หุ้น กระเพื่อม
-
- Verified User
- โพสต์: 311
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้น กระเพื่อม
โพสต์ที่ 5
ถ้าตลาดวกกลับเป็นลง ผมว่ารายย่อยคงซื้อแล้วติดกันบาน ต่างชาติก็ได้ขายซะที
เพราะมุขที่ซื้อตอนลง ขายตอนขึ้นรายย่อยใช้ได้ผลหลายรอบแล้วจนมั่นใจ ว่าถ้าลงรอบนี้เดี๋ยวก็ขึ้นอีก
เดาว่ารายย่อยก็จะติด(ระหว่างทางลงดอย)
จุดสังเกตุอีกจุดคือว่ามีหน้าใหม่เข้ามาแนะนำหุ้นกันเพียบ
รอบนี้ถ้าลงเตรียมเผ่นได้เลยครับพี่น้อง
เพราะมุขที่ซื้อตอนลง ขายตอนขึ้นรายย่อยใช้ได้ผลหลายรอบแล้วจนมั่นใจ ว่าถ้าลงรอบนี้เดี๋ยวก็ขึ้นอีก
เดาว่ารายย่อยก็จะติด(ระหว่างทางลงดอย)
จุดสังเกตุอีกจุดคือว่ามีหน้าใหม่เข้ามาแนะนำหุ้นกันเพียบ
รอบนี้ถ้าลงเตรียมเผ่นได้เลยครับพี่น้อง
- tum_H
- Verified User
- โพสต์: 1857
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้น กระเพื่อม
โพสต์ที่ 6
ส่วนตัวยังมองว่า set น่าจะทำ New high ใหม่ตามตลาดต่างประเทศ
แต่ก้อต้องเตรียมกระโดดลงรถด้วย ถ้าซื้อหุ้นที่วิ่งตามตลาดมากๆ
เพราะดูจากข้อมูลย้อนหลัง เมื่อหุ้นฟื้นตัวจากการตกที่รุนแรง มักวิ่งกลับ
แรงเช่นกัน แต่ก้อไม่ยั่งยืน เพราะความคาดหวังมากกว่ามูลค่าพื้นฐานที่
เป็นจริง สุดท้ายก้อจะวกกลับมา เพื่อรอเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวจิงๆ อีกที
อิอิ เดาครับเดา :lol:
แต่ก้อต้องเตรียมกระโดดลงรถด้วย ถ้าซื้อหุ้นที่วิ่งตามตลาดมากๆ
เพราะดูจากข้อมูลย้อนหลัง เมื่อหุ้นฟื้นตัวจากการตกที่รุนแรง มักวิ่งกลับ
แรงเช่นกัน แต่ก้อไม่ยั่งยืน เพราะความคาดหวังมากกว่ามูลค่าพื้นฐานที่
เป็นจริง สุดท้ายก้อจะวกกลับมา เพื่อรอเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวจิงๆ อีกที
อิอิ เดาครับเดา :lol:
ชาตินี้เป็นที่สุดแล้ว บัดนี้ไม่มีความเกิดอีก
-
- Verified User
- โพสต์: 1372
- ผู้ติดตาม: 1
หุ้น กระเพื่อม
โพสต์ที่ 7
เรามองโลกในแง่ดีเกินไปหรือเปล่า
หรือกำลังวางเดิมพันว่า ศก. จะฟืนกลับมาในระยะสั้น
บวกกับสื่อช่วยกันประโคมข่าวดีจนทำให้ถูกข่าวดีปิดหูปิดตา
ผลประกอบการ Q2 หลายบริษัทยังแสดงผลประกอบการขาดทุน
แต่ราคากลับวิ่งซะเหมือนมีกำไร หรือแค่ขาดทุนลดลงก็พอใจแล้ว
หลายบริษัทกำไรลดลงแต่ราคาหุ้นก็วิ่งเหมือนกำไรโต
หลายบริษัทกำไรเพิ่มขึ้นแต่ดูเนื้อในแล้วเป็นกำไรพิเศษ
ผมได้ยินหลายๆคนบอกว่า เศรษฐกิจถึงจุดต่ำสุดแล้วและกำลังฟื้น
บางคนบอกว่าการฟื้นครั้งนี้คงเป็น W shape
ผมเดา(ใช้คำว่าเดาเพราะจริงๆแล้วก็ไม่รู้กับเค้าเหมือนกัน) ว่าหากเป็น W shape อย่างที่หลายคนคาดการณ์
ยอดแหลมตรงกลางมันคงเกิดขึ้นเนื่องจากข่าวดีต่างๆนานา ที่หลายประเทศช่วยกันประโคม
หรือกำลังวางเดิมพันว่า ศก. จะฟืนกลับมาในระยะสั้น
บวกกับสื่อช่วยกันประโคมข่าวดีจนทำให้ถูกข่าวดีปิดหูปิดตา
ผลประกอบการ Q2 หลายบริษัทยังแสดงผลประกอบการขาดทุน
แต่ราคากลับวิ่งซะเหมือนมีกำไร หรือแค่ขาดทุนลดลงก็พอใจแล้ว
หลายบริษัทกำไรลดลงแต่ราคาหุ้นก็วิ่งเหมือนกำไรโต
หลายบริษัทกำไรเพิ่มขึ้นแต่ดูเนื้อในแล้วเป็นกำไรพิเศษ
ผมได้ยินหลายๆคนบอกว่า เศรษฐกิจถึงจุดต่ำสุดแล้วและกำลังฟื้น
บางคนบอกว่าการฟื้นครั้งนี้คงเป็น W shape
ผมเดา(ใช้คำว่าเดาเพราะจริงๆแล้วก็ไม่รู้กับเค้าเหมือนกัน) ว่าหากเป็น W shape อย่างที่หลายคนคาดการณ์
ยอดแหลมตรงกลางมันคงเกิดขึ้นเนื่องจากข่าวดีต่างๆนานา ที่หลายประเทศช่วยกันประโคม
ผมเล็งไว้ตั้งแต่ก่อนงบ Q2 ออกว่าจะเก็บหลังงบ Q2 ออกแต่พองบออกผลประกอบการตัวที่มองไว้ก็แย่ตามคาด แต่ราคาไม่แย่ตามผลประกอบการ ราคากลับวิ่งไปจนเกินเป้าหมาย เลยได้แต่นั่งดูพี่ปรัชญา เขียน:น่าเลือกหุ้นเก็บเพิ่มก่อนไตรมาส 4 แล้วหรือยัง
สติมา ปัญญาเกิด
- กล้วยไม้ขาว
- Verified User
- โพสต์: 1074
- ผู้ติดตาม: 1
หุ้น กระเพื่อม
โพสต์ที่ 9
indicator ของผมบอกว่า SET จะลงในเดือนนี้ (แรงซะด้วย)
หุ้นตัวไหนวิ่งตาม SET ก็ดูกันดี ๆ นะครับ
หุ้นตัวไหนวิ่งตาม SET ก็ดูกันดี ๆ นะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 115
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้น กระเพื่อม
โพสต์ที่ 13
มีแต่คนมองลง
งั้นผมสวนทางมองขึ้นครับ
เพราะเศรษฐกิจแย่ คนความเครียดสูง ส่งผลให้ความโลภสูงตาม จึงดันดัชนีต่อไปครับ :lol:
งั้นผมสวนทางมองขึ้นครับ
เพราะเศรษฐกิจแย่ คนความเครียดสูง ส่งผลให้ความโลภสูงตาม จึงดันดัชนีต่อไปครับ :lol:
ความสำเร็จคือการลงมือทำ
ความฝันคือการนั่งเฉยๆ
ความฝันคือการนั่งเฉยๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 21
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้น กระเพื่อม
โพสต์ที่ 15
กลับมาครั้งนี้จะเปนการกลับมาอย่างถาวรป่าวหนออ
- poppo
- Verified User
- โพสต์: 1356
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้น กระเพื่อม
โพสต์ที่ 19
ความเห็นผมนะครับ
จงมีเงินสดอยู่เสมอ เพื่อที่เวลาที่มีวิกฤตเกิดขึ้น จะได้ไม่ต้องช้ำใจว่าไม่มีเงินมาช้อนหุ้น
เพราะวิกฤติ มักมาตอนที่เรามีหุ้นเต็มมือแล้ว
ตค ปีที่แล้ว ทำผมเจ็บแสบมาก หุ้นตกจนถูกมากๆ แต่เราอยู่บนดอยแล้ว แถมยังมีเรื่องให้ต้องใช้เงินอีก ต้องขายบางตัวที่ฟลอร์ ทั้งๆที่มันเป็นหุ้นที่ดี
แล้วมาดูมันวิ่งกลับมาที่เดิมปีนี้
โดยที่เราไม่เหลือหุ้นเลยสักหุ้น
ต่อไปนี้ ผมจะไม่ยอมซื้อจนเงินหมดอีกแล้ว แม้ว่าราคามันจะยั่วให้เราซื้อแค่ไหน
ถ้าเงินไม่ขาดมือ สติจะยังดีอยู่ ไม่ตัดสินจากความกลัวมากเกินไป
และการบังคับตัวเองไม่ให้ซื้อจนเงินหมด ก็เป็นการควบคุมความโลภอย่างหนึ่งด้วย
จงมีเงินสดอยู่เสมอ เพื่อที่เวลาที่มีวิกฤตเกิดขึ้น จะได้ไม่ต้องช้ำใจว่าไม่มีเงินมาช้อนหุ้น
เพราะวิกฤติ มักมาตอนที่เรามีหุ้นเต็มมือแล้ว
ตค ปีที่แล้ว ทำผมเจ็บแสบมาก หุ้นตกจนถูกมากๆ แต่เราอยู่บนดอยแล้ว แถมยังมีเรื่องให้ต้องใช้เงินอีก ต้องขายบางตัวที่ฟลอร์ ทั้งๆที่มันเป็นหุ้นที่ดี
แล้วมาดูมันวิ่งกลับมาที่เดิมปีนี้
โดยที่เราไม่เหลือหุ้นเลยสักหุ้น
ต่อไปนี้ ผมจะไม่ยอมซื้อจนเงินหมดอีกแล้ว แม้ว่าราคามันจะยั่วให้เราซื้อแค่ไหน
ถ้าเงินไม่ขาดมือ สติจะยังดีอยู่ ไม่ตัดสินจากความกลัวมากเกินไป
และการบังคับตัวเองไม่ให้ซื้อจนเงินหมด ก็เป็นการควบคุมความโลภอย่างหนึ่งด้วย
จงทนอด และอดทน
-
- Verified User
- โพสต์: 2938
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้น กระเพื่อม
โพสต์ที่ 20
แหง่ แหง่ เงินสดไม่มี นั่งดูจอมาหลายวันด้วยความทุกข์ระทม
จะซื้อก็ไม่มีเงินสด อาทิตย์ที่แล้วเลยต้องเดเทอเรด ได้ค่าโต๊ะจีนพี่นริศมา1โต๊ะ
วันนี้ไม่ได้เดเทเรด เพราะขี้เกียจ ตื่นเต้นเกินไป
จงมีเงินสดเหลือ เวลาที่หุ้นจะลง
และจะมีเงินสดเหลือหรือไม่ก็ได้ เวลาที่หุ้นจะขึ้น
กุ๊กกุ๊ก
จะซื้อก็ไม่มีเงินสด อาทิตย์ที่แล้วเลยต้องเดเทอเรด ได้ค่าโต๊ะจีนพี่นริศมา1โต๊ะ
วันนี้ไม่ได้เดเทเรด เพราะขี้เกียจ ตื่นเต้นเกินไป
จงมีเงินสดเหลือ เวลาที่หุ้นจะลง
และจะมีเงินสดเหลือหรือไม่ก็ได้ เวลาที่หุ้นจะขึ้น
กุ๊กกุ๊ก
-
- Verified User
- โพสต์: 413
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้น กระเพื่อม
โพสต์ที่ 21
:lol: :lol: ได้แง่คิดดีมากๆครับ พี่ nanchannanchan เขียน:แหง่ แหง่ เงินสดไม่มี นั่งดูจอมาหลายวันด้วยความทุกข์ระทม
จะซื้อก็ไม่มีเงินสด อาทิตย์ที่แล้วเลยต้องเดเทอเรด ได้ค่าโต๊ะจีนพี่นริศมา1โต๊ะ
วันนี้ไม่ได้เดเทเรด เพราะขี้เกียจ ตื่นเต้นเกินไป
จงมีเงินสดเหลือ เวลาที่หุ้นจะลง
และจะมีเงินสดเหลือหรือไม่ก็ได้ เวลาที่หุ้นจะขึ้น
กุ๊กกุ๊ก
แต่ผมกะลังสงสัยว่าระดับพี่ เดทะเรได้แค่ค่าโต๊ะจีนได้ไงอ่ะคับ น่าจะมอไซค์คันสองคันมากก่า :lol:
-
- Verified User
- โพสต์: 2938
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้น กระเพื่อม
โพสต์ที่ 22
ก็ไม่กล้าเทเรด เยอะหรอกครับ
เพราะไม่สามารถจะอยู่จอเฝ้าเป็นยามได้ตลอดเวลา
ถึงจะเฝ้าได้ ก็ชอบแอบหลับยาม
และก็มีปัจจัยแวดล้อมต่างๆมากมายมารบกวน
คงไม่มีสมาธิที่จะเล่นได้ เวลาไม่มีเงินสดในมือ
พูดง่ายๆก็คือเทเรดขั้นเทพ ยังห่างไกลจากผมเหลือเกิน
กุ๊กกุ๊ก
เพราะไม่สามารถจะอยู่จอเฝ้าเป็นยามได้ตลอดเวลา
ถึงจะเฝ้าได้ ก็ชอบแอบหลับยาม
และก็มีปัจจัยแวดล้อมต่างๆมากมายมารบกวน
คงไม่มีสมาธิที่จะเล่นได้ เวลาไม่มีเงินสดในมือ
พูดง่ายๆก็คือเทเรดขั้นเทพ ยังห่างไกลจากผมเหลือเกิน
กุ๊กกุ๊ก
- hongvalue
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2703
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้น กระเพื่อม
โพสต์ที่ 23
ถ้าลองไล่ตามลำดับว่าเกิดอะไรกับ indi และภาวะเงินตึงและอะไรก่อเกิด fundflow และแนวโน้มข้างหน้าจะเผชิญหน้ากับอะไร ผมไล่ pattern ออกมาประมาณนี้นะ
ที่เขียนไว้ว่า oct หุ้นมีแนวโน้มลงก็อย่าเอาอะไรกับมันมากนะบอกไว้ก่อนเพราะเทำออกมาหลาย scenario ว่า source of fundflow ออกมาแบบไหนได้บ้างและแต่ละแบบที่ออกมาจะทำให้เกิด pattern อย่างไรต่อ
นี้เป็นหนึ่ง scenario ที่ผมลองทำจำลองเอา
ที่เขียนไว้ว่า oct หุ้นมีแนวโน้มลงก็อย่าเอาอะไรกับมันมากนะบอกไว้ก่อนเพราะเทำออกมาหลาย scenario ว่า source of fundflow ออกมาแบบไหนได้บ้างและแต่ละแบบที่ออกมาจะทำให้เกิด pattern อย่างไรต่อ
นี้เป็นหนึ่ง scenario ที่ผมลองทำจำลองเอา
สนใจเรื่องบัญชี กลยุทธ์ลงทุน fundflow แจมได้ที่ blog ผม
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
-
- Verified User
- โพสต์: 2938
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้น กระเพื่อม
โพสต์ที่ 24
ผมสนใจเรื่องfund flowอยู่เรื่องเดียว
คือมีใครมองฟันโฟแล้วเป็นมหาเศรษฐีจนทุกวันนี้ไม๊ครับ
ถ้ามี และอธิบายได้ ผมจะเริ่มมาฝึกหัดดูfund flowตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
เอาเวลามาศึกษาหุ้นเป็นตัวๆดีกว่าครับ
ปัจจุบันหุ้นบางตัวยังให้ปันผล10%ต่อปีขึ้นไปก็มีนะ
จะบอกว่าความสนใจหุ้นต่ำearning yieldต่ำนี่
ประเมินจากความเป็นตัวของตัวเองมากไปเปล่า
กุ๊กกุ๊ก
คือมีใครมองฟันโฟแล้วเป็นมหาเศรษฐีจนทุกวันนี้ไม๊ครับ
ถ้ามี และอธิบายได้ ผมจะเริ่มมาฝึกหัดดูfund flowตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
เอาเวลามาศึกษาหุ้นเป็นตัวๆดีกว่าครับ
ปัจจุบันหุ้นบางตัวยังให้ปันผล10%ต่อปีขึ้นไปก็มีนะ
จะบอกว่าความสนใจหุ้นต่ำearning yieldต่ำนี่
ประเมินจากความเป็นตัวของตัวเองมากไปเปล่า
กุ๊กกุ๊ก
-
- Verified User
- โพสต์: 2513
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้น กระเพื่อม
โพสต์ที่ 25
อื้อ..เห็นด้วยกับพี่ nanchan อีกแล้ว หุ้นดีๆ yield สูงๆ เต็มตลาดไปหมดครับnanchan เขียน:ผมสนใจเรื่องfund flowอยู่เรื่องเดียว
คือมีใครมองฟันโฟแล้วเป็นมหาเศรษฐีจนทุกวันนี้ไม๊ครับ
ถ้ามี และอธิบายได้ ผมจะเริ่มมาฝึกหัดดูfund flowตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
เอาเวลามาศึกษาหุ้นเป็นตัวๆดีกว่าครับ
ปัจจุบันหุ้นบางตัวยังให้ปันผล10%ต่อปีขึ้นไปก็มีนะ
จะบอกว่าความสนใจหุ้นต่ำearning yieldต่ำนี่
ประเมินจากความเป็นตัวของตัวเองมากไปเปล่า
กุ๊กกุ๊ก
- hongvalue
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2703
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้น กระเพื่อม
โพสต์ที่ 26
ผมมองภาพกว้างๆของตลาดว่า outlook เป็นอย่างไรก็เท่านั้นเองครับnanchan เขียน: เอาเวลามาศึกษาหุ้นเป็นตัวๆดีกว่าครับ
ปัจจุบันหุ้นบางตัวยังให้ปันผล10%ต่อปีขึ้นไปก็มีนะ
จะบอกว่าความสนใจหุ้นต่ำearning yieldต่ำนี่
ประเมินจากความเป็นตัวของตัวเองมากไปเปล่า
กุ๊กกุ๊ก
สนใจเรื่องบัญชี กลยุทธ์ลงทุน fundflow แจมได้ที่ blog ผม
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
http://hongvalue.wordpress.com/
-ติดตาม twitter เรื่องหุ้นของผมได้ที่
http://twitter.com/hongvalue
my book
http://wp.me/pzSOv-hP
- tum_H
- Verified User
- โพสต์: 1857
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้น กระเพื่อม
โพสต์ที่ 27
นั่นอะดิครับ ถ้ารู้งี้จริงก็คงรวยไปละhongvalue เขียน: ที่เขียนไว้ว่า oct หุ้นมีแนวโน้มลงก็อย่าเอาอะไรกับมันมากนะบอกไว้ก่อน
หุ้นขึ้นหรือลง มันไม่ยอมให้เหตุผลเราล่วงหน้าหรอกครับ
แต่พอขึ้นหรือลงแล้ว เหตุผมมักออกมาเป็นกระบุง
จงเชื่อในข้อมูลของตนเองดีที่สุดครับ :lol:
ชาตินี้เป็นที่สุดแล้ว บัดนี้ไม่มีความเกิดอีก
-
- Verified User
- โพสต์: 1746
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้น กระเพื่อม
โพสต์ที่ 28
ผมเห็นด้วยเรื่องควรมีเงินสดอยู่ตลอด แต่ปัญหาคือ มันเป็นเรื่องยากจริง ๆpoppo เขียน:ความเห็นผมนะครับ
จงมีเงินสดอยู่เสมอ เพื่อที่เวลาที่มีวิกฤตเกิดขึ้น จะได้ไม่ต้องช้ำใจว่าไม่มีเงินมาช้อนหุ้น
เพราะวิกฤติ มักมาตอนที่เรามีหุ้นเต็มมือแล้ว
ตค ปีที่แล้ว ทำผมเจ็บแสบมาก หุ้นตกจนถูกมากๆ แต่เราอยู่บนดอยแล้ว แถมยังมีเรื่องให้ต้องใช้เงินอีก ต้องขายบางตัวที่ฟลอร์ ทั้งๆที่มันเป็นหุ้นที่ดี
แล้วมาดูมันวิ่งกลับมาที่เดิมปีนี้
โดยที่เราไม่เหลือหุ้นเลยสักหุ้น
ต่อไปนี้ ผมจะไม่ยอมซื้อจนเงินหมดอีกแล้ว แม้ว่าราคามันจะยั่วให้เราซื้อแค่ไหน
ถ้าเงินไม่ขาดมือ สติจะยังดีอยู่ ไม่ตัดสินจากความกลัวมากเกินไป
และการบังคับตัวเองไม่ให้ซื้อจนเงินหมด ก็เป็นการควบคุมความโลภอย่างหนึ่งด้วย
ราคาหุ้น อาจจะไม่ยั่วให้เราซื้อ ... แต่เทรนด์ของตลาดต่างหาก จะเป็นตัวยั่วให้เราซื้อหุ้น
ถ้าเป็นตลาดขาลง เราก็รู้สึกว่า หุ้นมันลงมาเยอะแล้วนะ เราก็เอาเงินที่มีซื้อหุ้นไป ที่ไหนได้ ยังลงต่ำกว่า
ถ้าเป็นตลาดขาขึ้น เราก็รู้สึกว่า ถ้าไม่ซื้อก็ตกรถแล้วนะ เราก็เอาเงินซื้อไป เพราะคิดว่า ดีกว่าปล่อยไว้เฉย ๆ
สุดท้ายแล้วเราก็จะไม่มีเงินเหลือติดอยู่ในพอร์ต ...
แทนที่จะ "เลือก" ที่จะมีเงินสดติดตัวไว้อยู่ตลอดเวลา
ผมเลือกที่จะเพิ่มความสามารถในการทำงาน เพิ่มธุรกิจ น่าจะดีกว่า
เพื่อให้มีความสามารถที่จะซื้อหุ้นได้ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าตอนนี้จะไม่มีเงินสดเหลือก็ตาม
-
- Verified User
- โพสต์: 1746
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้น กระเพื่อม
โพสต์ที่ 29
ต่อจากข้างบนอีกนิดครับ
ดังนั้น เมื่อเราเลือกที่จะไม่คิดจะเก็บเงินสดไว้ "เผื่อ" โอกาสซื้อหุ้นแล้ว
เราก็ต้องทดแทนปัญหาตรงนี้ด้วยการสร้างความสามารถในการมีเงินสดเพิ่มเข้ามาในพอร์ตเป็นประจำ ..
นั่นก็คือการทำงาน หรือมีธุรกิจ เพื่อให้มีเงินเข้ามา
แล้วจะทำอย่างไร จะเอาเวลาที่ไหนไปทำงาน ทำธุรกิจ ... แค่ดูหุ้น ตามข่าว ก็น่าจะหมดเวลาแล้ว ...
ปัญหาข้างบน จะไม่เกิดขึ้นกับ VI ที่ไม่ตื่นตระหนกไปกับการขึ้นลงระยะสั้นเลย ..
เพราะคงมีเวลาเหลือ "มาก" พอที่จะไปทำสิ่งอื่น ๆ ได้ หลังจากที่ซื้อหุ้นที่ต้องการไปเรียบร้อยแล้ว
ดังนั้น เมื่อเราเลือกที่จะไม่คิดจะเก็บเงินสดไว้ "เผื่อ" โอกาสซื้อหุ้นแล้ว
เราก็ต้องทดแทนปัญหาตรงนี้ด้วยการสร้างความสามารถในการมีเงินสดเพิ่มเข้ามาในพอร์ตเป็นประจำ ..
นั่นก็คือการทำงาน หรือมีธุรกิจ เพื่อให้มีเงินเข้ามา
แล้วจะทำอย่างไร จะเอาเวลาที่ไหนไปทำงาน ทำธุรกิจ ... แค่ดูหุ้น ตามข่าว ก็น่าจะหมดเวลาแล้ว ...
ปัญหาข้างบน จะไม่เกิดขึ้นกับ VI ที่ไม่ตื่นตระหนกไปกับการขึ้นลงระยะสั้นเลย ..
เพราะคงมีเวลาเหลือ "มาก" พอที่จะไปทำสิ่งอื่น ๆ ได้ หลังจากที่ซื้อหุ้นที่ต้องการไปเรียบร้อยแล้ว
- sai
- Verified User
- โพสต์: 4090
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้น กระเพื่อม
โพสต์ที่ 30
เรื่องวิธีการลงทุน แนวทางการลงทุน หรือ สัดส่วนการถือหุ้นหรือเงินสด ของแต่ละท่านผมเองมองว่า วิธีการของแต่ละท่านมันเหมือนเสื้อของแต่ละท่านเอง ซึ่งหากท่านใดใส่มันแล้วสวย อาจเป็นเพราะมันเหมาะกับเค้า แต่หากเราเอามาใส่อาจไม่เหมาะหรือไม่สวยก็ได้ครับ(อาจจะไม่พอดีซะด้วย ) ดังนั้นเราควรค่อยค่อยหาแนวทางที่เป็นของเราเองว่าจะมีแนวทางหรือกลยุทธ์อย่างไรสำหรับตัวเราเอง เหมือนกับหาเสื้อที่ดีที่สุดที่เหมาะที่สุดสำหรับตัวเรานั่นเองครับ ดังนั้นจึงไม่มีสูตรตายตัวแน่นอนครับ ใครเหมาะแบบไหนก็ใช้แบบนั้น ไม่ควรยึดถึอตามใครก็ตามที่ประสบความสำเร็จทันทีโดยไม่ผ่านการพิสูจน์ก่อนว่าเข้ากับจริตของเราหรือไม่ครับ เพราะ ผมถือว่าประสบการณ์ของคนที่ประสบความสำเร็จนันมีไว้ให้เราศึกษา ไม่ได้มีไว้ให้เรา บูชาครับผม
ปล. น้องฮงนี่ช่วงนี้ดูใจเย็นขึ้นนะครับ แอบชมในใจ เหอเหอ :lol:
ปล. น้องฮงนี่ช่วงนี้ดูใจเย็นขึ้นนะครับ แอบชมในใจ เหอเหอ :lol:
Small Details Make a Big Difference