นิยามของ VI ครับ
- ก้อนหิน
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2344
- ผู้ติดตาม: 0
นิยามของ VI ครับ
โพสต์ที่ 1
ช่วงนี้ เีริ่มได้ยินบ่อยๆว่าคนนั้นไม่ใช่ VI คนนี้ไม่ใช่ VI แต่พอถกเถียงกันเข้าไป เหมือนจะคุยกันคนละเรื่องเลยว่า VI ที่แท้จริงมันเป็นยังไงเหรอครับ
อย่าง Benjamin Graham เค้าเน้น Quantitative Analysis เป็นหลักเลย คนก็ยกย่องเค้าเป็น บิดาของ Value Investing ด้วยซ้ำ
หรืออย่าง Peter Lynch เค้าก็แบ่งบริษัท เป้นหก ประเภท แล้วก็จัดสรรการลงทุนใน บริษัท เหล่านั้น โดยให้ Time Frame ต่่างๆกันในแต่ละประเภท ของบริษัท
ส่วน Warren Buffet ที่มีคนพูดถึงมากมาย ก็จะเน้นไปทางลงทุนในบริษัทที่ยอดเยี่ยม ในราคาที่เหมาะสม
ผมเลยอยากรู้ว่า โดยส่วนใหญ่ แต่ละคน นิยาม คำว่า VI ไว้ยังไงบ้างครับ น่าจะเป็นการดี ก่อนที่จะมาเถียงกันว่า ใคร VI หรือไม่ VI
อย่าง Benjamin Graham เค้าเน้น Quantitative Analysis เป็นหลักเลย คนก็ยกย่องเค้าเป็น บิดาของ Value Investing ด้วยซ้ำ
หรืออย่าง Peter Lynch เค้าก็แบ่งบริษัท เป้นหก ประเภท แล้วก็จัดสรรการลงทุนใน บริษัท เหล่านั้น โดยให้ Time Frame ต่่างๆกันในแต่ละประเภท ของบริษัท
ส่วน Warren Buffet ที่มีคนพูดถึงมากมาย ก็จะเน้นไปทางลงทุนในบริษัทที่ยอดเยี่ยม ในราคาที่เหมาะสม
ผมเลยอยากรู้ว่า โดยส่วนใหญ่ แต่ละคน นิยาม คำว่า VI ไว้ยังไงบ้างครับ น่าจะเป็นการดี ก่อนที่จะมาเถียงกันว่า ใคร VI หรือไม่ VI
- dino
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1286
- ผู้ติดตาม: 1
นิยามของ VI ครับ
โพสต์ที่ 3
แหะ แหะ ผมว่า คำว่า VI (value investor) ไม่ได้เป็นจากการอยู่ใน web ที่มีชื่อ(ตั้งกันเอง)ว่า VI นะครับ
คงจะต้องดูจากแนวคิดและพฤติกรรมการกระทำว่าเป็น"นักลงทุนเน้นคุณค่า"หรือไม่
แนวคิดปู่บัฟเฟต
1 หาธุรกิจที่ดีมีอนาคตดี
2 มีกำไรต่อเนื่อง(ไปในอนาคต)
3 แล้วค่อยซื้อในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่า(คุณค่า)ที่แท้จริง(ยิ่งมากยิ่งดี)
4 ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ(ไม่โกงและเก่ง)
5 ถือมันไว้ให้นานที่สุดถ้ามันยังดีเหมือนเดิม(ดีกว่าเดิมยิ่งดี)
อย่ามาว่ากันเลย ว่าฉันเป็น เธอไม่ใช่ เสียเวลาเปล่า เอาเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดไปหาหุ้นดี ดี ดีกว่าครับ
(แหะ แหะ เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ขออภัยถ้าไม่ถูกใจใครครับ)
คงจะต้องดูจากแนวคิดและพฤติกรรมการกระทำว่าเป็น"นักลงทุนเน้นคุณค่า"หรือไม่
แนวคิดปู่บัฟเฟต
1 หาธุรกิจที่ดีมีอนาคตดี
2 มีกำไรต่อเนื่อง(ไปในอนาคต)
3 แล้วค่อยซื้อในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่า(คุณค่า)ที่แท้จริง(ยิ่งมากยิ่งดี)
4 ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ(ไม่โกงและเก่ง)
5 ถือมันไว้ให้นานที่สุดถ้ามันยังดีเหมือนเดิม(ดีกว่าเดิมยิ่งดี)
อย่ามาว่ากันเลย ว่าฉันเป็น เธอไม่ใช่ เสียเวลาเปล่า เอาเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดไปหาหุ้นดี ดี ดีกว่าครับ
(แหะ แหะ เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ขออภัยถ้าไม่ถูกใจใครครับ)
-
- Verified User
- โพสต์: 305
- ผู้ติดตาม: 0
นิยามของ VI ครับ
โพสต์ที่ 5
ลอกการบ้านครับbeammy เขียน:Value Investment
ชื่อมันก้อบอกอยู่แล้วครับ ลงทุนอะไรที่มันมีคุณค่า
แล้วคุณค่าคืออะไร ผมว่ามีหลายความเห็น ครับ :8) ...
จะขีดวงให้ตัวเองทำไม เดี๋ยวออกไม่ได้
ถ้าเราประเมินแล้วว่าหุ้นนี้มีคุณค่าพอที่จะซื้อ เราก็ซื้อ
ไม่ได้ซื้อเพราะคิดว่าราคาจะขึ้นไปโน่นไปนี่
ไม่ต้องสนใจว่าจะต้องมี margin of safety มากๆ
แม้แต่คุณค่าทางจิตใจก็ถือเป็นคุณค่า เช่นซื้อเพราะอยากมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
ที่สำคัญคือต้องมีการประเมินคุณค่าก่อน ว่าคุ้มค่าพอที่จะซื้อหรือไม่
-
- Verified User
- โพสต์: 1455
- ผู้ติดตาม: 0
นิยามของ VI ครับ
โพสต์ที่ 12
สำหรับผมจะนิยามก่อนครับ ผมต้องจินตนการให้ได้ว่าบริษัทที่ผมจะลงทุนเป็นอย่างไร โดยมองไปที่เป้าหมายปลายทางก่อน แล้วมองย้อยกลับมาว่าphobenius เขียน:นิยามก่อนแล้ว ค่อยปฏิบัติ หรือ ปฏิบัติเสร็จแล้วค่อยนิยาม ส่วนตัวเลือกอันหลังมากกว่า
มีบริษัทอะไรที่สามารถ ตอบสนองเป้าหมายของผมได้บ้าง ... ถ้าผมจินตนการไม่ได้ ผมจะไม่ลงทุนโดยเด็ดขาด เพราะตัวผมเองไม่สามารถขาดเดาได้ว่ามันจะเป็นอย่างไร ..
อย่าทำตัวเป็นนักแสดง เป็นเพียงผู้ดูก็พอ..
- oatty
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2444
- ผู้ติดตาม: 0
นิยามของ VI ครับ
โพสต์ที่ 13
ขอออกความเห็นมั่ง..
Value แปลว่ามูลค่า ไม่ใช่ คุณค่า
ดังนั้น ลงทุน (หรือซื้อขายหุ้น) อะไรก็ได้ที่เราคิดว่ามันจะทำให้มูลค่าเงินเพิ่มขึ้น โดยไม่ต้องมีข้อจำกัดเรื่องเวลา วิธีการ
(ถ้าซื้อขายหุ้นแล้วเงินหายไปตลอด คงไม่มีใครยกย่องว่าเป็น VI แน่)
แต่การลงทุนที่ดีในความเห็นผม มูลค่าต้องก้าวเดินไปกับคุณค่า
ผมพยายาไม่ไปเพ่งเล็งคนอื่นว่าเป็น VI หรือไม่ แต่พยายามบังคับตัวเองให้อยู่ในแนวทางที่ตั้งใจไว้
Value แปลว่ามูลค่า ไม่ใช่ คุณค่า
ดังนั้น ลงทุน (หรือซื้อขายหุ้น) อะไรก็ได้ที่เราคิดว่ามันจะทำให้มูลค่าเงินเพิ่มขึ้น โดยไม่ต้องมีข้อจำกัดเรื่องเวลา วิธีการ
(ถ้าซื้อขายหุ้นแล้วเงินหายไปตลอด คงไม่มีใครยกย่องว่าเป็น VI แน่)
แต่การลงทุนที่ดีในความเห็นผม มูลค่าต้องก้าวเดินไปกับคุณค่า
ผมพยายาไม่ไปเพ่งเล็งคนอื่นว่าเป็น VI หรือไม่ แต่พยายามบังคับตัวเองให้อยู่ในแนวทางที่ตั้งใจไว้
"ผู้ทรงธรรมนั่นแหละคือผู้ทรงเกียรติ ผู้มีความดีนั่นแหละคือผู้มีทรัพย์ ผู้รู้จักพอนั่นแหละคือมหาเศรษฐี" ว.วชิรเมธี
- Pn3um0n1a
- Verified User
- โพสต์: 1935
- ผู้ติดตาม: 0
นิยามของ VI ครับ
โพสต์ที่ 15
oatty เขียน: ผมพยายาไม่ไปเพ่งเล็งคนอื่นว่าเป็น VI หรือไม่ แต่พยายามบังคับตัวเองให้อยู่ในแนวทางที่ตั้งใจไว้
เสริม หน่อย
แล้วถ้าคนอื่นไม่ได้เป็นอย่างแนวทางของเรา
ก็แค่รับรู้ว่า เข้าใจละ เขาเป็นอย่างนั้นของเขานั้นเอง ... 555
ปล. พี่บีมมี่ครับ น่าสนใจมากๆ ยังไง pm กระซิบบอกหน่อยว่า port มีอะไรบ้างได้มั้ยครับ
- ก้อนหิน
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2344
- ผู้ติดตาม: 0
นิยามของ VI ครับ
โพสต์ที่ 16
ไม่มีไรหรอกครับพี่ จริงๆ ผมว่า หลักการ มันคล้ายๆการบอกเคล็ดลับการลงทุนไปด้วยหนะครับ ได้ความรู้ดีคนเรือ VI เขียน:แมวสีอะไรก็จับหนูได้
เป็นอะไรก็ให้เหมาะกับตัวเอง
เรามาคุยกันเพราะเราสนใจเรื่องเดียวกัน
สนใจทำไมว่าเราเป็นอะไร
ว่าแต่ ของพี่ คนเรือ VI มีแนวทางอย่างไรบ้างอะครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 174
- ผู้ติดตาม: 0
นิยามของ VI ครับ
โพสต์ที่ 17
โดยส่วนตัวแล้วผมจะเน้นในเรื่องการเป็นส่วนร่วมในกิจการมากที่สุด
คือว่าผมจะดูปัจจัยเชิงคุณภาพก่อนว่าบริษัทดังกล่าวเป็นกิจการที่ผมอยากจะเป็นเจ้าของหรือไม่ ด้วยเหตุผลอะไร และผู้บริหารมีฝีมือและไว้ใจได้แค่ไหนหลังจากที่ผ่านจุดนี้แล้วผมค่อยมาประเมินว่ามูลค่าที่เหมาะสมของบริษัทอยู่ที่ตรงไหน (อันนี้ก็แล้วแต่ว่าจะด้วยวิธีอะไร ตรงนี้ค่อนข้างจะเป็นการคำนวนบวกศิลปะ ร้อยคนก็ประเมินได้ร้อยค่าครับ ไม่งั้นก็คงไม่มีการซื้อขาย )
เสร็จแล้วก็มาดูว่าราคาปัจจุบันเป็นยังไง น่าลงทุนหรือเปล่า ถ้าถูกก็ลงทุนถ้าแพงก็รอ สำหรับหุ้นที่ลงทุนไปแล้วโดยส่วนตัวแล้วผมไม่เคยมีราคาเป้าหมายในใจเลยว่าในหนึ่งปีสองปีหุ้นควรจะไปที่ราคาไหน ราคาหุ้นขึ้นอยู่กับอารมณ์ของตลาดรวมไปถึงอีกหลายปัจจัยซึ่งคาดการณ์ยากมาก ผมคิดแค่ว่าราคาตลาดปัจจุบันแพงหรือถูกเมื่อเทียบกับการประเมินของเรา เราสบายใจแค่ไหนที่ถือหุ้น ถ้ายังถูกและรู้สึกสบายใจและมีเงินเราก็ลงทุนเพิ่ม ถ้าแพงหรือรู้สึกไม่สบายใจเราก็อาจจะทำกำไรไปบ้าง ก็แค่นั้นแหละครับ
โชคดีไม่เจ็บไม่จนครับ
คือว่าผมจะดูปัจจัยเชิงคุณภาพก่อนว่าบริษัทดังกล่าวเป็นกิจการที่ผมอยากจะเป็นเจ้าของหรือไม่ ด้วยเหตุผลอะไร และผู้บริหารมีฝีมือและไว้ใจได้แค่ไหนหลังจากที่ผ่านจุดนี้แล้วผมค่อยมาประเมินว่ามูลค่าที่เหมาะสมของบริษัทอยู่ที่ตรงไหน (อันนี้ก็แล้วแต่ว่าจะด้วยวิธีอะไร ตรงนี้ค่อนข้างจะเป็นการคำนวนบวกศิลปะ ร้อยคนก็ประเมินได้ร้อยค่าครับ ไม่งั้นก็คงไม่มีการซื้อขาย )
เสร็จแล้วก็มาดูว่าราคาปัจจุบันเป็นยังไง น่าลงทุนหรือเปล่า ถ้าถูกก็ลงทุนถ้าแพงก็รอ สำหรับหุ้นที่ลงทุนไปแล้วโดยส่วนตัวแล้วผมไม่เคยมีราคาเป้าหมายในใจเลยว่าในหนึ่งปีสองปีหุ้นควรจะไปที่ราคาไหน ราคาหุ้นขึ้นอยู่กับอารมณ์ของตลาดรวมไปถึงอีกหลายปัจจัยซึ่งคาดการณ์ยากมาก ผมคิดแค่ว่าราคาตลาดปัจจุบันแพงหรือถูกเมื่อเทียบกับการประเมินของเรา เราสบายใจแค่ไหนที่ถือหุ้น ถ้ายังถูกและรู้สึกสบายใจและมีเงินเราก็ลงทุนเพิ่ม ถ้าแพงหรือรู้สึกไม่สบายใจเราก็อาจจะทำกำไรไปบ้าง ก็แค่นั้นแหละครับ
โชคดีไม่เจ็บไม่จนครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1647
- ผู้ติดตาม: 0
นิยามของ VI ครับ
โพสต์ที่ 18
คือพี่เห็นหลายกระทู้ มาเถียงกันว่า อันนั้นใช่ อันนั้นไม่ใช่ คือ ถ้ามาคุยกันว่า พี่ๆน้องๆในที่นี้มีเคล็ดลับการเลือกหุ้นยังไง คงจะดีกว่า เพราะในเวบนี้ คนซื้อตามเพื่อน ซื้อตามโบรค ซื้อตามข่าวลือ ไม่เข้ามาอยู่แล้ว หรือเข้ามาเราก็มี วิธีการให้เค้ารู้ตัวว่าที่นี่ไม่เหมาะกับเค้า (เป็นวิธีการโดยธรรมชาติอยู่แล้วเลย)
คือเราเป็น เวบที่รวมคนที่ลงทุนแบบมีเหตุผล ศึกษาก่อน แล้วค่อยลงทุนอยู่แล้ว จึงไม่อยากมาให้เสียเวลา เถียงกันเรื่อง เราใช่ ท่านไม่ใช่ VI
เรามีความสนใจคล้ายกัน จึงมาคุยกัน บางคนก็รวมกลุ่มเจอกันเป็นเพื่อนกันเสียด้วยซ้ำไป
value =/ price
เมื่อ value > price เยอะๆก็ซื้อ
นี่ก็เป็นการเก็งกำไร ถ้าไม่เก็งว่าจะได้กำไร จะลงทุนทำไม ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า ลงทุน ลงทุนก็ต้องอยากได้กำไรให้พอกพูน
ลงทุนแบบเน้นคุณค่า หรือ การเก็งให้ได้กำไรแบบเน้นคุณค่า ไม่ใช่ราคา จึงเหมือนกันโดยสิ้นเชิงสำหรับพี่
บัฟเฟตเองก็บอกว่าถ้า market efficient จริงๆ เค้าก็อยู่ไม่ได้ เพราะ value มันไม่เท่ากับ ราคา ฉันใดก็ฉันนั้น
คือเราเป็น เวบที่รวมคนที่ลงทุนแบบมีเหตุผล ศึกษาก่อน แล้วค่อยลงทุนอยู่แล้ว จึงไม่อยากมาให้เสียเวลา เถียงกันเรื่อง เราใช่ ท่านไม่ใช่ VI
เรามีความสนใจคล้ายกัน จึงมาคุยกัน บางคนก็รวมกลุ่มเจอกันเป็นเพื่อนกันเสียด้วยซ้ำไป
หลักการของพี่ มีนิดเดียวว่าแต่ ของพี่ คนเรือ VI มีแนวทางอย่างไรบ้างอะครับ
value =/ price
เมื่อ value > price เยอะๆก็ซื้อ
นี่ก็เป็นการเก็งกำไร ถ้าไม่เก็งว่าจะได้กำไร จะลงทุนทำไม ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า ลงทุน ลงทุนก็ต้องอยากได้กำไรให้พอกพูน
ลงทุนแบบเน้นคุณค่า หรือ การเก็งให้ได้กำไรแบบเน้นคุณค่า ไม่ใช่ราคา จึงเหมือนกันโดยสิ้นเชิงสำหรับพี่
บัฟเฟตเองก็บอกว่าถ้า market efficient จริงๆ เค้าก็อยู่ไม่ได้ เพราะ value มันไม่เท่ากับ ราคา ฉันใดก็ฉันนั้น
. . .
- BOONPARUEY
- Verified User
- โพสต์: 184
- ผู้ติดตาม: 0
นิยามของ VI ครับ
โพสต์ที่ 19
... " บุญ คือ เสบียงของคนไม่ประมาท " พุทธตรัส ...