อง กับแสตมป์ ผมก็ซื้อหุ้นละคับพี่น้อง :lol:

[tummeng]

ข่าวล่าสุด น่าจะรอกันต่อไป
********
ไปรษณีย์ไทยเตรียมหารือ'รองนายกฯ สุวิทย์' ใน 2 - 3 สัปดาห์นี้
ถกแผนความพร้อมเข้าตลาดหุ้น ระบุอาจยังไม่เห็นปีนี้

นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.)
เปิดเผยว่า ภายใน2-3 สัปดาห์นี้จะนำแผนโครงสร้างและความพร้อมของบริษัทฯที่จะนำเข้าจด
ทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ไปหารือกับนายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายก
รัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ตามที่เคยได้มอบนโยบายไว้ก่อนหน้านี้ว่าต้อง
การให้บริษัทไปรษณีย์ไทยเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งหากพิจารณาถึงผล
ประกอบการที่ผ่านมาของบริษัทแล้วก็ถือว่ามีความพร้อมในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังคงต้องมีการปรับ
ปรุงโครงสร้างในบางส่วนบ้าง ดังนั้นในปีนี้จึงไม่ใช่จังหวะที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ

' เชื่อว่าหากปณท.ต้องเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯจริงพนักงานของบริษัทก็น่า
จะเข้าใจและให้การสนับสนุนเพราะเป็นเรื่องที่ก่อให้เกิดประโยชน์และบริษัทฯจะนำเงินที่ได้จาก
การระดมทุนมาใช้ในการขยายธุรกิจ โดยจะลงทุนพัฒนาระบบโลจิสติกส์แบบขนาดใหญ่ ซึ่งต้อง
ใช้เงินลงทุนระดับแสนล้านบาท ขณะที่บริษัทฯมีกระแสเงินสดขณะนี้อยู่เพียง 3-4 พันล้านบาท
เท่านั้น' นายออมสิน กล่าว

อย่างไรก็ดี มั่นใจว่าธุรกิจของบริษัทฯจะมีการเติบโตในทิศทางที่ดีขึ้น และคาดว่าจะมี
กำไรสุทธิอยู่ที่ 1,575 ล้านบาท

ที่มา อีไฟแนนซ์ไทย     วันที่   01/04/08   เวลา   11:27:36

[Eka]

ปณท โชว์กำไรปีก่อนโต 130 %

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 1 เมษายน 2551 10:27 น.


      ปณทเผยรายได้ปีที่ผ่านมา 16,625 ล้านบาท โตจากปีก่อน 13% กำไรสุทธิพุ่ง 1,700 ล้านบาท 130% รายได้หลักยังมาจากธุรกิจสื่อสาร ประมาณการรายได้ปีนี้ไม่ต่าสงจากปีก่อน ส่วนเดือนม.ค.ทำรายได้เกินเป้า 142 ล้านบาท
     
      นายออมสิน ชีวะพฤกษ์  กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย (ปณท) เปิดเผยว่า ในปี 2550 ไปรษณีย์ไทยมีรายได้จากการดำเนินงาน 16,625 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,960 ล้านบาท หรือ 13% มีค่าใช้จ่ายรวม 14,840 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 952 ล้านบาท หรือ 6.9% โดยมีกำไรสุทธิประมาณ 1,700 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 130% จากปีที่ผ่านมามีกำไรสุทธิที่ 1,007 ล้านบาท ซึ่งรายได้หลักยังคงมาจากกลุ่มธุรกิจสื่อสาร 77% ตามด้วยธุรกิจขนส่ง 8% ธุรกิจค้าปลีก 7% และธุรกิจการเงิน 6%
     
      ปี 2551 ปณท ประมาณการรายได้อยู่ที่ 16,300 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาเนื่องจากปีที่แล้ว ปณท มีรายได้เพิ่มจำนวน 858 ล้านบาทจาก บริษัท กสท โทรคมนาคม ค่าปฏิบัติงานโทรเลข อีกทั้งยังมีรายได้จากการขนส่งบัตรเลือกตั้ง ส.ส.จำนวน 111 ล้านบาท ทำให้มีรายได้สูงกว่าประมาณการไป 585 ล้านบาท
     
      สำหรับผลการดำเนินงานในเดือน ม.ค.ปีนี้ ปณท มีรายได้ 1,400 ล้านบาทสูงกว่าประมาณการ 142 ล้านบาท หรือ 11% ขณะที่รายจ่าย 970 ล้านบาทต่ำกว่าประมาณการ 57 ล้านบาท ทำให้มีกำไรสุทธิ 290 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการที่ตั้งไว้ 146 ล้านบาท ส่วนรายได้ ปณท จนถึงเดือน ก.พ.ปีนี้รวมทั้งสิ้น 2,750 ล้านบาทสูงกว่าเป้าหมาย 50 ล้านบาท
     
      ส่วนผลกระทบจากราคาน้ำมัน หากน้ำมันในตลาดโลกพุ่งสูงถึง 110 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลจะทำให้ไปรษณีย์ไทยมีรายจ่ายเพิ่มขึ้น 75-100 ล้านบาท ไปรษณีย์ไทยจึงมีนโยบายถือครองเงินสกุลดอลลาร์เท่าที่จำเป็น และมีการเฝ้าติดตามอัตราแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิด โดยปัจจุบัน ปณท ยังไม่มีปัญหาการขาดทุนจากการขาดทุนจากการปริวรรตเงินตรา เพราะด้านรับมีน้อยกว่าด้านจ่าย

[RONNAPUM]

ไปรษณีย์ไทย ต้องไปแบบเซเว่นฯ


--------------------------------------------------------------------------------
จิรเดช โอภาสพันธ์วงศ์
Positioning Magazine   มิถุนายน 2551

หลังจากที่ปิดฉากโทรเลขไปเมื่อเร็วๆ นี้ ไปรษณีย์ไทยก็ขยับตัวครั้งสำคัญกับการเปิดตัว ร้านไปรษณีย์ไทย ร้านแฟรนไชส์ของไปรษณีย์ไทย ที่ ออมสิน ชีวะพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทไปรษณีย์ไทย บอกถึงความฝันว่าอยากจะให้มีอยู่ทั่วประเทศเหมือนเซเว่น เอเลฟเว่น

ออมสิน บอกว่า การที่เปิด ร้านไปรษณีย์ไทย เพราะว่าที่ผ่านมามีผู้โทรมาร้องเรียนเกี่ยวกับความผิดพลาดของร้านที่เป็นแหล่งรับไปรษณียภัณฑ์จากผู้ใช้บริการแล้วมาส่งต่อให้ไปรษณีย์อีกที ซึ่งขาดมาตรฐาน ทำให้ไปรษณีย์ไทยไม่สามารถไปควบคุมได้

ร้านที่เข้าเป็นแฟรนไชส์ไปรษณีย์ไทย จะได้รับการวางระบบทุกอย่างจากไปรษณีย์ไทย ตั้งแต่วางระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อเชื่อมต่อกับศูนย์ไปรษณีย์ ซึ่งจะให้บริการลูกค้าได้ในทุกบริการแบบเดียวกับที่ทำการไปรษณีย์ ไม่ว่าจะเป็น การส่งธนาณัติออนไลน์ Pay At Post หรือการส่ง EMS ซึ่งไปรษณีย์ไทยจะส่งคนไปรับถึงที่ร้าน ระยะเวลาในการให้บริการไม่ล้าช้าไปกว่าไปรษณีย์ไทยให้บริการเอง

สำหรับ ร้านไปรษณีย์ไทย 2 แห่งแรกที่จะเปิดอย่างเป็นทางการคือที่บางแคและห้วยขวาง โดยในขณะนี้มีผู้ได้รับอนุญาตแล้วถึง 27 ราย ซึ่งถือว่าทะลุเป้าที่ตั้งไว้เพียง 20 แห่งภายในปีนี้

จำนวนสาขาเป็นเรื่องรอง เรื่องหลักคือคุณภาพและประสิทธิภาพ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย บอก และว่ากลยุทธ์นี้จะทำให้ไปรษณีย์ไทยมี Outlet เพิ่มขึ้น เปรียบเสมือนเป็นแขนขาให้กับไปรษณีย์ กลยุทธ์นี้จะทำให้สามารถขยายพื้นที่ไปในบริเวณที่เราเข้าไม่ถึง ที่บางที่ทางไปรษณีย์ไม่สามารถเข้าไปตั้งเองได้เพราะค่าที่แพง ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะคุ้มทุน แต่ผู้ประกอบการจะมีที่อยู่แล้ว

ด้าน ธิติมา ยุราวรรณ เจ้าของ ร้านไปรษณีย์ไทย บางแค เล่าว่า เดิมตนทำร้านรวบรวมมาก่อน และเมื่อได้ข่าวว่าไปรษณีย์จะมีการขายแฟรนไชส์ก็ติดตามมาตลอดและเมื่อมีการเปิดรับสมัครจึงไปติดต่อ สำหรับเงินลงทุนนั้นใช้ไปประมาณ 6-7 แสน แบ่งเป็นค่าแฟรนไชส์ 250,000 บาท รายปี 20,000 บาท ค่าระบบ 175,000 บาท และค่าตกแต่งร้าน 250,000 บาท

ธิติมา บอกว่า สาเหตุที่เปิดร้านไปรษณีย์ไทยเพราะคิดว่ามีความมั่นคง เพราะไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจจะแย่เพียงใดแต่คนก็ยังต้องใช้บริการ แถวนี้มีร้านรวบรวมเปิดขึ้นเป็นดอกเห็ด ถ้าเราเปิดร้านในลักษณะนี้น่าจะดึงคนเข้ามาเพิ่มขึ้น ได้เรื่องของ Brand และความน่าเชื่อถือ ถึงแม้ว่ากำไรต่อชิ้นอาจลดลงบ้างแต่จะได้ในส่วนของปริมาณ

นี่ถือว่าเป็นย่างก้าวสำคัญของไปรษณีย์ไทยหลังการปิดตัวของโทรเลข และออมสินก็หวังไว้มากกับก้าวย่างนี้

หวังว่าร้านไปรษณีย์ไทยจะสร้างรายได้ให้ไปรษณีย์ไทยเท่าไหร่ มีคนถาม ออมสินได้แต่ยิ้มพร้อมยกนิ้วโป้ง แม้จะไม่มีคำตอบออกจากปากของออมสิน แต่จากท่าทีก็รู้ว่าเขาค่อนข้างมั่นใจ

http://www.positioningmag.com/magazine/ ... ,strategic

[adam]

ไม่ยักกะมีใครพูดถึง การขายไปรษณียบัตรชิงบอลยูโร บอลโลก เลยแฮะ
ช่วงนี้กำลังฮอตซะด้วย ทุกๆ 2 ปี พี่ปณทเค้ารับทรัพย์เละเหมือนกัน
เมื่อก่อนใบละบาท เพิ่มเป็น 1.5 ตอนนี้ 2 บาทแล้ว
แล้วผมก็เป็นลูกค้าเค้าตลอดด้วยซิ (ปีนี้ใส่สเปนไป ขำขำ 10 ใบ)

ไทยรัฐจ่าย ปณทรับ สบายแฮ
เพี้ยง รวย 10 ล้าน

[RONNAPUM]

นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด นำทีมคณะผู้บริหาร แสดงความยินดีกับการเปิดร้านไปรษณีย์ไทย พร้อมกันภายในวันเดียวทั้ง 3 สาขา ได้แก่ ร้านไปรษณีย์ไทย โรบินสัน รัชดา (สามเสนใน) , ร้านไปรษณีย์ไทย   เพชรเกษม 69 (ภาษีเจริญ) และร้านไปรษณีย์ไทย บิ๊กซี บางใหญ่ (บางใหญ่)  เพื่ออำนวยความสะดวกผู้ใช้บริการทุกพื้นที่ได้ดียิ่งขึ้น เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

http://www.newswit.com/news/2008-07-03/ ... ed6c1da23/