มีความเห็นยังไงกันบ้างกับบทความนี้ครับ? "สัญญาณร้ายรอบ
- คัดท้าย
- Verified User
- โพสต์: 2917
- ผู้ติดตาม: 0
มีความเห็นยังไงกันบ้างกับบทความนี้ครับ? "สัญญาณร้ายรอบ
โพสต์ที่ 1
มีความเห็นยังไงกันบ้างกับบทความนี้ครับ ?
สัญญาณร้ายรอบ 2 ปี
สัญญาณร้ายรอบ 2 ปี
เนชั่นสุดสัปดาห์ ปีที่ 13 ฉบับที่ 627 วันที่ 7 - 13 มิ.ย. 2547
ทุกปลายเดือน ธนาคารแห่งประเทศไทยจะแถลงตัวเลขเศรษฐกิจ โดยตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดประจำเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้ทุกฝ่ายต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพราะปรากฏสัญญาณลบทางเศรษฐกิจเกิดขึ้น
ภาวะเศรษฐกิจในเดือนมีนาคมและเมษายนปีนี้ เป็นที่รับรู้กันก่อนหน้าแล้วว่า ไม่ดีนัก โดยเฉพาะการส่งออก เนื่องจากมียอดขาดดุลการค้าต่อเนื่อง 2 เดือน ซึ่งแม้ยอดขาดดุลการค้าจะไม่สูง แต่ประเทศไทยเกินดุลการค้ามายาวนานแล้ว เมื่อเกิดภาวะขาดดุลการค้า จึงเป็นสิ่งที่ต้องกังวล
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขที่ตอกย้ำความกังวลตามมาคือ การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นการขาดดุลครั้งแรกในรอบ 2 ปี นับจากเดือนเมษายนปี 2545
ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยตัวเลขการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือนเมษายนว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 19 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสาเหตุการขาดดุลเนื่องจากยอดการนำเข้าน้ำมันเพิ่มขึ้น 70% ดุลบริการเกินดุลลดลง และนักลงทุนต่างชาติมีการส่งกำไรและเงินปันผลออก
ตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนเมษายน แม้จะมีจำนวนเพียง 19 ล้านดอลลาร์ แต่ถือเป็นปรากฏการณ์ร้ายทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะต้องรอดูว่าเป็นปรากฏการณ์ชั่วคราว หรือเป็นสิ่งที่ปรากฏอย่างต่อเนื่อง
ประเทศไทยเคยตกอยู่ในวิกฤติดุลบัญชีเดินสะพัดมาแล้ว เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน โดยดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลต่อเนื่องหลายปี จนนำไปสู่การโจมตีค่าเงินในปี 2540 ทำให้ระบบเศรษฐกิจล่มสลาย
บัญชีเดินสะพัดเป็นการวัดฐานะทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด จะนำไปสู่ฐานะทางการเงินที่มั่นคงของประเทศ และทุนสำรองระหว่างประเทศที่พุ่งขึ้นระดับ 42.7 พันล้านดอลลาร์ เมื่อสิ้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ก็เกิดจากประเทศเกินดุลบัญชีเดินสะพัดต่อเนื่องกัน 2 ปี
2 ปีที่ผ่านมา ประเทศสะสมทุนจากการส่งออกและภาคการบริการ ซึ่งอยู่ในภาวะเกินดุล ทำให้ประเทศมีเงินไหลเข้ามากว่าไหลออก แต่เดือนเมษายนเงินไหลออกมากกว่าไหลเข้า
สาเหตุใหญ่ที่ทำให้รายจ่ายประเทศพุ่งแซงหน้ารายรับ เนื่องจากราคาน้ำมัน โดยราคาน้ำมันทะยานอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องซื้อน้ำมันในราคาที่แพงขึ้น ยอดมูลค่าน้ำมันพุ่งเดือนเมษายนเดือนเดียวกว่า 70% ขณะที่รายได้จากการท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นรายได้ภาคบริการก็ชะลอตัวลง เพราะผลกระทบจากการก่อการร้ายและเหตุการณ์ในภาคใต้
แม้การขาดดุลบัญชีเดินสะพัด จะถูกประเมินด้วยสายตาในแง่ดีจากฝ่ายรัฐบาล โดยอ้างว่าจะเป็นปรากฏการณ์ชั่วคราว และไม่ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจมากนัก แต่จะมั่นใจได้อย่างไรว่า สัญญาณร้ายทางเศรษฐกิจจะสิ้นสุดในระยะสั้น
เพราะราคาน้ำมันยังมีความผันผวน สถานการณ์ก่อการร้ายก็ยังดำเนินต่อไป และสถานการณ์ภาคใต้ไม่มีแนวโน้มที่จะสงบ
แม้การส่งออกยังเติบโตสูง และมีแนวโน้มที่จะเติบโตสูงได้ต่อเนื่อง เพราะมีการตรึงราคาน้ำมัน ตรึงต้นทุนผลิตสินค้าไว้ ทำให้ได้เปรียบการแข่งขันในตลาดโลก แต่จะต้องเร่งการส่งออกขนาดไหน อัตราเติบโตจึงสามารถชดเชยราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นได้ โดยไม่เกิดปัญหาขาดดุลการค้าต่อจากเดือนมีนาคมและเมษายน
และจะคาดหวังดุลภาคบริการเกินดุลได้เพียงใด ในเมื่อสถานการณ์ก่อการร้ายยังคุกรุ่น และภาคใต้ยังมีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นรายวัน ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติหวาดผวา หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าประเทศไทย ฉุดให้รายได้จากการท่องเที่ยวหดลง
รัฐบาลจะมองโลกในแง่ดีก็มองไป แต่จะห้ามนักวิชาการ ห้ามนักธุรกิจและนักลงทุน ไม่ให้หวั่นไหวกับปรากฏการณ์ร้ายทางเศรษฐกิจไม่ได้
จะไม่ให้กลัวปัญหาการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดได้ยังไง เพราะปัญหาขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ทำให้เศรษฐกิจล่มสลายครั้งใหญ่มาแล้ว และการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นต่อเนื่องได้เสียด้วย
เพราะต้นเหตุของการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดยังไม่อาจแก้ไขหรือควบคุมได้
วิกฤติราคาน้ำมันครั้งนี้ ส่งผลกระทบลุกลามกว้างไกลเกินกว่าที่จะคาดหมาย แม้จะเพิ่งขยับในระดับสูงเพียงไม่กี่เดือน ถ้าราคาน้ำมันทะยานต่อเนื่องในระยะยาว เศรษฐกิจโลกจะสะเทือนหนัก ส่วนเศรษฐกิจไทยจะน่าเป็นห่วงมากๆ
น่าเป็นห่วงเพราะรัฐบาลมองสัญญาณร้ายในด้านบวกมากเกินไป จึงไม่ได้เตรียมมาตรการรับมือผลกระทบไว้มากนัก และประชาชนแทบจะไม่มีการปรับตัวกับผลกระทบที่กำลังจะพุ่งใส่แต่อย่างใด เนื่องจากมีการตรึงราคาไว้ จนไม่รู้สึกถึงพิษสงน้ำมันแพง
แต่ถ้าน้ำมันขยับต่อ และถ้ารัฐบาลตรึงราคาไม่อยู่ ระบบเศรษฐกิจคงจะปั่นป่วน ประชาชนผู้บริโภคจะเจอศึกใหญ่ ถึงตอนนั้น ปัญหาขาดดุลบัญชีเดินสะพัดอาจเป็นเพียงปัญหารองหรือปัญหาเล็กเหมือนที่รัฐบาลพยายามจะมองก็ได้
เพราะปัญหาการสร้างภาพเศรษฐกิจ การเรียกความเชื่อมั่น การประคับประคองให้จีดีพีเติบโตต่อเนื่อง อาจเป็นปัญหาใหญ่เฉพาะหน้าของรัฐบาลก็ได้
ปรากฏการณ์ร้ายทางเศรษฐกิจ ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น หรือเพิ่งจะถูกสะท้อนจากการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด โดยเกิดขึ้นมาเป็นระยะๆ ก่อนหน้าแล้ว เพียงแต่ถูกกลบเกลื่อน ถูกประเมินกันด้วยสายตาในแง่ดีมาตลอด
แต่ตอนนี้สัญญาณร้ายกำลังเป็นรูปเป็นร่างที่เห็นชัดขึ้นแล้ว ใครไม่กลัวก็ใจแข็งเต็มทนแล้ว
สัญญาณร้ายรอบ 2 ปี
สัญญาณร้ายรอบ 2 ปี
เนชั่นสุดสัปดาห์ ปีที่ 13 ฉบับที่ 627 วันที่ 7 - 13 มิ.ย. 2547
ทุกปลายเดือน ธนาคารแห่งประเทศไทยจะแถลงตัวเลขเศรษฐกิจ โดยตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดประจำเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้ทุกฝ่ายต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพราะปรากฏสัญญาณลบทางเศรษฐกิจเกิดขึ้น
ภาวะเศรษฐกิจในเดือนมีนาคมและเมษายนปีนี้ เป็นที่รับรู้กันก่อนหน้าแล้วว่า ไม่ดีนัก โดยเฉพาะการส่งออก เนื่องจากมียอดขาดดุลการค้าต่อเนื่อง 2 เดือน ซึ่งแม้ยอดขาดดุลการค้าจะไม่สูง แต่ประเทศไทยเกินดุลการค้ามายาวนานแล้ว เมื่อเกิดภาวะขาดดุลการค้า จึงเป็นสิ่งที่ต้องกังวล
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขที่ตอกย้ำความกังวลตามมาคือ การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นการขาดดุลครั้งแรกในรอบ 2 ปี นับจากเดือนเมษายนปี 2545
ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยตัวเลขการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือนเมษายนว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 19 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสาเหตุการขาดดุลเนื่องจากยอดการนำเข้าน้ำมันเพิ่มขึ้น 70% ดุลบริการเกินดุลลดลง และนักลงทุนต่างชาติมีการส่งกำไรและเงินปันผลออก
ตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนเมษายน แม้จะมีจำนวนเพียง 19 ล้านดอลลาร์ แต่ถือเป็นปรากฏการณ์ร้ายทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะต้องรอดูว่าเป็นปรากฏการณ์ชั่วคราว หรือเป็นสิ่งที่ปรากฏอย่างต่อเนื่อง
ประเทศไทยเคยตกอยู่ในวิกฤติดุลบัญชีเดินสะพัดมาแล้ว เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน โดยดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลต่อเนื่องหลายปี จนนำไปสู่การโจมตีค่าเงินในปี 2540 ทำให้ระบบเศรษฐกิจล่มสลาย
บัญชีเดินสะพัดเป็นการวัดฐานะทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด จะนำไปสู่ฐานะทางการเงินที่มั่นคงของประเทศ และทุนสำรองระหว่างประเทศที่พุ่งขึ้นระดับ 42.7 พันล้านดอลลาร์ เมื่อสิ้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ก็เกิดจากประเทศเกินดุลบัญชีเดินสะพัดต่อเนื่องกัน 2 ปี
2 ปีที่ผ่านมา ประเทศสะสมทุนจากการส่งออกและภาคการบริการ ซึ่งอยู่ในภาวะเกินดุล ทำให้ประเทศมีเงินไหลเข้ามากว่าไหลออก แต่เดือนเมษายนเงินไหลออกมากกว่าไหลเข้า
สาเหตุใหญ่ที่ทำให้รายจ่ายประเทศพุ่งแซงหน้ารายรับ เนื่องจากราคาน้ำมัน โดยราคาน้ำมันทะยานอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องซื้อน้ำมันในราคาที่แพงขึ้น ยอดมูลค่าน้ำมันพุ่งเดือนเมษายนเดือนเดียวกว่า 70% ขณะที่รายได้จากการท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นรายได้ภาคบริการก็ชะลอตัวลง เพราะผลกระทบจากการก่อการร้ายและเหตุการณ์ในภาคใต้
แม้การขาดดุลบัญชีเดินสะพัด จะถูกประเมินด้วยสายตาในแง่ดีจากฝ่ายรัฐบาล โดยอ้างว่าจะเป็นปรากฏการณ์ชั่วคราว และไม่ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจมากนัก แต่จะมั่นใจได้อย่างไรว่า สัญญาณร้ายทางเศรษฐกิจจะสิ้นสุดในระยะสั้น
เพราะราคาน้ำมันยังมีความผันผวน สถานการณ์ก่อการร้ายก็ยังดำเนินต่อไป และสถานการณ์ภาคใต้ไม่มีแนวโน้มที่จะสงบ
แม้การส่งออกยังเติบโตสูง และมีแนวโน้มที่จะเติบโตสูงได้ต่อเนื่อง เพราะมีการตรึงราคาน้ำมัน ตรึงต้นทุนผลิตสินค้าไว้ ทำให้ได้เปรียบการแข่งขันในตลาดโลก แต่จะต้องเร่งการส่งออกขนาดไหน อัตราเติบโตจึงสามารถชดเชยราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นได้ โดยไม่เกิดปัญหาขาดดุลการค้าต่อจากเดือนมีนาคมและเมษายน
และจะคาดหวังดุลภาคบริการเกินดุลได้เพียงใด ในเมื่อสถานการณ์ก่อการร้ายยังคุกรุ่น และภาคใต้ยังมีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นรายวัน ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติหวาดผวา หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าประเทศไทย ฉุดให้รายได้จากการท่องเที่ยวหดลง
รัฐบาลจะมองโลกในแง่ดีก็มองไป แต่จะห้ามนักวิชาการ ห้ามนักธุรกิจและนักลงทุน ไม่ให้หวั่นไหวกับปรากฏการณ์ร้ายทางเศรษฐกิจไม่ได้
จะไม่ให้กลัวปัญหาการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดได้ยังไง เพราะปัญหาขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ทำให้เศรษฐกิจล่มสลายครั้งใหญ่มาแล้ว และการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นต่อเนื่องได้เสียด้วย
เพราะต้นเหตุของการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดยังไม่อาจแก้ไขหรือควบคุมได้
วิกฤติราคาน้ำมันครั้งนี้ ส่งผลกระทบลุกลามกว้างไกลเกินกว่าที่จะคาดหมาย แม้จะเพิ่งขยับในระดับสูงเพียงไม่กี่เดือน ถ้าราคาน้ำมันทะยานต่อเนื่องในระยะยาว เศรษฐกิจโลกจะสะเทือนหนัก ส่วนเศรษฐกิจไทยจะน่าเป็นห่วงมากๆ
น่าเป็นห่วงเพราะรัฐบาลมองสัญญาณร้ายในด้านบวกมากเกินไป จึงไม่ได้เตรียมมาตรการรับมือผลกระทบไว้มากนัก และประชาชนแทบจะไม่มีการปรับตัวกับผลกระทบที่กำลังจะพุ่งใส่แต่อย่างใด เนื่องจากมีการตรึงราคาไว้ จนไม่รู้สึกถึงพิษสงน้ำมันแพง
แต่ถ้าน้ำมันขยับต่อ และถ้ารัฐบาลตรึงราคาไม่อยู่ ระบบเศรษฐกิจคงจะปั่นป่วน ประชาชนผู้บริโภคจะเจอศึกใหญ่ ถึงตอนนั้น ปัญหาขาดดุลบัญชีเดินสะพัดอาจเป็นเพียงปัญหารองหรือปัญหาเล็กเหมือนที่รัฐบาลพยายามจะมองก็ได้
เพราะปัญหาการสร้างภาพเศรษฐกิจ การเรียกความเชื่อมั่น การประคับประคองให้จีดีพีเติบโตต่อเนื่อง อาจเป็นปัญหาใหญ่เฉพาะหน้าของรัฐบาลก็ได้
ปรากฏการณ์ร้ายทางเศรษฐกิจ ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น หรือเพิ่งจะถูกสะท้อนจากการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด โดยเกิดขึ้นมาเป็นระยะๆ ก่อนหน้าแล้ว เพียงแต่ถูกกลบเกลื่อน ถูกประเมินกันด้วยสายตาในแง่ดีมาตลอด
แต่ตอนนี้สัญญาณร้ายกำลังเป็นรูปเป็นร่างที่เห็นชัดขึ้นแล้ว ใครไม่กลัวก็ใจแข็งเต็มทนแล้ว
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
มีความเห็นยังไงกันบ้างกับบทความนี้ครับ? "สัญญาณร้ายรอบ
โพสต์ที่ 2
คลังน้ำมันเป็นความคิดที่ดี แต่ทำให้ต้นทุนสูงขึ้นครับ เพราะการสร้าง
คลังน้ำมันที่ปลอดภัยสูงสุดนั้น หมายถึงเงินจำนวนมาก ทั้งตอนเริ่มต้น
และการดูแลรักษา
ตราบใดที่เราผลิตน้ำมันเองไม่ได้ เรื่องความผันผวนของราคาน้ำมัน
เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ
การหาแหล่งทดแทนน้ำมันเชื้อเพลิงน่าจะเป็นทางออกที่ดี ควรจะพัฒนา
เกษตรกรรมในไทยโดยเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้มากๆ เพื่อเป็นวัตถุดิบสำหรับ
Ethanol ในขณะเดียวกันก็มีการรณรงค์ให้ใช้ Ethanol อย่างจริงจัง นับ
ตั้งแต่การยกเว้นภาษีผู้ผลิตรถเครื่องยนต์พิเศษสำหรับ Ethanol การปล่อย
ราคาน้ำมันเบนซินลอยตัว การบังคับใช้ GASOHOL ในฤดูร้อนเพื่อลด
มลพิษ การสนับสนุนงานวิจัย ฯลฯ
พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อใช้ตามหมู่บ้านก็วิธีการประหยัดน้ำมันที่ดี เพียงแต่
ค่าดูแลรักษาอาจจะสูง ทำให้ไม่คุ้ม
คลังน้ำมันที่ปลอดภัยสูงสุดนั้น หมายถึงเงินจำนวนมาก ทั้งตอนเริ่มต้น
และการดูแลรักษา
ตราบใดที่เราผลิตน้ำมันเองไม่ได้ เรื่องความผันผวนของราคาน้ำมัน
เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ
การหาแหล่งทดแทนน้ำมันเชื้อเพลิงน่าจะเป็นทางออกที่ดี ควรจะพัฒนา
เกษตรกรรมในไทยโดยเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้มากๆ เพื่อเป็นวัตถุดิบสำหรับ
Ethanol ในขณะเดียวกันก็มีการรณรงค์ให้ใช้ Ethanol อย่างจริงจัง นับ
ตั้งแต่การยกเว้นภาษีผู้ผลิตรถเครื่องยนต์พิเศษสำหรับ Ethanol การปล่อย
ราคาน้ำมันเบนซินลอยตัว การบังคับใช้ GASOHOL ในฤดูร้อนเพื่อลด
มลพิษ การสนับสนุนงานวิจัย ฯลฯ
พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อใช้ตามหมู่บ้านก็วิธีการประหยัดน้ำมันที่ดี เพียงแต่
ค่าดูแลรักษาอาจจะสูง ทำให้ไม่คุ้ม
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
มีความเห็นยังไงกันบ้างกับบทความนี้ครับ? "สัญญาณร้ายรอบ
โพสต์ที่ 3
ต้องไปตามศึกษา ว่า 4 เครื่องยนต์ ที่จะทำให้ เครื่องบิน เดินหน้าไปได้ มีตัวไหน เริ่ม ติดขัด กันบ้าง ............ แต่ที่ รู้ ๆ ว่า ตอนนี้ ที่เราดีขึ้นมากจากโคม่า เพราะ การบริโภคภายในประเทศของระดับกลางและล่าง.........เครื่องยนต์ทางด้านการค้า ก็ ได้พึ่งส่งออกให้มากกว่า นำเข้า แต่เริ่มจะติดขัด เพราะเดินเมษา มีการนำเข้ามากกว่าส่งออก ก็ เป็นสัญญาณว่า เริ่มติดขัดนิด ๆ...... พวก ส่ง ออก ช่วยกัน ทำงาน หนัก ๆ กันหน่อย.......ส่วนพวกนำเข้า ก็ ขอให้ เกลียดคร้าน กัน บ้าง ไม่ต้องขยันนะครับ โดยเฉพาะสินค้าแบบฟุ่มเฟือย........ใคร ใส่ น้ำหอม ทุกวัน ก็ ให้ใส่น้อยวันลงด้วยนะ ช่วยกันประหยัดหน่อย........ใช้น้ำมันรถยนต์ มาก ๆ ก็ใช้ บริการ รถเมล์ หรือ BTS กันบ้าง........ผมนะ ชอบ สุด ๆ ใช้ BTS แล้วก็ เดิน ต่อ ไป ยังจุดหมายปลายทาง
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
มีความเห็นยังไงกันบ้างกับบทความนี้ครับ? "สัญญาณร้ายรอบ
โพสต์ที่ 4
ถ้าถามผมว่าเราควรกังวลกับเศรษฐกิจของไทยตอนนี้หรือไม่ การขาดดลบัญชีเดินสะพัดน่ากลัวและจะเกิดเหตการณ์แบบคราวก่อนหรือไม่
ตามความเห็นของผมนั้น ผมคิดว่ายังไม่น่าห่วงครับ
การขาดดลการค้าบ้างนั้น ผมว่ายังไม่น่ากังวลมากนัก ถ้าการขาดดลนั้นไม่เกิดขึ้นอย่างมากมายเมื่อเทียบกับ GDP และขาดดลยาวนานต่อเนื่อง (จีน และสหรัฐก็ขาดดลการค้าเหมือนกัน) ในปีก่อนๆ ไทยก็มีการขาดดลในบางเดือนเหมือนกัน
การขาดดลบัญชีเดินสะพัด การขาดดลเพียงเล็กน้อยก็ยังไม่น่ากังวลครับ คราวก่อนที่เกิดปัญหาขาดดลประมาณ 8% ของ GDP การส่งออกถดถอยลดลงครับ อีกทั้งระบบอัตราแลกเปลี่ยนก็เป็นแบบตระกร้าที่เปลี่ยนแปลงน้อยมาก หนี้เงินก้ยืมจากต่างประเทศระยะสั้นก็มากมาย เปรียบได้เหมือนกับ บริษัทที่มีหนี้เงินก้ระยะสั้นจำนวนมาก กระแสเงินสดจากการดำเนินงานก็ติดลบ ต้องอาศัยการก้ยืมเงินมาหมนเวียนในบริษัท ผลการดำเนินงานก็ขาดทน และยอดขายยังลดลงอีก
แต่คราวนี้ บริษัทมีหนี้น้อยมาก ยอดขายยังคงเติบโต และใช้กำลังการผลิตจนเกือบ 100% แล้ว จึงมีการขยายการลงทนเพิ่ม จึงมีการก้ยืมเงินเพิ่ขยายการลงทน รวมทั้งมีการซื้อวัตถดิบเพิ่มเติม แต่โครงการใหม่ยังผลิตได้ไม่เต็มที่ แต่ค่าใช้จ่ายโครงการหใม่เกิดขึ้นแล้ว ผลการดำเนินงานจึงขาดทนบ้างในช่วงแรกๆ ซึ่งถ้ายอดขายยังไม่ดีขึ้น เราก็อาจจะลดราคาสินค้าลง นั้นก็คือค่าเงินบาทก็จะอ่อนค่าลง
สิ่งที่น่าจับตามอง การขาดดลการค้า และการขาดดลัญชีเดินสะพัด จะขาดทนเพิ่มขึ้นและต่อเนื่องหรือไม่ การส่งออกยังคงรักษาอัตราเติบโตที่ดีหรือไม่
แต่ถึงยังไงก็คงไม่แย่แบบคราวก่อน เพราะ เรามีหนี้ต่างชาติน้อย มีเงินทนสำรองจำนวนมาก และเราใช้อัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัวแล้ว
ตามความเห็นของผมนั้น ผมคิดว่ายังไม่น่าห่วงครับ
การขาดดลการค้าบ้างนั้น ผมว่ายังไม่น่ากังวลมากนัก ถ้าการขาดดลนั้นไม่เกิดขึ้นอย่างมากมายเมื่อเทียบกับ GDP และขาดดลยาวนานต่อเนื่อง (จีน และสหรัฐก็ขาดดลการค้าเหมือนกัน) ในปีก่อนๆ ไทยก็มีการขาดดลในบางเดือนเหมือนกัน
การขาดดลบัญชีเดินสะพัด การขาดดลเพียงเล็กน้อยก็ยังไม่น่ากังวลครับ คราวก่อนที่เกิดปัญหาขาดดลประมาณ 8% ของ GDP การส่งออกถดถอยลดลงครับ อีกทั้งระบบอัตราแลกเปลี่ยนก็เป็นแบบตระกร้าที่เปลี่ยนแปลงน้อยมาก หนี้เงินก้ยืมจากต่างประเทศระยะสั้นก็มากมาย เปรียบได้เหมือนกับ บริษัทที่มีหนี้เงินก้ระยะสั้นจำนวนมาก กระแสเงินสดจากการดำเนินงานก็ติดลบ ต้องอาศัยการก้ยืมเงินมาหมนเวียนในบริษัท ผลการดำเนินงานก็ขาดทน และยอดขายยังลดลงอีก
แต่คราวนี้ บริษัทมีหนี้น้อยมาก ยอดขายยังคงเติบโต และใช้กำลังการผลิตจนเกือบ 100% แล้ว จึงมีการขยายการลงทนเพิ่ม จึงมีการก้ยืมเงินเพิ่ขยายการลงทน รวมทั้งมีการซื้อวัตถดิบเพิ่มเติม แต่โครงการใหม่ยังผลิตได้ไม่เต็มที่ แต่ค่าใช้จ่ายโครงการหใม่เกิดขึ้นแล้ว ผลการดำเนินงานจึงขาดทนบ้างในช่วงแรกๆ ซึ่งถ้ายอดขายยังไม่ดีขึ้น เราก็อาจจะลดราคาสินค้าลง นั้นก็คือค่าเงินบาทก็จะอ่อนค่าลง
สิ่งที่น่าจับตามอง การขาดดลการค้า และการขาดดลัญชีเดินสะพัด จะขาดทนเพิ่มขึ้นและต่อเนื่องหรือไม่ การส่งออกยังคงรักษาอัตราเติบโตที่ดีหรือไม่
แต่ถึงยังไงก็คงไม่แย่แบบคราวก่อน เพราะ เรามีหนี้ต่างชาติน้อย มีเงินทนสำรองจำนวนมาก และเราใช้อัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัวแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 124
- ผู้ติดตาม: 0
มีความเห็นยังไงกันบ้างกับบทความนี้ครับ? "สัญญาณร้ายรอบ
โพสต์ที่ 5
ให้น้ำมัน แพงไปเรื่อยๆ
แพงมากก็ห้ามลงซะเลย ให้อยู่ลิตรละไม่ต่ำกว่า 20 บาท
แล้วคนจะได้หันมาหาพลังงานอื่นทดแทน
ถ้าน้ำมันโลกจะลดราคา
รัฐก็ตั้งภาษีสูงเข้าไว้
เพื่อปกป้องอุตสาหกรรม พลังงานทดแทน ในประเทศ
แพงมากก็ห้ามลงซะเลย ให้อยู่ลิตรละไม่ต่ำกว่า 20 บาท
แล้วคนจะได้หันมาหาพลังงานอื่นทดแทน
ถ้าน้ำมันโลกจะลดราคา
รัฐก็ตั้งภาษีสูงเข้าไว้
เพื่อปกป้องอุตสาหกรรม พลังงานทดแทน ในประเทศ
- Boomer
- Verified User
- โพสต์: 69
- ผู้ติดตาม: 0
มีความเห็นยังไงกันบ้างกับบทความนี้ครับ? "สัญญาณร้ายรอบ
โพสต์ที่ 6
ผมได้ไปเที่ยวคุณหมิง ทางตอนใต้ของจีน สิ่งที่ประทับใจที่สุดคือ อากาศสบายตลอดปี บ้านพักอาศัยจะไม่มีแอร์ แต่ทุกบ้านและอาคารจะมี solar cell สำหรับทำน้ำอุ่น ที่คุณหมิงแดดแรงมาก เมืองไทยน่าจะสนับสนุนให้ใช้ solar cell มากๆ นะครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
มีความเห็นยังไงกันบ้างกับบทความนี้ครับ? "สัญญาณร้ายรอบ
โพสต์ที่ 7
เป็นความคิดที่ดีมากครับ แต่คงไม่มีรัฐบาลไหนกล้าทำchoochart เขียน:รัฐก็ตั้งภาษีสูงเข้าไว้
เพื่อปกป้องอุตสาหกรรม พลังงานทดแทน ในประเทศ
เพราะคะแนนเสียงจะตก
ผมตั้งความหวังกับรบ.นี้ไว้สูง ว่าน่าจะกล้าทำในสิ่งที่คนอื่นไม่กล้า
เช่นปล่อยราคาน้ำมันเบ็นซินลอยตัวตั้งแต่กลางปีที่แล้ว
- คัดท้าย
- Verified User
- โพสต์: 2917
- ผู้ติดตาม: 0
มีความเห็นยังไงกันบ้างกับบทความนี้ครับ? "สัญญาณร้ายรอบ
โพสต์ที่ 8
จีนเค้าตื่นตัวเรื่องประหยัดพลังงานนะครับ ผมไปอ่านเจอนี่มาเหมือนกันBoomer เขียน:ผมได้ไปเที่ยวคุณหมิง ทางตอนใต้ของจีน สิ่งที่ประทับใจที่สุดคือ อากาศสบายตลอดปี บ้านพักอาศัยจะไม่มีแอร์ แต่ทุกบ้านและอาคารจะมี solar cell สำหรับทำน้ำอุ่น ที่คุณหมิงแดดแรงมาก เมืองไทยน่าจะสนับสนุนให้ใช้ solar cell มากๆ นะครับ
อ่านแล้วคิดเหมือนกันว่า ถ้ารัฐบาลไทยทำแบบนี้บ้าง ผมว่าคนไทยรักสบายหลายคน คงต้องออกมาด่ารัฐบาลแน่ๆ
http://www.manager.co.th/China/ViewNews ... 0000005024
จีนตื่นสู้วิกฤตพลังงานขาดแคลน วอนงดสวมชุดสูทตลอดหน้าร้อน
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 9 มิถุนายน 2547 01:09 น.
ซินหัวเน็ต/ไชน่าเดลี่/เอเอฟพี08/06/04 มังกรตื่นตัวรับวิกฤตพลังงานช่วงหน้าร้อน รณรงค์งดสวมชุดสูทและเสื้อผ้าพิธีการ ด้านปักกิ่งเน้นควบคุมอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศทั่วเมือง ในขณะที่เซี่ยงไฮ้ขอปรับเวลาการผลิตของโรงงานไปอยู่ในช่วงกลางคืน เพื่อลดปัญหาแย่งกันใช้กระแสไฟฟ้า
สำนักข่าวเอเอฟพีอ้างไชน่าเดลี่ยูธรายงานว่า ในช่วงเดือนมิ.ย.ถึง ส.ค.ซึ่งเป็นหน้าร้อนของจีน รัฐบาลกลางได้ออกมาตรการประหยัดพลังงานหลากหลายรูปแบบในคู่มือแจกจ่ายให้กับประชาชน โดยหนึ่งในจำนวนนั้น ได้เรียกร้องให้ประชาชนระงับการสวมชุดสูทและเสื้อผ้าพิธีการเป็นการชั่วคราว เพื่อให้เครื่องปรับอากาศปรับอุณหภูมิได้สูงขึ้นและประหยัดค่าใช้จ่าย จากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ถีบตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
มีการประเมินว่าความต้องการใช้พลังไฟฟ้าของจีนในปีนี้จะเพิ่มสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ประมาณ 15% อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากบางส่วนของประเทศจะต้องผจญกับคลื่นความร้อนที่รุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปี และทำให้โครงสร้างด้านพลังงานของประเทศเผชิญศึกหนัก
พร้อมกันนี้ ในส่วนของเมืองปักกิ่ง จากการดูดซับพลังงานไฟฟ้ากว่า 40% ของการบริโภคทั้งหมดทั่วเมืองในช่วงฤดูร้อน ที่อุณหภูมิในบางวันสูงถึง 40 องศาเซสเซียส เครื่องปรับอากาศจึงกลายเป็นผู้ร้ายตัวหลักของวิกฤตพลังงาน โดยขณะนี้เทศบาลเมืองปักกิ่งก็ได้ขอความร่วมมือไปยังโรงแรมชั้นดี 23 แห่งทั่วเมือง ให้ปรับอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศไว้ที่ 23 องศาเซสเซียส เพิ่มขึ้นจากปกติ 1 ระดับ ซึ่งคาดว่าจะช่วยประหยัดพลังงานได้ถึง 320 ล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง
ขณะเดียวกันที่เซี่ยงไฮ้ คณะกรรมการเศรษฐกิจและหน่วยงานทางการอีก 7 แห่ง ได้ร่วมกันออกมาตรการสนับสนุนให้โรงงานเปลี่ยนเวลาการผลิตไปอยู่ในช่วงกลางคืน พร้อมไปกับหยุดการให้สิทธิพิเศษด้านค่าธรรมการใช้ไฟในอุตสาหกรรมบางประเภท และหากในช่วงนั้นอุณหภูมิไต่ระดับไปอยู่ที่ 35 องศาเซสเซียส บริษัทและห้างร้านก็จะได้รับวันหยุดเพิ่ม แต่ก็จะต้องไปทำงานทดแทนในวันที่อากาศเย็นลงแล้ว
สำหรับในส่วนของอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า โรงแรมและสถานบันเทิงต่างๆ ก็ได้รับการเรียกร้องให้เปิดเครื่องปรับอากาศในระดับอุณหภูมิ 26 องศาเซสเซียสขึ้นไป ตลอดหน้าร้อนนี้
นอกจากนั้น ทางการเซี่ยงไฮ้ยังได้จัดทำโปสเตอร์เกี่ยวกับการประหยัดพลังงาน ติดอยู่ตามตู้โทรศัพท์ไปทั่วใจกลางเมือง และออกเป็นโฆษณารณรงค์ทางสื่อโทรทัศน์ ตลอดจนจัดตั้งศูนย์ฮอตไลน์ให้คำปรึกษาและรับฟังการร้องเรียนด้านการใช้พลังงานที่สิ้นเปลืองด้วย .
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
-
- Verified User
- โพสต์: 627
- ผู้ติดตาม: 0
มีความเห็นยังไงกันบ้างกับบทความนี้ครับ? "สัญญาณร้ายรอบ
โพสต์ที่ 9
รบ ไทย ก็ ชักชวนให้ คนไทยประหยัด พลังงาน กัน และ ใช้ สิ่งอื่น ทดแทน น้ำมัน ที ต้นทุนต่ำกว่า
ไม่เห็นต้องง้อน้ำมัน ตลอดนี่ครับ
ว่า แต่ รบ ไทย และคนไทย จะ ร่วมมือกัน ประหยัดอย่างจริงจังหรือไม่ เพียงใด ต่างหากครับ
ทุกอย่างก็น่าจะดีขึ้น ครับ
ไม่เห็นต้องง้อน้ำมัน ตลอดนี่ครับ
ว่า แต่ รบ ไทย และคนไทย จะ ร่วมมือกัน ประหยัดอย่างจริงจังหรือไม่ เพียงใด ต่างหากครับ
ทุกอย่างก็น่าจะดีขึ้น ครับ
ควรลงทุนอย่างรอบคอบ ในหุ้นดีและราคาไม่แพง ครับ