ช่วยสอนวิธีหามูลค่าพื้นฐานหุ้นหน่อยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 27
- ผู้ติดตาม: 0
ช่วยสอนวิธีหามูลค่าพื้นฐานหุ้นหน่อยครับ
โพสต์ที่ 1
ตามหัวข้อเลยครับ
แล้วที่เพิ่มมาคือตอนนี้ที่ซื้ออยู่คือเชื่อตามโบรคอะครับ
อยากจะเพิ่มความสามารถตัวเอง
ไม่อยากเชื่อคนอื่นมาก
แต่ไม่รู้ว่าจะหาราคาพื้นฐานยังไง
ใครมีวิธีอะไรช่วยบอกด้วยนะครับ
ผมอยากหาเองเป็นจิงๆ
เพราะหลายคนบอกให้หาหุ้นที่ต่ำกว่าราคาพื้นฐาน
และปัจจัยพื้นฐานของ บ.ดี
แล้วพื้นฐานของ บ.ดี
จะต้องหาจากอะไรบ้างมีอะไรบ้าง
แต่ละตัวจะต้องอยู่ในเกณเท่าไหร่ครับ
ยังไงก็ขอขอบคุณไว้ล่วงหน้าเลยนะครับ
ขอบคุณครับ
แล้วที่เพิ่มมาคือตอนนี้ที่ซื้ออยู่คือเชื่อตามโบรคอะครับ
อยากจะเพิ่มความสามารถตัวเอง
ไม่อยากเชื่อคนอื่นมาก
แต่ไม่รู้ว่าจะหาราคาพื้นฐานยังไง
ใครมีวิธีอะไรช่วยบอกด้วยนะครับ
ผมอยากหาเองเป็นจิงๆ
เพราะหลายคนบอกให้หาหุ้นที่ต่ำกว่าราคาพื้นฐาน
และปัจจัยพื้นฐานของ บ.ดี
แล้วพื้นฐานของ บ.ดี
จะต้องหาจากอะไรบ้างมีอะไรบ้าง
แต่ละตัวจะต้องอยู่ในเกณเท่าไหร่ครับ
ยังไงก็ขอขอบคุณไว้ล่วงหน้าเลยนะครับ
ขอบคุณครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 362
- ผู้ติดตาม: 0
ช่วยสอนวิธีหามูลค่าพื้นฐานหุ้นหน่อยครับ
โพสต์ที่ 2
ได้เคยลองหาหนังสือเกี่ยวกับการลงทุน มาศึกษาบ้างหรือยังละครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 27
- ผู้ติดตาม: 0
ช่วยสอนวิธีหามูลค่าพื้นฐานหุ้นหน่อยครับ
โพสต์ที่ 3
ได้อ่านมาบ้างแล้วครับ
แต่ไม่รู้ว่าราคาที่แท้จริงมันคือเท่าไหร่
กับวิธีหายังไงอะครับ
และที่ว่าราคาต่ำกว่าB/Vนี่ใช่มั้ยครับ
แล้วต่ำกว่านี่ต้องต่ำกว่าเท่าไหร่ครับ
อย่างเช่น
บริษัท ก P/BV = 2.06
ราคาหุ้น 6.25
P/E 10.90
อันนี้ถือว่าราคาหุ้นสูงเกินมูลค่ามั้ยครับ
ถ้าสูงไปแล้วประมาณเท่าไหร่ถึงจะเรียกว่าต่ำกว่าครับ
หรือเราสามารถดูได้จากที่ไหนรึป่าวครับ
ขอบคุณครับ
แต่ไม่รู้ว่าราคาที่แท้จริงมันคือเท่าไหร่
กับวิธีหายังไงอะครับ
และที่ว่าราคาต่ำกว่าB/Vนี่ใช่มั้ยครับ
แล้วต่ำกว่านี่ต้องต่ำกว่าเท่าไหร่ครับ
อย่างเช่น
บริษัท ก P/BV = 2.06
ราคาหุ้น 6.25
P/E 10.90
อันนี้ถือว่าราคาหุ้นสูงเกินมูลค่ามั้ยครับ
ถ้าสูงไปแล้วประมาณเท่าไหร่ถึงจะเรียกว่าต่ำกว่าครับ
หรือเราสามารถดูได้จากที่ไหนรึป่าวครับ
ขอบคุณครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 27
- ผู้ติดตาม: 0
ช่วยสอนวิธีหามูลค่าพื้นฐานหุ้นหน่อยครับ
โพสต์ที่ 4
เอ!
ตอนนี้ผมดูจากเว็ป set
เค้ามีค่าบอกไว้คือ
มูลค่าหุ้นทางบัญชีต่อหุ้น(บาท) 0.83
ถ้าราคาปัจจุบัน คือ .90
อันนี้คือสูงกว่าราคามูลค่าพื้นฐาน
ใช่มั้ยครับ
ตอนนี้ผมดูจากเว็ป set
เค้ามีค่าบอกไว้คือ
มูลค่าหุ้นทางบัญชีต่อหุ้น(บาท) 0.83
ถ้าราคาปัจจุบัน คือ .90
อันนี้คือสูงกว่าราคามูลค่าพื้นฐาน
ใช่มั้ยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 362
- ผู้ติดตาม: 0
ช่วยสอนวิธีหามูลค่าพื้นฐานหุ้นหน่อยครับ
โพสต์ที่ 5
อ่านหนังสืออะไรมาบ้างละครับ
แล้วทำไมถึงจะลงทุนในหุ้นละครับ
แล้วทำไมถึงจะลงทุนในหุ้นละครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 27
- ผู้ติดตาม: 0
ช่วยสอนวิธีหามูลค่าพื้นฐานหุ้นหน่อยครับ
โพสต์ที่ 6
ก็มีตีแตก กองทุนรวม กลยุทธหุ้นห่านทองคำ
แล้วก็หนังสือเกี่ยวกับหุ้นและหารลงทุนน่ะครับ
เพราะผมเห็นว่าการลงทุนในหุ้นได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า
การฝากเงินครับ
แล้วก็หนังสือเกี่ยวกับหุ้นและหารลงทุนน่ะครับ
เพราะผมเห็นว่าการลงทุนในหุ้นได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า
การฝากเงินครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 362
- ผู้ติดตาม: 0
ช่วยสอนวิธีหามูลค่าพื้นฐานหุ้นหน่อยครับ
โพสต์ที่ 7
ถ้าอยากจะเพิ่มความสามารถในการลงทุน จริงอย่างที่ได้บอกไว้ ต้องหาหนังสือมาอ่านเพิ่มอีกครับ หาหนังสือดีๆ มาอ่านเพิ่มได้ตามกระทู้ ร้อยคนร้อยเล่ม เลยครับ
การลงทุนเป็นเรื่องของแนวความคิดมากกว่า วิธีการครับ (ผู้รู้เคยบอกไว้)
ค่อยๆ อ่าน ค่อยศึกษาครับ ลองหาคำตอบเองดูจากการอ่านหนังสือครับ
การลงทุนเป็นเรื่องของแนวความคิดมากกว่า วิธีการครับ (ผู้รู้เคยบอกไว้)
ค่อยๆ อ่าน ค่อยศึกษาครับ ลองหาคำตอบเองดูจากการอ่านหนังสือครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 27
- ผู้ติดตาม: 0
ช่วยสอนวิธีหามูลค่าพื้นฐานหุ้นหน่อยครับ
โพสต์ที่ 8
ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำ
คุณniyom_value
คุณniyom_value
-
- Verified User
- โพสต์: 64
- ผู้ติดตาม: 0
ช่วยสอนวิธีหามูลค่าพื้นฐานหุ้นหน่อยครับ
โพสต์ที่ 9
คิดว่ามีความเข้าใจนิดหน่อยอาจจะช่วยได้
การหามูลค่าหุ้นที่แท้จริง หลักๆหาได้ 2 วิธี คือ
1. DDM ( Dividend discount model ) ใช้เงินปันผลที่เราคาดว่าจะได้รับ กับ ผลตอบแทนที่เราหวังมาคำนวณ หามูลค่าที่ต้องการ หากได้ค่าที่สูงกว่าราคาตลาดปัจจุบัน ก็ถือว่าราคาหุ้นนั้นถูกอยู่
2. DCF ( Discount cash Flow ) ใช้กระแสเงินสดสุทธิที่เราคาดว่าบริษัทดังกล่าวจะได้ในอนาคตมาคิดเป็นราคาหุ้น
ซึ่งทั้ง 2 วิธี นั้น จะต้องมีความรู้และความเข้าใจในตัวธุรกิจมากพอสมควรถึงจะประเมินค่าต่างๆได้ใกล้เคียงความเป็นจริง
แต่ข้อเสียของวิธีเหล่านี้น่าจะเป็นตรงที่เราต้องคาดการณ์อนาตที่ไม่มีใครรู้จริงได้นี่สิ เป็นศาสตร์และศิลป์ ที่ท้าทายมาก
ส่วนการประเมินอีกวิธีหนึ่งที่ดูกันง่ายๆ พอเป็น Guide Line ได้ก็คือค่า P/E โดยพิจารณาค่า P/E ของหุ้นตัวที่เราสนใจ ว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ย P/E ของหุ้นตัวอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกันหรือไม่
โดยถูกหรือแพงนั้นอยู่ที่วิจารณญาณของแต่ละคน เหมือนกับเราซื้อของมากกว่า
หรือหากต้องการประเมินราคาหุ้นต่อ เราก็ใช้EPS คูณกับ P/E ที่เราคิดไว้ ก็จะได้ราคาหุ้นที่เราต้องการ
หวังว่าพอจะช่วยได้นะครับ
การหามูลค่าหุ้นที่แท้จริง หลักๆหาได้ 2 วิธี คือ
1. DDM ( Dividend discount model ) ใช้เงินปันผลที่เราคาดว่าจะได้รับ กับ ผลตอบแทนที่เราหวังมาคำนวณ หามูลค่าที่ต้องการ หากได้ค่าที่สูงกว่าราคาตลาดปัจจุบัน ก็ถือว่าราคาหุ้นนั้นถูกอยู่
2. DCF ( Discount cash Flow ) ใช้กระแสเงินสดสุทธิที่เราคาดว่าบริษัทดังกล่าวจะได้ในอนาคตมาคิดเป็นราคาหุ้น
ซึ่งทั้ง 2 วิธี นั้น จะต้องมีความรู้และความเข้าใจในตัวธุรกิจมากพอสมควรถึงจะประเมินค่าต่างๆได้ใกล้เคียงความเป็นจริง
แต่ข้อเสียของวิธีเหล่านี้น่าจะเป็นตรงที่เราต้องคาดการณ์อนาตที่ไม่มีใครรู้จริงได้นี่สิ เป็นศาสตร์และศิลป์ ที่ท้าทายมาก
ส่วนการประเมินอีกวิธีหนึ่งที่ดูกันง่ายๆ พอเป็น Guide Line ได้ก็คือค่า P/E โดยพิจารณาค่า P/E ของหุ้นตัวที่เราสนใจ ว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ย P/E ของหุ้นตัวอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกันหรือไม่
โดยถูกหรือแพงนั้นอยู่ที่วิจารณญาณของแต่ละคน เหมือนกับเราซื้อของมากกว่า
หรือหากต้องการประเมินราคาหุ้นต่อ เราก็ใช้EPS คูณกับ P/E ที่เราคิดไว้ ก็จะได้ราคาหุ้นที่เราต้องการ
หวังว่าพอจะช่วยได้นะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 27
- ผู้ติดตาม: 0
ช่วยสอนวิธีหามูลค่าพื้นฐานหุ้นหน่อยครับ
โพสต์ที่ 10
ขอบคุณครับคุณpradchayat
ที่ช่วยแนะนำมา
มันช่วยให้ผมได้มีความรู้และเข้าใจเพิ่มขึ้นไปอีกขั้นครับ
ขอบคุณครับ
ที่ช่วยแนะนำมา
มันช่วยให้ผมได้มีความรู้และเข้าใจเพิ่มขึ้นไปอีกขั้นครับ
ขอบคุณครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
ช่วยสอนวิธีหามูลค่าพื้นฐานหุ้นหน่อยครับ
โพสต์ที่ 12
พี่โจ๊ก(สุมาอี้) บอกว่า ดู pe ก็ได้ครับ
- บริษัทที่ growth เท่า GDP >> PE ประมาณ 7 เท่าของกำไร
- บริษัทที่ growth 10% ต่อปี >> PE ประมาณ 10 เท่าของกำไร
- บริษัทที่ growth 20% ต่อปี >> PE ประมาณ 15 เท่าของกำไร
ส่วนบริษัทที่ growth มากๆเช่น 50% นั้น ไม่น่าจะเป็นการ growth ที่ยั่งยืนนะครับ
(จริงๆ ธุรกิจ ก็มีวงจรของเค้า)
ดูคร่าวๆประมาณนี้ก็ได้ครับ
- บริษัทที่ growth เท่า GDP >> PE ประมาณ 7 เท่าของกำไร
- บริษัทที่ growth 10% ต่อปี >> PE ประมาณ 10 เท่าของกำไร
- บริษัทที่ growth 20% ต่อปี >> PE ประมาณ 15 เท่าของกำไร
ส่วนบริษัทที่ growth มากๆเช่น 50% นั้น ไม่น่าจะเป็นการ growth ที่ยั่งยืนนะครับ
(จริงๆ ธุรกิจ ก็มีวงจรของเค้า)
ดูคร่าวๆประมาณนี้ก็ได้ครับ
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ