ถามคุณ chatchai ค่ะ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

ล็อคหัวข้อ
wg
ผู้ติดตาม: 0

ถามคุณ chatchai ค่ะ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ถ้าคุณคิดว่าตลาดไม่ดี คุณจะ short against port หุ้น wg ก่อนไหมคะ จากเรื่องน้ำมันแพง ก่อการร้ายต่างๆ
เช่นตอนนี้ 30 บาท คุณขายก็มากำไรตั้งเท่าตัว แล้วค่อยไปรับกลับตอน 20 กว่าบาท คิดว่าไงคะ
แล้วจากปัจจัยเรื่องน้ำมันแพง และข่าวร้ายต่างๆ จะกระทบ wg แค่ไหนคะ
แล้วคุณคิดว่า wg จะประกาศผลประกอบการ ไตรมาสนี้ออกมาดีไหมคะ
และถ้าไม่ดี คุณจะขายไหมคะ คือสงสัยน่ะค่ะ ว่า vi คิดยังไงกัน
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 1

ถามคุณ chatchai ค่ะ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

เรื่อง Short นั้นผมไม่ค่อยถนัดครับ คือผมไม่ค่อยอยากที่จะเล่นสั้น ไม่ว่าจะขาลงขาขึ้น ผมว่าไม่มีอะไรแน่นอนครับ ถ้าผมขายที่ 30 บาทหมดเลย อาจจะมีนักลงทุนแนว VI คนอื่นรอซื้ออยู่ก็ได้ แล้วจะแน่ใจได้อย่างไรว่าผมจะซื้อคืนได้ที่ 20 กว่าบาทครับ จิตใจคงว้าวุ่นน่าดู ถ้าจะ Short ผมว่าขายหุ้นตลาดน่าจะเหมาะสมกว่านะครับ

ส่วนเรื่องผลการดำเนินงานที่ว่าไม่ดี คงต้องพิจารณาอย่างละเอียดละครับว่าที่ไม่ดี ไม่ดีตรงไหน ไม่ดีเพราะอะไรครับ

จริงๆแล้ว ผมลงทุน WG ก็หวังเงินปันผลเพื่อเลี้ยงชีพละครับ ถ้าให้ผมขาย WG ไป แล้วจะให้ไปซื้ออะไรละครับ ถ้าถือเงินสดแล้วผมจะเอาเงินที่ไหนมาซื้อข้าวกินครับ จริงมะ
Bakery
Verified User
โพสต์: 6
ผู้ติดตาม: 0

WG น่าจะกำลังทำ side way อยู่ครับ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

หุ้นตัวนี้ มี นาง เพาพิลาส เหมวชิรวรากร ถืออยู่ 100,000 หุ้น คิดเป็น 0.56% (อันนี้สงสัยถือแทนคุณสามีแน่เลย) VI คนนี้ยังถือเลยอะครับ แล้วคุณจะรีบร้อน short ไปทำไมหล่ะครับ ปันผลก็ออกแนวสม่ำเสมอ กำไรไตรมาส 1 ก็เพิ่มขึ้น ถ้าดู Timing จาก Bolling Band โอกาสหุ้นจะทะลุผ่าน 31.50 อาจต้องใช้กำลังมากสักหน่อย แล้วถ้าขึ้นมาก็อาจไปติดตรง 32.00 อีก แต่ถ้าทะลุ 2 ด่านนี้ไปได้ อาจไปไกลครับ โอกาสที่จะลงต่ำกว่า 29.00 บาท ก็ดูจะมีแต่ไม่น่าจะทุบทีเดียวหาย ถ้าค่อยๆ ซึมทีละ 1 สลึง ทีละ 50 สตางค์ ก็ไม่แน่ครับ เข้าใจว่าช่วงนี้มีโอกาสที่จะแกว่งตัวในกรอบ 29.50 - 31.00 ครับ รอดูทิศทางของหุ้น ของตลาดอีกนิด น่าจะดีกว่าไหมครับ short ไปได้นิดๆ หน่อยๆ เสียค่า broke หมดครับ
ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ดู ค่อยๆ ทำ ค่อยๆ กำไร
ForrestGump
Verified User
โพสต์: 1435
ผู้ติดตาม: 0

ถามคุณ chatchai ค่ะ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ผมซื้อ WG ตามคุณฉัตรชัยเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา (สงสัยคงตามช้าไปมาก) แต่ก็เชื่อมั่นในฐานะของกิจการ และ คุณฉัตรชัย อิอิ ที่ราคา 30 บาท

แต่ต้นปีก็สามสิบยังแจ๋ว มาเดือนแปด ก็ 29.75 ราคาไม่ไปไหนเลย
ถ้ามองไม่ดีคือ ไม่ทำกำไรจากส่วนต่าง
ถ้ามองดีๆ คือ SET ลงมามาก แต่ไม่สะทกสะท้าน น่าจะถือว่ายอดเยี่ยมนะครับ

้ถ้าใครชอบหวือหวา ลองซื้อ N-PARK ดีกว่า ผู้บริหารเค้า Imagination สูงและซับซ้อนซ่อนเงื่อนจัง
กฎข้อที่1 อย่ายอมขาดทุน กฎข้อที่2 กลับไปดูกฎข้อที่ 1
+++unlog
ผู้ติดตาม: 0

ถามคุณ chatchai ค่ะ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

:D :D

รบกวนถาม คุณฉัตรชัยหน่อยครับ
ขี้เกียจตั้งกระทู้ใหม่ เกรงว่าจะเกะกะ


ช่วยดู SPSU ให้ทีสิครับ
น่าสนใจไหม
เพราะ มีเงินสด ต่อหุ้นถึง 7.2 บาท

แต่ราคาหุ้นตอนนี้ อยู่ที่ 7.9 บาท

ขอความคิดเห็นส่วนตัวครับ
ขอบคุณครับ :D :D
Bakery
Verified User
โพสต์: 6
ผู้ติดตาม: 0

เพิ่งมีปันผล 2 ปีหลังเอง

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ปัจจัยพื้นฐานดีขึ้นอาจเนื่องจากอยู่ในภาวะเศรษฐกิจขาขึ้น คนซื้อจักรยานยนต์เพิ่มมากขึ้น ได้ยินมาว่าบางแห่งกู้เงินกองทุนหมู่บ้านมาซื้อจักรยานยนต์ แต่น้ำมันแพงขึ้นแตะ 50 Dollar แบบนี้ไม่รู้ว่าในระยะยาวจะรักษายอดขายได้อยู่หรือเปล่า ราคาหุ้นของกิจการดูจะต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีอยู่สักหน่อย ดูเทคนิคหุ้นทำท่าจะเป็นขาลง ไม่รู้ว่าจะทำ new low ของรอบไหมนะครับ ถ้าไม่ทำ new low ราคาแถวนี้ก็น่าจะติดพื้นแล้ว หล่ะครับ แต่ถ้าหลุด น่าจะรอให้ราคาไหลลงจนนิ่งก่อนครับ ไม่รู้ว่าจะโยนกันขนาดไหน
ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ดู ค่อยๆ ทำ ค่อยๆ กำไร
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 1

ถามคุณ chatchai ค่ะ

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ดูแล้วก็น่าสนใจครับ ราคาลงมากพอสมควร

การที่บริษัทมีเงินสดเยอะ ก็เนื่องจาก

1. ในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทลดสินค้าคงคลังลงโดยตลอด จาก 544.40 ล้านบาทเหลือเพียง 231.86 ล้านบาท (ไม่รู้ว่ายอดขายจะลดลงตามหรือไม่)

2. บริษัทมีการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรน้อยมาก เพียง 171.45 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทก่อสร้างอาคารบนที่ดินของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นใหญ่

3. บริษัทสามารถยืดการชำระหนี้ได้มากขึ้น
จากสิ้นปี 2544 บริษัทมีเจ้าหนี้การค้าเพียง 574.30 ล้านบาท เป็น 1,103.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 529.18 ล้านบาท ในงวดสิ้นปี 2546
ยอดขายปี 2544 กับ 2546 เท่ากับ 2,696.74 ล้านบาทและ 4,294.65 ล้านบาท
ในขณะที่บริษัทมีลูกหนี้การค้าเพิ่มขึ้นจาก 1,995.29 ล้านบาทในปี 2544 เป็น 2,203.63 ล้านบาทในปี 2546 เพิ่มขึ้นเพียง 208.34 ล้านบาท

เงินสดสุทธิของบริษัทเลยเพิ่มจาก -30.39 ล้านบาทในปี 2544 เป็น 774.53 ล้านบาทในปี 2546

ในขณะที่มีข้อควรระวัง คือ

1. เรื่องการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพียงพอหรือไม่ จากหมายเหตุงบการเงิน บริษัทมีหนี้ที่ผิดนัดทั้งหมด 733.44 ล้านบาท แต่มีการตั้งสำรองเพียง 445.47 ล้านบาท ในงวด สิ้น มี.ค. 47

2. การให้เครดิตจากเจ้าหนี้การค้า ถ้าลดลง นั้นหมายถึงเงินสดสุทธิของบริษัทก็จะลดลง

3. อัตราการจ่ายปันผลค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิและเงินสดสุทธิ
ล็อคหัวข้อ