ใช้หุ้นทำงานแทนเรา -- ไอเดียการลงทุนขาลงสำหรับ VI
-
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้หุ้นทำงานแทนเรา -- ไอเดียการลงทุนขาลงสำหรับ VI
โพสต์ที่ 31
ถ้าผมตกงาน และมีเงินมากจำนวนหนึ่งก็จะซื้อหุ้นในพอร์ตประมาณ 20 ตัว
แล้วใช้วิธีคุณเด่นศรี รับรองวันๆคีย์แต่คำสั่ง-ซื้อขาย สำหรับตัวผมสนุกครับ คนอื่นไม่รู้คิดแบบนี้หรือเปล่า
ที่คุณ ForrestGump พูดมา ต้องมีช่วงซื้อกลับคืนด้วย โดยซื้อจะต้องถูกกว่าขายไป
บริษัทที่มี market cap. เกินหมื่นล้านขึ้นไป ในปัจจุบัน บอกหน่อยซิครับว่าบริษัทไหนกำลังจะปิดกิจการ (เพราะคุณเด่นศรีแนะนำให้เลือกจาก set50)
ผลประกอบการ กำไร-ขาดทุน เป็นการคาดคะเนกันส่วนใหญ่ในตลาดทุน
ตราบใดหุ้นมีสภาพคล่อง หุ้นตก คุณสามารถหากำไร จากวิธีของคุณเด่นศรีได้แน่นอน แต่ต้องมีเวลาติดตามพอร์ตแบบไม่ต้องลุกไปไหนกันเลย
แต่ไม่ว่าวิธีไหน คุณเด่นศรีบอกไว้แล้ว การลงทุนจะสำเร็จมันอยู่ที่แผน และดำเนินการตามแผนอย่างมีวินัย
ไม่อยากให้ไปว่าวิธีผู้อื่นเป็นการลอกลวง ของเจ้ามือให้รายย่อยขายของถูก ศึกษาและตัดสินใจเองครับ วิธีไหนเลือกเอาเอง
แล้วใช้วิธีคุณเด่นศรี รับรองวันๆคีย์แต่คำสั่ง-ซื้อขาย สำหรับตัวผมสนุกครับ คนอื่นไม่รู้คิดแบบนี้หรือเปล่า
ที่คุณ ForrestGump พูดมา ต้องมีช่วงซื้อกลับคืนด้วย โดยซื้อจะต้องถูกกว่าขายไป
บริษัทที่มี market cap. เกินหมื่นล้านขึ้นไป ในปัจจุบัน บอกหน่อยซิครับว่าบริษัทไหนกำลังจะปิดกิจการ (เพราะคุณเด่นศรีแนะนำให้เลือกจาก set50)
ผลประกอบการ กำไร-ขาดทุน เป็นการคาดคะเนกันส่วนใหญ่ในตลาดทุน
ตราบใดหุ้นมีสภาพคล่อง หุ้นตก คุณสามารถหากำไร จากวิธีของคุณเด่นศรีได้แน่นอน แต่ต้องมีเวลาติดตามพอร์ตแบบไม่ต้องลุกไปไหนกันเลย
แต่ไม่ว่าวิธีไหน คุณเด่นศรีบอกไว้แล้ว การลงทุนจะสำเร็จมันอยู่ที่แผน และดำเนินการตามแผนอย่างมีวินัย
ไม่อยากให้ไปว่าวิธีผู้อื่นเป็นการลอกลวง ของเจ้ามือให้รายย่อยขายของถูก ศึกษาและตัดสินใจเองครับ วิธีไหนเลือกเอาเอง
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้หุ้นทำงานแทนเรา -- ไอเดียการลงทุนขาลงสำหรับ VI
โพสต์ที่ 32
วีไอส่วนใหญ่จะไม่เข้าใจวิธีคิดแบบนี้ครับ
วีเอสส่วนใหญ่ก็จะไม่เข้าใจเหมือนกัน
ต่างคนก็มีแนวทางการลงทุนของตัวเอง
ที่ตัวเองคิดว่าดีที่สุดอยู่แล้ว
อธิบายไป ต่อให้เข้าใจ ก็ไม่สนใจอยู่ดี
เอาเป็นว่า ถ้าคุณเริ่มต้นด้วยความคิดจะ
จับผิดว่า มันไม่ดีอย่างไร มีจุดอ่อนอย่างไร
อย่าไปอ่านเลยครับ เสียเวลาทำมาหากิน
ถ้าคุณมีใจเป็นกลาง ยอมเปิดกว้างรับความคิด
ของคนอื่นที่ไม่ตรงกับตัวเอง
และศึกษาดูว่า มันมีดีอย่างไร มีอะไรที่คุณเอา
มาใช้ประโยชน์ได้บ้าง (อาจจะไม่มีก็ได้)
คุณก็จะพัฒนาการลงทุนตัวเองได้ครับ
วิธีของคุณเด่นศรีเป็นการคิดนอกกรอบครับ
ถ้าไม่เข้าใจหลักการ ก็เป็นแค่วิธีการฆ่าตัวตาย
แบบช้าๆ แบบหนึ่ง
เดี๋ยวผมจะขอย้ายกระทู้นี้ไป "งานอดิเรก" ก็แล้วกันครับ
จะได้ไม่สับสน
วีเอสส่วนใหญ่ก็จะไม่เข้าใจเหมือนกัน
ต่างคนก็มีแนวทางการลงทุนของตัวเอง
ที่ตัวเองคิดว่าดีที่สุดอยู่แล้ว
อธิบายไป ต่อให้เข้าใจ ก็ไม่สนใจอยู่ดี
เอาเป็นว่า ถ้าคุณเริ่มต้นด้วยความคิดจะ
จับผิดว่า มันไม่ดีอย่างไร มีจุดอ่อนอย่างไร
อย่าไปอ่านเลยครับ เสียเวลาทำมาหากิน
ถ้าคุณมีใจเป็นกลาง ยอมเปิดกว้างรับความคิด
ของคนอื่นที่ไม่ตรงกับตัวเอง
และศึกษาดูว่า มันมีดีอย่างไร มีอะไรที่คุณเอา
มาใช้ประโยชน์ได้บ้าง (อาจจะไม่มีก็ได้)
คุณก็จะพัฒนาการลงทุนตัวเองได้ครับ
วิธีของคุณเด่นศรีเป็นการคิดนอกกรอบครับ
ถ้าไม่เข้าใจหลักการ ก็เป็นแค่วิธีการฆ่าตัวตาย
แบบช้าๆ แบบหนึ่ง
เดี๋ยวผมจะขอย้ายกระทู้นี้ไป "งานอดิเรก" ก็แล้วกันครับ
จะได้ไม่สับสน
-
- Verified User
- โพสต์: 24
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้หุ้นทำงานแทนเรา -- ไอเดียการลงทุนขาลงสำหรับ VI
โพสต์ที่ 33
ผมเองก็ไม่เห็นด้วยวิธีของคุณเด่นศรีในบางจุด แต่คิดว่ามีจุดที่มีประโยชน์มาก ๆ ในการนำมาประยุกต์ใช้กับกลยุทธ์ของตัวเองเยอะทีเดียว
ที่จริงวิธีของคุณเด่นศรี ผมคิดว่า VI จะได้ประโยชน์มากนะครับถ้าเอามาประยุกต์ใช้ให้ถูกจุด ก็คงต้องแล้วแต่ว่าจะเปิดใจให้กว้างได้ขนาดไหน ถ้าคนที่มีแนวคิดว่า การ short sell การดูเทคนิค ฯลฯ ไร้สาระ ก็คงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปศึกษากลยุทธ์อีกร้อยแปดพันเก้าในโลกนี้มั้งคับ
ที่จริงวิธีของคุณเด่นศรี ผมคิดว่า VI จะได้ประโยชน์มากนะครับถ้าเอามาประยุกต์ใช้ให้ถูกจุด ก็คงต้องแล้วแต่ว่าจะเปิดใจให้กว้างได้ขนาดไหน ถ้าคนที่มีแนวคิดว่า การ short sell การดูเทคนิค ฯลฯ ไร้สาระ ก็คงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปศึกษากลยุทธ์อีกร้อยแปดพันเก้าในโลกนี้มั้งคับ
-
- Verified User
- โพสต์: 18
- ผู้ติดตาม: 0
ขอโทษนะครับ
โพสต์ที่ 34
อ่านแล้วผมว่าเข้ากับชาวVIได้นะครับ
แต่ต้องเลือกหุ้นที่ดีด้วยเพราะเวลาตลาดกระทิงจะได้คืนมามากๆชดเชยมูลค่าหุ้นที่ลดลง
ไม่ค่อยเข้าใจบางอย่างครับ คือที่เข้าพูดว่า ขึ้น หรือลงกี่ช่อง ไอ้ช่องเนี่ยคืออะไร คิดยังไงครับ ขอโทษถ้าถามคำถามไม่เข้าท่านะครับ คือเพิ่งจะศึกษาน่ะครับ รบกวนตอบด้วยนะครับ
ขอบคุณมากๆครับ
แต่ต้องเลือกหุ้นที่ดีด้วยเพราะเวลาตลาดกระทิงจะได้คืนมามากๆชดเชยมูลค่าหุ้นที่ลดลง
ไม่ค่อยเข้าใจบางอย่างครับ คือที่เข้าพูดว่า ขึ้น หรือลงกี่ช่อง ไอ้ช่องเนี่ยคืออะไร คิดยังไงครับ ขอโทษถ้าถามคำถามไม่เข้าท่านะครับ คือเพิ่งจะศึกษาน่ะครับ รบกวนตอบด้วยนะครับ
ขอบคุณมากๆครับ
แก้ไขล่าสุดโดย nattaphon เมื่อ ศุกร์ ส.ค. 13, 2004 12:16 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
กำลังศึกษาตลาดอยู่ ขอคำแนะนำด้วยนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 18
- ผู้ติดตาม: 0
ขอโทษนะครับ
โพสต์ที่ 35
ปล.
homepage ของคุณโรเบิร์ด คิโยซากิ http://www.richdad.com
ชวนพี่เด่นศรีเค้ามาอยู่ในห้องพวกเราเลยดีไม๊ครับ แนวคิดเข้าVIได้นะผมว่า
homepage ของคุณโรเบิร์ด คิโยซากิ http://www.richdad.com
ชวนพี่เด่นศรีเค้ามาอยู่ในห้องพวกเราเลยดีไม๊ครับ แนวคิดเข้าVIได้นะผมว่า
แก้ไขล่าสุดโดย nattaphon เมื่อ ศุกร์ ส.ค. 13, 2004 12:17 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
กำลังศึกษาตลาดอยู่ ขอคำแนะนำด้วยนะครับ
-
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้หุ้นทำงานแทนเรา -- ไอเดียการลงทุนขาลงสำหรับ VI
โพสต์ที่ 36
ผมเปิดใจรับฟังนะครับ ไม่ได้ต้องการจับผิดอะไร เพียงแต่ว่า
ไม่อยากให้พวกเราคิดว่า ไม่ต้องดูงบ ไม่ต้องดูกิจการ การส่งเสริมจากภาครัฐ และ "Story" ที่เกี่ยวข้องเลย ไม่งั้น หุ้นไม่ดีที่ถูกปั่น แล้วเราไปซื้อจาก"ยอดดอย" นั้น โอกาสที่จะทำกำไร และ แนวโน้มที่มันจะกลับขึ้นมา อาจจะยาก หรือ ไม่มีเลย มันคือ ความ "เสี่ยง"
และอีกอย่าง "ซื้อถูกกว่าตอนที่ขายไป" นั้น เป็นหลักการที่ดี แต่การที่ถ้ากิจการนั้น "ไม่ดี" คุณคิดหรือไม่ว่า มันจะราคาต่ำไปอีกนานแสนนาน ขอให้เลือกหุ้นกิจการที่ดี แล้วซื้อมันที่ต่ำกว่ามูลค่า น่าจะ"ปลอดภัย" กว่า เป็นไหนๆ
ผมเข้าใจว่า ในทางเทคนิคแล้ว เป็นหลักการที่ดีทีเดียว แต่ในทางปฏิบัติ ผมไม่ค่อยแน่ใจ ขอลองศึกษาและลองทำดูก่อนนะครับ
แต่อะไรที่ "ไม่ศึกษา" "ไม่รู้" คือ "เสี่ยง" ครับ
ไม่อยากให้พวกเราคิดว่า ไม่ต้องดูงบ ไม่ต้องดูกิจการ การส่งเสริมจากภาครัฐ และ "Story" ที่เกี่ยวข้องเลย ไม่งั้น หุ้นไม่ดีที่ถูกปั่น แล้วเราไปซื้อจาก"ยอดดอย" นั้น โอกาสที่จะทำกำไร และ แนวโน้มที่มันจะกลับขึ้นมา อาจจะยาก หรือ ไม่มีเลย มันคือ ความ "เสี่ยง"
และอีกอย่าง "ซื้อถูกกว่าตอนที่ขายไป" นั้น เป็นหลักการที่ดี แต่การที่ถ้ากิจการนั้น "ไม่ดี" คุณคิดหรือไม่ว่า มันจะราคาต่ำไปอีกนานแสนนาน ขอให้เลือกหุ้นกิจการที่ดี แล้วซื้อมันที่ต่ำกว่ามูลค่า น่าจะ"ปลอดภัย" กว่า เป็นไหนๆ
ผมเข้าใจว่า ในทางเทคนิคแล้ว เป็นหลักการที่ดีทีเดียว แต่ในทางปฏิบัติ ผมไม่ค่อยแน่ใจ ขอลองศึกษาและลองทำดูก่อนนะครับ
แต่อะไรที่ "ไม่ศึกษา" "ไม่รู้" คือ "เสี่ยง" ครับ
-
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้หุ้นทำงานแทนเรา -- ไอเดียการลงทุนขาลงสำหรับ VI
โพสต์ที่ 37
อ้อ ลืมพูดไป ที่คุณ เด่นศรีซื้อหุ้น 50 ตัวนั้น ไม่ใช่หุ้นใน Set50 นะครับ อย่าเข้าใจกันผิด เป็นหุ้นที่คุณ เด่นศรีเลือกต่างหาก และคิดว่าคุณเด่นศรีจะเลือกหุ้่นที่ราคาเปลี่ยนแปลง หวือหวา
จริงๆแล้วอยากให้คุณเด่นศรีแสดงหุ้นที่คุณเด่นศรีซื้อจริงๆ เป็นตัวอย่างซัก 5 ตัว ว่าเข้าซื้อเมื่อใด ราคาเปลี่ยนแปลงยังไง และ ได้ "กระแสเงินสดแฝง" ได้อย่างไร เท่าไหร่ แสดงวิธีคำนวนให้ดู จะเป็นที่เข้าใจ และ แบ่งปันความรู้อย่างจริงจังครับ
ขอบคุณครับ
จริงๆแล้วอยากให้คุณเด่นศรีแสดงหุ้นที่คุณเด่นศรีซื้อจริงๆ เป็นตัวอย่างซัก 5 ตัว ว่าเข้าซื้อเมื่อใด ราคาเปลี่ยนแปลงยังไง และ ได้ "กระแสเงินสดแฝง" ได้อย่างไร เท่าไหร่ แสดงวิธีคำนวนให้ดู จะเป็นที่เข้าใจ และ แบ่งปันความรู้อย่างจริงจังครับ
ขอบคุณครับ
- MacroArt
- Verified User
- โพสต์: 265
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้หุ้นทำงานแทนเรา -- ไอเดียการลงทุนขาลงสำหรับ VI
โพสต์ที่ 39
หุ้นที่ใช้วิธี DSM ได้ ต้องมีคุณสมบัติดังนี้ครับ
1. เป็นหุ้นพื้นฐานดี มีปันผล ถ้าบริษัทนี้เจ๊ง แปลว่าเศรษฐกิจประเทศไทยเจ๊ง
คุณเด่นศรีต้องการถือหุ้นมากขึ้น เพื่อกินปันผลมากขึ้นเรื่อยๆ และมีอิสรภาพ
ทางการเงินในที่สุดครับ (เห็นกระทู้นึงแกบอกว่าตอนนี้มีแล้ว แต่ต้องการให้มี
อิสรภาพอย่างมั่นคงขึ้นอีก)
2. เป็นหุ้นสภาพคล่องสูง ยิ่งราคาแกว่งแรงๆ ยิ่งดี เพราะจะเกิดกระแสเงินสด
แฝงมาก
1. เป็นหุ้นพื้นฐานดี มีปันผล ถ้าบริษัทนี้เจ๊ง แปลว่าเศรษฐกิจประเทศไทยเจ๊ง
คุณเด่นศรีต้องการถือหุ้นมากขึ้น เพื่อกินปันผลมากขึ้นเรื่อยๆ และมีอิสรภาพ
ทางการเงินในที่สุดครับ (เห็นกระทู้นึงแกบอกว่าตอนนี้มีแล้ว แต่ต้องการให้มี
อิสรภาพอย่างมั่นคงขึ้นอีก)
2. เป็นหุ้นสภาพคล่องสูง ยิ่งราคาแกว่งแรงๆ ยิ่งดี เพราะจะเกิดกระแสเงินสด
แฝงมาก
-
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้หุ้นทำงานแทนเรา -- ไอเดียการลงทุนขาลงสำหรับ VI
โพสต์ที่ 40
หนังสือเล่มเดียวกันอ่านแล้วตีความได้ไม่เหมือนกันครับ
ผมอ่านrich dadซัก4-5เที่ยว
ใจความที่ผมว่าเป็นวรรคทองอันนึงคือ
"กำไรเมื่อซื้อ ไม่ใช่ตอนขาย"
ถ้ามาประยุกต์กับการซื้อหุ้นคือ
ซื้อเมื่อราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงมากพอควร(=safety margin)
และได้ปันผลแน่นอน ณ.ราคาที่ซื้อ %มากพอโดยไม่สนใจราคาที่แกว่งตัว
ตย.grammyปันผลครึ่งปี0.6 ณ.ราคา15.5 คุณได้ทันที3.8%
grammyปันผลสม่ำเสมอทุก6เดือนมาหลายปี ธุรกิจไม่ค่อยป.ป.มาก
ถ้าเด้งขึ้นก็ได้2เด้ง ถ้าราคาลดลงกว่านี้ซื้อเพิ่มคุณได้%ปันผลมากกว่าเดิม
อันนี้คือกำไรเมื่อซื้อครับ(ปันผลมากกว่าเงินฝากประมาณ5-6เท่า)
ผมอ่านrich dadซัก4-5เที่ยว
ใจความที่ผมว่าเป็นวรรคทองอันนึงคือ
"กำไรเมื่อซื้อ ไม่ใช่ตอนขาย"
ถ้ามาประยุกต์กับการซื้อหุ้นคือ
ซื้อเมื่อราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงมากพอควร(=safety margin)
และได้ปันผลแน่นอน ณ.ราคาที่ซื้อ %มากพอโดยไม่สนใจราคาที่แกว่งตัว
ตย.grammyปันผลครึ่งปี0.6 ณ.ราคา15.5 คุณได้ทันที3.8%
grammyปันผลสม่ำเสมอทุก6เดือนมาหลายปี ธุรกิจไม่ค่อยป.ป.มาก
ถ้าเด้งขึ้นก็ได้2เด้ง ถ้าราคาลดลงกว่านี้ซื้อเพิ่มคุณได้%ปันผลมากกว่าเดิม
อันนี้คือกำไรเมื่อซื้อครับ(ปันผลมากกว่าเงินฝากประมาณ5-6เท่า)
- harry
- Verified User
- โพสต์: 4200
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้หุ้นทำงานแทนเรา -- ไอเดียการลงทุนขาลงสำหรับ VI
โพสต์ที่ 41
ช่ายครับพี่ประจวบ ผมก็กำลังพยายามทำแบบนั้นอยู่
และก็อยากให้ทุกคนได้อ่านหนังสือชุดพ่อรวยครับ และเห็นว่ามีอีกหลายเล่มที่ออกมา เขียนโดยคนที่สนิทกับโรเบิร์ต เห้นทางเจ้าของลิขสิทธิ์ไทยบอกว่าอยากได้คนแปลที่เก่งสาขานั้นมาแปล เพราะจะได้เนื้อหาที่ถูกต้อง ทำให้ยังไม่สามารถออกขายได้ ใครที่มีความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษ กับซื้อจากนอกได้ ก็ลองหามาอ่านูครับ
และก็อยากให้ทุกคนได้อ่านหนังสือชุดพ่อรวยครับ และเห็นว่ามีอีกหลายเล่มที่ออกมา เขียนโดยคนที่สนิทกับโรเบิร์ต เห้นทางเจ้าของลิขสิทธิ์ไทยบอกว่าอยากได้คนแปลที่เก่งสาขานั้นมาแปล เพราะจะได้เนื้อหาที่ถูกต้อง ทำให้ยังไม่สามารถออกขายได้ ใครที่มีความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษ กับซื้อจากนอกได้ ก็ลองหามาอ่านูครับ
Expecto Patronum!!!!!!
-
- Verified User
- โพสต์: 2509
- ผู้ติดตาม: 1
ใช้หุ้นทำงานแทนเรา -- ไอเดียการลงทุนขาลงสำหรับ VI
โพสต์ที่ 42
วิธีนี้ถ้าใครได้เอาไปทดสอบช่วงที่ตลาด sideway ก็คงจะกลับมาบอกว่าเป็นวิธีที่ได้ผลดี แต่ถ้าเอาไปทดสอบช่วงที่ตลาดขาลงก็แย่กว่าคัตลอสครั้งเดียวแล้วหยุดไปเลยแน่นอน
ผมมองว่าหัวใจของเทคนิคนี้คือต้องมั่นใจว่าหุ้นที่จะลงทุนนั้นในระยะยาวจะต้องมีโอกาสฟื้นขึ้นมาได้ (ไม่ต้องถึงขนาดทำนิวไฮ แต่ก็ต้องรีบาวนด์ได้พอสมควร) ส่วนคำว่าระยะยาวนั้นจะยาวแค่ไหนก็ขึ้นกับแต่ละคนว่ามีความอดทนมากน้อยเพียงไร ไม่เช่นนั้นมันก็เหมือนกับขายคัตแล้วเข้าไปซื้อต่ำลง แล้วก็คัตอีก แล้วก็เข้าไปซื้อต่ำลงอีก สลับกันไป ดังนั้นเทคนิคนี้อาจจะเหมาะกับหุ้น cyclical ก็ได้ครับ เพราะมันขึ้นสลับลงไปได้เรื่อยๆ
แต่ที่ผมงงที่สุดก็ตรงความหมายของอิสรภาพทางการเงิน มันต่างกับให้เงินทำงานแทนเราหรือไม่ เพราะเทคนิคนี้มันต้องเฝ้าจออยู่เกือบตลอด ผมว่าไม่เห็นให้เงินทำงานแทนเราตรงไหน
อย่างไรก็ตามต้องขอชื่นชมท่านเจ้าของเทคนิคนี้ที่มีน้ำใจตอบคำถามของผู้ที่สนใจเป็นอย่างดีมากๆ
ผมมองว่าหัวใจของเทคนิคนี้คือต้องมั่นใจว่าหุ้นที่จะลงทุนนั้นในระยะยาวจะต้องมีโอกาสฟื้นขึ้นมาได้ (ไม่ต้องถึงขนาดทำนิวไฮ แต่ก็ต้องรีบาวนด์ได้พอสมควร) ส่วนคำว่าระยะยาวนั้นจะยาวแค่ไหนก็ขึ้นกับแต่ละคนว่ามีความอดทนมากน้อยเพียงไร ไม่เช่นนั้นมันก็เหมือนกับขายคัตแล้วเข้าไปซื้อต่ำลง แล้วก็คัตอีก แล้วก็เข้าไปซื้อต่ำลงอีก สลับกันไป ดังนั้นเทคนิคนี้อาจจะเหมาะกับหุ้น cyclical ก็ได้ครับ เพราะมันขึ้นสลับลงไปได้เรื่อยๆ
แต่ที่ผมงงที่สุดก็ตรงความหมายของอิสรภาพทางการเงิน มันต่างกับให้เงินทำงานแทนเราหรือไม่ เพราะเทคนิคนี้มันต้องเฝ้าจออยู่เกือบตลอด ผมว่าไม่เห็นให้เงินทำงานแทนเราตรงไหน
อย่างไรก็ตามต้องขอชื่นชมท่านเจ้าของเทคนิคนี้ที่มีน้ำใจตอบคำถามของผู้ที่สนใจเป็นอย่างดีมากๆ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้หุ้นทำงานแทนเรา -- ไอเดียการลงทุนขาลงสำหรับ VI
โพสต์ที่ 43
ก่อนที่คิโยซากิจะรวยจากการเขียนหนังสือชุด Rich Dad
แกทำงานตัวเป็นเกลียวครับ โดยการลงทุนอสังหาแบบ
ต่อเนื่องในขณะยังทำงานประจำอยู่
แต่ไอเดียคือ เงินที่เอาไปลงทุนอสังหา จะไม่มีการเพิ่มทุน
อีก ทุนก้อนที่ลงไปนั้น จะทำต้องงาน สร้างผลตอบแทน
ได้ด้วยตัวมันเอง ถ้าอสังหาอันไหนไม่สามารถทำเงินได้
จะต้องปล่อยให้มันเฉาตายไปหรือขายทิ้งไป ไม่มีการเอา
เงินรายได้จากที่อื่นมาโปะเพื่อให้มันอยู่รอดเด็ดขาด
เพราะฉะนั้น ถ้าหุ้น A ไม่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ ไม่
ใช่สักแต่จะซื้อเพิ่มเพราะราคาถูกลงทุกที เพราะวันหนึ่ง
มันอาจจะกลายเป็นศูนย์ (อันนี้คือการประยุกต์ของคุณเด่น)
แกทำงานตัวเป็นเกลียวครับ โดยการลงทุนอสังหาแบบ
ต่อเนื่องในขณะยังทำงานประจำอยู่
แต่ไอเดียคือ เงินที่เอาไปลงทุนอสังหา จะไม่มีการเพิ่มทุน
อีก ทุนก้อนที่ลงไปนั้น จะทำต้องงาน สร้างผลตอบแทน
ได้ด้วยตัวมันเอง ถ้าอสังหาอันไหนไม่สามารถทำเงินได้
จะต้องปล่อยให้มันเฉาตายไปหรือขายทิ้งไป ไม่มีการเอา
เงินรายได้จากที่อื่นมาโปะเพื่อให้มันอยู่รอดเด็ดขาด
เพราะฉะนั้น ถ้าหุ้น A ไม่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ ไม่
ใช่สักแต่จะซื้อเพิ่มเพราะราคาถูกลงทุกที เพราะวันหนึ่ง
มันอาจจะกลายเป็นศูนย์ (อันนี้คือการประยุกต์ของคุณเด่น)
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 1
ใช้หุ้นทำงานแทนเรา -- ไอเดียการลงทุนขาลงสำหรับ VI
โพสต์ที่ 44
เคยอ่านเจอมาว่าจริงๆแล้วคุณคิโยเองนี่ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจว่าจะเขียนหนังสือขาย ..
แต่เริ่มมาจากว่าเค้าคิดเกม cash flow 101 ขึ้นมา
ปรากฏว่าขายไม่ได้ เพราะว่าไม่มีเข้าใจหลักการเกมของเค้า
ก็เลยเขียนหนังสือขึ้นมาเพื่อให้คนสามารถเข้าใจความสำคัญและที่มาของเกมที่แกคิดขึ้นมา
ที่ไหนได้ ... หนังสือดังระเบิดตูม ...
แต่เริ่มมาจากว่าเค้าคิดเกม cash flow 101 ขึ้นมา
ปรากฏว่าขายไม่ได้ เพราะว่าไม่มีเข้าใจหลักการเกมของเค้า
ก็เลยเขียนหนังสือขึ้นมาเพื่อให้คนสามารถเข้าใจความสำคัญและที่มาของเกมที่แกคิดขึ้นมา
ที่ไหนได้ ... หนังสือดังระเบิดตูม ...
- harry
- Verified User
- โพสต์: 4200
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้หุ้นทำงานแทนเรา -- ไอเดียการลงทุนขาลงสำหรับ VI
โพสต์ที่ 45
ใช่ครับyoyo เขียน:เคยอ่านเจอมาว่าจริงๆแล้วคุณคิโยเองนี่ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจว่าจะเขียนหนังสือขาย ..
แต่เริ่มมาจากว่าเค้าคิดเกม cash flow 101 ขึ้นมา
ปรากฏว่าขายไม่ได้ เพราะว่าไม่มีเข้าใจหลักการเกมของเค้า
ก็เลยเขียนหนังสือขึ้นมาเพื่อให้คนสามารถเข้าใจความสำคัญและที่มาของเกมที่แกคิดขึ้นมา
ที่ไหนได้ ... หนังสือดังระเบิดตูม ...
Expecto Patronum!!!!!!
-
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้หุ้นทำงานแทนเรา -- ไอเดียการลงทุนขาลงสำหรับ VI
โพสต์ที่ 46
ความหมายของอิสรภาพทางการเงิน
คือคุณมีรายได้เข้ามาโดยที่คุณไม่ต้องทำงานอะไรอีกเลยตลอดชีวิต
(ไม่ต้องเอาส่วนทุนมาขายกิน)
และเงินนั้นมีจำนวนมากพอที่ทำให้คุณยังชีพอยู่ได้
โดยมีความสุขพอสมควร
ต่างจากคำว่าwealthหรือมั่งคั่ง
คือถ้าคุณหยุดทำงานแล้วจะอยู่โดยไม่ต้องทำงานได้นานแค่ไหน
(รวมทั้งต้นและเงินที่ไหลเข้ามารวมกัน)
เป้าหมายของเราน่าจะเป็นอิสรภาพทางการเงินครับ
คือสร้างโรงงาน(สร้างเงิน)ที่จะสร้างรายได้เข้ามาสม่ำเสมออย่างมั่นคง
แรกๆเป็นร.ง.เล็กๆ ทำงานเก็บเงินสร้างร.ง.ให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
จนร.ง.โตมากพอ ที่ให้รายได้ที่ทำให้เราอยู่ได้โดยไม่ต้องลงไปทำงานอีก
นั่นคืออิสรภาพทางการเงินที่ว่าครับ
แต่จะถึงจุดนี้ได้เร็วช้าแค่ไหน
คุณต้องอย่าให้ค่าmaintenanceชีวิตของคุณสูงจนเกินไป
ไม่อย่างงั้นถมเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักเต็มครับ
"ความอยากของคนไม่มีจำกัด จำกัดอยู่แค่จินตนาการณ์เท่านั้น"
คือคุณมีรายได้เข้ามาโดยที่คุณไม่ต้องทำงานอะไรอีกเลยตลอดชีวิต
(ไม่ต้องเอาส่วนทุนมาขายกิน)
และเงินนั้นมีจำนวนมากพอที่ทำให้คุณยังชีพอยู่ได้
โดยมีความสุขพอสมควร
ต่างจากคำว่าwealthหรือมั่งคั่ง
คือถ้าคุณหยุดทำงานแล้วจะอยู่โดยไม่ต้องทำงานได้นานแค่ไหน
(รวมทั้งต้นและเงินที่ไหลเข้ามารวมกัน)
เป้าหมายของเราน่าจะเป็นอิสรภาพทางการเงินครับ
คือสร้างโรงงาน(สร้างเงิน)ที่จะสร้างรายได้เข้ามาสม่ำเสมออย่างมั่นคง
แรกๆเป็นร.ง.เล็กๆ ทำงานเก็บเงินสร้างร.ง.ให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
จนร.ง.โตมากพอ ที่ให้รายได้ที่ทำให้เราอยู่ได้โดยไม่ต้องลงไปทำงานอีก
นั่นคืออิสรภาพทางการเงินที่ว่าครับ
แต่จะถึงจุดนี้ได้เร็วช้าแค่ไหน
คุณต้องอย่าให้ค่าmaintenanceชีวิตของคุณสูงจนเกินไป
ไม่อย่างงั้นถมเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักเต็มครับ
"ความอยากของคนไม่มีจำกัด จำกัดอยู่แค่จินตนาการณ์เท่านั้น"
-
- Verified User
- โพสต์: 226
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้หุ้นทำงานแทนเรา -- ไอเดียการลงทุนขาลงสำหรับ VI
โพสต์ที่ 47
ผมตามไปอ่านแนวคิดดังกล่าวแล้วพบว่ามีประโยชน์ครับ อย่างน้อยทำให้เรากล้าลงทุนและกล้าขายมากขึ้นเมื่อเราผิดจังหวะและผิดราคาไป
ผมเห็นว่าเราต้องคัดสรรหุ้นที่จะลงทุนก่อนครับ คือต้องเป็นหุ้นที่พื้นฐานดี มีปันผล และมีสภาพคล่อง (อันนี้สำคัญมากครับ สำหรับแนวคิดคุณเด่นศรี)
เป้าหมายคือสะสมหุ้นที่สามารถให้ปันผลกับเรา สะสมให้มากพอจนเงินปันผลที่ได้ช่วยให้เราเป็นอิสระทางการเงินในที่สุด ดังนั้นการเฝ้าหน้าจอวันนี้เพื่อไม่ต้องเฝ้าหน้าจอในอนาคต (ผมตีความอย่างนี้นะครับ)
สำหรับผมจะลองประยุกต์ใช้กับหุ้นบางตัวที่ผมมี ที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าว ได้ผลอย่างไรจะนำมาเล่าให้ฟังนะครับ
แต่ผมยังคิดไม่ออกกรณีที่เราไม่สามารถซื้อคืนกลับได้บางส่วนนั้นจะแก้ไขอย่างไร หรือให้ถือว่าตัดเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับความเสี่ยงเหมือนเบี้ยประกันเสียก็ไม่รู้
ผมเห็นว่าเราต้องคัดสรรหุ้นที่จะลงทุนก่อนครับ คือต้องเป็นหุ้นที่พื้นฐานดี มีปันผล และมีสภาพคล่อง (อันนี้สำคัญมากครับ สำหรับแนวคิดคุณเด่นศรี)
เป้าหมายคือสะสมหุ้นที่สามารถให้ปันผลกับเรา สะสมให้มากพอจนเงินปันผลที่ได้ช่วยให้เราเป็นอิสระทางการเงินในที่สุด ดังนั้นการเฝ้าหน้าจอวันนี้เพื่อไม่ต้องเฝ้าหน้าจอในอนาคต (ผมตีความอย่างนี้นะครับ)
สำหรับผมจะลองประยุกต์ใช้กับหุ้นบางตัวที่ผมมี ที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าว ได้ผลอย่างไรจะนำมาเล่าให้ฟังนะครับ
แต่ผมยังคิดไม่ออกกรณีที่เราไม่สามารถซื้อคืนกลับได้บางส่วนนั้นจะแก้ไขอย่างไร หรือให้ถือว่าตัดเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับความเสี่ยงเหมือนเบี้ยประกันเสียก็ไม่รู้