สรุปแนวทางการคัดสรร บริษัท ที่น่าลงทุนในแนว VI
- นักรบครบสลึง
- Verified User
- โพสต์: 11
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปแนวทางการคัดสรร บริษัท ที่น่าลงทุนในแนว VI
โพสต์ที่ 1
ผมขออนุญาติสรุปแนวทางการคัดสรร บริษัท ที่น่าลงทุนในแนว VI คร่าวๆจากที่ได้ติดตาม Thaivi.com มาสักระยะ ไม่แน่ใจว่าถูกต้อง ครบถ้วนรึเปล่า รบกวนพี่ๆช่วย แสดงความคิดเห็นด้วยครับ
== มองภาพรวมเศษฐกิจ ค้นหากลุ่มอุตสาหกรรม ==
ก. แนวโน้มธุรกิจ ภาวะเศรษฐกิจ วัฏจักรธุรกิจ
== เจาะกลุ่มอุตสาหกรรม ค้นหาบริษัท ที่โดดเด่น ==
ข. เป็น ธุรกิจที่มีความได้เปรียบเชิงแข่งขันอย่างยั่งยืน หรือไม่ โดยใช้ competitive stretagy ของ porter วิเคราะห์ภาวะการแข่งขันด้วยพลังทั้งห้าของ Porter
1. การแข่งขันภายในอุตสาหกรรม
2. โอกาสในการเข้ามาของรายใหม่
3. สินค้าทดแทน
4. อำนาจต่อรองกับลูกค้า
5. อำนาจต่อรองกับผู้ป้อนวัตถุ
ค. วิเคราะห์โดย SWOT คือ Strength-Weakness-Opportunities-Threats
จุดอ่อน จุดแข็ง โอกาส และความเสี่ยง
== วิเคราะห์งบการเงิน กระแสเงินสด เพื่อคัดสรรบริษัท มาลงทุน ==
ง.อ่านแบบ 56-1
จ.ประเด็นในการตรวจสอบหุ้น 10 ข้อของวอร์เรน
1.ROE สูงๆ หรือไม่
2.ROA สูงๆ หรือไม่
3.ประวัติการทำกำไรที่ดีเยี่ยมหรือไม่
4.มีหนี้สินน้อยๆหรือไม่
5.สินค้าหรือบริการมีความได้เปรียบเชิงแข่งขันอย่างยั่งยืนหรือไม่
6.ไม่มีปัญหาที่เกิดจากสหภาพแรงงานหรือไม่
7.บริษัทสามารถปรับสินค้าหรือบริการตามสภาวะเงินเฟ้อได้หรือไม่
8.ต้นทุนการดำเนินงานที่เหมาะสมหรือไม่
9.บริษัทสามารถซื้อหุ้นคืนจากตลาดได้หรือไม่
10.กำไรสะสมสามารถทำให้มูลค่าตลาดสูงขึ้นได้หรือไม่
ฉ.ความซื่อสัตย์และความสามารถของผู้บริหาร
== ประเมินราคา MOS ของบริษัทที่คัดสรรแล้ว และหาจังหวะลงทุน==
ช. วิเคราะห์ราคาที่น่าลงทุน
1. P/E = ?
2. P/B = ?
3. DIV = ?
4. ตัดสินใจซื้อขายจากการประมาณราคาในใจโดยการนำเอา EPS ที่ได้ทั้งปีคูณกับ PE เฉลี่ยในอดีตของบริษัท เมื่อได้ราคาแล้ว ต่อราคาอีกอย่างน้อย 25%
ญ. เหตุการณ์ไม่คาดฝัน
น. อื่น ๆ ที่สำคัญ
== มองภาพรวมเศษฐกิจ ค้นหากลุ่มอุตสาหกรรม ==
ก. แนวโน้มธุรกิจ ภาวะเศรษฐกิจ วัฏจักรธุรกิจ
== เจาะกลุ่มอุตสาหกรรม ค้นหาบริษัท ที่โดดเด่น ==
ข. เป็น ธุรกิจที่มีความได้เปรียบเชิงแข่งขันอย่างยั่งยืน หรือไม่ โดยใช้ competitive stretagy ของ porter วิเคราะห์ภาวะการแข่งขันด้วยพลังทั้งห้าของ Porter
1. การแข่งขันภายในอุตสาหกรรม
2. โอกาสในการเข้ามาของรายใหม่
3. สินค้าทดแทน
4. อำนาจต่อรองกับลูกค้า
5. อำนาจต่อรองกับผู้ป้อนวัตถุ
ค. วิเคราะห์โดย SWOT คือ Strength-Weakness-Opportunities-Threats
จุดอ่อน จุดแข็ง โอกาส และความเสี่ยง
== วิเคราะห์งบการเงิน กระแสเงินสด เพื่อคัดสรรบริษัท มาลงทุน ==
ง.อ่านแบบ 56-1
จ.ประเด็นในการตรวจสอบหุ้น 10 ข้อของวอร์เรน
1.ROE สูงๆ หรือไม่
2.ROA สูงๆ หรือไม่
3.ประวัติการทำกำไรที่ดีเยี่ยมหรือไม่
4.มีหนี้สินน้อยๆหรือไม่
5.สินค้าหรือบริการมีความได้เปรียบเชิงแข่งขันอย่างยั่งยืนหรือไม่
6.ไม่มีปัญหาที่เกิดจากสหภาพแรงงานหรือไม่
7.บริษัทสามารถปรับสินค้าหรือบริการตามสภาวะเงินเฟ้อได้หรือไม่
8.ต้นทุนการดำเนินงานที่เหมาะสมหรือไม่
9.บริษัทสามารถซื้อหุ้นคืนจากตลาดได้หรือไม่
10.กำไรสะสมสามารถทำให้มูลค่าตลาดสูงขึ้นได้หรือไม่
ฉ.ความซื่อสัตย์และความสามารถของผู้บริหาร
== ประเมินราคา MOS ของบริษัทที่คัดสรรแล้ว และหาจังหวะลงทุน==
ช. วิเคราะห์ราคาที่น่าลงทุน
1. P/E = ?
2. P/B = ?
3. DIV = ?
4. ตัดสินใจซื้อขายจากการประมาณราคาในใจโดยการนำเอา EPS ที่ได้ทั้งปีคูณกับ PE เฉลี่ยในอดีตของบริษัท เมื่อได้ราคาแล้ว ต่อราคาอีกอย่างน้อย 25%
ญ. เหตุการณ์ไม่คาดฝัน
น. อื่น ๆ ที่สำคัญ
ผมใช้เวลาศึกษาแนวทาง VI
เพื่อ"ลงทุน"ในหุ้น
เพื่อ"ลงทุน"ในหุ้น
- นักรบครบสลึง
- Verified User
- โพสต์: 11
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปแนวทางการคัดสรร บริษัท ที่น่าลงทุนในแนว VI
โพสต์ที่ 2
ง่ะ ม่ะมีใครแสดงความเห็นเลย
รบกวนช่วยแจ้งหน่อยครับว่าผมแบ่ง Step ถูกไหม
ขอบคุณมากครับ
รบกวนช่วยแจ้งหน่อยครับว่าผมแบ่ง Step ถูกไหม
ขอบคุณมากครับ
ผมใช้เวลาศึกษาแนวทาง VI
เพื่อ"ลงทุน"ในหุ้น
เพื่อ"ลงทุน"ในหุ้น
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปแนวทางการคัดสรร บริษัท ที่น่าลงทุนในแนว VI
โพสต์ที่ 4
ผมว่าสรุปได้ดีทีเดียวนะครับผม :D
มีความสุขในการลงทุนนะครับ
มีความสุขในการลงทุนนะครับ
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
- ส.สลึง
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3750
- ผู้ติดตาม: 1
สรุปแนวทางการคัดสรร บริษัท ที่น่าลงทุนในแนว VI
โพสต์ที่ 5
อ่าว... นึกว่าเล่าให้ฟังเฉยๆ ก็เลยอ่านเพลินๆ น่ะครับ
และนี่คือความเห็นของผม...
- ผมพยายามหาบริษัทที่ยอดเยี่ยมสำหรับการลงทุน ไม่ได้หาบริษัที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมครับ
- กิจการธรรมดาๆ ก็สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีได้ครับ
- เคยศึกษาโมเด็ลอื่นไหมครับ..?
- ผมเชื่อใจผู้บริหาร แล้วก็เชื่อในสามัญสำนึกของตัวเองมากกว่า
- ไม่มีประโยชน์ที่จะเก็บหุ้นเครื่องหมาย ? ไว้ในพอร์ต
- เมื่อเกิดข้อสงสัยในตัวผู้บริหาร หรือการบริหารจัดการ ผมจะไม่ถาม แต่จะขายหุ้นทิ้งเสมอเลยครับ แฮ่...
ปล. ก็แค่ความเห็นเพื่อแชร์ประสบการณ์นะครับ
และนี่คือความเห็นของผม...
- ปกติผมไม่ได้มองภาพรวมๆ ครับ แต่เจาะเป็นรายบริษัทก. มองภาพรวมเศษฐกิจ ค้นหากลุ่มอุตสาหกรรม
- ผมพยายามหาบริษัทที่ยอดเยี่ยมสำหรับการลงทุน ไม่ได้หาบริษัที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมครับ
- กิจการสุดยอดแบบนี้ ผมว่าหายากนะ แต่คุณนักรบฯ อาจจะหาเจอก่อนผมก็ได้ข. ธุรกิจที่มีความได้เปรียบเชิงแข่งขันอย่างยั่งยืน
- กิจการธรรมดาๆ ก็สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีได้ครับ
- เคยศึกษาโมเด็ลอื่นไหมครับ..?
- เคยใช้ครับ แต่ทุกวันนี้ผมไม่ใช้แล้ว เพราะเป็นเครื่องมือที่ผมไม่ถนัดค. SWOT Analysis
- ผมเชื่อใจผู้บริหาร แล้วก็เชื่อในสามัญสำนึกของตัวเองมากกว่า
- หลับเหมือนกัน เอ้ย... อ่านเหมือนกันครับง. อ่านแบบ 56-1
- นี่ล่ะครับ โมเด็ลที่ผมหมายถึงในข้อ ข.จ. ประเด็นในการตรวจสอบหุ้น 10 ข้อของวอร์เรน
- เห็นด้วยอย่างแรงฉ. ความซื่อสัตย์และความสามารถของผู้บริหาร
- ไม่มีประโยชน์ที่จะเก็บหุ้นเครื่องหมาย ? ไว้ในพอร์ต
- เมื่อเกิดข้อสงสัยในตัวผู้บริหาร หรือการบริหารจัดการ ผมจะไม่ถาม แต่จะขายหุ้นทิ้งเสมอเลยครับ แฮ่...
- การประเมินมูลค่าหุ้นด้วย PE เฉลี่ยในอดีตนี่ ผมไม่เคยใช้เลยครับ เป็นไปได้ไหมครับว่า P ในอดีตแต่ละปีอาจจะมีแรงกระทบจากอารมณ์ของตลาด ทำให้เราอาจจะพลาดโอกาสในหุ้นงามๆ ไปก็ได้ครับช. วิเคราะห์ราคาที่น่าลงทุน
ปล. ก็แค่ความเห็นเพื่อแชร์ประสบการณ์นะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1817
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปแนวทางการคัดสรร บริษัท ที่น่าลงทุนในแนว VI
โพสต์ที่ 6
PE ใช้ไม่ได้กับหุ้นบางประเภทเ่ช่นหุ้นวัฏจักรนะครับ คงต้องระวังไว้ด้วย ส่วนตัวหากจะใช้ PE ผมจะใช้ E ที่เราประมาณ(อย่างรอบคอบ)ในอนาคตและ Price ปัจจุบันเป็นตัวหาค่า PE ซึ่งถ้าค่าที่ได้เป็นประมาณครึ่งนึงของ Growth ก็น่าสนนักรบครบสลึง เขียน:4. ตัดสินใจซื้อขายจากการประมาณราคาในใจโดยการนำเอา EPS ที่ได้ทั้งปีคูณกับ PE เฉลี่ยในอดีตของบริษัท เมื่อได้ราคาแล้ว ต่อราคาอีกอย่างน้อย 25%
และถ้ามีการหามูลค่าที่แท้จริงของหุ้นตัวนั้นด้วยวิธีอื่นประกอบไปด้วยก็จะช่วยเพิ่มความมั่นใจมากขึ้น
ความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดของบริษัทก็สำคัญ ถ้าเพิ่มได้ทุกปีก็ยิ่งดีครับ
แมงเม่าบินเข้ากลางใจ
- นักรบครบสลึง
- Verified User
- โพสต์: 11
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปแนวทางการคัดสรร บริษัท ที่น่าลงทุนในแนว VI
โพสต์ที่ 7
นี่เลยครับ ความคิดเห็นที่ผมเฝ้ารอ...
เพราะที่ผมสรุปเป็นแนวทาง VI ในระดับค่อนข้างพื้นมากๆ ซึ่งผมคิดวว่าผู้ศึกษาและเข้ามาอ่านเว็บบอร์ดของ Thaivi.com ส่วนใหญ่จะรู้ซึ้งกันดี แต่ผู้ที่เป็นมือใหม่(เช่นผม) การที่จะก้าวข้ามไปสู่ระดับของการนำไปปฏิบัติ จำเป็นต้องอาศัยการชี้แนะชี้ทิศทาง ของเหล่าผู้มีประสบการณ์อันสูงส่ง
ผมจะนำข้อชี้แนะ(ที่ดีเยี่ยมนี้)ไปศึกษาเพิ่มเติมครับ เพื่อปรับวิธีการคัดสรรหุ้นของผมไปใช้ในทางปฏิบัติให้ได้ผลที่ดีที่สุด.... :D
แล้วจะนำมาขอแบ่งปันความคิดเห็นเรื่อยๆ นะครับ
เพราะที่ผมสรุปเป็นแนวทาง VI ในระดับค่อนข้างพื้นมากๆ ซึ่งผมคิดวว่าผู้ศึกษาและเข้ามาอ่านเว็บบอร์ดของ Thaivi.com ส่วนใหญ่จะรู้ซึ้งกันดี แต่ผู้ที่เป็นมือใหม่(เช่นผม) การที่จะก้าวข้ามไปสู่ระดับของการนำไปปฏิบัติ จำเป็นต้องอาศัยการชี้แนะชี้ทิศทาง ของเหล่าผู้มีประสบการณ์อันสูงส่ง
ผมจะนำข้อชี้แนะ(ที่ดีเยี่ยมนี้)ไปศึกษาเพิ่มเติมครับ เพื่อปรับวิธีการคัดสรรหุ้นของผมไปใช้ในทางปฏิบัติให้ได้ผลที่ดีที่สุด.... :D
แล้วจะนำมาขอแบ่งปันความคิดเห็นเรื่อยๆ นะครับ
ผมใช้เวลาศึกษาแนวทาง VI
เพื่อ"ลงทุน"ในหุ้น
เพื่อ"ลงทุน"ในหุ้น
- นักรบครบสลึง
- Verified User
- โพสต์: 11
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปแนวทางการคัดสรร บริษัท ที่น่าลงทุนในแนว VI
โพสต์ที่ 9
จำเป็นต้องดูครับเพราะ P/E , P/BV , Div ทั้ง 3 ตัวนี้จะบอกว่าราคาถูก หรือแพงไปแล้วหรือยัง แต่ต้องเทียบในรายอุตสาหกรรมเดียวกันนะครับ เพราะโดยทั่วไปนักลงทุนจะบอกว่าไม่ให้ P/E เกิน 10 เท่า แต่ในบางอุตสาหกรรม เช่น Bank เนี่ยส่วนมากเกิน 10 เท่าหมดครับ
ส่วนหนังสือชื่อ The New Buffettology ครับ
ส่วนหนังสือชื่อ The New Buffettology ครับ
ผมใช้เวลาศึกษาแนวทาง VI
เพื่อ"ลงทุน"ในหุ้น
เพื่อ"ลงทุน"ในหุ้น
- darktigerman
- Verified User
- โพสต์: 20
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปแนวทางการคัดสรร บริษัท ที่น่าลงทุนในแนว VI
โพสต์ที่ 10
รบกวนช่วยเขียนโมเดล 10 ข้อ ของ Warren Buffet อย่างคร่าวๆ ให้หน่อยได้มั้ยครับ
- นักรบครบสลึง
- Verified User
- โพสต์: 11
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปแนวทางการคัดสรร บริษัท ที่น่าลงทุนในแนว VI
โพสต์ที่ 11
โมเดลในการตรวจสอบหุ้น 10 ข้อของวอร์เรน
1.ROE สูงๆ หรือไม่ คือ บริษัทสามารถสร้างผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น ได้สูงๆอย่างต่อเนื่อง ใช่หรือไม่ แสดงถึงความสามารถในการทำกำไร และฟื้นตัวได้จากปัญหาทางธุรกิจ
2.ROA สูงๆ หรือไม่ คือ บริษัทสามารถสร้างผลตอบแทนต่อเงินลงทุนทั้งหมดได้สูงๆอย่างต่อเนื่อง ใช่หรือไม่
3.ประวัติการทำกำไรที่ดีเยี่ยมหรือไม่ คือ ผลกำไรของบริษัทแข็งแกร่งและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
4.มีหนี้สินน้อยๆหรือไม่ คือ โดยทั่วไปบริษัทที่ดีจะมีหนี้สินระยะยาวน้อยกว่า 5 เท่าของผลกำไรของบริษัท
5.สินค้าหรือบริการมีความได้เปรียบเชิงแข่งขันอย่างยั่งยืนหรือไม่ คือ สินค้ามีแบรนด์ที่ติดตลาด หรือเป็นสินค้าจำเป็นต้องใช้สม่ำเสมอหรือไม่
6.ไม่มีปัญหาที่เกิดจากสหภาพแรงงานหรือไม่ คือ หากบริษัทที่มีสหภาพแรงงานอาจเกิดการรวมตัวเรียกร้องสิทธิ หรือประท้วงหยุดงานได้
7.บริษัทสามารถปรับสินค้าหรือบริการตามสภาวะเงินเฟ้อได้หรือไม่ คือ สภาวะเงินเฟ้อทำให้ต้นทุนสินค้าเพิ่มขึ้น ดังนั้นหากบริษัทสามารถปรับขึ้นราคาได้จะทำให้กำไรไม่ลดลงตามสภาวะเงินเฟ้อ
8.ต้นทุนการดำเนินงานที่เหมาะสมหรือไม่ เคยอ่านแล้วเข้าใจค่อนข้างยาก แต่โดยสรุป คือ แทนที่จะนำกำไรสะสมไปปรับปรุงสินค้าตามการแข่งขันในตลาด หรือซ่อมแซมเครื่องจักร ก็นำกำไรสะสมไปลงทุนทำให้กำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นจะดีกว่า
9.บริษัทสามารถซื้อหุ้นคืนจากตลาดได้หรือไม่ คือ จะไปทำให้สัดส่วนความเป็นเจ้าของในบริษัทของผู้ถือหุ้นเพิ่มสูงขึ้น โดยที่นักลงทุนไม่ต้องลงทุนเพิ่มเลยแม้แต่น้อย
10.กำไรสะสมสามารถทำให้มูลค่าตลาดสูงขึ้นได้หรือไม่ คือ การจัดสรรเงินลงทุนอย่างเหมาะสม
อธิบายอย่างคร่าวๆนะครับ เพื่อความเข้าใจอ่านในหนังสือดีกว่าครับ
1.ROE สูงๆ หรือไม่ คือ บริษัทสามารถสร้างผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น ได้สูงๆอย่างต่อเนื่อง ใช่หรือไม่ แสดงถึงความสามารถในการทำกำไร และฟื้นตัวได้จากปัญหาทางธุรกิจ
2.ROA สูงๆ หรือไม่ คือ บริษัทสามารถสร้างผลตอบแทนต่อเงินลงทุนทั้งหมดได้สูงๆอย่างต่อเนื่อง ใช่หรือไม่
3.ประวัติการทำกำไรที่ดีเยี่ยมหรือไม่ คือ ผลกำไรของบริษัทแข็งแกร่งและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
4.มีหนี้สินน้อยๆหรือไม่ คือ โดยทั่วไปบริษัทที่ดีจะมีหนี้สินระยะยาวน้อยกว่า 5 เท่าของผลกำไรของบริษัท
5.สินค้าหรือบริการมีความได้เปรียบเชิงแข่งขันอย่างยั่งยืนหรือไม่ คือ สินค้ามีแบรนด์ที่ติดตลาด หรือเป็นสินค้าจำเป็นต้องใช้สม่ำเสมอหรือไม่
6.ไม่มีปัญหาที่เกิดจากสหภาพแรงงานหรือไม่ คือ หากบริษัทที่มีสหภาพแรงงานอาจเกิดการรวมตัวเรียกร้องสิทธิ หรือประท้วงหยุดงานได้
7.บริษัทสามารถปรับสินค้าหรือบริการตามสภาวะเงินเฟ้อได้หรือไม่ คือ สภาวะเงินเฟ้อทำให้ต้นทุนสินค้าเพิ่มขึ้น ดังนั้นหากบริษัทสามารถปรับขึ้นราคาได้จะทำให้กำไรไม่ลดลงตามสภาวะเงินเฟ้อ
8.ต้นทุนการดำเนินงานที่เหมาะสมหรือไม่ เคยอ่านแล้วเข้าใจค่อนข้างยาก แต่โดยสรุป คือ แทนที่จะนำกำไรสะสมไปปรับปรุงสินค้าตามการแข่งขันในตลาด หรือซ่อมแซมเครื่องจักร ก็นำกำไรสะสมไปลงทุนทำให้กำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นจะดีกว่า
9.บริษัทสามารถซื้อหุ้นคืนจากตลาดได้หรือไม่ คือ จะไปทำให้สัดส่วนความเป็นเจ้าของในบริษัทของผู้ถือหุ้นเพิ่มสูงขึ้น โดยที่นักลงทุนไม่ต้องลงทุนเพิ่มเลยแม้แต่น้อย
10.กำไรสะสมสามารถทำให้มูลค่าตลาดสูงขึ้นได้หรือไม่ คือ การจัดสรรเงินลงทุนอย่างเหมาะสม
อธิบายอย่างคร่าวๆนะครับ เพื่อความเข้าใจอ่านในหนังสือดีกว่าครับ
ผมใช้เวลาศึกษาแนวทาง VI
เพื่อ"ลงทุน"ในหุ้น
เพื่อ"ลงทุน"ในหุ้น
- darktigerman
- Verified User
- โพสต์: 20
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปแนวทางการคัดสรร บริษัท ที่น่าลงทุนในแนว VI
โพสต์ที่ 12
ขอบคุณมากครับ ขอให้เก่งๆๆเร็วๆๆนะครับ
ตอนนี้ผมก็ศึกษาการลงทุนแนว VI อยู่ ผมว่าการวิเคราะห์ตามกระทู้ด้านบน และ โมเดลของ Warren มัน make sense มากครับ มันช่วยคัดบริษัทที่ดี ออกมาได้
ตอนนี้ที่ผมว่ายากทีสุดมันอยู่ตรงที่การหาราคาที่เหมาะสมของตัวหุ้นว่าราคาปัจจุบันสูงหรือแพง การหาจังหวะว่าควรจะซื้อตอนไหน อันนี้ผมว่ายากมากๆๆ ไม่รู้ว่ามีสูตรอะไรใช้หาค่าพวกนี้ได้บ้างครับ ที่บอกว่ายากเพราะผมว่ามันมีอารมณ์ (กระแส) ตลาด เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ตอนนี้ผมก็ศึกษาการลงทุนแนว VI อยู่ ผมว่าการวิเคราะห์ตามกระทู้ด้านบน และ โมเดลของ Warren มัน make sense มากครับ มันช่วยคัดบริษัทที่ดี ออกมาได้
ตอนนี้ที่ผมว่ายากทีสุดมันอยู่ตรงที่การหาราคาที่เหมาะสมของตัวหุ้นว่าราคาปัจจุบันสูงหรือแพง การหาจังหวะว่าควรจะซื้อตอนไหน อันนี้ผมว่ายากมากๆๆ ไม่รู้ว่ามีสูตรอะไรใช้หาค่าพวกนี้ได้บ้างครับ ที่บอกว่ายากเพราะผมว่ามันมีอารมณ์ (กระแส) ตลาด เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
- SEHJU
- Verified User
- โพสต์: 1238
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปแนวทางการคัดสรร บริษัท ที่น่าลงทุนในแนว VI
โพสต์ที่ 13
ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ ตรงนี้ฝึกยากมากๆสำหรับมือใหม่อย่างผมdarktigerman เขียน:ขอบคุณมากครับ ขอให้เก่งๆๆเร็วๆๆนะครับ
ตอนนี้ผมก็ศึกษาการลงทุนแนว VI อยู่ ผมว่าการวิเคราะห์ตามกระทู้ด้านบน และ โมเดลของ Warren มัน make sense มากครับ มันช่วยคัดบริษัทที่ดี ออกมาได้
ตอนนี้ที่ผมว่ายากทีสุดมันอยู่ตรงที่การหาราคาที่เหมาะสมของตัวหุ้นว่าราคาปัจจุบันสูงหรือแพง การหาจังหวะว่าควรจะซื้อตอนไหน อันนี้ผมว่ายากมากๆๆ ไม่รู้ว่ามีสูตรอะไรใช้หาค่าพวกนี้ได้บ้างครับ ที่บอกว่ายากเพราะผมว่ามันมีอารมณ์ (กระแส) ตลาด เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
เห็นท่าน ดร.นิเวศน์ เข้าออกในหุ้นแต่ละตัวแล้วผมก็งงว่า ท่านรู้ได้ยังไง..
-
- Verified User
- โพสต์: 1808
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปแนวทางการคัดสรร บริษัท ที่น่าลงทุนในแนว VI
โพสต์ที่ 14
ขอบคุณครับ :lol:
"Risk comes from not knowing what you're doing" - Warren Buffet
สุดยอดของความซับซ้อนคือความเรียบง่าย
http://www.sarut-homesite.net/
สุดยอดของความซับซ้อนคือความเรียบง่าย
http://www.sarut-homesite.net/
- นักรบครบสลึง
- Verified User
- โพสต์: 11
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปแนวทางการคัดสรร บริษัท ที่น่าลงทุนในแนว VI
โพสต์ที่ 15
จังหวะการ เข้า-ออก ตลาดนั้นควรใช้สัญญาณทางเทคนิคประกอบด้วยนะครับ
เพราะการวิเคราะห์ทางเทคนิค ผมเคยศึกษา Elliott Wave และ Cycle จึงเข้าใจว่าการอารมณ์คนในตลาดทำให้เกิดสัญญาณซื้อ-ขาย
ดังนั้นหากดูกราฟประกอบด้วยจะดีกว่าไหมครับ ?!?
เพราะการวิเคราะห์ทางเทคนิค ผมเคยศึกษา Elliott Wave และ Cycle จึงเข้าใจว่าการอารมณ์คนในตลาดทำให้เกิดสัญญาณซื้อ-ขาย
ดังนั้นหากดูกราฟประกอบด้วยจะดีกว่าไหมครับ ?!?
ผมใช้เวลาศึกษาแนวทาง VI
เพื่อ"ลงทุน"ในหุ้น
เพื่อ"ลงทุน"ในหุ้น