SuperStock หรือ DividenStock
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 165
- ผู้ติดตาม: 0
SuperStock หรือ DividenStock
โพสต์ที่ 33
ขอบคุณมากครับคุณตู้เย็นสำหรับคำตอบ ทำให้ผมมั่นใจในอนาคตของบริษัทฯ มากยิ่งขึ้น แต่ผมยังมีความกังวลในเรื่องของต้นทุนวัตถุดิบ ถ้าราคาวัตถุดิบเพิ่มสูงขึ้นมาก บริษัทฯ สามารถผลักภาระให้กับลูกค้าได้มากน้อยแค่ไหน และกลยุทธ์เกี่ยวกับการเพิ่มยอดขายท้้งในส่วนของตู้เย็นและพัดลม รวมถึงมาตรการการการลดภาษีสรรพสามิตแอร์เหลือ 0 % มีผลบวกกับ MCP มากน้อยแค่ไหนครับ
MANITS
-
- Verified User
- โพสต์: 35
- ผู้ติดตาม: 0
KYE
โพสต์ที่ 34
ผมเซ้งกว่าอีกซือ Kye ที่ 67 บาท ถือมาจนขึ้นไป 85 ไม่ขาย
เห็นปั้นผล 9 บาท เก็บไปจน มีวันหนึ่งลงแรงมากมาที่ 51 แล้วเด้งไปปิด 61.25 บาท ผมเริ่มใจไม่ดีวันต่อมาก็ตกมาเรื่อยๆ จน 55 บาท ผมทนไม่ไหวเลยขายเลยที่ 56 บาท เอาวะขาดทุนหน่อยกว่าเอาดีกว่าติดหุ้น วันต่อมาวันที่ 11/08/52 เปิดมาไปชนลิ่งเลย 72บาท 29.75 เปอ ผมบ้าไปเลย แล้วมัน
ก็ขึ้นมาเรื่อยๆ จนมากสุด 127 บาท เป็นผมจะบ้าไหมละครับ
เห็นปั้นผล 9 บาท เก็บไปจน มีวันหนึ่งลงแรงมากมาที่ 51 แล้วเด้งไปปิด 61.25 บาท ผมเริ่มใจไม่ดีวันต่อมาก็ตกมาเรื่อยๆ จน 55 บาท ผมทนไม่ไหวเลยขายเลยที่ 56 บาท เอาวะขาดทุนหน่อยกว่าเอาดีกว่าติดหุ้น วันต่อมาวันที่ 11/08/52 เปิดมาไปชนลิ่งเลย 72บาท 29.75 เปอ ผมบ้าไปเลย แล้วมัน
ก็ขึ้นมาเรื่อยๆ จนมากสุด 127 บาท เป็นผมจะบ้าไหมละครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 236
- ผู้ติดตาม: 0
SuperStock หรือ DividenStock
โพสต์ที่ 35
คุณ snutvi หลงกลรายใหญ่ที่ทุบ เพื่อเก็บของแล้วครับ
หุ้นตัวนี้ต้องเก็บอย่างเดียว ต้องลงทุนระยะยาวจึงจะได้ผลตอบแทนคุ้มค่า ผมเห็นคนอยากได้หุ้นคุณค่าและเก็บลงทุน แต่ก็ไม่เป็นความจริงเลย ทุกคนอยากเก็งกำไรกันหมด
ขออธิบายข้อข้องใจเพื่อนบางคน ตอนผมโพสหุ้นJCT
ไม่ต้องล็อคอินท์ สมัยนั้นGuest ก็โพสได้ ดังนั้น
เฮียคลายเครียด และเฮียปรัชญาก็ยังไม่รู้จักผม
ตอนผมโพสเข้าไปแล้ว บริษัทก็มากวาดหุ้นของตัวเองเข้าไปเก็บไว้ โดยใช้PharmaCare มาซื้อ
ที่ผมใช้ชื่อ tooyen ไม่ใช่เฉพาะกิจ เพราะ หุ้นตัวนี้ผมคิดว่าผมถือตลอดชีวิตผมแน่นอน เพราะผมภูมิใจที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของกิจการ ที่มีแบรนด์ชั้นนำติดอันดับโลก ไม่เฉพาะประเทศไทย และอีกอย่าง มันเป็นDividen Stock ชั้นยอด ที่ผ่านๆ มา ค่อยๆขยายโรงงานอย่างเงียบๆ
ปรับปรุงเครื่องจักร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โล๊ะขายเครื่องจักรเก่าทิ้ง โดยใช้เงินทุนจากการดำเนินงาน ไม่ต้องรบกวนผู้ถือหุ้น แต่ก็ทำให้จ่ายปันผลน้อยมา 2งวด และตอนนี้เริ่มเก็บเกี่ยวผลกำไรแล้ว บางคนอาจเห็นว่ามันแพงแล้ว แต่ในความเป็นจริง ยังต่ำกว่ามูลค่าอยู่มาก สำหรับคนที่จะมาซื้อหุ้นตัวนี้ ผมอยากจะขอร้องว่า
ขอให้ซื้อลงทุน อย่าเข้ามาเก็งกำไร และอีกระยะ เมื่อคนเริ่มเห็นคุณค่าของมัน จากผลการดำเนินงานที่จะค่อยๆออกมาในแต่ละไตรมาส หุ้นมันจะค่อยๆขึ้นไป และจะหาซื้อไม่ค่อยได้ ดังนั้นใครอยากได้ Super Dividen Stock ให้รีบนะครับ ผมจะชี้ให้เห็น เงินสดของบริษัทที่เพิ่มขึ้น
จากงบการเงิน
31/3/49 31/3/50 31/3/51 31/3/52 30/6/52
เงินสด 15.23M 26.16M 750.17M 1363.7M 1639.9M
เงินกู้ยืม257.6M - - - -
มีแต่หนี้การค้าตามปกติ จะเห็นได้ว่าเงินสดเพิ่มตลอดในอัตราที่น่าพอใจมาก
หุ้นตัวนี้ต้องเก็บอย่างเดียว ต้องลงทุนระยะยาวจึงจะได้ผลตอบแทนคุ้มค่า ผมเห็นคนอยากได้หุ้นคุณค่าและเก็บลงทุน แต่ก็ไม่เป็นความจริงเลย ทุกคนอยากเก็งกำไรกันหมด
ขออธิบายข้อข้องใจเพื่อนบางคน ตอนผมโพสหุ้นJCT
ไม่ต้องล็อคอินท์ สมัยนั้นGuest ก็โพสได้ ดังนั้น
เฮียคลายเครียด และเฮียปรัชญาก็ยังไม่รู้จักผม
ตอนผมโพสเข้าไปแล้ว บริษัทก็มากวาดหุ้นของตัวเองเข้าไปเก็บไว้ โดยใช้PharmaCare มาซื้อ
ที่ผมใช้ชื่อ tooyen ไม่ใช่เฉพาะกิจ เพราะ หุ้นตัวนี้ผมคิดว่าผมถือตลอดชีวิตผมแน่นอน เพราะผมภูมิใจที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของกิจการ ที่มีแบรนด์ชั้นนำติดอันดับโลก ไม่เฉพาะประเทศไทย และอีกอย่าง มันเป็นDividen Stock ชั้นยอด ที่ผ่านๆ มา ค่อยๆขยายโรงงานอย่างเงียบๆ
ปรับปรุงเครื่องจักร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โล๊ะขายเครื่องจักรเก่าทิ้ง โดยใช้เงินทุนจากการดำเนินงาน ไม่ต้องรบกวนผู้ถือหุ้น แต่ก็ทำให้จ่ายปันผลน้อยมา 2งวด และตอนนี้เริ่มเก็บเกี่ยวผลกำไรแล้ว บางคนอาจเห็นว่ามันแพงแล้ว แต่ในความเป็นจริง ยังต่ำกว่ามูลค่าอยู่มาก สำหรับคนที่จะมาซื้อหุ้นตัวนี้ ผมอยากจะขอร้องว่า
ขอให้ซื้อลงทุน อย่าเข้ามาเก็งกำไร และอีกระยะ เมื่อคนเริ่มเห็นคุณค่าของมัน จากผลการดำเนินงานที่จะค่อยๆออกมาในแต่ละไตรมาส หุ้นมันจะค่อยๆขึ้นไป และจะหาซื้อไม่ค่อยได้ ดังนั้นใครอยากได้ Super Dividen Stock ให้รีบนะครับ ผมจะชี้ให้เห็น เงินสดของบริษัทที่เพิ่มขึ้น
จากงบการเงิน
31/3/49 31/3/50 31/3/51 31/3/52 30/6/52
เงินสด 15.23M 26.16M 750.17M 1363.7M 1639.9M
เงินกู้ยืม257.6M - - - -
มีแต่หนี้การค้าตามปกติ จะเห็นได้ว่าเงินสดเพิ่มตลอดในอัตราที่น่าพอใจมาก
tooyen ,air conditioner, electric fan
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 165
- ผู้ติดตาม: 0
SuperStock หรือ DividenStock
โพสต์ที่ 38
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับคุณตู้เย็น แต่ปัญหาใหญ่ของนักลงทุนทั่วๆ ไปก็คือความอดทนในการรอคอยคับ อยากได้กำไรเร็ว ๆ แต่ความรู้และความเข้าใจในตัวธุรกิจมีน้อยครับ ทำให้ไม่มีความมั่นใจในการถือ ส่วนใหญ่มักจะเน้นเก็งกำไรระยะสั้น ๆ โดยส่วนตัวคิดว่านักลงทุนยังขาดความมั่นใจในการสร้างผลกำไรอย่างต่อเนื่องของตัว KYE เองเนื่องจาก 2-3 ปีที่ผ่านมากำไรขึ้น ๆ ลง ๆ ไม่สมำเสมอ พึ่งมีกำไรอย่างแท้จริงเมื่อ ไตรมาส1 นีxxx ทำให้เมื่อราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาเร็ว ก็มักจะทยอยขายทำกำไรออกไป โดยไม่ได้ประเมินมูลค่าที่แท้จริงของบริษัทฯ อาจทำให้เสียโอกาสในการทำกำไรมาก ๆ ในระยะยาวได้
MANITS
-
- Verified User
- โพสต์: 236
- ผู้ติดตาม: 0
SuperStock หรือ DividenStock
โพสต์ที่ 39
ข่าวตั้งแต่เดือน ก.พ. เอามาให้อ่านกันใหม่
ที่ เอ็ม.ดี. 029 /2552
11 กุมภาพันธ์ 2552
เรื่อง แจ้งการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างคณะอนุกรรมการกำหนดราคาสินค้าและเปลี่ยนชื่อจาก
"คณะอนุกรรมการ" เป็น "คณะกรรมการ"
เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ด้วยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท กันยงอีเลคทริก จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 4/2551
ในวันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ 2552 ได้มีมติให้มีการปรับโครงสร้างคณะอนุกรรมการกำหนดราคาสินค้าใหม่
เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบัน โดยยังคงรักษาดุลอำนาจและผลประโยชน์ของบริษัทฯ พร้อมทั้งสามารถ
ขจัดปัญหาความขัดแย้งด้านผลประโยชน์ได้เหมือนเดิม
คู่กรณีที่เกี่ยวข้องกัน:
ผู้ซื้อ : บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด - MKY
ผู้ขาย: บริษัท กันยงอีเลคทริก จำกัด (มหาชน) - KYE
รายละเอียด ของบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน
KYE และ MKY มีผู้ถือหุ้นใหญ่ร่วมกันดังนี้
1) บริษัท มิตซูบิชิ อีเลคทริก คอร์ปอเรชั่น
ถือหุ้นใน KYE จำนวน 8,978,020 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 40.81
ถือหุ้นใน MKY จำนวน 57,700 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 48.04
2) กลุ่มโพธิวรคุณ
ถือหุ้นใน KYE จำนวน 5,939,969 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 27.01
ถือหุ้นใน MKY จำนวน 40,190 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 33.46
โดยมีนายประพัฒน์ โพธิวรคุณ เป็นประธานกรรมการร่วม ทั้ง KYEและ MKY
รายละเอียดการปรับโครงสร้างใหม่ มีดังนี้
1) เปลี่ยนชื่อจาก "คณะอนุกรรมการ" เป็น "คณะกรรมการ"เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อกรรมการ
ชุดย่อยอื่น เช่น คณะกรรมการตรวจสอบ
2) โครงสร้างคณะกรรมการกำหนดราคาสินค้า
จำนวนคน
เดิม ใหม่
กลุ่มที่ 1 กรรมการที่เป็นตัวแทนของกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย
ทั้ง KYE และ MKY 1 2
กลุ่มที่ 2 กรรมการตัวแทนที่ไม่มีส่วนได้เสียใน MKY 1 ไม่มี
กลุ่มที่ 3 กรรมการอิสระ 2 3
ผู้จัดการฝ่ายการเงินของ KYE เป็นเลขานุการคณะกรรมการฯโดยตำแหน่งมีหน้าที่ตรวจสอบการคำนวณ
mark up on cost ให้เป็นไปตามนโยบายการกำหนดราคาขายสินค้าก่อนที่จะนำเสนอคณะกรรมการฯ
โดยสรุปการปรับโครงสร้างใหม่ของคณะกรรมการกำหนดราคาสินค้า มีดังนี้
- ลดจำนวนกลุ่มจาก 3 กลุ่มเป็น 2 กลุ่ม
- เพิ่มจำนวนกรรมการจาก 4 ท่านเป็น 5 ท่าน
- ประธานคณะกรรมการจะต้องเป็นกรรมการอิสระของ KYE
- ในกรณีที่การลงมติด้วยคะแนนเสียงที่เท่ากัน ประธานกรรมการจะเป็นผู้ชี้ขาด
อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการฯ ไม่เปลี่ยนแปลง ดังนี้
1) ดูแลให้ฝ่ายบริหารของบริษัทฯ ดำเนินการกำหนดราคาสินค้าให้แก่ MKYให้เป็นไปตามนโยบาย
กำหนดราคาสินค้าของ KYE กล่าวคือมีอัตราการบวกเพิ่มจากต้นทุนการผลิตสินค้ามาตรฐานโดยถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก
ของการขายทุกผลิตภัณฑ์ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20
2) ลงลายมือชื่ออนุมัติเมื่อมีการตกลงราคาขายสินค้าให้แก่ MKYทุกครั้งในกรณีที่มีการเปลี่ยนราคาขาย
จนเป็นเหตุให้ KYE ไม่สามารถดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวข้างต้นได้ KYE จะต้องมีอัตราการบวกเพิ่มจากต้น
ทุนการผลิตสินค้ามาตรฐานโดยถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของการขายทุกผลิตภัณฑ์ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ทั้งนี้ต้องชี้แจงเหตุผล
และต้องได้รับอนุมัติโดยมติเอกฉันท์จากคณะกรรมการกำหนดราคาสินค้า
3) ดูแลให้ฝ่ายบริหารของ KYE ปฏิบัติให้เป็นไปตามนโยบายการกำหนดราคาสินค้าดังกล่าวด้วยความ
ซื่อสัตย์สุจริตระมัดระวังและรักษาผลประโยชน์ของ KYE ในกรณีที่คณะกรรมการฯพบว่ามีการกระทำการหรือละเว้น
การกระทำการใดอันเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย คณะกรรมการฯจะต้องดำเนินการเพื่อให้KYE ได้รับค่าชดเชย
ความเสียหายที่เกิดขึ้น
รายชื่อคณะกรรมการกำหนดราคาสินค้าตามโครงสร้างใหม่ ประกอบด้วย
กลุ่มที่ 1 กรรมการตัวแทนที่มีส่วนได้เสียทั้ง KYE และ MKY จำนวน 2 คน
นายโคทาโร ฮิราอิชิ กรรมการ
นายอคิระ คูริชิมา กรรมการ
กลุ่มที่ 2 กรรมการอิสระ จำนวน 3 คน
นายอรรถกฤช วิสุทธิพันธ์ ประธานกรรมการ
นายโกมล วงศ์ทองศรี กรรมการ
ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ กรรมการ
องค์ประชุม
- ประธานกรรมการต้องเป็นกรรมการอิสระเท่านั้น
- ครบองค์ประชุมอย่างน้อย 4 คน
- กรณีที่มีคะแนนเสียงเท่ากัน ประธานกรรมการมีสิทธิในการตัดสินชี้ขาด
วาระการดำรงตำแหน่ง
- มีกำหนด 3 ปี
- กรรมการออก 1 ใน 3 ของจำนวนกรรมการทั้งหมด
- สามารถเลือกกลับมาดำรงตำแหน่งได้อีกวาระหนึ่ง
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายโคทาโร ฮิราอิชิ) (นายศุภชัย เศรษฐเสถียร )
กรรมการผู้จัดการ กรรมการรองผู้จัดการ
สำเนา: ฝ่ายจดทะเบียนหลักทรัพย์
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ฝ่ายการเงิน
โทร 02-3372900 ต่อ 570
ที่ เอ็ม.ดี. 029 /2552
11 กุมภาพันธ์ 2552
เรื่อง แจ้งการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างคณะอนุกรรมการกำหนดราคาสินค้าและเปลี่ยนชื่อจาก
"คณะอนุกรรมการ" เป็น "คณะกรรมการ"
เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ด้วยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท กันยงอีเลคทริก จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 4/2551
ในวันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ 2552 ได้มีมติให้มีการปรับโครงสร้างคณะอนุกรรมการกำหนดราคาสินค้าใหม่
เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบัน โดยยังคงรักษาดุลอำนาจและผลประโยชน์ของบริษัทฯ พร้อมทั้งสามารถ
ขจัดปัญหาความขัดแย้งด้านผลประโยชน์ได้เหมือนเดิม
คู่กรณีที่เกี่ยวข้องกัน:
ผู้ซื้อ : บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด - MKY
ผู้ขาย: บริษัท กันยงอีเลคทริก จำกัด (มหาชน) - KYE
รายละเอียด ของบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน
KYE และ MKY มีผู้ถือหุ้นใหญ่ร่วมกันดังนี้
1) บริษัท มิตซูบิชิ อีเลคทริก คอร์ปอเรชั่น
ถือหุ้นใน KYE จำนวน 8,978,020 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 40.81
ถือหุ้นใน MKY จำนวน 57,700 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 48.04
2) กลุ่มโพธิวรคุณ
ถือหุ้นใน KYE จำนวน 5,939,969 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 27.01
ถือหุ้นใน MKY จำนวน 40,190 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 33.46
โดยมีนายประพัฒน์ โพธิวรคุณ เป็นประธานกรรมการร่วม ทั้ง KYEและ MKY
รายละเอียดการปรับโครงสร้างใหม่ มีดังนี้
1) เปลี่ยนชื่อจาก "คณะอนุกรรมการ" เป็น "คณะกรรมการ"เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อกรรมการ
ชุดย่อยอื่น เช่น คณะกรรมการตรวจสอบ
2) โครงสร้างคณะกรรมการกำหนดราคาสินค้า
จำนวนคน
เดิม ใหม่
กลุ่มที่ 1 กรรมการที่เป็นตัวแทนของกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย
ทั้ง KYE และ MKY 1 2
กลุ่มที่ 2 กรรมการตัวแทนที่ไม่มีส่วนได้เสียใน MKY 1 ไม่มี
กลุ่มที่ 3 กรรมการอิสระ 2 3
ผู้จัดการฝ่ายการเงินของ KYE เป็นเลขานุการคณะกรรมการฯโดยตำแหน่งมีหน้าที่ตรวจสอบการคำนวณ
mark up on cost ให้เป็นไปตามนโยบายการกำหนดราคาขายสินค้าก่อนที่จะนำเสนอคณะกรรมการฯ
โดยสรุปการปรับโครงสร้างใหม่ของคณะกรรมการกำหนดราคาสินค้า มีดังนี้
- ลดจำนวนกลุ่มจาก 3 กลุ่มเป็น 2 กลุ่ม
- เพิ่มจำนวนกรรมการจาก 4 ท่านเป็น 5 ท่าน
- ประธานคณะกรรมการจะต้องเป็นกรรมการอิสระของ KYE
- ในกรณีที่การลงมติด้วยคะแนนเสียงที่เท่ากัน ประธานกรรมการจะเป็นผู้ชี้ขาด
อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการฯ ไม่เปลี่ยนแปลง ดังนี้
1) ดูแลให้ฝ่ายบริหารของบริษัทฯ ดำเนินการกำหนดราคาสินค้าให้แก่ MKYให้เป็นไปตามนโยบาย
กำหนดราคาสินค้าของ KYE กล่าวคือมีอัตราการบวกเพิ่มจากต้นทุนการผลิตสินค้ามาตรฐานโดยถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก
ของการขายทุกผลิตภัณฑ์ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20
2) ลงลายมือชื่ออนุมัติเมื่อมีการตกลงราคาขายสินค้าให้แก่ MKYทุกครั้งในกรณีที่มีการเปลี่ยนราคาขาย
จนเป็นเหตุให้ KYE ไม่สามารถดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวข้างต้นได้ KYE จะต้องมีอัตราการบวกเพิ่มจากต้น
ทุนการผลิตสินค้ามาตรฐานโดยถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของการขายทุกผลิตภัณฑ์ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ทั้งนี้ต้องชี้แจงเหตุผล
และต้องได้รับอนุมัติโดยมติเอกฉันท์จากคณะกรรมการกำหนดราคาสินค้า
3) ดูแลให้ฝ่ายบริหารของ KYE ปฏิบัติให้เป็นไปตามนโยบายการกำหนดราคาสินค้าดังกล่าวด้วยความ
ซื่อสัตย์สุจริตระมัดระวังและรักษาผลประโยชน์ของ KYE ในกรณีที่คณะกรรมการฯพบว่ามีการกระทำการหรือละเว้น
การกระทำการใดอันเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย คณะกรรมการฯจะต้องดำเนินการเพื่อให้KYE ได้รับค่าชดเชย
ความเสียหายที่เกิดขึ้น
รายชื่อคณะกรรมการกำหนดราคาสินค้าตามโครงสร้างใหม่ ประกอบด้วย
กลุ่มที่ 1 กรรมการตัวแทนที่มีส่วนได้เสียทั้ง KYE และ MKY จำนวน 2 คน
นายโคทาโร ฮิราอิชิ กรรมการ
นายอคิระ คูริชิมา กรรมการ
กลุ่มที่ 2 กรรมการอิสระ จำนวน 3 คน
นายอรรถกฤช วิสุทธิพันธ์ ประธานกรรมการ
นายโกมล วงศ์ทองศรี กรรมการ
ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ กรรมการ
องค์ประชุม
- ประธานกรรมการต้องเป็นกรรมการอิสระเท่านั้น
- ครบองค์ประชุมอย่างน้อย 4 คน
- กรณีที่มีคะแนนเสียงเท่ากัน ประธานกรรมการมีสิทธิในการตัดสินชี้ขาด
วาระการดำรงตำแหน่ง
- มีกำหนด 3 ปี
- กรรมการออก 1 ใน 3 ของจำนวนกรรมการทั้งหมด
- สามารถเลือกกลับมาดำรงตำแหน่งได้อีกวาระหนึ่ง
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายโคทาโร ฮิราอิชิ) (นายศุภชัย เศรษฐเสถียร )
กรรมการผู้จัดการ กรรมการรองผู้จัดการ
สำเนา: ฝ่ายจดทะเบียนหลักทรัพย์
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ฝ่ายการเงิน
โทร 02-3372900 ต่อ 570
tooyen ,air conditioner, electric fan
-
- Verified User
- โพสต์: 236
- ผู้ติดตาม: 0
ตอบน้องi_sarut
โพสต์ที่ 40
ตอบน้องi_sarut ให้อ่านตั้งแต่ต้นใหม่เพราะได้อธิบายไว้หมดแล้ว แต่ต้องใจเย็นนะ ซื้อตอนนี้เท่ากับซื้อเงินลงทุน10%ในmpcราคาเพียง(113-91.3)=21.7บ.เท่านั้น ตอนนี้คนยังไม่รู้ในศักยภาพการทำกำไรของโรงงานตู้เย็นพี่บอกแค่นี้ก็แล้วกัน
tooyen ,air conditioner, electric fan
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 165
- ผู้ติดตาม: 0
SuperStock หรือ DividenStock
โพสต์ที่ 41
ผมเห็นด้วยกับคุณตู้เย็นครับ หุ้นตัวนี้ต้องถือกันยาว ๆ ครับ รอให้ผลประกอบการทยอยออกมาพร้อมกับกระแสเงินสดที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ราคาหุ้นก็จะค่อย ๆ สะท้อนผลประกอบการ ส่วนช่วงนี้ราคาคงหวือหวาสักหน่อยจากผลของการเก็งกำไรของนักลงทุน ตัวนี้ผมกะถือยาวรอรับเงินปันผลอย่างเดียวก็คุ้มแล้วครับ (ถ้าผลประกอบการยังดีขึ้นเรื่อย ๆ )
MANITS
- SEHJU
- Verified User
- โพสต์: 1238
- ผู้ติดตาม: 0
SuperStock หรือ DividenStock
โพสต์ที่ 42
ผมมีเรื่องจะถามคุณตู้เย็นเล่นๆครับ... ในฐานะที่เป้นแฟนหุ้นชื่อแปลกๆ
1. กันยง แปลว่าอะไรครับ
2. แจ๊กเจีย ด้วยครับ
ขอถามเป็นความรู้เล็กๆน้อยๆครับ...
1. กันยง แปลว่าอะไรครับ
2. แจ๊กเจีย ด้วยครับ
ขอถามเป็นความรู้เล็กๆน้อยๆครับ...
-
- Verified User
- โพสต์: 28
- ผู้ติดตาม: 0
SuperStock หรือ DividenStock
โพสต์ที่ 47
กระทู้นี้ได้ความรู้ดีมากๆ เลยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1036
- ผู้ติดตาม: 0
SuperStock หรือ DividenStock
โพสต์ที่ 49
กลับมาอ่านอย่างตั้งใจเรียบร้อยแล้วครับ
ก่อนอื่น ต้องขอขอบคุณพี่ tooyen มากๆ สำหรับความเห็นแรก
พี่บรรยายมูลค่าหุ้นโดยตีค่าออกมาเป็นตัวเลข แล้วเอาไปเปรียบเทียบกับในแต่ละส่วนได้อย่างเห็นภาพมากๆ
ผมเป็นคนอ่าน ยังถึงขั้นเคลิ้มตาม อิอิ
ผมยังไม่มีหุ้นนี้สักหน่วยเลยครับ
แต่หุ้นนี้อยู่ใน watch list ของผมนะ
เพราะผมดูจากผลประกอบการแล้วพบว่า
ผลประกอบการมันดูกระโดดเกินไป (ในใจผมคิดว่า หากมันสม่ำเสมอ น่าจะดีกว่า ในแง่ของรูปการณ์)
แต่หันกลับมาดูค่า p/e พบว่ายังต่ำอยู่มาก
อีกทั้งราคาล่าสุดยังห่างจาก book value พอสมควร
อีกข้อนึงที่สำคัญ ตอนแรกผมยังไม่เข้าใจดีว่าบริษัทนี้ประกอบกิจการเกี่ยวกับอะไร
จนมาได้อ่านกระทู้ของพี่ ถึงได้บางอ้อว่าที่บ้านของผมก็มี hatari อยู่ตั้ง 5 ตัว :D
ตอนนี้เริ่มมั่นใจแล้วครับ
เสียดายว่าวันนี้ไม่ได้เริ่มซื้อ เพราะว่าติดลบมาพอสมควร
แต่ไม่เป็นไร
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เราไม่ควรมองกันที่ราคา
แต่เราควรมองศักยภาพในการดำเนินงานในอนาคต ...
ขอบคุณอีกครั้งครับ
ว่างๆ ก็มาวิเคราะห์หุ้นตัวอื่นบ้าง จะรออ่านอย่างตั้งใจแน่นอนครับ :P
ก่อนอื่น ต้องขอขอบคุณพี่ tooyen มากๆ สำหรับความเห็นแรก
พี่บรรยายมูลค่าหุ้นโดยตีค่าออกมาเป็นตัวเลข แล้วเอาไปเปรียบเทียบกับในแต่ละส่วนได้อย่างเห็นภาพมากๆ
ผมเป็นคนอ่าน ยังถึงขั้นเคลิ้มตาม อิอิ
ผมยังไม่มีหุ้นนี้สักหน่วยเลยครับ
แต่หุ้นนี้อยู่ใน watch list ของผมนะ
เพราะผมดูจากผลประกอบการแล้วพบว่า
ผลประกอบการมันดูกระโดดเกินไป (ในใจผมคิดว่า หากมันสม่ำเสมอ น่าจะดีกว่า ในแง่ของรูปการณ์)
แต่หันกลับมาดูค่า p/e พบว่ายังต่ำอยู่มาก
อีกทั้งราคาล่าสุดยังห่างจาก book value พอสมควร
อีกข้อนึงที่สำคัญ ตอนแรกผมยังไม่เข้าใจดีว่าบริษัทนี้ประกอบกิจการเกี่ยวกับอะไร
จนมาได้อ่านกระทู้ของพี่ ถึงได้บางอ้อว่าที่บ้านของผมก็มี hatari อยู่ตั้ง 5 ตัว :D
ตอนนี้เริ่มมั่นใจแล้วครับ
เสียดายว่าวันนี้ไม่ได้เริ่มซื้อ เพราะว่าติดลบมาพอสมควร
แต่ไม่เป็นไร
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เราไม่ควรมองกันที่ราคา
แต่เราควรมองศักยภาพในการดำเนินงานในอนาคต ...
ขอบคุณอีกครั้งครับ
ว่างๆ ก็มาวิเคราะห์หุ้นตัวอื่นบ้าง จะรออ่านอย่างตั้งใจแน่นอนครับ :P
-
- Verified User
- โพสต์: 236
- ผู้ติดตาม: 0
SuperStock หรือ DividenStock
โพสต์ที่ 50
ผมคิดว่า คงหมดหน้าที่ของผมแล้วตั้งแต่น้อง pongo นำงบของMCP มาโพส แต่ก็ผิดคาด ต้องมาอธิบายกันต่ออีก ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่ามาจากสาเหตุใด สงสัยไม่มีเจ้าภาพ จากงบของMCP ซึ่งสวยงามมาก หาหุ้นไหนๆ มาเทียบ ด้วยยากมากๆ
มีGPM ต่ำสุดในปี49 ก็ 24.56% ในปี 51 33.69%
มีROE ต่ำสุดในปี49 ที่ 23.75% ในปี 51 34.11%
มีROA ต่ำสุดในปี49 ที่ 16.63% ในปี 51 24.50%
ส่วนในปีที่สูงสุด ผมคาดว่าอาจจะเป็นปี52 ซึ่งยังไม่ทราบงบ (ในปี49 เข้าใจว่าน้ำมันเริ่มขึ้นวัตถุดิบทองแดงอลูมิเนียม พลาสติก ขึ้นราคาแต่ยัง+ราคาขึ้นไม่ได้เลยทำให้กำไร ลด แต่ก็ยังน่าพอใจ )
ซึ่งถ้าเป็นหุ้นในตลาด จะเล่นกันที่PE 15-20 และ PV 2 3-4 เท่า ซึ่งคงไม่ต้องให้ผมแจงอีก การปันผลของMCP
ให้กับKYE เดิมที่ผมคิดว่าเค้ากำไรเท่าไหร่ปันผลมาหมด
แต่ก็ดีกว่าที่คาด ปันมาแค่60กว่า% และในปี51ปันมาแค่ 50% ซึ่งทำให้ MCP มีเงินสดเหลือลงทุนอยู่มาก ในปี51
มีเงินสดอยู่ 814ล้าน เงินลงทุนระยะสั้น 8030ล้าน เงินให้กู้ยืมพนักงาน 443ล้าน รวม9287ล้าน เข้าใจว่า ในปี52
เงินสดน่าจะเพิ่มขึ้นอีก และมูลค่าหุ้นก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
ที่ผ่านมา MCP ลงทุนขยายโรงงานเพิ่มเติมจากกำไรจากการดำเนินงานมาตลอด ไม่ต้องกู้เลย หาได้ยากมากๆ หนำซ้ำยังปันผลมาให้KYE อย่างงดงามมาตลอด ที่น้องLuty97 ถามมานั้น น่าจะได้คำตอบแล้วนะครับ
เท่าที่ดูตามงบการเงินเดิม ปันผลไตรมาส1 และ3จะพอๆกันเลยนะครับ ดังนั้นใครที่ซื้อตอนนี้แล้วเก็บรอ ผลไตรมาส3 ออก น่าจะเห็นน้ำเห็นเนื้อชัดเจน
ตอบน้องSEHJU ผมไม่ทราบความหมายชื่อหุ้น ต้องไปถามผู้ก่อตั้งผู้บริษัท ผมไม่ได้สนใจที่ชื่อหุ้น แต่สนใจที่มูลค่าหุ้น และศักยภาพการทำกำไรของหุ้นมากกว่า
ตอบคุณ MANITS การลดภาษีสรรพสามิตแอร์เหลือ 0
มีผลดีต่อMCP บ้าง สำหรับการขายในประเทศ ทำให้ราคาถูกลง คนจะมาใช้แอร์ของMCPเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ตลาดใหญ่ 90% คือการส่งออก จะได้ผลดีบ้างในปี 53 ที่ภาษีไปออสเตรเลียเหลือ 0% แต่ตลาดอื่นๆ ถ้าปลายปีเศรษฐกิจฟื้นตัว ยอดขายแอร์ก็น่าจะเพิ่มขึ้นอีก แต่ในสภาวะที่โลกร้อนขึ้นทุกวัน อย่างไรคนก็ยังต้องใช้แอร์อยู่ดี ความเจริญของประชากรโลกที่มากขึ้น ก็มีความต้องการใช้ เครื่องอำนวยความสะดวก เครื่องใช้ไฟฟ้า เพิ่มขึ้นตลอด
จุดแข็ง
1.ทั้งMCP และKYE มีแบนด์ที่มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับ1 มาหลายปี
2.มีฐานะทางการเงินมั่นคง ไม่มีหนี้เงินกู้เลย ทั้งKYEและMCP มีแต่หนี้การค้าธรรมดา
3.ซื้อ 1 แต่มีกำลัง 2 หมายถึง มีถึง2บริษัททำเงินให้ ซึ่ง10% ของMCP ก็ยังมีมูลค่ามากกว่า หรือพอๆกับKYE เลยทีเดียว ซึ่งหาได้ยากมากๆ
จุดอ่อน
1.การแข่งขันในตลาดแข่งขันสูงมาก แต่ก็มีความได้เปรียบจากแบนด์ ที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะต้องติดตามกันต่อไป
2.การกำหนดราคาขาย ให้กับ MKY ก็มี กรรมการดูแลอยู่แล้ว ซึ่งเป็นการปิดจุดอ่อน ซึ่งจะพิสูจน์ให้เห็นในไตรมาส 2นี้ขอให้ติดตามต่อไป
มีGPM ต่ำสุดในปี49 ก็ 24.56% ในปี 51 33.69%
มีROE ต่ำสุดในปี49 ที่ 23.75% ในปี 51 34.11%
มีROA ต่ำสุดในปี49 ที่ 16.63% ในปี 51 24.50%
ส่วนในปีที่สูงสุด ผมคาดว่าอาจจะเป็นปี52 ซึ่งยังไม่ทราบงบ (ในปี49 เข้าใจว่าน้ำมันเริ่มขึ้นวัตถุดิบทองแดงอลูมิเนียม พลาสติก ขึ้นราคาแต่ยัง+ราคาขึ้นไม่ได้เลยทำให้กำไร ลด แต่ก็ยังน่าพอใจ )
ซึ่งถ้าเป็นหุ้นในตลาด จะเล่นกันที่PE 15-20 และ PV 2 3-4 เท่า ซึ่งคงไม่ต้องให้ผมแจงอีก การปันผลของMCP
ให้กับKYE เดิมที่ผมคิดว่าเค้ากำไรเท่าไหร่ปันผลมาหมด
แต่ก็ดีกว่าที่คาด ปันมาแค่60กว่า% และในปี51ปันมาแค่ 50% ซึ่งทำให้ MCP มีเงินสดเหลือลงทุนอยู่มาก ในปี51
มีเงินสดอยู่ 814ล้าน เงินลงทุนระยะสั้น 8030ล้าน เงินให้กู้ยืมพนักงาน 443ล้าน รวม9287ล้าน เข้าใจว่า ในปี52
เงินสดน่าจะเพิ่มขึ้นอีก และมูลค่าหุ้นก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
ที่ผ่านมา MCP ลงทุนขยายโรงงานเพิ่มเติมจากกำไรจากการดำเนินงานมาตลอด ไม่ต้องกู้เลย หาได้ยากมากๆ หนำซ้ำยังปันผลมาให้KYE อย่างงดงามมาตลอด ที่น้องLuty97 ถามมานั้น น่าจะได้คำตอบแล้วนะครับ
เท่าที่ดูตามงบการเงินเดิม ปันผลไตรมาส1 และ3จะพอๆกันเลยนะครับ ดังนั้นใครที่ซื้อตอนนี้แล้วเก็บรอ ผลไตรมาส3 ออก น่าจะเห็นน้ำเห็นเนื้อชัดเจน
ตอบน้องSEHJU ผมไม่ทราบความหมายชื่อหุ้น ต้องไปถามผู้ก่อตั้งผู้บริษัท ผมไม่ได้สนใจที่ชื่อหุ้น แต่สนใจที่มูลค่าหุ้น และศักยภาพการทำกำไรของหุ้นมากกว่า
ตอบคุณ MANITS การลดภาษีสรรพสามิตแอร์เหลือ 0
มีผลดีต่อMCP บ้าง สำหรับการขายในประเทศ ทำให้ราคาถูกลง คนจะมาใช้แอร์ของMCPเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ตลาดใหญ่ 90% คือการส่งออก จะได้ผลดีบ้างในปี 53 ที่ภาษีไปออสเตรเลียเหลือ 0% แต่ตลาดอื่นๆ ถ้าปลายปีเศรษฐกิจฟื้นตัว ยอดขายแอร์ก็น่าจะเพิ่มขึ้นอีก แต่ในสภาวะที่โลกร้อนขึ้นทุกวัน อย่างไรคนก็ยังต้องใช้แอร์อยู่ดี ความเจริญของประชากรโลกที่มากขึ้น ก็มีความต้องการใช้ เครื่องอำนวยความสะดวก เครื่องใช้ไฟฟ้า เพิ่มขึ้นตลอด
จุดแข็ง
1.ทั้งMCP และKYE มีแบนด์ที่มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับ1 มาหลายปี
2.มีฐานะทางการเงินมั่นคง ไม่มีหนี้เงินกู้เลย ทั้งKYEและMCP มีแต่หนี้การค้าธรรมดา
3.ซื้อ 1 แต่มีกำลัง 2 หมายถึง มีถึง2บริษัททำเงินให้ ซึ่ง10% ของMCP ก็ยังมีมูลค่ามากกว่า หรือพอๆกับKYE เลยทีเดียว ซึ่งหาได้ยากมากๆ
จุดอ่อน
1.การแข่งขันในตลาดแข่งขันสูงมาก แต่ก็มีความได้เปรียบจากแบนด์ ที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะต้องติดตามกันต่อไป
2.การกำหนดราคาขาย ให้กับ MKY ก็มี กรรมการดูแลอยู่แล้ว ซึ่งเป็นการปิดจุดอ่อน ซึ่งจะพิสูจน์ให้เห็นในไตรมาส 2นี้ขอให้ติดตามต่อไป
tooyen ,air conditioner, electric fan
- Luty97
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1552
- ผู้ติดตาม: 0
SuperStock หรือ DividenStock
โพสต์ที่ 52
เดี๋ยวจะเหมือนเชียร์มากเกินไป
ผมว่ามีข้อควรระวังเหมือนกันนะครับ ราคาทองแดงขึ้นมาเร็วเหมือนกับ Commodity ตัวอื่นๆ
ซึ่งน่าจะส่งผลกระทบกับ kye อยู่ทีเดียว โดยเราไม่รู้ว่าจะส่งผลในไตรมาสไหนและจะส่งผ่านต้นทุนไปให้ผู้ซื้อได้มากน้อยเพียงใด
ผมว่ามีข้อควรระวังเหมือนกันนะครับ ราคาทองแดงขึ้นมาเร็วเหมือนกับ Commodity ตัวอื่นๆ
ซึ่งน่าจะส่งผลกระทบกับ kye อยู่ทีเดียว โดยเราไม่รู้ว่าจะส่งผลในไตรมาสไหนและจะส่งผ่านต้นทุนไปให้ผู้ซื้อได้มากน้อยเพียงใด
หลักของความสมดุล
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 165
- ผู้ติดตาม: 0
SuperStock หรือ DividenStock
โพสต์ที่ 53
ขอบคุณครับคุณตู้เย็น
จากงบของMCP ซึ่งสวยงามมาก หาหุ้นไหนๆ มาเทียบ ด้วยยากมากๆ
มีGPM ต่ำสุดในปี49 ก็ 24.56% ในปี 51 33.69%
มีROE ต่ำสุดในปี49 ที่ 23.75% ในปี 51 34.11%
มีROA ต่ำสุดในปี49 ที่ 16.63% ในปี 51 24.50%
ส่วนในปีที่สูงสุด ผมคาดว่าอาจจะเป็นปี52 ซึ่งยังไม่ทราบงบ (ในปี49 เข้าใจว่าน้ำมันเริ่มขึ้นวัตถุดิบทองแดงอลูมิเนียม พลาสติก ขึ้นราคาแต่ยัง+ราคาขึ้นไม่ได้เลยทำให้กำไร ลด แต่ก็ยังน่าพอใจ )
ซึ่งถ้าเป็นหุ้นในตลาด จะเล่นกันที่PE 15-20 และ PV 2 3-4 เท่า
มูลค่าของ MCP ที่ตลาดยังมองไม่เห็น :lol: :lol: :lol:
จากงบของMCP ซึ่งสวยงามมาก หาหุ้นไหนๆ มาเทียบ ด้วยยากมากๆ
มีGPM ต่ำสุดในปี49 ก็ 24.56% ในปี 51 33.69%
มีROE ต่ำสุดในปี49 ที่ 23.75% ในปี 51 34.11%
มีROA ต่ำสุดในปี49 ที่ 16.63% ในปี 51 24.50%
ส่วนในปีที่สูงสุด ผมคาดว่าอาจจะเป็นปี52 ซึ่งยังไม่ทราบงบ (ในปี49 เข้าใจว่าน้ำมันเริ่มขึ้นวัตถุดิบทองแดงอลูมิเนียม พลาสติก ขึ้นราคาแต่ยัง+ราคาขึ้นไม่ได้เลยทำให้กำไร ลด แต่ก็ยังน่าพอใจ )
ซึ่งถ้าเป็นหุ้นในตลาด จะเล่นกันที่PE 15-20 และ PV 2 3-4 เท่า
มูลค่าของ MCP ที่ตลาดยังมองไม่เห็น :lol: :lol: :lol:
MANITS
-
- Verified User
- โพสต์: 236
- ผู้ติดตาม: 0
เล่าประสบการณ์ให้ฟังกัน
โพสต์ที่ 54
เมื่อ3ปีที่แล้วตอนผมถือหุ้นJCTอยู่ ราคาในตลาดประมาณ24-26บาท ใครๆก็ว่าผมถือหุ้นอะไรก็ไม่รู้ไม่เคลื่อนไหวและไม่มีสภาพคล่องเลย เฮียปรัชญาก็หนีออกไปแล้ว จะถือทำไมน่าจะขายทิ้งเอากำไรไม่ดีหรอ ผมก็สองจิตสองใจ ถ้าขายก็ได้กำไรพอควร แต่JCTตอนนั้นไม่มีสภาพคล่องเลย ไม่เหมือนKYEที่จะขายเมื่อไรก็ได้ อยู่ๆJCTก็ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล2บาท ราคาก็ขยับไปเป็นประมาณ30-34บาท แล้วต่อมาก็จ่ายอีก2.5บาท รวมปีละ4.50บาท ราคาก็ยังอยู่36-38บาท ผ่านมาอีก2ปีจึงมาอยู่ราคาปัจจุบัน ตอนหุ้นอื่นตกกันมากๆJCTก็ไม่ตกหรือตกน้อยมาก ทำให้ไม่มีผลกระทบเลย เพียงแต่ต้องถือยาวหน่อย แต่ก็ให้ผลตอบแทนดีมาก
สรุปแนวทางVIถูกต้องที่สุด เมื่อเราหาหุ้นที่ดีได้แล้ว ก็ถือมันให้ยาวหน่อย ไม่ต้องวิตกเรื่องราคาขึ้นลง ในระยะยาวมันจะต้องไปที่มูลค่าที่ควรเป็น และผลตอบแทนคุ้มค่าแน่นอน
สรุปแนวทางVIถูกต้องที่สุด เมื่อเราหาหุ้นที่ดีได้แล้ว ก็ถือมันให้ยาวหน่อย ไม่ต้องวิตกเรื่องราคาขึ้นลง ในระยะยาวมันจะต้องไปที่มูลค่าที่ควรเป็น และผลตอบแทนคุ้มค่าแน่นอน
tooyen ,air conditioner, electric fan
- green-orange
- Verified User
- โพสต์: 896
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เล่าประสบการณ์ให้ฟังกัน
โพสต์ที่ 55
[quote="tooyen"]เมื่อ3ปีที่แล้วตอนผมถือหุ้นJCTอยู่ ราคาในตลาดประมาณ24-26บาท ใครๆก็ว่าผมถือหุ้นอะไรก็ไม่รู้ไม่เคลื่อนไหวและไม่มีสภาพคล่องเลย เฮียปรัชญาก็หนีออกไปแล้ว จะถือทำไมน่าจะขายทิ้งเอากำไรไม่ดีหรอ ผมก็สองจิตสองใจ ถ้าขายก็ได้กำไรพอควร แต่JCTตอนนั้นไม่มีสภาพคล่องเลย ไม่เหมือนKYEที่จะขายเมื่อไรก็ได้ อยู่ๆJCTก็ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล2บาท ราคาก็ขยับไปเป็นประมาณ30-34บาท แล้วต่อมาก็จ่ายอีก2.5บาท รวมปีละ4.50บาท ราคาก็ยังอยู่36-38บาท ผ่านมาอีก2ปีจึงมาอยู่ราคาปัจจุบัน ตอนหุ้นอื่นตกกันมากๆJCTก็ไม่ตกหรือตกน้อยมาก ทำให้ไม่มีผลกระทบเลย เพียงแต่ต้องถือยาวหน่อย แต่ก็ให้ผลตอบแทนดีมาก
สรุปแนวทางVIถูกต้องที่สุด เมื่อเราหาหุ้นที่ดีได้แล้ว ก็ถือมันให้ยาวหน่อย ไม่ต้องวิตกเรื่องราคาขึ้นลง
สรุปแนวทางVIถูกต้องที่สุด เมื่อเราหาหุ้นที่ดีได้แล้ว ก็ถือมันให้ยาวหน่อย ไม่ต้องวิตกเรื่องราคาขึ้นลง
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 108
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เล่าประสบการณ์ให้ฟังกัน
โพสต์ที่ 57
[quote="tooyen"]เมื่อ3ปีที่แล้วตอนผมถือหุ้นJCTอยู่ ราคาในตลาดประมาณ24-26บาท ใครๆก็ว่าผมถือหุ้นอะไรก็ไม่รู้ไม่เคลื่อนไหวและไม่มีสภาพคล่องเลย เฮียปรัชญาก็หนีออกไปแล้ว จะถือทำไมน่าจะขายทิ้งเอากำไรไม่ดีหรอ ผมก็สองจิตสองใจ ถ้าขายก็ได้กำไรพอควร แต่JCTตอนนั้นไม่มีสภาพคล่องเลย ไม่เหมือนKYEที่จะขายเมื่อไรก็ได้ อยู่ๆJCTก็ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล2บาท ราคาก็ขยับไปเป็นประมาณ30-34บาท แล้วต่อมาก็จ่ายอีก2.5บาท รวมปีละ4.50บาท ราคาก็ยังอยู่36-38บาท ผ่านมาอีก2ปีจึงมาอยู่ราคาปัจจุบัน ตอนหุ้นอื่นตกกันมากๆJCTก็ไม่ตกหรือตกน้อยมาก ทำให้ไม่มีผลกระทบเลย เพียงแต่ต้องถือยาวหน่อย แต่ก็ให้ผลตอบแทนดีมาก
สรุปแนวทางVIถูกต้องที่สุด เมื่อเราหาหุ้นที่ดีได้แล้ว ก็ถือมันให้ยาวหน่อย ไม่ต้องวิตกเรื่องราคาขึ้นลง
สรุปแนวทางVIถูกต้องที่สุด เมื่อเราหาหุ้นที่ดีได้แล้ว ก็ถือมันให้ยาวหน่อย ไม่ต้องวิตกเรื่องราคาขึ้นลง
-
- Verified User
- โพสต์: 213
- ผู้ติดตาม: 0
SuperStock หรือ DividenStock
โพสต์ที่ 59
เสียดายมากครับ เสาร์ อาทิตย์ที่ผ่านมานั่งวิเคราะห์ตัวนี้และคาดหวังว่าจะซื่อวันนี้ แต่เปิดตลาดกระโดด และไปไกลมาก คงรอย่อลงมาหน่อย
คุณตู้เย็นมองแล้วราคาเหมาะสมควรอยู่ที่เท่าไรครับ
ผมคงถือยาวเลยเพราะดูอนาคตแล้วน่าไปได้อีกมาก
ขอบคุณครับ
คุณตู้เย็นมองแล้วราคาเหมาะสมควรอยู่ที่เท่าไรครับ
ผมคงถือยาวเลยเพราะดูอนาคตแล้วน่าไปได้อีกมาก
ขอบคุณครับ