ขอเชิญนักลงทุนแนวVIลองวัดผลการลงทุนในเชิง"คุณภาพชีวิต

[คลายเครียด]

เนื่องจากทำภาพประกอบในเวบทีวีไอไม่เป็น
ก็ขอทำลิงค์ไปที่กระทู้นี้แทน

:lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:


http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 64587.html

[siebelize]

ขอบคุณครับพี่

ติดตามผลงานพี่มาตลอดนะครับ  :)

[คลายเครียด]

ขอบคุณครับ
ความจริงผมพิมพ์ว่า  "คุณภาพชีวิต" แต่ทำไมมันตกหล่นไปก็ไม่รู้

คือผมสังเกตมานานแล้วว่า
ไม่ว่านักลงทุนจะบอกตัวเองว่า ลงทุนในแนวไหน
ลงท้ายก็เน้นผลสำเร็จในเชิงปริมาณเงินทั้่งสิ้น

ก็เลยลองหาทางวัดใน"เชิงคุณภาพชีวิต" ดูบ้าง

ถ้าวัดในเชิงปริมาณเงิน
ป๋าบุฟเฟต์  ประสพผลสำเร็จในชีวิตการลงทุนมากกว่าผมล้านเท่าก็ได้
แต่ถ้าวัดในเชิงคุณภาพชีวิต

ผมว่า อย่างเก่งที่สุด  ป๋าบุฟเฟต์ก็เหนือกว่าผม
เต็มที่ไม่เกินสองเท่า

คือผมทำได้  ๒๕ คะแนน
ป๋าบุฟเฟต์ไม่มีทางทำได้เกิน  ๕๐ คะแนน



:lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

[por_jai]

สวัสดีครับเฮีย "ผมสามารถ"เองครับ
     เดี๋ยวขอตัวไปทำเควสชั่นแนร์หน่อย
     จะได้รู้ว่าเป็นรองบัฟเฟ่ท์หรือเป็นต่อ...ฮ่า...

[คลายเครียด]

[quote="por_jai"] สวัสดีครับเฮีย "ผมสามารถ"เองครับ

[นักดูดาว]

ผมนับเป็นตัวเลขไม่ถูกครับ เพราะชีวิตด้านหุ้นเป็นด้านเดียวของผม
ผมมีปัจจัยอย่างอื่นที่น่าจะส่งผลมากกว่าหุ้นแน่ๆ ขอข้ามไปก็แล้วกัน
แต่หากวัดผลโดยรวมๆ แล้วก็ต้องประมาณ ๒๕ คะแนน บางช่วงชีวิตก็มากกว่าน้อยกว่า ตามปกติ

ชีวิตเปรียบเหมือนกาแฟครับเฮีย มีส่วนผสมต่างๆกัน มีกาแฟ ครีม นม น้ำตาล น้ำ ความร้อนเย็น เราเป็นคนชง เราก็เลือกส่วนผสมต่างๆเอง แต่ละคนก็ชอบไม่เหมือนกัน ก็เหมือนชีวิตเรา ที่ต้องเลือกส่วนผสมที่เราชอบเอง และอย่างน้อยที่สุด เราก็ควรรู้ว่าเราชอบอะไร

อย่างไรก็ตาม มันขาดส่วนผสมอะไรไป ก็ไม่อร่อยครับ

[por_jai]

ได้22ครับเฮีย

[คลายเครียด]

คุณนักดูดาว (หนุ่มเจโชว์หายไปไหนแล้ว?)

คือผมต้องการแค่ลองวัดผลสำเร็จจากการลงทุนในมิติอื่นๆบ้าง  
นอกจากการวัดผลสำเร็จในการลงทุน ด้วยปริมาณเงินที่ได้จากตลาดหุ้น

สรุปง่ายๆน่าจะเป็นว่า

ไม่ว่าพอร์ตหุ้นเราจะเป็นอย่างไร
ถ้าเรารู่สึกว่า  "มีความพึงพอใจในชีวิตตัวเอง"

ก็ถือว่า  เป็นนักลงทุนที่ประสพความสำเร็จในการลงทุน
ไม่ว่าจะขาดทุนหรือกำไร
ซึ่งรวมไปถึงการใช้ชีวิตนอกตลาดหุ้นด้วย



:lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

[oatty]

เจ๋งเลยครับเฮีย..
งั้นผมก็สามารถเรียกตัวเองได้เต็มปากแล้วว่า "ประสพความสำเร็จในการลงทุน"

แต่ยังไม่ได้ให้คะแนนตามตารางที่ให้มาเลย

[moo]

ป๋ม ยัง 50:50

[คลายเครียด]

ได้22ครับเฮีย

ขอโทษด้วยครับ  ไม่รู้อ่านข้ามไปได้ไง
ฟันธงว่า คุณพอใจคิดผิดไป สิบคะแนน

ผมให้หมายเลขสอง  ๙ ดูตามปัจจัยพื้่นฐานในการโพสต์กระทู้
หมายเลขสาม   ๙   ดูตอนที่ออกมันนี่แชนแนลเดลี่บอกว่าล้างรถให้ผบ.ทบ.
หมายเลขสี่     ๘  
(ยังออกกำลังกายทุกวัน กินเบียร์ทุกวัน แสดงว่ายังฟิตเปรี๊ยะ)

หมายเลขหนึ่งอีกซัก  ๗  

เท่ากับ  ๓๓ ครับเต็ม ๔๐ ครับ

:lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

[naris]

เฮียนี่ชอบมีอะไรดีๆให้นักลงทุน ได้รู้จักตัวตนๆเองมากขึ้นนะครับ

ผมได้เท่าอายุเลยเฮีย :lol:

[คลายเครียด]

เฮียนี่ชอบมีอะไรดีๆให้นักลงทุน ได้รู้จักตัวตนๆเองมากขึ้นนะครับ

ผมได้เท่าอายุเลยเฮีย :lol:

กำลังจะแวบไปจากเวบบอร์ดหุ้น
เจอที่คุณนาริสบอกมา
แสดงว่า  คะแนนได้เกือบแปดสิบเปอร์เซนต์
เยี่ยมมากครับ


           

[siebelize]

ทำไมกินข้าวกลับมาแล้ว คะแนนมันได้เยอะขึ้นแฮะ
555555

[Diablo]

ผมคิดไ้ด้ 20 ครับ
จะปรับปรุงให้ดีขึ้นนะครับ  :D
โดยส่วนตัวชอบหนังสือของพี่คลายเครียดมากครับ ยกให้เป็นอันดับ 5 จากประมาณ 50-60 เล่ม ที่ผมมีเลย

[vision]

ขอออกตัวก่อนนะครับว่า ไม่ได้มีเจตนาร้าย หรือต่อต้านอะไร

แต่อยากจะบอกว่า

ผมรู้สึกว่าการพยายามทำความเข้าใจกับกระทู้ของท่าน มันเป็นทุกข์ครับ

อ่านงบดุล งบกำไรขาดทุนยังรู้สึกสบายๆ เครียดน้อยกว่าเลย

[noooon010]

ขอคารวะท่านเจ้าสำนักครับ  :D

[por_jai]

มาทำรูปปลากรอบให้เฮียครับ
     เฮียครับ
     ทุกวันนี้โพ้มก็ยังล้างรถให้อาซ้อเหมือนเดิมครับ
     อ่านเรื่องเฮียจะซื้อรถใหม่แล้ว
     ไม่เหมือนใครดีครับ
     "รถอะไรก็ได้ที่ไม่ตายกลางทาง"
     ฮ่า....แถมเ้กียร์มืออีก
     เฮียเป็นตัวของตัวเองดีจริงครับ...
     จริงๆแล้วเกียร์มือเองก็มีข้อดีครับ
     คืออึดกว่า เรียกว่าเท่าอายุรถก็ว่าได้
     แล้วการchangeเกียร์ลดเกียร์เก่งๆ
     สามารถชลอความเร็วของรถได้ดีในยามคับขัน
     แล้วเกียร์มือนี่ประหยัดน้ำมันกว่าเกียร์ออโต้หลายสิบ%เชียวครับ
     ยิ่งถ้าใช้แก๊ซอีกนี่ ยิ่งไปกันใหญ่
     
     ยังไม่ได้เล่าให้เฮียฟังว่า22มาอย่างไร
     ใบแรกให้ตัวเอง4
     ใบที่สองสามสี่ให้ใบละ6ครับ
     ก็เลยต้องสอบตกไปนิดหน่อย
     กำลังพยายามขยับใบแรกให้เป็น6จะได้รวมเป็น24
     เอาแค่ตกคะแนนเดียวให้ได้ครับ...ฮ่า...
     เท่าที่ผ่านมา
    ไม่เคยถือหุ้นแบบตั้งใจจะกินปันผลเลยครับ

[por_jai]

มีบทความดีๆของเฮียเย่หย่งเทียน
     ระัดับเซียนคนนึงในพันทิพ
     จุดเด่นของเฮียเขาคือ มุมมองบวกในเชิงนามธรรม
ที่มีต่อชีวิตผู้คน
     แกบอกว่ารวยแล้วก็ต้องทำตัวให้มีความสุขด้วย
     ผมเห็นว่าสอดคล้องกับกระทู้นี้ของเฮีย
     ก็เลยขออนุญาติเฮียแย่เอ๊ยเฮียเย่ นำมาลงซะหน่อย
     เผื่อบัวอย่างผมอ่านหลายๆเที่ยวจะโผล่พ้นน้ำขึ้นมามั่ง...ฮ่า..


เงินทองหน้าตาเป็นอย่างไร เม่า….เข้าใจแล้ว

แมลงตัวน้อยเกิดมาท่ามกลางฤดูฝน บินวนเวียนไปตามสถานที่ต่างๆ ผ่านบ้านเล็กบ้านใหญ่ ห้องชุด
ห้องเช่า เฝ้ามองดูสิ่งมีชีวิตที่เรียกตนเองว่า มนุษย์  เฝ้ามองหาสิ่งที่แปลกใหม่น่าตื่นตาตื่นใจ

       “เอาเงินมานี่ ไปซ่อนไว้ที่ไหน เอามาให้หมด”  นายชัยสามีนางไพพูดด้วยอาการอยากสุรา

“กินมันเข้าไป  ลูกไม่มีเงินจะไปโรงเรียนแล้ว เดือนนี้ได้นอนข้างถนนแน่ๆ เจ๊แกจะมาเก็บค่าห้อง
พรุ่งนี้แล้ว”

       “ไม่ต้องพูดมาก จะให้ไม่ให้  อย่างกับเอ็งไม่เคยกิน”

“ใช่ข้าเคยกิน แต่ตอนนี้เรามีลูกแล้วนะ จะทำตัวเละเทะแบบนี้ไม่ได้แล้ว”

       “เอ็งไม่ต้องเอาลูกมาอ้าง หรือว่าเอ็งอยากเห็นข้าทรมานตายหรือไง”
       “เออ ต้องอย่างนี้สิ รับรองข้ากินนิดเดียว ไม่เมาหรอก”

นายชัยเดินหันหลังซวนเซออกไปจากห้องเช่าด้วยความดีใจ โดยปล่อยให้ภาพข้างหลังนั้นเป็นเพียง
ภาพนิ่งที่พร้อมจะลืม และปล่อยให้คำมั่นสัญญานั้นแห้งหายไปพร้อมกับเหล้าหยดสุดท้ายที่ปากขวด

       แมลงตัวน้อยบินอยู่มุมห้องไม่เข้าใจว่า อะไรคือความสุขของนายชัย  เงินสำหรับครอบครัว
ไม่พอใช้จ่ายแต่ยังต้องการสนองความอยากคือ การดื่มสุรา  เพียงเพื่อสนองความสุขส่วนเกิน
ซึ่งคนอื่นในครอบครัวต่างคิดว่ามันเป็นความทุกข์ส่วนเพิ่มต่างหาก ทั้งๆที่นายชัยก็ได้รับสิ่ง
ที่เขาเรียกว่าความสุขนั้นไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็ยังไม่พอ

       แมลงตัวน้อยทนเสียงร้องไห้งอแงของเด็กในห้องไม่ไหว จึงได้บินออกไป ระหว่างที่
บินอยู่นั้น รู้สึกได้ว่าฝนกำลังจะตก จึงได้บินเข้าไปหลบในสะพานลอยคนข้ามถนน ขณะที่กำลัง
หามุมเหมาะๆเพื่อจะเกาะไม่ให้ลมพัดตัวปลิวออกไปนั้น ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้อีกครั้ง

       “โอ้ๆๆอย่าร้องนะ รอพี่ขายเกลือถุงได้อีกสัก4ถุงนะ แล้วพี่จะพาไปกินข้าว”
       พี่ชายในเครื่องแบบนักเรียนเก่าๆกำลังปลอบน้องสาวที่เพิ่งจะตื่นนอน แล้วหันไปตะโกนขายของต่อ
       “4ถุง10บาทครับ 4ถุง10 ….. ครับ ขอบคุณครับ เอาหมดเลยหรือครับ ทั้งหมด50บาทครับ”

“ไม่ต้องทอนนะ” ป้าแก่ๆคนหนึ่งกล่าวพร้อมยื่นธนบัตร100บาท

       “ขอบคุณครับคุณป้า”

“มาขายทุกวันเลยนะป้าเห็น ตั้งใจเรียนนะ อีกหน่อยน้องๆจะได้สบาย ขยันทำมาหากินแบบนี้ไม่อด
ตายแน่นอนแล้วป้าจะมาอุดหนุนเรื่อยๆนะ”

       “มา..มา พี่จะพาไปกินข้าว หิวแล้วหล่ะสิ”
       พี่ชายกำเงินพร้อมกับอุ้มน้องขึ้นบ่าแล้วพาเดินลงจากสะพานลอยไป

แมลงตัวน้อยคิดอยู่ในใจว่า  เด็กสองคนนี้ทำไมต้องออกมานั่งขายของท่ามกลางฝนที่กำลังจะตก
แล้วพ่อแม่ไปไหน ทำงานเพื่อให้ตนเองมีมากขึ้น หรือ เพื่อประทังชีวิต  เด็กสองคนนี้ขาดในสิ่งที่
เด็กคนอื่นๆมี เพียงเพราะคำว่า “โอกาส”เพียงเท่านั้นหรือ ป้าแก่ๆคือ นางฟ้ามาโปรดของ
เด็กสองคนนี้ ทั้งๆที่ป้าแกก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร ส่วนเกลือที่ได้ไปนั้นป้าก็แทบไม่ได้ใช้มันเลย  
ป้าแกเดินลงสะพานลอยไปด้วยรอยยิ้ม  โดยปล่อยให้ภาพข้างหลังนั้นเป็นภาพเคลื่อนไหว
ของเด็กน้อยที่มีชีวิตชีวา และปล่อยคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้นั้น ดั่งน้ำทิพย์ชโลมใจ ให้เด็กน้อยมีแรง
ที่จะสู้และมีความหวังว่าสักวันต้องได้ดีแน่นอน

       ท้องฟ้าเริ่มมืดครึม แมลงตัวน้อยก็บินออกไปหาสถานที่ที่มีแสงสว่าง จนกระทั่งมาพบบ้านหลัง
ใหญ่หลังหนึ่ง จึงได้บินเข้าไปเพื่อจะอาศัยนอนในคืนนี้ ห้องรับแขกโองโถ่งโล่งสบาย

       “พ่อครับ ซื้อคอมพิวเตอร์ตัวใหม่ให้ผมนะครับ เอาแบบความเร็วสูงๆ เวลาผมการบ้าน
ส่งคุณครู เครื่องเก่ามันช้า เครื่องพิมพ์แบบสีด้วยนะครับ ขาวดำ ที่โรงเรียนเขาไม่ใช่กันแล้วครับ
ผมอยากได้พิมพ์สี นะนะ พ่อนะ”
       “คุณคะ เครื่องปรับอากาศในห้องคุณนะ เสียงดังมากเลย ซื้อเครื่องใหม่เถอะ ใช้มาร่วม20ปีแล้วนะ”
       “พ่อคะ อาทิตย์หน้าหนูจะเริ่มไปอยู่หอพักที่มหาวิทยาลัยแล้วคะ หนูขอซื้อจักรยานใหม่เอา
ไปใช้ที่หอพักได้ไหมคะ”

“อืมมม ทำไมมันดึงข้อมูลช้าจัง มาแล้วๆ  ดาวโจนส์บวกตั้ง200จุด  พรุ่งนี้ฟันอีกแล้ว  อะไรจะดวงดีแบบนี้”

       “นี่คุณ ฟังที่ลูกๆพูดหรือเปล่า”

“รู้แล้ว ได้ยินหมดแล้ว เท่านี้ทำเป็นหงุดหงิดไปได้ หนึ่งคอมพิวเตอร์เครื่องเดิมใช้ไปก่อน ยังเด็ก
ยังเล็กจะเอาเร็วๆไปทำอะไร เล่นเกมหล่ะไม่ว่า ส่วนเครื่องพิมพ์รอพ่อว่างๆพ่อจะลองไปดูที่ทำงาน
เพื่อนพ่อ ดูว่ามีเครื่องที่เขาไม่ใช้หรือเปล่านะ ส่วนวรรณก็เอาจักรยานที่ห้องเก็บของของพ่อไปใช้
ยังใหม่อยู่เลย ตั้งแต่ซื้อมาพ่อใช้แค่4-5ครั้งเอง พ่อก็ไม่ได้ใช้แล้ว เช็ดๆเดี๋ยวก็ใหม่ ส่วนเรื่อง
แอร์พ่อไม่เห็นว่าต้องเปลี่ยนเลย ยังให้ความเย็นได้ก็ใช้ไป ไม่เสียสักหน่อย กลางคืนพ่อยังต้องห่ม
ผ้าเลย แอร์ดีนะตัวนี้”

       “แต่ว่าพ่อครับ….”

“ไม่ต้องพูดแล้ว พ่อมีสายโทรศัพท์เข้ามาพอดี ไปเข้านอนกันได้แล้ว แม่ๆเรียกลูกๆเข้านอน”
พ่อรีบหันไปรับโทรศัพท์ทันทีหลังจากพูดจบ

“…..ว่าไงเฮีย พรุ่งนี้เตรียมตัวรวยกันได้เลย คืนนี้ตลาดหุ้นเมืองนอกสดใส ได้ๆเจอกันที่ไหน
ห้องอาหารจีนที่เดิมนะ ได้ๆ … รวยเช่นกันครับเฮีย…. ”

       แมลงตัวน้อย ไม่เข้าใจหรอกนะว่าอะไรคือตลาดหุ้นเมืองนอก อะไรคือพรุ่งนี้รวย แต่สิ่งที่
แมลงตัวน้อยสงสัยก็คือ ทำไมบ้านหลังนี้ใหญ่โต แต่ทำไมเด็กๆในบ้านมีสีหน้าที่ไม่มีความสุขไม่
ต่างอะไรกับเด็กๆที่แมลงตัวน้อยเจอมาตลอดวัน พ่อแม่อยู่กันพร้อมหน้า ห้องนอนก็มี ทีวีก็ใหญ่
ไฟก็สว่าง ห่างบ้านออกไปก็มีต้นไม้อุดมสมบูรณ์  เงินทองของใช้เพรียบพร้อม แมลงตัวน้อย
ได้ยินแต่คำว่ารวย สดใส ล้วนแล้วแต่เป็นคำดีๆทั้งนั้น … ทันใดนั้นเอง แม่ของเด็กๆก็ลงมาจากชั้นบน

       “คุณคะ เมื่อก่อนคุณไม่เห็นเป็นแบบนี้เลยนิคะ ตั้งแต่คุณเริ่มเล่นหุ้นมา คุณเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ”

“นี่แม่กำลังว่าพ่อใช่ไหมเนี่ย พ่อจะได้เตรียมตัวเถียง”

       “เรามาคุยกันด้วยเหตุผลดีกว่าไหมคะ ไม่ได้มาโต้เถียง”

“ก็แม่บอกว่าพ่อเปลี่ยนไป แสดงว่าพ่อทำอะไรผิดแน่นอนเลย หุ้นมันไม่เกี่ยวอะไรเลยรู้ไหม  
ตั้งแต่พ่อรู้จักมันนะ พ่อก็หาเงินเข้าบ้าน มีแต่เพิ่มกับเพิ่ม เพื่อนพ่อยังบอกเลยว่า พ่อหาเงินเก่งออก
ดูสิพรุ่งนี้พ่อก็จะได้กำไรอีกไม่ต่ำกว่า2แสน แบบนี้พ่อไม่ดีตรงไหนเหรอ”

       “แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเรื่องที่พ่อจะเล่นหุ้นหรอกนะ แต่แม่แค่อยากจะรู้ว่าเงินทองที่พ่อบอกว่าหา
ได้มากๆหน้าตามันเป็นยังไงก็เท่านั้นเอง”
พ่อหันหน้ามามองแม่ด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ

       “พ่อรู้ไหม เวลาที่พ่อบอกกำไรมากๆ หรือบอกว่ารวยเท่านั้นเท่านี้ ทั้งแม่และลูกๆก็ดีใจไป
ด้วยเพราะว่าพ่อจะอารมณ์ดีมาก พูดรู้เรื่อง แต่แม่ไม่รู้หรอกว่าเงินที่ว่ามากนั้น มันเป็นยังไง
ลูกๆแกก็ไม่ได้หวังอะไรมากไปกว่าได้เห็นพ่อมีรอยยิ้ม เพราะเวลาพ่อเล่นหุ้นขาดทุน พ่อมักจะ
อารมณ์ไม่ดี บรรยากาศในบ้านก็ไม่ดี  พ่อมักจะบอกแม่เสมอว่า เดือนนี้ได้กำไรเท่านี้ ค่านายหน้า
เสีย4-5หมื่นจะเป็นอะไรไป  เจ้าหน้าที่เขาก็ต้องมีค่าใช้จ่ายมีต้นทุน แต่พ่อลืมไปว่าต้นทุนตัวพ่อ
สำหรับตัวแม่เองและลูกๆมีค่ามากกว่านั้นหลายเท่า ”

       “พ่อรู้ไหม ที่แม่ถามว่าเงินทองนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร เพราะว่าแม่อยากรู้ว่าหน้าตาน่า
เอ็นดูกว่าลูกเราหรือไม่ พ่อทำกำไรได้ พ่อต้องรู้จักต่อยอดสิ ต่อยอดในที่นี้ไม่ใช่เอาไปต่อทุน
พ่อชอบบอกกับแม่เสมอว่า พ่อไม่อยากเอาเงินในบัญชีออกมาใช้เพราะต้องการให้ตัวเลขมันเพิ่มขึ้น
เรื่อยๆ จะได้ซื้อหุ้นได้จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ กำไรจะได้ทวีคูณ แต่พ่อไม่เคยมองว่าแล้วถ้าหากเกิด
ความผิดพลาดหล่ะ แม่ก็ไม่อยากจะพูดเรื่องขาดทุนกับพ่อนะ แต่ใช่ว่าไม่เคยเกิด พ่อบอกว่าซื้อ
หุ้นทีละแสนมันได้อารมณ์ได้กำไรเต็มเม็ดเต็มหน่วยดี พอยอดเงินเกินแสนเป็นเงินล้าน พ่อก็บอก
ว่าซื้อทีละล้านได้หุ้นเป็นกอบเป็นกำดี แล้วถ้าอีกหน่อยมีหลายสิบล้าน ไม่ต้องซื้อให้หมดเลยหรือ
พ่ออย่าลืมสิ วันแรกที่พ่อซื้อขายหุ้นพ่อบอกว่าซื้อทีหลายแสนมือก็สั่นแล้ว เดี๋ยวนี้พ่อซื้อขายครั้งละ
หลายล้าน พ่อไม่นึกถึงวันเก่าก่อนเลยหรือ แล้วเมื่อไรจะเจอจุดสิ้นสุดของคำว่าพอแล้วของพ่อหล่ะ”

พ่อหน้าซีดแล้วพูดด้วยเสียงสั่นเครือว่า
“พ่อทำทุกอย่างไปก็เพื่อพวกเรานะ พ่อหามาได้สุดท้ายก็เป็นของแม่ๆลูกๆทั้งหมด พ่อปรารถนาดีนะ”

       “แม่รักพ่อนะ ถึงได้พูดกับพ่อตรงๆ แม่อยากให้พ่อได้รู้จักว่าเงินมันหน้าตาอย่างไรก็เท่านั้นเอง
ไม่ใช่ให้เงินเป็นเพียงตัวเลขในบัญชีเงินฝาก กับ บัญชีซื้อขายหุ้น ที่ไม่รู้จักคำว่าพอ แล้วต้องขยายวงเงิน
ไปเรื่อยๆ  พ่อลองนึกดูสิ หากพ่อซื้อคอมพิวเตอร์ให้ลูกได้ใช้ หรือ ซื้อจักรยานคันใหม่แทนจักรยาน
ที่คุณซื้อมาสมัยหนุ่มๆให้ลูกได้ใช้ ความสุขที่ลูกได้รับ และจับต้องได้นั้นมันมีค่ามากกว่าตัวเลขที่วิ่งบน
จอเสียอีก ที่ลูกๆขอก็ไม่ใช่ฟุ่มเฟือยอะไร จำเป็นใช้ทั้งนั้น คุณเสียค่านายหน้าครั้งหนึ่งหลายหมื่น
คุณบอกว่าเจ้าหน้าที่มีต้นทุน แล้วครอบครัวเราไม่มีต้นทุนงั้นหรือ”

       “ตัวพ่อเองก็เช่นเดียวกัน ที่แม่ขอให้ซื้อแอร์ตัวใหม่ ก็เพราะเห็นว่าคุณนอนหลับไม่เคยสนิท
แอร์มันเก่า เสียงก็ดัง เย็นก็เย็นจัด ไม่ระบายอากาศ แม่เป็นห่วงพ่อจึงบอกด้วยความหวังดี แม่เอง
นอนพัดลมก็ยังนอนได้เลยแต่เห็นว่าพ่อทำงานหนักพ่อก็ต้องได้สิ่งที่สะดวกสบายไว้ใช้บ้าง”

“พ่อรู้แล้วจ๊ะแม่ ว่าหน้าตาของเงินมันเป็นอย่างไร พ่อจะกลับมาเป็นพ่อคนเดิม พ่อที่เดินไปพร้อม
กับครอบครัว พ่อที่พร้อมจะสนับสนุนครอบครัว พรุ่งนี้พ่อจะพาลูกๆไปซื้อของแม่ต้องไปด้วยนะ
พ่อจะไม่รอซื้อคอมพิวเตอร์ให้ลูกตอนลูกเรียนจบ หรือ ซื้อจักรยานใหม่ให้ตอนที่ลูกสาวแต่งงาน
เพราะมันจะไม่มีค่าอะไรเลย หากสิ่งของเหล่านี้มาไม่ตรงตามเวลาที่ลูกๆต้องการ พ่อจะไม่ให้เวลาผ่านไป
พ่อจะไม่ให้ลูกต้องรอพ่ออีก พ่อขอตัวโทรศัพท์ไปเลื่อนนัดเพื่อนพ่อก่อนนะ”

[por_jai]

แมลงตัวน้อยได้ยินเรื่องราวทั้งหมดก็สรุปให้กับตัวเองว่า ไม่ว่าจะบ้านใหญ่โตเท่าภูเขา หรือ
เสาบ้านจะเล็กเท่าไม้เท้า เงินทองก็เป็นปัญหาหลักเสมอ

++++++++++++++++
คนจน ทำตัวจน  ก็มีโอกาสรวย
คนจน ทำตัวรวย ก็ยิ่งจนลงไปอีก
คนรวย ทำตัวรวย ก็มีโอกาสจน
คนรวย ทำตัวจน ก็ยิ่งรวยขึ้นไปอีก
++++++++++++++++

นายชัยไร้ซึ่งเงินทองต้องเช่าบ้านอยู่อย่างอัตคัด แต่ขาดสติ ไม่รู้ว่าเงินทองหน้าตาเป็นอย่างไร
ขอเพียงให้ได้ซื้อเหล้าเพื่อมาเคล้าความสุขของตนเอง ทั้งๆที่เพิ่งจะได้กินมาก่อนหน้านี้แล้ว
แต่ไม่พอขอให้ได้กินอีก ไม่ต่างกับคนจนทำตัวรวย สุดท้ายก็จะยิ่งจนลงไปอีก…..

พี่ชายอุ้มน้องสาวมาขายเกลือถุงที่สะพานลอย ด้วยความขยันและอดทน รู้ว่าเงินทองหน้าตา
เป็นอย่างไร เงินทองทำให้น้องสาวท้องอิ่ม ทำให้ตนได้เรียนหนังสือ  มีเหลือก็เก็บไว้ใช้ยามฉุกเฉิน
ค่าของเงินทองอยู่ที่วัตถุประสงค์ของการใช้เงินที่หามาได้  เสมือนกับ คนจนทำตัวจน สุดท้ายก็มี
โอกาสรวยได้

+++++++++++++++++++++++
เล่นหุ้นเพื่อความมั่งคั่ง   มักอยู่ไม่รอด
หากเล่นหุ้นเพื่อความอยู่รอด   มักจะมั่งคั่ง
+++++++++++++++++++++++

บ้านใหญ่หลังนี้ก่อนที่จะเข้าสู่ตลาดหุ้น ทำมาค้าขายเกี่ยวกับเหล็ก  มีเงินทุนสะสมเพียงพอที่จะเลี้ยงชีพ
เลี้ยงครอบครัว มีบ้านหลังใหญ่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม เพราะหัวหน้าครอบครัวถือคติที่ว่า
ทำงานเลี้ยงชีพเพื่อความอยู่รอด ใช้ชีวิตดั่งคนจนไม่ฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือย  เงินเหลือเก็บเหลือใช้
ก็เพิ่มมากขึ้น ความมั่งคั่งก็ตามมา  แต่หลังจากที่เขาได้สัมผัสกับตลาดหุ้นทัศนคติที่ว่า ค้าขาย
เพื่อความอยู่รอด กลับไม่นำมาใช้ให้เกิดคุณค่า แต่กลับใช้คำว่า เล่นหุ้นเพื่อความมั่งคั่ง  ให้ความสนใจ
กับมูลค่าเงินลงทุนที่เพิ่มสูงขึ้น โดยไม่มีขีดจำกัดหรือความพอดี แม้ว่าระยะยาวเขาจะมีความมั่งคั่ง
ตามที่ใจหวังไว้ แต่ครอบครัว สุขภาพมักจะอยู่ไม่รอด เพราะการให้ความสำคัญกับคำว่าความมั่งคั่ง
เพียงคำเดียว  การพยายามทำทุกวิถีทางให้ได้มาซึ่งความมั่งคั่ง แม้ว่าจะสูญเสียตำแหน่งของชีวิต
ไปก็ตาม  ตำแหน่งของชีวิตที่ว่านั้นก็คือ หัวหน้าครอบครัวที่ดี สามีที่ดี และพ่อที่ดี เขายินดีสูญเสีย
เพียงเพื่อความมั่งคั่ง

       หากหัวหน้าครอบครัวรู้จักหน้าตาของเงินทอง รู้ว่าเงินทองสร้างความอยู่รอด สร้างความ
สะดวกสบายให้กับครอบครัว ทดแทนในส่วนที่เสียส่วนที่ขาดของครอบครัวได้ ความมั่งคั่งที่ได้
รับจะไม่เพียงแค่ความมั่งคั่งตัวเงิน แต่เป็นความมั่งคั่งของชีวิต ซึ่งทุกชีวิตจะได้รับไปพร้อมๆ
กับหัวหน้าครอบครัว การเล่นหุ้นเพื่อความอยู่รอดนั้นมักจะนำความมั่งคั่งมาให้เสมอ

       แมลงตัวน้อยเข้าใจแล้วว่า มนุษย์ที่เดินไปมาบนพื้นโลกทั้งหลายนั้น ใช่ว่าจะเป็นคนที่มีความสุข
หรือความทุกข์เทียบเท่ากันทุกคนไป วิถีชีวิตที่ทำให้เหล่ามนุษย์มีความแตกต่างกัน นั่นคือ
วิถีชีวิตที่อยู่เพื่อตนเอง กับ วิถีชีวิตที่อยู่เพื่อพวกตนเอง เท่านั้น

หากนายชัย ดำเนินชีวิตเพื่อพวกตนเอง  ก็จะดื่มสุราน้อยลง ลูกก็จะได้มีเงินไปโรงเรียน สถานะ
ครอบครัวดีขี้น

หากพ่อ ดำเนินชีวิตเพื่อพวกตนเอง ก็จะเข้าใจในความต้องการของครอบครัว เงินทองก็จะไม่
เป็นเพียงแค่ตัวเลขขึ้นลง  แต่เป็นสิ่งที่อำนวยความสะดวกให้กับครอบครัว

       มนุษย์หุ้นที่ต้องพบเจอกับชีวิตต้องหุ้นอยู่ทุกวันทำการที่ตลาดหุ้นเปิด จงเข้าใจในบทบาท
ของคำว่า นักลงทุน

นักลงทุน ไม่ได้มีความหมายตรงตัว ว่า บุคคลที่เอาเงินทุนมาลงเพื่อหากำไร โดยที่ต้องลง..แล้วก็ลง
แต่ทุนๆอย่างเดียว

แต่ต้องรู้จักคำว่า นักใช้ทุน บ่อยครั้งที่มนุษย์หุ้นทำกำไรได้ก็จะเอาส่วนของกำไรนั้นลง
เพิ่มไปเป็นทุน หรือแม้ว่าจะขาดทุนก็จะหาเงินจากแหล่งอื่นเข้ามาลงเพิ่มอีกเพื่อให้สอดคล้องกับ
คำว่า นักลงทุน เสมอ จนทำให้ไม่กล้าที่จะแตะต้องเงินทุนส่วนนี้  เหตุเพราะว่ากลัวเงินลงทุนจะ
ลดต่ำลงจนทำให้อำนาจในการซื้อ(หุ้น)ลดลง  

ยามที่มีเหตุจำเป็นต้องใช้เงินทุนเพื่อปรับปรุงเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้นกว่าเดิม เช่น

-  โทรศัพท์ที่ใช้มีสภาพเก่า ชำรุด …. ก็ยังทนใช้ต่อไป  ไม่อยากซื้อใหม่   เหตุว่า  
ผมเป็นนักลงทุน ไม่ใช่นักใช้ทุน

-  ไม่กล้าซื้อเสื้อผ้า ของใช้ที่มีคุณภาพ กลัวของแพง….ก็ยังทนซื้อของแบกะดิน สินค้าเหมาโหล
เหตุว่า ผมเป็นนักลงทุนที่ถี่ถ้วนในการใช้จ่ายเงิน ไม่ว่าจะหุ้นหรือสิ่งของอื่นๆ ไม่ใช่นักใช้ทุน

- ไม่กล้ารับประทานอาหารดีๆมีราคา…. กินอะไรก็อิ่มเหมือนกัน เอาเงินไปลงทุนดีกว่า เหตุว่า
ผมเป็นนักลงทุนที่หยุดนิ่งไม่ได้ ต้องรีบหากำไร ไม่ใช่นักใช้ทุน

และยังมีอีกหลายสิ่งที่มนุษย์หุ้นเหล่านี้เลือกที่จะ “ลงทุน” มากกว่า “ใช้ทุน”  ซึ่งกว่าที่มนุษย์หุ้น
เหล่านี้จะรู้ตัวว่าตนเองต้องใช้ทุนบ้าง เมื่อนั้น…

- ทำไมโทรศัพท์แบตเตอรี่เสื่อม ทำยังไงดีรถเสียอยู่กลางทาง  .. จะใช้อะไรติดต่อกลับบ้านดีหล่ะ

- ทำไมเสื้อผ้าวัยรุ่นทันสมัยแบบนี้จึงไม่เหมาะสมกับเรา   … ก็เราอายุปูนนี้แล้วสินะ ใส่ไปได้อย่างไร

-  ทำไมโทรทัศน์เสียบ่อยมาก ค่าซ่อมแซมรวมๆกันสามารถซื้อโทรทัศน์เครื่องใหม่ได้เลย

- พ่อครับแม่ครับ ทานให้อิ่มๆนะครับ แล้วปีหน้าผมจะซื้อมาไหว้ให้มากกว่านี้อีก

- พ่อก็อยากจะพาลูกๆไปกินอาหารนอกบ้านนะ แต่พ่อลุกไม่ไหวพ่อเหนื่อย แม่ก็ไม่อยากจะไป
เพราะเคี้ยวอาหารไม่ค่อยได้

ท้ายที่สุดแล้วเวลาไม่สามารถย้อนกลับไปได้ ดังนั้นหากมนุษย์ที่คิดจะดำเนินชีวิตสู่มนุษย์หุ้น
จงใช้ชีวิตต้องหุ้นอย่างรู้คุณค่า ดำเนินวิถีชีวิตที่อยู่เพื่อพวกตนเอง โดยไม่ยึดติดกับคำว่า นักลงทุน
แต่ให้รู้จักคำว่า นักใช้ทุนบ้าง แล้วทั้งหลายทั้งปวงก็จะนำมาซึ่งความอยู่รอดของพวกพ้องตนเอง
แล้วความมั่งคั่งก็จะตามมา มาพร้อมกับรอยยิ้มและความสุข

วันนี้แมลงตัวน้อยเหนื่อยมาทั้งวันแต่ก็ถือว่าคุ้มค่าที่ได้เห็นความหลากหลายของมนุษย์  ก่อนที่จะ
บินออกจากบ้านหลังนี้ไป แมลงตัวน้อยได้ยินเพื่อนแมลงด้วยกันตะโกนเรียกว่า

“ไอ้น้องมาเล่นไฟดวงนี้กันเถอะสว่างดีจังเลย ….เร็วเข้าเร็ว”

[maeteeb]

ขอบคุณครับ
สำหรับบทความดีๆ

[kornjackrit]

ได้ข้อคิดมากเลยคับพี่ป้อม
บทความยังไม่จบใช่ไม่ครับ ?

ผมจะรอติดตามอ่านต่อคับ

ขอบคุณสำหรับบทความนะคับ
 :D  :D

[sunrise]

ขอบคุณครับ ดีมากๆ เลย
ผมได้คะแนนค่อนข้างเยอะสำหรับแบบสอบถามของ คุณคลายเครียด

ชอบมากเลยครับ สงสึยผมจะเหมาะกับการลงทุนจริงๆ  :D

[คลายเครียด]

ขอออกตัวก่อนนะครับว่า ไม่ได้มีเจตนาร้าย หรือต่อต้านอะไร

แต่อยากจะบอกว่า

ผมรู้สึกว่าการพยายามทำความเข้าใจกับกระทู้ของท่าน มันเป็นทุกข์ครับ

อ่านงบดุล งบกำไรขาดทุนยังรู้สึกสบายๆ เครียดน้อยกว่าเลย

คุณวิสัยทัศน์ทำถูกต้องแล้ว  
อะไรที่ทำให้เราเป็น "ทุกข์"   ต้องไม่"พยายาม"เข้าไปยุ่งเกี่ยว
ส่วนคนที่เห็นว่าไม่ได้ทำให้เป็นทุกข์
ก็เข้าไปอ่าน เข้าไปย่งเกี่ยวกับกระทู้ของผมได้ครับ

:lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

ขอบคุณครับ ดีมากๆ เลย
ผมได้คะแนนค่อนข้างเยอะสำหรับแบบสอบถามของ คุณคลายเครียด

ชอบมากเลยครับ สงสัยผมจะเหมาะกับการลงทุนจริงๆ  :D

ยินดีด้วยครับ  แสดงว่า"คุณภาพชีวิต" ในการลงทุนของคุณซันไรซ์ดีมาก
ต้องขอบคุณคุณพอใจที่ช่วยตัดแปะภาพมาให้ครับ

ยืนยันเหมือนเดิม  คะแนนจริงๆของคุณพอใจ
ต่อให้หมายเลข 1 เหลือ 4 ก็ได้ถึง 75  เปอร์เซนต์
ผมประเมินหมายเลข 3
จากล้างรถให้ภรรยา + ใส่ชื่อภรรยาเป็นเจ้าของพอร์ตหุ้น
หมายเลขสามก็ต้องได้  9 คะแนนครับ

4 + 9 + 9  +  8 = 30  จากคะแนนเต็ม 40 คะนแนน


:lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol: