หุ้น pico น่าสนหรือเปล่า เห็นโบกเชียร์

[มือใหม่]

หุ้น pico น่าสนหรือเปล่า เห็นโบกเชียร์

P/E......6.12
P/Bv....1.12
Dvd. Yield(%)...... 4.79

Assets ..... 396.31
Liabilities .... 172.64
Equity .... 216.58


จาก kimeng

งานมอเตอร์ โชว์ และกิจกรรมการตลาด ผลักดันกำไรเพิ่ม 28%

บมจ. ปิโก (ไทยแลนด์) (PICO) ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 2/47 (1 ก.พ. - 30 เม.ย.) จำนวน 13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52% จากไตรมาสก่อน (qoq) และ 28% (yoy) มีสาเหตุหลักจากการจัดแสดงสินค้าให้กับหลายค่ายรถยนต์ในงานมอเตอร์โชว์และการเติบโตอย่างมากของรายได้จาก การจัดกิจกรรมการตลาด ขณะที่ฐานะการเงินของบริษัทยังคงแข็งแกร่งด้วยการมีเงินสดสุทธิ 100 ล้านบาทหรือ 1.54 บาท/หุ้น

กำไรในครึ่งแรกของปีเท่ากับ 21 ล้านบาทซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 52% ของกำไรที่เราคาดการณ์ทั้งปี เราจึงยังคงประมาณการเดิมที่คาดว่าบริษัทจะทำกำไรสุทธิได้ 40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% จากปีก่อน เนื่องจากการมีงานในมืออย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการขยายตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์ซึ่งเป็นหนึ่งในลูกค้าหลักของบริษัท

เราเชื่อว่าการตกลงของราคาหุ้น 40% นับตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย. ยังไม่ได้สะท้อนถึงผลการดำเนินงานของบริษัทที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันหุ้นซื้อขายที่ PER เพียง 6.1 เท่า ซึ่งมี Upside อีกถึง 98% ไปสู่ราคาที่เหมาะสมที่ 7.43 บาท ซึ่งประเมินด้วย PER 12 เท่า ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำ "ซื้อ"

คิดว่าน่าสนหรือไม่

[เพื่อนมายู]

บังเอิญวันนี้เพิ่งคว้ามาหน่อยนึงครับ ดูอยู่นานแล้ว ไม่ได้ฟังโบรกเกอร์นะครับ
ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นหุ้น VI ได้รึปล่าวนะครับ แต่เข้าข่ายหุ้น VS ได้แล้วครับ
ลักษณะกิจการประเภทนี้กำไรค่อนข้างดีครับ (ผมคลุกคลีงานประเภทนี้อยู่) PICOถือเป็นขาใหญ่ในวงการมาตั้งแต่ก่อนเข้าตลาดอยู่แล้ว คู่แข่งที่เป็นรายใหญ่จริงๆค่อนข้างน้อยครับ ราคาจองแรกเข้าตลาด6.25บาท ตอนนี้เหลือ 3.92 ทั้งๆที่ผลกำไรเพิ่ม dvd yield ปีนี้น่าจะได้มากกว่า 4.79% แล้วนะครับ ที่ห่วงอยู่อย่างเดียวคือระบบบริหารจริงใจต่อผู้ถือหุ้นรายย่อยแค่ไหน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก (วันนี้เลยไม่กล้าซื้อมากครับ)

[มือใหม่]

ข้อถามอีกหน่อยครับ

- มองดูแล้ว สินทรัพย์น้อยมาก คู่แข่งในตลาดมีใครบ้าง ร่วมถึงความเสี่ยงธุรกิจมีปัจจัยอะไรบ้าง
- ผู้ถือหุ้นใหญ่คือใครครับ แล้วเงินสด ที่ kimeng บอกว่ามี 1.54 บาท/หุ้น ถือว่าสูงครับมีความเห็นอย่างไร
- หนี้ระยาวมีหรือไม่ รวมถึงหนี้ความเสี่ยงมีอะไรบ้างครับ

ถ้าธุรกิจตัวนี้ดำเนินงานอย่างโปร่งใส ผมว่าราคาระดับนี้ มีเงินสดในมือ 1.54 บาท/หุ้น ในขณะราคาหุ้น 3.92 บาท

กล้าฟันธงว่าสุดคุ้มที่สุดครับ

ท่านใดรู้เบื้องลึก ของ pico ช่วยนำมาเล่าให้ฟังหน่อยครับ ถือว่าช่วยกันแสวงหาหุ้นดี ราคาถูก

[CK]

ดูดีมากครับ PICO โดยเฉพาะบนกระดาษ แต่ความเสี่ยงก็มีตัว
อย่างให้เห็นจาก ROYNET แล้วครับ ว่าถ้าผู้บริหารคื่อไม่ซิด
จะเป็นอย่างไร

หุ้น 60% ติด silent period 1.5 ปีก็จริง แต่แค่ 40% ก็ 24 ล้าน
หุ้น เทรดกันวันหนึ่งไม่กี่แสน ถ้าโดนกักจะหนาวนานเลยครับ

ถ้าต้องการเก็งกำไร ควรซื้อแต่น้อย
ถ้าต้องการถือยาว ต้องมั่นใจในผู้บริหารจริงๆ

[bluezaire]

ดื่อไม่ซิด คำนี้งงไปแปปนึงเลย แต่เห็นด้วยมากๆครับ ตอนเปิดตัวดูดีมากครับ แต่วูบเดียวเอง เลยได้แต่ดูห่างๆ

[เพื่อนมายู]

เห็นด้วยกับคุณ CK ครับ
คุณมือใหม่ ลองหารายละเอียดจาก www.set.or.th ดูซิครับ เผื่อจะเห็นอะไรเป็นประเด็นที่น่าสนใจนำมาช่วยกันวิเคราะห์
เรื่องคู่แข่งรายใหญ่ๆ ผมยังนึกไม่ค่อยออกเลยครับ จะลองๆสอบถามคนในวงการโดยตรงดูครับ ส่วนใหญ่ผมจะเจอแต่รายย่อยซึ่งรับงานในสเกลเล็กกว่าครับ กิจการนี้รับทั้งขึ้นทั้งร่องครับ อาศัยความชำนาญภายในเวลาสั้นๆเพื่อเนรมิตงานจัดแสดงขึ้นมา ตอนติดตั้งก็ได้ตัง ตอนรื้อถอนเพื่อไปเก็บในโกดัง ก็ยังคิดตังได้อีกครับ วัตถุดิบก็นำมาใช้หมุนเวียนไปได้เรื่อยๆจนกว่าจะหมดสภาพ เหตุที่มีคู่แข่งน้อยก็เนื่องจากต้องใช้ทักษะสูงในการทำงานภายในเวลาจำกัดต้องมีอุปกรณ์พร้อมและครบครัน คนที่คิดจะเข้ามาแข่งขันถ้าไม่พร้อมจริงๆคงหมดสิทธิครับ เพราะคนจ้างยอมจ่ายแพงกว่าเพื่อซื้อความมั่นใจครับ ที่ผมสงสัยกว่าคือ เค้าเข้าตลาดมาทำไมในเมื่อทำกำไรได้สบายๆอยู่แล้ว ถ้าอ่านมาไม่ผิดก่อนเข้าตลาดปีล่าสุดกำไรเค้ามากกว่า100%นะครับ ไม่เห็นต้องพึ่งพิง ตลาด ลักทรัพย์เลย

ถ้าจะวิเคราะห๋เชิงลึกๆคงต้องรบกวนมือวิเคราะห์ชั้นเซียนประจำเว็ปนี้มาช่วยกันดูครับ นอกจากคุณ CK ก็แน่นอนต้องคุณครรชิตผู้แม่นยำในตัวเลข ตามด้วยคุณลูกอีสาน(วิเคราะห์ข้อมูลเชิงกิจการได้ลึกมากๆ) คุณฉัตรชัย นักวิเคราะห์งบการเงิน ซึ่งอาจจะมองเห็นพิรุจในงบการเงินได้ คุณเจ๋งนักขุดคุ้ยประเด็นที่เรามักจะนึกไม่ถึง และอีกหลายๆท่านที่เก่งๆในเว็บนี้ครับ

ผมว่าถ้ามีเวลามาช่วยกันวิเคราะห์ สนุกๆ เป็นความรู้ดีเหมือนกันนะครับ

[BEN]

รายงานการสอบทานงบการเงินโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต

เสนอคณะกรรมการ
บริษัท ปิโก (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)

ข้าพเจ้าได้สอบทานงบดุลรวมของบริษัท ปิโก (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย และงบดุลเฉพาะของบริษัท ปิโก (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ณ วันที่ 30 เมษายน 2547 งบกำไรขาดทุนรวมและงบกำไรขาดทุนเฉพาะของบริษัทสำหรับไตรมาสและสำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 เมษายน 2547 และ 2546 งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของผู้ถือหุ้นรวมและงบกระแสเงินสดรวม และงบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของผู้ถือหุ้น และงบกระแสเงินสดเฉพาะของบริษัทสำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 เมษายน 2547 และ 2546 ซึ่งผู้บริหารของกิจการเป็นผู้รับผิดชอบต่อความถูกต้องและครบถ้วนของข้อมูลในงบการเงินเหล่านี้ ส่วนข้าพเจ้าเป็นผู้รับผิดชอบในการรายงานต่องบการเงินดังกล่าวจากผลการสอบทานของข้าพเจ้า

ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติงานสอบทานตามมาตรฐานการสอบบัญชีที่เกี่ยวกับการสอบทานซึ่งกำหนดให้ข้าพเจ้าต้องวางแผนและปฏิบัติงานสอบทาน เพื่อให้ได้ความเชื่อมั่นอย่างพอประมาณว่า งบการเงิน
แสดงข้อมูลที่ขัดต่อข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญหรือไม่ การสอบทานนี้มีขอบเขตจำกัด โดยส่วนใหญ่ใช้วิธีการสอบถามบุคลากรของกิจการ และการวิเคราะห์เปรียบเทียบข้อมูลทางการเงิน จึงให้ความเชื่อมั่นน้อยกว่าการตรวจสอบตามมาตรฐานการสอบบัญชีที่รับรองทั่วไป ดังนั้นข้าพเจ้าจึงไม่อาจแสดงความเห็นต่องบการเงินที่สอบทานได้

ข้าพเจ้าไม่พบสิ่งที่เป็นเหตุให้เชื่อว่า งบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะของบริษัทดังกล่าว ไม่ถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไปจากการสอบทานของข้าพเจ้า

- 2 -

ข้าพเจ้าได้เคยตรวจสอบงบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะของบริษัท ปิโก (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ตุลาคม 2546 ตามมาตรฐานการสอบบัญชีที่รับรองทั่วไปและเสนอรายงานไว้อย่างไม่มีเงื่อนไขตามรายงานลงวันที่ 17 ธันวาคม 2546 งบดุลรวมและงบดุลเฉพาะของบริษัท ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2546 ที่แสดงเปรียบเทียบเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินที่ข้าพเจ้าได้ตรวจสอบและเสนอรายงานไว้แล้วดังกล่าว ข้าพเจ้ามิได้ใช้วิธีการตรวจสอบอื่นใดภายหลังจากวันที่ในรายงานนั้น



สมพร ดุลยวิทย์
กรุงเทพมหานคร ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขทะเบียน 3709
วันที่ 1 มิถุนายน 2547 สำนักงานดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ



แบบนี้ถือว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลหรือเปล่าครับ

[BEN]

EPS

EPS03 0.46
EPS02 0.36
EPS01 0.26

แสดงให้เห็นว่าปีก่อนๆนั้นทำ EPS ได้ q ละประมาณ 0.07
และสามารถทำ EPS ได้อย่างโดดเด่นใน 2Q03 1Q04 2Q04

1Q04 0.23
2Q04 0.19

1Q03 0.05
2Q03 0.29
3Q03+4Q03 0.12เฉลี่ย q ละ 0.06

สมมุติว่าไตรมาส 3 และ 4 ในปีนี้ ทำได้ ไตรมาสละ 0.07 จะได้ EPS 04 เท่ากับ 0.56 ครับ ณ ราคาตรงนี้ คือ 3.92 ได้ PE = 7 PB = 1.13

เงินกู้ยืมระยะยาวประมาณ 8.2M ครับ ถือว่าไม่สูงครับ เมื่อเทียบกับกำไรที่ทำได้ในปี04 ประมาณ 30M

ROE อยู่ที่ 30/223 = 14%

อยากทราบเรื่องคู่แข่ง และจุดเด่นของบริษัทครับ ใครพอจะมีข้อมูลบ้าง

[เพื่อนมายู]

เช้านี้ไม่รู้ใครตั้งรับไป 100,000 หุ้นที่3.92
ดูจากคนขายแล้ว สงสัยวันนี้อดได้ซะแล้ว ไม่ชอบไล่ราคากับเค้าซะด้วย...อิอิอิ

[มือใหม่]

นั้นสิ ผมก็คิดเหมือนกัน กำไรดีขนาดนี้ ด้วยสินทรัพย์อันน้อยนิด ทำไมต้องเข้าตลาดด้วย

แต่คิดว่าซื้อเกร็งกำไรระยะสั้นน่าจะเป็นทางเลือกน่าเล่นที่สุดครับ

[มือใหม่ unlog]

อิจฉาคุณ เพื่อนมายู ตอนนี้วิ่งไป 4.04 แล้ว อึมได้ค่าขนมไปหลายตัง

[Palm]

ผมซื้อตอน 3.68 ก็เพราะเหตุผลทางตัวเลขที่ดูกันอยู่นี่แหละครับ พอกำลังจะเพิ่ม position ที่ 4 บาท แล้วจะถือซัก2-3ปี ดู ก็เลยทำการบ้านเพิ่ม แล้วไปเจอข้อมูลอยู่นิดหน่อย แต่ยอบรับว่าไม่รู้ว่าควรจะแปลว่าอย่างไรดี
1) 10วันก่อน IPO มีการเพิ่มทุนอีก 30 ลบ. (จากเดิม 15ลบ. รวมเป็น 45ลบ.) ของผู้ถือหุ้นเดิมที่ราคา 1 บาท หลังจากนั้นก็เป็นที่รู้ๆ กัน บริษัทขาย IPO ที่ 6.25 บาท 20ล้านหุ้น
2.) บริษัทได้ซื้อ บริษัทInkjet ที่ราคาBook มาจาก ผู้บริหารคนนึง ซื่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ด้วย (25%)
3.) ผู้บริหารท่านนี้ยังได้ใช้เงินส่วนตัวให้บริษัทกู้ (ดอก3%)
อย่างที่บอกครับ ผมไม่สามารถบอกได้ว่านี่เป็นสัญญาณไม่ดีหรือเปล่า หรือtransactionข้างบนนี้เป็นเรื่องปรกติ ใครๆก็ทำกัน ใหรมีความเห็นก็เอามาแชร์นะครับ โดยเฉพาะคุณ CK.

[CK]

หรือtransactionข้างบนนี้เป็นเรื่องปรกติ ใครๆก็ทำกัน ใหรมีความเห็นก็เอามาแชร์นะครับ โดยเฉพาะคุณ CK.

ทำไมโดยเฉพาะผมครับ?

แต่บริษัทผมก็มีแบบผู้ถือหุ้นใหญ่ปล่อยกู้นะครับ
และ ink jet 1 เครื่องราคาก็ไม่กี่ตังค์ครับ

แต่เรื่องเพิ่มทุนพิเศษนี่สิ น่าห่วงมากครับ
ตอนแรกผมก็จะลุยโลด แต่มาชะงักตรงขนาด
ของบริษัทนี่แหละครับ ใจหนึ่งก็รู้สึกเท่ห์ถ้ามี
ชื่อติด 0.5% ได้ เลียนแบบลูกพี่ แต่ใจหนึ่ง
ก็คิดว่า เป็นผู้ถือหุ้นจิ๋วของบริษัทใหญ่ที่ดีและ
เรามั่นใจ ดีกว่าเป้นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทเล็ก
ที่เรายังไม่มั่นใจ

เลยเบรคไว้ครับ ยอมรับครับว่า กรณี ROYNET
มีผลกับการตัดสินใจ

[Palm]

ออ๋ ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมว่าความเห็นส่วนใหญ่ในหลายๆกระทู่ของคุณเข้าท่าดี และคุณก็ยังเปรียบเทียบกับ case ของ Royอีก ก็เลยอยากให้ตอบนะครับ

[Palm]

ปล. Inkjet เป็นชื่อบริษัทย่อยนะครับ

[CK]

บริษัทย่อยที่พิมพ์โปสเตอร์ใหญ่ๆรึเปล่าครับ ผมคิดว่าเป็นแค่การ
รวมบริษัทเข้าด้วยกันเท่านั้นเอง ไม่มีไร

[เพื่อนมายู]

คุณมือใหม่ครับ ไม่ต้องอิจฉาผมหรอกครับ ผมได้ค่าขนมมานิดๆหน่อยๆเอง
ผมยังไม่กล้าซื้อเยอะครับ ลองๆเก็บมา15000 หุ้นเองครับที่ราคา3.84 มันมีขึ้นก็มีลงได้ ขอโทษด้วยที่เพิ่งมาตอบครับ พอดีติดธุระอยู่ครับ

ไปสืบมาเพิ่มเติมเรื่องคู่แข่งที่สำคัญของ พี่โก้ ก็มี Neo exhibition เป็นบริษัทรายใหญ่ที่พอต่อกรได้รับงานเฉพาะในโซนเอเชีย(แหล่งข่าวให้ข้อมูลมา ผิดถูกประการใดขอรับชอบ ไม่รับผิด) ส่วนพี่โก้ เป็นบริษัท World wide รับงานทั่วโลก มีสาขาอยู่ในหลายๆประเทศ สาขาของไทยมีผู้ถือหุ้นใหญ่จาก พี่โก้สิงค์โปร(ไม่แน่ใจว่าเป็นบริษัทแม่หรือเปล่า) เข้าใจว่าเดิม พี่โก้ประเทศไทยเน้นรับงานเฉพาะภายในประเทศ แต่มาเข้าตลาดใหม่เพื่อขยายสเกลให้ใหญ่ขึ้นเตรียมพร้อมที่จะรับงานจากประเทศเพื่อนบ้านด้วย

Neo เป็นบริษัทเดียวที่เป็นคู่แข่งในปัจจุบัน คิดว่าไม่น่าลำบากในการแข่งขัน เพราะการมีคู่แข่งเพียงแค่หนึ่งราย ในการทำธุรกิจถ้าไม่ได้ทะเลาะกันอย่างจริงจังแล้ว มักจะมีวิธีเจรจากันได้ในเชิงธุรกิจ (ยิ่งบริษัทแบบนี้แล้ว ผมว่าการวิ่งเต้นในรูปแบบต่างๆต้องไม่เบาอยู่แล้วครับ)
ถ้ามีข่าวหรือรายละเอียดเพิ่มเติม จะมาเล่าสู่กันฟังต่อครับ

สำหรับที่คุณ Palm ถามมา
ข้อ1 ผมว่าเป็นธรรมดาสำหรับผู้ถือหุ้นเก่าจะต้องอยากแบ่งกำไรเดิมที่ตัวเองเริ่มทำกันมาแต่ปางก่อน ก่อนที่จะมาแบ่งส่วนที่เกิดจากน้ำแรงตัวเองไปให้คนอื่นนะครับ (แต่จะมากเกินไปรึเปล่า ไม่แน่ใจครับ)
ข้อ2 , ข้อ3 คุณ CK ตอบไปแล้วครับ แต่ก็แปลกใจตรงที่ทำไมต้องกู้เงินจากกรรมการ ทั้งที่มีกำไรดี แต่จะว่าไปดอกเบี้ยกู้3%ก็ไม่ถือว่าสูงครับ(ในกรณีที่ต้องกู้จริงๆ)

[Boring Stock Lover]

คู่แข่งมีมากครับ ทั้งรายเล็กและรายใหญ่ แม้กระทั่ง Match ยามที่ต้องการธุรกิจ ก็ทำด้วยเหมือนกัน

เคยอ่านเจอมาว่า ในธุรกิจนี้น่าจะมี ผู้ประกอบการ เป็นพันราย ตั้งแต่ กิจการ 3 คนจนถึง 100 คน อีกทั้งเอเยนซี่โฆษณาบางที่ก็เปิดแผนกนี้ด้วย

[บุคคลทั่วไป]

คู่แข่งถ้ามีอยู่ 2-3 ราย ผมว่าเป็นธุรกิจที่ดีครับ คู่แข่งน้อยมาก แต่ธุรกิจแบบนี้แนวดน้มคู่แข่งจะมากขึ้นผมว่าค่อนข้างสูงครับ แต่ปัญหาที่ผมยังไม่ไว้วางใจและยังไม่เข้าไปซื้อ คือ ธรรมมาภิบาลของบริษัทครับ คงต้องติดตามอ่านบทความของผุ้บริหารและติดตามอีกสักระยะครับ

ส่วนบริษัทรายเล็กและกลางนั้น อุปสรรคในการเข้ามาในตลาดนี้ คือ ต้องผ่านการพิสูจน์ผลงานมาแล้วระดับหนึ่งครับ อย่างเช่น ถ้าปกติบริษัทรับงานสูงสุดคือ 5M อยู่ๆจะมารับงาน 100M ความน่าจะเป็นน้อยครับ ต้องค่อยพัฒนาผลงานไต่ระดับขึ้นมาก่อน ผมเข้าใจถูกผิดยังไงวิจารณ์ได้นะครับ

[Minesweeper]

ตอบที่คุณ Tiger ถามมา (ด้านล่าง) นะครับ

72 ล้านในปี 47 มาจาก 60 ล้านที่จ่ายให้ผู้ถือหุ้นเดิมไปก่อน IPO รวมกับที่จ่ายอีก 11.7 ล้านที่จ่ายหลัง IPO แล้วครับ

15. DIVIDENDS PAID

On February 12, 2004, the Companys executive committee meeting resolved to take action for dividend payment of Baht 402.40 per share to the shareholders whose names were listed in the Companys registrar book as at August 4, 2003, in accordance with the resolution of the board of directors on August 4, 2003. Such dividends of Baht 60.36 million were paid in February 2004.

On March 30,2004, the ordinary shareholders meeting of the subsidiary companys passed a resolution to pay annual dividend for the year 2003 of Baht 100 per share for 10,000 shares, totaling Baht 1,000,000. The company paid such dividend on April 2004.

On April 16,2004, the Companys board of directors meeting passed a resolution to pay interim dividend of Baht 0.18 per share (Baht 0.16 per share after withholding tax) to the shareholders whose names were listed in the Companys registrar book as at May 4, 2004. Such dividends of Baht 11.70 million were paid in May 2004.

จริงๆ ผมไม่ค่อยอยากวิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องจ่ายปันผลก่อน/หลัง หรือการเพิ่มทุนแบบ 2 ขั้น ของพวกหุ้น IPO แล้วอะครับ เพราะจากที่ดูๆ มา หลายๆ บริษัทก็ทำคล้ายๆ กัน เหมือนๆ กับว่าเป็นสูตรสำเร็จไปแล้ว

ซื้อหุ้น IPO ต้องยอมเสียเปรียบเจ้าของเดิมเป็นธรรมดาครับ แต่ถ้าคิดว่าเขาเอาเปรียบเราเกินไปก็ไม่ต้องไปซื้อก็เท่านั้น 8)

[Tiger]

ผมดูงบย้อนหลังไม่เห็นเจอปันผลที่ว่าเลยครับ
45 46 47
เงินปันผลจ่าย (5,000) (5,000) (72,060) พันบาท
คุณ Minesweeper ช่วยดูให้หน่อยซิครับ
ว่าปัน 60 ล้าน ทำไมไม่มีในบัญชีครับ

พี่ CK ครับ ถ้าไม่พูดถึงการรับรู้รายได้ล่วงหน้าของ Roynet
Roynet มีอะไรที่น่ากลัวครับ (พี่บอกเหมือนเรื่องสภาพคล่อง freefloat)
มันอันตรายยังไงครับ

ขอบคุณครับ

[woody]

คุณมือใหม่ครับ ไม่ต้องอิจฉาผมหรอกครับ ผมได้ค่าขนมมานิดๆหน่อยๆเอง
ผมยังไม่กล้าซื้อเยอะครับ ลองๆเก็บมา15000 หุ้นเองครับที่ราคา3.84 มันมีขึ้นก็มีลงได้ ขอโทษด้วยที่เพิ่งมาตอบครับ พอดีติดธุระอยู่ครับ

ไปสืบมาเพิ่มเติมเรื่องคู่แข่งที่สำคัญของ พี่โก้ ก็มี Neo exhibition เป็นบริษัทรายใหญ่ที่พอต่อกรได้รับงานเฉพาะในโซนเอเชีย(แหล่งข่าวให้ข้อมูลมา ผิดถูกประการใดขอรับชอบ ไม่รับผิด) ส่วนพี่โก้ เป็นบริษัท World wide รับงานทั่วโลก มีสาขาอยู่ในหลายๆประเทศ สาขาของไทยมีผู้ถือหุ้นใหญ่จาก พี่โก้สิงค์โปร(ไม่แน่ใจว่าเป็นบริษัทแม่หรือเปล่า) เข้าใจว่าเดิม พี่โก้ประเทศไทยเน้นรับงานเฉพาะภายในประเทศ แต่มาเข้าตลาดใหม่เพื่อขยายสเกลให้ใหญ่ขึ้นเตรียมพร้อมที่จะรับงานจากประเทศเพื่อนบ้านด้วย

Neo เป็นบริษัทเดียวที่เป็นคู่แข่งในปัจจุบัน คิดว่าไม่น่าลำบากในการแข่งขัน เพราะการมีคู่แข่งเพียงแค่หนึ่งราย ในการทำธุรกิจถ้าไม่ได้ทะเลาะกันอย่างจริงจังแล้ว มักจะมีวิธีเจรจากันได้ในเชิงธุรกิจ (ยิ่งบริษัทแบบนี้แล้ว ผมว่าการวิ่งเต้นในรูปแบบต่างๆต้องไม่เบาอยู่แล้วครับ)
ถ้ามีข่าวหรือรายละเอียดเพิ่มเติม จะมาเล่าสู่กันฟังต่อครับ

สำหรับที่คุณ Palm ถามมา
ข้อ1 ผมว่าเป็นธรรมดาสำหรับผู้ถือหุ้นเก่าจะต้องอยากแบ่งกำไรเดิมที่ตัวเองเริ่มทำกันมาแต่ปางก่อน ก่อนที่จะมาแบ่งส่วนที่เกิดจากน้ำแรงตัวเองไปให้คนอื่นนะครับ (แต่จะมากเกินไปรึเปล่า ไม่แน่ใจครับ)
ข้อ2 , ข้อ3 คุณ CK ตอบไปแล้วครับ แต่ก็แปลกใจตรงที่ทำไมต้องกู้เงินจากกรรมการ ทั้งที่มีกำไรดี แต่จะว่าไปดอกเบี้ยกู้3%ก็ไม่ถือว่าสูงครับ(ในกรณีที่ต้องกู้จริงๆ)

ผมว่าคู่แข่งที่สำคัญของ pico คือ index และ cmo นะครับ อย่างไรก็ดีธุรกิจประเภทนี้นี่จะมีความผันผวนของกำไรค่อนข้างสูงนะครับ ดูอย่าง cmo ตอนต้นปีประกาศผลกำไรออกมารู้สึกจะขาดทุนด้วย

แต่ที่ผมติดใจจริงๆ นี่คงรายงานจากผู้สอบบัญชีครับ อ่านไปแล้วหยุดกึ๊กเลย

[naris]

ถ้าหมายถึงข้อความตัวสีแดงข้างบนที่คุณเบนโพสท์ไว้นั้นเป็นปกติครับ ทั่วๆไปก็เขียนอย่างนี้เหมือนกันหมด
ต้องให้ผู้รู้มาอธิบายว่าทำไมต้องเขียนอย่างงี้ด้วย
ส่วนงบที่มีปัญหา จะมีคำอธิบายเพิ่มเติมหรือมีหมายเหตุของนักตรวจสอบบัญชีครับ

[leknoy]

ไม่ต้องตกใจครับ เป็นรายงานแบบปกติของงบการเงินของบริษัทมหาชน ซึ่งจะต้องปิดงบเป็นรายไตรมาส ซึ่ง รายงานของผู้สอบบัญชีของงบ Q1-Q3 จะเป็น รายงานการ "สอบทาน" งบการเงินโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ซึ่งจะเป็นการตรวจสอบบัญชีแบบยังไม่ละเอียด จึงยังไม่อาจแสดงความเห็นต่องบการเงินได้ เฉพาะ Q4 ซึ่งจะเป็นงบปี ที่จะเป็นรายงานการ "ตรวจสอบ"บัญชีโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ซึ่งผู้สอบบัญชีจะ "แสดงความเห็น" ต่องบการเงินตามมาตรฐานการตรวจสอบบัญชี อันนี้ตรวจสอบละเอียดหน่อย ซึ่งจะมีอยู่ 4 ประเภท คือ
1. แบบไม่มีเงื่อนไข ( --อันนี้ปลอดภัยหน่อย)
2.แบบมีเงื่อนไข (เกิดจากการถูกจำกัดขอบเขตของการตรวจสอบ หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชี แต่ไม่รุนแรง --อันนี้เสี่ยงขึ้นมาหน่อย)
3.แบบไม่แสดงความเห็น (อันนี้ส่วนมากเกิดจากถูกจำกัดขอบเขตการตรวจสอบอย่างมีสาระสำคัญมาก)
4.แบบแสดงความเห็นว่าไม่ถูกต้อง (ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชีสอบอย่างมีสาระสำคัญมาก)
อย่างไรก็ตามการตรวจสอบบัญชีเป็นการให้ความเชื่อมั่นอย่างมีเหตุผล (ไม่ได้ตรวจสอบ 100 % ดังนั้น มีจึงยังมีความเสี่ยงที่ผู้สอบบัญชีอาจตรวจไม่พบความผิดปกติ(การตกแต่งงบการเงิน)ขอบข้อมูลในงบการเงินได้

[woody]

ไม่ต้องตกใจครับ เป็นรายงานแบบปกติของงบการเงินของบริษัทมหาชน ซึ่งจะต้องปิดงบเป็นรายไตรมาส ซึ่ง รายงานของผู้สอบบัญชีของงบ Q1-Q3 จะเป็น รายงานการ "สอบทาน" งบการเงินโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ซึ่งจะเป็นการตรวจสอบบัญชีแบบยังไม่ละเอียด จึงยังไม่อาจแสดงความเห็นต่องบการเงินได้ เฉพาะ Q4 ซึ่งจะเป็นงบปี ที่จะเป็นรายงานการ "ตรวจสอบ"บัญชีโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ซึ่งผู้สอบบัญชีจะ "แสดงความเห็น" ต่องบการเงินตามมาตรฐานการตรวจสอบบัญชี อันนี้ตรวจสอบละเอียดหน่อย ซึ่งจะมีอยู่ 4 ประเภท คือ
1. แบบไม่มีเงื่อนไข ( --อันนี้ปลอดภัยหน่อย)
2.แบบมีเงื่อนไข (เกิดจากการถูกจำกัดขอบเขตของการตรวจสอบ หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชี แต่ไม่รุนแรง --อันนี้เสี่ยงขึ้นมาหน่อย)
3.แบบไม่แสดงความเห็น (อันนี้ส่วนมากเกิดจากถูกจำกัดขอบเขตการตรวจสอบอย่างมีสาระสำคัญมาก)
4.แบบแสดงความเห็นว่าไม่ถูกต้อง (ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชีสอบอย่างมีสาระสำคัญมาก)
อย่างไรก็ตามการตรวจสอบบัญชีเป็นการให้ความเชื่อมั่นอย่างมีเหตุผล (ไม่ได้ตรวจสอบ 100 % ดังนั้น มีจึงยังมีความเสี่ยงที่ผู้สอบบัญชีอาจตรวจไม่พบความผิดปกติ(การตกแต่งงบการเงิน)ขอบข้อมูลในงบการเงินได้

ขอบคุณมากครับ...ตรงนี้ผมลืมดูไปว่าเป็นงบระหว่างกาลไม่ใช่งบปีเห็นข้อความมันยาวๆ เลยอ่านแต่ตรงที่เป็นสีแดง