เห็นพูดถึงผมเลยขอมาแจมซะหน่อยpicatos เขียน:
อย่างคุณ hongvalue เซียนฟันโฟลว์อาจจะดู Indicator บางอย่างในการ Stop ก็แล้วแต่คนไป...
ออกตัวก่อนนะความเห็นส่วนตัวนะไม่มีถูกมีผิดนะครับ ให้ความเห็นและเหตุผลลองฟังดู
พี่สุมาอี้เคยเขียนว่าไม่ซื้อถัวเฉลี่ยขาลงเพราะว่าถ้าอัดเต็ม port แล้วคิดผิด
การคิดผิดครั้งเดียวแล้ว port เสียหายหนักๆจะทำให้เราฉิบหายได้
ผมก็เห็นด้วยนะ ผมถามหน่อยว่ามีใครบ้างที่ซื้อหุ้น 10 ตัวแล้วถูกมากกว่า
8 ผมว่าหายากจนแทบจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ
ปีที่แล้วคนคิดถูก หมายถึงหุ้นที่เขาลงทุนกำไรมาตามคาดแต่ว่าตลาด discount pe ลงไปแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ถ้าตอบแบบ fundflow ตอนที่หุ้นถูก discount อย่างรุนแรงปีที่แล้วเป็นเพราะ
สภาวะเงินตึงตัวมากกว่า
พี่ตี๋(ตาตี๋แซวเล่นนะพี่) บอกว่า
VI เป็นแนวคิดที่สุ่มเสี่ยงที่อาจจะเกิดความเสียหายต่อพอร์ตได้รุนแรงที่สุดเมื่อเทียบกับ Technical หรือ Fund Flow
ผมก็เห็นด้วย
แต่ในทางกลับกัน vi ก็ได้เยอะมากกว่าอีกสองแนวเหมือนกัน
จริงๆแล้วแนวทาง technic ,fundflow ผมว่าใช้เป็นแนวทางเสริมน่าจะดีกว่า
เพราะสุดท้ายแล้วดู fundflow มันบอกเราได้ว่าเงินจะเข้าแต่เข้าตัวไหนเยอะกว่า คำตอบก็คือตัวที่พื้นฐานดีกว่านั้นแหละ แล้วพื้นฐานดีกว่าใช้อะไรดี
ก็ใช้หลักการ vi นั้นแหละ
หลายคนมองว่าถ้าเป็น เทคนิค ก็ไม่วีไอ เป็นฟันโฟลก็ไม่ใช่วีไอ
ผมว่าอันนี้แล้วแต่จะมองแบบไหนเพราะบางคนหลักการก็ไปด้วยกันได้
บางทีก็ขัดกันซึ่งเราต้องเลือกเอาเองว่าจะให้น้ำหนักกับอะไรมากกว่า
เอาอย่างใน ทีวีไอ มีคนดูเทคนิคประกอบตั้งเยอะ แต่ถามว่าเขารู้พื้นฐานหุ้นไหมเขารู้อยู่แล้วไง
จริงๆแล้วมีบางคนโพสในกระทู้อื่นว่าสามารถคาดดัชนีหุ้นได้แม่นยำซึ่งความเห็นของผมคือ ไม่น่าจะเป็นไปได้
ตอนผมกลับมาซื้อหุ้นที่ 415 ผมเห็น credit spread ลดลงก่อนในช่วง
เดือน กุมภาและกลางเดือนมีนาประกาศทำ qe มโหราร ผมเลยเข้าไปซื้อ
ถามว่าถ้าผมไม่เห็นข่าวผมจะทำไงก็ต้องรอต่อ ถามว่าผมคาดดัชนีได้ไหมก็ไม่ได้แต่ผมหาเงื่อนไขที่จะทำให้ downside การลงทุนของผมน้อยลงไปได้พอเจอผมก็ซื้อหุ้น
ดังนั้นผมไม่คิดว่าในตลาดหุ้นจะมี superindicator สมมุติเราบอกว่าหุ้นจีนเป็นชี้นำ อะไรชี้นำหุ้นจีน ก็ lei ของจีนงั้นเหรอ อะไรแบบนี้อะ
จริงๆแล้วถ้าศึกษาดีๆเรื่อง indi บางครั้งตัวที่เคยเป็น leading บางที
มันก็เป็น coincidence นะ
กลับมาเรื่อง วีไอ ดีกว่านอกเรื่องไปเยอะ
ถามว่าตอนนี้ผมมีหุ้นไหม คำตอบคือมี แล้วผมดู fundflow ประกอบไหม
ก็ดูว่าถ้ามีสัญญาณไม่ดีผมก็ลด port หรือไม่ก็ short หุ้นโดยที่ยังถือหุ้นนั้นอยู่
โดยที่ผมมองว่าหุ้นทีผมถือจะแข็งกว่าตลาดเพราะ story มันแรงแต่ผม hedge market risk เพราะมองว่างั้นไหลออกด้วยการ short หุ้น
เท่าที่ผมศึกษาหลายๆอย่างผมว่าการเลือกหุ้น(วีไอ)เป็นหลักและอย่างอื่นเป็นตัวเสริมให้กับเรา เพราะการโยกย้ายสินทรัพย์ การกล้ารับความเสี่ยง การเกิดและหายไปของสภาพคล่องส่งผลต่อราคาหุ้นได้ทั้งนั้นถ้าคุณรู้และดูเป็นผมว่ามันก็ช่วยเรื่องการลงทุนได้
ผมเลยคิดว่ารู้ fundflow เอาไว้ดูว่าถ้ามันไม่มีอะไรรุนแรงน่ากลัวมากเราก็ถือหุ้นของเราไป แล้วเราก็คอยดู indi เอาไว้เรื่อยๆว่ามันเริ่มมีสัญญาณอะไรน่ากลัวไหม
เอ้า ตอบไม่ตรงประเด็นเจ้าของกระทู้อีกคนแล้ว :lol:
ขอแถมให้อีกนิดนึงผมว่าถ้าไม่ขึ้นดอกเบี้ยกับเกิดดับเบิ้ลดิ๊บ
หุ้นก็ยังไม่กลัวจนเกินไป เพราะดอกเบี้ยแบบนี้
ให้หุ้นลงมากๆเงินมันก็ไม่มีที่ไปอีกนั้นแหละ