ราคา 68 เด้งแล้ว,100 เด้ง within this year is expected.

[david]

There is 1 stock ,ราคาปัจจุบันก็ 68 เด้งแล้ว in 9 years.I will b surprised if it won't get 100 เด้ง within this year if compare to 9 years ago.

[chatchai]

อ่านแล้วน่าตื่นเต้นมากครับ

ถ้าเมื่อ 9 ปีก่อน  ราคา 1 บาท  ปัจจุบันก็ 68 บาท  คุณ David คาดหมายว่าสิ้นปีจะมีราคา 100 บาท

เทียบผลตอบแทนที่ได้ภายในปีนี้ 47.06%  ก็ไม่เวอร์จนเกินไป  พอเป็นไปได้  

หวังว่าคุณ David คงมีเหตุผลดีๆ  และเพียงพอที่จะแนะนำประกอบด้วยนะครับ

[HI.ผมเอง]

ทำไมช่วงนี้ มีกระทู้ตื่นเต้นเยอะจังครับ

[por_jai]

พี่เดฟ วันก่อนก็มาบอกให้ผมถอนเงินไปฝาก
     หยุดเล่นก่อน
     เพราะตลาดจะcrash
     ผมก็เชื่อ
     ถ้าตัวนี้ไม่พีเอ็มมาบอกผมๆโกรธจริงๆนะเอ้า...

[jung_oh]

อิอิ มาแอบฟัง  :twisted:

[david]

Dear P'Por_jai,
Several months ago,I really had no confidence with the subprime,if u monitored the regional bourses,u would c that they had been 10-20% discount from the time I told u.BUt SET had  outperformed among peers.But now,I gain more confidence from a lot data I 've got.The stock I mention,I think u 've already known.
Dear Khun Chatchai,
I'll gradually post the reason y I think like this.

    There is only 18% of Thai population who hold insurance policies,compare to over 100%  of Japanese.This is the indicator of a huge room for this business.
     This year(2008),Thai government d like to support this business by letting Thai tax payer deduct the insurance premium from 50,000 to 100,000 baht.It wont be the tempolary government policy,but the permanent one(You can track the old record of  Thai government policies.).I think,there must be a great number of Thai people who have never hold insurance policies like me will consider to pay 100,000 baht for insurance premium for tax benefit.Anyone who used to buy 50,000 baht for this reason will add more 50,000 baht.This will be the great quantity of money which will push the growth rate of this business to 16-18% this year(2008).

[CK]

1. กราฟเดือนทำ double top อยู่ น่ากลัวไม่ใช่ย่อย

2. งบ Q1 ค่อนข้างหรู แต่ราคาไม่ตอบรับเลย

3. สภาพคล่องต่ำ ราคาสูง อยากซื้อเยอะๆ คงยาก

[tok]

[quote="chatchai"]อ่านแล้วน่าตื่นเต้นมากครับ

ถ้าเมื่อ 9 ปีก่อน

[david]

The charming of this business.  
  1. There is only 18% of Thai population who hold insurance policies,compare to over 100%  of Japanese.This is the indicator of a huge room for this business.
  2.Once,anyone who buy the insurance policies,they seem to commit that they will pay annually continuously for 5-20 years depend on what kind of policies they buy.The base of the policy holders will be broader years to years.
  3.ค่าใช้จ่ายที่เป็นตัวเงินในธุรกิจประกัน ค่าคอมมิสชั่น คิดปีแรก 30% ของเบี้ยและคิด 20% 10% และ 5% ในปีที่ 4 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายที่ต้องจ่ายค่าคอม
  So,every following years of the same policy holderscommission cost will be reduced 50%,as the holders still pay the same amount of money for their insurance policies.The margin will gradually increase from years to years.

[Belffet]

It must be Insurance company.

It must insurance company with life insurance package also (to link with government's policy).

What is it?

P...A?

[vivitawin]

scnyl? เดาครับ  :lol:

[david]

4.Thai government d like to support this business by letting Thai tax payer deduct the insurance premium from 50,000 to 100,000 baht.It wont be the tempolary government policy,but the permanent one(You can track the old record of  Thai government policies.).

[Glaxo]

จริงๆถ้ามองว่าคนทำประกันแค่18%ของประชากร แล้วเป็นโอกาศกับธุรกิจประกัน
ผมว่ามันก็ไม่น่าป็นเรื่องที่แตกต่างอะไรกับโอกาศที่เกิดกับธุรกิจอื่นนะครับ

เพราะคนมันเกิดมากขึ้นทุกปี ใช้สินค้ามากขึ้น
เช่น
APRINT เองก็บอกว่าทุกวันนีคนอ่านหนังสือน้อยถ้าเทียบกับคนทั้งประเทศ
Modern Trade ทั้งหลายก็บอกว่ายังมีโอกาศเพราะหลายคนยังซื้อของจากโชห่วยอยู่

[david]

1. กราฟเดือนทำ double top อยู่ น่ากลัวไม่ใช่ย่อย
Let the fundamentalists do their job.

2. งบ Q1 ค่อนข้างหรู แต่ราคาไม่ตอบรับเลย

3. สภาพคล่องต่ำ ราคาสูง อยากซื้อเยอะๆ คงยาก

2 & 3.The problem is the illiquidity.That's y it has been ignored by the major players in the market.As I'm a small fundamental investor,this is not the problem.

[david]

The best ever Thai stock which I proudly present is(Music please).
    บริษัท ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต จำกัด(มหาชน) หรือ SCNYL
SCNYL เป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งเดียวในตลาดหลักทรัพย์ เกิดจากการร่วมทุนระหว่างธนาคารไทยพาณิชย์และกลุ่มนิวยอร์คไลฟ์ บริษัทประกันชีวิตกลุ่มที่ใหญที่สุดในสหรัฐอเมริกา

1.ธุรกิจถึงจุดเปลี่ยน ทุกท่านอาจจะทราบนะครับ ในอดีตธุรกิจประกันชีวิตต้องแข่งขันกันที่ทีมขาย พนักงานขาย ใครจะเข้ามาในธุรกิจนี้ ต้องมีการทุ่มเงินดึงทีมขายเก่งๆ เข้ามา ทำให้คนขายหรือทีมขายเก่งๆ ได้รับผลตอบแทนสูง

แต่ปีที่แล้วเกิดจุดเปลี่ยน เพราะหลังจากธนาคารแห่งประเทศไทยอนุญาติให้ธนาคารพาณิชย์ สามารถทำธุรกรรมเป็นนายหน้าขายประกันได้ เรียกว่า Bancassurance เพื่อให้ธนาคารเป็น universal banking อย่างแท้จริง หลายธนาคารก็เริ่มทำธุรกิจนี้ แต่ธนาคารที่เอาจริงเอาจังที่สุด คือธนาคารไทยพาณิชย์และทำได้ดีอย่างเหลือเชื่อ สร้างความตกตะลึงให้วงการประกันชีวิต กระโดดขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ทันที เป็นรองแค่ AIA และไทยประกันชีวิตเท่านั้น ทั้งที่เพิ่งเริ่มธุรกิจนี้ได้ 3-4 ปีเท่านั้น

มีหลายสาเหตุที่ทำให้ Bancassurance ประสบความสำเร็จ

1. ไม่ต้องสร้างทีมขายหรือทุ่มเงินดึงนักขายเก่งๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากที่สุดในธุรกิจประกัน แต่ได้พนักงานขายซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารทันทีนับหมื่นคน

2.พนักงานเหล่านี้ไม่ต้องวิ่งหาลูกค้า แต่มีลูกค้าเข้ามาหาทุกวัน วันละหลายหมื่นคนผ่านสาขาธนาคารทั้งประเทศ สาขาเหล่านี้เปลี่ยนเป็นสำนักงานขายทันทีกว่า 600 แห่ง

3.ฐานลูกค้าจากธนาคารจำนวนมาก ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายในการขายประกัน เช่นฐานลูกค้าเงินฝาก ฐานลูกค้าสินเชื่อรายใหญ่ ฐานลูกค้าสินเชื่อรายย่อย ,ฐานลูกค้าผ่อนบ้าน (ลูกค้าต้องซื้อประกันการผ่อนบ้านหรือที่เรียกว่า credit life)นอกจากนี้ไทยพาณิชย์ยังมีฐานลูกค้าผ่านผู้ถือหุ้น เช่น บริษัทปูนซิเมนต์ไทย  ฐานลูกค้าผ่อนรถ(SPL auto) ของสยามพาณิชย์ลิสซิ่ง  ไทยพาณิชย์มีฐานลูกค้าสินเชื่อซื้อบ้านใหญ่ที่สุดในประเทศ (ไม่รวมธ.อ.ส.) และเน้นขยายสาขาถึงประมาณ 60% ต่อปี เพื่อเข้าถึงรายย่อยให้มากที่สุด

4.ความน่าเชื่อถือ ไม่เหมือนธุรกิจประกันภัย ที่แข่งขันกันที่เบี้ยประกันว่าใครเสนอราคาต่ำ แต่ธุรกิจประกันชีวิต เป็นการฝากอนาคตในระยะยาว ดังนั้นความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งที่สำคัญ และไทยพาณิชย์ซึ่งเป็นธนาคารที่แข่งแกร่งที่สุดในประเทศ ก็คือความได้เปรียบ นอกจากนั้นหากมีปัญหาอะไร ก็สามารถไปติดต่อชำระค่าเบี้ยประกันได้ทันทีที่สาขาธนาคาร  ไม่เหมือนการซื้อประกันจากตัวแทน ที่ชำระเบี้ยได้ 1-2 ปี ตัวแทนก็หายคือเลิกทำไปซะแล้ว

5.การเป็นพันธมิตรร่วมกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ ซึ่งมีพอร์ตลูกค้าผ่อนบ้านใหญ่ที่สุดในประเทศขายประกันชีวิต credit life

      แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงแบงก์แอสชัวรันซ์ ก็หนีไม่พ้นต้องอ้างอิงถึง ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต (SCNYL) ที่มีส่วนแบ่งการตลาดของแบงก์ แอสชัวรันซ์มากที่สุดขณะนี้ และได้รับอานิสงส์ดอกเบี้ยขาลงไปแบบเต็มๆ ไม่เพียงเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น หากรวมทั้งเอเชียซึ่งทำผลงานเป็นสัดส่วนถึง 71% ของนิวยอร์คไลฟ์ฯทั่วโลกแล้ว ในจำนวนนั้น 30% ก็เป็นผลงานของไทยพาณิชย์ นิวยอร์คไลฟ์ฯนั่นเอง

จากผลลัพธ์ดังกล่าวส่งผลให้ไทยพาณิชย์ นิวยอร์คไลฟ์ฯสามารถคว้าแชมป์จากการแข่งขัน Asia Challenge Cup 2007 ได้สำเร็จ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวเป็นการแข่งขันผลิตเบี้ยปีแรกในไตรมาสที่ 1 ของกลุ่มนิวยอร์คไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก รวม 6 ประเทศ ได้แก่ จีน อินเดีย ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลี และไทย

โดยในปีนี้สามารถคว้าแชมป์ได้ถึง 3 รายการ ได้แก่ รางวัลการเติบโตเบี้ยปีแรกสูงสุดโดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ รางวัลการเติบโตเบี้ยปีแรกสูงสุดโดยคิดเป็นดอลลาร์สหรัฐ และรางวัลการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการตลาดยอดเยี่ยม ทั้งนี้พิธีมอบรางวัล Asia Challenge Cup 2007 จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ในงาน New York Life International Sales Convention ซึ่งจัดขึ้นเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ณ กรุงโรม ประเทศอิตาลี

สำหรับรางวัลการเติบโตเบี้ยปีแรกสูงสุดโดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์นั้น SCNYL มีอัตราเติบโตสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 195% อันดับสองตกเป็นของจีน มีอัตราการเติบโตคิดเป็น 190.8% และอันดับ 3 ได้แก่ฮ่องกง ด้วยอัตราการเติบโต 147.5% ส่วนรางวัลการเติบโตเบี้ยปีแรกสูงสุดโดยคิดเป็นดอลลาร์สหรัฐ ไทยสามารถผลิตเบี้ยปีแรกได้สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 22.991 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามด้วยอินเดีย และฮ่องกง ด้วยจำนวน 16.963 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 2.485 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ โดยเบี้ยปีแรกที่ไทยทำได้ทั้งสิ้นในช่วงการแข่งขันอยู่ที่ 1,793,858 บาท

The charming of this business.  
  1. There is only 18% of Thai population who hold insurance policies,compare to over 100%  of Japanese.This is the indicator of a huge room for this business.
  2.Once,anyone who buy the insurance policies,they seem to commit that they will pay annually continuously for 5-20 years depend on what kind of policies they buy.The base of the policy holders will be broader years to years.
  3.ค่าใช้จ่ายที่เป็นตัวเงินในธุรกิจประกัน ค่าคอมมิสชั่น คิดปีแรก 30% ของเบี้ยและคิด 20% 10% และ 5% ในปีที่ 4 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายที่ต้องจ่ายค่าคอม
  So,every following years of the same policy holderscommission cost will be reduced 50%,as the holders still pay the same amount of money for their insurance policies.The margin will gradually increase from years to years.
   4. Thai government d like to support this business by letting Thai tax payer deduct the insurance premium from 50,000 to 100,000 baht.It wont be the tempolary government policy,but the permanent one(You can track the old record of  Thai government policies.).
สรุปผลการดำเนินงานของบจ.ไตรมาสที่1(F45-1)
                   บริษัทไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)

                                                        สอบทาน
                                                    (หน่วย : พันบาท)
                                          สิ้นสุดวันที่  31 มีนาคม
                                              ไตรมาสที่ 1
             ปี                            2551              2550

    กำไร (ขาดทุน) สุทธิ                    324,360           186,066
    กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท)           4.88               2.80

15 พฤษภาคม 2551
เรื่อง    คำชี้แจงประกอบงบการเงินไตรมาสที่ 1 ประจำปี 2551
เรียน    กรรมการและผู้จัดการ
      ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

บริษัทฯ ขอชี้แจงเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงฐานะการเงินและผลการดำเนินงาน สำหรับผล
การประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2551 บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานกำไรสุทธิ 324.4 ล้าน
บาทเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปี 2550 บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานกำไรสุทธิ 186.1
ล้านบาท โดยมีสาเหตุที่สำคัญจาก
        1. รายได้ เพิ่มขึ้น 701.9 ล้านบาท สาเหตุจาก
            1.1 เบี้ยประกันรับสุทธิ เพิ่มขึ้น 611.2 ล้านบาท
            1.2 รายได้จากการลงทุนสุทธิ เพิ่มขึ้น 88.5 ล้านบาท
            1.3 กำไรจากการลงทุนในหลักทรัพย์ เพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาท
            1.4 รายได้อื่น เพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาท
        2. ค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัย เพิ่มขึ้น 493.0 ล้านบาท สาเหตุจาก
            2.1 เงินสำรองประกันชีวิต เพิ่มขึ้น 295.2 ล้านบาท
            2.2 เงินจ่ายตามกรมธรรม์ประกันชีวิต เพิ่มขึ้น 162.4 ล้านบาท
            2.3 ค่าจ้างและค่าบำเหน็จ เพิ่มขึ้น 34.6 ล้านบาท
            2.4 ค่าใช้จ่ายอื่น เพิ่มขึ้น 0.8 ล้านบาท
        3. ค่าใช้จ่ายดำเนินงาน เพิ่มขึ้น 41.7 ล้านบาท สาเหตุจาก
            2.1 ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน เช่น เงินเดือน โบนัส ฯลฯ เพิ่มขึ้น
                6.1 ล้านบาท
            2.2 ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาคารสถานที่และอุปกรณ์ เพิ่มขึ้น 7.8 ล้านบาท
            2.3 ค่าใช้จ่ายด้านภาษีอากร เพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาท
            2.4 ค่าใช้จ่ายอื่น เช่น ค่าที่ปรึกษา ค่าบริการด้านคอมพิวเตอร์ ค่า
                ธรรมเนียมธนาคาร ค่าใช้จ่ายเดินทาง ค่าใช้จ่ายส่งเสริมการขาย
                ฯลฯ เพิ่มขึ้น 26.2 ล้านบาท
        3. ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคล เพิ่มขึ้น 28.8 ล้านบาท

จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
บริษัท ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)


(นายกาย สตีเฟน ฮอร์ตัน)
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่

   I expect SCNYLs EPS08 = 20 baht.The CAGR= 66 %,ROE = 40.I think the stock should be traded @ P/E=25(very conservative),but I have to discount 20% of my target price for the illiquidity problem.
   Lets see when the IPO of Bangkok life assurance start,you will know its P/E,but you have to keep in mind that the CAGR of Bangkok life assurance cannot compete SCNYL.After the listing of Bangkok life assurance,there might be more liquidity of SCNYLs trading(I hope).The problem of SCNYL is illiquidity only,or else,the stock may be traded @ P/E more than 25.

[Akajon]

ห้ามซื้อเกินวันละ 2 ครั้ง โปรดสังเกตคำเตือน บนฉลากก่อนซื้อทุกครั้ง

ด้วยความปรารถนาดีจาก กระทรวงทรัพยาเงินและสิ่งรุมเร้า

[por_jai]

ด้วยความปรารถนาดีจาก กระทรวงทรัพยาเงินและสิ่งรุมเร้า

เอาไป2ตัว

[Basketman]

เอาไป2ตัว

[Rocker]

[quote="por_jai"] พี่เดฟ วันก่อนก็มาบอกให้ผมถอนเงินไปฝาก

[Paul VI]

ห้ามซื้อเกินวันละ 2 ครั้ง โปรดสังเกตคำเตือน บนฉลากก่อนซื้อทุกครั้ง

ด้วยความปรารถนาดีจาก กระทรวงทรัพยาเงินและสิ่งรุมเร้า

:lol:  :lol:

[yuki]

เอาไป2ตัว

[yuki]

แหม แต่เอาไปเทียบกับ ญี่ปุ่นนี่ จะดีหรือครับ

ถ้าจะบอกว่า มีโอกาส อีก 100-18 = 82%
แต่เหมือนยังบอกไม่หมดนะครับว่า "อีกกี่ปี"

[charnengi]

แหม แต่เอาไปเทียบกับ ญี่ปุ่นนี่ จะดีหรือครับ

ถ้าจะบอกว่า มีโอกาส อีก 100-18 = 82%
แต่เหมือนยังบอกไม่หมดนะครับว่า "อีกกี่ปี"

คิดเหมือนกัน คนญี่ปุ่นเป็นพวก risk averse แต่พี่ไทยเรา บ่ จ้ายครับ

แต่ยังไงๆ หุ้นตัวนี้ก็ดี จริงๆนะผมว่า

[david]

I  used 2 b the same as many investors when I read some papers 3-4 years ago ,that the percentage of Thai people who have mobiles was less than 40% compared to the percentage of Japaneses who had mobiles which was more than 90%.And the analyst forecast that the former percentage should reach 80-90% in 5 years.Now,it reachs more than 80%.
All in all,I have 2 say THANK YOU again to Khun Worapong n Khun Look-E-Sarn 4 add this stock inti my universe.

[A man from the Islay]

งั้นเราไม่ไปเอา IPO ของ BKL ของแบงค์กรุงเทพแทนหละครับ?

Model ก็อาจจะคล้ายๆกันรึป่าวครับ? ในขณะที่ราคาก็น่าจะซื้อได้มากกว่า SNNYL ที่ตอนนี้ไปถึงไหนๆแล้ว................

[david]

งั้นเราไม่ไปเอา IPO ของ BKL ของแบงค์กรุงเทพแทนหละครับ?

Model ก็อาจจะคล้ายๆกันรึป่าวครับ? ในขณะที่ราคาก็น่าจะซื้อได้มากกว่า SNNYL ที่ตอนนี้ไปถึงไหนๆแล้ว................

I think the IPO of BKL will benefit SCNYL,coz,the P/E of the former one will b high,so,some investors will ask themselves that y I should subscrice the IPO than buy the latter one which has the lower P/E n has a better growth rate.Pls read this news.
ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ โกยกำไรไตรมาสแรกเพิ่ม 74%

กรุงเทพฯ : 2 มิถุนายน 2551 : บมจ. ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต (SCNYL) ฝ่ากระแสเศรษฐกิจผันผวน ประเดิมไตรมาสแรกโกยกำไรสุดสุดของกล่มธุรกิจบริษัทประกันภัยและประกันชีวิตที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยมีกำไรสุทธิรวม 324.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้านยอดขาย 4 เดือนแรกยังทำตลาดได้ตามเป้า


นายโดนอลด์ คาร์ดีน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงไตรมาสแรกปีนี้มีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยมีกำไรสุทธิรวม 324.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้เพียง 186 ล้านบาท มีกำไรสุทธิต่อหุ้น 4.88 บาท เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 2.80 บาท ส่วนรายได้รวมเติบโต 20.41% เป็น 4,139 ล้านบาท ขณะที่สินทรัพย์รวมขยับเพิ่ม 10.64% จาก 28,051 ล้านบาท เป็น 31,036 ล้านบาท และมีกำไรจากการลงทุนสิทธิ 88.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 33.83%

เขากล่าวต่อว่า เราพอใจมาก ที่บริษัทสามารถบริหารงานได้ตามเป้าหมาย และรักษาอัตราเติบโตด้านกำไรได้โดดเด่นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2549 ซึ่งในไตรมาสแรกปีนี้ ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ สามารถทำกำไรได้สูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มธุรกิจประกันภัยที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ ยังคงนโยบายการลงทุนทุนแบบรอบคอบ และระมัดระวังตามนโยบายของบริษัทแม่ คือ นิวยอร์คไลฟ์ โดยเน้นหนักการลงทุนแบบระยะยาวในพันธบัตรที่คุณภาพสูง ให้ผลตอบแทนแน่นอนและความเสี่ยงต่ำ อาทิ พันธบัตรรัฐบาล หรือหุ้นกู้ของธุรกิจเอกชนที่มีความมั่นคงทางการเงินสูง และมีการจัดอันดับระดับ A- ขึ้นไป เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้ถือกรมธรรม์

สำหรับยอดขายในมกราคม ถึง เมษายนปีนี้ ก็มีทิศทางการเติบโตที่ดีเช่นกัน มีเบี้ยปีแรกจากทุกช่องทางการจำหน่ายทั้งสิ้น 2,255 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 14% โดยช่องทางตัวแทน ขยายตลาดได้ดีเกินความคาดหมาย ซึ่งเป็นผลสำเร็จจากการรุกหนักรีครูทตัวแทนใหม่ และเพิ่มผลผลิตต่อหัวของตัวแทนทุกระดับทั่วประเทศ พร้อมกับการขยายสาขาใหม่ๆ เพิ่มอีก 3 แห่ง เพื่อสนับสนุนให้ตัวแทนบุกเบิกตลาดใหม่ ๆ ได้ครอบคลุมมากขึ้น ทำให้ช่องทางตัวแทนเติบโตก้าวกระโดดถึง 60% ซึ่งสูงกว่าอัตราเฉลี่ยของตลาดโดยรวม ขณะที่ช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ ซึ่งเป็นผู้นำในตลาดนั้น ยังรักษาการเติบโตได้เช่นกัน โดยเฉพาะยอดขายประเภทรายบุคคล ขยายตัว 29% ส่วนช่องทางประกันชีวิตธุรกิจเฉพาะซึ่งประกอบด้วย การตลาดองค์กร เทเลมาร์เกตติ้ง เครดิตไลฟ์ และประกันกลุ่ม เติบโต 13%

จากสถิติของสมาคมประกันชีวิตไทยในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ ขยับจากอันดับ 6 ในปลายปีที่แล้ว มาอยู่อันดับ 3 ในด้านเบี้ยรับรวม มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 7.5% จากเดิม 6.0% และยังครองอันดับ 3 ในส่วนของเบี้ยใหม่ ด้วยส่วนแบ่งตลาด 10%

นายโดนอลด์ กล่าวทิ้งท้ายว่า แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในขณะนี้ยังผันผวน จากปัจจัยทางการเมือง และราคาน้ำมันที่สูงขึ้น เรามองว่าธุรกิจโดยรวมยังมีแนวโน้มที่ดี ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญ และต้องการลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลตอบแทนที่มั่นคง และแน่นอนผ่านประกันชีวิตมากขึ้น โดยกลยุทธ์การตลาดในช่วงที่เหลือนี้ บริษัทจะเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จของช่องทางตัวแทน ควบคู่กับการขยายตลาดในช่องทางอื่น ๆ อีก 5 ช่องทางให้แข็งแกร่ง และเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ๆ มากขึ้น รวมทั้งเพิ่มศักยภาพการบริการลูกค้า และกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ เพื่อสร้างความจงรักภักดีในระยะยาว และฝึกอบรมให้ฝ่ายขายทุกช่องทางให้เร่งประชาสัมพันธ์การเพิ่มสิทธิประโยชน์ค่าลดหย่อนภาษีจากเบี้ยประกันชีวิตจากไม่เกิน 50,000 บาท เป็น 100,000 บาทให้มากขึ้นด้วย