ขอคำปรึกษาเรื่องขายอสังหา เอาเงินมาลงทุนในหุ้น (ต่อ) ค่ะ
-
- Verified User
- โพสต์: 37
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำปรึกษาเรื่องขายอสังหา เอาเงินมาลงทุนในหุ้น (ต่อ) ค่ะ
โพสต์ที่ 1
เมื่อ 4 เดือนก่อน ดิฉันเคยมาปรึกษาเกี่ยวกับการลงทุนในเรื่องการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และหุ้น
ได้รับคำแนะนำดีๆจากพี่ๆในห้องนี้มากมาย ขอขอบคุณสำหรับครั้งนั้นด้วยคะ
กระทู้เดิมค่ะ (มีการปรับตัวเลขให้ถูกต้องในกระทู้นี้ค่ะ)
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... sc&start=0
ตอนนั้นปรึกษาเรื่องจะขายคอนโดทิ้งเพราะรายได้ของครอบครัวไม่พอกับรายจ่ายเนื่องจากซื้ออสังหาริมทรัพย์มากเกินไป
แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ใช้วิธีขายทิ้ง แต่เอาคอนโดไปค้ำกับธนาคารและเอาเงินออกมาหมุนแทนค่ะ เพราะต้องการใช้เงินสดด่วน
แต่ตอนนี้ดิฉันหางานทำได้แล้ว ซึ่งๆจริงๆแล้วก็สามารถช่วยแม่ผ่อนได้ แต่จะไม่มีเงินเย็นและเงินเก็บจะเหลือน้อยมากคะ
และในความคิดของดิฉันคิดว่า การลงเงินทั้งหมดในอสังหาริมทรัพย์มันก็มีความเสี่ยงเรื่องฟองสบู่และสภาพคล่องอยู่มากคะ
ดิฉันเลยจะเอาเงินมากระจายลงทุนในหุ้น เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงและหาสภาพคล่องค่ะ ประกอบกับคุณแม่ก็เริ่มไว้ใจ
ในการให้เงินไปลงทุนมากขึ้น เพราะดิฉันมีรายได้เป็นของตัวเอง และมีวุฒิภาวะมากขึ้นค่ะ
ข้อมูลอาจจะยาวมากๆ ต้องขออภัยด้วยค่ะ สิ่งที่จะถามในวันนี้คือ คอนโด 3 ที่นี้ ถ้าเป็นพี่ๆ จะเลือกขายที่ไหนดีค่ะ (วิธีคำนวณ ข้างล่าง ขอให้ Credit คุณ picklife ค่ะ )
1. AP life@ Ratchada
กำไร ค่าเช่าเฉลี่ยต่อเดือน 15000 บาท
15000*11 (จ่ายค่านายหน้าหาผู้เช่า 1 เดือน)= 165,000*0.9(คิดเผื่ออัตราห้องว่าง) = 148,500 บาท ต่อ ปี
เงินดาวน์ +Furniture+ Built in 400,000 บาท
ดอกเบี้ยส่งธนาคาร 5% ต่อ ปี = 100,000 บาท ต่อ ปี
ราคาคอนโดขึ้น 5% ต่อ ปี = 100,000 บาท ต่อ ปี
ดังนั้น ROA (return on asset) = 148,500/2,700,000 = 5.5% ต่อ ปี
ROE (return on Equity) = 148,500/400,000 = 37% ต่อ ปี
ที่นี่คิดว่าจะเก็บไว้ค่ะ เพราะชอบตัวตึก ห้องใหญ่ อยู่ชั้นสูง วิวจากห้องสวยมาก ทำเลดีมากๆค่ะ
2. LPN Grand park view Asoke@ Sukhumvit 21
กำไร ค่าเช่าเฉลี่ยต่อเดือน 15000 บาท
15000*11(จ่ายค่านายหน้าหาผู้เช่า 1 เดือน) = 165000*0.9(คิดเผื่ออัตราห้องว่าง) = 148,500 บาท ต่อ ปี
เงินดาวน์ +Furniture+ Built in = 500,000
ดอกเบี้ยส่งธนาคาร 4.5% ต่อ ปี = 83,250 บาท ต่อ ปี
ราคาคอนโดขึ้น 4.5% ต่อ ปี = 83,250 บาท ต่อ ปี
ดังนั้น ROA (return on asset) = 148,500/2,800,000 = 5.3% ต่อ ปี
ROE (return on Equity) = 148,500/500,000 = 29.7% ต่อ ปี
ข้อดี - เป็นแหล่งย่านธุรกิจ คนต่างชาติเยอะ
- ห่างจาก บีทีเอส ประมาณ 800 เมตร /เอ็มอาร์ที 600 เมตร
- จะมีห้าง Terminal 21 มาเปิดใหม่ในอนาคต
- ใกล้ สถานีใหญ่ มักกะสัน เดินทางไปสุวรรณภูมิได้สะดวก
- นโยบายโครงการจะมีการทาสีตึกใหม่ทุก 3 ปี
ข้อเสีย - รถติดมากทั้งช่วงเช้าและเย็น
- แม้จะติดทั้ง บีทีเอสและเอ็มอาร์ที แต่เดินเท้าค่อนข้างไกล ต้องพึ่งพี่วินในการเข้าออก
- คนพลุกพล่าน
3. Condo one @ Sukhumvit 52
กำไร ค่าเช่าเฉลี่ยต่อเดือน 15000 บาท
15000*11(จ่ายค่านายหน้าหาผู้เช่า 1 เดือน) = 165000*0.9(คิดเผื่ออัตราห้องว่าง) = 148,500 บาท ต่อ ปี
เงินที่จ่ายไปแล้ว = 1,800,000 (เนื่องจากมีเหตุให้ต้องใช้เงินกระทันหันปีก่อน เลยเอาคอนโดไปกู้ออกมา 1,000,000)
ดอกเบี้ยส่งธนาคาร 5 % ต่อ ปี = 50,000 บาท ต่อ ปี
ราคาคอนโดขึ้น 5 % ต่อ ปี = 50,000 บาท ต่อ ปี
ดังนั้น ROA (return on asset) = 148,500/2,800,000 = 5.3% ต่อ ปี
ROE (return on Equity) = 148,500/1,800,000 = 8.25% ต่อ ปี
ข้อดี - ใกล้ โลตัส อ่อนนุช และตลาด
- ทำเลและบรรยากาศเงียบสงบ คนในตึกไม่พลุกพล่าน
ข้อเสีย - ทำเลเกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะหากอนาคตอันใกล้
บีทีเอส อ่อนนุช ไม่ใช่สถานีปลายทาง ผู้คนอาจจะไม่ลงสถานีนี้เยอะ
และในทางที่แย่ที่สุดคือตลาดอาจจะอยู่ไม่ได้ค่ะ
4. ในกรณีเลือกขาย คอนโดวันทิ้งจะเหลือเงินสดอยู่ประมาณ 1,800,000 บาท แบ่งเงินเป็น 3 ส่วน
- ลงทุนในหุ้น 1,000,000 บาท คิดผลตอบแทนเฉลี่ย 10-15% ต่อปี = 100,000-150,000 บาท ต่อ ปี (เน้นหุ้นปันผลค่ะ)
- หมุนธุรกิจร้าน 300,000 บาท
- เงินเย็น 500,000 บาท
รายจ่ายต่อปี (ไม่รวมค่ากิน ค่าเดินทางในแต่ละเดือน)
AP life@ Ratchada 16000(ผ่อนต่อเดือน)-15000 = 1000x11 = 11000+16000= 28000 บาท
LPN Grand park view Asoke 19000(ผ่อนต่อเดือน)*12 = 228,000 บาท
ประกันชีวิต 100000
ค่าส่วนกลางคอนโด 2 แห่ง 35,000
รวมรายจ่ายต่อปี(ไม่รวมค่ากิน) 28000+228000+100000+35000 = 391,000 บาท
5. ในกรณีเลือกขาย คอนโดวันทิ้งจะเหลือเงินสดอยู่ประมาณ 800,000 บาท
ลงทุนในหุ้น 500,000 บาท คิดผลตอบแทนเฉลี่ย 10-15% ต่อปี = 50,000-75,000 บาท ต่อ ปี
หมุนธุรกิจร้าน 300,000 บาท
เงินเย็น (ออมเป็นรูปของเงินเก็บจากรายได้ในแต่ละเดือน)
รายจ่ายต่อปี (ไม่รวมค่ากิน ค่าเดินทางในแต่ละเดือน)
- AP life@ Ratchada 16000-15000 = 1000x11 = 11000+16000= 28000 บาท ต่อปี
- Condo one (กู้เงินออกมาปีที่แล้ว 1,000,000) ผ่อนเดือนละ 10,000*12 = 120,000 บาทต่อปี
- ประกันชีวิต 100000
- ค่าส่วนกลาง คอนโด 2 แห่ง 35,000
รวมรายจ่ายต่อปี(ไม่รวมค่ากิน) 28,000+120,000+100,000+35,000 = 283,000 บาท
รายได้ของดิฉัน ประมาณ 460,000 บาทต่อปี (รายได้ค่อนข้างมั่นคง เพราะทำงานบริษัทค่ะ)
รายได้ของคุณแม่ ประมาณ 300,000-1,000,000 บาท ต่อปี (ธุรกิจค้าขาย รายได้ไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจอย่างมากค่ะ)
ถ้าพิจารณาจาก
1. ทำเล ของคอนโดทั้ง 2 แห่ง
2. ความเหมาะสมของเงินสดที่เหลือจากการขายคอนโดแห่งใดแห่งหนึ่งและแบ่งไปลงทุนในหุ้น
3. จำนวนหนี้สินต่อปี และ รายได้ของดิฉันกับคุณแม่
4. หลังจากขายทิ้ง คอนโดที่เหลืออยู่ 2 ที่ ก็จะอยู่เองที่หนึ่ง และปล่อยเช่าอีก 1 ค่ะ
ถ้าพี่ๆอยู่ในสถาณการณ์แบบเดียวกันนี้จะเลือกเก็บคอนโดแห่งไหนไว้คะ ขอทราบเหตุผลด้วยค่ะ
ถ้าข้อมูลคำนวณผิดพลาดหรือต้องการองค์ประกอบอื่นๆในการพิจารณา สอบถามเพิ่มเติมได้ค่ะ และที่สำคัญมีข้อคิดและคำแนะนำใดๆ เชิญได้เลยค่ะ
ได้รับคำแนะนำดีๆจากพี่ๆในห้องนี้มากมาย ขอขอบคุณสำหรับครั้งนั้นด้วยคะ
กระทู้เดิมค่ะ (มีการปรับตัวเลขให้ถูกต้องในกระทู้นี้ค่ะ)
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... sc&start=0
ตอนนั้นปรึกษาเรื่องจะขายคอนโดทิ้งเพราะรายได้ของครอบครัวไม่พอกับรายจ่ายเนื่องจากซื้ออสังหาริมทรัพย์มากเกินไป
แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ใช้วิธีขายทิ้ง แต่เอาคอนโดไปค้ำกับธนาคารและเอาเงินออกมาหมุนแทนค่ะ เพราะต้องการใช้เงินสดด่วน
แต่ตอนนี้ดิฉันหางานทำได้แล้ว ซึ่งๆจริงๆแล้วก็สามารถช่วยแม่ผ่อนได้ แต่จะไม่มีเงินเย็นและเงินเก็บจะเหลือน้อยมากคะ
และในความคิดของดิฉันคิดว่า การลงเงินทั้งหมดในอสังหาริมทรัพย์มันก็มีความเสี่ยงเรื่องฟองสบู่และสภาพคล่องอยู่มากคะ
ดิฉันเลยจะเอาเงินมากระจายลงทุนในหุ้น เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงและหาสภาพคล่องค่ะ ประกอบกับคุณแม่ก็เริ่มไว้ใจ
ในการให้เงินไปลงทุนมากขึ้น เพราะดิฉันมีรายได้เป็นของตัวเอง และมีวุฒิภาวะมากขึ้นค่ะ
ข้อมูลอาจจะยาวมากๆ ต้องขออภัยด้วยค่ะ สิ่งที่จะถามในวันนี้คือ คอนโด 3 ที่นี้ ถ้าเป็นพี่ๆ จะเลือกขายที่ไหนดีค่ะ (วิธีคำนวณ ข้างล่าง ขอให้ Credit คุณ picklife ค่ะ )
1. AP life@ Ratchada
กำไร ค่าเช่าเฉลี่ยต่อเดือน 15000 บาท
15000*11 (จ่ายค่านายหน้าหาผู้เช่า 1 เดือน)= 165,000*0.9(คิดเผื่ออัตราห้องว่าง) = 148,500 บาท ต่อ ปี
เงินดาวน์ +Furniture+ Built in 400,000 บาท
ดอกเบี้ยส่งธนาคาร 5% ต่อ ปี = 100,000 บาท ต่อ ปี
ราคาคอนโดขึ้น 5% ต่อ ปี = 100,000 บาท ต่อ ปี
ดังนั้น ROA (return on asset) = 148,500/2,700,000 = 5.5% ต่อ ปี
ROE (return on Equity) = 148,500/400,000 = 37% ต่อ ปี
ที่นี่คิดว่าจะเก็บไว้ค่ะ เพราะชอบตัวตึก ห้องใหญ่ อยู่ชั้นสูง วิวจากห้องสวยมาก ทำเลดีมากๆค่ะ
2. LPN Grand park view Asoke@ Sukhumvit 21
กำไร ค่าเช่าเฉลี่ยต่อเดือน 15000 บาท
15000*11(จ่ายค่านายหน้าหาผู้เช่า 1 เดือน) = 165000*0.9(คิดเผื่ออัตราห้องว่าง) = 148,500 บาท ต่อ ปี
เงินดาวน์ +Furniture+ Built in = 500,000
ดอกเบี้ยส่งธนาคาร 4.5% ต่อ ปี = 83,250 บาท ต่อ ปี
ราคาคอนโดขึ้น 4.5% ต่อ ปี = 83,250 บาท ต่อ ปี
ดังนั้น ROA (return on asset) = 148,500/2,800,000 = 5.3% ต่อ ปี
ROE (return on Equity) = 148,500/500,000 = 29.7% ต่อ ปี
ข้อดี - เป็นแหล่งย่านธุรกิจ คนต่างชาติเยอะ
- ห่างจาก บีทีเอส ประมาณ 800 เมตร /เอ็มอาร์ที 600 เมตร
- จะมีห้าง Terminal 21 มาเปิดใหม่ในอนาคต
- ใกล้ สถานีใหญ่ มักกะสัน เดินทางไปสุวรรณภูมิได้สะดวก
- นโยบายโครงการจะมีการทาสีตึกใหม่ทุก 3 ปี
ข้อเสีย - รถติดมากทั้งช่วงเช้าและเย็น
- แม้จะติดทั้ง บีทีเอสและเอ็มอาร์ที แต่เดินเท้าค่อนข้างไกล ต้องพึ่งพี่วินในการเข้าออก
- คนพลุกพล่าน
3. Condo one @ Sukhumvit 52
กำไร ค่าเช่าเฉลี่ยต่อเดือน 15000 บาท
15000*11(จ่ายค่านายหน้าหาผู้เช่า 1 เดือน) = 165000*0.9(คิดเผื่ออัตราห้องว่าง) = 148,500 บาท ต่อ ปี
เงินที่จ่ายไปแล้ว = 1,800,000 (เนื่องจากมีเหตุให้ต้องใช้เงินกระทันหันปีก่อน เลยเอาคอนโดไปกู้ออกมา 1,000,000)
ดอกเบี้ยส่งธนาคาร 5 % ต่อ ปี = 50,000 บาท ต่อ ปี
ราคาคอนโดขึ้น 5 % ต่อ ปี = 50,000 บาท ต่อ ปี
ดังนั้น ROA (return on asset) = 148,500/2,800,000 = 5.3% ต่อ ปี
ROE (return on Equity) = 148,500/1,800,000 = 8.25% ต่อ ปี
ข้อดี - ใกล้ โลตัส อ่อนนุช และตลาด
- ทำเลและบรรยากาศเงียบสงบ คนในตึกไม่พลุกพล่าน
ข้อเสีย - ทำเลเกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะหากอนาคตอันใกล้
บีทีเอส อ่อนนุช ไม่ใช่สถานีปลายทาง ผู้คนอาจจะไม่ลงสถานีนี้เยอะ
และในทางที่แย่ที่สุดคือตลาดอาจจะอยู่ไม่ได้ค่ะ
4. ในกรณีเลือกขาย คอนโดวันทิ้งจะเหลือเงินสดอยู่ประมาณ 1,800,000 บาท แบ่งเงินเป็น 3 ส่วน
- ลงทุนในหุ้น 1,000,000 บาท คิดผลตอบแทนเฉลี่ย 10-15% ต่อปี = 100,000-150,000 บาท ต่อ ปี (เน้นหุ้นปันผลค่ะ)
- หมุนธุรกิจร้าน 300,000 บาท
- เงินเย็น 500,000 บาท
รายจ่ายต่อปี (ไม่รวมค่ากิน ค่าเดินทางในแต่ละเดือน)
AP life@ Ratchada 16000(ผ่อนต่อเดือน)-15000 = 1000x11 = 11000+16000= 28000 บาท
LPN Grand park view Asoke 19000(ผ่อนต่อเดือน)*12 = 228,000 บาท
ประกันชีวิต 100000
ค่าส่วนกลางคอนโด 2 แห่ง 35,000
รวมรายจ่ายต่อปี(ไม่รวมค่ากิน) 28000+228000+100000+35000 = 391,000 บาท
5. ในกรณีเลือกขาย คอนโดวันทิ้งจะเหลือเงินสดอยู่ประมาณ 800,000 บาท
ลงทุนในหุ้น 500,000 บาท คิดผลตอบแทนเฉลี่ย 10-15% ต่อปี = 50,000-75,000 บาท ต่อ ปี
หมุนธุรกิจร้าน 300,000 บาท
เงินเย็น (ออมเป็นรูปของเงินเก็บจากรายได้ในแต่ละเดือน)
รายจ่ายต่อปี (ไม่รวมค่ากิน ค่าเดินทางในแต่ละเดือน)
- AP life@ Ratchada 16000-15000 = 1000x11 = 11000+16000= 28000 บาท ต่อปี
- Condo one (กู้เงินออกมาปีที่แล้ว 1,000,000) ผ่อนเดือนละ 10,000*12 = 120,000 บาทต่อปี
- ประกันชีวิต 100000
- ค่าส่วนกลาง คอนโด 2 แห่ง 35,000
รวมรายจ่ายต่อปี(ไม่รวมค่ากิน) 28,000+120,000+100,000+35,000 = 283,000 บาท
รายได้ของดิฉัน ประมาณ 460,000 บาทต่อปี (รายได้ค่อนข้างมั่นคง เพราะทำงานบริษัทค่ะ)
รายได้ของคุณแม่ ประมาณ 300,000-1,000,000 บาท ต่อปี (ธุรกิจค้าขาย รายได้ไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจอย่างมากค่ะ)
ถ้าพิจารณาจาก
1. ทำเล ของคอนโดทั้ง 2 แห่ง
2. ความเหมาะสมของเงินสดที่เหลือจากการขายคอนโดแห่งใดแห่งหนึ่งและแบ่งไปลงทุนในหุ้น
3. จำนวนหนี้สินต่อปี และ รายได้ของดิฉันกับคุณแม่
4. หลังจากขายทิ้ง คอนโดที่เหลืออยู่ 2 ที่ ก็จะอยู่เองที่หนึ่ง และปล่อยเช่าอีก 1 ค่ะ
ถ้าพี่ๆอยู่ในสถาณการณ์แบบเดียวกันนี้จะเลือกเก็บคอนโดแห่งไหนไว้คะ ขอทราบเหตุผลด้วยค่ะ
ถ้าข้อมูลคำนวณผิดพลาดหรือต้องการองค์ประกอบอื่นๆในการพิจารณา สอบถามเพิ่มเติมได้ค่ะ และที่สำคัญมีข้อคิดและคำแนะนำใดๆ เชิญได้เลยค่ะ
-
- Verified User
- โพสต์: 807
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำปรึกษาเรื่องขายอสังหา เอาเงินมาลงทุนในหุ้น (ต่อ) ค่ะ
โพสต์ที่ 2
ผมไม่เคยเล่นอสังหาเลย อ่านแล้วทึ่ง ขออนุญาต มารอฟังด้วย
อย่ายอมแพ้
-
- Verified User
- โพสต์: 883
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำปรึกษาเรื่องขายอสังหา เอาเงินมาลงทุนในหุ้น (ต่อ) ค่ะ
โพสต์ที่ 3
ผมคิดว่า พี่ ก็มีกำไรจากคอนโดอยู่แล้วนี่ครับ เอาเงินส่วนที่ได้จากคอนโดมาลงทุนในหุ้นก่อนก็ได้ครับ แล้วเมื่อไรที่มั่นใจในการลงทุนในหุ้น 100% แล้ว ค่อยขายคอนโดแล้วเอามาลงทุนหุ้นก็ได้ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 37
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำปรึกษาเรื่องขายอสังหา เอาเงินมาลงทุนในหุ้น (ต่อ) ค่ะ
โพสต์ที่ 5
ไม่มีกำไรค่ะ เพราะว่าต้องผ่อน 3 ที่ ตอนนี้จะกลายเป็นภาระ เพราะได้เงินมาเท่าไหร่ก็เอาไปผ่อนหมด เงินเก็บ เงินเย็น ไม่มี ถ้าหากวันไหนต้องการเงินด่วนขึ้นมา คอนโดมีสภาพคล่องน้อยกว่าหุ้น อาจจะใช้เวลาหลายเดือนค่ะคนคอน เขียน:ผมคิดว่า พี่ ก็มีกำไรจากคอนโดอยู่แล้วนี่ครับ เอาเงินส่วนที่ได้จากคอนโดมาลงทุนในหุ้นก่อนก็ได้ครับ แล้วเมื่อไรที่มั่นใจในการลงทุนในหุ้น 100% แล้ว ค่อยขายคอนโดแล้วเอามาลงทุนหุ้นก็ได้ครับ
และลงในอสังหาริมทรัพย์หมดทั้งตัว ก็เสี่ยงมากค่ะ
แห่งที่ 1 ผ่อนธนาคารเดือนละ 16000 (ปล่อยเช่า เดือนละ 15000)
แห่งที่ 2 ผ่อนธนาคารเดือนละ 19000 (ปล่อยเช่า เดือนละ 15000)
แห่งที่ 3 ผ่อนธนาคารเดือนละ 10,000 (ตอนนี้อยู่เอง)
- green-orange
- Verified User
- โพสต์: 896
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำปรึกษาเรื่องขายอสังหา เอาเงินมาลงทุนในหุ้น (ต่อ) ค่ะ
โพสต์ที่ 6
ผมเห็นด้วยกับคุณ คนคอน นะครับว่าแรกๆเราควรจะลงทุนน้อยๆก่อน เพราะปีนี้คงไม่เหมือนปีก่อนที่คนส่วนมากหลับตาชี้เป้าก็กำไรครับ เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง การที่เราจะขายสินทรัพย์มาลงทุนนั้นมันก็เสียงไม่น้อยนะครับ อย่าลืมนะครับว่าคนลงทุนในหุ้น ไม่ได้กำไรทุกคน ถ้าพลาดก็อาจสูญเสียเงินของพ่อแม่ได้ ซึ่งเราต้องมองทั้งด้านขาดทุน และด้านกำไรนะครับ และอีกอย่างก็คือ เรื่องประสบการ์ณในตลาดก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะมือใหม่ ขนาดมือเก่ายังพลาดเลยครับคนคอน เขียน:ผมคิดว่า พี่ ก็มีกำไรจากคอนโดอยู่แล้วนี่ครับ เอาเงินส่วนที่ได้จากคอนโดมาลงทุนในหุ้นก่อนก็ได้ครับ แล้วเมื่อไรที่มั่นใจในการลงทุนในหุ้น 100% แล้ว ค่อยขายคอนโดแล้วเอามาลงทุนหุ้นก็ได้ครับ
เงินสดน่ะกำไว้ไม่เสียหายครับ ได้กำไรมากได้กำไรน้อยก็คือกำไรนะครับ รอเมื่อโอกาสชัวร์ๆมาถึงก็ไม่สายหรอกครับ ค่อยๆคิด ใจเย็นๆครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 883
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำปรึกษาเรื่องขายอสังหา เอาเงินมาลงทุนในหุ้น (ต่อ) ค่ะ
โพสต์ที่ 7
aarongibsonus เขียน: ไม่มีกำไรค่ะ เพราะว่าต้องผ่อน 3 ที่ ตอนนี้จะกลายเป็นภาระ เพราะได้เงินมาเท่าไหร่ก็เอาไปผ่อนหมด เงินเก็บ เงินเย็น ไม่มี ถ้าหากวันไหนต้องการเงินด่วนขึ้นมา คอนโดมีสภาพคล่องน้อยกว่าหุ้น อาจจะใช้เวลาหลายเดือนค่ะ
และลงในอสังหาริมทรัพย์หมดทั้งตัว ก็เสี่ยงมากค่ะ
แห่งที่ 1 ผ่อนธนาคารเดือนละ 16000 (ปล่อยเช่า เดือนละ 15000)
แห่งที่ 2 ผ่อนธนาคารเดือนละ 19000 (ปล่อยเช่า เดือนละ 15000)
แห่งที่ 3 ผ่อนธนาคารเดือนละ 10,000 (ตอนนี้อยู่เอง)
อ่อครับ ผมว่าน่าจะขายตัวที่มีภาระจ่ายมากที่สุดอะครับ
- BeSmile
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1178
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำปรึกษาเรื่องขายอสังหา เอาเงินมาลงทุนในหุ้น (ต่อ) ค่ะ
โพสต์ที่ 8
akekarat
...
อย่าไปเสียดายเลยครับ ตลาดหุ้นมีขึ้นมีลง ไม่มีเร็วไม่มีช้าหรอกครับ
คุณเข้ามาตอนนี้ คุณก็บอกเสียดายจัง น่าจะเริ่มเร็วกว่านี้หน่อย
ถ้าเร็วกว่านี้หน่อยที่คุณว่า หมายถึงต้นปี 51 คุณก็จะเจอหายนะในตลาดหุ้น
หรือถ้าเร็วกว่านั้นอีกซักต้นปี 47 คุณก็เจ๊งเหมือนกัน .... อย่ารีบร้อนเลยครับ
เอาเวลาที่มี ไปตั้งใจทำงานดีกว่า เพราะผลตอบแทน "จากการทำงาน" ตอนนี้มากกว่าผลตอบแทน "จากการลงทุน" เยอะครับ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่คุณยังเป็นมือใหม่ในตลาดหุ้น และอยู่ในช่วงสภาวะแทกซี่ก็เล่นหุ้นแบบนี้ อย่ามองอะไรง่ายเกินไปครับ
สำหรับคำแนะนำ (ในกรณีถ้าผมเป็นคุณ)
คอนโดทั้ง 3 ที่ ให้คุณย้ายไปอยู่ที่ ๆ รู้สึกว่าสะดวกต่อการทำงานและชีวิตประจำวันมากที่สุด
ส่วนอีก 2 ห้องที่เหลือ ขายทิ้งครับ เพราะไม่เห็นห้องไหนจะสร้างกระแสเงินสดบวกให้คุณได้เลย
ยกตัวอย่างเช่นห้องที่ 1 ค่าเช่าอาจจะพอดีตัวกับเงินผ่อนธนาคาร คุณอาจจะคิดว่าเก็บไว้เป็นทรัพย์สิน
แต่ในฐานะที่คุณมีความรู้ด้านเศรษฐศาตร์ ผมบอกว่าคุณกำลังขาดทุน เพราะถ้าคุณขายห้องนี้ทิ้งซะ คุณจะมีเงินเหลือ 0.8-1.0 ล้าน
ซึ่งสามารถสร้างรายได้แบบ risk free ให้คุณได้อย่างน้อยปีละ 5 หมื่นบาท ... นี่คือเงินที่คุณขาดทุนในเชิงเศรษฐศาสตร์สำหรับคอนโดหลังที่ 1
ส่วนหลังที่ 2 ไม่ต้องพูดถึง ... ขายทิ้งไปให้เร็วที่สุด หรือถ้าสามารถย้ายมาอยู่ได้โดยไม่ลำบาก ก็ควรทำ
หลังที่ 3 ในกรณีที่คุณคิดจะอยู่ ก็แล้วไป แต่ถ้าคุณย้ายไปได้ ก็ลองคิดแบบที่อธิบายไปในหลังที่ 1
*****************
ตามไปอ่านมา ผมชอบความคิดเห็นของคุณ akekarat ในเรื่อง Condo
จากประสบการณ์ตอนผมขาย Condo ผมขาย Discount จากราคาที่คนอื่นขาย 5-7% เลย ผมคิดว่าขายเร็ว ดีกว่ากอดไว้
โชคดี ขายก่อน Subprime 1 เดือน โชคร้าย ตอนนี้ราคาซื้อ ขึ้น 20%
อะไร อะไร ก็ไม่แน่นอนครับ :lol:
*****************
การปล่อยเช่า ถ้าคนเล่น Condo น่าจะไปหามือ 2 สภาพดีมาปล่อยเช่าจะดีกว่า
ถ้าซื้อมือ 1 มาทำ ราคาปล่อยเช่า ไม่น่าจะคุ้มเงินจ่ายรายเดือน
ผมว่าการคำนวณ ที่เห็นน่าจะเป็น Best case นะครับ
ลองนึกดูนะครับ ถ้ามี 2 ที่ ปล่อยได้ อีกที่ปล่อยไม่ได้ ก็เหมือนเล่น Margin ที่ต้องหาเงินมาจ่ายเงินกู้ ซึ่งโอกาศเกิดขึ้นสูงมาก
นี่ยังไม่รวมค่าเสื่อม ค่าซ่อม ค่าดูแล ...
*************
จะเห็นว่ามีคำแนะนำมากมาย ขึ้นกับ Frame of reference ของคุณล่ะครับ ในการวิเคราะห์ และ นำข้อมูลมาตัดสินใจ
:D
...
อย่าไปเสียดายเลยครับ ตลาดหุ้นมีขึ้นมีลง ไม่มีเร็วไม่มีช้าหรอกครับ
คุณเข้ามาตอนนี้ คุณก็บอกเสียดายจัง น่าจะเริ่มเร็วกว่านี้หน่อย
ถ้าเร็วกว่านี้หน่อยที่คุณว่า หมายถึงต้นปี 51 คุณก็จะเจอหายนะในตลาดหุ้น
หรือถ้าเร็วกว่านั้นอีกซักต้นปี 47 คุณก็เจ๊งเหมือนกัน .... อย่ารีบร้อนเลยครับ
เอาเวลาที่มี ไปตั้งใจทำงานดีกว่า เพราะผลตอบแทน "จากการทำงาน" ตอนนี้มากกว่าผลตอบแทน "จากการลงทุน" เยอะครับ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่คุณยังเป็นมือใหม่ในตลาดหุ้น และอยู่ในช่วงสภาวะแทกซี่ก็เล่นหุ้นแบบนี้ อย่ามองอะไรง่ายเกินไปครับ
สำหรับคำแนะนำ (ในกรณีถ้าผมเป็นคุณ)
คอนโดทั้ง 3 ที่ ให้คุณย้ายไปอยู่ที่ ๆ รู้สึกว่าสะดวกต่อการทำงานและชีวิตประจำวันมากที่สุด
ส่วนอีก 2 ห้องที่เหลือ ขายทิ้งครับ เพราะไม่เห็นห้องไหนจะสร้างกระแสเงินสดบวกให้คุณได้เลย
ยกตัวอย่างเช่นห้องที่ 1 ค่าเช่าอาจจะพอดีตัวกับเงินผ่อนธนาคาร คุณอาจจะคิดว่าเก็บไว้เป็นทรัพย์สิน
แต่ในฐานะที่คุณมีความรู้ด้านเศรษฐศาตร์ ผมบอกว่าคุณกำลังขาดทุน เพราะถ้าคุณขายห้องนี้ทิ้งซะ คุณจะมีเงินเหลือ 0.8-1.0 ล้าน
ซึ่งสามารถสร้างรายได้แบบ risk free ให้คุณได้อย่างน้อยปีละ 5 หมื่นบาท ... นี่คือเงินที่คุณขาดทุนในเชิงเศรษฐศาสตร์สำหรับคอนโดหลังที่ 1
ส่วนหลังที่ 2 ไม่ต้องพูดถึง ... ขายทิ้งไปให้เร็วที่สุด หรือถ้าสามารถย้ายมาอยู่ได้โดยไม่ลำบาก ก็ควรทำ
หลังที่ 3 ในกรณีที่คุณคิดจะอยู่ ก็แล้วไป แต่ถ้าคุณย้ายไปได้ ก็ลองคิดแบบที่อธิบายไปในหลังที่ 1
*****************
ตามไปอ่านมา ผมชอบความคิดเห็นของคุณ akekarat ในเรื่อง Condo
จากประสบการณ์ตอนผมขาย Condo ผมขาย Discount จากราคาที่คนอื่นขาย 5-7% เลย ผมคิดว่าขายเร็ว ดีกว่ากอดไว้
โชคดี ขายก่อน Subprime 1 เดือน โชคร้าย ตอนนี้ราคาซื้อ ขึ้น 20%
อะไร อะไร ก็ไม่แน่นอนครับ :lol:
*****************
การปล่อยเช่า ถ้าคนเล่น Condo น่าจะไปหามือ 2 สภาพดีมาปล่อยเช่าจะดีกว่า
ถ้าซื้อมือ 1 มาทำ ราคาปล่อยเช่า ไม่น่าจะคุ้มเงินจ่ายรายเดือน
ผมว่าการคำนวณ ที่เห็นน่าจะเป็น Best case นะครับ
ลองนึกดูนะครับ ถ้ามี 2 ที่ ปล่อยได้ อีกที่ปล่อยไม่ได้ ก็เหมือนเล่น Margin ที่ต้องหาเงินมาจ่ายเงินกู้ ซึ่งโอกาศเกิดขึ้นสูงมาก
นี่ยังไม่รวมค่าเสื่อม ค่าซ่อม ค่าดูแล ...
*************
จะเห็นว่ามีคำแนะนำมากมาย ขึ้นกับ Frame of reference ของคุณล่ะครับ ในการวิเคราะห์ และ นำข้อมูลมาตัดสินใจ
:D
มีสติ - อย่าประมาทในการใช้ชีวิต
- leaderinshadow
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1765
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำปรึกษาเรื่องขายอสังหา เอาเงินมาลงทุนในหุ้น (ต่อ) ค่ะ
โพสต์ที่ 9
AP life@ Ratchada ตรงนั้นทำเลดีเลยครับ รถไฟฟ้าหน้าคอนโดแบบนั้น
หายากนะคับ ถ้าจะเก็บ แนะนำให้เก็บตรงนี้ไว้ หรือถ้าจะขาย ก็ไม่ควรตั้งต่ำ
ส่วนอีก 2 ที่ ยังไม่เคยเห็นโครงการ
แต่ LPN ขึ้นชื่อเรื่องดูแลโครงการดี ไม่ค่อยน่าห่วง แล้วก็โครงการมีชื่อ
น่าจะปล่อยง่าย
ส่วนอีกแห่ง แนะนำให้ปล่อยนะคับ
สำหรับคำแนะนำ ถ้าเป็นผม (ไม่จำเป็นทำตามนะคับ อาจจะปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม)
1. อยู่บ้านคุณแม่ เพราะถ้าเราไปอยู่คอนโด เท่ากับเรามีค่าเสียโอกาส(ค่าเช่า) เดือนละ 15000
2. ช่วยคุณแม่ผ่อน โดยเราอาจจะซื้อต่อจากที่บ้านซักห้อง แล้วเอารายจ่ายดอกเบี้ยมาหักภาษี :o
และต้องทำภายในเดือนนี้เพราะค่าโอนถูก :shock:
3. ขายคอนโด 2 หลัง เก็บไว้แค่ AP เพราะที่สวย
4. ซื้อ LTF เต็มโควตรา ถ้ารายได้ 460000 คิด 15% ก็ 69000 บาท
ได้เครดิษภาษี 10% บวก Market Return :D
5. เงินที่เหลือหลังซื้อ LTF ค่อยมาลงในหุ้นแบบ VI
ปล. ถ้าสนใจ อาจจะช่วยขายคอนโดให้ก็ได้นะคับ พอดีทำตรงนี้อยู่
pm รายละเอียดมาให้ก็ได้นะคับ
หายากนะคับ ถ้าจะเก็บ แนะนำให้เก็บตรงนี้ไว้ หรือถ้าจะขาย ก็ไม่ควรตั้งต่ำ
ส่วนอีก 2 ที่ ยังไม่เคยเห็นโครงการ
แต่ LPN ขึ้นชื่อเรื่องดูแลโครงการดี ไม่ค่อยน่าห่วง แล้วก็โครงการมีชื่อ
น่าจะปล่อยง่าย
ส่วนอีกแห่ง แนะนำให้ปล่อยนะคับ
สำหรับคำแนะนำ ถ้าเป็นผม (ไม่จำเป็นทำตามนะคับ อาจจะปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม)
1. อยู่บ้านคุณแม่ เพราะถ้าเราไปอยู่คอนโด เท่ากับเรามีค่าเสียโอกาส(ค่าเช่า) เดือนละ 15000
2. ช่วยคุณแม่ผ่อน โดยเราอาจจะซื้อต่อจากที่บ้านซักห้อง แล้วเอารายจ่ายดอกเบี้ยมาหักภาษี :o
และต้องทำภายในเดือนนี้เพราะค่าโอนถูก :shock:
3. ขายคอนโด 2 หลัง เก็บไว้แค่ AP เพราะที่สวย
4. ซื้อ LTF เต็มโควตรา ถ้ารายได้ 460000 คิด 15% ก็ 69000 บาท
ได้เครดิษภาษี 10% บวก Market Return :D
5. เงินที่เหลือหลังซื้อ LTF ค่อยมาลงในหุ้นแบบ VI
ปล. ถ้าสนใจ อาจจะช่วยขายคอนโดให้ก็ได้นะคับ พอดีทำตรงนี้อยู่
pm รายละเอียดมาให้ก็ได้นะคับ
-
- Verified User
- โพสต์: 37
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำปรึกษาเรื่องขายอสังหา เอาเงินมาลงทุนในหุ้น (ต่อ) ค่ะ
โพสต์ที่ 10
[quote="leaderinshadow"]AP life@ Ratchada ตรงนั้นทำเลดีเลยครับ รถไฟฟ้าหน้าคอนโดแบบนั้น
หายากนะคับ ถ้าจะเก็บ แนะนำให้เก็บตรงนี้ไว้ หรือถ้าจะขาย ก็ไม่ควรตั้งต่ำ
ส่วนอีก 2 ที่ ยังไม่เคยเห็นโครงการ
แต่ LPN ขึ้นชื่อเรื่องดูแลโครงการดี ไม่ค่อยน่าห่วง แล้วก็โครงการมีชื่อ
น่าจะปล่อยง่าย
ส่วนอีกแห่ง แนะนำให้ปล่อยนะคับ
สำหรับคำแนะนำ ถ้าเป็นผม (ไม่จำเป็นทำตามนะคับ อาจจะปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม)
1. อยู่บ้านคุณแม่ เพราะถ้าเราไปอยู่คอนโด เท่ากับเรามีค่าเสียโอกาส(ค่าเช่า) เดือนละ 15000
2. ช่วยคุณแม่ผ่อน โดยเราอาจจะซื้อต่อจากที่บ้านซักห้อง แล้วเอารายจ่ายดอกเบี้ยมาหักภาษี
หายากนะคับ ถ้าจะเก็บ แนะนำให้เก็บตรงนี้ไว้ หรือถ้าจะขาย ก็ไม่ควรตั้งต่ำ
ส่วนอีก 2 ที่ ยังไม่เคยเห็นโครงการ
แต่ LPN ขึ้นชื่อเรื่องดูแลโครงการดี ไม่ค่อยน่าห่วง แล้วก็โครงการมีชื่อ
น่าจะปล่อยง่าย
ส่วนอีกแห่ง แนะนำให้ปล่อยนะคับ
สำหรับคำแนะนำ ถ้าเป็นผม (ไม่จำเป็นทำตามนะคับ อาจจะปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม)
1. อยู่บ้านคุณแม่ เพราะถ้าเราไปอยู่คอนโด เท่ากับเรามีค่าเสียโอกาส(ค่าเช่า) เดือนละ 15000
2. ช่วยคุณแม่ผ่อน โดยเราอาจจะซื้อต่อจากที่บ้านซักห้อง แล้วเอารายจ่ายดอกเบี้ยมาหักภาษี
-
- Verified User
- โพสต์: 37
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำปรึกษาเรื่องขายอสังหา เอาเงินมาลงทุนในหุ้น (ต่อ) ค่ะ
โพสต์ที่ 11
[quote="BeSmile"]akekarat
สำหรับคำแนะนำ (ในกรณีถ้าผมเป็นคุณ)
คอนโดทั้ง 3 ที่ ให้คุณย้ายไปอยู่ที่ ๆ รู้สึกว่าสะดวกต่อการทำงานและชีวิตประจำวันมากที่สุด
ส่วนอีก 2 ห้องที่เหลือ ขายทิ้งครับ เพราะไม่เห็นห้องไหนจะสร้างกระแสเงินสดบวกให้คุณได้เลย
ยกตัวอย่างเช่นห้องที่ 1 ค่าเช่าอาจจะพอดีตัวกับเงินผ่อนธนาคาร คุณอาจจะคิดว่าเก็บไว้เป็นทรัพย์สิน
แต่ในฐานะที่คุณมีความรู้ด้านเศรษฐศาตร์ ผมบอกว่าคุณกำลังขาดทุน เพราะถ้าคุณขายห้องนี้ทิ้งซะ คุณจะมีเงินเหลือ 0.8-1.0 ล้าน
ซึ่งสามารถสร้างรายได้แบบ risk free ให้คุณได้อย่างน้อยปีละ 5 หมื่นบาท ... นี่คือเงินที่คุณขาดทุนในเชิงเศรษฐศาสตร์สำหรับคอนโดหลังที่ 1
ส่วนหลังที่ 2 ไม่ต้องพูดถึง ... ขายทิ้งไปให้เร็วที่สุด หรือถ้าสามารถย้ายมาอยู่ได้โดยไม่ลำบาก ก็ควรทำ
หลังที่ 3 ในกรณีที่คุณคิดจะอยู่ ก็แล้วไป แต่ถ้าคุณย้ายไปได้ ก็ลองคิดแบบที่อธิบายไปในหลังที่ 1
*****************
ตามไปอ่านมา ผมชอบความคิดเห็นของคุณ akekarat ในเรื่อง Condo
จากประสบการณ์ตอนผมขาย Condo ผมขาย Discount จากราคาที่คนอื่นขาย 5-7% เลย ผมคิดว่าขายเร็ว ดีกว่ากอดไว้
โชคดี ขายก่อน Subprime 1 เดือน
สำหรับคำแนะนำ (ในกรณีถ้าผมเป็นคุณ)
คอนโดทั้ง 3 ที่ ให้คุณย้ายไปอยู่ที่ ๆ รู้สึกว่าสะดวกต่อการทำงานและชีวิตประจำวันมากที่สุด
ส่วนอีก 2 ห้องที่เหลือ ขายทิ้งครับ เพราะไม่เห็นห้องไหนจะสร้างกระแสเงินสดบวกให้คุณได้เลย
ยกตัวอย่างเช่นห้องที่ 1 ค่าเช่าอาจจะพอดีตัวกับเงินผ่อนธนาคาร คุณอาจจะคิดว่าเก็บไว้เป็นทรัพย์สิน
แต่ในฐานะที่คุณมีความรู้ด้านเศรษฐศาตร์ ผมบอกว่าคุณกำลังขาดทุน เพราะถ้าคุณขายห้องนี้ทิ้งซะ คุณจะมีเงินเหลือ 0.8-1.0 ล้าน
ซึ่งสามารถสร้างรายได้แบบ risk free ให้คุณได้อย่างน้อยปีละ 5 หมื่นบาท ... นี่คือเงินที่คุณขาดทุนในเชิงเศรษฐศาสตร์สำหรับคอนโดหลังที่ 1
ส่วนหลังที่ 2 ไม่ต้องพูดถึง ... ขายทิ้งไปให้เร็วที่สุด หรือถ้าสามารถย้ายมาอยู่ได้โดยไม่ลำบาก ก็ควรทำ
หลังที่ 3 ในกรณีที่คุณคิดจะอยู่ ก็แล้วไป แต่ถ้าคุณย้ายไปได้ ก็ลองคิดแบบที่อธิบายไปในหลังที่ 1
*****************
ตามไปอ่านมา ผมชอบความคิดเห็นของคุณ akekarat ในเรื่อง Condo
จากประสบการณ์ตอนผมขาย Condo ผมขาย Discount จากราคาที่คนอื่นขาย 5-7% เลย ผมคิดว่าขายเร็ว ดีกว่ากอดไว้
โชคดี ขายก่อน Subprime 1 เดือน
-
- Verified User
- โพสต์: 37
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำปรึกษาเรื่องขายอสังหา เอาเงินมาลงทุนในหุ้น (ต่อ) ค่ะ
โพสต์ที่ 12
ขอบคุณ พี่วิชาญมากๆ สำหรับข้อคิดคะ ไม่รู้จำกันได้รึป่าวgreen-orange เขียน: ผมเห็นด้วยกับคุณ คนคอน นะครับว่าแรกๆเราควรจะลงทุนน้อยๆก่อน เพราะปีนี้คงไม่เหมือนปีก่อนที่คนส่วนมากหลับตาชี้เป้าก็กำไรครับ เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง การที่เราจะขายสินทรัพย์มาลงทุนนั้นมันก็เสียงไม่น้อยนะครับ อย่าลืมนะครับว่าคนลงทุนในหุ้น ไม่ได้กำไรทุกคน ถ้าพลาดก็อาจสูญเสียเงินของพ่อแม่ได้ ซึ่งเราต้องมองทั้งด้านขาดทุน และด้านกำไรนะครับ และอีกอย่างก็คือ เรื่องประสบการ์ณในตลาดก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะมือใหม่ ขนาดมือเก่ายังพลาดเลยครับ
เงินสดน่ะกำไว้ไม่เสียหายครับ ได้กำไรมากได้กำไรน้อยก็คือกำไรนะครับ รอเมื่อโอกาสชัวร์ๆมาถึงก็ไม่สายหรอกครับ ค่อยๆคิด ใจเย็นๆครับ
คอร์สการเงินคราวที่แล้ว ให้ประโยชน์มากๆเลยคะ
ทำให้มองเห็นภาำพการดูงบการเงินได้มากขึ้น
คอร์ส FundFlow เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปโอนเงินค่ะ
พอดีหนูขายสินทรัพย์เพื่อกระจายความเสี่ยงในการลงทุนคะ
ทุกวันนี้คุณแ่ม่ลงทั้งตัวไปกับอสังหาริมทรัพย์ สภาพคล่องทางการเงินเลยตึงๆ
ถ้าได้เงินก้อนจากคุณแม่มาลงทุน ก็จะใจเย็นๆ ถือเงินสดไว้ก่อนแน่นอนคะถ้ายังไม่มั่นใจในธุรกิจนั้นๆ
และจะพยายามศึกษาให้เข้าใจตัวธุรกิจของบริษัทที่จะลงทุนค่ะ ที่แน่ๆตอนนี้รอวิกฤตกรีกอยู่ค่ะ เผื่อลามมาไทย จะไ้ด้มีเงินสดไว้ทัน ช๊อป หุ้นดีราคาุถูก ในตอนนั้น
ุถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ก็คิดวิํธีรองรับไว้แล้วค่ะ
1. งานที่ทำตอนนี้ บริษัทมั่นคงมากอยู่ในอุตสากรรมรถยนต์อันดับต้นๆ และรายได้มั่นคงดีค่ะ
ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาใช้คืนคุณแม่ได้หมดแน่คะ และแม้คุณแม่ไม่มีรายได้ก็เลี้ยงท่านได้แน่นอนค่ะ
2. ถ้าในภาวะวิกฤต หุ้นที่เราเข้าซื้อ ราคาลงไปมากๆ ก็สงบนิ่งไว้ค่ะ และเอาเงินเย็นที่แบ่งเก็บไว้มาซื้อของราคาถูกเพิ่มค่ะ
อีกอย่างถ้าหุ้นพื้นฐานดีๆแล้วราคาลงมากๆเพราะคนตื่นตระหนกจากภาวะวิกฤติ บริษัทดีๆส่วนใหญ่จ่ายปันผลทดแทนออกมามากกว่าปกติคะ
และที่สำคัญก่อนที่หนูจะลงทุนในบริษัทนั้นๆ หนูต้องมั่นใจศักยภาพในการทำกำไรของบริษัทในอีก 5-10 ปีข้่างหน้าคะ ที่สำคัญหุ้นที่หนูจะเลือกต้องมี margin of safety สูงค่ะ
- green-orange
- Verified User
- โพสต์: 896
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำปรึกษาเรื่องขายอสังหา เอาเงินมาลงทุนในหุ้น (ต่อ) ค่ะ
โพสต์ที่ 13
พอดีหนูขายสินทรัพย์เพื่อกระจายความเสี่ยงในการลงทุนคะ
ทุกวันนี้คุณแ่ม่ลงทั้งตัวไปกับอสังหาริมทรัพย์ สภาพคล่องทางการเงินเลยตึงๆ
ถ้าได้เงินก้อนจากคุณแม่มาลงทุน ก็จะใจเย็นๆ ถือเงินสดไว้ก่อนแน่นอนคะถ้ายังไม่มั่นใจในธุรกิจนั้นๆ
และจะพยายามศึกษาให้เข้าใจตัวธุรกิจของบริษัทที่จะลงทุนค่ะ ที่แน่ๆตอนนี้รอวิกฤตกรีกอยู่ค่ะ เผื่อลามมาไทย จะไ้ด้มีเงินสดไว้ทัน ช๊อป หุ้นดีราคาุถูก ในตอนนั้น
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 177
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอคำปรึกษาเรื่องขายอสังหา เอาเงินมาลงทุนในหุ้น (ต่อ) ค่ะ
โพสต์ที่ 14
[quote="aarongibsonus"]เมื่อ 4 เดือนก่อน ดิฉันเคยมาปรึกษาเกี่ยวกับการลงทุนในเรื่องการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และหุ้น
ได้รับคำแนะนำดีๆจากพี่ๆในห้องนี้มากมาย ขอขอบคุณสำหรับครั้งนั้นด้วยคะ
กระทู้เดิมค่ะ (มีการปรับตัวเลขให้ถูกต้องในกระทู้นี้ค่ะ)
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... sc&start=0
ตอนนั้นปรึกษาเรื่องจะขายคอนโดทิ้งเพราะรายได้ของครอบครัวไม่พอกับรายจ่ายเนื่องจากซื้ออสังหาริมทรัพย์มากเกินไป
แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ใช้วิธีขายทิ้ง แต่เอาคอนโดไปค้ำกับธนาคารและเอาเงินออกมาหมุนแทนค่ะ เพราะต้องการใช้เงินสดด่วน
แต่ตอนนี้ดิฉันหางานทำได้แล้ว ซึ่งๆจริงๆแล้วก็สามารถช่วยแม่ผ่อนได้ แต่จะไม่มีเงินเย็นและเงินเก็บจะเหลือน้อยมากคะ
และในความคิดของดิฉันคิดว่า การลงเงินทั้งหมดในอสังหาริมทรัพย์มันก็มีความเสี่ยงเรื่องฟองสบู่และสภาพคล่องอยู่มากคะ
ได้รับคำแนะนำดีๆจากพี่ๆในห้องนี้มากมาย ขอขอบคุณสำหรับครั้งนั้นด้วยคะ
กระทู้เดิมค่ะ (มีการปรับตัวเลขให้ถูกต้องในกระทู้นี้ค่ะ)
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... sc&start=0
ตอนนั้นปรึกษาเรื่องจะขายคอนโดทิ้งเพราะรายได้ของครอบครัวไม่พอกับรายจ่ายเนื่องจากซื้ออสังหาริมทรัพย์มากเกินไป
แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ใช้วิธีขายทิ้ง แต่เอาคอนโดไปค้ำกับธนาคารและเอาเงินออกมาหมุนแทนค่ะ เพราะต้องการใช้เงินสดด่วน
แต่ตอนนี้ดิฉันหางานทำได้แล้ว ซึ่งๆจริงๆแล้วก็สามารถช่วยแม่ผ่อนได้ แต่จะไม่มีเงินเย็นและเงินเก็บจะเหลือน้อยมากคะ
และในความคิดของดิฉันคิดว่า การลงเงินทั้งหมดในอสังหาริมทรัพย์มันก็มีความเสี่ยงเรื่องฟองสบู่และสภาพคล่องอยู่มากคะ
-
- Verified User
- โพสต์: 37
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำปรึกษาเรื่องขายอสังหา เอาเงินมาลงทุนในหุ้น (ต่อ) ค่ะ
โพสต์ที่ 16
[quote="Elessar"]ผมลืมดูด้านล่าง
-
- Verified User
- โพสต์: 1
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำปรึกษาเรื่องขายอสังหา เอาเงินมาลงทุนในหุ้น (ต่อ) ค่ะ
โพสต์ที่ 17
ผมเป็นคนหนึ่งที่ลงทุนในอสังหาและมีคอนโดไว้ให้เช่าเหมือนกัน โดยกระจายความเสี่ยงไว้หลายทำเลครับ
ถ้าผมเป็นคุณผมไม่ขายทั้ง 3 โครงการเลยครับ หาเงินใหม่มาลงทุนในหุ้นดีกว่า
แต่ถ้าต้องการขายจริงๆ ผมแนะนำดังนี้
1. AP life@ Ratchada - อันนี้ไม่ขายแน่นอนเพราะอยู่ในย่านรัชดา ติด MRT ในอนาคตไม่มีอีกแล้วครับทำเลแบบนี้ แนะนำปล่อยเช่าต่อไปดีกว่า
2 LPN Grand Parkview Asoke อันนี้ไม่ขายแน่นอนเช่นกันเพราะที่ asoke ไม่มีที่ดินเหลือที่จะ develop แล้วครับ + ใกล้ BTS / MRT / AIRPORT LINK ไม่มีอีกแล้วครับ ที่นี่ผมมีหลาย unit ได้ ROA เฉลี่ย 10-12% ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา แนะนำถือไว้ครับ
3) Condo one @ Sukhumvit 52 อันนี้น่าขายสุดเพราะแถวนั้นถ้ามี condo ใหม่ขึ้นมาเมื่อไหร่คนเช่าก็จะย้ายไปที่ใหม่กว่าครับ และไม่มีอะไรเลยนอกจาก BTS ครับ
port ผม อสังหา 45% หุ้น 30% ทอง 20% เงินสด 5%
ถ้าผมเป็นคุณผมไม่ขายทั้ง 3 โครงการเลยครับ หาเงินใหม่มาลงทุนในหุ้นดีกว่า
แต่ถ้าต้องการขายจริงๆ ผมแนะนำดังนี้
1. AP life@ Ratchada - อันนี้ไม่ขายแน่นอนเพราะอยู่ในย่านรัชดา ติด MRT ในอนาคตไม่มีอีกแล้วครับทำเลแบบนี้ แนะนำปล่อยเช่าต่อไปดีกว่า
2 LPN Grand Parkview Asoke อันนี้ไม่ขายแน่นอนเช่นกันเพราะที่ asoke ไม่มีที่ดินเหลือที่จะ develop แล้วครับ + ใกล้ BTS / MRT / AIRPORT LINK ไม่มีอีกแล้วครับ ที่นี่ผมมีหลาย unit ได้ ROA เฉลี่ย 10-12% ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา แนะนำถือไว้ครับ
3) Condo one @ Sukhumvit 52 อันนี้น่าขายสุดเพราะแถวนั้นถ้ามี condo ใหม่ขึ้นมาเมื่อไหร่คนเช่าก็จะย้ายไปที่ใหม่กว่าครับ และไม่มีอะไรเลยนอกจาก BTS ครับ
port ผม อสังหา 45% หุ้น 30% ทอง 20% เงินสด 5%