ห้องนี้กับห้องนั้นมันแตกต่างกันมากเลยครับ

[naris]

ผมว่าสำคัญที่สุดคือ "ความสุขในระหว่างการลงทุนครับ"

บางคนเขาชอบขี่ม้าชมสวนเพื่อจะไปถึงเป้าหมายโดยเร็ว....แต่ผมขอเดินทอดน่องชมสวนเก็บดอกไม้สวยๆตามทางไปเรื่อยๆ....สักวันก็ถึงเหมือนกัน และแถมพอถึงเป้าหมายผมจะมีดอกไม้สวยๆติดมือมาอีกเพียบเลยครับ

[nanchan]

ผมว่ากระทู้นี้เค้าก็เขียนสนุกดีนะครับ แถมได้เกร็ดความรู้บ้างเล็กน้อย
ถึงจะรู้แล้วก็ตาม ก็เอาไปเติมอีกหน่อย
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 45630.html
บางทีเราเคยมองกลับมาที่ตัวเราบ้างเปล่า สถานที่ ไม่ใช่ที่ทำให้เราจิตตก
แต่ตัวคุณเองนั่นแหละ ที่ทำให้จิตมันตกเอง

การจะรับสิ่งใดเข้าโสตประสาท บางทีก็ต้องเลือกรับ เห็นแล้วก็ผ่านไปบ้างถ้าไม่ดีนัก เห็นแล้วก็รับมาจดจำบ้าง ถ้ามันจะมีดี

[คลายเครียด]

บางทีความทุกข์ของเรา ไม่ว่าเรื่องไหนก็ตาม
มันเกิดจากการเอาตัวกู ของกูไปเปรียบเทียบกับคนอื่่น ของอื่นครับ

ทำไมวิธีลงทุนของฉัน ถึงสู้วิธีลงทุนของคนอื่นไม่ได้ ?
ทำไมวิธีลงทุนแนวใหม่ของฉัน  สู้วิธีลงทุนแนวเดิมไม่ได้ ?
เรารู้สึกว่า  แนวทางการลงทุนของเรา  ต้องดีกว่าของคนอื่นหรือเปล่า ?

ดังนั้น อะไรที่เปรียบเทียบไปแล้วทำให้เกิดทุกข์
ก็อย่าพยายามไปเปรียบเทียบมันเลย  

ถ้าอยากจะเปรียบเทียบ
ก็ให้เปรียบเทียบกับความสูขความทุกข์ตัวเราเองดีกว่า

เช่น  ถ้าเราไม่เคยรับรู้ผลกำไรของคนอื่น  

การลงทุนทุกวันนี้  

เรามีความพึงพอใจกับชีวิตมากกว่าการลงทุนที่ผ่านมาหรือไม่
ไม่ใช่ พึงพอใจเมื่อเปรียบเทียบกับตัวเอง
แต่ไม่พึงพอใจ เมื่อเอาไปเปรียบเทียบกับคนอื่น

ถ้าเป็นแบบนั้น  
ผมก็คงต้อง ไม่มีความพึงพอใจในชีวิตของตัวเองไปจนตาย
เพราะลงทุนมาสามสิบปี  
ยังได้กำไรน้อยกว่าคนที่ลงทุนมาแค่สามเดียว  
อย่างเช่นคุณลูกอิสาน  คุณนริส   ฯลฯ

แต่เมื่อผมรู้สึกพึงพอใจในชีวิตตัวเอง
ต่อให้วอเรน บุฟเฟต์
ก็ไม่ได้มีความทางใจมากไปกว่าผมหรอกนะ
แม้พอร์ตจะโตกว่าผมแสนเท่า


:lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

[คลายเครียด]

พิพม์เร็วไปหน่อยครับ

ขอแก้ไขคำที่พิมพ์ตกไป และเสริมเพิ่มเล็กน้อย


ยังได้กำไรน้อยกว่าคนที่ลงทุนมาแค่สามปี
อย่างเช่นคุณลูกอิสาน  คุณนริส  
และคนอีกจำนวนในเวบที่ไม่ได้เอ่ยนาม

แต่เมื่่อผมรู้สึกมีพึงพอใจในชีวิตตัวเอง
ต่อให้วอเรน บุฟเฟต์
ก็ไม่ได้มีความสุขทางใจมากไปกว่าผมหรอกนะ
แม้พอร์ตจะโตกว่าผมแสนเท่า  ล้านเท่า

[chatchai]

ถ้าหุ้นที่เราไม่เคยดู  ไม่เคยวิเคราะห์  จะวิ่งไปซักเท่าไร  เราก็ไม่ค่อยจะรู้สึกอะไร

แต่ถ้าเป็นหุ้นที่เราเฝ้าดู  เฝ้าวิเคราะห์  แต่ไม่ได้ซื้อ  หรือแม้แต่ซื้อน้อย  เราจะรู้สึกทุกข์ทันทีที่ราคาหุ้นวิ่ง

ชีวิตนักลงทุนที่มีความสุขในการลงทุน  ผมว่าอยากกว่าลงทุนแล้วมีกำไรอีกนะครับ

[RONNAPUM]

ทำไมผมอยู่บ้านนี้ แล้วผมยังขาดทุนหว่า
อ่ะ อยู่บ้านนี้แต่ไม่ได้ทำตามบ้านนี้เท่าไหร่ด้วย อิอิอิ

แต่ทำไมไม่ทุกข์ หว่า  
อือ... เมื่อไหร่ วิ่งตามตัวเรา ก็ทุกเมื่อนั้น

หัวเราะเขาไว้ อิอิอิอิ  :lol:  :lol:  :lol:

[อนัตตา]

ห้องนู้นผมไม่เคยเข้านะ แต่ผมก็ไม่เชิงเป็น VI
100% เล่นหุ้นมาแปดปี (แต่ไม่ต่อเนื่อง) หลง
ระเริงกับกำไร เอาเงินไปถอยรถป้ายแดง เที่ยว
กลางคืน ส่วนนึงเอาไปเปิดบริษัทกับเพื่อน แต่
ก็ยังไม่ได้กำไรซักที มีแต่คนซื้อ ไม่มีคนจ่ายตังค์
:lol: ตอนนี้ก็แค่ประคองตัวให้รอดไปเป็นเดือนๆ

ผลปรากฏว่า ที่ผ่านมาเราเสียเวลากับสิ่งเหล่า
นั้นไปมาก ไม่มีความสุขในชีวิตเลย ได้มามาก
ก็เสียมาก สุดท้ายก็เลยกลับมาเอาจริงเอาจัง
กับการเป็น VI เมื่อต้นปีนี้นี่เอง เพราะที่ผ่านมา
สอนเรามากมายว่า การซื้อๆ ขายๆ ทำให้จิตเรา
ไม่สงบเย็น การเปิดบริษัทเองนั้นต้องคุมคนเยอะ
ปัญหาก็เยอะ ไม่มีเวลาอ่านงบการเงินเลย

การลงทุนในหุ้นนั้นมันวิเศษจริงๆ เราไม่ต้องไป
ปวดหัวกับลูกน้อง ไม่ต้องมีเจ้านายมาตามจิก
คอยติดตามผลประกอบการห่างๆ หาข่าวบ้าง
สิ้นปีหรือกลางปีก็มีปันผล เวลาที่เหลือก็ทำงาน
หาเงินเพื่อเป็นกระสุนเม็ดใหม่ ชีวิตมีความสุข
ขึ้นเยอะเลยครับ มาถูกทางแล้วนะครับ

[SEHJU]

รู้สึกว่า vi มันเข้ากับตัวเราครับ
เพราะชีวิตอยากทำอะไรตั้งเยอะแยะ คงไม่มีเวลามานั่งหน้าจอดูหุ้นอ่ะครับ
ลงทุนแบบคนรุ่นใหม่ ลงทุนแบบ vi ครับผม อิอิ

สโลแกนนี้เท่ห์มาก......

ผมว่าแต่ละคนล้วนต่อสู้กันมาทั้งนั้นครับ.. ผมก็เช่นกัน สำคัญคือต้องสู้ต่อไป ให้กำลังใจและแบ่งปันกันครับ..

[holidaytours]

ผมเริ่มเล่นหุ้นช่วงแรกๆ ผมใช้บริการห้องสินธรเป็นประจำ
เมื้อกี้แวะไปสินธรมานั่งอ่านกระทู้ หลายๆกระทู้ ผมเกือบเกิดอาการจิตแตก ธาตุไฟเข้าแทรก เห็นสมาชิกที่นั่นๆหลายๆท่าน เอากำไรออกมาโชว์กัน จนผมรู้สึกอิจฉา (แต่คนขาดทุนเค้าคงไม่ออกมาพูดหรอกครับ) ที่ผมอยากจะสื่อให้ทุกท่านได้เข้าใจก็คือ สภาพจิตใจของผมในช่วงนี้ สับสนครับ

ใหม่ ๆ ก้น่าจะเป็นแบบนี้กันนะคับ
ต้องเอาชนะใจตัวเองให้ได้ก่อนครับ
อยากให้นึกถึงคนที่กำไรมาก ๆ แล้วสุดท้ายก็ขาดทุนมากๆ ด้วยครับ
หลายคนต้น ๆ อาจจะกำไรดี แต่ท้าย ๆ ขาดทุนยับเยิน

ผมเคยเห็นบางคน กำไรจนน่าอิจฉาจริงๆ
แต่สุดท้ายกลับพบว่า เมื่อเขายังเล่นหุ้นต่อไปเรื่อย ๆ
กลับขาดทุนจนย่อยยับ บางคนก็ถึงกับเลิกเล่นหุ้น
แต่ถึงกับฆ่าตัวตายนี่ เคยแต่ได้ยินแต่ในข่าวนะคับ
ก็สงสาร แล้วก็เห็นใจนะคับเวลาพบเห็นเหตุการแบบนี้
ในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

ผมคิดว่าชีวิตอยู่ท่ามกลางความหวาดกลัวแบบนี้
ไม่ใช่สไตล์ผมนะครับ
ผมชอบที่จะสร้างตัวเองไปอย่างช้า ๆ แต่มั่นคงมากกว่าครับ
การดำเนินชีวิตแบบ วีไอก็ทำให้ชีวิตมีความสุขไปด้วยครับ

[Linzhi]

[quote="chatchai"]ถ้าหุ้นที่เราไม่เคยดู

[naris]

เห็นตั่วเฮียที่เคารพของผมเขียนอย่างนั้นแล้วไม่สบายใจเลยเฮีย.

เอ๊ยเก่งระดับเขียนหนังสือมาสอนผมและคนอื่นๆได้นี่...สุดยอดของชีวิตแล้วครับ ส่วนผมที่ผ่านมาถือว่าโชคดีไปค่อนครึ่ง มีผีมือแค่เสี้ยวเดียวเองครับ

ส่วนเรื่องเปรียบเทียบนี่จริงอย่างพี่ฉัตรและตั่วเฮียว่าไว้ อย่าไปเทียบให้ทุกข์เลย มีความสุขในขณะลงทุนดีกว่า

[haruti]

เรื่องอารมณ์ นี่ว่ากันไม่ได้ ดูแค่ ลอกกระทงที่ผ่านมา ขายกันชนิดงงกันไปเลย ktb 8.6 lh 5.45  อันนี้ยกตัวอย่าง ง่ายๆถ้ากลับไปดูกระทู้ที่ผมโพสเอาไว้ว่า เชื่อไมว่า สิ้นปีจะถึง 800 จุดกว่า 80% มองไปที่ 600 ต้นๆทั้งนั้นครับ
ที่สำคัญ ผมมองว่า การเป็นvi ก็อาจจะเสียโอกาส ได้ เช่น ตอนptt 400 เกิดไม่ขาย เพราะ บทวิเคราะห์ ให้ 500 ขึ้นทั้งนั้น ต่อให้เก็บได้ตอน 31.5 บาท ก็คงรู้สึกเสียดาย
แล้วทางออก สำหรับผม มองยาว 2 ปีขึ้นไปไม่เป็น เพราะ คนที่มองออกน่าจะมีความรู้ทางด้าน เศรฐศาสตร์ พอสมควร ก็ต้องมองแนวโน้ม แค่1ปีข้างหน้า หรือ ไมก็หาหุ้นที่มีข่าวเฉพาะ ตัว
บางที่ก็ เล่นหุ้นที่เรามั่นใจ ใส่เกือบ 100%
บางที่ ยาวเอาเงินปันผล บางทีเล่นรอบสั่นๆ ก็แล้วแต่
แต่ที่สำคัญ จังหวะครับ อย่างเช่น ปี54 ทุกคนบอก ดอกเบี้ยขึ้น ต้องมาดู เงินเฟ้อ หรือ ปัญหา อะไร แล้วมันจะสะท้อนกลับมาที่ตลาดเมื่อไร q2 53 หรือ q3 53 กลุ่มไหนน่าจะได้ผลกระทบ
ดอกเบี้ยที่ขึ้น จะมีแนวโน้มรุนแรงไม
ใครอ่านได้ก่อน ก็ได้เปรียบครับ
แต่ถามว่า vi ต้องปรับตัวไม ก็ต้องน่าจะปรับนะ ส่วนเล่นสั้นก็ไหลไปตามสถานการณ์......
เลยมาสรุป(โดยต้วเองว่า) หลักสำคัญ ในการเล่น คือ แบ่งพอร์ทให้เป็น มากกว่าครับ
ส่วนไหนสั้น ส่วนไหนยาว มีเป้าหมายในใจ และมีเหตุผลในการซื้อ
เช่น เอาเงินปันผล หรือ ส่วนต่างราคา แล้วมาคำนวน ถ้าเอาส่วนต่างราคา แต่หุ้นไม่มีเงินปันผล ถ้าพลาดจะตัดขาดทุนเท่าไร
ส่วนเอาเงินปันผล เกิดราคาวิ่ง เท่ากับเงินปันผล 5 ปี น่าจะขายไม
มีเทคนิค การเล่นอีกมากมายครับ จะเล่นหุ้น ต้องปรับตัว ตลอดเวลา ครับ
และผมยังสนุก กับ การเรียนรู้อะไรต่างๆอยู่เสมอครับ

[SunShine@Night]

ผมว่าสำคัญที่สุดคือ "ความสุขในระหว่างการลงทุนครับ"

บางคนเขาชอบขี่ม้าชมสวนเพื่อจะไปถึงเป้าหมายโดยเร็ว....แต่ผมขอเดินทอดน่องชมสวนเก็บดอกไม้สวยๆตามทางไปเรื่อยๆ....สักวันก็ถึงเหมือนกัน และแถมพอถึงเป้าหมายผมจะมีดอกไม้สวยๆติดมือมาอีกเพียบเลยครับ

ขนาดพี่นริสเดินทอดน่องยังได้ขนาดนี้

ถ้าพี่วิ่งจะขนาดไหนครับ

[picklife]

เคยทำโพสำรวจผลตอบแทนพบว่า TVIมากกว่าสินธร ระดับหนึ่ง แต่คงนำมาใช้พิสูจน์อะไม่ได้มากครับ...แต่พอเป็นแนวทางได้ในระดับหนึ่ง.....

เท่าที่ผมสังเกตุ TVIจะนิ่งกว่ามาก หุ้นขึ้นหุ้นลงก็นิ่งๆ แม้นมีแกว่งบ้างก็ไม่มากครับ จะเน้นพื้นฐานบริษัทเป็นส่วนใหญ่ จะเปรียมเสมือนคนมีอายุก็ได้ครับช้าแต่ชัวร์ อิอิ...ข้อดีของTVIคือเนื้อหาแน่น ครบถ้วน

ส่วนสินธรนี่เรียบได้กับวัยรุ่นครับ มาเร็วเครมเร็ม 555+ หลายครั้งพอผมเห็นหุ้นขึ้นลงแปลกๆ ก็จะเข้าไปดูอารมรณ์ตลาดในนั้นครับ จะเห็นอารมณ์ตลาดอย่างชัดเจนมาก555+ บางครั้งก็ไปหาว่าเกิดกระแสอะไรขึ้นช่วงนี้ ราคาหุ้นถึงขยับ....ข้อดีของสินธรคือเร็วและคนเยอะครับ

สรุป...แต่ละอันก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันแล้วแต่มุมมอง ดังนั้นมันไม่มามารถมาเปรียบกันได้หรอกครับ....

[kenne]

วิธีใหน แบบใหน ตัวเราเองเท่านั้นที่รู้ว่า แบบใหนเหมาะกับตัวเรา

แต่ไม่ว่าจะใช้วิธีใหน ขอแค่ อย่าขาดทุนก็พอ

สำหรับผม ก็เหมือนกับ จขกท ผมเพิ่งจะลงทุนตอนกลางปีที่แล้วเอง

ตอนนี้ก็อาศัย ฝึกวิชาให้มากๆๆ เพื่อสักวันจะได้เป็น จอมยุทธที่เก่งกาจ

พอจะมี มุมมอง แง่คิด ได้ขีดได้เขียน ให้รุ่นน้อง ให้สิ่งดีๆเกิดขึ้นกับสังคม

บ้างแบบที่ หลายๆท่าน ได้ทำๆกันมา

[picklife]

ช่วงกำลังขัดเกลาตัวเองครับ อิอิ

[sialic]

yoyo wrote:
ลบ 50 ผมก็เคยเหมือนกันครับ...  (ถ้าจะให้เป๊ะก็ต้องบอกว่า -55)
ลบหนักกว่าตลาดซะอีก แบบนี้เค้าเรียกว่าฝีมือล้วน  

อ่านแล้วก็อุ่นใจค่ะ .. เพราะตอนนี้ฝีมือ เริ่มใกล้เคียงกะคุณ yoyo ตอนนั้นแล้ว ... :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

แต่ไม่รูว่าเมื่อไหร่ มันจะ บวก 50 ซะที

[winkung]

[quote="sialic"][quote]yoyo wrote:
ลบ 50 ผมก็เคยเหมือนกันครับ...