คำแนะนำของบัฟเฟตต์สำหรับปีนี้
- charnengi
- Verified User
- โพสต์: 2395
- ผู้ติดตาม: 0
คำแนะนำของบัฟเฟตต์สำหรับปีนี้
โพสต์ที่ 1
มีคนส่งต่อมาครับ ไม่มีแหล่งอ้างอิงและไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ
คำแนะนำสำหรับปี 2009 โดย วอร์เรน บัฟเฟ่ตต์
... บุคคลที่รวยที่สุดคนหนึ่งในโลก ...
เราเริ่มต้นปีใหม่นี้ด้วย...
ความกระตือรือร้นที่หดหู่ และ การมองโลกแง่ดีที่ถูกทำลาย
ความสุขของเราถูกเจือจางลง และ ความสงบสุขของเราถูกคุกคาม...
ด้วยเชื้อป่วยไข้ของเศรษฐกิจ ที่ระบาดมายังครอบครัว องค์กร และ ประเทศชาติของเรา เราทุกคนต่างค้นหายารักษาอย่างสิ้นหวัง เพื่อรักษาความเจ็บป่วยของเศรษฐกิจ และให้กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม
พวกเราต่าง...ฝากความหวังไว้กับผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจ
ว่าพวกเขาจะจัดหายารักษาให้แก่พวก เราได้
ทั้งที่จริง พวกเราคงลืมไปว่า...
ก็ไม่ใช่พวกผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจ เหล่านี้หรอกหรือ ที่เป็นคนสร้างความวุ่นวายทางเศรษฐกิจนี้ขึ้นมาเอง
ทุกๆ ปีใหม่ ผมนำ คติพจน์เก่าๆ มาเป็น ไฟนำทาง อนาคตของผม
สูตรบำบัดรักษาตัวเองต่อไปนี้...
ให้ความมั่นใจกับผมว่า...ในแต่ละปีที่ผ่านไป
ผมเติบโต-อย่างมีปัญญามากขึ้น...ไม่ใช่แก่-อายุมากขึ้น
ปีนี้ผมจึงขอเชิญชวนทุกคน...ให้นำความคิดคุณ
เจาะเข้าถึง...ข้อคิดที่ให้สติทางการเงินนี้ร่วมกัน และกลายป็น...ผู้ที่ชาญฉลาดทางเศรษฐกิจ
ความขยัน : ทุกความขยัน...นำรายได้มาให้, แค่พูด...มีแต่นำความยากจนมาให้
ขี้เกียจ : กุ้งลอบสเตอร์ที่หลับ จะถูกกระแสน้ำพัดพาหายไป
เงินที่หาได้ : อย่าพึ่งพา แหล่งรายได้เพียงทางเดียว เป็นอันขาด
(อย่างน้อย ทำให้ การลงทุนใดๆ เกิดเป็นรายได้แหล่งที่ 2 ของคุณ)
การใช้จ่าย : ถ้าคุณซื้อสิ่งที่ไม่จำเป็น, คุณจะต้องขายสิ่งที่จำเป็นในไม่ช้า
การออม : อย่าเพียงออมเท่าที่เหลือจากการใช้จ่าย แต่ให้ใช้จ่ายในส่วนที่เหลือจากการเก็บออมแล้ว
การยืม : คนเป็นลูกหนี้ กลายเป็น...ทาสของเจ้าหนี้
ทำบัญชี : จะมีประโยชน์อะไรในการกางร่ม, ถ้ารองเท้าของคุณฉีกขาดอยู่
ตรวจสอบ : ระมัดระวังแม้รายจ่ายเล็กๆ น้อยๆ, รอยรั่วเล็กๆ สามารถจมเรือใหญ่ๆ ได้
การเสี่ยง : อย่าตรวจความลึกของแม่น้ำด้วยเท้า 2 ข้างเป็นอันขาด (มีแผนอื่นรองรับไว้ให้พร้อม)
การลงทุน : อย่าใส่ไข่ทั้งหมดของคุณ...รวมไว้ในตระกร้าเพียงใบเดียว
ผมมั่นใจว่า...ใครก็ตามที่ ฝึกปฏิบัติตามหลักการเหล่านี้อยู่แล้ว
เป็นผู้ที่ดำรงการมี ฐานะการเงินที่แข็งแรงไว้ได้
ผมมั่นใจเท่าๆ กันด้วยว่า...ใครก็ตามที่ เริ่มต้นฝึกปฏิบัติตามหลักการเหล่านี้
จะกลับมาเป็นผู้มี ฐานะการเงินที่เข้มแข็งได้อย่างรวดเร็ว
ขอเราทุกคนต่างกลายเป็น...
ผู้ที่มีปัญญามากขึ้น และ นำไปสู่ความสุข มีชีวิตที่แข็งแรง, มั่งคั่งและ สงบสุข.
แปลและเรียบเรียง โดย
โอกาส ชาญเชาวน์กุล
25 ก.พ. 2552
คำแนะนำสำหรับปี 2009 โดย วอร์เรน บัฟเฟ่ตต์
... บุคคลที่รวยที่สุดคนหนึ่งในโลก ...
เราเริ่มต้นปีใหม่นี้ด้วย...
ความกระตือรือร้นที่หดหู่ และ การมองโลกแง่ดีที่ถูกทำลาย
ความสุขของเราถูกเจือจางลง และ ความสงบสุขของเราถูกคุกคาม...
ด้วยเชื้อป่วยไข้ของเศรษฐกิจ ที่ระบาดมายังครอบครัว องค์กร และ ประเทศชาติของเรา เราทุกคนต่างค้นหายารักษาอย่างสิ้นหวัง เพื่อรักษาความเจ็บป่วยของเศรษฐกิจ และให้กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม
พวกเราต่าง...ฝากความหวังไว้กับผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจ
ว่าพวกเขาจะจัดหายารักษาให้แก่พวก เราได้
ทั้งที่จริง พวกเราคงลืมไปว่า...
ก็ไม่ใช่พวกผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจ เหล่านี้หรอกหรือ ที่เป็นคนสร้างความวุ่นวายทางเศรษฐกิจนี้ขึ้นมาเอง
ทุกๆ ปีใหม่ ผมนำ คติพจน์เก่าๆ มาเป็น ไฟนำทาง อนาคตของผม
สูตรบำบัดรักษาตัวเองต่อไปนี้...
ให้ความมั่นใจกับผมว่า...ในแต่ละปีที่ผ่านไป
ผมเติบโต-อย่างมีปัญญามากขึ้น...ไม่ใช่แก่-อายุมากขึ้น
ปีนี้ผมจึงขอเชิญชวนทุกคน...ให้นำความคิดคุณ
เจาะเข้าถึง...ข้อคิดที่ให้สติทางการเงินนี้ร่วมกัน และกลายป็น...ผู้ที่ชาญฉลาดทางเศรษฐกิจ
ความขยัน : ทุกความขยัน...นำรายได้มาให้, แค่พูด...มีแต่นำความยากจนมาให้
ขี้เกียจ : กุ้งลอบสเตอร์ที่หลับ จะถูกกระแสน้ำพัดพาหายไป
เงินที่หาได้ : อย่าพึ่งพา แหล่งรายได้เพียงทางเดียว เป็นอันขาด
(อย่างน้อย ทำให้ การลงทุนใดๆ เกิดเป็นรายได้แหล่งที่ 2 ของคุณ)
การใช้จ่าย : ถ้าคุณซื้อสิ่งที่ไม่จำเป็น, คุณจะต้องขายสิ่งที่จำเป็นในไม่ช้า
การออม : อย่าเพียงออมเท่าที่เหลือจากการใช้จ่าย แต่ให้ใช้จ่ายในส่วนที่เหลือจากการเก็บออมแล้ว
การยืม : คนเป็นลูกหนี้ กลายเป็น...ทาสของเจ้าหนี้
ทำบัญชี : จะมีประโยชน์อะไรในการกางร่ม, ถ้ารองเท้าของคุณฉีกขาดอยู่
ตรวจสอบ : ระมัดระวังแม้รายจ่ายเล็กๆ น้อยๆ, รอยรั่วเล็กๆ สามารถจมเรือใหญ่ๆ ได้
การเสี่ยง : อย่าตรวจความลึกของแม่น้ำด้วยเท้า 2 ข้างเป็นอันขาด (มีแผนอื่นรองรับไว้ให้พร้อม)
การลงทุน : อย่าใส่ไข่ทั้งหมดของคุณ...รวมไว้ในตระกร้าเพียงใบเดียว
ผมมั่นใจว่า...ใครก็ตามที่ ฝึกปฏิบัติตามหลักการเหล่านี้อยู่แล้ว
เป็นผู้ที่ดำรงการมี ฐานะการเงินที่แข็งแรงไว้ได้
ผมมั่นใจเท่าๆ กันด้วยว่า...ใครก็ตามที่ เริ่มต้นฝึกปฏิบัติตามหลักการเหล่านี้
จะกลับมาเป็นผู้มี ฐานะการเงินที่เข้มแข็งได้อย่างรวดเร็ว
ขอเราทุกคนต่างกลายเป็น...
ผู้ที่มีปัญญามากขึ้น และ นำไปสู่ความสุข มีชีวิตที่แข็งแรง, มั่งคั่งและ สงบสุข.
แปลและเรียบเรียง โดย
โอกาส ชาญเชาวน์กุล
25 ก.พ. 2552
low PROFILE but HIGH PROFITS
- sorawut
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2494
- ผู้ติดตาม: 2
Re: คำแนะนำของบัฟเฟตต์สำหรับปีนี้
โพสต์ที่ 2
พอมีข้อนี้ ผมชักสงสัยว่าของอาจารย์ทวด Buffet จริงหรอcharnengi เขียน:การลงทุน : อย่าใส่ไข่ทั้งหมดของคุณ...รวมไว้ในตระกร้าเพียงใบเดียว
แปลและเรียบเรียง โดย
โอกาส ชาญเชาวน์กุล
25 ก.พ. 2552
ตัดสินใจว่า ธุรกิจไหนที่คุณต้องการจะเป็นเจ้าของ
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
-
- Verified User
- โพสต์: 272
- ผู้ติดตาม: 0
คำแนะนำของบัฟเฟตต์สำหรับปีนี้
โพสต์ที่ 3
อาจจะใช่หรือไม่ใช่บัฟเฟต แต่ก็ให้แง่คิดดีครับ ขอบคุณครับ
- charnengi
- Verified User
- โพสต์: 2395
- ผู้ติดตาม: 0
คำแนะนำของบัฟเฟตต์สำหรับปีนี้
โพสต์ที่ 5
ทำไมถึงคิดว่าไม่ใช่ครับ อยากรู้ ขอคำชี้แนะหน่อยครับ
ว่ามันขัดหลักการที่เรารู้ๆกันมาตรงไหน
คุณsorawut สงสัยเกี่ยวกับการกระจายความเสี่ยง
เท่าที่รู้บัฟเฟตต์ก็กระจายการลงทุน หุ้นหลายตัว ตราสารหนี้ ก็เข้าหลักนี้นะครับ
ว่ามันขัดหลักการที่เรารู้ๆกันมาตรงไหน
คุณsorawut สงสัยเกี่ยวกับการกระจายความเสี่ยง
เท่าที่รู้บัฟเฟตต์ก็กระจายการลงทุน หุ้นหลายตัว ตราสารหนี้ ก็เข้าหลักนี้นะครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 128
- ผู้ติดตาม: 0
คำแนะนำของบัฟเฟตต์สำหรับปีนี้
โพสต์ที่ 6
บัฟเฟตต์เป็นฝ่ายตรงข้ามของทฤษฎีกระจายความเสี่ยง หรือทฤษฎีพอร์ตโฟลิโอสมัยใหม่ ที่มาจากงานของ Markowitz ครับ
ในจดหมายถึงผู้ถือหุ้นปี 1993 บัฟเฟตต์เคยเขียนไว้ว่า
"กลยุทธ์ที่เราใช้ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกับการกระจายความเสี่ยงแบบมาตรฐาน ด้วยเหตุดังกล่าว ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากจึงสรุปว่า กลยุทธ์ของเรามีความเสี่ยงสูงกว่ากลยุทธ์ที่นักลงทุนทั่วไปใช้ เราไม่เห็นด้วย เราเชื่อว่า นโยบายการจัดพอร์ตโฟลิโอแบบมุ่งเน้นอาจจะช่วยลดความเสี่ยง หากมันไปทำให้นักลงทุนวิเคราะห์และพิจารณาคุณลักษณะของธุรกิจอย่างหนักก่อนการเข้าไปซื้อหุ้น"
และในปี 1996 บัฟเฟตต์ก็เคยบอกว่า
"การกระจายความเสี่ยงเป็นการป้องกันเนื่องจากขาดความใส่ใจ ถ้าคุณต้องการมั่นใจว่าไม่มีสิ่งร้ายๆเกิดขึ้นกับคุณเมื่อเทียบกับตลาด คุณควรทำอย่างนั้น ไม่มีอะไรผิด มันเป็นวิธีการที่ดูเหมาะสมที่สุดสำหรับบางคนผู้ซึ่งไม่ทราบวิธีการวิเคราะห์ธุรกิจ"
มีเรื่องเล่าในหมู่นักลงทุน VI (เข้าใจว่าคนเขียนคือมาร์ค ทเวน นักเขียนชื่อดัง) ว่า
คนโง่พูดว่า "อย่าใส่ไข่ทุกฟองของเจ้าเอาไว้ในตะกร้าเพียงใบเดียว" หรือ "ให้กระจายเงินและความสนใจของเจ้า" แต่คนฉลาดพูดว่า "ใส่ไข่ทุกฟองของเจ้าไว้ในตะกร้าเพียงใบเดียวแล้วจับตาดูตะกร้าใบนั้นไว้!"
ปล.คำพูดที่ยกมา ส่วนใหญ่ผมนำมาจากสำนวนแปลของคุณ web ในหนังสือ การลงทุนแบบเน้นคุณค่า หลักสูตรมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ครับ
ในจดหมายถึงผู้ถือหุ้นปี 1993 บัฟเฟตต์เคยเขียนไว้ว่า
"กลยุทธ์ที่เราใช้ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกับการกระจายความเสี่ยงแบบมาตรฐาน ด้วยเหตุดังกล่าว ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากจึงสรุปว่า กลยุทธ์ของเรามีความเสี่ยงสูงกว่ากลยุทธ์ที่นักลงทุนทั่วไปใช้ เราไม่เห็นด้วย เราเชื่อว่า นโยบายการจัดพอร์ตโฟลิโอแบบมุ่งเน้นอาจจะช่วยลดความเสี่ยง หากมันไปทำให้นักลงทุนวิเคราะห์และพิจารณาคุณลักษณะของธุรกิจอย่างหนักก่อนการเข้าไปซื้อหุ้น"
และในปี 1996 บัฟเฟตต์ก็เคยบอกว่า
"การกระจายความเสี่ยงเป็นการป้องกันเนื่องจากขาดความใส่ใจ ถ้าคุณต้องการมั่นใจว่าไม่มีสิ่งร้ายๆเกิดขึ้นกับคุณเมื่อเทียบกับตลาด คุณควรทำอย่างนั้น ไม่มีอะไรผิด มันเป็นวิธีการที่ดูเหมาะสมที่สุดสำหรับบางคนผู้ซึ่งไม่ทราบวิธีการวิเคราะห์ธุรกิจ"
มีเรื่องเล่าในหมู่นักลงทุน VI (เข้าใจว่าคนเขียนคือมาร์ค ทเวน นักเขียนชื่อดัง) ว่า
คนโง่พูดว่า "อย่าใส่ไข่ทุกฟองของเจ้าเอาไว้ในตะกร้าเพียงใบเดียว" หรือ "ให้กระจายเงินและความสนใจของเจ้า" แต่คนฉลาดพูดว่า "ใส่ไข่ทุกฟองของเจ้าไว้ในตะกร้าเพียงใบเดียวแล้วจับตาดูตะกร้าใบนั้นไว้!"
ปล.คำพูดที่ยกมา ส่วนใหญ่ผมนำมาจากสำนวนแปลของคุณ web ในหนังสือ การลงทุนแบบเน้นคุณค่า หลักสูตรมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ครับ
"As Above, So Below"
- Diablo
- Verified User
- โพสต์: 822
- ผู้ติดตาม: 1
คำแนะนำของบัฟเฟตต์สำหรับปีนี้
โพสต์ที่ 7
จากหนังสือที่อ่านมาหลายๆเล่ม จะมีข้อความของบัฟเฟตต์ที่ถูกแปลไว้ว่า "ใส่ไข่ทั้งหมดในตะกร้าใบเดียวแล้วจับตาดูมันไว้"
เหตุผลที่ยกมาก็คือ บัฟเฟตต์นั้น ถือหุ้นในบริษัท เบิร์คไชร์ ฮาธาเวย์ เพียงบริษัทเดียว โดยไม่ได้ถือหุ้นบริษัทอื่นๆ เลย
แต่ตามที่เรารู้กันดีคือ เบิร์คไชร์ ฮาธาเวย์ ก็เป็น Holding Company ซึ่งถือหุ้นบริษัทอื่นๆอีกหลายบริษัทเช่นกัน
เหตุผลที่ยกมาก็คือ บัฟเฟตต์นั้น ถือหุ้นในบริษัท เบิร์คไชร์ ฮาธาเวย์ เพียงบริษัทเดียว โดยไม่ได้ถือหุ้นบริษัทอื่นๆ เลย
แต่ตามที่เรารู้กันดีคือ เบิร์คไชร์ ฮาธาเวย์ ก็เป็น Holding Company ซึ่งถือหุ้นบริษัทอื่นๆอีกหลายบริษัทเช่นกัน
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 128
- ผู้ติดตาม: 0
คำแนะนำของบัฟเฟตต์สำหรับปีนี้
โพสต์ที่ 9
ในตำรา CFA Level 2 เรื่อง Portfolio Management ได้กล่าวถึงบัฟเฟตต์กับการกระจายความเสี่ยงไว้เหมือนกันครับ ผมเคยสรุปไว้ใน blog ของผม ลองไปอ่านตาม link นี้ก็ได้ครับ
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?i ... =5&gblog=1
โดยสรุปคือ แม้ว่า บัฟเฟตต์จะไม่เห็นด้วยกับทฤษฎีพอร์ตโฟลิโอสมัยใหม่และการกระจายความเสี่ยง แต่พอร์ตฯของเบิร์กไชร์ฯ ก็มีการกระจายความเสี่ยงอย่างยอดเยี่ยม เพราะผลตอบแทนของพอร์ตเท่ากับค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นแต่ละตัว แต่ความเสี่ยงโดยรวมกลับลดลง
อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าบัฟเฟตต์ไม่ได้ปฏิเสธเรื่องการกระจายความเสี่ยงไปทั้งหมดหรอกครับ แต่ไม่เห็นด้วยกับการกระจายความเสี่ยงด้วยการถือหุ้นหลายๆตัว (ตามทฤษฎีคือ 30 ตัว) เพื่อกำจัด unsystematic risk ให้หมดไปต่างหาก เพราะแนวทางที่ควรจะเป็นคือ การเฟ้นหาหุ้นดีๆที่เราเข้าใจอย่างถ่องแท้ แล้วลงทุน โดยไม่ต้องพยายามไปถือหุ้นให้มากๆเพื่อกระจายความเสี่ยงครับ
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?i ... =5&gblog=1
โดยสรุปคือ แม้ว่า บัฟเฟตต์จะไม่เห็นด้วยกับทฤษฎีพอร์ตโฟลิโอสมัยใหม่และการกระจายความเสี่ยง แต่พอร์ตฯของเบิร์กไชร์ฯ ก็มีการกระจายความเสี่ยงอย่างยอดเยี่ยม เพราะผลตอบแทนของพอร์ตเท่ากับค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นแต่ละตัว แต่ความเสี่ยงโดยรวมกลับลดลง
อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าบัฟเฟตต์ไม่ได้ปฏิเสธเรื่องการกระจายความเสี่ยงไปทั้งหมดหรอกครับ แต่ไม่เห็นด้วยกับการกระจายความเสี่ยงด้วยการถือหุ้นหลายๆตัว (ตามทฤษฎีคือ 30 ตัว) เพื่อกำจัด unsystematic risk ให้หมดไปต่างหาก เพราะแนวทางที่ควรจะเป็นคือ การเฟ้นหาหุ้นดีๆที่เราเข้าใจอย่างถ่องแท้ แล้วลงทุน โดยไม่ต้องพยายามไปถือหุ้นให้มากๆเพื่อกระจายความเสี่ยงครับ
"As Above, So Below"
- kotaro
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1496
- ผู้ติดตาม: 0
คำแนะนำของบัฟเฟตต์สำหรับปีนี้
โพสต์ที่ 10
เห็นด้วยครับผมคิดว่าบัฟเฟตต์ไม่ได้ปฏิเสธเรื่องการกระจายความเสี่ยงไปทั้งหมดหรอกครับ แต่ไม่เห็นด้วยกับการกระจายความเสี่ยงด้วยการถือหุ้นหลายๆตัว
การกระจายความเสี่ยงก็ขึ้นกับ risk profile ของแต่ละคน ว่ามีขอบเขตความรู้มากน้อยเท่าไหน และ การยอมรับความเสี่ยงแค่ไหน
แต่ละคน คงไม่เหมือนกัน
จะใส่ตระกร้ากี่ใบก็ตาม อย่าลืม เรื่อง คุณภาพของตระกร้าด้วยครับ
เรื่อง จดหมายฉบับนี้ มีคนบอกมา ต้นแหต่งมาจากอินเดียครับ มีคนแอบอ้างชื่อ Buffet และก็กระจายกันไปทั่วครับ
แต่เนื้อหาดี ก็เป็นอันใช้ได้แล้วครับ ใครจะเป็นคนเขียนก็ช่างมันครับ
“Laughter is timeless. Imagination has no age. And dreams are forever.” ― Walt Disney Company
-
- Verified User
- โพสต์: 191
- ผู้ติดตาม: 0
คำแนะนำของบัฟเฟตต์สำหรับปีนี้
โพสต์ที่ 13
โดยส่วนตัวผมมีความเห็นว่า ปู่บัฟ ไม่ได้มองถึงความเสี่ยงด้วยการคำนวณแบบ markowiz แต่มองถึงความน่าจะเป็นในการทำกำไรของธุรกิจที่ปู่แกสนใจ และ แกก็จะลงทุนในธุรกิจที่แกมั่นใจว่ามีความน่าจะเป็นที่จะทำกำไรได้ดีกว่าปีก่อน และ ทำกำไรเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยแกต้องมีความมั่นใจในผลตอบแทนนี้มากพอสมควร ดังนั้นผมคิดว่าปู่บัฟคงไม่ได้เถียงเรื่องการใส่ไข่ใดๆ แต่แกจะหาตระกร้าที่เมื่อใส่ไข่แล้วมันจะไม่ทำให้ไข่ของแกแตกมากกว่า โดยไม่จำกัดว่ามันจะมีกี่ใบ
- sorawut
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2494
- ผู้ติดตาม: 2
คำแนะนำของบัฟเฟตต์สำหรับปีนี้
โพสต์ที่ 14
ผมว่าอันนี้คือ Key ครับ
แต่จะมีบริษัทไหนล่ะ ที่ใหญ่พอ (และอยู่ในขอบข่ายความรู้ของอาจารย์ทวด) ให้ Berkshire ใช้เงินทั้งหมดซื้อล่ะ :lol:
อาจารย์ทวดคงไม่ได้อยากจะให้ Berkshire ซื้อหุ้นบางส่วนและทั้งบริษัทหลายแห่งหรอกPallas เขียน:"การกระจายความเสี่ยงเป็นการป้องกันเนื่องจากขาดความใส่ใจ ถ้าคุณต้องการมั่นใจว่าไม่มีสิ่งร้ายๆเกิดขึ้นกับคุณเมื่อเทียบกับตลาด คุณควรทำอย่างนั้น ไม่มีอะไรผิด มันเป็นวิธีการที่ดูเหมาะสมที่สุดสำหรับบางคนผู้ซึ่งไม่ทราบวิธีการวิเคราะห์ธุรกิจ"
แต่จะมีบริษัทไหนล่ะ ที่ใหญ่พอ (และอยู่ในขอบข่ายความรู้ของอาจารย์ทวด) ให้ Berkshire ใช้เงินทั้งหมดซื้อล่ะ :lol:
ตัดสินใจว่า ธุรกิจไหนที่คุณต้องการจะเป็นเจ้าของ
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
- sorawut
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2494
- ผู้ติดตาม: 2
คำแนะนำของบัฟเฟตต์สำหรับปีนี้
โพสต์ที่ 15
ลืมไปต้อง under value สำหรับบริษัททั่วไป หรือ fair value สำหรับบริษัทชั้นยอดด้วยนะ
ตัดสินใจว่า ธุรกิจไหนที่คุณต้องการจะเป็นเจ้าของ
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น