หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
- Coca-Cola
- Verified User
- โพสต์: 326
- ผู้ติดตาม: 0
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์ที่ 1
ผมรู้สึกว่า VI ส่วนใหญ่ จะไม่ค่อยมองหุ้นอสังหาบ้างเลย ทั้ง LPN LH AP และ QH ...
เป็นต้น ทำให้มีข้อสงสัยว่าหุ้นกลุ่มนี้ ไม่ใช่หุ้นในแนว VI หรือเปล่าครับ
เป็นต้น ทำให้มีข้อสงสัยว่าหุ้นกลุ่มนี้ ไม่ใช่หุ้นในแนว VI หรือเปล่าครับ
CI(Celebrity Investment) <----- oh! My GOD ผมเกิดมาเพื่อสิ่งนี้
- Luty97
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1552
- ผู้ติดตาม: 0
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์ที่ 4
แต่ผมว่าคนในเวปนี้ มี LPN PS กันหลายคนนะ อิอิอิ...
เพียงแต่ไม่โพส บอกกันเท่านั้น ช่วงนี้เค้าเลิกเชียร์หุ้นกันละ
เข็ดจากปีที่แล้ว คนเชียร์ก็เจ็บ คนตามก็เจ็บ แต่คนเชียร์โดนด่าแถมอีก :lol:
เพียงแต่ไม่โพส บอกกันเท่านั้น ช่วงนี้เค้าเลิกเชียร์หุ้นกันละ
เข็ดจากปีที่แล้ว คนเชียร์ก็เจ็บ คนตามก็เจ็บ แต่คนเชียร์โดนด่าแถมอีก :lol:
หลักของความสมดุล
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์ที่ 5
[quote="Luty97"]แต่ผมว่าคนในเวปนี้ มี LPN PS กันหลายคนนะ อิอิอิ...
เพียงแต่ไม่โพส บอกกันเท่านั้น ช่วงนี้เค้าเลิกเชียร์หุ้นกันละ
เข็ดจากปีที่แล้ว คนเชียร์ก็เจ็บ คนตามก็เจ็บ แต่คนเชียร์โดนด่าแถมอีก
เพียงแต่ไม่โพส บอกกันเท่านั้น ช่วงนี้เค้าเลิกเชียร์หุ้นกันละ
เข็ดจากปีที่แล้ว คนเชียร์ก็เจ็บ คนตามก็เจ็บ แต่คนเชียร์โดนด่าแถมอีก
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
-
- Verified User
- โพสต์: 251
- ผู้ติดตาม: 0
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์ที่ 9
อมตะกับนวนคร ถือเป็นหุ้นอสังหามั้ยครับ
ดูแล้วสองตัวนี้เป็นยังไงครับ
ดูแล้วสองตัวนี้เป็นยังไงครับ
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 1
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์ที่ 10
ถ้านับกองทุนอสังหา กับ นิคมเป็น หุ้นอสังหาด้วย
ผมถืออสังอยู่ประมาณ 65% ของ port แน่ะ ... :8)
ผมถืออสังอยู่ประมาณ 65% ของ port แน่ะ ... :8)
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 1
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์ที่ 11
ส่วนตัวผมเอง อยู่ต่างจังหวัดโอกาสตามผลงานที่ผ่านมาและทำเลที่จะสร้างใหม่แทบไม่มี ดูแต่งบอย่างเดียวค่อนข้างอันตรายสำหรับกลุ่มนี้ เลยพยายามหลีกเลี่ยงครับ ถ้าจะมีก็เอาพอสนุกๆด้วยหลายๆสาเหตุ แต่ไม่ใช่ซื้อเกิน5%ของพอร์ตแล้วถ้าถือคงจะถือแบบชั่วคราวครับ
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
- ktpkhk8
- Verified User
- โพสต์: 202
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นอสังหา เงินเฟ้อ สถานการณ์ปัจจุบัน ถึง แนวโน้มข้างหน้า
โพสต์ที่ 13
ผมคิดว่าอสังหา น่าลงทุน เหตุเพราะเป็นกลุ่มที่ลงหนัก และเป็นลำดับต้นๆ ของการตกลงของตลาดหุ้นไทย ก็น่าจะกลับมาได้ก่อน
เงินเฟ้อ -การบริโภค มีผลต่ออสังหา ปัจจุบันแนวโน้มเป็นเงินฝืด เลยทำให้อสังหาตกลง แต่..หากทุกอย่างไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้น ราคาหุ้นที่ตกลงแรงขณะนี้ (ต่ำ bv ปันผลสูง..มาก..) จะมีแรงดีดกลับที่รุนแรงได้เช่นกัน
อีกทั้งรัฐบาลชุดปัจจุบันก็มองขาดในเรื่องอสังหา ซึ่งจะนำไปสู่การบริโภคอื่นๆที่จะตามมา มีบ้านเป็นจุดเริ่มต้นการดำรงชีวิต ก็จะต้องหาทุกอย่างเข้าบ้าน อีกอย่างที่ดินและบ้านจะชนะเงินเฟ้อได้ในระยะยาว
เมื่อมาดูฐานะการเงินของบริษัทบ้านต่างๆ หลังวิกฤต ปี2540 มีความมั่นคงในแง่ฐานทุน และโครงสร้างหนี้สิน (มีบทเรียนการกู้ยืมเงินนอกแล้วเจ๊ง เป็นอย่างไร) และกลุ่มผู้ที่ให้ยืมปัจจุบันคือธนาคารไทยเป็นส่วนใหญ่ กลุ่มธนาคาร จะเห็นได้ว่าแข็งแกร่งมากจากงบการเงินที่ออกมาปี2551 นี้ ย่อมไม่มีปัญหาเรื่องความพร้อมในการปล่อย แต่จะปล่อยลดลง ก็ตามสภาพเศรษฐกิจอยู่แล้ว แต่..มันเป็นรายได้ของธนาคาร ธนาคารจะไม่ปล่อยสินเชื่อก็ต้องกินแกลบแน่นอน คงยากจะไม่ปล่อย
ก็แนะนำว่าซื้อหุ้นของบริษัทที่ธนาคารปล่อยได้อย่างสบายใจ คื่อมีชื่อเสียง ฐานะการเงินดี ผลิตภัณฑ์ดี ผู้บริหารเก่งและดี มี่ที่ดินเผื่อไว้พัฒนาแล้ว ส่วนตัวหุ้นก็พิจารณาเองนะครับ เพราะทั้งหมดเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผมเอง
"สุดท้ายทุกคนย่อมอยากมีบ้านเป็นของตัวเองซักหลัง ใช่ไหมครับ"
เงินเฟ้อ -การบริโภค มีผลต่ออสังหา ปัจจุบันแนวโน้มเป็นเงินฝืด เลยทำให้อสังหาตกลง แต่..หากทุกอย่างไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้น ราคาหุ้นที่ตกลงแรงขณะนี้ (ต่ำ bv ปันผลสูง..มาก..) จะมีแรงดีดกลับที่รุนแรงได้เช่นกัน
อีกทั้งรัฐบาลชุดปัจจุบันก็มองขาดในเรื่องอสังหา ซึ่งจะนำไปสู่การบริโภคอื่นๆที่จะตามมา มีบ้านเป็นจุดเริ่มต้นการดำรงชีวิต ก็จะต้องหาทุกอย่างเข้าบ้าน อีกอย่างที่ดินและบ้านจะชนะเงินเฟ้อได้ในระยะยาว
เมื่อมาดูฐานะการเงินของบริษัทบ้านต่างๆ หลังวิกฤต ปี2540 มีความมั่นคงในแง่ฐานทุน และโครงสร้างหนี้สิน (มีบทเรียนการกู้ยืมเงินนอกแล้วเจ๊ง เป็นอย่างไร) และกลุ่มผู้ที่ให้ยืมปัจจุบันคือธนาคารไทยเป็นส่วนใหญ่ กลุ่มธนาคาร จะเห็นได้ว่าแข็งแกร่งมากจากงบการเงินที่ออกมาปี2551 นี้ ย่อมไม่มีปัญหาเรื่องความพร้อมในการปล่อย แต่จะปล่อยลดลง ก็ตามสภาพเศรษฐกิจอยู่แล้ว แต่..มันเป็นรายได้ของธนาคาร ธนาคารจะไม่ปล่อยสินเชื่อก็ต้องกินแกลบแน่นอน คงยากจะไม่ปล่อย
ก็แนะนำว่าซื้อหุ้นของบริษัทที่ธนาคารปล่อยได้อย่างสบายใจ คื่อมีชื่อเสียง ฐานะการเงินดี ผลิตภัณฑ์ดี ผู้บริหารเก่งและดี มี่ที่ดินเผื่อไว้พัฒนาแล้ว ส่วนตัวหุ้นก็พิจารณาเองนะครับ เพราะทั้งหมดเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผมเอง
"สุดท้ายทุกคนย่อมอยากมีบ้านเป็นของตัวเองซักหลัง ใช่ไหมครับ"
KTPK8.>>..หุ้นคือแฟชั่น ต้องคอยอัพเดท เสมอๆ.. (Everything can change)
- Amadeus
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 372
- ผู้ติดตาม: 0
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์ที่ 15
[quote="yoyo"]ถ้านับกองทุนอสังหา กับ นิคมเป็น หุ้นอสังหาด้วย
ผมถืออสังอยู่ประมาณ 65% ของ port แน่ะ ...
ผมถืออสังอยู่ประมาณ 65% ของ port แน่ะ ...
เตือนตัวเอง
1.ลดต้นทุน 2.ขึ้นราคา 3.ขยายตลาด
4.เพิ่ม same store sale 5.ขาย บ.เน่าๆ
1.ลดต้นทุน 2.ขึ้นราคา 3.ขยายตลาด
4.เพิ่ม same store sale 5.ขาย บ.เน่าๆ
- Amadeus
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 372
- ผู้ติดตาม: 0
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์ที่ 16
ต่ออีกนิดนะครับ
มองปัจจุบัน ศก.แย่ลง แต่โครงการที่เริ่มไปแล้วก็หยุดไม่ได้
ในขณะที่กำลังซื้อหดลงแน่ๆ แต่ไม่เป็นไรเก็บไว้ก่อนไว้ขายตอน ศก.ดี
มองไปข้างหน้า ศก.กลับมาดี คนเริ่มมั่นใจว่าส่งไหวแน่นอน
แต่ไม่ได้หมายความว่าเอาของในสต็อกมาขายอย่างเดียวแล้วรับตังไป
ตอ้งแข่งกันขยายโครงการใหม่ๆอีก ไม่แคล้วตอ้งกู้ ใครเป็นหนี้เยอะ
กู้ไม่ได้ก็เสียเปรียบคู่แข่งไป
ข้อดี น่าจะเป็นราคาหุ้นที่ตกลงมามากจริงๆ ทั้งตัวใหญ่ ตัวเล็ก
อาจได้ปันผลงามๆระหว่างรอ
ใครเห็นต่างอย่างไรโปรดชี้แนะ ถือว่าช่วยกันเปิดหูเปิดตาครับ
มองปัจจุบัน ศก.แย่ลง แต่โครงการที่เริ่มไปแล้วก็หยุดไม่ได้
ในขณะที่กำลังซื้อหดลงแน่ๆ แต่ไม่เป็นไรเก็บไว้ก่อนไว้ขายตอน ศก.ดี
มองไปข้างหน้า ศก.กลับมาดี คนเริ่มมั่นใจว่าส่งไหวแน่นอน
แต่ไม่ได้หมายความว่าเอาของในสต็อกมาขายอย่างเดียวแล้วรับตังไป
ตอ้งแข่งกันขยายโครงการใหม่ๆอีก ไม่แคล้วตอ้งกู้ ใครเป็นหนี้เยอะ
กู้ไม่ได้ก็เสียเปรียบคู่แข่งไป
ข้อดี น่าจะเป็นราคาหุ้นที่ตกลงมามากจริงๆ ทั้งตัวใหญ่ ตัวเล็ก
อาจได้ปันผลงามๆระหว่างรอ
ใครเห็นต่างอย่างไรโปรดชี้แนะ ถือว่าช่วยกันเปิดหูเปิดตาครับ
เตือนตัวเอง
1.ลดต้นทุน 2.ขึ้นราคา 3.ขยายตลาด
4.เพิ่ม same store sale 5.ขาย บ.เน่าๆ
1.ลดต้นทุน 2.ขึ้นราคา 3.ขยายตลาด
4.เพิ่ม same store sale 5.ขาย บ.เน่าๆ
- satantuey
- Verified User
- โพสต์: 743
- ผู้ติดตาม: 0
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์ที่ 17
ผมทำงานอยู่บริษัทอสังหาแห่งนึง...(ไม่เอ่ยนาม..อิอิ) :lol: ผมว่าช่วงนี้ค่อนข้างแย่อ่ะครับ....ฝืดเคือง...ลูกค้ากู้ไม่ผ่านเยอะ...โอนยากขึ้น...กระทบมาถึงสภาพคล่องบริษัท.....สรุป...ช่วงนี้ไปหาตัวอื่นกลุ่มอื่นน่าจะดีก่า
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 1
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์ที่ 18
[quote="Amadeus"]
กำลังจะเริ่มศึกษากลุ่มนี้ เห็นกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะเป็นหนี้มากแถมเป็นหนี้ระยะยาวไม่น้อยทีเดียว
(เอาเฉพาะพวกที่ขายบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้า คอนโด นะครับ)
แล้วของเก่าก็ยังขายไม่หมด ก็ต้องขึ้นโครงการใหม่ตลอด
คอนโดทำเลทองมักจะขายหมด
กำลังจะเริ่มศึกษากลุ่มนี้ เห็นกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะเป็นหนี้มากแถมเป็นหนี้ระยะยาวไม่น้อยทีเดียว
(เอาเฉพาะพวกที่ขายบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้า คอนโด นะครับ)
แล้วของเก่าก็ยังขายไม่หมด ก็ต้องขึ้นโครงการใหม่ตลอด
คอนโดทำเลทองมักจะขายหมด
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
-
- Verified User
- โพสต์: 1252
- ผู้ติดตาม: 0
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์ที่ 19
"คุณสมบัติที่สนใจในกลุ่มนี้คือ
- หนี้น้อยๆ
- มี Backlog ช่วยค้ำไว้ระดับนึง
- มีความแข็งแกร่งในตลาดนั้นๆ
- มีปันผลสูงๆ yield ดีๆ เอาไว้รอวิกฤตผ่านไป" คุณYOYO
หนี้น้อยๆ ว้าวผมเจอบริษัทเดียวเองครับ :)
แต่ถ้าหนี้น้อยๆ เงินเยอะๆผมเจอหลายเลยครับเช่น คุณYOYOเป็นต้นครับ :lol:
- หนี้น้อยๆ
- มี Backlog ช่วยค้ำไว้ระดับนึง
- มีความแข็งแกร่งในตลาดนั้นๆ
- มีปันผลสูงๆ yield ดีๆ เอาไว้รอวิกฤตผ่านไป" คุณYOYO
หนี้น้อยๆ ว้าวผมเจอบริษัทเดียวเองครับ :)
แต่ถ้าหนี้น้อยๆ เงินเยอะๆผมเจอหลายเลยครับเช่น คุณYOYOเป็นต้นครับ :lol:
-
- Verified User
- โพสต์: 3345
- ผู้ติดตาม: 0
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์ที่ 20
ประเด็นอยู่ที่ตัวแดงครับ มีอยู่ตัวเดียวจริงๆ :8)yoyo เขียน:ผมซื้อหุ้นอสังหาไม่ได้หวังว่าจะกำไรในปีนี้ปีหน้าครับเพราะอุตสาหกรรมคงแย่ลงจริงๆ อย่างที่หลายๆคนก็คงรู้กัน แต่ผมหวังกำไรหลายๆเด้งในอีกหลายๆปีข้างหน้า.. ในขณะที่ระหว่างรอก็กินปันผลรอไปเรื่อยๆก่อน
คุณสมบัติที่สนใจในกลุ่มนี้คือ
- หนี้น้อยๆ
- มี Backlog ช่วยค้ำไว้ระดับนึง
- มีความแข็งแกร่งในตลาดนั้นๆ
- มีปันผลสูงๆ yield ดีๆ เอาไว้รอวิกฤตผ่านไป
-
- Verified User
- โพสต์: 2547
- ผู้ติดตาม: 0
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์ที่ 22
เห็นเขาคุยกันในเวปนี้ มีความรู้เรื่องอสังหาริมทรัพย์และความเห็นหุ้นในกลุ่มนี้ที่น่าสนใจทีเดียว
เลยขออนุญาตนำมาฝากให้เพื่อน ๆ ลองอ่านความเห็นกันครับ น่าสนใจจริง ๆ ครับ :lol:
http://www.templeboxing.com/index.php?topic=1487.0
เลยขออนุญาตนำมาฝากให้เพื่อน ๆ ลองอ่านความเห็นกันครับ น่าสนใจจริง ๆ ครับ :lol:
http://www.templeboxing.com/index.php?topic=1487.0
Circle of competence
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger
- tatandchin
- Verified User
- โพสต์: 775
- ผู้ติดตาม: 0
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์ที่ 26
ขอความรู้ครับ
backlog ที่สูงอาจไม่ได้หมายถึง รายได้ที่จะรับรู้สูงไปด้วยเสมอไป ใช่ไหมครับ ถ้าอัตราการ reject สูง
backlog ที่สูงอาจไม่ได้หมายถึง รายได้ที่จะรับรู้สูงไปด้วยเสมอไป ใช่ไหมครับ ถ้าอัตราการ reject สูง
- GeneraX
- Verified User
- โพสต์: 1141
- ผู้ติดตาม: 0
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์ที่ 27
ก็จริงอย่างที่พี่ว่าครับ ถ้า backlog มาก แต่ถ้า supply > demand หรือ ต่อให้มี demand มากแต่ rejection rate ที่สูงแน่นอนว่า รายได้ทั้งในส่วนที่รับรู้ใน income statement และส่วนของ cashflow ก็ต้องลดลงไปด้วยtatandchin เขียน:ขอความรู้ครับ
backlog ที่สูงอาจไม่ได้หมายถึง รายได้ที่จะรับรู้สูงไปด้วยเสมอไป ใช่ไหมครับ ถ้าอัตราการ reject สูง
ส่วนตัวผมมองว่า ถ้าจะเทียบกับกลุ่มยานยนตร์แล้ว ถ้าดีของอสังหาก็จะเน้นไปที่ Fixed Cost มากกว่าครับ เพราะดูแล้วต่ำกว่ากันมาก
Financial Discipline + Value Investment + Time = Financial Independence
-
- Verified User
- โพสต์: 2547
- ผู้ติดตาม: 0
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์ที่ 28
tatandchin
* มีการขายเกิดขึ้นแล้ว โดยการขายได้ร้อยละ 40 ของจำนวนที่เปิดขาย
* ผู้ซื้อไม่มีสิทธิเรียกเงินคืน
* ผู้ซื้อและผู้ขายต้องมีอิสระต่อกัน
* รวมต้นทุนที่งานพัฒนาและงานก่อสร้างของผู้ขายได้ผ่านขั้นตอนร้อยละ 10 ของงานก่อสร้างตามโครงการที่เสนอขาย (ไม่รวมค่าที่ดิน)
* เงินวางเริ่มแรกและเงินค่างวดของผู้ซื้อที่ชำระแล้วต้องมีจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 20
* ผู้ขายมีความสามารถเก็บเงินได้ตามสัญญา
* ผู้ขายมีความสามารถทางการเงินดี
* การก่อสร้างได้ก้าวหน้าไปด้วยดี
* ผู้ขายสามารถประมาณเงินรับจากการขายรวมและต้นทุนทั้งหมดที่ต้องใช้ในการก่อสร้างได้อย่างมีหลักเกณฑ์
โดยสรุปเงื่อนไขเชิงปริมาณที่จะรับรู้รายได้ที่สำคัญก็คือ
1. มูลค่าของผู้ซื้อในโครงการทังหมดจะต้องไม่น้อยกว่า ร้อยละ 40 ของมูลค่าโครงการที่เปิดขาย เช่น มูลค่าโครงการทั้งหมด 1000 ล้านบาท จะต้องมียอดผู้ซื้อในโครงการไม่น้อยกว่า 400 ล้านบาท (ยอดตามสัญญาซื้อ หรือ backlog ของโครงการ) ดังนั้น จะเห็นได้ว่า หลาย ๆ โครงการจึงนิยมเปิดเป็น เฟส เพื่อให้เข้าได้ตามหลักเกณฑ์ข้อนี้
2. เมื่อมีการทำสัญญาการซื้อขายของผู้ซื้อเกิดขึ้นแล้ว ผู้ซื้อแต่ละรายจะต้องชำระเงินวางเริ่มแรกและเงินค่างวดในจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของราคาตามสัญญา
3. และข้อนี้หละครับที่เป็นข้อที่สำคัญมาก ๆ เพราะจะดูว่าความสามารถของผู้ประกอบการมีฐานะการเงินเพียงพอ และมีสภาพคล่องที่จะชำระค่างวดงานให้กับผู้รับเหมาก่อสร้างเพื่อให้มีความคืบหน้าของงานก่อสร้างเกิดขึ้นได้หรือไม่ นั้นคือ การรับรู้รายได้จะเกิดขึ้นได้ จะต้องมีความสำเร็จของงานการก่อสร้างตามความคืบหน้าของการพัฒนางานในโครงการซึ่งรวมต้นทุนที่งานพัฒนาและงานก่อสร้างของผู้ขาย โดยต้องมีความคืบหน้าผ่านขั้นตอนตั้งแต่ร้อยละ 10 ของงานก่อสร้างตามโครงการที่เสนอขายขึ้นไป (ไม่รวมค่าที่ดินที่ปลูกสร้าง)
backlog คือ มูลค่าที่ลูกค้าทำสัญญาแล้วกับโครงการ ซึ่งเป็นจุดเริ่มแรกของเงื่อนไขที่จะสามารถรับรู้รายได้ของโครงการได้ โดยมีเงื่อนไขการรับรู้ตามส่วนงาน หรือ ตามงวด 9 เงื่อนไขดังนี้ขอความรู้ครับ
backlog ที่สูงอาจไม่ได้หมายถึง รายได้ที่จะรับรู้สูงไปด้วยเสมอไป ใช่ไหมครับ ถ้าอัตราการ reject สูง
* มีการขายเกิดขึ้นแล้ว โดยการขายได้ร้อยละ 40 ของจำนวนที่เปิดขาย
* ผู้ซื้อไม่มีสิทธิเรียกเงินคืน
* ผู้ซื้อและผู้ขายต้องมีอิสระต่อกัน
* รวมต้นทุนที่งานพัฒนาและงานก่อสร้างของผู้ขายได้ผ่านขั้นตอนร้อยละ 10 ของงานก่อสร้างตามโครงการที่เสนอขาย (ไม่รวมค่าที่ดิน)
* เงินวางเริ่มแรกและเงินค่างวดของผู้ซื้อที่ชำระแล้วต้องมีจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 20
* ผู้ขายมีความสามารถเก็บเงินได้ตามสัญญา
* ผู้ขายมีความสามารถทางการเงินดี
* การก่อสร้างได้ก้าวหน้าไปด้วยดี
* ผู้ขายสามารถประมาณเงินรับจากการขายรวมและต้นทุนทั้งหมดที่ต้องใช้ในการก่อสร้างได้อย่างมีหลักเกณฑ์
โดยสรุปเงื่อนไขเชิงปริมาณที่จะรับรู้รายได้ที่สำคัญก็คือ
1. มูลค่าของผู้ซื้อในโครงการทังหมดจะต้องไม่น้อยกว่า ร้อยละ 40 ของมูลค่าโครงการที่เปิดขาย เช่น มูลค่าโครงการทั้งหมด 1000 ล้านบาท จะต้องมียอดผู้ซื้อในโครงการไม่น้อยกว่า 400 ล้านบาท (ยอดตามสัญญาซื้อ หรือ backlog ของโครงการ) ดังนั้น จะเห็นได้ว่า หลาย ๆ โครงการจึงนิยมเปิดเป็น เฟส เพื่อให้เข้าได้ตามหลักเกณฑ์ข้อนี้
2. เมื่อมีการทำสัญญาการซื้อขายของผู้ซื้อเกิดขึ้นแล้ว ผู้ซื้อแต่ละรายจะต้องชำระเงินวางเริ่มแรกและเงินค่างวดในจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของราคาตามสัญญา
3. และข้อนี้หละครับที่เป็นข้อที่สำคัญมาก ๆ เพราะจะดูว่าความสามารถของผู้ประกอบการมีฐานะการเงินเพียงพอ และมีสภาพคล่องที่จะชำระค่างวดงานให้กับผู้รับเหมาก่อสร้างเพื่อให้มีความคืบหน้าของงานก่อสร้างเกิดขึ้นได้หรือไม่ นั้นคือ การรับรู้รายได้จะเกิดขึ้นได้ จะต้องมีความสำเร็จของงานการก่อสร้างตามความคืบหน้าของการพัฒนางานในโครงการซึ่งรวมต้นทุนที่งานพัฒนาและงานก่อสร้างของผู้ขาย โดยต้องมีความคืบหน้าผ่านขั้นตอนตั้งแต่ร้อยละ 10 ของงานก่อสร้างตามโครงการที่เสนอขายขึ้นไป (ไม่รวมค่าที่ดินที่ปลูกสร้าง)
Circle of competence
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger
-
- Verified User
- โพสต์: 2547
- ผู้ติดตาม: 0
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์ที่ 29
วิธีการรับรู้รายได้ตามส่วนงานที่ทำเสร็จเมื่อครบตามเงื่อนไขดังกล่าวแล้วก็คือ จะรับรู้รายได้
* ตามอัตราส่วนต้นทุนของงานที่เกิดขึ้นกับต้นทุนทั้งหมดที่ประมาณไว้โดยไม่รวมต้นทุนที่ดิน
* ความคืบหน้าตามอัตราส่วนต้นทุนของงานที่แล้วเสร็จนั้น ผู้ขายจะต้องจัดให้มีการสำรวจหรือประเมินผลงานที่ทำเสร็จโดยวิศวกรหรือสถาปนิกที่เชื่อถือได้
* ตามอัตราส่วนต้นทุนของงานที่เกิดขึ้นกับต้นทุนทั้งหมดที่ประมาณไว้โดยไม่รวมต้นทุนที่ดิน
* ความคืบหน้าตามอัตราส่วนต้นทุนของงานที่แล้วเสร็จนั้น ผู้ขายจะต้องจัดให้มีการสำรวจหรือประเมินผลงานที่ทำเสร็จโดยวิศวกรหรือสถาปนิกที่เชื่อถือได้
Circle of competence
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger
-
- Verified User
- โพสต์: 2547
- ผู้ติดตาม: 0
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์ที่ 30
โดยเงื่อนไขการหยุดรับรู้รายได้จะเกิดขึ้นต่อเมื่อ ในระหว่างการผ่อนชำระค่างวด หากผู้ซื้อไม่ได้ชำระค่างวดตามสัญญาตามเงื่อนไขคือ เมื่อผู้ซื้อผิดนัดชำระเกินกว่า 3 งวดติดต่อกัน กิจการต้องตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ
สำหรับเรื่องการอัตราการ reject สูง เข้าใจว่า เมื่อผู้ซื้อจ่ายชำระเงินดาวน์ครบตามสัญญาแล้ว แต่ไม่สามารถกู้เงินกับธนาคารได้ เช่น ผ่อนดาวน์ไปแล้วร้อยละ 30 เหลืออีก ร้อยละ 70 ต้องกู้เงินกับธนาคาร
ถ้าหากกู้เงินไม่ผ่าน ตรงนี้ก็จะทำให้มีปัญหาการรับรู้รายได้ที่รับรู้ไปแล้ว อาจต้องตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญได้ หากไม่สามารถหาคนมาแทนผู้ซื้อรายเก่าได้ครับ
ตรงนี้คือความเสี่ยงที่สำคัญในขณะนี้ ที่เราต้องไปดูว่าเงินดาวน์บ้านและผ่อนค่างวดอยู่ในอัตราที่สูงมากน้อยเพียงใด เพราะหากเงินดาวน์ต่ำเกินไป เช่น ใกล้ ๆ ร้อยละ 20 หรือต่ำกว่า อาจเป็นโอกาสให้ผู้ซื้อบ้านยอมทิ้งเงินดาวน์ได้ง่าย ก็จะทำให้โครงการของผู้ขายประสบปัญหาได้โดยง่ายครับ แต่ถ้าดาวน์สูง ผู้ซื้ออาจเสียดาย และต้องพยายามที่จะรักษาสัญญาไว้ต่อไปครับ
สำหรับเรื่องการอัตราการ reject สูง เข้าใจว่า เมื่อผู้ซื้อจ่ายชำระเงินดาวน์ครบตามสัญญาแล้ว แต่ไม่สามารถกู้เงินกับธนาคารได้ เช่น ผ่อนดาวน์ไปแล้วร้อยละ 30 เหลืออีก ร้อยละ 70 ต้องกู้เงินกับธนาคาร
ถ้าหากกู้เงินไม่ผ่าน ตรงนี้ก็จะทำให้มีปัญหาการรับรู้รายได้ที่รับรู้ไปแล้ว อาจต้องตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญได้ หากไม่สามารถหาคนมาแทนผู้ซื้อรายเก่าได้ครับ
ตรงนี้คือความเสี่ยงที่สำคัญในขณะนี้ ที่เราต้องไปดูว่าเงินดาวน์บ้านและผ่อนค่างวดอยู่ในอัตราที่สูงมากน้อยเพียงใด เพราะหากเงินดาวน์ต่ำเกินไป เช่น ใกล้ ๆ ร้อยละ 20 หรือต่ำกว่า อาจเป็นโอกาสให้ผู้ซื้อบ้านยอมทิ้งเงินดาวน์ได้ง่าย ก็จะทำให้โครงการของผู้ขายประสบปัญหาได้โดยง่ายครับ แต่ถ้าดาวน์สูง ผู้ซื้ออาจเสียดาย และต้องพยายามที่จะรักษาสัญญาไว้ต่อไปครับ
Circle of competence
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger