ถามสาวๆๆ เท่านั้น (หนุ่มไม่เกี่ยว)
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
ถามสาวๆๆ เท่านั้น (หนุ่มไม่เกี่ยว)
โพสต์ที่ 1
พอดีมีคำพูดว่า เพชรเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผู้หญิง
แสดงว่าผู้หญิงมีความรู้เรื่องเพชร มากกว่าผู้ชาย
และเห็นว่าเพชรเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดอีกต่างหาก
เลยถามว่าคุณผู้หญิงใน TVI มีใครมีความรู้เรื่องเพชรบ้าง
เอาแบบมีความรู้จริงๆๆเลยว่า เพชรมีอะไรบ้างเกรดอะไรบ้าง
แล้วราคามันเทียบอย่างไง
แหล่งที่ผลิตเพชรมีที่ใดบ้าง
ขอบคุณครับ
แสดงว่าผู้หญิงมีความรู้เรื่องเพชร มากกว่าผู้ชาย
และเห็นว่าเพชรเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดอีกต่างหาก
เลยถามว่าคุณผู้หญิงใน TVI มีใครมีความรู้เรื่องเพชรบ้าง
เอาแบบมีความรู้จริงๆๆเลยว่า เพชรมีอะไรบ้างเกรดอะไรบ้าง
แล้วราคามันเทียบอย่างไง
แหล่งที่ผลิตเพชรมีที่ใดบ้าง
ขอบคุณครับ
- sai
- Verified User
- โพสต์: 4090
- ผู้ติดตาม: 0
ถามสาวๆๆ เท่านั้น (หนุ่มไม่เกี่ยว)
โพสต์ที่ 6
พี่ชงเป็นคนละเอียดอ่อนจริงจริงครับ family man ตัวจริงเลย ครอบครัวผม ผมซื้อให้แฟนทั้งสองครั้งเหมือนกันครับ (ครั้งแรกตอนแต่งงาน อีกครั้งตอนครบรอบ 10 ปี ) ครั้งแรกภรรยาเป็นคนเลือกแล้วให้ผมไปจ่ายเงิน ครั้งที่สองเซอร์ไพรซ์ครับ วันครบรอบ10ปี ไปทานข้าวที่the mall แล้วภรรยาก็พาไปจ่ายเงินที่ร้านเพชรที่เธอไปดูอยู่แล้ว จองไว้เรียบร้อย แล้วพาเราไปรับทราบเท่านั้น เหอเหอ ต้องเอาอย่างพี่บ้างแล้วครับ :lol:naris เขียน:ทำไมต้องถามผู้หญิงอย่างเดียว เพราะการซื้อเพชรทั้งสองครั้งของครอบครัวพี่.ที่ซื้อให้แฟน พี่ซื้อเองทั้งสองครั้ง.....เพราะถ้าไปปรึกษาก็ไม่เซอร์ไพรซ์สิ.
Small Details Make a Big Difference
- MANEKI
- Verified User
- โพสต์: 1005
- ผู้ติดตาม: 0
ถามสาวๆๆ เท่านั้น (หนุ่มไม่เกี่ยว)
โพสต์ที่ 7
เข้ามาดูความหวาน สงสัยชงกาแฟ ไม่ต้องเติมน้ำตาลsai เขียน: พี่ชงเป็นคนละเอียดอ่อนจริงจริงครับ family man ตัวจริงเลย ครอบครัวผม ผมซื้อให้แฟนทั้งสองครั้งเหมือนกันครับ (ครั้งแรกตอนแต่งงาน อีกครั้งตอนครบรอบ 10 ปี ) ครั้งแรกภรรยาเป็นคนเลือกแล้วให้ผมไปจ่ายเงิน ครั้งที่สองเซอร์ไพรซ์ครับ วันครบรอบ10ปี ไปทานข้าวที่the mall แล้วภรรยาก็พาไปจ่ายเงินที่ร้านเพชรที่เธอไปดูอยู่แล้ว จองไว้เรียบร้อย แล้วพาเราไปรับทราบเท่านั้น เหอเหอ ต้องเอาอย่างพี่บ้างแล้วครับ :lol:
DON"T EVER GIVE UP YOUR DREAM.....
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1284
- ผู้ติดตาม: 1
ถามสาวๆๆ เท่านั้น (หนุ่มไม่เกี่ยว)
โพสต์ที่ 9
ตอนผมซื้อเพชรให้แฟน ก็ให้แฟนเลื่อกแล้วผมจ่ายตังค์ ไว้ครบ 10 ปีต้องลอง surprise แบบที่พี่นริศบอกบ้างดีกว่า้ :lol:sai เขียน: พี่ชงเป็นคนละเอียดอ่อนจริงจริงครับ family man ตัวจริงเลย ครอบครัวผม ผมซื้อให้แฟนทั้งสองครั้งเหมือนกันครับ (ครั้งแรกตอนแต่งงาน อีกครั้งตอนครบรอบ 10 ปี ) ครั้งแรกภรรยาเป็นคนเลือกแล้วให้ผมไปจ่ายเงิน ครั้งที่สองเซอร์ไพรซ์ครับ วันครบรอบ10ปี ไปทานข้าวที่the mall แล้วภรรยาก็พาไปจ่ายเงินที่ร้านเพชรที่เธอไปดูอยู่แล้ว จองไว้เรียบร้อย แล้วพาเราไปรับทราบเท่านั้น เหอเหอ ต้องเอาอย่างพี่บ้างแล้วครับ :lol:
In search of super stocks
- krisy
- Verified User
- โพสต์: 736
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถามสาวๆๆ เท่านั้น (หนุ่มไม่เกี่ยว)
โพสต์ที่ 10
เพชรเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด อันนี้ไม่แน่ใจ เพราะชอบสัตว์เลี้ยงมากกว่า แต่ krisy ก็ชอบเพชรค่ะ แวววาวดีmiracle เขียน:พอดีมีคำพูดว่า เพชรเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผู้หญิง
แสดงว่าผู้หญิงมีความรู้เรื่องเพชร มากกว่าผู้ชาย
และเห็นว่าเพชรเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดอีกต่างหาก
เลยถามว่าคุณผู้หญิงใน TVI มีใครมีความรู้เรื่องเพชรบ้าง
เอาแบบมีความรู้จริงๆๆเลยว่า เพชรมีอะไรบ้างเกรดอะไรบ้าง
แล้วราคามันเทียบอย่างไง
แหล่งที่ผลิตเพชรมีที่ใดบ้าง
ขอบคุณครับ
ด้วยความที่ผู้หญิงมักไม่ค่อยได้ซื้อเอง ดังนั้นผู้หญิงที่รู้เรื่องเพชรจริงๆคงมีไม่มาก อีกอย่าง ถ้ามีคนซื้อเพชรมาให้ แล้วผู้หญิงคนนั้นเอาแต่ซักว่า มีใบ certificate หรือเปล่า ของสถาบันไหน น้ำเท่าไหร่ ความใสเท่าไหร่ กี่กะรัต ซื้อที่ไหน (เพราะเอาเข้าจริงแล้ว แท้ไม่แท้ดูไม่ออก เน้นเชื่อใจผู้ขายเป็นหลัก) ผู้หญิงคนนั้นจะไม่มีวันได้เพชรเป็นของขวัญอีกเลย อย่างนี้จะคาดหวังว่าผู้หญิงจะรู้เรื่องละเอียดคงเป็นไปได้ลำบากสักหน่อยนะคะ
สำหรับตัว krisy เอง ชอบเพชร แต่ไม่ได้รู้เรื่องละเอียดมากไปกว่าคำถามพื้นฐานที่จะชอบถามผู้ขาย (แต่ยังไม่มีเงินซื้อ)
ก็ถามว่า เพชรที่ไหน ส่วนตัวได้เสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าต้องเบลเยี่ยมเท่านั้น
กี่กะรัต ถ้าจะซื้อของใหญ่ ควรจะเข้าไปดูที่ website ของสถาบันอัญมณีนะคะ ว่าตอนนี้ 1 กะรัต ราคาตลาดอยู่ที่เท่าไหร่
น้ำเท่าไหร่ ส่วนมากก็น้ำ 97 ก็จะขาวแล้ว ในใบ cer ก็ต้องดูว่าเป็นสีอะไร ถ้าได้สีสัก G หรือ F เพชรจะขาวใสค่ะ
ความใส ดูว่าเพชรมีความสกปรกในเนื้อเท่าไหร่ เค้าวัดกันเป็นค่าเฉพาะ ที่ขายทั่วไปก็จะเห็นที่ IF, VVSI, VVSII, VSII, VSI ค่ะ อันนี้เรียงจากใสมากไปใสน้อย
สุดท้าย cutting อันนี้ก็ดูไม่เป็นเหมือนกันค่ะ เกินความสามารถ เพราะมันต้องดูเหลี่ยม ดูมุม ดู crown ดู table จุกจิกเกินไป ก็ต้องถามเค้าโดยพยายามอ้างอิงแบบ cutting ยอดนิยม
จบจาก 4 C (Carat, Colour, Clarity, Cut) ก็จะถามว่าใบ cer ที่ไหน เพราะใบ cer ที่มาจากสถาบันที่เป็นที่ยอมรับ เวลาเอาไปขายเมื่อเดือดร้อนจะโดนหักไม่มาก แต่ถ้าไม่ขาย ก็ไม่ต้องสนใจก็ได้ เพราะใบ cer พวกนี้จะเพิ่มราคาเพชรด้วยค่ะ
ถามแต่เพชรก็อย่าลืมถามตัวเรือนด้วย ว่าใช้ทอง ทองคำขาว แพลตตินัม อะไร หนักเท่าไหร่
อันนี้เป็นความรู้พื้นๆของ krisy เองค่ะ
.....Give Everything but not Give Up.....
- LittleChicky
- Verified User
- โพสต์: 277
- ผู้ติดตาม: 0
ถามสาวๆๆ เท่านั้น (หนุ่มไม่เกี่ยว)
โพสต์ที่ 11
ถามพี่ Naris พี่Sai พี่ Investor biker
เวลาพี่ซื้อเพชรพี่แน่ใจได้อย่างไรว่า เพชรที่ซื้อเป็นเพชรจริงครับ ต้องดูใบ cert หรือว่า ดูที่ร้านน่าเชื่อถือครับ ซื้อร้านจูบิลี่หรือเปล่า แบบว่า ยังไม่เคยมีประสบการณ์อะครับ เคยซื้อแค่สร้อยทอง 2 สลึง แต่ก็ดูไม่เป็นอยู่ดีว่า ทองจริงหรือปลอม :oops: อาศัยซื้อร้านใหญ่ๆในห้างเอา
เวลาพี่ซื้อเพชรพี่แน่ใจได้อย่างไรว่า เพชรที่ซื้อเป็นเพชรจริงครับ ต้องดูใบ cert หรือว่า ดูที่ร้านน่าเชื่อถือครับ ซื้อร้านจูบิลี่หรือเปล่า แบบว่า ยังไม่เคยมีประสบการณ์อะครับ เคยซื้อแค่สร้อยทอง 2 สลึง แต่ก็ดูไม่เป็นอยู่ดีว่า ทองจริงหรือปลอม :oops: อาศัยซื้อร้านใหญ่ๆในห้างเอา
นักลงทุนผู้ชาญฉลาดไม่ควรซื้อหุ้นสามัญเพียงเพราะว่ามันมีราคาถูก แต่ควรซื้อเฉพาะว่ามันสัญญาว่าจะทำกำไรงดงามให้กับเขา...ฟิลลิป เอ พิชเชอร์
- ball048
- Verified User
- โพสต์: 107
- ผู้ติดตาม: 0
ถามสาวๆๆ เท่านั้น (หนุ่มไม่เกี่ยว)
โพสต์ที่ 14
ของผมตอนซื้อให้แฟนก็ได้ใบCER ครับ เขาบอกว่าต่อไปถ้าคับหรือหลวมไป
ให้มาขยายได้ฟรี หลังจากแฟนผมคลอดลูกก็อ้วนขึ้นเลยจะไปขยาย ปรากฏว่าร้านมันหายไปแล้วครับ ทุกวันนี้เลยซื้อแหวนทองให้ใส่แทน :lol:
ให้มาขยายได้ฟรี หลังจากแฟนผมคลอดลูกก็อ้วนขึ้นเลยจะไปขยาย ปรากฏว่าร้านมันหายไปแล้วครับ ทุกวันนี้เลยซื้อแหวนทองให้ใส่แทน :lol:
กำลังฝึกให้ปอดแข็งแรงอยู่ครับ
- McDull
- Verified User
- โพสต์: 313
- ผู้ติดตาม: 0
ถามสาวๆๆ เท่านั้น (หนุ่มไม่เกี่ยว)
โพสต์ที่ 16
[quote="sai"]ปล.ที่ผู้หญิงชอบเพชร ผมเคยอ่านเจอในหนังสือของ ทันต์แพทย์ สมสุจีรา ว่าตาของผู้หญิงจะสามารถรับสีได้ไวกว่าผู้ชาย สี่เท่า ทำให้เห็นเพชรแวววาวกว่า ทำให้เพศหญิงจะมีความชอบในตัวเพชรมากเพราะมองเห็นว่าสวยกว่า
- LittleChicky
- Verified User
- โพสต์: 277
- ผู้ติดตาม: 0
ถามสาวๆๆ เท่านั้น (หนุ่มไม่เกี่ยว)
โพสต์ที่ 17
[quote="sai"]
ของผมครั้งแรก ก็ไปซื้อตามร้านเพชรครับ ไม่มีใบ cert ประมาณว่าอยากแต่งงานตอนนั้นไม่ค่อยมีความรู้อะไรเท่าไร แต่ครั้งหลังภรรยาก็ไปซื้อที่ร้านที่ the mall ตามที่เล่าไป แต่เจ้าของร้านก็ถามว่าต้องการใบ cert ไหมถ้าต้องการบวกเพิ่ม 2000 บาทครับ (มารับใบcert ทีหลัง ) แต่เราเอาเพชรกลับบ้านก่อนได้เลยนะครับ
ปล.ที่ผู้หญิงชอบเพชร ผมเคยอ่านเจอในหนังสือของ ทันต์แพทย์ สมสุจีรา ว่าตาของผู้หญิงจะสามารถรับสีได้ไวกว่าผู้ชาย สี่เท่า ทำให้เห็นเพชรแวววาวกว่า ทำให้เพศหญิงจะมีความชอบในตัวเพชรมากเพราะมองเห็นว่าสวยกว่า
ของผมครั้งแรก ก็ไปซื้อตามร้านเพชรครับ ไม่มีใบ cert ประมาณว่าอยากแต่งงานตอนนั้นไม่ค่อยมีความรู้อะไรเท่าไร แต่ครั้งหลังภรรยาก็ไปซื้อที่ร้านที่ the mall ตามที่เล่าไป แต่เจ้าของร้านก็ถามว่าต้องการใบ cert ไหมถ้าต้องการบวกเพิ่ม 2000 บาทครับ (มารับใบcert ทีหลัง ) แต่เราเอาเพชรกลับบ้านก่อนได้เลยนะครับ
ปล.ที่ผู้หญิงชอบเพชร ผมเคยอ่านเจอในหนังสือของ ทันต์แพทย์ สมสุจีรา ว่าตาของผู้หญิงจะสามารถรับสีได้ไวกว่าผู้ชาย สี่เท่า ทำให้เห็นเพชรแวววาวกว่า ทำให้เพศหญิงจะมีความชอบในตัวเพชรมากเพราะมองเห็นว่าสวยกว่า
นักลงทุนผู้ชาญฉลาดไม่ควรซื้อหุ้นสามัญเพียงเพราะว่ามันมีราคาถูก แต่ควรซื้อเฉพาะว่ามันสัญญาว่าจะทำกำไรงดงามให้กับเขา...ฟิลลิป เอ พิชเชอร์
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
ถามสาวๆๆ เท่านั้น (หนุ่มไม่เกี่ยว)
โพสต์ที่ 18
แสดงว่าถามเรื่องนี้คงได้คำตอบน้อยกว่า
พวก วาโก้กับซาบีน่าแล้วกระมั้ง
แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวมีโอกาสต้องแวะไปชมบูตพวกนี้หน่อย
แหล่งที่ขายเพชรอยู่แถวเวิ้งนครเกษม (แถวคลองถม)
อยู่ถนนเจริญกรุงช่วงสะพานเหล็กถึงคลองถม
พวก วาโก้กับซาบีน่าแล้วกระมั้ง
แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวมีโอกาสต้องแวะไปชมบูตพวกนี้หน่อย
แหล่งที่ขายเพชรอยู่แถวเวิ้งนครเกษม (แถวคลองถม)
อยู่ถนนเจริญกรุงช่วงสะพานเหล็กถึงคลองถม
- simplelife
- Verified User
- โพสต์: 756
- ผู้ติดตาม: 0
ถามสาวๆๆ เท่านั้น (หนุ่มไม่เกี่ยว)
โพสต์ที่ 19
ไม่ค่อยรู้เรื่องเพชรครับ แต่เข้าใจว่า ใบ certificate มันต้องออกขณะที่เพชรยังไม่ได้เข้าตัวเรือน ถ้าเพชรที่ไปซื้อมาเป็นแบบที่อยู่ในตัวแหวนแล้ว แล้วให้เราเอากลับบ้านมาด้วย ไม่เข้าใจว่าที่ร้านจะตามไปออกใบให้ได้ยังไง ถ้าร้านเขามี certificate ออกมาก่อนจะเป็นตัวแหวนแล้ว เขาก็น่าจะให้มาฟรีๆมากกว่า เพราะเก็บไว้ก็เป็นแค่กระดาษแผ่นนึงแค่นั้นเองครับ มันมาคู่กับเพชรที่ซื้อมา ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ครับsai เขียน:แต่ครั้งหลังภรรยาก็ไปซื้อที่ร้านที่ the mall ตามที่เล่าไป แต่เจ้าของร้านก็ถามว่าต้องการใบ cert ไหมถ้าต้องการบวกเพิ่ม 2000 บาทครับ (มารับใบcert ทีหลัง ) แต่เราเอาเพชรกลับบ้านก่อนได้เลยนะครับ
อ้อ ใบ certificate เอาไว้บอกคุณลักษณะของตัวเพชร ไม่ได้ไว้บอกว่าแท้หรือเทียม แค่แท้เทียมดูด้วยตาเปล่าออกครับ คนใส่เพชรยิ่งมีผ่านตาหลายชิ้นหน่อย เขาดูแว๊บๆก็รู้ครับว่าของจริงหรือของเทียมครับ
- sai
- Verified User
- โพสต์: 4090
- ผู้ติดตาม: 0
ถามสาวๆๆ เท่านั้น (หนุ่มไม่เกี่ยว)
โพสต์ที่ 20
นั่นสิครับผมก็งงเหมือนกัน แต่ภรรยาก็เอาใบ cert นะครับ เค้าก็ส่งตามมาให้ครับแต่เวลาเค้าจะขายเพชรให้ผม เค้าจะมีคล้ายคล้ายเป็นสมุดแล้วมีข้อมูลเกี่ยวกับเพชรที่จะขายให้เราทั้งหมด มีรูปวาดด้วยว่ามีลักษณะอย่างไรมีเพชรกี่เม็ด รูปทรงอย่างไร แต่ก็คิดเหมื่อนกันว่า ออกอย่างนี้ได้อย่างไร แต่ก็ผ่านไปประมาณจะ 4 ปีแล้วนะครับไม่รู้เดี๋ยวนี้ยังเป็นอยู่หรือเปล่าsimplelife เขียน: ไม่ค่อยรู้เรื่องเพชรครับ แต่เข้าใจว่า ใบ certificate มันต้องออกขณะที่เพชรยังไม่ได้เข้าตัวเรือน ถ้าเพชรที่ไปซื้อมาเป็นแบบที่อยู่ในตัวแหวนแล้ว แล้วให้เราเอากลับบ้านมาด้วย ไม่เข้าใจว่าที่ร้านจะตามไปออกใบให้ได้ยังไง ถ้าร้านเขามี certificate ออกมาก่อนจะเป็นตัวแหวนแล้ว เขาก็น่าจะให้มาฟรีๆมากกว่า เพราะเก็บไว้ก็เป็นแค่กระดาษแผ่นนึงแค่นั้นเองครับ มันมาคู่กับเพชรที่ซื้อมา ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ครับ
อ้อ ใบ certificate เอาไว้บอกคุณลักษณะของตัวเพชร ไม่ได้ไว้บอกว่าแท้หรือเทียม แค่แท้เทียมดูด้วยตาเปล่าออกครับ คนใส่เพชรยิ่งมีผ่านตาหลายชิ้นหน่อย เขาดูแว๊บๆก็รู้ครับว่าของจริงหรือของเทียมครับ
ปล.ไว้ครบรอบ 20 ปี ต้องเซอร์ไพรส์ภรรยาแบบพี่ชงบ้าง :lol: (ผมอายุยังไม่เยอะมากนะครับเดี๋ยวหลายท่านอ่านแล้วจะคิดว่าแก่มากแล้ว บังเอิญแต่งงานไวมากมากอ่ะครับ )
Small Details Make a Big Difference
-
- Verified User
- โพสต์: 249
- ผู้ติดตาม: 0
ถามสาวๆๆ เท่านั้น (หนุ่มไม่เกี่ยว)
โพสต์ที่ 21
ไม่ได้เป็นสาวๆ แต่พอมีความรู้เรื่องเพชร ขอตอบหน่อยได้มั้ยครับ? :lol:
หลักๆแล้วเพชรคงแบ่งคุณภาพตาม 4cs ของเพชรน่ะครับ
1. Color สี ยิ่งขาว ยิ่งสวยและยิ่งแพงครับ เริ่มจาก 100, 99, 98, 97,... (D, E, F, G,...) บ้านเรานิยมสีประมาณ 96-95% (H-I) หรือที่เรียกว่าน้ำ 96, 95 น่ะครับ
2. Clarity ความสะอาด คือตำหนิหรือมลทินภายในเพชร เมื่อมองด้วยกล้องขยายกำลังสิบเท่า เพชรยิ่งสะอาด หรือมีตำหนิน้อยก็จะยิ่งแพงครับ โดยแบ่งรายละเอียดเป็น
FL/IF - Internally Flawless เพชรซึ่งไร้ตำหนิเมื่อมองด้วยกล้องขยายกำลังสิบเท่า
VVS1-VVS2 - Very Very Slightly Included เพชรมีตำหนิขนาดเล็กมากๆ ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า เมื่อใช้กล่อง 10 เท่า อาจมองเห็น ถ้าชำนาญ และต้องใช้เวลาในการหาตำหนินานพอสมควร ส่วนมากต้องประมาณครึ่งนาทีขึ้นไปครับ ตำหนิเพชร VVS2 จะมีขนาดและ/หรือจำนวนมากกว่า VVS1
VS1-VS2 -Very Sightly Include เพชรมีตำหนิขนาดเล็กมาก ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า เมื่อใช้กล่อง 10 เท่า อาจมองเห็น ถ้าชำนาญ และต้องใช้เวลาในการหาตำหนิเพชรนานพอสมควร ส่วนมากต้องประมาณครึ่งนาทีขึ้นไปครับ เป็นเพชรที่ในสายตานักอัญมณีศาสตร์ หรือบุคคลทีีมีความรู้ในการดูเพชร เลือกซื้อเพชร เห็นว่าคุ้มค่าที่สุดครับ เพราะตำหนิมีขนาดเล็กมาก ไม่มีผลใดๆต่อความสวยงามของเพชรโดยรวม ถ้าเราเอาเพชร IF กับเพชร VS1-2 มาวางข้างกัน มองด้วยตาเปล่า เราจะไม่มีทางแยกได้เลยครับ ว่าเพชรเม็ดไหนเป็น IF เพชรเม็ดไหนเป็น VS1-2
SI1-3 - Slightly Included เพชรมีตำหนิขนาดเล็ก โดยมากไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า เมื่อใช้กล่อง 10 เท่า จะสามารถมองเห็นได้ทันที โดยไม่ต้องหาครับ เพชรคุณภาพนี้ ถ้าเลือกเป็นเลือกดีๆ อาจได้ของดีราคาถูกครับ เช่น SI1 บางเม็ดที่ตำหนิไม่ได้อยู่บริเวณกลางหน้าเพชร และไม่มีสี ถือเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ามากครับ เพชรคุณภาพนี้เป็นที่นิยมมากในประเทศแทบตะวันตก แต่ไม่ค่อยนิยมในเมืองไทย (เมืองไทยจะนิยม VVS1, VVS2, VS1) ผมไม่แน่ใจว่าเพราะอะไรเหมือนกัน
I1-3 - (Imperfect 1-3) เพชรมีตำหนิขนาดใหญ่ สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าครับ เพชรคุณภาพนี้แนะนำให้หลีกเลี่ยงครับ เพราะตำหนิ หรือรอยแตก รอยร้าว มีขนาดใหญ่ มีผลต่อความสวยงามและความคงทนของเพชร
3. Cut - การเจียรไน ได้แก่ คุณภาพในการเจียรไน ความสมมาตร (Symmetry) และการขัดเงาที่ผิว (Finish) แบ่งคุณภาพออกเป็น Excellent, Very Good, Good, Fair, Poor ควรเลือกเพชรเกรด Excellent หรือ Very Good ครับ คุณสมบัติอื่นๆของเพชร เราอาจประหยัดได้ อาจเลือกสีแค่ I (95) ความสะอาดแค่ VS2 แต่การเจียรไนอย่าประหยัดนะครับ เพราะมีผลโดยตรงต่อความสวยงามของเพชรโดยรวม อันได้แก่ การสะท้อนแสง ประกายเพชร ไฟ และความระยิบระยับ (Light Return, Brilliancy, Fire, Scintillation) จริงๆแล้วในเรื่อง Cut ยังต้องดูรายละเอียดสัดส่วนอีกว่า เพชรเม็ดนั้นๆ เป็น เกรด ใด Class1, 2, 3, 4 แต่ผมกลัวจะยาวไป
4. Carat - สุดท้ายคงเป็นเรื่องขนาดครับ เพชรยิ่งเม็ดใหญ่ ยิ่งหายาก และราคาต่อกะรัตยิ่งสูงครับ เช่นเพชร น้ำ 98, 40 ตังค์ VS1 ราคาต่อกะรัตประมาณ 102000 ต่อเม็ดประมาณ 40800 แต่ถ้าเป็นคุณภาพเดียวกัน ขนาด 50 ตังค์ ราคา ราคาต่อกะรัตประมาณ 136000 และต่อเม็ดประมาณ 68000 ครับ
5. Certificate เพิ่มเติมจาก 4cs ของเพชร คงต้องเป็น Certificate หรือ Diamond Report ครับ Certificate คือใบรับรองคุณภาพออกโดยสถาบันอัญมณีที่เป็นบุคคลที่สามครับ ถ้าซื้อเพชรไม่มีเซอร์ ก็เหมือนซื้อหุ้นไม่ได้ดูงบละครับ เพราะเราจะรู้ได้ไงครับว่า เพชรเม็ดนั้นๆเป็นเพชรแท้ หรือเพชรเทียม น้ำเท่าไหร่่ ความสะอาดอะไร จะเชื่อคนขายอย่างเดียว โอกาสผิดพลาดมีสูงมากครับ เพราะร้านค้าเพชรส่วนใหญ่ ไม่มีบุคคลากร และเครื่องมือเพียงพอที่จะตรวจสอบคุณภาพเพชรได้อย่างแม่นยำครับ บางครั้ง ร้านอาจไม่ได้ตั้งใจโกง แต่พ่อค้าส่งเพชรบอกน้ำ 97 ร้านก็บอกว่า 97 ตามครับ ซึ่งจริงๆแล้ว 90% จะเหลือแค่ 96 หรือ 95 ครับ
สำหรับราคาเพชร ดูได้ที่นี่ เป็น guideline คร่าวๆนะครับ
http://www.geleediamond.com/pricelist.html
แหล่งผลิตเพชร ถ้าเป็นเหมืองเพชรก้อน ส่วนใหญ่อยู่ที่ แอฟริกา รัสเซีย อินเดีย แคนาดา ถ้าเป็นแหล่งเจียรไนเพชร ส่วนใหญ่อยู่ที่ อินเดีย เบลเยี่ยม จีน รัสเซียครับ เพชรในเมืองไทย ผมว่าเกินกว่าร้อยละ 80% เจียรไนที่อินเดียครับ หวังว่าจะมีประโยชน์กับคุณ miracle บ้างนะครับ
หลักๆแล้วเพชรคงแบ่งคุณภาพตาม 4cs ของเพชรน่ะครับ
1. Color สี ยิ่งขาว ยิ่งสวยและยิ่งแพงครับ เริ่มจาก 100, 99, 98, 97,... (D, E, F, G,...) บ้านเรานิยมสีประมาณ 96-95% (H-I) หรือที่เรียกว่าน้ำ 96, 95 น่ะครับ
2. Clarity ความสะอาด คือตำหนิหรือมลทินภายในเพชร เมื่อมองด้วยกล้องขยายกำลังสิบเท่า เพชรยิ่งสะอาด หรือมีตำหนิน้อยก็จะยิ่งแพงครับ โดยแบ่งรายละเอียดเป็น
FL/IF - Internally Flawless เพชรซึ่งไร้ตำหนิเมื่อมองด้วยกล้องขยายกำลังสิบเท่า
VVS1-VVS2 - Very Very Slightly Included เพชรมีตำหนิขนาดเล็กมากๆ ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า เมื่อใช้กล่อง 10 เท่า อาจมองเห็น ถ้าชำนาญ และต้องใช้เวลาในการหาตำหนินานพอสมควร ส่วนมากต้องประมาณครึ่งนาทีขึ้นไปครับ ตำหนิเพชร VVS2 จะมีขนาดและ/หรือจำนวนมากกว่า VVS1
VS1-VS2 -Very Sightly Include เพชรมีตำหนิขนาดเล็กมาก ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า เมื่อใช้กล่อง 10 เท่า อาจมองเห็น ถ้าชำนาญ และต้องใช้เวลาในการหาตำหนิเพชรนานพอสมควร ส่วนมากต้องประมาณครึ่งนาทีขึ้นไปครับ เป็นเพชรที่ในสายตานักอัญมณีศาสตร์ หรือบุคคลทีีมีความรู้ในการดูเพชร เลือกซื้อเพชร เห็นว่าคุ้มค่าที่สุดครับ เพราะตำหนิมีขนาดเล็กมาก ไม่มีผลใดๆต่อความสวยงามของเพชรโดยรวม ถ้าเราเอาเพชร IF กับเพชร VS1-2 มาวางข้างกัน มองด้วยตาเปล่า เราจะไม่มีทางแยกได้เลยครับ ว่าเพชรเม็ดไหนเป็น IF เพชรเม็ดไหนเป็น VS1-2
SI1-3 - Slightly Included เพชรมีตำหนิขนาดเล็ก โดยมากไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า เมื่อใช้กล่อง 10 เท่า จะสามารถมองเห็นได้ทันที โดยไม่ต้องหาครับ เพชรคุณภาพนี้ ถ้าเลือกเป็นเลือกดีๆ อาจได้ของดีราคาถูกครับ เช่น SI1 บางเม็ดที่ตำหนิไม่ได้อยู่บริเวณกลางหน้าเพชร และไม่มีสี ถือเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ามากครับ เพชรคุณภาพนี้เป็นที่นิยมมากในประเทศแทบตะวันตก แต่ไม่ค่อยนิยมในเมืองไทย (เมืองไทยจะนิยม VVS1, VVS2, VS1) ผมไม่แน่ใจว่าเพราะอะไรเหมือนกัน
I1-3 - (Imperfect 1-3) เพชรมีตำหนิขนาดใหญ่ สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าครับ เพชรคุณภาพนี้แนะนำให้หลีกเลี่ยงครับ เพราะตำหนิ หรือรอยแตก รอยร้าว มีขนาดใหญ่ มีผลต่อความสวยงามและความคงทนของเพชร
3. Cut - การเจียรไน ได้แก่ คุณภาพในการเจียรไน ความสมมาตร (Symmetry) และการขัดเงาที่ผิว (Finish) แบ่งคุณภาพออกเป็น Excellent, Very Good, Good, Fair, Poor ควรเลือกเพชรเกรด Excellent หรือ Very Good ครับ คุณสมบัติอื่นๆของเพชร เราอาจประหยัดได้ อาจเลือกสีแค่ I (95) ความสะอาดแค่ VS2 แต่การเจียรไนอย่าประหยัดนะครับ เพราะมีผลโดยตรงต่อความสวยงามของเพชรโดยรวม อันได้แก่ การสะท้อนแสง ประกายเพชร ไฟ และความระยิบระยับ (Light Return, Brilliancy, Fire, Scintillation) จริงๆแล้วในเรื่อง Cut ยังต้องดูรายละเอียดสัดส่วนอีกว่า เพชรเม็ดนั้นๆ เป็น เกรด ใด Class1, 2, 3, 4 แต่ผมกลัวจะยาวไป
4. Carat - สุดท้ายคงเป็นเรื่องขนาดครับ เพชรยิ่งเม็ดใหญ่ ยิ่งหายาก และราคาต่อกะรัตยิ่งสูงครับ เช่นเพชร น้ำ 98, 40 ตังค์ VS1 ราคาต่อกะรัตประมาณ 102000 ต่อเม็ดประมาณ 40800 แต่ถ้าเป็นคุณภาพเดียวกัน ขนาด 50 ตังค์ ราคา ราคาต่อกะรัตประมาณ 136000 และต่อเม็ดประมาณ 68000 ครับ
5. Certificate เพิ่มเติมจาก 4cs ของเพชร คงต้องเป็น Certificate หรือ Diamond Report ครับ Certificate คือใบรับรองคุณภาพออกโดยสถาบันอัญมณีที่เป็นบุคคลที่สามครับ ถ้าซื้อเพชรไม่มีเซอร์ ก็เหมือนซื้อหุ้นไม่ได้ดูงบละครับ เพราะเราจะรู้ได้ไงครับว่า เพชรเม็ดนั้นๆเป็นเพชรแท้ หรือเพชรเทียม น้ำเท่าไหร่่ ความสะอาดอะไร จะเชื่อคนขายอย่างเดียว โอกาสผิดพลาดมีสูงมากครับ เพราะร้านค้าเพชรส่วนใหญ่ ไม่มีบุคคลากร และเครื่องมือเพียงพอที่จะตรวจสอบคุณภาพเพชรได้อย่างแม่นยำครับ บางครั้ง ร้านอาจไม่ได้ตั้งใจโกง แต่พ่อค้าส่งเพชรบอกน้ำ 97 ร้านก็บอกว่า 97 ตามครับ ซึ่งจริงๆแล้ว 90% จะเหลือแค่ 96 หรือ 95 ครับ
สำหรับราคาเพชร ดูได้ที่นี่ เป็น guideline คร่าวๆนะครับ
http://www.geleediamond.com/pricelist.html
แหล่งผลิตเพชร ถ้าเป็นเหมืองเพชรก้อน ส่วนใหญ่อยู่ที่ แอฟริกา รัสเซีย อินเดีย แคนาดา ถ้าเป็นแหล่งเจียรไนเพชร ส่วนใหญ่อยู่ที่ อินเดีย เบลเยี่ยม จีน รัสเซียครับ เพชรในเมืองไทย ผมว่าเกินกว่าร้อยละ 80% เจียรไนที่อินเดียครับ หวังว่าจะมีประโยชน์กับคุณ miracle บ้างนะครับ
- simplelife
- Verified User
- โพสต์: 756
- ผู้ติดตาม: 0
ถามสาวๆๆ เท่านั้น (หนุ่มไม่เกี่ยว)
โพสต์ที่ 23
ขออีกนิด ไม่รู้ว่าจะเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนหรือเปล่า เพราะไม่ใช่คนในวงการจริงๆ แต่สงสัยนิดนึงว่าถ้าไว้ใจร้านไม่ได้ แล้วจะเชื่อได้ยังไงหละครับว่า ใบ certificate เป็นใบที่ออกมากับเพชรเม็ดนั้นจริงๆ ยิ่งถ้าอยู่บนตัวเรือนแล้วยิ่งดูยากขึ้นไปอีก นอกจากว่าจะเป็นใบแบบที่มียิง laser engraved ของอเมริกา แล้วบังเอิญมันอยู่ในมุมที่เห็นได้momo29 เขียน:5. Certificateถ้าซื้อเพชรไม่มีเซอร์ ก็เหมือนซื้อหุ้นไม่ได้ดูงบละครับ เพราะเราจะรู้ได้ไงครับว่า เพชรเม็ดนั้นๆเป็นเพชรแท้ หรือเพชรเทียม น้ำเท่าไหร่่ ความสะอาดอะไร จะเชื่อคนขายอย่างเดียว โอกาสผิดพลาดมีสูงมากครับ เพราะร้านค้าเพชรส่วนใหญ่ ไม่มีบุคคลากร และเครื่องมือเพียงพอที่จะตรวจสอบคุณภาพเพชรได้อย่างแม่นยำครับ บางครั้ง ร้านอาจไม่ได้ตั้งใจโกง แต่พ่อค้าส่งเพชรบอกน้ำ 97 ร้านก็บอกว่า 97 ตามครับ ซึ่งจริงๆแล้ว 90% จะเหลือแค่ 96 หรือ 95 ครับ
ผมว่ามองในมุมกลับแทนดีกว่าครับ ซื้อเพชรเอาแบบที่เรา(แฟน)ใส่แล้วถูกใจ สีสวยไฟดี ถ้าตาดีก็เอาแบบตำหนิน้อยๆเล็กๆ ถ้ามองไม่เห็นจริงๆเอามีตำหนิหน่อยก็ได้ แต่อย่าให้บิ่นหรือร้าว ของแบบนี้ซื้อมาใช้งานครับ ไม่ได้ซื้อเพื่อผลกำไรหรือเพื่อมาขายเหมือนหุ้น
เริ่มชักงง ใบเซอร์นี่หมายถึงใบที่ร้านออกให้ (แบบระบุว่าทองหนักเท่าไร เพชรใหญ่เท่าไร) หรือใบที่เป็นภาษาอังกฤษระบุแต่รายละเอียดเพชรครับnaris เขียน: ส่วนใบเซอร์ก็มีให้ครับต้องเก็บไว้ให้ดี เพราะถ้าหายเขาก็อาจจะไม่รับเปลี่ยนคืน
-
- Verified User
- โพสต์: 249
- ผู้ติดตาม: 0
ถามสาวๆๆ เท่านั้น (หนุ่มไม่เกี่ยว)
โพสต์ที่ 24
จริงอย่างที่คุณ simple life ว่าครับ ถ้าจะให้ดีก็ให้เลือกแบบที่มียิงเลเซอร์ทีขอบ (Laser inscription) จะได้ตรวจสอบได้ภายหลัง หรือ ถ้าไม่มีเลเซอร์ ให้ใช้วิธีวัดหน้าเพชร และความหนาเพชร ด้วยเครื่องมือแบบละเอียดที่มีหน่วยเป็นมิลลิเมตร ทศนิยมสองตำแหน่งครับ เพราะยากที่จะหาเพชรหน้ากว้าง และความ :)
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
ถามสาวๆๆ เท่านั้น (หนุ่มไม่เกี่ยว)
โพสต์ที่ 25
ขอแจมเรื่องเพชร หน่อยนะ พึ่งมีประสบการณ์
ในการเลือกซื้อมาหมาดๆ
เซอร์ไพรส์ แฟนมาเหมือนกันนะชง
(เดี๋ยวได้วันดีจะชงคนแรก)
ก่อนซื้อ ไม่มีความรู้เลยสักนิดเดียวจริงๆ
รู้แต่ว่า เพชรมันต้องวาวๆ :D
ผมเลยต้องไปซื้อที่ร้านที่เขามีชื่อเสียงมานาน เซื่อถือได้
และมีต้องมีเซอร์ให้ด้วย อย่างน้อยทำให้ผมสบายใจว่า
ผมเอากลับมาขายคืนให้เขาได้
ผมก็ซื้อแถวตรอกหม้อ
อย่างที่คุณ momo29 บอกข้างบนแหละครับเป็น
ความรู้ทางสากลเบื้องต้นที่ ใครคิดจะซื้อเพชรควรรู้
ในใบเซอร์ที่มากับเพชรเม็ดนั้น ก็จะบอกทั้ง สี่ข้อ นั้น
สำหรับสถาบันที่ออกใบเซอร์ที่ได้รับการยอมรับกว้างขวาง
คือ GIA ( Gemological Institute of America)
เอ...ว่าแต่ว่า พี่มิ กำลังคิดทำอะไรหนา ถึงอยากรู้เรื่องเพชร
จะซื้อเพชรให้แฟน?
จะเปิดร้านขายเพชร ?
หรือ จะเปิดตลาดซื้อขายเพชรล่วงหน้า?
ในการเลือกซื้อมาหมาดๆ
เซอร์ไพรส์ แฟนมาเหมือนกันนะชง
(เดี๋ยวได้วันดีจะชงคนแรก)
ก่อนซื้อ ไม่มีความรู้เลยสักนิดเดียวจริงๆ
รู้แต่ว่า เพชรมันต้องวาวๆ :D
ผมเลยต้องไปซื้อที่ร้านที่เขามีชื่อเสียงมานาน เซื่อถือได้
และมีต้องมีเซอร์ให้ด้วย อย่างน้อยทำให้ผมสบายใจว่า
ผมเอากลับมาขายคืนให้เขาได้
ผมก็ซื้อแถวตรอกหม้อ
อย่างที่คุณ momo29 บอกข้างบนแหละครับเป็น
ความรู้ทางสากลเบื้องต้นที่ ใครคิดจะซื้อเพชรควรรู้
ในใบเซอร์ที่มากับเพชรเม็ดนั้น ก็จะบอกทั้ง สี่ข้อ นั้น
สำหรับสถาบันที่ออกใบเซอร์ที่ได้รับการยอมรับกว้างขวาง
คือ GIA ( Gemological Institute of America)
เอ...ว่าแต่ว่า พี่มิ กำลังคิดทำอะไรหนา ถึงอยากรู้เรื่องเพชร
จะซื้อเพชรให้แฟน?
จะเปิดร้านขายเพชร ?
หรือ จะเปิดตลาดซื้อขายเพชรล่วงหน้า?
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
- LittleChicky
- Verified User
- โพสต์: 277
- ผู้ติดตาม: 0
ถามสาวๆๆ เท่านั้น (หนุ่มไม่เกี่ยว)
โพสต์ที่ 26
ขอบคุณครับพี่ Naris เท่าที่ฟังในมุมมองลูกค้าคงแค่อยากได้ของแท้ สวยงามและราคาตามงบที่ตั้งไว้ ส่วนรายละเอียดคงไม่ค่อยได้สนใจกันมากนัก เพราะเท่าที่ฟังก็มึนๆแล้วครับ :lol: รายละเอียดเยอะมากnaris เขียน: พี่ไม่มีความรู้เรื่องเพชรครับ และพี่คิดว่าคุณค่าของเพชรอยู่ที่ชื่อของมัน ส่วนมูลค่าที่ซื้อจริงๆยังไงก็ขาดทุนเงินตั้งแต่ซื้อแล้วครับ
พี่จะใช้หลักว่า เลือกร้านที่คิดว่าไม่เจ๊งหายไปจากวงการและเปิดมานานมากๆแล้ว เพราะการซื้อเพชรจะของแท้หรือเทียม(ถ้าเจาหลอกเรา) ถ้าไปขายหรือเปลี่ยนที่ร้านเดิมเขาจะรับซื้อและรับเทิร์นครับ โดยค่าขายค่าเปลี่ยนจะถูกหักจากราคาซื้อ10-30%(แต่ต้องไม่มีตำหนินะครับ) และที่ซื้อไปให้แฟนและถ้าแฟนไม่ชอบร้านเขาจะให้เปลี่ยนฟรีได้โดยไม่เสียค่ากำเหน็ดครับ ส่วนใบเซอร์ก็มีให้ครับต้องเก็บไว้ให้ดี เพราะถ้าหายเขาก็อาจจะไม่รับเปลี่ยนคืน
นักลงทุนผู้ชาญฉลาดไม่ควรซื้อหุ้นสามัญเพียงเพราะว่ามันมีราคาถูก แต่ควรซื้อเฉพาะว่ามันสัญญาว่าจะทำกำไรงดงามให้กับเขา...ฟิลลิป เอ พิชเชอร์
- Renne
- Verified User
- โพสต์: 322
- ผู้ติดตาม: 0
ถามสาวๆๆ เท่านั้น (หนุ่มไม่เกี่ยว)
โพสต์ที่ 27
เอ ไม่ได้เป็นผู้หญิงแต่มา่ตอบได้ไหมครับ ฮา พอดีเรียนมาด้านพวกนี้ (แต่ผมหนักไปทางน้ำมัน geophysic กับธรณีวิทยาโครงสร้างมากกว่า อาจจะได้พื้นๆและงูๆปลาๆนิดๆ ถ้าใครมีข้อมูล เอามาเสริมได้นะครับ ^^")
ปรกติิเพชรตามท้องตลาดนี่ แยกกันจริงๆมี 3 แบบครับ คือพวกเพชรแท้(ได้มาจากเหมืองจริงๆ) เพชรสังเคราะห์(สร้างขึ้นมาเองทางวิทยาศาสตร์ครับ) แล้วก็เพชรปลอม
ในกรณีของเพชรสังเคราะห์นั้น ต้องบอกว่าคุณสมบัติแทบจะเหมือนเพชรแท้ทุกประการ ต่างกันแค่วิธีการเกิดครับ (ทางวิทยาศาสตร์ในห้องทดลองกับทางธรรมชาติ) วิธีการก็ใช้คาร์บอนมาผ่านอุณหภูมิและความดันสูงครับ(รายละเอียดไม่ขอพูดถึงนะครับ) อย่างในต่างประเทศ(หรือในประเทศไทยน่าจะมีแล้วนะ)ก็มีการนำเอากระดูกคนที่ตายไปแล้ว สกัดเอาคาร์บอนออกมา สร้างเป็นเพชรก็มีครับ
เอากรณีเพชรแท้กับเพชรสังเคราะห์ก่อนนะครับ ปัจจุบันการผลิตวิวัฒนาการไปมาก ทำให้แทบจะเหมือนกันจริงๆ ดูด้วยตาเปล่ายากหรือแทบจะไม่มีทางแยกออกถ้าไม่ใช้เครื่องมือครับ แต่เรื่องนี้แทบไม่ต้องกังวล เนื่องจากต้นทุนการผลิตเพชรสังเคราะห์ ราคาสูงกว่าเพชรจริงครับ
พอแบบนี้ก็อาจจะเกิดคำถามขึ้นมา แล้วจะสังเคราะห์มาเพื่ออะไร? เหตุผลนอกเหนือจากธุรกิจข้างต้นแล้ว เพชรสังเคราะห์มักจะใช้กับเครื่องมือเช่นพวกหัวกัด หัวสว่านครับ เนื่องจากเพชรสังเคราะห์นั้นมีการจัดเรียงโครงสร้างที่เป็นระเบียบและีดีกว่าเพชรที่เกิดตามธรรมชาติ จึงทำให้แข็งและทนกว่าครับ
ส่วนเพชรปลอมกับเพชรจริง อันนี้นี่ต้องดูืที่หลายอย่างครับ ส่วนมากต้องอาศัยประสบการณ์ครับ เพราะวัสดุสังเคราะห์เพชรปลอมมีหลายตัวครับ แต่ส่วนมากมีวิธีดูคร่าวๆแบบนี้ครับ
- เช็คง่ายๆโดยดูที่ความแข็ง ให้นำไปขูดกระจกดู ถ้าขูดเข้าก็ผ่านระดับนึง แต่อย่าเพิ่งเชื่อนะครับ ปรกติกระจกส่องหน้าจะมีความแข็งประมาณ 5.5 ครับ ฉะนั้นธาตุทีี่แข็งพอจะขูดเข้า จะเหลือแค่ เฟลสปาร์ ควอซด์ โทเปช คอรันดัม แล้วก็เพชรครับ อาจจะมีตัวอื่นบ้าง แต่หลักๆคือพวกนี้ครับ มีบางคนเข้าใจผิด คิดว่ากระจกแข็ง 7 (เท่ากับควอซซึ่งก็คือแก้วนั่นแหละ)จริงๆไม่ใช่ครับ เพราะกระจกมีการผสมสารอื่นเข้าไปด้วย ไม่ได้ บริสุทธิ์เพรียวๆ ในกรณีของเฟลสปาร์ โทเปช ตัดทิ้งครับ เพราะยังไงก็ไม่เหมือนเพชร ส่วนคอรันดัมหายากมากๆ คงไม่มีใครเอามาทำ จึงเหลือแต่ควอซหรือก็คือแก้วครับ ที่ใช้นำมาทำเพชรปลอมบ่อยๆ
- ในกรณีของควอซ(แก้ว) กับเพชร เพชรแท้จะเล่นแสงมากกว่าเนื่องจากมีการหักแหแสงได้มากกว่าครับ (อันนี้ถ้าคนเคยเห็นทั้งสองแบบ หรืออยู่ในวงการนานๆ บางทีดูแป๊ปๆจะพอแยกได้ครับ) เอาเป็นว่าอย่างน้อยๆเพชรต้องเงาสะท้อนระดับพวกเหล็กหรือพวกโลหะทั้งหลาย ถ้าด้านๆละก็ ให้คิดว่าเป็นของปลอมได้เลยครับ (ในทางทฤษฏีอาจจะไม่ถูกเป๊ะๆนะครับ เนื่องจากความวาวเพชรจัดเป็นวาวคนละแบบกับวาวโลหะนะครับ)
- สังเกตบริเวณเหลีี่ยมของเพชรทุกด้าน ถ้าเป็นเพชรแท้ ส่วนใหญ่(ย้ำว่าส่วนใหญ่นะครับ) เหลี่ยมจะไม่มีรอยสึก อาจจะมีน้อยเคสมากๆที่เหลี่ยมสึก เอาเป็นว่าเจอเหลี่ยมมีรอยสึก เดาว่าเป็นของปลอมก่อนได้เลยครับ และเนื้อเพชรจะไม่เห็นตำหนิชัดๆ ลองหยิบมาส่องดู บางทีของปลอมเกรดต่ำนี่ เห็นฟองอากาศข้างในด้วยครับ
- หาความถ่วงจำเพาะของเพชรครับ หรือใช้เครื่องมือจี้เพชรทดสอบ (แต่อันนี้เราคงทำกันเองไม่ได้ ถ้าไม่มีเครื่องมือ)
- เรื่องการกระจายแสงนี่ อันนี้คงต้องมีประสบการณ์ครับ เพชรจะค่อนข้างมีการกระจายแสงที่สูงครับ (เห็นแววเป็นรุ้งๆนั่นแหละ) แต่เพชรปลอมบา่งทีก็จะสูงกว่า (หรือต่ำกว่าก็มี) อันนี้ต้องเห็นบ่อยๆ หรือเคยดูครับ
- บางครั้งให้เอาปากกาดำเส้นเล็กๆขีดลงบนกระดาษ แล้วเอาเพชรวางทับ ถ้ามองทะลุเห็นเส้นดำ จะเป็นเพชรปลอมครับ เพชรจริงจะไม่เห็น เนื่องจากคุณสมบัติการหักเหของเพชรครับ (อันนี้จำผิดท้วงได้นะครับ เพราะลืมๆไปเหมือนกัน)
- วัสดุทำเพชรปลอมนี่มีหลายแบบครับ ในบ้านเราส่วนใหญ่เพชรปลอมทำจากแก้วครับ, คิวบิคเซอคอเนีย(เรียกกันว่าเพชรรัชเซียครับ ถ้าสะกดภาษาอังกฤษผิดขออภัยด้วยนะครับ จำไม่ค่อยได้แล้ว ตัวนี้เนียนสุดครับ)
จริงๆยังจะมีวิธีดูในแบบอื่นๆอีกครับ แต่ผมจำไม่ได้แล้ว ^^" ขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ ถ้าข้อมูลตรงไหนผิด สามารถแย้งและทักท้วงได้นะครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยครับ
ปรกติิเพชรตามท้องตลาดนี่ แยกกันจริงๆมี 3 แบบครับ คือพวกเพชรแท้(ได้มาจากเหมืองจริงๆ) เพชรสังเคราะห์(สร้างขึ้นมาเองทางวิทยาศาสตร์ครับ) แล้วก็เพชรปลอม
ในกรณีของเพชรสังเคราะห์นั้น ต้องบอกว่าคุณสมบัติแทบจะเหมือนเพชรแท้ทุกประการ ต่างกันแค่วิธีการเกิดครับ (ทางวิทยาศาสตร์ในห้องทดลองกับทางธรรมชาติ) วิธีการก็ใช้คาร์บอนมาผ่านอุณหภูมิและความดันสูงครับ(รายละเอียดไม่ขอพูดถึงนะครับ) อย่างในต่างประเทศ(หรือในประเทศไทยน่าจะมีแล้วนะ)ก็มีการนำเอากระดูกคนที่ตายไปแล้ว สกัดเอาคาร์บอนออกมา สร้างเป็นเพชรก็มีครับ
เอากรณีเพชรแท้กับเพชรสังเคราะห์ก่อนนะครับ ปัจจุบันการผลิตวิวัฒนาการไปมาก ทำให้แทบจะเหมือนกันจริงๆ ดูด้วยตาเปล่ายากหรือแทบจะไม่มีทางแยกออกถ้าไม่ใช้เครื่องมือครับ แต่เรื่องนี้แทบไม่ต้องกังวล เนื่องจากต้นทุนการผลิตเพชรสังเคราะห์ ราคาสูงกว่าเพชรจริงครับ
พอแบบนี้ก็อาจจะเกิดคำถามขึ้นมา แล้วจะสังเคราะห์มาเพื่ออะไร? เหตุผลนอกเหนือจากธุรกิจข้างต้นแล้ว เพชรสังเคราะห์มักจะใช้กับเครื่องมือเช่นพวกหัวกัด หัวสว่านครับ เนื่องจากเพชรสังเคราะห์นั้นมีการจัดเรียงโครงสร้างที่เป็นระเบียบและีดีกว่าเพชรที่เกิดตามธรรมชาติ จึงทำให้แข็งและทนกว่าครับ
ส่วนเพชรปลอมกับเพชรจริง อันนี้นี่ต้องดูืที่หลายอย่างครับ ส่วนมากต้องอาศัยประสบการณ์ครับ เพราะวัสดุสังเคราะห์เพชรปลอมมีหลายตัวครับ แต่ส่วนมากมีวิธีดูคร่าวๆแบบนี้ครับ
- เช็คง่ายๆโดยดูที่ความแข็ง ให้นำไปขูดกระจกดู ถ้าขูดเข้าก็ผ่านระดับนึง แต่อย่าเพิ่งเชื่อนะครับ ปรกติกระจกส่องหน้าจะมีความแข็งประมาณ 5.5 ครับ ฉะนั้นธาตุทีี่แข็งพอจะขูดเข้า จะเหลือแค่ เฟลสปาร์ ควอซด์ โทเปช คอรันดัม แล้วก็เพชรครับ อาจจะมีตัวอื่นบ้าง แต่หลักๆคือพวกนี้ครับ มีบางคนเข้าใจผิด คิดว่ากระจกแข็ง 7 (เท่ากับควอซซึ่งก็คือแก้วนั่นแหละ)จริงๆไม่ใช่ครับ เพราะกระจกมีการผสมสารอื่นเข้าไปด้วย ไม่ได้ บริสุทธิ์เพรียวๆ ในกรณีของเฟลสปาร์ โทเปช ตัดทิ้งครับ เพราะยังไงก็ไม่เหมือนเพชร ส่วนคอรันดัมหายากมากๆ คงไม่มีใครเอามาทำ จึงเหลือแต่ควอซหรือก็คือแก้วครับ ที่ใช้นำมาทำเพชรปลอมบ่อยๆ
- ในกรณีของควอซ(แก้ว) กับเพชร เพชรแท้จะเล่นแสงมากกว่าเนื่องจากมีการหักแหแสงได้มากกว่าครับ (อันนี้ถ้าคนเคยเห็นทั้งสองแบบ หรืออยู่ในวงการนานๆ บางทีดูแป๊ปๆจะพอแยกได้ครับ) เอาเป็นว่าอย่างน้อยๆเพชรต้องเงาสะท้อนระดับพวกเหล็กหรือพวกโลหะทั้งหลาย ถ้าด้านๆละก็ ให้คิดว่าเป็นของปลอมได้เลยครับ (ในทางทฤษฏีอาจจะไม่ถูกเป๊ะๆนะครับ เนื่องจากความวาวเพชรจัดเป็นวาวคนละแบบกับวาวโลหะนะครับ)
- สังเกตบริเวณเหลีี่ยมของเพชรทุกด้าน ถ้าเป็นเพชรแท้ ส่วนใหญ่(ย้ำว่าส่วนใหญ่นะครับ) เหลี่ยมจะไม่มีรอยสึก อาจจะมีน้อยเคสมากๆที่เหลี่ยมสึก เอาเป็นว่าเจอเหลี่ยมมีรอยสึก เดาว่าเป็นของปลอมก่อนได้เลยครับ และเนื้อเพชรจะไม่เห็นตำหนิชัดๆ ลองหยิบมาส่องดู บางทีของปลอมเกรดต่ำนี่ เห็นฟองอากาศข้างในด้วยครับ
- หาความถ่วงจำเพาะของเพชรครับ หรือใช้เครื่องมือจี้เพชรทดสอบ (แต่อันนี้เราคงทำกันเองไม่ได้ ถ้าไม่มีเครื่องมือ)
- เรื่องการกระจายแสงนี่ อันนี้คงต้องมีประสบการณ์ครับ เพชรจะค่อนข้างมีการกระจายแสงที่สูงครับ (เห็นแววเป็นรุ้งๆนั่นแหละ) แต่เพชรปลอมบา่งทีก็จะสูงกว่า (หรือต่ำกว่าก็มี) อันนี้ต้องเห็นบ่อยๆ หรือเคยดูครับ
- บางครั้งให้เอาปากกาดำเส้นเล็กๆขีดลงบนกระดาษ แล้วเอาเพชรวางทับ ถ้ามองทะลุเห็นเส้นดำ จะเป็นเพชรปลอมครับ เพชรจริงจะไม่เห็น เนื่องจากคุณสมบัติการหักเหของเพชรครับ (อันนี้จำผิดท้วงได้นะครับ เพราะลืมๆไปเหมือนกัน)
- วัสดุทำเพชรปลอมนี่มีหลายแบบครับ ในบ้านเราส่วนใหญ่เพชรปลอมทำจากแก้วครับ, คิวบิคเซอคอเนีย(เรียกกันว่าเพชรรัชเซียครับ ถ้าสะกดภาษาอังกฤษผิดขออภัยด้วยนะครับ จำไม่ค่อยได้แล้ว ตัวนี้เนียนสุดครับ)
จริงๆยังจะมีวิธีดูในแบบอื่นๆอีกครับ แต่ผมจำไม่ได้แล้ว ^^" ขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ ถ้าข้อมูลตรงไหนผิด สามารถแย้งและทักท้วงได้นะครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยครับ
"มีสติ คิดก่อนทำ และอย่าดูถูกตลาดมากเกินไป"
"เป็นเรื่องง่ายที่จะถือหุ้นเอาไว้ให้นานและี่ยากที่จะรอซื้อในราคาที่เหมาะสม"
"เป็นเรื่องง่ายที่จะถือหุ้นเอาไว้ให้นานและี่ยากที่จะรอซื้อในราคาที่เหมาะสม"
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4562
- ผู้ติดตาม: 0
ถามสาวๆๆ เท่านั้น (หนุ่มไม่เกี่ยว)
โพสต์ที่ 28
[quote="picatos"]เรื่องซื้อเพชรนี่... ถ้าผู้ชายซื้อ จะซื้อโอกาสพิเศษให้ผู้หญิง
แต่ถ้าผู้หญิงซื้อนี่... ส่วนใหญ่จะเห็นซื้อเพื่อความบันเทิงใจซะมากกว่า...
แต่ถ้าผู้หญิงซื้อนี่... ส่วนใหญ่จะเห็นซื้อเพื่อความบันเทิงใจซะมากกว่า...
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
-
- Verified User
- โพสต์: 103
- ผู้ติดตาม: 0
ถามสาวๆๆ เท่านั้น (หนุ่มไม่เกี่ยว)
โพสต์ที่ 29
เป็นผู้หญิงคะ แต่ไม่รู้มากขนาดนั้นนะคะ ธรรมดาถ้าซื้อใส่เองเล่นๆจะซื้อกับเพื่อนสนิทที่ขายเพชรอยู่คะ แต่ถ้าแบบจี๊ดๆที่ใฝ่ฝันเลยนะคะ ต้องเป็นเพชร lube clean แบบไร้ตำหนิเลย และขอเป็น cut แบบ excellent เลยนะคะ ส่วนสีนี่ขอเป็น 98 up เนอะๆ แต่มันจะแพงมากๆๆ (สวยมากๆ ด้วยคะ) เคยไปดูที่ร้าน dmond นะคะ เขาจะมีชื่อเรียกเฉพาะกับ spec ที่ว่านี้ ว่ามันเป็น cut แบบพิเศษ เรียกว่า power of love อะไรประมาณนี้ ไม่แน่ใจเท่าไรคะ เพราะไม่ได้ดูมานานแล้ว เอาเงินมาซื้อหุ้นน่าจะ work กว่าคะ ล่าสุดวันเกิดแฟนจะซื้อเพชรให้เป็นของขวัญ แต่ไม่เอาคะ ขอเป็น cash แทน 55555555
อืม....หรือลองถามคนที่คุณจะซื้อเพชรให้ไม๊คะว่า จะเอาเพชร หรือเอาหุ้นดี....ถ้าเป็นเรา เราเลือกหุ้นคะ หุ้นดีๆ มีค่ากว่าเพชรสวยๆเยอะคะ :D
ขำๆ นะคะ ถือว่าเข้ามาป่วนนะจ๊ะ... :lol:
อืม....หรือลองถามคนที่คุณจะซื้อเพชรให้ไม๊คะว่า จะเอาเพชร หรือเอาหุ้นดี....ถ้าเป็นเรา เราเลือกหุ้นคะ หุ้นดีๆ มีค่ากว่าเพชรสวยๆเยอะคะ :D
ขำๆ นะคะ ถือว่าเข้ามาป่วนนะจ๊ะ... :lol:
- green-orange
- Verified User
- โพสต์: 896
- ผู้ติดตาม: 0
ถามสาวๆๆ เท่านั้น (หนุ่มไม่เกี่ยว)
โพสต์ที่ 30
ผมว่าผู้หญิงเค้าไม่ค่อยชอบเพรชหรอกครับ เค้าชอบเงินมากกว่า ยกเว้นว่าตอนเงินเหลือๆแล้ว ค่อยจะไปหาซื้ออย่างอื่น อิอิ ก็เปรียบได้กับของจำเป็นต้องมาก่อน ส่วนของฟุ่มเฟื่อยค่อยซื้อตอนมีเงินเหลือครับ