เอามั่งแล้วกันค่ะ ถือเป็นการปรึกษาหารือจะดีกว่า ใช้ว่าคำแนะนำไม่น่าจะเหมาะสม
สำหรับพี่บลูแล้ว ในสายตาดิฉัน จัดให้อยู่ในกลุ่มหนูหนึ่งเลยล่ะ
การพลาดครั้งใหญ่ซักครั้งสองครั้ง ไม่ได้หมายถึงต้องถูกออกจากกลุ่มหนูหนึ่งที่ไหนกันเล่า....
1. เลือกหุ้นโดยเน้นคุณภาพมากกว่าการคาดการณ์กำไรแค่ช่วงสั้นๆ เพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทนั้นจะอยู่ไปอีกนานที่สุดหรือแพ้เป็นบริษัทท้ายๆในกรณีเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
....อันนี้ดิฉันก็ว่าน่าจะเป็นงั้นค่ะ
2. สภาพคล่องในการซื้อขายต้องมากพอให้เข้าออกได้อย่างรวดเร็ว
....คิดว่า อันนี้ก็คงต้องดูระยะด้วย บางช่วงเวลา หุ้นที่ดีในอนาคตบางตัว ตอนที่เริ่มซื้อ สภาพคล่องมันก็น้อยได้ พอตลาดกลับมาคึกคัก หรือหุ้นตัวเก่งกลับมาคืนฟอร์มแชมป์ สภาพคล่องก็กลับมาได้เช่นกัน(แน่นอน ในบางตัว มันก็ไม่คล่องอยู่อย่างนั้นล่ะ ไม่ว่าจะสภาพตลาดไหน ซึ่งเข้าใจว่าต้องพิจารณาจากประวัติความที่เคยเป็นแชมป์ หรือมีแววว่าจะได้เป็นถึงแชมป์ได้ในวันหน้า)
3. มีจุด cut loss ที่ชัดเจน ไม่ต้องกลัวเรื่องมูลค่า ถ้าลงจนเปลี่ยนเทรนก็ต้อง cut ไปก่อน แล้วถ้า cut แล้วผิดทางไม่ว่าโดนหลอกหรือตลาดเปลี่ยนค่อยซื้อคืนใหม่ โดยใช้ technical เข้าช่วย
....ถ้าจะให้ดี การพิจารณาผสมผสานข้อมูลเรื่องมูลค่าด้วย จะดียิ่งขึ้นมั้งคะ แต่ทั้งนี้ การหลุดเทรนด์สำคัญ มักจะมาจากเหตุอันคาดได้ในอนาคตมาเกี่ยวข้อง เทคนิคมักจะไม่มีเหตุผลกำกับแปะบอกไว้ว่าทำไมจึงหลุดเทรนด์สำคัญได้ แต่แทบทุกครั้ง มันมีความคิดของผู้คนแฝงฝังอยู่ในจุดหักเหนั้นเสมอ โดยเฉพาะเมื่อมันหลุดเทรนด์ใหญ่สุดลงมาได้ ต้องมีอะไรแฝงอยู่แน่นอน คนที่ติดอยู่ด้านบน มักเป้นคนที่มาพบทีหลังว่าคาดได้ช้ากว่าคนที่หนีออกไปแล้ว
เด็กเทคนิครู้ตัวดีว่า ไม่เก่งเรื่องมูลค่า ไม่แน่ใจเรื่องข้อมูลอนาคตอันสำคัญจะมีผลกระทบต่อมูลค่าในอนาคต เขาจะคิดเสมอว่า การหลุดเทรนด์ใหญ่สุดลงมาได้ ต้องมีคนที่รู้อนาคตมากกว่า และอีกพวกคือฟลุ๊คหนีทันพอดี
ดังนั้นจึงมีคำกล่าวว่าไว้ว่า "ยิงก่อน ถามทีหลัง" ไฟไหม้ ต้องหาทางหนีก่อน เห็นชัดๆว่าไฟไหม้ อย่ามัวถามว่าทำไมจึงไหม้ ค่อยออกมาถามกันด้านนอกตัวอาคาร แล้วค่อยว่ากันอีกที
คำว่าไฟไหม้ คือมันหลุดเทรนด์ใหญ่ เทรนด์สำคัญ โดยเฉพาะจุดที่ถ้าหลุดแล้วมันคว่ำแน่ๆ อันนี้เห็นเลยว่าไฟแน่ๆ ไม่ใช่แค่แสงแว๊บๆ ต้องหนีทันที
แต่ถ้ามันยังไม่ใช่จุดสำคัญ จะรอก่อนก็ได้ ค่อยๆคิดหาเหตุผลก็ได้แล้วแต่ถนัด
4. ปัจจัยเรื่องการกระจายความเสี่ยงจำนวนหุ้นไม่สำคัญเท่าไหร่ ถ้าผมมีข้อ 2-3 แล้วผมจึงคิดว่าการกระจายตัวหุ้นยังไม่สำคัญมากสำหรับผมจึงยังคงลงทุนแบบ 1-2 ตัวไปก่อน ถ้าพอร์ตใหญ่กว่านี้ค่อยว่ากัน
....พี่บลูจัดอยู่ในกลุ่มหนูหนึ่ง การกระจายหุ้น ดิฉันก็คิดว่าไม่ใช่เรื่องจำเป็นมากนัก เอาว่าไปตามขนาดพอร์ทก็น่าจะดีแล้วค่ะ แต่สำหรับหนูสอง ไม่ควรเลียนแบบหนูหนึ่งเด็ดขาด อตร. ถ้าอ่านไม่ขาดควรกระจายตัวถือมากกว่า 1-2 ตัวแบบนั้น
แหะๆ คืนนี้เล่นเนตดึกหน่อย ขอลองฟิตกะเขาบ้างก่อนนอนละกัน
:lol: