ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ
- DeepTVI
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 441
- ผู้ติดตาม: 1
ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ
โพสต์ที่ 31
[quote="picklife"][quote="DeepDown"][quote="pornchai_w"]เรื่อง มหัศจรรย์ห้าสิบบาท
คนเราบางทีอยากจะเริ่มทำอะไรที่ดี มีประโยชน์แต่ก็ผลัดผ่อนไปเรื่อยๆ หรือทำไปสักพักนึงก็เปลี่ยนใจ
คนเราบางทีอยากจะเริ่มทำอะไรที่ดี มีประโยชน์แต่ก็ผลัดผ่อนไปเรื่อยๆ หรือทำไปสักพักนึงก็เปลี่ยนใจ
- picklife
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2567
- ผู้ติดตาม: 0
ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ
โพสต์ที่ 32
[quote="DeepDown"][quote="picklife"][quote="DeepDown"][quote="pornchai_w"]เรื่อง มหัศจรรย์ห้าสิบบาท
คนเราบางทีอยากจะเริ่มทำอะไรที่ดี มีประโยชน์แต่ก็ผลัดผ่อนไปเรื่อยๆ หรือทำไปสักพักนึงก็เปลี่ยนใจ
คนเราบางทีอยากจะเริ่มทำอะไรที่ดี มีประโยชน์แต่ก็ผลัดผ่อนไปเรื่อยๆ หรือทำไปสักพักนึงก็เปลี่ยนใจ
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
-
- Verified User
- โพสต์: 210
- ผู้ติดตาม: 0
ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ
โพสต์ที่ 34
วินัยของคุณ Voldtrest นี่สุดยอดมากครับ
ส่วนของผมนี่เริ่มจาก MMF ครับ
ตอนทำงานใหม่ๆ
แล้วก็แบ่งมาเก็บไว้ในรูปประจำ 24 เดือน
แต่ฝากได้ไม่ถึงครึ่งปี ก็มารู้จักกับการลงทุนแนว VI เสียก่อน
ก็เลยปิดบัญชีฝากรายเดือนโลดมาลงหุ้น
การเก็บเงิน MMF ของผมนั้นจะเน้น
ตัดเก็บ ณ วันเงินเดือนออกครับ
( เดือนนึงเงินเดือนออกสองครั้ง )
พอเงินเดือนงวดแรกออกปุ๊ปก็ตัดส่วนของค่าใช้จ่ายคือค่าอาหารเก็บเข้าบัญชีคาใช้จ่าย แล้วก็ Fix cost ( ค่าเช่าบ้าน ค่าโทรศัพท์ ค่าไฟ )ก็เก็บไว้เตรียมจ่ายในอีกไม่กี่วัน
ส่วนที่เหลือจากเงินเดือนงวดแรกก็ตัดเข้า MMF ไว้รอรวมกับงวดสองซึ่งไม่มีภาระใช้จ่ายอะไรครับ ก็จะรอจังหวะหุ้นลงมาในราคาที่อยากเก็บ ค่อยซื้อ
ผมอยู่ต่างจังหวัดนะครับ ค่าครองชีพ ค่าใช้จ่ายก็เลยถูก
เลยเก็บเงินได้ราวๆ 50% เช่นกัน
ส่วนโบนัสนั้นไม่ต้องพูดถึง ไม่เคยได้ใช้ ซื้อหุ้นเกลี้ยงครับ
รายได้พวกค่าเบี้ยเลี้ยงต่างๆ หรือ คอมมิชชั่นที่ได้ ผมคิดว่าไม่ควรนำมาใช้ครับ
ควรเก็บเข้าออม เราควรคิดว่า ถ้าไม่มีเงินตรงนี้เราก็อยู่ได้จากเงินเดือน มีเงินตรงนี้เข้ามาก็ให้มองเป็นโอกาสที่จะเก็บออม
เช่นกันกับส่วนของเงินเดือนที่ปรับขึ้นครับ
ปีแล้วเราอยู่ได้ด้วยค่าใช้จ่ายเท่าสมมุติว่า 5000 บาทต่อเดือน
ปีนี้เงินเดือนขึ้นมา 2000 เราจะใช้มากขึ้นสักเท่าไหร่กันเชียว
ใช้ 5000 เท่าเดิมก็ไหวน่า
เงินเดือนส่วนเพิ่มก็จะทำให้เราออมเงินได้มากขึ้น 2000 ต่อเดือนครับ
ที่สำคัญเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นมันก็เป็นการทบต้นอีกแบบนึงนะครับ
พูดถึงเรื่องมือถือ ก็ขอเม้าท์ด้วยคนครับ
ปัจจุบันเพื่อนผมมี IPhone หรือ BB กันแทบทุกคนแล้ว
แต่ผมยังใช้มือถือโนเกีย รุ่น 2630 อยู่เลย
ซื้อเมือสองปีก่อนมั๊งครับ ราคา 2300 บาท
คิดว่าโทรเข้าโทรออก ต่อเน็ทได้ก็ ok
ปัจจุบันอยากได้ iphone มาก แต่พอคิดจะซื้อจริงๆก็เสียดายตังค์มาก
ไอโฟนเครื่องละ 20000 ถ้าทบต้นหลายปี ก็มากโขอยู่
จะซื้อจะซื้อก็เสียดายตังค์ทุกที
อยากได้มาสักปีกว่าๆได้แล้วครับ ปัจจุบัน สตีฟ จ๊อบ ยังไม่ได้ตังค์จากผมเลย
ไม่รู้ว่าจะเพลี่ยงพล้ำต่อกิเลสเมื่อไหร่เหมือนกัน
ส่วนของผมนี่เริ่มจาก MMF ครับ
ตอนทำงานใหม่ๆ
แล้วก็แบ่งมาเก็บไว้ในรูปประจำ 24 เดือน
แต่ฝากได้ไม่ถึงครึ่งปี ก็มารู้จักกับการลงทุนแนว VI เสียก่อน
ก็เลยปิดบัญชีฝากรายเดือนโลดมาลงหุ้น
การเก็บเงิน MMF ของผมนั้นจะเน้น
ตัดเก็บ ณ วันเงินเดือนออกครับ
( เดือนนึงเงินเดือนออกสองครั้ง )
พอเงินเดือนงวดแรกออกปุ๊ปก็ตัดส่วนของค่าใช้จ่ายคือค่าอาหารเก็บเข้าบัญชีคาใช้จ่าย แล้วก็ Fix cost ( ค่าเช่าบ้าน ค่าโทรศัพท์ ค่าไฟ )ก็เก็บไว้เตรียมจ่ายในอีกไม่กี่วัน
ส่วนที่เหลือจากเงินเดือนงวดแรกก็ตัดเข้า MMF ไว้รอรวมกับงวดสองซึ่งไม่มีภาระใช้จ่ายอะไรครับ ก็จะรอจังหวะหุ้นลงมาในราคาที่อยากเก็บ ค่อยซื้อ
ผมอยู่ต่างจังหวัดนะครับ ค่าครองชีพ ค่าใช้จ่ายก็เลยถูก
เลยเก็บเงินได้ราวๆ 50% เช่นกัน
ส่วนโบนัสนั้นไม่ต้องพูดถึง ไม่เคยได้ใช้ ซื้อหุ้นเกลี้ยงครับ
รายได้พวกค่าเบี้ยเลี้ยงต่างๆ หรือ คอมมิชชั่นที่ได้ ผมคิดว่าไม่ควรนำมาใช้ครับ
ควรเก็บเข้าออม เราควรคิดว่า ถ้าไม่มีเงินตรงนี้เราก็อยู่ได้จากเงินเดือน มีเงินตรงนี้เข้ามาก็ให้มองเป็นโอกาสที่จะเก็บออม
เช่นกันกับส่วนของเงินเดือนที่ปรับขึ้นครับ
ปีแล้วเราอยู่ได้ด้วยค่าใช้จ่ายเท่าสมมุติว่า 5000 บาทต่อเดือน
ปีนี้เงินเดือนขึ้นมา 2000 เราจะใช้มากขึ้นสักเท่าไหร่กันเชียว
ใช้ 5000 เท่าเดิมก็ไหวน่า
เงินเดือนส่วนเพิ่มก็จะทำให้เราออมเงินได้มากขึ้น 2000 ต่อเดือนครับ
ที่สำคัญเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นมันก็เป็นการทบต้นอีกแบบนึงนะครับ
พูดถึงเรื่องมือถือ ก็ขอเม้าท์ด้วยคนครับ
ปัจจุบันเพื่อนผมมี IPhone หรือ BB กันแทบทุกคนแล้ว
แต่ผมยังใช้มือถือโนเกีย รุ่น 2630 อยู่เลย
ซื้อเมือสองปีก่อนมั๊งครับ ราคา 2300 บาท
คิดว่าโทรเข้าโทรออก ต่อเน็ทได้ก็ ok
ปัจจุบันอยากได้ iphone มาก แต่พอคิดจะซื้อจริงๆก็เสียดายตังค์มาก
ไอโฟนเครื่องละ 20000 ถ้าทบต้นหลายปี ก็มากโขอยู่
จะซื้อจะซื้อก็เสียดายตังค์ทุกที
อยากได้มาสักปีกว่าๆได้แล้วครับ ปัจจุบัน สตีฟ จ๊อบ ยังไม่ได้ตังค์จากผมเลย
ไม่รู้ว่าจะเพลี่ยงพล้ำต่อกิเลสเมื่อไหร่เหมือนกัน
-
- Verified User
- โพสต์: 1400
- ผู้ติดตาม: 0
ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ
โพสต์ที่ 35
แหม...ชีวิตวัยเรียนผมไม่เห็นมีเพื่อนที่ชวนไปทำงานด้วยกันเลยซักคนpornchai_w เขียน:คุณ Voldtrest นี่เริ่มเก็บเงินตั้งแต่เด็กๆเลย
แล้วที่สำคัญไม่เอาเงินออกมาใช้ซะด้วยสิ นี่สิเจ๋งจริง
(พอพูดแล้วคิดถึงเงินก้อนใหญ่ที่ผมเคยเก็บเพื่อซื้อเครื่องเกมส์ Family
ราคา 1500 บาทโดยแอบแบกถุงกอล์ฟสมัยผมอยู่ ม.1 ขึ้นมาทันที)
ว่าแต่คุณ Voldtrest เข้ามาเล่าต่อสิกำลังติดตามฟัง
อยากได้เพื่อนแบบพี่ ซักคนจริงๆครับ
ถ้ามีใครมากระซิบบอกผมซักคน ผมคงได้ทั้งประสบการณ์ทำงานและเงิน
มากกว่านี้เป็นแน่แท้
แต่ก็นะ..อดีตพลาดไปแล้ว เราเอาจริงกับปัจจุบัน เน้นให้หนักหน่วงขึ้น
ยังไงก็ต้องก้าวทันโลก :P
-
- Verified User
- โพสต์: 1400
- ผู้ติดตาม: 0
ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ
โพสต์ที่ 36
:lovl: ขอบคุณครับพี่ นี่ก็เป็นอีกงานนึงที่ให้คุณค่าทางจิตใจกับผม ซึ่งงานประจำไม่สามารถให้ผมได้เลยครับพี่ ไม่ว่าคนอ่านจะชอบหรือไม่ชอบ แค่มี feedback มาผมก็ดีใจแล้วครับ ถึงไม่มีเสียงสะท้อนกลับมา เราจะเข้าใจตัวเองมากขึ้นผ่านการเขียนนั่นเอง พี่ปิ๊กลองเขียนมั่งสิครับ จะรู้ว่า การเขียนนี่มันส์สะใจขนาดไหน...picklife เขียน: 555+เป็นไงครับน้องผมน่าไปเขียนหนังสือไหมครับ 555+
-
- Verified User
- โพสต์: 1400
- ผู้ติดตาม: 0
ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ
โพสต์ที่ 37
ขอบคุณ leonleon ครับสำหรับคำชมleonleon เขียน:วินัยของคุณ Voldtrest นี่สุดยอดมากครับ
ส่วนของผมนี่เริ่มจาก MMF ครับ
ตอนทำงานใหม่ๆ
แล้วก็แบ่งมาเก็บไว้ในรูปประจำ 24 เดือน
แต่ฝากได้ไม่ถึงครึ่งปี ก็มารู้จักกับการลงทุนแนว VI เสียก่อน
ก็เลยปิดบัญชีฝากรายเดือนโลดมาลงหุ้น
การเก็บเงิน MMF ของผมนั้นจะเน้น
ตัดเก็บ ณ วันเงินเดือนออกครับ
( เดือนนึงเงินเดือนออกสองครั้ง )
พอเงินเดือนงวดแรกออกปุ๊ปก็ตัดส่วนของค่าใช้จ่ายคือค่าอาหารเก็บเข้าบัญชีคาใช้จ่าย แล้วก็ Fix cost ( ค่าเช่าบ้าน ค่าโทรศัพท์ ค่าไฟ )ก็เก็บไว้เตรียมจ่ายในอีกไม่กี่วัน
ส่วนที่เหลือจากเงินเดือนงวดแรกก็ตัดเข้า MMF ไว้รอรวมกับงวดสองซึ่งไม่มีภาระใช้จ่ายอะไรครับ ก็จะรอจังหวะหุ้นลงมาในราคาที่อยากเก็บ ค่อยซื้อ
ผมอยู่ต่างจังหวัดนะครับ ค่าครองชีพ ค่าใช้จ่ายก็เลยถูก
เลยเก็บเงินได้ราวๆ 50% เช่นกัน
ส่วนโบนัสนั้นไม่ต้องพูดถึง ไม่เคยได้ใช้ ซื้อหุ้นเกลี้ยงครับ
รายได้พวกค่าเบี้ยเลี้ยงต่างๆ หรือ คอมมิชชั่นที่ได้ ผมคิดว่าไม่ควรนำมาใช้ครับ
ควรเก็บเข้าออม เราควรคิดว่า ถ้าไม่มีเงินตรงนี้เราก็อยู่ได้จากเงินเดือน มีเงินตรงนี้เข้ามาก็ให้มองเป็นโอกาสที่จะเก็บออม
เช่นกันกับส่วนของเงินเดือนที่ปรับขึ้นครับ
ปีแล้วเราอยู่ได้ด้วยค่าใช้จ่ายเท่าสมมุติว่า 5000 บาทต่อเดือน
ปีนี้เงินเดือนขึ้นมา 2000 เราจะใช้มากขึ้นสักเท่าไหร่กันเชียว
ใช้ 5000 เท่าเดิมก็ไหวน่า
เงินเดือนส่วนเพิ่มก็จะทำให้เราออมเงินได้มากขึ้น 2000 ต่อเดือนครับ
ที่สำคัญเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นมันก็เป็นการทบต้นอีกแบบนึงนะครับ
พูดถึงเรื่องมือถือ ก็ขอเม้าท์ด้วยคนครับ
ปัจจุบันเพื่อนผมมี IPhone หรือ BB กันแทบทุกคนแล้ว
แต่ผมยังใช้มือถือโนเกีย รุ่น 2630 อยู่เลย
ซื้อเมือสองปีก่อนมั๊งครับ ราคา 2300 บาท
คิดว่าโทรเข้าโทรออก ต่อเน็ทได้ก็ ok
ปัจจุบันอยากได้ iphone มาก แต่พอคิดจะซื้อจริงๆก็เสียดายตังค์มาก
ไอโฟนเครื่องละ 20000 ถ้าทบต้นหลายปี ก็มากโขอยู่
จะซื้อจะซื้อก็เสียดายตังค์ทุกที
อยากได้มาสักปีกว่าๆได้แล้วครับ ปัจจุบัน สตีฟ จ๊อบ ยังไม่ได้ตังค์จากผมเลย
ไม่รู้ว่าจะเพลี่ยงพล้ำต่อกิเลสเมื่อไหร่เหมือนกัน
โดยนิสัยผมนั้นแต่แรกไม่ใช่คนมีวินัยเลยแม้แต่น้อย และชีวิตที่ผ่านมาตั้งแต่เด็กเป็นคนทำอะไรออกมาไม่ค่อยดี ล้มเลิกกลางคันบ่อยมาก เพราะสร้างแรงจูงใจได้น้อย
แต่สำหรับการออมเงิน ผมสร้างแรงจูงใจให้ทำทุกอย่างที่เกี่ยวข้องหมุนไปได้เรื่อยๆเป็นเวลาหลายสิบปี ผมเคยมีความคิดว่า วันนึงผมน่าจะสามารถออมเงินจากงานประจำได้เข้าใกล้ 100 % ด้วยซ้ำ อยากทำนะครับมันส์สะใจดี(ท่าจะเพี้ยนใหญ่แล้วตรู... )
ตอนนี้อยากสร้างแรงจูงใจในการศึกษาการลงทุนให้มากเท่ากับการออมเงินเหมือนกัน ก็นะ...ลงทุนมา 1 ปีกว่าๆ จะให้ความรู้สึกเข้มข้นเท่า ออมมา 10 กว่าปีได้อย่างไรกัน เอาเป็นว่าเคียวไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็อร่อยเองเหมือนต้มพะโล้ :lol:
ส่วนตัวผมชอบงานเขียนของ leonleon นะครับ อ่นสบาย เข้าถึงความรู้สึกของหนังสือ VI ได้เยอะกว่าผมอีก ที่น่าอัศจรรย์คือเขียนเรื่องแนวเดียวกับผมแล้ว ไม่เจอแรงเสียดทานเลย ถือว่าเป็นการสื่อสารที่ดีเยี่ยม น่าศึกษาวิธีการเขียนยิ่งนัก ผมเขียนแนวนี้แล้วโดนทุกทีเลย แต่ก็ชินแล้ว ยังไงก็ได้ แค่มีเสียงสะท้อนกลับก็ดีแล้ว
มีอะไรก็มาบอกเล่าในนี้อีกนะครับ รออ่านผลงานของคุณเช่นกัน :D
- SunShine@Night
- Verified User
- โพสต์: 2196
- ผู้ติดตาม: 0
ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ
โพสต์ที่ 38
[quote="Voldtrest"][quote="Voldtrest"]แต่ยังว่างงาน อาจารย์ที่ภาคขอร้องให้อยู่ช่วยสอนนักเรียนแลกเปลี่ยน, นักศึกษารุ่นน้องทำแลป
VI ฝึกหัด สำนักปีเตอร์ ลินช์
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี
- pornchai_w
- Verified User
- โพสต์: 247
- ผู้ติดตาม: 0
ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ
โพสต์ที่ 39
วันนี้ได้ไปเจอเพื่อนเก่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัย พอดีตั้งใจจะไปเดินเล่นที่เซ็นทรัลลาดพร้าว ไปซื้อของ Sales เลยโทรไปชวนมากินข้าวเที่ยงกัน เพื่อนคนนี้เป็นไกด์อยู่เชียงใหม่เกือบสิบปีตอนนี้มาอยู่กรุงเทพได้ 2 ปีแล้วแต่ก็ยังเป็นไกด์อยู่ ทำตลาดขาเข้ามาเที่ยวในไทย
ปลายปีที่แล้วถึงเมื่อสองสามเดือนก่อน ตอนที่เพื่อนๆ นัดเจอกัน ลองโทรไปชวนก็บอกว่ากำลังติดงานทัวร์ลูกค้าอยู่ตลอด ผมก็บอกเพื่อนไปว่า โอเค เอางานก่อน โอกาสหน้าค่อยเจอกันก็ได้ จนกระทั่งวันนี้หลังเหตุการณ์ประท้วง ต่างๆ ผมก็เริ่มเป็นห่วงเพื่อนคนนี้ขึ้นมาก็เลยโทรไป ปรากฎว่าเป็นจริงดังคาดว่า ช่วงนี้ลูกค้ายกเลิกทัวร์หมด รอลุ้นอีกทีก็ช่วงเดือนกรกฎาคมเลย จากที่เคยมีรายได้เดือนละ 3หมื่น ถึง แสนบาท แล้วแต่ค่าคอมและงานว่าเยอะหรือไม่ กลายเป็นว่ารายได้หายไปเฉยๆ เลย วันนี้ผมก็เลยเลี้ยงข้าวเที่ยงและคุยต่างๆ นาๆ
ผมคุยกับเพื่อนมาหลายคนผมพบว่า คนแต่ละคนมีความสามารถแตกต่างกันในด้านความรู้ความสามารถ ปฏิภาณ ไหวพริบ แต่พอถามเรื่องเงินๆ ทองๆ กลับคิดอะไรไม่ออกมาเฉยๆ ครั้นจะบอกไปตรงๆ ว่าให้ลงทุนเพื่อให้เงินงอกเงยก็ดูตรงและเหมือนบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่มีความรู้และดูน่ากลัว ที่สำคัญอย่าว่าแต่ลงทุนเลย เงินออมยังไม่มีและยังไม่คิดที่จะออมเลย
ผมก็เลยได้แต่บอกแนวคิด บอกวิธีออมเงิน บอกวิธีจัดการหนี้สิน การใช้บัตรเครดิตไปก่อน เพราะรู้ว่าหากเรายัดเยียดความรู้ให้โดยที่เขายังไม่ต้องการ เพื่อนอาจจะมองว่าเราเพี้ยนหรือเปล่าที่จะไปให้เขาทำโน่นทำนี่ และที่สำคัญบางคนที่เคยคุยด้วยถึงกับพูดออกมาว่า "เงินไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุด" "มีเงินเยอะก็ไม่ใช่ว่าจะมีความสุข" "เราคิดว่าโลกน่าจะใกล้แตกแล้วเก็บเงินเยอะๆก็ไม่ได้ใช้อยู่ดี"
เราก็ได้แต่บอกว่าเราก็ไม่ได้คิดว่าเงินสำคัญที่สุดเหมือนกัน เราก็คิดว่าการมีสุขภาพดี มีครอบครัวดี ได้ทำสิ่งที่ชอบ เป็นสิ่งที่สำคัญกว่า แต่เราแค่อยากบอกว่า การหาเงิน ใช้เงิน และลงทุน เพื่อทำให้เราได้อิสระภาพทางการเงิน ที่จะทำให้เราและคนรอบข้างเราไม่ต้องกังวลว่า เดือนนี้จะมีเงินไหม จะมีเงินจ่ายค่าเช่าห้องไหม ค่าน้ำมันรถอีกล่ะ ฯลฯ
ทุกวันนี้ผมตั้งใจไว้ว่าจะพยายามให้ความรู้กับเพื่อนๆ ในการบริหารเงินโดยใช้ประสบการณ์ของตัวเอง บวกกับการศึกษาประสบการณ์ของท่านอื่นๆ มารวมกันและบอกต่อไป เหมือนกับว่าหากเรามีสิ่งที่รู้ว่าดี เราก็อยากจะบอกเพื่อนๆ ของเราอย่างนั้นเลยล่ะ
ปลายปีที่แล้วถึงเมื่อสองสามเดือนก่อน ตอนที่เพื่อนๆ นัดเจอกัน ลองโทรไปชวนก็บอกว่ากำลังติดงานทัวร์ลูกค้าอยู่ตลอด ผมก็บอกเพื่อนไปว่า โอเค เอางานก่อน โอกาสหน้าค่อยเจอกันก็ได้ จนกระทั่งวันนี้หลังเหตุการณ์ประท้วง ต่างๆ ผมก็เริ่มเป็นห่วงเพื่อนคนนี้ขึ้นมาก็เลยโทรไป ปรากฎว่าเป็นจริงดังคาดว่า ช่วงนี้ลูกค้ายกเลิกทัวร์หมด รอลุ้นอีกทีก็ช่วงเดือนกรกฎาคมเลย จากที่เคยมีรายได้เดือนละ 3หมื่น ถึง แสนบาท แล้วแต่ค่าคอมและงานว่าเยอะหรือไม่ กลายเป็นว่ารายได้หายไปเฉยๆ เลย วันนี้ผมก็เลยเลี้ยงข้าวเที่ยงและคุยต่างๆ นาๆ
ผมคุยกับเพื่อนมาหลายคนผมพบว่า คนแต่ละคนมีความสามารถแตกต่างกันในด้านความรู้ความสามารถ ปฏิภาณ ไหวพริบ แต่พอถามเรื่องเงินๆ ทองๆ กลับคิดอะไรไม่ออกมาเฉยๆ ครั้นจะบอกไปตรงๆ ว่าให้ลงทุนเพื่อให้เงินงอกเงยก็ดูตรงและเหมือนบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่มีความรู้และดูน่ากลัว ที่สำคัญอย่าว่าแต่ลงทุนเลย เงินออมยังไม่มีและยังไม่คิดที่จะออมเลย
ผมก็เลยได้แต่บอกแนวคิด บอกวิธีออมเงิน บอกวิธีจัดการหนี้สิน การใช้บัตรเครดิตไปก่อน เพราะรู้ว่าหากเรายัดเยียดความรู้ให้โดยที่เขายังไม่ต้องการ เพื่อนอาจจะมองว่าเราเพี้ยนหรือเปล่าที่จะไปให้เขาทำโน่นทำนี่ และที่สำคัญบางคนที่เคยคุยด้วยถึงกับพูดออกมาว่า "เงินไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุด" "มีเงินเยอะก็ไม่ใช่ว่าจะมีความสุข" "เราคิดว่าโลกน่าจะใกล้แตกแล้วเก็บเงินเยอะๆก็ไม่ได้ใช้อยู่ดี"
เราก็ได้แต่บอกว่าเราก็ไม่ได้คิดว่าเงินสำคัญที่สุดเหมือนกัน เราก็คิดว่าการมีสุขภาพดี มีครอบครัวดี ได้ทำสิ่งที่ชอบ เป็นสิ่งที่สำคัญกว่า แต่เราแค่อยากบอกว่า การหาเงิน ใช้เงิน และลงทุน เพื่อทำให้เราได้อิสระภาพทางการเงิน ที่จะทำให้เราและคนรอบข้างเราไม่ต้องกังวลว่า เดือนนี้จะมีเงินไหม จะมีเงินจ่ายค่าเช่าห้องไหม ค่าน้ำมันรถอีกล่ะ ฯลฯ
ทุกวันนี้ผมตั้งใจไว้ว่าจะพยายามให้ความรู้กับเพื่อนๆ ในการบริหารเงินโดยใช้ประสบการณ์ของตัวเอง บวกกับการศึกษาประสบการณ์ของท่านอื่นๆ มารวมกันและบอกต่อไป เหมือนกับว่าหากเรามีสิ่งที่รู้ว่าดี เราก็อยากจะบอกเพื่อนๆ ของเราอย่างนั้นเลยล่ะ
- luckyman
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2203
- ผู้ติดตาม: 0
ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ
โพสต์ที่ 40
ผมก็เคยมีประสบการณ์คล้ายๆ ยังงี้แหละครับ คือ ผมเคยสนใจหุ้นผมก็ลองเล่นหุ้นดู สนใจทำ MLM ก็ลองไปสมัครแอมเวย์ดูวันนี้ได้ไปเจอเพื่อนเก่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัย พอดีตั้งใจจะไปเดินเล่นที่เซ็นทรัลลาดพร้าว ไปซื้อของ Sales เลยโทรไปชวนมากินข้าวเที่ยงกัน เพื่อนคนนี้เป็นไกด์อยู่เชียงใหม่เกือบสิบปีตอนนี้มาอยู่กรุงเทพได้ 2 ปีแล้วแต่ก็ยังเป็นไกด์อยู่ ทำตลาดขาเข้ามาเที่ยวในไทย
ปลายปีที่แล้วถึงเมื่อสองสามเดือนก่อน ตอนที่เพื่อนๆ นัดเจอกัน ลองโทรไปชวนก็บอกว่ากำลังติดงานทัวร์ลูกค้าอยู่ตลอด ผมก็บอกเพื่อนไปว่า โอเค เอางานก่อน โอกาสหน้าค่อยเจอกันก็ได้ จนกระทั่งวันนี้หลังเหตุการณ์ประท้วง ต่างๆ ผมก็เริ่มเป็นห่วงเพื่อนคนนี้ขึ้นมาก็เลยโทรไป ปรากฎว่าเป็นจริงดังคาดว่า ช่วงนี้ลูกค้ายกเลิกทัวร์หมด รอลุ้นอีกทีก็ช่วงเดือนกรกฎาคมเลย จากที่เคยมีรายได้เดือนละ 3หมื่น ถึง แสนบาท แล้วแต่ค่าคอมและงานว่าเยอะหรือไม่ กลายเป็นว่ารายได้หายไปเฉยๆ เลย วันนี้ผมก็เลยเลี้ยงข้าวเที่ยงและคุยต่างๆ นาๆ
ผมคุยกับเพื่อนมาหลายคนผมพบว่า คนแต่ละคนมีความสามารถแตกต่างกันในด้านความรู้ความสามารถ ปฏิภาณ ไหวพริบ แต่พอถามเรื่องเงินๆ ทองๆ กลับคิดอะไรไม่ออกมาเฉยๆ ครั้นจะบอกไปตรงๆ ว่าให้ลงทุนเพื่อให้เงินงอกเงยก็ดูตรงและเหมือนบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่มีความรู้และดูน่ากลัว ที่สำคัญอย่าว่าแต่ลงทุนเลย เงินออมยังไม่มีและยังไม่คิดที่จะออมเลย
ผมก็เลยได้แต่บอกแนวคิด บอกวิธีออมเงิน บอกวิธีจัดการหนี้สิน การใช้บัตรเครดิตไปก่อน เพราะรู้ว่าหากเรายัดเยียดความรู้ให้โดยที่เขายังไม่ต้องการ เพื่อนอาจจะมองว่าเราเพี้ยนหรือเปล่าที่จะไปให้เขาทำโน่นทำนี่ และที่สำคัญบางคนที่เคยคุยด้วยถึงกับพูดออกมาว่า "เงินไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุด" "มีเงินเยอะก็ไม่ใช่ว่าจะมีความสุข" "เราคิดว่าโลกน่าจะใกล้แตกแล้วเก็บเงินเยอะๆก็ไม่ได้ใช้อยู่ดี"
เราก็ได้แต่บอกว่าเราก็ไม่ได้คิดว่าเงินสำคัญที่สุดเหมือนกัน เราก็คิดว่าการมีสุขภาพดี มีครอบครัวดี ได้ทำสิ่งที่ชอบ เป็นสิ่งที่สำคัญกว่า แต่เราแค่อยากบอกว่า การหาเงิน ใช้เงิน และลงทุน เพื่อทำให้เราได้อิสระภาพทางการเงิน ที่จะทำให้เราและคนรอบข้างเราไม่ต้องกังวลว่า เดือนนี้จะมีเงินไหม จะมีเงินจ่ายค่าเช่าห้องไหม ค่าน้ำมันรถอีกล่ะ ฯลฯ
ทุกวันนี้ผมตั้งใจไว้ว่าจะพยายามให้ความรู้กับเพื่อนๆ ในการบริหารเงินโดยใช้ประสบการณ์ของตัวเอง บวกกับการศึกษาประสบการณ์ของท่านอื่นๆ มารวมกันและบอกต่อไป เหมือนกับว่าหากเรามีสิ่งที่รู้ว่าดี เราก็อยากจะบอกเพื่อนๆ ของเราอย่างนั้นเลยล่ะ
แต่โดนคนรอบข้างแอนตี้ตลอดเลย บางคนบอกผมหน้าเลือด เห็นแก่เงิน
บางคนเอามามั่วกับงานประจำที่ผมทำอยู่ เวลาผมมีปัญหากับงานประจำ
เลยกลายเป็นคนเลวไปเลย (^ ^) ผมก็ไม่เข้าใจนะ
ผมแค่อยากรู้อะไรแล้วก็ลองทำๆ ดูเท่านั้นเอง เซ็ง
website for the value investor
=> https://hoonapp.com
=> https://hoonapp.com
-
- Verified User
- โพสต์: 210
- ผู้ติดตาม: 0
ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ
โพสต์ที่ 41
เรื่องโลกแตกแล้วไม่ยอมเก็บเงินนี่ผมเจอมาหลายคนครับ
บางคนก็แอบแขวะเราว่า จะเก็บเงินไปทำไมมากมาย อีก 2 ปี โลกก็แตกแล้ว
สู้เอามาใช้ดีกว่า
ผมก็ได้แต่อมยิ้ม
ผมว่า โลกจะแตกหรือไม่ ผมไม่รู้หรอกครับ
ถึงจะแตกจริง เราก็ได้ทำเต็มที่ในปัจจุบัน มันก็ ok แล้ว
แต่ถ้ามันไม่แตก
ผมก็ไม่ต้องมานั่งนับ 1 ใหม่ ตอน ปี 2012
บางคนก็แอบแขวะเราว่า จะเก็บเงินไปทำไมมากมาย อีก 2 ปี โลกก็แตกแล้ว
สู้เอามาใช้ดีกว่า
ผมก็ได้แต่อมยิ้ม
ผมว่า โลกจะแตกหรือไม่ ผมไม่รู้หรอกครับ
ถึงจะแตกจริง เราก็ได้ทำเต็มที่ในปัจจุบัน มันก็ ok แล้ว
แต่ถ้ามันไม่แตก
ผมก็ไม่ต้องมานั่งนับ 1 ใหม่ ตอน ปี 2012
- kornjackrit
- Verified User
- โพสต์: 1524
- ผู้ติดตาม: 0
ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ
โพสต์ที่ 42
พี่ Voldtrest ออมได้สุดยอดมากคับ : ))
สมัย ม.ปลายผมออมได้เกิน 50%
แต่เข้ามหาลัยอัตราการออมกลับมาเหลือ 50%
ค่าใช้จ่ายชีวิตวัยรุ่นเยอะไปหน่อยคับ
:oops:
สมัย ม.ปลายผมออมได้เกิน 50%
แต่เข้ามหาลัยอัตราการออมกลับมาเหลือ 50%
ค่าใช้จ่ายชีวิตวัยรุ่นเยอะไปหน่อยคับ
:oops:
When you become famous, the first thing you should have to remember is not your success story but those who help you along the way.
- Outliers
- Verified User
- โพสต์: 527
- ผู้ติดตาม: 0
ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ
โพสต์ที่ 43
% ออมของผมเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆตามเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นครับ
ยอมรับว่าพอเงินเดือนสูงขึ้นค่าใช้จ่ายก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว แต่อย่างไรก็ตามการใช้เงินของผมก็ขึ้นน้อยกว่าเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นอยู่บ้าง จึงทำให้ % การออมที่มากขึ้นอยู่ดี จำได้ว่าสมัยทำงานใหม่ๆ เงินเดือน 20,000 ใช้ประมาณ 10,000 ออมได้ 10,000 (50% ออม) แต่ตอนนี้เงินเดือนขึ้นไปกว่า 4 เท่าแล้ว แต่ค่าใช่จ่ายเพิ่มมาแค่เท่าตัวจึงทำให้ % การออมขึ้นมากว่า 70% แล้ว แต่คาดว่าถ้ามีการซื้อบ้านแบบผ่อนเมื่อไหร่ % การออมก็น่าจะกลับไปที่แถวๆ 50% ตามเดิม
ยอมรับว่าพอเงินเดือนสูงขึ้นค่าใช้จ่ายก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว แต่อย่างไรก็ตามการใช้เงินของผมก็ขึ้นน้อยกว่าเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นอยู่บ้าง จึงทำให้ % การออมที่มากขึ้นอยู่ดี จำได้ว่าสมัยทำงานใหม่ๆ เงินเดือน 20,000 ใช้ประมาณ 10,000 ออมได้ 10,000 (50% ออม) แต่ตอนนี้เงินเดือนขึ้นไปกว่า 4 เท่าแล้ว แต่ค่าใช่จ่ายเพิ่มมาแค่เท่าตัวจึงทำให้ % การออมขึ้นมากว่า 70% แล้ว แต่คาดว่าถ้ามีการซื้อบ้านแบบผ่อนเมื่อไหร่ % การออมก็น่าจะกลับไปที่แถวๆ 50% ตามเดิม
The Miracle of 10,000 hrs
-
- Verified User
- โพสต์: 1400
- ผู้ติดตาม: 0
ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ
โพสต์ที่ 44
ฟังดูเหมือนเป็นธรรมชาติ ที่ไม่มีใครหนีพ้นไปได้Outliers เขียน:% ออมของผมเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆตามเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นครับ
ยอมรับว่าพอเงินตัว เดือนสูงขึ้นค่าใช้จ่ายก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามแต่อย่างไรก็ตามการใช้เงินของผมก็ขึ้นน้อยกว่าเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นอยู่บ้าง จึงทำให้ % การออมที่มากขึ้นอยู่ดี จำได้ว่าสมัยทำงานใหม่ๆ เงินเดือน 20,000 ใช้ประมาณ 10,000 ออมได้ 10,000 (50% ออม) แต่ตอนนี้เงินเดือนขึ้นไปกว่า 4 เท่าแล้ว แต่ค่าใช่จ่ายเพิ่มมาแค่เท่าตัวจึงทำให้ % การออมขึ้นมากว่า 70% แล้ว แต่คาดว่าถ้ามีการซื้อบ้านแบบผ่อนเมื่อไหร่ % การออมก็น่าจะกลับไปที่แถวๆ 50% ตามเดิม
ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นครับ พี่ Outliers
เป็นเพราะพี่เพิ่มระดับคุณภาพการใช้ชีวิต
ค่าใช้จ่ายทางสังคม ที่ต้องปรับขึ้นตาม หน้าที่การงานที่ก้าวหน้า :?:
ผมคนนึงล่ะ ที่อยากทวนกระแสดู
อยากให้ออกมาแบบยิ่งรายได้เยอะ ยิ่งเก็บได้เข้าใกล้ 100 %
เอามันส์ครับ :P
-
- Verified User
- โพสต์: 1400
- ผู้ติดตาม: 0
ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ
โพสต์ที่ 45
ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น
ขอตัดปัจจัยในเรื่องต่อไปนี้
ไม่รวมผลจาก ฐานภาษีเงินได้ที่สูงขึ้น
ไม่รวมผลจาก การดูแลพ่อแม่ที่ชราภาพ เข้าออก รพ. มากขึ้น
ไม่รวมผลจาก การมีครอบครัว เลี้ยงดูลูก ภรรยาที่เป็นแม่บ้าน
ไม่รวมผลจาก พฤติกรรมการใช้จ่ายส่วนตัวที่เปลี่ยนไป
ฯลฯ
รอฟังนะครับ :8)
ขอตัดปัจจัยในเรื่องต่อไปนี้
ไม่รวมผลจาก ฐานภาษีเงินได้ที่สูงขึ้น
ไม่รวมผลจาก การดูแลพ่อแม่ที่ชราภาพ เข้าออก รพ. มากขึ้น
ไม่รวมผลจาก การมีครอบครัว เลี้ยงดูลูก ภรรยาที่เป็นแม่บ้าน
ไม่รวมผลจาก พฤติกรรมการใช้จ่ายส่วนตัวที่เปลี่ยนไป
ฯลฯ
รอฟังนะครับ :8)
-
- Verified User
- โพสต์: 1400
- ผู้ติดตาม: 0
ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ
โพสต์ที่ 47
[quote="Outliers"] เมื่อมองย้อนกลับไป ณ.ปีแรกๆกับปีปัจจุบันจะเห็นค่าที่ต่างกันมากๆได้แก่
1) ค่าน้ำมันรถที่เพิ่มขึ้นมาเกือบ 80% อันนี้ไม่ต้องอธิบายมาก เป็นอันรู้กัน
2) ค่าอาหารเพิ่มเกือบ 3 เท่า เพราะ เงินเฟ้อ + มีลูกน้องและงานสังคมมากขึ้น + มีแฟน
1) ค่าน้ำมันรถที่เพิ่มขึ้นมาเกือบ 80% อันนี้ไม่ต้องอธิบายมาก เป็นอันรู้กัน
2) ค่าอาหารเพิ่มเกือบ 3 เท่า เพราะ เงินเฟ้อ + มีลูกน้องและงานสังคมมากขึ้น + มีแฟน
- Outliers
- Verified User
- โพสต์: 527
- ผู้ติดตาม: 0
ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ
โพสต์ที่ 48
จริงๆตอนที่พี่ยังไม่มีแฟนก็ไม่ค่อยได้ขับรถนะ ขับเฉพาะวันที่จำเป็นกับตอนหน้าฝน
แต่พอเริ่มมีแฟนก็ไปรับไปส่ง ทำให้ค่าเดินทางเพิ่มขึ้นมากเลย (แต่ก็เต็มใจทำนะ ก็คนมันเป็นห่วงนี่)
บางทีเราก็ต้องลดการประหยัดลงบางอย่างเพื่อเพิ่มความสุขทางใจเช่นกันครับ
แต่ส่วนใหญ่พี่จะระวังไม่ให้เกิดค่าใช้จ่ายใหญ่ๆ เช่นการซื้อสิ่งอำนวยความสะดวกที่ไม่จำเป็น เช่นโทรศัพท์แพงๆ อย่างรถที่ใช้อยู่ตอนนี้ก็ยังไม่มี CD เลยครับ เพราะคิดว่ายังไม่ค่อยจำเป็น (ใช้แบบเครื่องที่ต่อ MP3 กับคลื่นวิทยุได้แทน)
พี่คิดว่าคนส่วนใหญ่จะเสียระบบการออมที่ดีไปกับ
1) ของแพงๆ ชิ้นใหญ่ที่ไม่จำเป็น
2) ค่า golf, fitness, กล้อง
3) ค่าท่องเที่ยวที่เกินตัวไปมากๆ เช่นไปต่างประเทศ แบบแพงๆ พัก รร. 5 ดาว
4) ของ brand name อื่นๆเพื่อทำให้ดูดี เช่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ น้ำหอม เครื่องสำอาง
ถ้าเราลดของพวกนี้ได้พี่ว่ามี % ออมซัก 70% ++ ก็ OK แล้วนะ
แต่พอเริ่มมีแฟนก็ไปรับไปส่ง ทำให้ค่าเดินทางเพิ่มขึ้นมากเลย (แต่ก็เต็มใจทำนะ ก็คนมันเป็นห่วงนี่)
บางทีเราก็ต้องลดการประหยัดลงบางอย่างเพื่อเพิ่มความสุขทางใจเช่นกันครับ
แต่ส่วนใหญ่พี่จะระวังไม่ให้เกิดค่าใช้จ่ายใหญ่ๆ เช่นการซื้อสิ่งอำนวยความสะดวกที่ไม่จำเป็น เช่นโทรศัพท์แพงๆ อย่างรถที่ใช้อยู่ตอนนี้ก็ยังไม่มี CD เลยครับ เพราะคิดว่ายังไม่ค่อยจำเป็น (ใช้แบบเครื่องที่ต่อ MP3 กับคลื่นวิทยุได้แทน)
พี่คิดว่าคนส่วนใหญ่จะเสียระบบการออมที่ดีไปกับ
1) ของแพงๆ ชิ้นใหญ่ที่ไม่จำเป็น
2) ค่า golf, fitness, กล้อง
3) ค่าท่องเที่ยวที่เกินตัวไปมากๆ เช่นไปต่างประเทศ แบบแพงๆ พัก รร. 5 ดาว
4) ของ brand name อื่นๆเพื่อทำให้ดูดี เช่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ น้ำหอม เครื่องสำอาง
ถ้าเราลดของพวกนี้ได้พี่ว่ามี % ออมซัก 70% ++ ก็ OK แล้วนะ
The Miracle of 10,000 hrs
-
- Verified User
- โพสต์: 807
- ผู้ติดตาม: 0
ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ
โพสต์ที่ 49
ผมว่าเพื่อนฝูงและสังคมรอบตัวมีส่วนสำคัญในเรื่องการออมเงินมากๆ เลยนะ ถ้าเราอยู่ในสังคมที่หรูหราฟู่ฟ่า เอาแต่อวดรถใหม่ กระเป๋าใหม่ โทรศัพท์ใหม่ ชอบกินข้าวร้านหรูๆ กินเหล้าแพงๆ จะให้เราใช้ชีวิตเก็บออมก็ลำบากแล้วล่ะครับ บางครั้งถ้าเราไม่ตามกระแสสังคมบ้าง ก็เหมือนเราเข้าสังคมไม่เป็น ไม่รู้จักให้เกียรติเขาซะอย่างนั้น ผมว่านั่นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้รายจ่ายเพิ่มตามรายได้ครับ
การเลือกคบเพื่อนที่มีแนวทางเดียวกัน หรืออย่างน้อยก็เข้าใจสิ่งที่เราทำน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญได้ครับ และต้องยอมรับว่า เราอาจต้องเสียสังคมอีกสังคมนึงไปอย่างไม่มีทางเลือกเช่นกัน
ค้นหาสังคมที่ยอมรับในสิ่งที่เราเป็น หรือเป็นในสิ่งที่คนอื่นยอมรับเพื่อหาสังคม ผลลัพธ์จะต่างกันสิ้นเชิง สุดแท้แต่เราจะเลือกครับ
เล่าจากประสบการณ์จริงในครอบครัวครับ เหอะๆๆๆ
การเลือกคบเพื่อนที่มีแนวทางเดียวกัน หรืออย่างน้อยก็เข้าใจสิ่งที่เราทำน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญได้ครับ และต้องยอมรับว่า เราอาจต้องเสียสังคมอีกสังคมนึงไปอย่างไม่มีทางเลือกเช่นกัน
ค้นหาสังคมที่ยอมรับในสิ่งที่เราเป็น หรือเป็นในสิ่งที่คนอื่นยอมรับเพื่อหาสังคม ผลลัพธ์จะต่างกันสิ้นเชิง สุดแท้แต่เราจะเลือกครับ
เล่าจากประสบการณ์จริงในครอบครัวครับ เหอะๆๆๆ
อย่ายอมแพ้
-
- Verified User
- โพสต์: 807
- ผู้ติดตาม: 0
ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ
โพสต์ที่ 50
ผมทำงานมาแล้ว 3 ปี กินอยู่กับที่บ้านครับเลยสามารถออมได้ค่อนข้างมาก
ผมทำ ratio ส่วนตัวไว้สำหรับการออมดังนี้ครับ จากเงินเดือน 100%
• ออม 50%
(เข้าพอร์ตลงทุน ณ วันเงินเดือนออก)
• ทำบุญ 5%
(ทำบุญแค่นี้เพราะใช้ระบบตัดบัญชีทุกเดือนครับ)
• สังคม 5%
(ใส่ซองงานบวช งานแต่ง วันเกิด จิปาถะ เหมือนจะนานๆ ที แต่ความจริงมีได้ทุกเดือนสิน่า)
• ให้ที่บ้าน 20%
(กินอยู่กับที่บ้านนี่เนาะ อันนี้เลียนแบบกันยาก)
• ใช้ส่วนตัว 20%
(ค่าหนังสือ,ท่องเที่ยว, สังสรรค์, ของที่อยากได้ และสำรองสำหรับรายการพิเศษอื่นๆ ส่วนมากมักไม่เหลือ)
ทำมาได้เกือบปี ตอนนี้ไม่รู้สึกลำบากแล้วครับ แต่ให้หนักกว่านี้ก็คงไม่ไหว 555
ผมทำ ratio ส่วนตัวไว้สำหรับการออมดังนี้ครับ จากเงินเดือน 100%
• ออม 50%
(เข้าพอร์ตลงทุน ณ วันเงินเดือนออก)
• ทำบุญ 5%
(ทำบุญแค่นี้เพราะใช้ระบบตัดบัญชีทุกเดือนครับ)
• สังคม 5%
(ใส่ซองงานบวช งานแต่ง วันเกิด จิปาถะ เหมือนจะนานๆ ที แต่ความจริงมีได้ทุกเดือนสิน่า)
• ให้ที่บ้าน 20%
(กินอยู่กับที่บ้านนี่เนาะ อันนี้เลียนแบบกันยาก)
• ใช้ส่วนตัว 20%
(ค่าหนังสือ,ท่องเที่ยว, สังสรรค์, ของที่อยากได้ และสำรองสำหรับรายการพิเศษอื่นๆ ส่วนมากมักไม่เหลือ)
ทำมาได้เกือบปี ตอนนี้ไม่รู้สึกลำบากแล้วครับ แต่ให้หนักกว่านี้ก็คงไม่ไหว 555
อย่ายอมแพ้
-
- Verified User
- โพสต์: 18
- ผู้ติดตาม: 0
ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ
โพสต์ที่ 51
เห็นการออมของพี่ ๆ แต่ละคนแล้ว น่าทึ่งมากครับ บางข้อว่าจะขอนำไปใช้บ้าง คงไม่ว่ากันน่ะครับ
สำหรับผมตอนนี้ก็เพิ่งออมมาได้จริง ๆ จัง ๆ ไม่นานมานี้เองครับ เงินที่ได้จริง ๆ จากการทำงานต่อเดือนเหลืออยู่ประมาณ 80% ครับ
ส่วนอีก 20% โดนหักไปในเปแล้ว (ประกันสังคม, สำรองเลี้ยงชีพ, ภาษี, ซื้อหุ้นของบริษัท)
จากนั้นก็เอา 80% มาแบ่งต่อครับ (เทียบเป็น 100%) ได้แก่
ใช้จ่ายส่วนตัว 19%
ส่งบ้าน 19%
ค่าเช่าบ้าน 7%
ประกันชีวิต 6%
ออม 37%
อื่น ๆ (สังคม, ค่าเดินทาง, ทำบุญ) 12%
กำลังตัดส่วนที่ไม่จำเป็นออกไป จะได้ออมให้เยอะขึ้นอีกนิดหน่อยน่ะครับ :)
สำหรับผมตอนนี้ก็เพิ่งออมมาได้จริง ๆ จัง ๆ ไม่นานมานี้เองครับ เงินที่ได้จริง ๆ จากการทำงานต่อเดือนเหลืออยู่ประมาณ 80% ครับ
ส่วนอีก 20% โดนหักไปในเปแล้ว (ประกันสังคม, สำรองเลี้ยงชีพ, ภาษี, ซื้อหุ้นของบริษัท)
จากนั้นก็เอา 80% มาแบ่งต่อครับ (เทียบเป็น 100%) ได้แก่
ใช้จ่ายส่วนตัว 19%
ส่งบ้าน 19%
ค่าเช่าบ้าน 7%
ประกันชีวิต 6%
ออม 37%
อื่น ๆ (สังคม, ค่าเดินทาง, ทำบุญ) 12%
กำลังตัดส่วนที่ไม่จำเป็นออกไป จะได้ออมให้เยอะขึ้นอีกนิดหน่อยน่ะครับ :)
- luckyman
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2203
- ผู้ติดตาม: 0
ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ
โพสต์ที่ 53
ขอบคุณทุกความเห็นครับ
website for the value investor
=> https://hoonapp.com
=> https://hoonapp.com
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2273
- ผู้ติดตาม: 0
ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ
โพสต์ที่ 55
ตอนวัยรุ่นออมไม่ได้เลย
เอาเงินไปเที่ยวหมด หลักๆก็ลงขวด :lol:
ที่เหลือไม่ใช้เลย
พอเริ่มทำงานแล้วเงินเดือน 20000 โดนตัดโน่นตัดนี่ เหลือ ใช้จริงๆ ประมาณ 16000
ผมเอาเงินเข้าธนาคารแบบฝากประจำอีกอีก 4000 บาท
เหลือใช้เดือนละ 12000
จำได้ว่าเหนื่อยมากกว่าจะได้ ps2 เก็บถึง 6เดือน ตอนนั้นเครื่องละหมื่นสี่
พอได้นี่ดีใจสุดขีด
แต่สุดท้ายแล้วผมว่า ออมไม่ใช่คำตอบสุดท้าย
ต้องทำผลตอบแทนให้ดีด้วย
ออมได้ 80% ผลตอบแทนปีละ 2%
ออมใด้ 40% ผลตอบแทนปีละ 20%
ผมไม่แน่ใจว่าอย่างไหนจะดีกว่ากันนะ :D
เอาเงินไปเที่ยวหมด หลักๆก็ลงขวด :lol:
ที่เหลือไม่ใช้เลย
พอเริ่มทำงานแล้วเงินเดือน 20000 โดนตัดโน่นตัดนี่ เหลือ ใช้จริงๆ ประมาณ 16000
ผมเอาเงินเข้าธนาคารแบบฝากประจำอีกอีก 4000 บาท
เหลือใช้เดือนละ 12000
จำได้ว่าเหนื่อยมากกว่าจะได้ ps2 เก็บถึง 6เดือน ตอนนั้นเครื่องละหมื่นสี่
พอได้นี่ดีใจสุดขีด
แต่สุดท้ายแล้วผมว่า ออมไม่ใช่คำตอบสุดท้าย
ต้องทำผลตอบแทนให้ดีด้วย
ออมได้ 80% ผลตอบแทนปีละ 2%
ออมใด้ 40% ผลตอบแทนปีละ 20%
ผมไม่แน่ใจว่าอย่างไหนจะดีกว่ากันนะ :D
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
-
- Verified User
- โพสต์: 1400
- ผู้ติดตาม: 0
ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ
โพสต์ที่ 56
[quote="sunrise"]
แต่สุดท้ายแล้วผมว่า ออมไม่ใช่คำตอบสุดท้าย
ต้องทำผลตอบแทนให้ดีด้วย
1) ออมได้ 80% ผลตอบแทนปีละ 2%
2) ออมใด้ 40% ผลตอบแทนปีละ 20%
ผมไม่แน่ใจว่าอย่างไหนจะดีกว่ากันนะ
แต่สุดท้ายแล้วผมว่า ออมไม่ใช่คำตอบสุดท้าย
ต้องทำผลตอบแทนให้ดีด้วย
1) ออมได้ 80% ผลตอบแทนปีละ 2%
2) ออมใด้ 40% ผลตอบแทนปีละ 20%
ผมไม่แน่ใจว่าอย่างไหนจะดีกว่ากันนะ
เราต่างตื่นขึ้นมาทุกวัน เพื่อสร้างผลงานให้ได้ เราควรรู้ว่า ในทุกวันมีอะไรที่ต้องทำเพื่อให้เกิดผลงาน หากการตื่นขึ้นมา ไม่ได้เป็นไปเพื่อผลงาน เราก็ไม่สมควรที่จะตื่นขึ้นมาให้รกหูรกตาคนรอบข้าง
-
- Verified User
- โพสต์: 157
- ผู้ติดตาม: 0
ออมก่อนใช้ ด้วยการสร้างระบบการออมอัตโนมัติ
โพสต์ที่ 57
ผมว่า หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มีน้อยใช้น้อย มีมากใช้น้อย มันดีสำหรับผมที่สุดครับ
Always Look On The Bright Side Of Life.