ขอเป็นสมาชิก TVI ด้วยคนครับ..............
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 135
- ผู้ติดตาม: 0
ขอเป็นสมาชิก TVI ด้วยคนครับ..............
โพสต์ที่ 1
เพิ่งสมัครเมื่อกี๊นี้เหละครับ
มีคำถาม 2 ข้อมาขอคำแนะนำ จากพี่ๆใน TVI (ถือโอกาสเป็นน้องตามลำดับสมาชิกนะครับ....555)
คำถามแรกครับ
ผมกู้เงินไปซื้ออาคารพาณิชย์ ให้คนเช่า อัตราดอกเบี้ยปีละ 6.25 % ผ่อนเดือนละ 12000 บาท ได้ค่าเช่าเดือนละ 20000 บาท
เหลือเงินต้นอีก ประมาณ สามแสนห้า
ผมควรรีบจ่ายเงินต้นให้หมด หรือนำเงินที่เหลือเก็บไว้ดีครับ
คำถามที่สองครับ
แต่ละเดือนผมจะมีเีงินเหลือเก็บประมาณ 10000 บาท วางแผนไว้ว่าจะเก็บเป็นเงินสดครึ่งหนึ่ง ที่เหลือจะนำไปซื้อหุ้นพื้นฐานดี (สัดส่วนยืดหยุ่นได้ตามราคาหุ้น)ที่มีปันผล ถือไว้สัก 5-10 ปี โดยจะซื้อหุ้นทุกเดือนครับ
พี่ๆว่าควรจะซื้อหุ้นตัวไหนดีครับ ?
มีคำถาม 2 ข้อมาขอคำแนะนำ จากพี่ๆใน TVI (ถือโอกาสเป็นน้องตามลำดับสมาชิกนะครับ....555)
คำถามแรกครับ
ผมกู้เงินไปซื้ออาคารพาณิชย์ ให้คนเช่า อัตราดอกเบี้ยปีละ 6.25 % ผ่อนเดือนละ 12000 บาท ได้ค่าเช่าเดือนละ 20000 บาท
เหลือเงินต้นอีก ประมาณ สามแสนห้า
ผมควรรีบจ่ายเงินต้นให้หมด หรือนำเงินที่เหลือเก็บไว้ดีครับ
คำถามที่สองครับ
แต่ละเดือนผมจะมีเีงินเหลือเก็บประมาณ 10000 บาท วางแผนไว้ว่าจะเก็บเป็นเงินสดครึ่งหนึ่ง ที่เหลือจะนำไปซื้อหุ้นพื้นฐานดี (สัดส่วนยืดหยุ่นได้ตามราคาหุ้น)ที่มีปันผล ถือไว้สัก 5-10 ปี โดยจะซื้อหุ้นทุกเดือนครับ
พี่ๆว่าควรจะซื้อหุ้นตัวไหนดีครับ ?
แพ้หรือชนะเริ่มต้นที่ความคิด
- ch_army
- Verified User
- โพสต์: 1352
- ผู้ติดตาม: 0
ขอเป็นสมาชิก TVI ด้วยคนครับ..............
โพสต์ที่ 3
ข้อแรก ผมว่าต้องลองวิเคราะห์ดูครับว่าหากดอกเบี้ยขึ้นคุณต้องจ่ายดอกเทาไร หากไม่สามารถเอาเงินไปทำอย่างอื่นให้งอกเงยกว่าดอกเบี้ยได้
ก็คืนต้นดีกว่าครับแต่หากมี วิธีการลงทุนที่ดีกว่าก็เก็บไว้ก่อนครับ
ข้อสอง เรื่องชื่อหุ้นเนี่ยในนี้ คงไม่ค่อยแนะนำกันมากนัก ขออแสดงความเสียใจในเรื่องนี้ด้วยนะครับ แต่ผมแนะนำว่าลองถามว่าธุรกิจไหนมีความสามารถในการแข่งขันดี เป็นบริษัทที่ดีเนี่ยคงได้รับคำตอบดีกว่าครับ
ผมเองตอนนี้มองอะไรไม่ค่อยออกเลยเดายากจัง แต่พี่ๆในนี้เก่งๆหลายคนครับไม่ต่องเป็นห่วง
แต่ก่อนอื่นรักจะเป็น VI ก็ศึกษางบการเงิน วิธีดู วิธีวิเคราะห์ไว้บ้างก็ดีครับจะได้เหมาะสมกับการลงุทนแบบมีหลักการ และมั่นคงด้วยครับ
ก็คืนต้นดีกว่าครับแต่หากมี วิธีการลงทุนที่ดีกว่าก็เก็บไว้ก่อนครับ
ข้อสอง เรื่องชื่อหุ้นเนี่ยในนี้ คงไม่ค่อยแนะนำกันมากนัก ขออแสดงความเสียใจในเรื่องนี้ด้วยนะครับ แต่ผมแนะนำว่าลองถามว่าธุรกิจไหนมีความสามารถในการแข่งขันดี เป็นบริษัทที่ดีเนี่ยคงได้รับคำตอบดีกว่าครับ
ผมเองตอนนี้มองอะไรไม่ค่อยออกเลยเดายากจัง แต่พี่ๆในนี้เก่งๆหลายคนครับไม่ต่องเป็นห่วง
แต่ก่อนอื่นรักจะเป็น VI ก็ศึกษางบการเงิน วิธีดู วิธีวิเคราะห์ไว้บ้างก็ดีครับจะได้เหมาะสมกับการลงุทนแบบมีหลักการ และมั่นคงด้วยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1746
- ผู้ติดตาม: 0
ขอเป็นสมาชิก TVI ด้วยคนครับ..............
โพสต์ที่ 4
ขออนุญาตออกความเห็นหน่อยละกันครับ
1. ผมว่าถ้าเงินส่วนต่างนั้นคุณสามารถนำไปทำกำไรได้เกินปีละ 6.25% หรือจะให้ดีก็ปีละ 10% ขึ้นไปโดยมีความเสี่ยงต่ำ ก็สมควรที่จะเก็บไว้ครับ ยังไม่จำเป็นต้องรีบคืน เว้นเสียแต่หนี้ที่มี มีจำนวนมาก นึกถึงเหตุสุดวิสัยที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วยครับว่า ถ้าเกิดขึ้นแล้วจะมีผลกระทบกับความสามารถในการจ่ายหนี้ก้อนนี้หรือเปล่า
2. ซื้อหุ้นตัวไหนหรือ?? ไม่ค่อยมีใครอยากแนะนำกันหรอกครับ แต่ว่าก็มีหลาย ๆ ตัวที่เติบโตต่อเนื่อง ปันผลปีละ 5-6% โดยมี capital gain ต่างหาก โดยราคายังไม่สูงมาก ก็ศึกษาดูกันเอาละกันครับ แต่เงินก้อนที่จะนำมาซื้อหุ้น ควรจะเป็นเงินที่สามารถแช่ได้นานกว่า 2 ปีเป็นอย่างต่ำนะครับ
1. ผมว่าถ้าเงินส่วนต่างนั้นคุณสามารถนำไปทำกำไรได้เกินปีละ 6.25% หรือจะให้ดีก็ปีละ 10% ขึ้นไปโดยมีความเสี่ยงต่ำ ก็สมควรที่จะเก็บไว้ครับ ยังไม่จำเป็นต้องรีบคืน เว้นเสียแต่หนี้ที่มี มีจำนวนมาก นึกถึงเหตุสุดวิสัยที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วยครับว่า ถ้าเกิดขึ้นแล้วจะมีผลกระทบกับความสามารถในการจ่ายหนี้ก้อนนี้หรือเปล่า
2. ซื้อหุ้นตัวไหนหรือ?? ไม่ค่อยมีใครอยากแนะนำกันหรอกครับ แต่ว่าก็มีหลาย ๆ ตัวที่เติบโตต่อเนื่อง ปันผลปีละ 5-6% โดยมี capital gain ต่างหาก โดยราคายังไม่สูงมาก ก็ศึกษาดูกันเอาละกันครับ แต่เงินก้อนที่จะนำมาซื้อหุ้น ควรจะเป็นเงินที่สามารถแช่ได้นานกว่า 2 ปีเป็นอย่างต่ำนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1608
- ผู้ติดตาม: 0
ขอเป็นสมาชิก TVI ด้วยคนครับ..............
โพสต์ที่ 5
ที่นี่ไม่เชียร์ซื้อกันหรอกครับ มีแต่เชียร์ขาย
แต่ถ้าอยากรู้จริง ๆ อ่านกระทู้เก่าย้อนไปเรื่อย ๆ เห็นหุ้นตัวไหนที่ถูกพูดถึงบ่อย ๆ ก็ตัวนั้นแหละครับ มีไม่กี่ตัวหรอก 8)
แต่ถ้าอยากรู้จริง ๆ อ่านกระทู้เก่าย้อนไปเรื่อย ๆ เห็นหุ้นตัวไหนที่ถูกพูดถึงบ่อย ๆ ก็ตัวนั้นแหละครับ มีไม่กี่ตัวหรอก 8)
มนุษย์เห่อลูก :lol:
http://tyakon.multiply.com
http://tyakon.multiply.com
- harry
- Verified User
- โพสต์: 4200
- ผู้ติดตาม: 0
ขอเป็นสมาชิก TVI ด้วยคนครับ..............
โพสต์ที่ 6
ยังไม่ต้องซื้อหุ้นครับ
ถ้าจ่ายต้นแล้ว จ่ายดอกน้อยลง ทำให้จากเหลือ 1 หมื่นต่อเดือน เป็นได้มากขึ้น ก็ควรทำครับ
ส่วนหุ้นปันผล ควรศึกษาให้ดีครับ ไม่อยากให้ขอชื่อหุ้นตรงๆ เพราะการตามคนอื่นแล้วผิดหวัง จะไม่ดีครับ
ถ้าจ่ายต้นแล้ว จ่ายดอกน้อยลง ทำให้จากเหลือ 1 หมื่นต่อเดือน เป็นได้มากขึ้น ก็ควรทำครับ
ส่วนหุ้นปันผล ควรศึกษาให้ดีครับ ไม่อยากให้ขอชื่อหุ้นตรงๆ เพราะการตามคนอื่นแล้วผิดหวัง จะไม่ดีครับ
Expecto Patronum!!!!!!
-
- Verified User
- โพสต์: 1477
- ผู้ติดตาม: 0
ขอเป็นสมาชิก TVI ด้วยคนครับ..............
โพสต์ที่ 8
สำหรับผม การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริต ถ้าไม่ชำนาณเรื่องหุ้น อย่าเสี่ยงดีกว่าครับ.....
ว่าแต่อสังหาเนี่ยผมก็สนนะ ถ้าจะเริ่มต้องมีเงินต้นเท่าไรดีครับ
ว่าแต่อสังหาเนี่ยผมก็สนนะ ถ้าจะเริ่มต้องมีเงินต้นเท่าไรดีครับ
I do not sleep. I dream.
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
ขอเป็นสมาชิก TVI ด้วยคนครับ..............
โพสต์ที่ 9
เป็นผม ผมจะไม่รีบคืนครับ เพราะผลตอบแทนเฉลี่ยที่ผมได้จาก
หุ้นนั้น สูงกว่า 6.25% ต่อปี แต่ถ้าคุณไม่มั่นใจว่าทำได้ ปลดหนี้ไปก่อน
ดีที่สุดครับ
การซื้อหุ้นแบบ baht cost averaging อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับ
คุณในเบื้องต้นนะครับ
โดยการกันเงินจำนวนเท่าๆ กันในแต่ละเดือนไปซื้อหุ้นตัวเดียว โดย
ไม่สนใจราคา เช่น ซื้อทุกวันแรกของเดือน เป็นต้น ให้เลือกหุ้นที่
defensive มากๆ มีปันผลแน่ๆ โอกาสเจ๊งน้อยแม้เศรษฐกิจจะย่ำแย่
วิธีนี้ การหวังกำไรเกิน 5% ต่อปีเป็นเรื่องยากครับ เพราะบางทีก็ซื้อ
หุ้นได้ราคาถูก บางทีก็ซื้อได้ในราคาแพง แต่ถ้าอดทนพอ และเลือก
หุ้นที่ดี จะได้ผลตอบแทนดีกว่า 6.25% ใน 10 ปีครับ
แต่ก่อนอื่น การลงทุนมีความเสี่ยงครับ ควรศึกษาให้ถ่องแท้ ไม่ต้องรีบ
และที่สำคัญ อ่านตำราสอนว่ายน้ำไม่ทำให้ว่ายน้ำเป็นครับ
ต้องลงน้ำจริงๆ ซะก่อน
หุ้นนั้น สูงกว่า 6.25% ต่อปี แต่ถ้าคุณไม่มั่นใจว่าทำได้ ปลดหนี้ไปก่อน
ดีที่สุดครับ
การซื้อหุ้นแบบ baht cost averaging อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับ
คุณในเบื้องต้นนะครับ
โดยการกันเงินจำนวนเท่าๆ กันในแต่ละเดือนไปซื้อหุ้นตัวเดียว โดย
ไม่สนใจราคา เช่น ซื้อทุกวันแรกของเดือน เป็นต้น ให้เลือกหุ้นที่
defensive มากๆ มีปันผลแน่ๆ โอกาสเจ๊งน้อยแม้เศรษฐกิจจะย่ำแย่
วิธีนี้ การหวังกำไรเกิน 5% ต่อปีเป็นเรื่องยากครับ เพราะบางทีก็ซื้อ
หุ้นได้ราคาถูก บางทีก็ซื้อได้ในราคาแพง แต่ถ้าอดทนพอ และเลือก
หุ้นที่ดี จะได้ผลตอบแทนดีกว่า 6.25% ใน 10 ปีครับ
แต่ก่อนอื่น การลงทุนมีความเสี่ยงครับ ควรศึกษาให้ถ่องแท้ ไม่ต้องรีบ
และที่สำคัญ อ่านตำราสอนว่ายน้ำไม่ทำให้ว่ายน้ำเป็นครับ
ต้องลงน้ำจริงๆ ซะก่อน