China's Red Flags(ต้นตอวิกฤตเศรษฐกิจโลกครั้งต่อไป)
-
- Verified User
- โพสต์: 435
- ผู้ติดตาม: 0
China's Red Flags(ต้นตอวิกฤตเศรษฐกิจโลกครั้งต่อไป)
โพสต์ที่ 1
บทวิจารณ์นี้โดย Edward Chancellor ลงไว้ในเว็บไซต์ของ GMO อ่านดูแล้วน่าเสียวไส้จริงๆเพราะภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลกรอบต่อไปที่จะเกิดขึ้้นจะมีระบบเศรษฐกิจจีนสดุดขาตัวเองล้มเป็นตัวต้นเหตุ อย่างไรก็ตาม...ไม่มีผู้ใดพยากรณ์ได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด (แต่คาดว่าต้องเกิดขึ้นแน่ๆ) เพราะตอนนี้เศรษฐกิจจีนเติบโตได้ด้วยภาวะฟองสบู่แบบสุดๆของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก สดุดขาตัวเองล้มเมื่อไหร่เมื่อนั้นแหละผลกระทบจะปั่นป่วนไปทั้งโลกแน่นอน เพียงแต่ว่าเมื่อใด....แค่นั้นเองแหละ....ที่ไม่มีผู้ใดพยากรณ์ได้
https://www.gmo.com/Asia-Pacific/CMSAtt ... cp5JoyA%3d
หมายเหตุ: ต้องลงทะเบียนกับเว็บนี้ก่อนจึงจะเข้าไปเปิดอ่านบทวิจารณ์เรื่อง China's Red Flags นี้ได้
https://www.gmo.com/Asia-Pacific/CMSAtt ... cp5JoyA%3d
หมายเหตุ: ต้องลงทะเบียนกับเว็บนี้ก่อนจึงจะเข้าไปเปิดอ่านบทวิจารณ์เรื่อง China's Red Flags นี้ได้
"The man who doesn't read has no advantage over the man who cannot read." Mark Twain
-
- Verified User
- โพสต์: 535
- ผู้ติดตาม: 1
China's Red Flags(ต้นตอวิกฤตเศรษฐกิจโลกครั้งต่อไป)
โพสต์ที่ 2
ผมว่า ก็เดากันไปครับ
มีการเดา กันว่า ตอนต้มยำกุ้ง จีนจะล้มเป็นรายต่อไป
แต่ ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ตอน โซเวียต ล้มก็มีการ เดาว่า ไม่เกิน 5 ปี จีนจะแตก
ตอนก่อน เติ้งเสี่ยวผิงตาย
ใครเคยอ่าน ที่ฝรั่งเขียนเรื่อง เมื่อจีนไร้เติ้ง
ที่หนังสือพิมพ์ คู่แข่ง แปลจากฝรั่งบ้าง
ถ้าอ่านน่ะ ลองมาเทียบกับที่เกิดขึ้นจริงกับที่ทายดู
หรือตอน ก่อน จีนเข้า wto ก็เดาแบบนี้แหละ
ว่าไม่เกิน 3-5 ปี จียจะพัง
แล้วเป็นไง
ตอน แฮมเบอร์เกอร์ ก็ มีการเดาแบบนี้ แต่แล้วเป็นไงครับ
คือผมก็ไม่คิดว่า จีนจะ ไม่ฟองสบู่แตก น่ะ
ยังไงวันนึง ก็ต้องเกิด แต่เมื่อไหร่
แต่ที่ผมคาดก็คือ คงไม่เร็วๆนี้หรอก
ผมว่า ยุโรป น่ะจะเป็นรายต่อไป
รวมทั้ง เวียดนามด้วยน่ะครับ
อันนี้ต้องมองยาวๆ
ครับ
มีการเดา กันว่า ตอนต้มยำกุ้ง จีนจะล้มเป็นรายต่อไป
แต่ ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ตอน โซเวียต ล้มก็มีการ เดาว่า ไม่เกิน 5 ปี จีนจะแตก
ตอนก่อน เติ้งเสี่ยวผิงตาย
ใครเคยอ่าน ที่ฝรั่งเขียนเรื่อง เมื่อจีนไร้เติ้ง
ที่หนังสือพิมพ์ คู่แข่ง แปลจากฝรั่งบ้าง
ถ้าอ่านน่ะ ลองมาเทียบกับที่เกิดขึ้นจริงกับที่ทายดู
หรือตอน ก่อน จีนเข้า wto ก็เดาแบบนี้แหละ
ว่าไม่เกิน 3-5 ปี จียจะพัง
แล้วเป็นไง
ตอน แฮมเบอร์เกอร์ ก็ มีการเดาแบบนี้ แต่แล้วเป็นไงครับ
คือผมก็ไม่คิดว่า จีนจะ ไม่ฟองสบู่แตก น่ะ
ยังไงวันนึง ก็ต้องเกิด แต่เมื่อไหร่
แต่ที่ผมคาดก็คือ คงไม่เร็วๆนี้หรอก
ผมว่า ยุโรป น่ะจะเป็นรายต่อไป
รวมทั้ง เวียดนามด้วยน่ะครับ
อันนี้ต้องมองยาวๆ
ครับ
- thalucoz
- Verified User
- โพสต์: 658
- ผู้ติดตาม: 0
China's Red Flags(ต้นตอวิกฤตเศรษฐกิจโลกครั้งต่อไป)
โพสต์ที่ 3
ผมเห็นด้วยกะคุณ matee นะครับ
ข้อมูลอ่านไว้ใช่ว่า แต่ก็อย่าไปเชื่อเป็นตุเป็นตะ แทนที่จะไปกังวลว่าจะเกิดก็เอาเวลาไปหุ้นที่ทนทานดีกว่านะครับ
ถ้าเกิดจริง ก็ถือว่าโอกาส Grand Sale เกิดขึ้นแล้ว ตาดีได้ตาร้ายเสีย เราเองได้เปรียบเพราะจ้องเอาไว้แล้ว + กระสุนเพียบ
ในฐานะ vi เราเองก็ควรจะมุ่งค้นหาบริษัทที่มี DCA นะครับ ถ้าเราทำได้แบบนี้จะกังวลเรื่องเศรษฐกิจโลกไปทำไมครับ (ถ้าไม่กระทบกับบริษัทที่เราถือหุ้นอยู่)
จริงไหมครับ
ข้อมูลอ่านไว้ใช่ว่า แต่ก็อย่าไปเชื่อเป็นตุเป็นตะ แทนที่จะไปกังวลว่าจะเกิดก็เอาเวลาไปหุ้นที่ทนทานดีกว่านะครับ
ถ้าเกิดจริง ก็ถือว่าโอกาส Grand Sale เกิดขึ้นแล้ว ตาดีได้ตาร้ายเสีย เราเองได้เปรียบเพราะจ้องเอาไว้แล้ว + กระสุนเพียบ
ในฐานะ vi เราเองก็ควรจะมุ่งค้นหาบริษัทที่มี DCA นะครับ ถ้าเราทำได้แบบนี้จะกังวลเรื่องเศรษฐกิจโลกไปทำไมครับ (ถ้าไม่กระทบกับบริษัทที่เราถือหุ้นอยู่)
จริงไหมครับ
FREEDOM ---------- HOLD MY HAND
-
- Verified User
- โพสต์: 535
- ผู้ติดตาม: 1
China's Red Flags(ต้นตอวิกฤตเศรษฐกิจโลกครั้งต่อไป)
โพสต์ที่ 4
ผมก็เห็นด้วยกับ คุณ thalucoz
ครับ ผมว่าอย่าไปกังวลเลยว่า จีนจะ ฟองสบู่แตก ตามที่ฝรั่งเขึยน คุณรู้ไหม ว่าฝรั่งน่ะ แช่งให้จีนพัง จีนเจ๊ง มาเท่าไหร่แล้ว คุณลองไปอ่าน หนังสือ ของ คนที่เชียนเกี่ยวกับ
การะปะทะ ทางอารยธรรม ผมก็จำชื่อไม่ได้น่ะอ่านผ่านๆ รู้สึกว่าเขึยนมาประมาณ 10 กว่าปีแล้วมั่ง
คนเขึยนเพิ่งเสียชีวิตไป ไม่กี่ปีนี่เอง
เขาทำนาย หลายอย่างถูกแต่ทำนายเกี่ยวกับจีนผิด
คนเขียนนี่ ดังมาก
ลองไปอ่านแล้วมาเทียบกับจีนปัจจุบันดู
คุณ สังเกตุได้ว่า จะมีฝรั่ง เขึยนเกี่ยวกับจีน จะพยายาม เขียน ให้จีน ดูแย่ตลอด อะไรก็ไม่ดี
อย่างโน้นอย่างนี้
เอาง่ายๆเอา อินเดียกับจีนมาเทียบกันแล้วบอกว่าอินเดียจะแซงจีน คุณไปเทียบดู
ผมก็ไม่รู้ gdp ที่แน่นอน
แต่ ถ้าเทียบน่ะ
อาเซียน รวมทุกประเทศ มี gdp รวมทั้งหมด มากกว่าอินเดีย ทั้งๆที่มีประชากรน้อยกว่าอินเดีย
ส่วนจีน มี gpd มากกว่าอาเซียนประมาณ 1 เท่าตัว กว่าๆ
แต่จีนก็มี ประชากรมากว่าอาเซียนประมาณเท่าตัว
ถ้า ประชากร จีนเท่ากับ อาเซียน เท่ากับ จีนกับ อาเซียนมี gdp ใกล้เคียงกัน จีนมากกว่านิดหน่อย
แต่ อินเดีย ถ้าประชากรเท่ากับอาเซียน อินเดีย จะมี gdp ประมาณ 1ใน3 หรือ 1ใน4
แล้วอินเดีย จะไป เป็นคู่แข่งกับจีนยังไง
ถ้าสังเกตุคือ ฝรั่ง จะพยายาม ยกอินเดียมา เทียบกับจีนแล้วเชียร์ อินเดีย แต่พยายาม แช่งจีน
คุณสังเกตุจะรู้ โดยไปอ่านข่าวเก่าๆ
ยิ่ง ช่วงปี 40 ที่ลดค่าเงินบาทน่ะ
ไปลองอ่านดู หลังจากนั้น จะมี บทวิเคราะห์มากมายเลย
ว่าไม่นาน จีนต้องล้ม
ยิ่ง ก่อนจีนเข้า wto ยังมีคนจีนที่ถือสัญชาติ อเมริกา
ออกหนังสือ เปลือยจักรพรรดิ์ หรือไง นี่แหละ
โดย ในนั้นทำนายว่า หลังจีนเข้า wto พวกรัฐวิสาหกิจ จีนจะล่มภายใน 3-5 ปี
หรือฝรั่งอีก ออกมาบอกให้จีนปฎิรูปธนาคาร ไม่งั็นธนาคาร จีนจะล้ม แล้วเป็นไงครับ
ธนาคารใน ประเทศ ตะวันตก กลับล้มแทน
ตามความเห็นผมน่ะ
ยังไง ฟองสบู่จีนน่ะ ต้องมีวันแตกแน่นอน
เพียงแต่ว่า จีนจะบริหาร ฟองสบู่ ยังไง ไม่ให้แตกแบบ รุนแรง หรือจะเลี้ยงฟองสบู่ไป เรื่อยๆยัง
โดยให้ ที่อื่นฟองสบู่แตกแทน เพื่อเป็นการ เจาะฟองสบู่ของจีนให้ แฟ๊บลง
ครับ ผมว่าอย่าไปกังวลเลยว่า จีนจะ ฟองสบู่แตก ตามที่ฝรั่งเขึยน คุณรู้ไหม ว่าฝรั่งน่ะ แช่งให้จีนพัง จีนเจ๊ง มาเท่าไหร่แล้ว คุณลองไปอ่าน หนังสือ ของ คนที่เชียนเกี่ยวกับ
การะปะทะ ทางอารยธรรม ผมก็จำชื่อไม่ได้น่ะอ่านผ่านๆ รู้สึกว่าเขึยนมาประมาณ 10 กว่าปีแล้วมั่ง
คนเขึยนเพิ่งเสียชีวิตไป ไม่กี่ปีนี่เอง
เขาทำนาย หลายอย่างถูกแต่ทำนายเกี่ยวกับจีนผิด
คนเขียนนี่ ดังมาก
ลองไปอ่านแล้วมาเทียบกับจีนปัจจุบันดู
คุณ สังเกตุได้ว่า จะมีฝรั่ง เขึยนเกี่ยวกับจีน จะพยายาม เขียน ให้จีน ดูแย่ตลอด อะไรก็ไม่ดี
อย่างโน้นอย่างนี้
เอาง่ายๆเอา อินเดียกับจีนมาเทียบกันแล้วบอกว่าอินเดียจะแซงจีน คุณไปเทียบดู
ผมก็ไม่รู้ gdp ที่แน่นอน
แต่ ถ้าเทียบน่ะ
อาเซียน รวมทุกประเทศ มี gdp รวมทั้งหมด มากกว่าอินเดีย ทั้งๆที่มีประชากรน้อยกว่าอินเดีย
ส่วนจีน มี gpd มากกว่าอาเซียนประมาณ 1 เท่าตัว กว่าๆ
แต่จีนก็มี ประชากรมากว่าอาเซียนประมาณเท่าตัว
ถ้า ประชากร จีนเท่ากับ อาเซียน เท่ากับ จีนกับ อาเซียนมี gdp ใกล้เคียงกัน จีนมากกว่านิดหน่อย
แต่ อินเดีย ถ้าประชากรเท่ากับอาเซียน อินเดีย จะมี gdp ประมาณ 1ใน3 หรือ 1ใน4
แล้วอินเดีย จะไป เป็นคู่แข่งกับจีนยังไง
ถ้าสังเกตุคือ ฝรั่ง จะพยายาม ยกอินเดียมา เทียบกับจีนแล้วเชียร์ อินเดีย แต่พยายาม แช่งจีน
คุณสังเกตุจะรู้ โดยไปอ่านข่าวเก่าๆ
ยิ่ง ช่วงปี 40 ที่ลดค่าเงินบาทน่ะ
ไปลองอ่านดู หลังจากนั้น จะมี บทวิเคราะห์มากมายเลย
ว่าไม่นาน จีนต้องล้ม
ยิ่ง ก่อนจีนเข้า wto ยังมีคนจีนที่ถือสัญชาติ อเมริกา
ออกหนังสือ เปลือยจักรพรรดิ์ หรือไง นี่แหละ
โดย ในนั้นทำนายว่า หลังจีนเข้า wto พวกรัฐวิสาหกิจ จีนจะล่มภายใน 3-5 ปี
หรือฝรั่งอีก ออกมาบอกให้จีนปฎิรูปธนาคาร ไม่งั็นธนาคาร จีนจะล้ม แล้วเป็นไงครับ
ธนาคารใน ประเทศ ตะวันตก กลับล้มแทน
ตามความเห็นผมน่ะ
ยังไง ฟองสบู่จีนน่ะ ต้องมีวันแตกแน่นอน
เพียงแต่ว่า จีนจะบริหาร ฟองสบู่ ยังไง ไม่ให้แตกแบบ รุนแรง หรือจะเลี้ยงฟองสบู่ไป เรื่อยๆยัง
โดยให้ ที่อื่นฟองสบู่แตกแทน เพื่อเป็นการ เจาะฟองสบู่ของจีนให้ แฟ๊บลง
-
- Verified User
- โพสต์: 435
- ผู้ติดตาม: 0
China's Red Flags(ต้นตอวิกฤตเศรษฐกิจโลกครั้งต่อไป)
โพสต์ที่ 5
นักลงทุนที่เป็น VI จริงๆ ชอบการมาของวิกฤตเศรษฐกิจโลกอยู่แล้ว เพราะจะทำให้คนในตลาดหุ้นตกอกตกใจกลัว ขายทิ้งหุ้นแบบไม่คิดชีวิต ทำให้มีหุ้นต่ำกว่ามูลค่าจริง(Intrinsic Value)ไว้ให้ VI จับจ่ายซื้อหาเยอะแยะไปหมด :lol: ดังนั้นบทวิจารณ์ข้างต้นน่าจะเป็นข้อมูลให้ VI ได้กลิ่นตุ๊ๆของวิกฤตมาแต่ไกล จะได้เตรียมเนื้อเตรียมตัวเตรียมใจ เตรียมกระสุนไว้ให้พร้อม อย่ามัวเพลินไปกับ Mr Market แล้วต้องมาทำตาปริบๆ :roll: ตอนที่มีหุ้นราคาลดแลกแจกแถมเยอะแยะไปหมดมาให้ซื้อแต่ปรากฏว่ากระสุนหมด :roll:
และคำพูดที่ว่า "ในวิกฤตย่อมมีโอกาส" ถือเป็นคำพูดที่อมตะ มีหมออเมริกัน คนหนึ่ง ชื่อ Michael Burry(ไม่เคยเรียนการเงินการลงทุนใดๆมาก่อนนอกจากวิชาแพทย์ศาสตร์ แต่ศึกษาอ่านเกี่ยวกับการเงินการลงทุนจากหนังสือล้วนด้วยตัวเอง)ได้มองเห็นโอกาสนั้นตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤต subprime mortgage โดยที่นักเศรษฐศาสตร์ หรือ คนที่อยู่ในวงการการเงิน รัฐมนตรีคลัง หรือ ผู้ว่าการธนาคารกลาง ฯลฯ ของอเมริกามองไม่เห็น หรือ มองเห็นแบบลางๆ แล้วไม่ใส่ใจ ไม่สนใจ และคุณหมอ Michael Burry คนนี้แหละได้ฉวยโอกาสจากวิกฤตข้างต้น ปัจจุบันเลิกอาชีพหมอแล้ว และเปลี่ยนอาชีพมาเป็นผู้จัดการกองทุนแทน เขาทำ Short Sales ครับ และรับทรัพย์ ลองๆอ่าน Blog นี้เรื่อง Learning from Michael Burry ดู (น่าสนใจมาก)
http://streetcapitalist.com/2010/03/24/ ... ael-burry/
และคำพูดที่ว่า "ในวิกฤตย่อมมีโอกาส" ถือเป็นคำพูดที่อมตะ มีหมออเมริกัน คนหนึ่ง ชื่อ Michael Burry(ไม่เคยเรียนการเงินการลงทุนใดๆมาก่อนนอกจากวิชาแพทย์ศาสตร์ แต่ศึกษาอ่านเกี่ยวกับการเงินการลงทุนจากหนังสือล้วนด้วยตัวเอง)ได้มองเห็นโอกาสนั้นตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤต subprime mortgage โดยที่นักเศรษฐศาสตร์ หรือ คนที่อยู่ในวงการการเงิน รัฐมนตรีคลัง หรือ ผู้ว่าการธนาคารกลาง ฯลฯ ของอเมริกามองไม่เห็น หรือ มองเห็นแบบลางๆ แล้วไม่ใส่ใจ ไม่สนใจ และคุณหมอ Michael Burry คนนี้แหละได้ฉวยโอกาสจากวิกฤตข้างต้น ปัจจุบันเลิกอาชีพหมอแล้ว และเปลี่ยนอาชีพมาเป็นผู้จัดการกองทุนแทน เขาทำ Short Sales ครับ และรับทรัพย์ ลองๆอ่าน Blog นี้เรื่อง Learning from Michael Burry ดู (น่าสนใจมาก)
http://streetcapitalist.com/2010/03/24/ ... ael-burry/
"The man who doesn't read has no advantage over the man who cannot read." Mark Twain
-
- Verified User
- โพสต์: 435
- ผู้ติดตาม: 0
China's Red Flags(ต้นตอวิกฤตเศรษฐกิจโลกครั้งต่อไป)
โพสต์ที่ 7
"I saw the crisis coming. Why didn't the FED ? "
คือชื่อบทความที่เขียนโดยคุณหมอ Michael Burry ไว้ใน The New York Times เมื่อ 3 เม.ย.2553 : ตามไปอ่านที่ link ล่างนี้ครับ
http://www.nytimes.com/2010/04/04/opini ... &th&emc=th
คือชื่อบทความที่เขียนโดยคุณหมอ Michael Burry ไว้ใน The New York Times เมื่อ 3 เม.ย.2553 : ตามไปอ่านที่ link ล่างนี้ครับ
http://www.nytimes.com/2010/04/04/opini ... &th&emc=th
"The man who doesn't read has no advantage over the man who cannot read." Mark Twain
- BeSmile
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1178
- ผู้ติดตาม: 0
China's Red Flags(ต้นตอวิกฤตเศรษฐกิจโลกครั้งต่อไป)
โพสต์ที่ 9
ดูการพยากรณ์อันนี้ดีกว่า บอกเวลาด้วย 21-12-2012
ประเทศไทยจะเหลือแค่ดังรูป
ย่าน Asia Pacific เหลือแคนี้ เพื่อนบ้านเราหายไปหลายประเทศเลย
ใด ใด ใน โลก ล้วน อนิจจัง
(รู้นะแต่ทำใจลำบาก :lol: )
reference :
http://blogazine.prachatai.com/user/dinya/post/1349
ประเทศไทยจะเหลือแค่ดังรูป
ย่าน Asia Pacific เหลือแคนี้ เพื่อนบ้านเราหายไปหลายประเทศเลย
ใด ใด ใน โลก ล้วน อนิจจัง
(รู้นะแต่ทำใจลำบาก :lol: )
reference :
http://blogazine.prachatai.com/user/dinya/post/1349
มีสติ - อย่าประมาทในการใช้ชีวิต