โสด หรือแต่งงานดีในสังคมปัจจุบัน
-
- Verified User
- โพสต์: 6853
- ผู้ติดตาม: 0
โสด หรือแต่งงานดีในสังคมปัจจุบัน
โพสต์ที่ 1
บางคนกำลังรอเนือคู่ ที่กำลังจะมา
บางคนหวังแต่งงานกับคนที่คบในวัยการศึกษา
บางคนยังไม่มีความหมายตา กำลังรออยู่
แต่ในวัยทำงานเนื่องไขสำคัญที่จะมีครอบครัวได้
1.มีบ้าน
2.มีเงิน
3.มีรถ
บางคนยังขาดยังไม่พร้อมกำลังสร้างตัว คำแก้ตัวอย่างหนึ่งที่มักได้ยิน
จากอีกฝ่ายหนึ่ง
บางคนรักกันเป็น10ปีแต่ไม่ยอมแต่งงานกัน พอวันหนึ่งวันแห่งความรัก บอกว่า
เราเลิกกันเถอะ เราเข้ากันไม่ได้
พร้อมกับเดินพาคู่อีกคนมาแนะนำ
นี่แหละคนเข้ากันได้
แล้ววันนี้คุณคิดมีครอบครัวหรือโสด คุณควรให้ความชัดเจนกับคู่ขอ
งคุณหรือยัง
ในส่วนลึกลึกของคุณละ
บางคนหวังแต่งงานกับคนที่คบในวัยการศึกษา
บางคนยังไม่มีความหมายตา กำลังรออยู่
แต่ในวัยทำงานเนื่องไขสำคัญที่จะมีครอบครัวได้
1.มีบ้าน
2.มีเงิน
3.มีรถ
บางคนยังขาดยังไม่พร้อมกำลังสร้างตัว คำแก้ตัวอย่างหนึ่งที่มักได้ยิน
จากอีกฝ่ายหนึ่ง
บางคนรักกันเป็น10ปีแต่ไม่ยอมแต่งงานกัน พอวันหนึ่งวันแห่งความรัก บอกว่า
เราเลิกกันเถอะ เราเข้ากันไม่ได้
พร้อมกับเดินพาคู่อีกคนมาแนะนำ
นี่แหละคนเข้ากันได้
แล้ววันนี้คุณคิดมีครอบครัวหรือโสด คุณควรให้ความชัดเจนกับคู่ขอ
งคุณหรือยัง
ในส่วนลึกลึกของคุณละ
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 1
โสด หรือแต่งงานดีในสังคมปัจจุบัน
โพสต์ที่ 2
แต่ก่อนคิดว่าบ้าน รถ สำคํญมาก
คู่ครองก็ด้วย
แต่ปัจจุบันผมใช้เวลากับ web TVI มากผิดปรกติ
เอ หรือเราจะรัก คอมมากกว่ารักคนแล้วนี่
ว่าแต่เจ้าของกระทู้ใช้จัดเวลาในส่วนใดมากกว่ากันครับ
1. บ้าน
2. คู่ครอง
3. หุ้นการลงทุน
คู่ครองก็ด้วย
แต่ปัจจุบันผมใช้เวลากับ web TVI มากผิดปรกติ
เอ หรือเราจะรัก คอมมากกว่ารักคนแล้วนี่
ว่าแต่เจ้าของกระทู้ใช้จัดเวลาในส่วนใดมากกว่ากันครับ
1. บ้าน
2. คู่ครอง
3. หุ้นการลงทุน
- วัวแดง
- Verified User
- โพสต์: 1429
- ผู้ติดตาม: 0
โสด หรือแต่งงานดีในสังคมปัจจุบัน
โพสต์ที่ 3
ตอนนี้โสดครับ แต่เร็วๆนี้แต่งงานแน่
เคยมั้ยครับ ตอนเราใช้ชีวิตโสด เราจะทำอะไรก็ได้ เมาหัวราน้ำ เที่ยวทุกวัน ใช้เงินเหมือนกระดาษ คิดว่ามีเงินต้องใช้ เก็บไว้เดี๋ยวราขึ้น ใช้เงินยังไงก็ได้
แต่พอเราเจอคนที่เราจะแต่งงานด้วย เราเริ่มรู้จักใช้เงิน เริ่มมีบ้าน เริ่มคิดถึงอนาคตมากขึ้น เริ่มมีฐานะ และเริ่มลงพุง
เคยมั้ยครับ ตอนเราใช้ชีวิตโสด เราจะทำอะไรก็ได้ เมาหัวราน้ำ เที่ยวทุกวัน ใช้เงินเหมือนกระดาษ คิดว่ามีเงินต้องใช้ เก็บไว้เดี๋ยวราขึ้น ใช้เงินยังไงก็ได้
แต่พอเราเจอคนที่เราจะแต่งงานด้วย เราเริ่มรู้จักใช้เงิน เริ่มมีบ้าน เริ่มคิดถึงอนาคตมากขึ้น เริ่มมีฐานะ และเริ่มลงพุง
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
โสด หรือแต่งงานดีในสังคมปัจจุบัน
โพสต์ที่ 11
เห็นกระทู้ที่แรกก็ไม่แน่ใจว่าจะตอบหรือไม่
ที่แน่ๆคือผมพลาดไปแล้วครับ (หลับกันหมดแล้วทั้งแม่ทั้งลูก)
ตอนเช้าต้องตื่นแต่เช้าไปส่งเมีย กลับมาส่งลูกไปโรงเรียนอีก
ตอนบ่ายไปรับลูก ตอนเย็นไปรับเมีย
ตอนค่ำๆเอาลูกนอน ตอนดึกๆอุ้มลูกออกมาฉี่ วันไหนผิดเวลา ต้องมาเปลี่ยนกางเกงให้ลูก
เรื่องมันเศร้าครับ :lol:
ที่แน่ๆคือผมพลาดไปแล้วครับ (หลับกันหมดแล้วทั้งแม่ทั้งลูก)
ตอนเช้าต้องตื่นแต่เช้าไปส่งเมีย กลับมาส่งลูกไปโรงเรียนอีก
ตอนบ่ายไปรับลูก ตอนเย็นไปรับเมีย
ตอนค่ำๆเอาลูกนอน ตอนดึกๆอุ้มลูกออกมาฉี่ วันไหนผิดเวลา ต้องมาเปลี่ยนกางเกงให้ลูก
เรื่องมันเศร้าครับ :lol:
เป็นบุญหนักหนาเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เป็นคนไทยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ
-
- Verified User
- โพสต์: 403
- ผู้ติดตาม: 0
โสด หรือแต่งงานดีในสังคมปัจจุบัน
โพสต์ที่ 12
ทำไมมันเป็นแบบนั้นอ่ะ ผมไม่แต่งงานแล้ว :lol:เห็นกระทู้ที่แรกก็ไม่แน่ใจว่าจะตอบหรือไม่
ที่แน่ๆคือผมพลาดไปแล้วครับ (หลับกันหมดแล้วทั้งแม่ทั้งลูก)
ตอนเช้าต้องตื่นแต่เช้าไปส่งเมีย กลับมาส่งลูกไปโรงเรียนอีก
ตอนบ่ายไปรับลูก ตอนเย็นไปรับเมีย
ตอนค่ำๆเอาลูกนอน ตอนดึกๆอุ้มลูกออกมาฉี่ วันไหนผิดเวลา ต้องมาเปลี่ยนกางเกงให้ลูก
เรื่องมันเศร้าครับ
ท้าชนความคิด vi ทุกสถาบัน
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2273
- ผู้ติดตาม: 0
โสด หรือแต่งงานดีในสังคมปัจจุบัน
โพสต์ที่ 13
ตั้งเป้าหมายว่าจะสร้างครอบครัว สร้างอนาคต
มาทำงานต่างประเทศ เพื่อเก็บเงิน และอนาคตที่สดใส
สรุป แฟนทิ้งครับ เพราะว่าห่างกันเกินไป
เลยไม่รู้ว่า เป้าหมายที่อยากมีครอบครัวที่อบอุ่น มันจะเป็นไปได้อีกหรือเปล่าครับ
ยินดีล่วงหน้ากับคุณวัวแดงด้วยครับ
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
- วัวแดง
- Verified User
- โพสต์: 1429
- ผู้ติดตาม: 0
โสด หรือแต่งงานดีในสังคมปัจจุบัน
โพสต์ที่ 15
เสียใจด้วยนะครับ เพื่อนผมก็เคยเจอครับ ตั้งใจทำงานยอมเหนื่อยแถมตาย เพื่อคนที่เรารักและคิดว่าเค้าจะรักและเข้าใจเรา แต่......พระเจ้า ทำไมทำอย่างงี้ได้ตั้งเป้าหมายว่าจะสร้างครอบครัว สร้างอนาคต
มาทำงานต่างประเทศ เพื่อเก็บเงิน และอนาคตที่สดใส
สรุป แฟนทิ้งครับ เพราะว่าห่างกันเกินไป
เลยไม่รู้ว่า เป้าหมายที่อยากมีครอบครัวที่อบอุ่น มันจะเป็นไปได้อีกหรือเปล่าครับ
ยินดีล่วงหน้ากับคุณวัวแดงด้วยครับ
เรื่องห่างเหินนี่จริงนะครับ ผู้หญิงก็เหมือนดอกกุหลาบนะครับ สวยแต่เต็มไปด้วยหนาม ถ้าไม่ได้รดน้ำก็เหี่ยวเฉา...... ผมจะไม่ยอมห่างคนที่ผมรักเลย ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น(นอกจากไม่มีลมหายใจแล้ว)
-
- Verified User
- โพสต์: 1608
- ผู้ติดตาม: 0
โสด หรือแต่งงานดีในสังคมปัจจุบัน
โพสต์ที่ 16
เสียใจด้วยครับsunrise เขียน:
ตั้งเป้าหมายว่าจะสร้างครอบครัว สร้างอนาคต
มาทำงานต่างประเทศ เพื่อเก็บเงิน และอนาคตที่สดใส
สรุป แฟนทิ้งครับ เพราะว่าห่างกันเกินไป
เลยไม่รู้ว่า เป้าหมายที่อยากมีครอบครัวที่อบอุ่น มันจะเป็นไปได้อีกหรือเปล่าครับ
ยินดีล่วงหน้ากับคุณวัวแดงด้วยครับ
แต่ เดี๋ยวมันก็มีมาใหม่ เรื่อย ๆ แหละครับ
เอาไว้ให้อ่านเล่นครับ เป็น FW mail ที่ผมชอบที่สุดเลย
--------------------------------------------------------------------------------
เคยสงสัยไหม ว่าทำไมเรามักจะไม่ได้รู้จักกับคนที่เราอยากรู้จัก
และคนที่เรารู้จักมักจะไม่มีใครน่าสนใจ หรือไม่ก็ไม่ใช่สเป๊กเรา
เคยได้ยินเรื่องอยู่เรื่องหนึ่ง... มีผู้ใหญ่เขาเล่นกับเด็ก
ผู้ใหญ่กำเหรียญอยู่ในมือ แล้วถามเด็กว่าอยากรู้ไหม ในมือของ ท่านมีอะไร ถ้าอยากรู้ให้เขกพื้น 5 ที เด็กก็เขก แต่ผู้ใหญ่ก็ยังไม่ยอมบอก แล้วก็ถามอีกว่าอยากรู้จริงๆ ไหม ถ้าอยากรู้จริงๆ ให้เขกพื้นอีก 10 ที เด็กก็เขกอีกด้วยความอยากรู้ คราวนี้ผู้ใหญ่แบมือให้ดู เด็กก็ได้พบว่าเป็นแค่เหรียญธรรมดาเหรียญหนึ่งเท่านั้น
ต่อมาผู้ใหญ่กำมืออีก แล้วถามอีกเหมือนเดิมว่าอยากรู้ไหมว่ามือท่านมีอะไร คราวนี้เด็กไม่สนใจ ไม่อยากรู้แล้ว จริงๆ ก็คือ เมื่อเด็กได้รู้แล้วว่าในมือผู้ใหญ่เป็นแค่เหรียญธรรมดาเท่านั้น ไม่มีอะไรพิเศษเลย เขาก็เลยไม่สนใจอีก...
นี่แหละ คนเราก็เป็นแบบนี้ ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มา ไขว่คว้าเพื่อให้ได้รับรู้ เมื่อเราได้รู้แล้วว่ามันคืออะไร มันเป็นยังไง เราก็ไม่สนใจมันอีก ถามว่าเหรียญในมือเปลี่ยนไปไหม ค่ามันน้อยลงไหม เปล่าเลย ค่าของมันเท่าเดิม ยังคงเป็น เหรียญๆเดิม ทั้งก่อนและหลังที่เราเห็น แต่ความรู้สึกของเราต่างหากล่ะที่เปลี่ยนไป
ก็เป็นเพราะความรู้สึกที่เอื้อมไม่ถึงไปไม่ถึงนั่นแหละที่ทำให้เราเห็นคุณค่าของสิ่งที่อยู่ไกล ต่อเมื่อได้สิ่งนั้นมาแล้ว ได้รู้จักแล้ว เราก็ไม่รู้สึกเป็นพิเศษอีก
บางคนที่เราแอบประทับใจ หรือแอบปลื้มมานาน พอได้รู้จักพูดคุยกันแค่ไม่กี่คำก็รู้แล้วว่าคนนี้ไม่ใช่ คิดอะไรไม่เหมือนกัน มองกันคนละด้าน บรรดาคนของสังคม เป็นขวัญใจของคนมากมาย เพราะดูดี มีอารมณ์ขัน ทำให้ใครต่อใครพากันปลื้มจนออกนอกหน้า แต่หากได้มานั่งจับเข่าคุยกันแล้ว ถ้าเขาไม่ได้มีความคิดหรือความเป็นตัวของตัวเองที่โดดเด่น เขาก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ความคิดก็เหมือนคนอื่นๆ ความรู้สึกประทับใจในตอนแรกก็กลายเป็นเฉยๆไป ในทางกลับกัน บางครั้งกับคนที่เหมือนไม่มีอะไรน่าสนใจ หน้าตาธรรมดา มีชีวิตอย่างเรียบง่าย
แต่แค่ได้คุยกันครั้งเดียวกลับรู้สึกดี รู้สึกว่าคนนี้มีอะไรไม่ธรรมดา รู้สึกว่าน่าสนใจและอยากเจอเขาอีกเรื่อยๆ ความดีในตัวต่างหากที่สำคัญ เมื่อได้เรียนรู้กันและกันแล้ว ความน่ารัก ความมีน้ำใจ ความเสียสละต่างหากที่จะทำให้ไม่รู้จักเบื่อ สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่ทำให้อีกฝ่ายอยากค้นหา ติดตาม เห็นคุณค่า และไม่ยอมปล่อยให้หลุดมือไป ไม่ใช่เพียงรูปลักษณ์ภายนอก ที่เมื่อได้มาแล้วก็เท่านั้น เหมือนเดิม ไม่มีอะไรแปลกใหม่ ไม่มีอะไรให้น่าที่จะรัก น่าที่จะค้นหาอีก
ในความเป็นจริงเราอาจได้เจอสิ่งที่อยู่ในมือที่แตกต่างกันออกไป
บางครั้งเราอาจพบเพชรแท้และเรียนรู้ค่าที่ไม่มีวันสิ้นสุดของมัน
หรืออาจได้เจอเหรียญสลึงที่ไม่มีคุณค่ามากมายให้ค้นหา หรือเจอเพียงมือที่กำความว่างเปล่าไว้ภายใน แต่บางครั้งเราอาจจะพลาดไม่รู้จักคุณค่าของเพชรที่เราได้เห็น หรือเห็นว่าเหรียญสลึงในมือนั้นมีคุณค่าเกินกว่าที่มันเป็น
ในชีวิตหนึ่งของคนเราสามารถปิ๊งคนได้หลายคน ประทับใจใครได้หลายหน แต่จะมีสักกี่คนที่ใช่ ที่ตรงกับเรา ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าในชีวิตจะได้พบกับคนที่ "ใช่เลย" ไหม
บางครั้งเราอาจกำลังแอบปลื้มคนๆหนึ่งที่เราเพิ่งได้รู้จัก อยากคุยอยากเจอหน้าตลอดเวลา แต่พอเจอปัญหา มีเรื่องอยากเล่า เรากลับรู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนที่เราต้องการ เรากลับเลือกที่จะคุยกับคนอีกคนที่เราสนิทมานาน เพราะความรู้สึกมันบอกเองว่าคนๆนี้แหละถึงจะเป็นคนที่เราสามารถคุยได้ทุกเรื่อง เข้าใจเรา
เขา.. ก็ยังคงเป็นเขาอย่างที่แล้วๆมา ไม่มีอะไรหวือหวา
ทุกอย่างเป็นของมันอย่างนี้มานานจนกลายเป็นเรื่องธรรมดา จนไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่เราต้องการจริงๆ
แปลกคนที่ใกล้ชิดกับเราที่สุดมักถูกมองข้ามไปเสมอ
คุณเคยปล่อยเพชรให้ผ่านไปไหมหรือเคยคว้าเศษฝุ่นไว้ไหม
เคยได้ยินไหมที่ผู้ใหญ่มักจะบอกว่าถ้าจะรักใคร คิดจะแต่งงานกับใคร ถ้าเป็นผู้ชายให้นึกถึงตอนที่ผู้หญิงคนนั้นหน้ามันอยู่ในครัว นั่งเลี้ยงลูก ไม่ได้แต่งหน้า ไม่น่ามอง ถ้าเป็นผู้หญิง ให้นึกถึงตอนที่ผู้ชายคนนั้นหัวล้าน อ้วนพุงพลุ้ย นุ่งกางเกงขาสั้นอยู่กับบ้าน ไม่หล่อไม่เท่อีกต่อไป เรารับได้ไหม เรายังจะรักเขาอยู่ไหมเพราะเมื่อถึงตอนนั้น ความสวยงาม ภายนอกจะค่อยๆ หมดไป ความรู้สึกเป็นพิเศษกับคนๆ นี้จะถูกความเคยชินเข้ามาแทนที่ แต่เราจะยังรักเขาอยู่ได้ก็ด้วยความดี ในตัวเขา ความเข้าใจ ความเอื้ออาทรต่อกัน
มีคนเคยกล่าวไว้อีกว่าถ้าจะรักใครสักคนให้พยายามใช้สมองในอัตราที่ใกล้ๆ กับการใช้หัวใจ อย่ารักจนหลง อย่าให้ความรักทำให้เราตาบอด ให้มองด้วยสายตาคนภายนอกซึ่งเป็นคนที่ปรารถนาดีต่อเราว่าเขามีความเห็นอย่างไร การปรึกษาผู้ที่อาบน้ำร้อนมาก่อนยังคงได้ผลดีอยู่เสมอ อย่าหลงคนที่ตอนจีบตอนเพิ่งคบกันเขามาคอยเอาใจ เพราะไม่มีใครทำอะไรโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ถ้าเราไม่รักไม่สนใจเขาไม่เคยดีกับเขาเลย วันนี้เขาอาจยังอยู่กับเราและดีกับเรา แต่ถ้าวันหนึ่งเขาเจอคนที่ดีกับเขามากๆอย่างที่เขาดีกับเราวันนี้ เขาจะยังทนเราอยู่ไหม... อย่าหลงคนที่วันนี้เขาอดทนกับเราเหลือเกิน เพราะความอดทนทุกคนมีขีดจำกัด อย่าหลงคนที่ดีผิดปกติและทำกับเราอย่างคนพิเศษจนน่าใจหาย เพราะไม่มีใครทำอย่างนี้ในเราได้ตลอดเวลาไปตลอดชีวิต แต่ให้เห็นค่าของคนที่ทำให้เรารู้สึกได้ว่าเขาพยายามและอยากจะทำอะไรให้เราอย่างน้อยก็เกือบๆ เท่ากับที่เขาอยากทำให้ตัวเขาเองเพราะคนที่ให้เราได้ขนาดนี้หรือมากกว่านี้ก็คงมีแต่พ่อกับแม่เท่านั้น ถ้าได้เจอคนแบบนี้ อย่าปล่อยให้ผ่านไป และรู้ไว้ ด้วยว่าเราคือคนที่โชคดีที่สุดแล้ว
ในบางครั้งเมื่อเรารอความรักเรากลับหามันไม่พบ
แต่เมื่อเราไม่ต้องการมันกลับเข้ามาจนตั้งตัวไม่ติด ดังคำที่ว่า
Love is something, That can't be predicted,
It comes as a surprise, when you least expect it.
ไม่มีใครรู้หรอกว่าความรักที่แท้จริงจะมาถึงเมื่อไหร่
เราจะได้เจอคนนั้นเมื่อไหร่หรือคนนี้ที่เจอจะใช่คนที่เรารอไหม
บางคนอาจได้เจอคนๆนั้นตั้งแต่ยังเด็กเป็นเพื่อนเล่นกันมา
ในขณะที่บางคนกลับใช้เวลารอคอยครึ่งค่อนชีวิตกว่าจะได้เจอ
บางคนคิดว่าใช่แน่นอนแล้ว แต่สุดท้ายกลับต้องแยกจากกัน
บางคนรู้จักกันมานานไม่ได้คิดอะไรกลับได้ลงเอยกันในที่สุด
ความรักไม่ใช่เรื่องของการชั่งน้ำหนักว่าใครดีกว่าใคร แต่เป็นเรื่องของใครเหมาะสำหรับเรามากกว่า
ความรักขึ้นอยู่กับ โอกาส เวลา สถานการณ์
ถ้าคนที่เหมาะสมก้าวเข้ามาในชีวิตเราในเวลาที่เหมาะสม เราพร้อม เขาพร้อม นั่นก็เป็นโชคของเราเป็นสิ่งดีๆในชีวิต
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร คนๆนั้นจะต้องยอมเสียสละ ยอมปรับตัวให้เข้ากับเรา ทำเพื่อเรา ในขณะเดียวกัน เราจะต้องเห็นค่าของเขามากพอที่เราจะเสียสละและปรับตัวเพื่อเขาเช่นกัน
คู่ของใครก็สำหรับคนนั้น
ถ้าคนๆนี้ของเราเขาทำเพื่อเราทุกอย่าง ถึงเราจะไม่สวย ไม่หล่อ ไม่โดดเด่นกว่าใครๆ เขาก็ยังคงมองเราเพียงคนเดียว ปฏิบัติต่อเราอย่างเสมอต้นเสมอปลาย และทำให้เรารู้สึกว่าเรามีค่าสำหรับเขาซะเหลือเกิน..ถึงตอนนั้นคนรอบข้างเราจะดี จะน่ารัก จะเป็นยังไงไม่สำคัญแล้ว ไม่ต้องพิจารณาแล้ว... เพราะถ้าเราได้เจอคนที่เหมาะสม ที่เข้ากับเราได้ คนที่เราแน่ใจว่าเขามีค่าสำหรับเราจริงๆเราก็ไม่จำเป็นต้องมองใครแล้วในโลกนี้...
ถ้าหากไม่เจอคนๆนั้น หรือไม่เจอคนที่เห็นค่าของเรา ก็ไม่มีอะไรต้องเสียใจ
เพราะเรามีค่า และเราควรจะรู้ว่าค่าของตัวเองมีมากเพียงใด.
"เพชร" ไม่ว่าจะมีคนพบหรือไม่ก็ยังเป็นเพชร ธาตุแท้ของเพชรไม่เคยเปลี่ยน
"เรา" ไม่ว่าจะได้เจอคนๆ นั้นหรือไม่ เราควรจะรู้ค่าของตนเอง เห็นค่าของตนเอง และรู้ด้วยว่าคุณค่าของเราไม่เคยเปลี่ยนไปเช่นกัน
เหมือนเหรียญในมือไม่ว่าเราจะอยากดูหรือไม่ ผู้ใหญ่จะแบมือให้ดูหรือไม่
เหรียญก็ยังคงเป็นเหรียญๆ เดิม และค่าของมันก็ไม่เคยเปลี่ยนไปจากเดิมเลย
มนุษย์เห่อลูก :lol:
http://tyakon.multiply.com
http://tyakon.multiply.com
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2273
- ผู้ติดตาม: 0
โสด หรือแต่งงานดีในสังคมปัจจุบัน
โพสต์ที่ 19
ขอบคุณครับ Dr.T และคุณวัวแดง
ขอให้มีความสุขทุกคนครับ
ผมยังเชื่อว่าสถาบันครอบครัวสำคัญที่สุดครับ
จนไม่มีเงินแต่ครอบครัวอบอุ่นดีกว่า
รวยแต่บ้านแตกสาแหรกขาดครับ
ขอให้มีความสุขทุกคนครับ
ผมยังเชื่อว่าสถาบันครอบครัวสำคัญที่สุดครับ
จนไม่มีเงินแต่ครอบครัวอบอุ่นดีกว่า
รวยแต่บ้านแตกสาแหรกขาดครับ
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
โสด หรือแต่งงานดีในสังคมปัจจุบัน
โพสต์ที่ 20
แฟนผมพักนี้หอบลูกไปนอนบ้านยายบ่อยมากครับ เพราะเป็นห่วงยายที่อยู่คนเดียว
ส่วนผม..หนุ่มน้อย...ก็...มีความสูขเล็กๆน้อยๆ ตามสถานการณ์
สรุปว่าเศร้าบ้าง สูขบ้าง...มันส์ดีครับ
ส่วนผม..หนุ่มน้อย...ก็...มีความสูขเล็กๆน้อยๆ ตามสถานการณ์
สรุปว่าเศร้าบ้าง สูขบ้าง...มันส์ดีครับ
เป็นบุญหนักหนาเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เป็นคนไทยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ
-
- Verified User
- โพสต์: 1608
- ผู้ติดตาม: 0
โสด หรือแต่งงานดีในสังคมปัจจุบัน
โพสต์ที่ 22
ถ้าบะหมี่สำเร็จรูปของพี่หมายถึงผู้ชายที่มีพร้อมทุกอย่างละก็ปรัชญา เขียน:8) เท่าที่สังเกตุดูในสังคมปัจจุบัน
ฝ่ายหญิงชอบ บะหมี่ สำเร็จรูป
(ขออภัย ถ้าคิดว่า...หรือดูถูก)
ผมจะบอกว่ามีอยู่ซองหนึ่งวางแช่อยู่บนแผงแถว ๆ นี้นานแล้วยังไม่มีคนมาซื้อออกไปสะที :lol: :lol:
มนุษย์เห่อลูก :lol:
http://tyakon.multiply.com
http://tyakon.multiply.com
- Tongue
- Verified User
- โพสต์: 725
- ผู้ติดตาม: 0
โสด หรือแต่งงานดีในสังคมปัจจุบัน
โพสต์ที่ 24
โอ กระทู้โดนใจวัยรุ่น เรื่องความรักนี่ โฮ่ๆ พอผ่านมาบ้าง
ธรรมท่านว่า
ทำอะไร อย่าทำ เพราะ อยาก
เพราะ มันเป็น กิเลส เป็น อวิชชา
มัน จะลากเราไป ทำให้ร้อน ให้ กระวนกระวาย
ให้ ทำอะไรด้วย สติ ด้วย ปัญญา ที่เป็น ธรรม
ธรรมะ เป็น กลาง เป็น เหตุ เป็น ผล ไม่ปรุงแต่ง
เมื่อไม่ปรุงแต่ง ใจ ก็ สงบ ก็ เย็น ก็ เกิด ประโยชน์แก่ทุกฝ่าย
เกิดเป็นความรักที่ แท้ ที่ ไม่เห็นแก่ตัว
ไม่ยึดมั่น ถือมั่น กับอุปาทานว่า ตัวกู ของกู
ก็เป็น ธรรมชาติ เป็น ความเข้าใจ วางตนได้เหมาะกับ สมมตฺ ทั้งหลาย
เป็น โสด ก็มี ความรัก ที่ดี ที่ยิ่งใหญ่ ได้
เป็นคู่ ก็มี รักที่ดี ที่ยิ่งใหญ่ ได้ ไม่ต่างกัน
ขอเพียงเข้าใจ ความจริง ที่ว่า "อนิจจัง ทุขขัง อนัตตา"
เอ้า เจริญพร :lol: :lol: :lol:
ธรรมท่านว่า
ทำอะไร อย่าทำ เพราะ อยาก
เพราะ มันเป็น กิเลส เป็น อวิชชา
มัน จะลากเราไป ทำให้ร้อน ให้ กระวนกระวาย
ให้ ทำอะไรด้วย สติ ด้วย ปัญญา ที่เป็น ธรรม
ธรรมะ เป็น กลาง เป็น เหตุ เป็น ผล ไม่ปรุงแต่ง
เมื่อไม่ปรุงแต่ง ใจ ก็ สงบ ก็ เย็น ก็ เกิด ประโยชน์แก่ทุกฝ่าย
เกิดเป็นความรักที่ แท้ ที่ ไม่เห็นแก่ตัว
ไม่ยึดมั่น ถือมั่น กับอุปาทานว่า ตัวกู ของกู
ก็เป็น ธรรมชาติ เป็น ความเข้าใจ วางตนได้เหมาะกับ สมมตฺ ทั้งหลาย
เป็น โสด ก็มี ความรัก ที่ดี ที่ยิ่งใหญ่ ได้
เป็นคู่ ก็มี รักที่ดี ที่ยิ่งใหญ่ ได้ ไม่ต่างกัน
ขอเพียงเข้าใจ ความจริง ที่ว่า "อนิจจัง ทุขขัง อนัตตา"
เอ้า เจริญพร :lol: :lol: :lol:
-
- Verified User
- โพสต์: 777
- ผู้ติดตาม: 0
ชีวิตโสด กับ ครอบครัว
โพสต์ที่ 25
ช่วงชีวิตโสด ผมรู้สึกมีอิสระมากเหลือเกิน อยากคิดทำฝันอะไรก็ไม่ต้องแคร์
ใครสักเท่าใดนะ มิใช่ว่าเห็นแก่ตัว แต่เกิดจากนิสัยที่ชอบทำอะไรตามใจฝัน
บางครั้งเหงาๆ ผมก็ขับรถฟังเพลงเพลินๆ จากกรุงเทพฯไประยองนั่งเล่นริม
ทะเลซะอย่างงั้นแหละ 8)
อยากคิดจะคบใครก็คบ...ไม่อยากคบใครก็ไม่คบ ไม่ยินดียินร้ายกับใครใน
สังคมสักเท่าใด ใครจะรวยล้นฟ้า...ก็เฉยๆ ใครจะจนติดดิน...ก็เฉยๆ แบบ
ว่ามีโลกความสุขส่วนตัวซะมากกว่า นึกอะไรขำๆสนุกๆก็หัวเราะเอิ้กอ้าก
คนเดียวได้ (ฮะ!...ฮะ!...ฮะ!) :lol:
พอใช้ชีวิตครอบครัว...
การใช้ชีวิตก็เปลี่ยนไปพอสมควร (เยอะทีเดียวแหละ) ผมต้องมาปรับนิสัย,
ความคิด(อิสระ), เวลาดำเนินชีวิต และ เรื่องจิปฐะใหม่เกือบหมดทีเดียว
ทำยังไงได้ เรามิได้อยู่คนเดียวแล้ว ก็ต้องคิดใหม่...ทำใหม่เป็นธรรมดา
ทำอะไรก็ต้องคิดเผื่อคนที่เค้าอยู่ด้วย ต้องวางแผนอนาคต(เล็ก)ของเรา
ถ้าไม่ทำแล้วใครจะมาทำให้หล่ะครับ ในสังคมปัจจุบัน คนเราเห็นแก่ตัว
กันมากทีเดียวนะ (ผมคิดเช่นนั้น) อาจเป็นเพราะเวลา ๒๔ ชั่งโมงเท่าเดิม
แต่ ความสามารถทำเรื่องราวธุระต่างๆก็เท่าเดิม หรือ อาจเพราะเราเกิด
ความวิตกกังวลกับความไม่แน่นอนในชีวิตก็ได้กระมัง
ถ้าให้เลือกระหว่างชีวิตโสด กับ แต่งงาน ผมในฐะนะปุฐุชนคนธรรมดา ที่
ยังไม่ตัดทางโลก ก็ขอใช้ชีวิต แต่งงานมีครอบครัว นะ เพราะเราต้อง ร่วม
แรงร่วมใจ ฝันฝ่าอุปสรรคต่างๆในชีวิตกันต่อไป (เหมือนพวกนิยายน้ำเน่าดี)
"เป็นโสดทำไม...อยู่ไปให้เศร้าเหงาสรวง...อย่างนี้ต้องหาคู่ควง...."
คงต้องร้องเพลงนี้ปลอบใจคนโสดแล้วหล่ะครับ (ฮะ!...ฮะ!...ฮะ!...)
ใครสักเท่าใดนะ มิใช่ว่าเห็นแก่ตัว แต่เกิดจากนิสัยที่ชอบทำอะไรตามใจฝัน
บางครั้งเหงาๆ ผมก็ขับรถฟังเพลงเพลินๆ จากกรุงเทพฯไประยองนั่งเล่นริม
ทะเลซะอย่างงั้นแหละ 8)
อยากคิดจะคบใครก็คบ...ไม่อยากคบใครก็ไม่คบ ไม่ยินดียินร้ายกับใครใน
สังคมสักเท่าใด ใครจะรวยล้นฟ้า...ก็เฉยๆ ใครจะจนติดดิน...ก็เฉยๆ แบบ
ว่ามีโลกความสุขส่วนตัวซะมากกว่า นึกอะไรขำๆสนุกๆก็หัวเราะเอิ้กอ้าก
คนเดียวได้ (ฮะ!...ฮะ!...ฮะ!) :lol:
พอใช้ชีวิตครอบครัว...
การใช้ชีวิตก็เปลี่ยนไปพอสมควร (เยอะทีเดียวแหละ) ผมต้องมาปรับนิสัย,
ความคิด(อิสระ), เวลาดำเนินชีวิต และ เรื่องจิปฐะใหม่เกือบหมดทีเดียว
ทำยังไงได้ เรามิได้อยู่คนเดียวแล้ว ก็ต้องคิดใหม่...ทำใหม่เป็นธรรมดา
ทำอะไรก็ต้องคิดเผื่อคนที่เค้าอยู่ด้วย ต้องวางแผนอนาคต(เล็ก)ของเรา
ถ้าไม่ทำแล้วใครจะมาทำให้หล่ะครับ ในสังคมปัจจุบัน คนเราเห็นแก่ตัว
กันมากทีเดียวนะ (ผมคิดเช่นนั้น) อาจเป็นเพราะเวลา ๒๔ ชั่งโมงเท่าเดิม
แต่ ความสามารถทำเรื่องราวธุระต่างๆก็เท่าเดิม หรือ อาจเพราะเราเกิด
ความวิตกกังวลกับความไม่แน่นอนในชีวิตก็ได้กระมัง
ถ้าให้เลือกระหว่างชีวิตโสด กับ แต่งงาน ผมในฐะนะปุฐุชนคนธรรมดา ที่
ยังไม่ตัดทางโลก ก็ขอใช้ชีวิต แต่งงานมีครอบครัว นะ เพราะเราต้อง ร่วม
แรงร่วมใจ ฝันฝ่าอุปสรรคต่างๆในชีวิตกันต่อไป (เหมือนพวกนิยายน้ำเน่าดี)
"เป็นโสดทำไม...อยู่ไปให้เศร้าเหงาสรวง...อย่างนี้ต้องหาคู่ควง...."
คงต้องร้องเพลงนี้ปลอบใจคนโสดแล้วหล่ะครับ (ฮะ!...ฮะ!...ฮะ!...)
-
- Verified User
- โพสต์: 118
- ผู้ติดตาม: 0
โสด หรือแต่งงานดีในสังคมปัจจุบัน
โพสต์ที่ 26
ขอตอบในฐานะผู้หญิงที่มีครอบครัวแล้ว
และเคยผ่านการเป็นโสดมาก่อน
ตอนยังโสด
=======
คิดว่าชาตินี้คงไม่มีแฟนแน่แล้ว เพราะไม่มีใครสนใจเลย ไม่สนใจคนอื่นด้วย
เพราะคิดว่าสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ ไม่จำเป็นต้องมีใคร
ไปไหนมาไหนก็ไม่ต้องสนใจใคร
ตอนไม่โสด (ปัจจุบัน)
=============
ก็บังเอิญเจอสามีและดูใจมานานพอควร 5 ปี จนคิดว่าคนนี้ล่ะ
ตกลงปลงใจแต่งงานแต่ไม่มีลูก ชึวิตก็เหมือนตอนโสด
เพียงแต่มีเพื่อนสนิทอีกคนที่อยู่ด้วยกันตลอด
ตอนนี้ก็แต่งมาหลายปีแล้ว คิดว่ามีความสุขกับชีวิตพอสมควร
สำหรับความเห็นส่วนตัว
==============
หากไม่เจอถูกใจด้วยประการทั้งปวง ขออยู่คนเดียวดีกว่า
หากเจอแล้วถูกใจแล้วก็รีบแต่งดีที่สุด :lol:
และเคยผ่านการเป็นโสดมาก่อน
ตอนยังโสด
=======
คิดว่าชาตินี้คงไม่มีแฟนแน่แล้ว เพราะไม่มีใครสนใจเลย ไม่สนใจคนอื่นด้วย
เพราะคิดว่าสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ ไม่จำเป็นต้องมีใคร
ไปไหนมาไหนก็ไม่ต้องสนใจใคร
ตอนไม่โสด (ปัจจุบัน)
=============
ก็บังเอิญเจอสามีและดูใจมานานพอควร 5 ปี จนคิดว่าคนนี้ล่ะ
ตกลงปลงใจแต่งงานแต่ไม่มีลูก ชึวิตก็เหมือนตอนโสด
เพียงแต่มีเพื่อนสนิทอีกคนที่อยู่ด้วยกันตลอด
ตอนนี้ก็แต่งมาหลายปีแล้ว คิดว่ามีความสุขกับชีวิตพอสมควร
สำหรับความเห็นส่วนตัว
==============
หากไม่เจอถูกใจด้วยประการทั้งปวง ขออยู่คนเดียวดีกว่า
หากเจอแล้วถูกใจแล้วก็รีบแต่งดีที่สุด :lol: