ถามแบบโง่ๆ นะครับ วิกฤติ คราวนี้ ใครได้เงินไปครับ?
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 795
- ผู้ติดตาม: 0
ถามแบบโง่ๆ นะครับ วิกฤติ คราวนี้ ใครได้เงินไปครับ?
โพสต์ที่ 1
ผมสงสัย วิกฤติคราวนี้ เงินหายออกไปนอกโลก หรือ ใครได้กำไร จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ครับ เงินหายไปไหน ตั้ง เป็นล้านล้าน ดอลล่าห์
ช่วยอธิบายให้ผมด้วยครับ
ช่วยอธิบายให้ผมด้วยครับ
Miracle Happens Everyday !
"ปาฎิหารย์คือการเดินบนผืนดินและมีความสุขในทุกย่างก้าว"
"ปาฎิหารย์คือการเดินบนผืนดินและมีความสุขในทุกย่างก้าว"
-
- Verified User
- โพสต์: 601
- ผู้ติดตาม: 0
ถามแบบโง่ๆ นะครับ วิกฤติ คราวนี้ ใครได้เงินไปครับ?
โพสต์ที่ 2
ผมว่า คงหมุนกันอยู่ใน fundชนิดต่างๆ และ ผลิตภัณท์ การเงินต่างๆ ,พฦหัสโน้นตอนที่ หุ้นวิ่งลงตอนเช้า ราคาทองก็วิ่งสวนขึ้น กันอย่างกับเงินย้ายไปมาสลับกันนะครับ เป็นปรากฦการณืที paradox
- Akajon
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 532
- ผู้ติดตาม: 0
ถามแบบโง่ๆ นะครับ วิกฤติ คราวนี้ ใครได้เงินไปครับ?
โพสต์ที่ 4
ปัญหาเกิดจาก Subprime อสังหาด้อยค่าลงมาก หนี้เงินกู้เป็นหนี้เสีย ทำให้ต้องสำรองหนี้เยอะจนขาดทุนเป็นประวัติการณ์
หนี้เสียเยอะๆ สถาบันการเงินก็เสี่ยงล้มสูง ถ้ามีการล้มกันมากๆ ตราสารต่างๆ ที่ถือไขว้กันไว้ ระหว่างสถาบันการเงินทั่วโลก ก็จะเป็นตัวเร่ง กระทบในวงกว้างขึ้นไปอีก
หนี้เสียเยอะๆ สถาบันการเงินก็เสี่ยงล้มสูง ถ้ามีการล้มกันมากๆ ตราสารต่างๆ ที่ถือไขว้กันไว้ ระหว่างสถาบันการเงินทั่วโลก ก็จะเป็นตัวเร่ง กระทบในวงกว้างขึ้นไปอีก
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 1
ถามแบบโง่ๆ นะครับ วิกฤติ คราวนี้ ใครได้เงินไปครับ?
โพสต์ที่ 7
ถ้าอย่างที่ผมเข้าใจ
ตอบแบบธรรมะคือตอบแบบพี่เจ๋ง
ถ้าตอบแบบfund flowคือ >>>>ในอดีต มีการนำเงินลงทุน5%มาค้ำเพื่อซื้อสินค้า100% เหมือนกับเราซื้อบ้านซื้อรถ แล้วผ่อนทีหลัง กระแสเงินสดในอนาคตมันก็ถูกนำมาใช้ในปัจจุบัน เหมือนเอาเฟืองเล็กมาขับเฟืองที่ใหญ่กว่าไปเรื่อยๆ ถ้าเขียนเป็นงบดุลคือ "ทรัพย์สินเพิ่ม = หนี้สินเพิ่ม +ส่วนทุน+กำไร"
ถ้าฟันเฟืองทั้งหลายถูกขับเคลื่อนไม่สะดุด ทุกอย่างก็จะไม่มีปัญหา แต่ถ้าเฟืองที่ขับตัวใดตัวหนึ่งรวน ปัญหาก็จะเกิด ทุกอย่างก็จะหยุด และต้องรอให้เงินมันปรับเข้าสู่สมดุลย์ของมันเอง คือ "ทรัพย์สินลด =หนี้สินลด+ส่วนทุนก็ลด(เพราะขาดทุน)"
ส่วนตอนนี้ที่เขากำลังแก้คือ พิมพ์เงินออกมาเพิ่ม(เมกา) เปรียบเสมือนการเพิ่มทุน ทำให้หนี้เพิ่มและเสมือนเงินถูกไดรูท(เหมือนหุ้นเพิ่มทุน)
หรือบางประเทศเอากำไรสะสมที่มีอยู่ ออกมาช่วย หรือ ซื้อกิจการ ซื้อทรัพย์สิน เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้บ.นั้นๆ ทรัพย์สินที่เป็นเงินสด ก็เปลี่ยนเป็นเงินลงทุนระยะสั้น เงินให้กู้ยืม หรือเงินลงทุนระยะยาว ก็แล้วแต่
ส่วนถ้าพูดถึงปัญหาจะใหญ่และลามมาหาเฟืองตัวที่เล็กที่สุดในโครงสร้างของธุรกิจโลก(เช่นเรา)มากแค่ไหน ก็ต้องลุ้นให้มีแรงขับเคลื่อนในฟันเฟืองตัวที่เล็กๆรวมกันหลายๆตัวหรือมีฟันเฟืองตัวใหม่ๆ เพื่อที่จะเข้ามาชดเชย พลังงาน(fund flow)ที่หายไปจากตัวใหญ่ ๆที่ล้มไปรอบนี้ครับ
ตอบแบบธรรมะคือตอบแบบพี่เจ๋ง
ถ้าตอบแบบfund flowคือ >>>>ในอดีต มีการนำเงินลงทุน5%มาค้ำเพื่อซื้อสินค้า100% เหมือนกับเราซื้อบ้านซื้อรถ แล้วผ่อนทีหลัง กระแสเงินสดในอนาคตมันก็ถูกนำมาใช้ในปัจจุบัน เหมือนเอาเฟืองเล็กมาขับเฟืองที่ใหญ่กว่าไปเรื่อยๆ ถ้าเขียนเป็นงบดุลคือ "ทรัพย์สินเพิ่ม = หนี้สินเพิ่ม +ส่วนทุน+กำไร"
ถ้าฟันเฟืองทั้งหลายถูกขับเคลื่อนไม่สะดุด ทุกอย่างก็จะไม่มีปัญหา แต่ถ้าเฟืองที่ขับตัวใดตัวหนึ่งรวน ปัญหาก็จะเกิด ทุกอย่างก็จะหยุด และต้องรอให้เงินมันปรับเข้าสู่สมดุลย์ของมันเอง คือ "ทรัพย์สินลด =หนี้สินลด+ส่วนทุนก็ลด(เพราะขาดทุน)"
ส่วนตอนนี้ที่เขากำลังแก้คือ พิมพ์เงินออกมาเพิ่ม(เมกา) เปรียบเสมือนการเพิ่มทุน ทำให้หนี้เพิ่มและเสมือนเงินถูกไดรูท(เหมือนหุ้นเพิ่มทุน)
หรือบางประเทศเอากำไรสะสมที่มีอยู่ ออกมาช่วย หรือ ซื้อกิจการ ซื้อทรัพย์สิน เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้บ.นั้นๆ ทรัพย์สินที่เป็นเงินสด ก็เปลี่ยนเป็นเงินลงทุนระยะสั้น เงินให้กู้ยืม หรือเงินลงทุนระยะยาว ก็แล้วแต่
ส่วนถ้าพูดถึงปัญหาจะใหญ่และลามมาหาเฟืองตัวที่เล็กที่สุดในโครงสร้างของธุรกิจโลก(เช่นเรา)มากแค่ไหน ก็ต้องลุ้นให้มีแรงขับเคลื่อนในฟันเฟืองตัวที่เล็กๆรวมกันหลายๆตัวหรือมีฟันเฟืองตัวใหม่ๆ เพื่อที่จะเข้ามาชดเชย พลังงาน(fund flow)ที่หายไปจากตัวใหญ่ ๆที่ล้มไปรอบนี้ครับ
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 795
- ผู้ติดตาม: 0
ถามแบบโง่ๆ นะครับ วิกฤติ คราวนี้ ใครได้เงินไปครับ?
โพสต์ที่ 8
ขอบคุณทุกคำตอบ
แต่ผมสงสัย ว่า ใครเป็นคนได้กำไร เงิน รอบนี้ไปเยอะๆ
เช่น กองทุนน้ำมัน , เจ้าของน้ำมัน , กองทุนทอง ,กองทุนอย่าง BRK, นักการเมือง(ผู้รู้ข้อมูลเชิงลึก) , หรือ คนชักดาบ subprime หรือ สินค้าและบริการ ที่คนชักดาบ subprime เอาเงินไปซื้อ หรือ อะไรอย่างนี้ แหละครับ
ถ้าระบุคนกลุ่มนั้นได้ แล้ว เค้าได้ไปยังไง ด้วยกลไก ไหนน่ะครับ
สงสัย เห็นมีแต่คนร้องโอดโอย เจ็บปวด เสียหาย แล้วใครได้ตังค์น่ะครับ
ขอบคุณค้าบ
แต่ผมสงสัย ว่า ใครเป็นคนได้กำไร เงิน รอบนี้ไปเยอะๆ
เช่น กองทุนน้ำมัน , เจ้าของน้ำมัน , กองทุนทอง ,กองทุนอย่าง BRK, นักการเมือง(ผู้รู้ข้อมูลเชิงลึก) , หรือ คนชักดาบ subprime หรือ สินค้าและบริการ ที่คนชักดาบ subprime เอาเงินไปซื้อ หรือ อะไรอย่างนี้ แหละครับ
ถ้าระบุคนกลุ่มนั้นได้ แล้ว เค้าได้ไปยังไง ด้วยกลไก ไหนน่ะครับ
สงสัย เห็นมีแต่คนร้องโอดโอย เจ็บปวด เสียหาย แล้วใครได้ตังค์น่ะครับ
ขอบคุณค้าบ
Miracle Happens Everyday !
"ปาฎิหารย์คือการเดินบนผืนดินและมีความสุขในทุกย่างก้าว"
"ปาฎิหารย์คือการเดินบนผืนดินและมีความสุขในทุกย่างก้าว"
-
- Verified User
- โพสต์: 532
- ผู้ติดตาม: 0
ถามแบบโง่ๆ นะครับ วิกฤติ คราวนี้ ใครได้เงินไปครับ?
โพสต์ที่ 9
ผมครับ ผมได้ ผมได้จริง ๆ เป็นเงินสด ๆ ด้วยนะครับ
ได้ปันผลนะสด ๆ เลย
แต่ราคาหุ้นนั้น เลือดสด ๆ กระฉูดเลยครับ
แต่ไม่ได้ขาย ฉะนั้น ไม่ขายไม่ขาดทุน
ขอออกความเห็นหน่อย ไม่งั้น อาจจะลงแดงตายเสียก่อนที่จะได้ขายหุ้น
ได้ปันผลนะสด ๆ เลย
แต่ราคาหุ้นนั้น เลือดสด ๆ กระฉูดเลยครับ
แต่ไม่ได้ขาย ฉะนั้น ไม่ขายไม่ขาดทุน
ขอออกความเห็นหน่อย ไม่งั้น อาจจะลงแดงตายเสียก่อนที่จะได้ขายหุ้น
-
- Verified User
- โพสต์: 37
- ผู้ติดตาม: 0
ถามแบบโง่ๆ นะครับ วิกฤติ คราวนี้ ใครได้เงินไปครับ?
โพสต์ที่ 10
วิกฤตครั้งนี้ คล้ายๆกับลูกโป่งที่ถูกอัดลมจนพองสถาบันการเงินต่างๆถูกทำให้เชื่อว่าภายในลูกโป่งนั้น มีโครงสร้างที่แข็งแกร่งมาก เลยไม่เคยมีใครสนใจว่าข้างในนั้นมันมีอะไรบ้างnaris เขียน:ถ้าอย่างที่ผมเข้าใจ
ตอบแบบธรรมะคือตอบแบบพี่เจ๋ง
ถ้าตอบแบบfund flowคือ >>>>ในอดีต มีการนำเงินลงทุน5%มาค้ำเพื่อซื้อสินค้า100% เหมือนกับเราซื้อบ้านซื้อรถ แล้วผ่อนทีหลัง กระแสเงินสดในอนาคตมันก็ถูกนำมาใช้ในปัจจุบัน เหมือนเอาเฟืองเล็กมาขับเฟืองที่ใหญ่กว่าไปเรื่อยๆ ถ้าเขียนเป็นงบดุลคือ "ทรัพย์สินเพิ่ม = หนี้สินเพิ่ม +ส่วนทุน+กำไร"
ถ้าฟันเฟืองทั้งหลายถูกขับเคลื่อนไม่สะดุด ทุกอย่างก็จะไม่มีปัญหา แต่ถ้าเฟืองที่ขับตัวใดตัวหนึ่งรวน ปัญหาก็จะเกิด ทุกอย่างก็จะหยุด และต้องรอให้เงินมันปรับเข้าสู่สมดุลย์ของมันเอง คือ "ทรัพย์สินลด =หนี้สินลด+ส่วนทุนก็ลด(เพราะขาดทุน)"
ส่วนตอนนี้ที่เขากำลังแก้คือ พิมพ์เงินออกมาเพิ่ม(เมกา) เปรียบเสมือนการเพิ่มทุน ทำให้หนี้เพิ่มและเสมือนเงินถูกไดรูท(เหมือนหุ้นเพิ่มทุน)
หรือบางประเทศเอากำไรสะสมที่มีอยู่ ออกมาช่วย หรือ ซื้อกิจการ ซื้อทรัพย์สิน เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้บ.นั้นๆ ทรัพย์สินที่เป็นเงินสด ก็เปลี่ยนเป็นเงินลงทุนระยะสั้น เงินให้กู้ยืม หรือเงินลงทุนระยะยาว ก็แล้วแต่
ส่วนถ้าพูดถึงปัญหาจะใหญ่และลามมาหาเฟืองตัวที่เล็กที่สุดในโครงสร้างของธุรกิจโลก(เช่นเรา)มากแค่ไหน ก็ต้องลุ้นให้มีแรงขับเคลื่อนในฟันเฟืองตัวที่เล็กๆรวมกันหลายๆตัวหรือมีฟันเฟืองตัวใหม่ๆ เพื่อที่จะเข้ามาชดเชย พลังงาน(fund flow)ที่หายไปจากตัวใหญ่ ๆที่ล้มไปรอบนี้ครับ
ทีนี้พอปัญหามันเกิดว่าจริงๆแล้ว ไอ้ที่เคยเชื่อว่าข้างในลูกโป่งที่แข็งๆเนี่ย มันคือลมล้วนๆเลยที่ถูกปั้มขึ้นมา แถมเหม็นอีกต่างหาก
สภาพตอนนี้ลูกโป่งก็เลยฟีบลงเรื่อยๆ พยายามจะกลับไปสู่สภาพที่แท้จริงของมันที่ไม่มีลม
แต่ลูกโป่งที่ฟีบ มันไม่สวยงามอ่ะ!!!!
สถาบันการเงินต่างๆเลย เร่งปั๊มลมกันเข้าไปใหญ่ เพื่อหวังว่ามันจะกลับไปเต่งตึงเหมือนอดีต ทั้งๆที่หารู้ไม่ว่าลูกโป่งนี้ มันมีรูรั่วง่ะ!!!!
ช่างมันๆตูมีเครื่องปั๊มลมอันใหญ่ไฮโซเว้ย คงจะเร็วกว่ารูเล็กๆที่มันรั่วนั่นแหละ
โลกเราตอนนี้เลยต้องมานั่งดูบทสรุปกันว่า รูรั่วกับปั๊มใครจะชนะฟะ
หว้งคงจะไม่ปั๊มไปปั๊มมาลูกโป่งแตกเลยน่ะ
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
ถามแบบโง่ๆ นะครับ วิกฤติ คราวนี้ ใครได้เงินไปครับ?
โพสต์ที่ 11
ผมว่าบางคนที่เสนอแต่ข้อดีของหุ้นอาจได้เงินไปครับ
มีหุ้นหลายตัวที่ไม่ได้ดีจริงอย่างที่เค้าเสนอ
ยังไงเวลาลงทุนต้องระมัดระวังด้วยนะครับ
...เท่าที่ผมสังเกตดู หุ้นมีเจ้าของก็ยังทำกำไรให้เจ้าของได้อยู่เสมอ เมื่อมีข่าวดี(แต่ดีจริงเปล่า ไม่สามารถบอกได้ครับ)
ลงทุนอย่างมีสติครับ
มีหุ้นหลายตัวที่ไม่ได้ดีจริงอย่างที่เค้าเสนอ
ยังไงเวลาลงทุนต้องระมัดระวังด้วยนะครับ
...เท่าที่ผมสังเกตดู หุ้นมีเจ้าของก็ยังทำกำไรให้เจ้าของได้อยู่เสมอ เมื่อมีข่าวดี(แต่ดีจริงเปล่า ไม่สามารถบอกได้ครับ)
ลงทุนอย่างมีสติครับ
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
- worapong
- Verified User
- โพสต์: 929
- ผู้ติดตาม: 0
ถามแบบโง่ๆ นะครับ วิกฤติ คราวนี้ ใครได้เงินไปครับ?
โพสต์ที่ 12
อย่างน้อย วอร์เรน บัฟเฟตก็น่าจะได้ประโยชน์จากการมีเงินสดมากๆ ในเวลาที่หุ้นถูกๆนะครับ เท่าที่ประกาศมาตอนนี้ก็ได้เข้าซื้อโกลด์แมน แซคส์ ไปแล้ว ห้าพันล้านเหรียญ นอกจากนี้ นายทุนคนอื่นๆที่มีเงินสดเยอะก็คงกำลังซื้อของถูกๆเข้าพอร์ตอยู่ อันที่จริงถ้าเราอยากจะได้ผลตอบแทนแบบวอร์เรน เราควรมองหาว่าหุ้นตัวไหนบ้างที่ราคาตอนนี้ ถูกมากจนน่าลงทุน แล้วก็เก็บเข้าพอร์ต หรืออาจสำรวจว่าหุ้นในพอร์ตเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อทำการปรับพอร์ต ให้มีหุ้นที่มีคุณค่ามากขึ้นครับ
margin of safety
circle of competence
waiting for the perfect pitch
circle of competence
waiting for the perfect pitch
- CEO
- Verified User
- โพสต์: 1243
- ผู้ติดตาม: 0
ถามแบบโง่ๆ นะครับ วิกฤติ คราวนี้ ใครได้เงินไปครับ?
โพสต์ที่ 13
เจ้ามือได้ไปนะผมว่า
ฟองสบู่เมกาแตกลักษณะการคล้ายๆกับการปั่น N-Park ครับ
มีการสร้างสตอรี่เพื่อปั่นหุ้น พอถึงที่สุดเรื่องแตก เจ้ามือก็หอบเงินหนีไปแล้ว เหลือแต่บริษัทเน่าๆให้รายย่อย
ส่วนเจ้ามือคือใคร คงจะไปขอดมมือใครไม่ได้ครับ
ผมก็จะคอยดูว่า FBI เขาจะเก่งกว่า DSI ของเราหรือเปล่าที่ทำเรื่องปิคนิคมานมนานแต่ก็เงียบ
ฟองสบู่เมกาแตกลักษณะการคล้ายๆกับการปั่น N-Park ครับ
มีการสร้างสตอรี่เพื่อปั่นหุ้น พอถึงที่สุดเรื่องแตก เจ้ามือก็หอบเงินหนีไปแล้ว เหลือแต่บริษัทเน่าๆให้รายย่อย
ส่วนเจ้ามือคือใคร คงจะไปขอดมมือใครไม่ได้ครับ
ผมก็จะคอยดูว่า FBI เขาจะเก่งกว่า DSI ของเราหรือเปล่าที่ทำเรื่องปิคนิคมานมนานแต่ก็เงียบ
การซื้อกิจการอาจไม่ใช่การเทคโอเวอร์ และการเทคโอเวอร์ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าซื้อหุ้น..
-
- Verified User
- โพสต์: 97
- ผู้ติดตาม: 0
ถามแบบโง่ๆ นะครับ วิกฤติ คราวนี้ ใครได้เงินไปครับ?
โพสต์ที่ 14
เห็นด้วยกับคุณ CEO ครับ คนที่ได้กำไรคือเจ้ามือ แต่นอกจากเจ้ามือแล้วก็มีรายย่อยที่ตามน้ำได้กำไรบ้างแต่เป็นคนส่วนน้อยครับ ส่วนเจ้ามือก็น่าจะได้แก่พวก Hedge Fund ซึ่งก็เป็นกลุ่มคนเพียงหยิบมือเดียว จึงสังเกตได้ว่าคนที่ได้กำไรจึงเป็นคนส่วนน้อยแต่คนที่ขาดทุนคือคนส่วนมาก
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 1
ถามแบบโง่ๆ นะครับ วิกฤติ คราวนี้ ใครได้เงินไปครับ?
โพสต์ที่ 16
เงินไม่ได้สูญหายไปไหน แต่คนมีเงินไม่ยอมใช้เนื่องจากต้องการได้ของถูกกว่านี้
แม้กระทั้งปูีบัฟเอง ลงุทนแค่ 5 พันล้าน us ตีเป็นเงินไทย แค่ หมื่นกว่าล้าน
เงินแกมีเยอะกว่านี้แต่ไม่ยอมลงทุนมากๆ เหมือนรออะไรสักอย่าง
ใครติดตามข่าวก็สังเกตุปู่บัฟดีๆ นะครับ ช่วงนี้อาจช๊อปถี่เป็นพิเศษ
ผมคาดการล่วงหน้าไว้เลยว่า ปู่กะซื้อบริษัทประกัน แน่ๆ (ทายมั่วแต่ถ้าถูกละก็ดัง)
แม้กระทั้งปูีบัฟเอง ลงุทนแค่ 5 พันล้าน us ตีเป็นเงินไทย แค่ หมื่นกว่าล้าน
เงินแกมีเยอะกว่านี้แต่ไม่ยอมลงทุนมากๆ เหมือนรออะไรสักอย่าง
ใครติดตามข่าวก็สังเกตุปู่บัฟดีๆ นะครับ ช่วงนี้อาจช๊อปถี่เป็นพิเศษ
ผมคาดการล่วงหน้าไว้เลยว่า ปู่กะซื้อบริษัทประกัน แน่ๆ (ทายมั่วแต่ถ้าถูกละก็ดัง)
-
- Verified User
- โพสต์: 1976
- ผู้ติดตาม: 0
ถามแบบโง่ๆ นะครับ วิกฤติ คราวนี้ ใครได้เงินไปครับ?
โพสต์ที่ 17
คนส่วนหนึ่งหอบเงินกันไปซื้อทองกันเป็นกอบเป็นกำ
เท่าที่รู้จักหลายๆคนนะครับ เฮียคนหนึ่งเจอกันหลายครั้ง เมื่อก่อนขายทองไปซื้อหุ้น ตอนนี้แกเปลี่ยนเทรนใหม่ ขายหุ้นไปซื้อทอง ก็คงผลัดเปลี่ยนเวียนกันไปแหละครับ
ผมว่าถ้าฟิวทองเข้ามา เวลาหุ้นลง เราก็ไปเล่นทองแทน เห็นเขียวๆ น่าจะดีกว่าเห็นแดงๆอะนะ
เท่าที่รู้จักหลายๆคนนะครับ เฮียคนหนึ่งเจอกันหลายครั้ง เมื่อก่อนขายทองไปซื้อหุ้น ตอนนี้แกเปลี่ยนเทรนใหม่ ขายหุ้นไปซื้อทอง ก็คงผลัดเปลี่ยนเวียนกันไปแหละครับ
ผมว่าถ้าฟิวทองเข้ามา เวลาหุ้นลง เราก็ไปเล่นทองแทน เห็นเขียวๆ น่าจะดีกว่าเห็นแดงๆอะนะ
-
- Verified User
- โพสต์: 391
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถามแบบโง่ๆ นะครับ วิกฤติ คราวนี้ ใครได้เงินไปครับ?
โพสต์ที่ 18
คำถามดีมากครับPERFECT LUCKY เขียน:ผมสงสัย วิกฤติคราวนี้ เงินหายออกไปนอกโลก หรือ ใครได้กำไร จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ครับ เงินหายไปไหน ตั้ง เป็นล้านล้าน ดอลล่าห์
ช่วยอธิบายให้ผมด้วยครับ
เงินไม่ได้หายไปนอกโลกแน่นอน
เพียงแต่เปลี่ยนมือจากคนหนึ่งไปอยู่อีกคนหนึ่ง
แต่เงินก็หายไปได้
เพราะเงินที่ใช้ประเมินราคาหลายๆสิ่ง
เมื่อหลายๆสิ่งนั้นมีราคาลดลง
เงินก็หายไปด้วย
งงไหมครับ
ยกตัวอย่าง
ปตท.ที่ราคา 100 บาท มีมูลค่าทั้งบริษัทที่ 1 ล้านล้านบาท
สมมติครับ
ต่อมามีการซื้อขายหุ้นปตท.ครั้งละ 100 หุ้น
ที่ราคา 99 บาทและราคาลดลงไปเรื่อยๆ ----> 98
-
- Verified User
- โพสต์: 39
- ผู้ติดตาม: 0
ขอประเดิมpostแรกครับ
โพสต์ที่ 19
ขอตอบตามความเห็นของผมนะครับ ผมคิดว่า ...
บ้าน ก็คือ บ้าน
น้ำมัน ก็คือ น้ำมัน
ทอง ก็คือ ทอง
หุ้น(กิจการ) ก็คือ หุ้น
โดยที่มีมนุษย์เป็นผู้ประเมินราคาให้กับสิ่งเหล่านี้
แต่ที่ผ่านมามันมีการสร้างภาพลวงตาของมูลค่า(ราคา)ของสินทรัพย์ต่างๆขึ้นมา โดยที่มูลค่าที่สิ่งเหล่านี้ถูกประเมินมันอาจจะไม่สมดุลกับสภาพความเป็นจริงของปริมาณเงินในระบบที่จะสามารถรองรับได้ ถึงตอนนี้เมื่อทุกคนเริ่มตระหนักว่ามันไม่เหมาะสม ก็เลยมีการประเมินมูลค่าที่ว่าขึ้นมาใหม่ให้ต่ำลง และมันคงจะสิ้นสุดก็ต่อเมื่อราคาและมูลค่าที่แท้จริงเข้าสู่จุดสมดุล (ผมชอบความเห็นของคุณ iron_bridge เหมือนกันครับ อยากรู้เหมือนกันว่าช่วยปั๊มกันขนาดนี้แล้วสุดท้ายลูกโป่งจะเหลือลูกแค่ไหน)
เงินหายไปไหน ?
ผมว่า... เงินมันไม่ได้หายไปไหนมั้งครับ แต่สิ่งที่หายไปมันคงจะเป็นแค่ภาพลวงตาของมูลค่า(ที่ถูกประเมินไว้สูงจนเกินไป)
ใครเป็นคนได้กำไร เงิน รอบนี้ไปเยอะๆ ?
ใน "รอบนี้" คนที่ได้กำไรไปเยอะๆคงเป็นคนที่รู้ตัวก่อนคนอื่นแล้วออกจากวงจรนี้ไปก่อนที่มันจะแตก (เพราะคนที่อยู่จนมันแตกคงขาดทุนหมดเนอะ ไม่ว่าจะลงทุนในอะไร รวมถึงตัวผมด้วย)
แต่ "รอบหน้า" หวังว่าจะเป็นชาวVIในที่นี้ทุกๆคนนะครับ(รวมผมด้วย ) ที่จะได้กำไรจากการประเมินมูลค่าที่ผิดอีกแล้ว(ประเมินไว้ต่ำเกินไป )ของคนส่วนมากในตอนนี้
บ้าน ก็คือ บ้าน
น้ำมัน ก็คือ น้ำมัน
ทอง ก็คือ ทอง
หุ้น(กิจการ) ก็คือ หุ้น
โดยที่มีมนุษย์เป็นผู้ประเมินราคาให้กับสิ่งเหล่านี้
แต่ที่ผ่านมามันมีการสร้างภาพลวงตาของมูลค่า(ราคา)ของสินทรัพย์ต่างๆขึ้นมา โดยที่มูลค่าที่สิ่งเหล่านี้ถูกประเมินมันอาจจะไม่สมดุลกับสภาพความเป็นจริงของปริมาณเงินในระบบที่จะสามารถรองรับได้ ถึงตอนนี้เมื่อทุกคนเริ่มตระหนักว่ามันไม่เหมาะสม ก็เลยมีการประเมินมูลค่าที่ว่าขึ้นมาใหม่ให้ต่ำลง และมันคงจะสิ้นสุดก็ต่อเมื่อราคาและมูลค่าที่แท้จริงเข้าสู่จุดสมดุล (ผมชอบความเห็นของคุณ iron_bridge เหมือนกันครับ อยากรู้เหมือนกันว่าช่วยปั๊มกันขนาดนี้แล้วสุดท้ายลูกโป่งจะเหลือลูกแค่ไหน)
เงินหายไปไหน ?
ผมว่า... เงินมันไม่ได้หายไปไหนมั้งครับ แต่สิ่งที่หายไปมันคงจะเป็นแค่ภาพลวงตาของมูลค่า(ที่ถูกประเมินไว้สูงจนเกินไป)
ใครเป็นคนได้กำไร เงิน รอบนี้ไปเยอะๆ ?
ใน "รอบนี้" คนที่ได้กำไรไปเยอะๆคงเป็นคนที่รู้ตัวก่อนคนอื่นแล้วออกจากวงจรนี้ไปก่อนที่มันจะแตก (เพราะคนที่อยู่จนมันแตกคงขาดทุนหมดเนอะ ไม่ว่าจะลงทุนในอะไร รวมถึงตัวผมด้วย)
แต่ "รอบหน้า" หวังว่าจะเป็นชาวVIในที่นี้ทุกๆคนนะครับ(รวมผมด้วย ) ที่จะได้กำไรจากการประเมินมูลค่าที่ผิดอีกแล้ว(ประเมินไว้ต่ำเกินไป )ของคนส่วนมากในตอนนี้
-
- Verified User
- โพสต์: 149
- ผู้ติดตาม: 0
ถามแบบโง่ๆ นะครับ วิกฤติ คราวนี้ ใครได้เงินไปครับ?
โพสต์ที่ 20
ใครก็ตามที่แปลงตราสารพวกนี้ไปเป็นเงินสดก่อน รวมถึงพวกชอทด้วย
คนที่ลองโพสิชั่นก็เจ็บหมด
ก็ต้องเจ้ามือเหมือนที่หลายท่านว่ามาล่ะครับ
เพราะเขามอนิเตอร์การถือครองตราสารต่างๆอยู่จากมุมบนเหนือพวกเรา
คนที่ลองโพสิชั่นก็เจ็บหมด
ก็ต้องเจ้ามือเหมือนที่หลายท่านว่ามาล่ะครับ
เพราะเขามอนิเตอร์การถือครองตราสารต่างๆอยู่จากมุมบนเหนือพวกเรา
-
- Verified User
- โพสต์: 174
- ผู้ติดตาม: 0
ถามแบบโง่ๆ นะครับ วิกฤติ คราวนี้ ใครได้เงินไปครับ?
โพสต์ที่ 21
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3352
- ผู้ติดตาม: 1
ถามแบบโง่ๆ นะครับ วิกฤติ คราวนี้ ใครได้เงินไปครับ?
โพสต์ที่ 22
ผมเห็นด้วยกับพี่ naris นะ ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาคือการเอาเงินในอนาคตมาใช้...
ดังนั้น คนที่ได้กำไรก็คือ คนในอดีตที่เก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากปัจจุบันไปเรียบร้อยแล้ว เอาไปใช้จ่ายอิ่มหมีพลีมัน โดยที่คนวงกว้างในปัจจุบันเป็นผู้ใช้หนี้
ถ้าจะให้ระบุเป็นตัวคนก็คงจะเป็น...
1. นายธนาคารในยุคเฟื่องฟู
2. นายทุนที่กระโดดเข้ามาเก็งกำไรแล้วออกไปทัน
3. ประชาชนชาวอเมริกันที่กู้ยืมมาใช้จ่ายกันอย่างอิ่มหน่ำสำราญ
4. บริษัทส่งออกทั่วโลกที่ขายของให้มะกัน
สุดท้าย ถ้าคุณไม่ได้อยู่ในปาร์ตี้ตอนที่เค้าฉลองกันอย่างสุดเหวี่ยง ตอนนี้คุณก็เป็นคนที่ต้องมาใช้หนี้โดยที่ไม่ได้กินอะไรเลย
ดังนั้น คนที่ได้กำไรก็คือ คนในอดีตที่เก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากปัจจุบันไปเรียบร้อยแล้ว เอาไปใช้จ่ายอิ่มหมีพลีมัน โดยที่คนวงกว้างในปัจจุบันเป็นผู้ใช้หนี้
ถ้าจะให้ระบุเป็นตัวคนก็คงจะเป็น...
1. นายธนาคารในยุคเฟื่องฟู
2. นายทุนที่กระโดดเข้ามาเก็งกำไรแล้วออกไปทัน
3. ประชาชนชาวอเมริกันที่กู้ยืมมาใช้จ่ายกันอย่างอิ่มหน่ำสำราญ
4. บริษัทส่งออกทั่วโลกที่ขายของให้มะกัน
สุดท้าย ถ้าคุณไม่ได้อยู่ในปาร์ตี้ตอนที่เค้าฉลองกันอย่างสุดเหวี่ยง ตอนนี้คุณก็เป็นคนที่ต้องมาใช้หนี้โดยที่ไม่ได้กินอะไรเลย
- sorawut
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2494
- ผู้ติดตาม: 2
ถามแบบโง่ๆ นะครับ วิกฤติ คราวนี้ ใครได้เงินไปครับ?
โพสต์ที่ 26
ธนาคารน่าจะเรียกหลักทรัพย์ หรือคนค้ำประกันไม่ใช่หรอครับchatchai เขียน:ถ้าเรากู้ยืมเงินมาซัก 10 ล้านบาท
นำเงินมา ซื้อ ดื่ม กิน เที่ยว
สุดท้ายไม่มีเงินใช้หนี้ ถูกฟ้องล้มละลาย
ถือว่าเราได้เงินหรือเปล่าครับ
ถ้าเป็นหลักทรัพย์ของเรา เราอาจจะได้หรือเสียขึ้นอยู่กับมูลค่าของหลักทรัพย์นั้นถ้าเราขายทอดตลาดว่า มากกว่าหรือน้อยกว่าเงินที่เรากู้ได้
ถ้าเป็นคนค้ำประกันก็ ... :roll:
ตัดสินใจว่า ธุรกิจไหนที่คุณต้องการจะเป็นเจ้าของ
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
-
- Verified User
- โพสต์: 912
- ผู้ติดตาม: 0
ถามแบบโง่ๆ นะครับ วิกฤติ คราวนี้ ใครได้เงินไปครับ?
โพสต์ที่ 28
จาก cnbc
http://www.cnbc.com/id/27131619/for/cnbc/
All that money you've lost — where did it go?
By ERIC CARVIN | 11 Oct 2008 | 12:41 PM ET
Text Size
NEW YORK - Trillions in stock market value — gone. Trillions in retirement savings — gone. A huge chunk of the money you paid for your house, the money you're saving for college, the money your boss needs to make payroll — gone, gone, gone.
Whether you're a stock broker or Joe Six-pack, if you have a 401(k), a mutual fund or a college savings plan, tumbling stock markets and sagging home prices mean you've lost a whole lot of the money that was right there on your account statements just a few months ago.
But if you no longer have that money, who does? The fat cats on Wall Street? Some oil baron in Saudi Arabia? The government of China?
Or is it just — gone?
If you're looking to track down your missing money — figure out who has it now, maybe ask to have it back — you might be disappointed to learn that is was never really money in the first place.
Robert Shiller, an economist at Yale, puts it bluntly: The notion that you lose a pile of money whenever the stock market tanks is a "fallacy." He says the price of a stock has never been the same thing as money — it's simply the "best guess" of what the stock is worth.
"It's in people's minds," Shiller explains. "We're just recording a measure of what people think the stock market is worth. What the people who are willing to trade today — who are very, very few people — are actually trading at. So we're just extrapolating that and thinking, well, maybe that's what everyone thinks it's worth."
Shiller uses the example of an appraiser who values a house at $350,000, a week after saying it was worth $400,000.
"In a sense, $50,000 just disappeared when he said that," he said. "But it's all in the mind."
Though something, of course, is disappearing as markets and real estate values tumble. Even if a share of stock you own isn't a wad of bills in your wallet, even if the value of your home isn't something you can redeem at will, surely you can lose potential money — that is, the money that would be yours to spend if you sold your house or emptied out your mutual funds right now.
And if you're a few months away from retirement, or hoping to sell your house and buy a smaller one to help pay for your kid's college tuition, this "potential money" is something you're counting on to get by. For people who need cash and need it now, this is as real as money gets, whether or not it meets the technical definition of the word.
Still, you run into trouble when you think of that potential money as being the same thing as the cash in your purse or your checking account.
"That's a big mistake," says Dale Jorgenson, an economics professor at Harvard.
There's a key distinction here: While the money in your pocket is unlikely to just vanish into thin air, the money you could have had, if only you'd sold your house or drained your stock-heavy mutual funds a year ago, most certainly can.
"You can't enjoy the benefits of your 401(k) if it's disappeared," Jorgenson explains. "If you had it all in financial stocks and they've all gone down by 80 percent — sorry! That is a permanent loss because those folks aren't coming back. We're gonna have a huge shrinkage in the financial sector."
There was a time when nobody had to wonder what happened to the money they used to have. Until paper money was developed in China around the ninth century, money was something solid that had actual value — like a gold coin that was worth whatever that amount of gold was worth, according to Douglas Mudd, curator of the American Numismatic Association's Money Museum in Denver.
Back then, if the money you once had was suddenly gone, there was a simple reason — you spent it, someone stole it, you dropped it in a field somewhere, or maybe a tornado or some other disaster struck wherever you last put it down.
But these days, a lot of things that have monetary value can't be held in your hand.
If you choose, you can pour most of your money into stocks and track their value in real time on a computer screen, confident that you'll get good money for them when you decide to sell. And you won't be alone — staring at millions of computer screens are other investors who share your confidence that the value of their portfolios will hold up.
But that collective confidence, Jorgenson says, is gone. And when confidence is drained out of a financial system, a lot of investors will decide to sell at any price, and a big chunk of that money you thought your investments were worth simply goes away.
If you once thought your investment portfolio was as good as a suitcase full of twenties, you might suddenly suspect that it's not.
In the process, of course, you're losing wealth. But does that mean someone else must be gaining it? Does the world have some fixed amount of wealth that shifts between people, nations and institutions with the ebb and flow of the economy?
Jorgenson says no — the amount of wealth in the world "simply decreases in a situation like this." And he cautions against assuming that your investment losses mean a gain for someone else — like wealthy stock speculators who try to make money by betting that the market will drop.
"Those folks in general have been losing their shirts at a prodigious rate," he said. "They took a big risk and now they're suffering from the consequences."
"Of course, they had a great life, as long as it lasted."
Copyright 2008 The Associated Press. All rights reserved. This material may not be published, broadcast, rewritten or redistributed.
http://www.cnbc.com/id/27131619/for/cnbc/
All that money you've lost — where did it go?
By ERIC CARVIN | 11 Oct 2008 | 12:41 PM ET
Text Size
NEW YORK - Trillions in stock market value — gone. Trillions in retirement savings — gone. A huge chunk of the money you paid for your house, the money you're saving for college, the money your boss needs to make payroll — gone, gone, gone.
Whether you're a stock broker or Joe Six-pack, if you have a 401(k), a mutual fund or a college savings plan, tumbling stock markets and sagging home prices mean you've lost a whole lot of the money that was right there on your account statements just a few months ago.
But if you no longer have that money, who does? The fat cats on Wall Street? Some oil baron in Saudi Arabia? The government of China?
Or is it just — gone?
If you're looking to track down your missing money — figure out who has it now, maybe ask to have it back — you might be disappointed to learn that is was never really money in the first place.
Robert Shiller, an economist at Yale, puts it bluntly: The notion that you lose a pile of money whenever the stock market tanks is a "fallacy." He says the price of a stock has never been the same thing as money — it's simply the "best guess" of what the stock is worth.
"It's in people's minds," Shiller explains. "We're just recording a measure of what people think the stock market is worth. What the people who are willing to trade today — who are very, very few people — are actually trading at. So we're just extrapolating that and thinking, well, maybe that's what everyone thinks it's worth."
Shiller uses the example of an appraiser who values a house at $350,000, a week after saying it was worth $400,000.
"In a sense, $50,000 just disappeared when he said that," he said. "But it's all in the mind."
Though something, of course, is disappearing as markets and real estate values tumble. Even if a share of stock you own isn't a wad of bills in your wallet, even if the value of your home isn't something you can redeem at will, surely you can lose potential money — that is, the money that would be yours to spend if you sold your house or emptied out your mutual funds right now.
And if you're a few months away from retirement, or hoping to sell your house and buy a smaller one to help pay for your kid's college tuition, this "potential money" is something you're counting on to get by. For people who need cash and need it now, this is as real as money gets, whether or not it meets the technical definition of the word.
Still, you run into trouble when you think of that potential money as being the same thing as the cash in your purse or your checking account.
"That's a big mistake," says Dale Jorgenson, an economics professor at Harvard.
There's a key distinction here: While the money in your pocket is unlikely to just vanish into thin air, the money you could have had, if only you'd sold your house or drained your stock-heavy mutual funds a year ago, most certainly can.
"You can't enjoy the benefits of your 401(k) if it's disappeared," Jorgenson explains. "If you had it all in financial stocks and they've all gone down by 80 percent — sorry! That is a permanent loss because those folks aren't coming back. We're gonna have a huge shrinkage in the financial sector."
There was a time when nobody had to wonder what happened to the money they used to have. Until paper money was developed in China around the ninth century, money was something solid that had actual value — like a gold coin that was worth whatever that amount of gold was worth, according to Douglas Mudd, curator of the American Numismatic Association's Money Museum in Denver.
Back then, if the money you once had was suddenly gone, there was a simple reason — you spent it, someone stole it, you dropped it in a field somewhere, or maybe a tornado or some other disaster struck wherever you last put it down.
But these days, a lot of things that have monetary value can't be held in your hand.
If you choose, you can pour most of your money into stocks and track their value in real time on a computer screen, confident that you'll get good money for them when you decide to sell. And you won't be alone — staring at millions of computer screens are other investors who share your confidence that the value of their portfolios will hold up.
But that collective confidence, Jorgenson says, is gone. And when confidence is drained out of a financial system, a lot of investors will decide to sell at any price, and a big chunk of that money you thought your investments were worth simply goes away.
If you once thought your investment portfolio was as good as a suitcase full of twenties, you might suddenly suspect that it's not.
In the process, of course, you're losing wealth. But does that mean someone else must be gaining it? Does the world have some fixed amount of wealth that shifts between people, nations and institutions with the ebb and flow of the economy?
Jorgenson says no — the amount of wealth in the world "simply decreases in a situation like this." And he cautions against assuming that your investment losses mean a gain for someone else — like wealthy stock speculators who try to make money by betting that the market will drop.
"Those folks in general have been losing their shirts at a prodigious rate," he said. "They took a big risk and now they're suffering from the consequences."
"Of course, they had a great life, as long as it lasted."
Copyright 2008 The Associated Press. All rights reserved. This material may not be published, broadcast, rewritten or redistributed.
ในยามลมแรง แม้แต่ไก่งวงยังบินได้
แต่เมื่อยามลมพัดหวน ผู้ที่อยู่รอดนั้่นคือพญาอินทรี
แต่เมื่อยามลมพัดหวน ผู้ที่อยู่รอดนั้่นคือพญาอินทรี