ทำไม ถึง คิดว่าแนวทาง VI เป็นคำตอบของการเล่นหุ้น?
-
- Verified User
- โพสต์: 61
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไม ถึง คิดว่าแนวทาง VI เป็นคำตอบของการเล่นหุ้น?
โพสต์ที่ 1
สวัสดีครับ ผมเป็นสมาชิกน้องใหม่ครับ
ที่ผ่านมาลองเล่นหุ้นหลายแบบ เล่นรอบบ้าง ซื้อเช้า-ขายบ่ายบ้าง
หรือ เล่นเก็งกำไรจากข่าวบ้าง
.......สุดท้ายเข้าเนื้อ ..........
แต่ 1 ปี ที่ผ่านมาหลังจาก เข้ามาแอบดู แอบอ่านจาก เวป นี้
ผลลัพธ์การลงทุนเปลี่ยนไป จึงทำให้มั่นใจในแนวทางการลงทุนนี้มากขึ้น
เลยอยากจะถาม พี่สมาชิกกันว่า เพราะอะไร จึงเชื่อในแนวทาง VI ครับ ???
ที่ผ่านมาลองเล่นหุ้นหลายแบบ เล่นรอบบ้าง ซื้อเช้า-ขายบ่ายบ้าง
หรือ เล่นเก็งกำไรจากข่าวบ้าง
.......สุดท้ายเข้าเนื้อ ..........
แต่ 1 ปี ที่ผ่านมาหลังจาก เข้ามาแอบดู แอบอ่านจาก เวป นี้
ผลลัพธ์การลงทุนเปลี่ยนไป จึงทำให้มั่นใจในแนวทางการลงทุนนี้มากขึ้น
เลยอยากจะถาม พี่สมาชิกกันว่า เพราะอะไร จึงเชื่อในแนวทาง VI ครับ ???
-
- Verified User
- โพสต์: 1980
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไม ถึง คิดว่าแนวทาง VI เป็นคำตอบของการเล่นหุ้น?
โพสต์ที่ 2
สำหรับผมนะครับ
ผมเห็นว่า ราคาหุ้นมันคือภาพลวงตา
กำไรต่างหากที่เป็นของจริง
ยิ่งถ้าจะเอาแบบจับต้องได้
ต้องเป็นเงินปันผลครับ นี่ของจริงที่สุด เพราะมันเข้าบัญชีเห็นๆ
ผมเลยคิดว่าตัวเองเป็นVIที่เน้นปันผลครับ
แต่บางอารมณ์ผมก้อ...อยากจะเก็งกำไรอะไรที่มันดูUndervalueนิดๆ
เช่น
วันจันทร์นี้ รออยู่ตัวนึงว่าจะมีPANICแค่ไหน
แต่ขอบอกว่าการเก็งกำไรของผมก็ยังคงอยู่บนพื้นฐานกิจการนะครับ
แนวรับแนวต้านไม่สนครับ
ผมเห็นว่า ราคาหุ้นมันคือภาพลวงตา
กำไรต่างหากที่เป็นของจริง
ยิ่งถ้าจะเอาแบบจับต้องได้
ต้องเป็นเงินปันผลครับ นี่ของจริงที่สุด เพราะมันเข้าบัญชีเห็นๆ
ผมเลยคิดว่าตัวเองเป็นVIที่เน้นปันผลครับ
แต่บางอารมณ์ผมก้อ...อยากจะเก็งกำไรอะไรที่มันดูUndervalueนิดๆ
เช่น
วันจันทร์นี้ รออยู่ตัวนึงว่าจะมีPANICแค่ไหน
แต่ขอบอกว่าการเก็งกำไรของผมก็ยังคงอยู่บนพื้นฐานกิจการนะครับ
แนวรับแนวต้านไม่สนครับ
The mother of all evils is speculation, leverage debt. Bottom line, is borrowing to the hilt. And I hate to tell you this, but it's a bankrupt business model. It won't work. It's systemic, malignant, and it's global, like cancer.
- newbie_12
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2912
- ผู้ติดตาม: 1
ทำไม ถึง คิดว่าแนวทาง VI เป็นคำตอบของการเล่นหุ้น?
โพสต์ที่ 3
เป็นเพราะอะไรไม่ทราบได้นะครับ แต่สิ่งที่เกิดกับผม ตอนอ่านหนังสือการลงทุนเกี่ยวกับ VI ครั้งแรก เป็นเล่มสีเขียวๆ ชื่อ the new buffettology แล้ว เกิดอาการ "ดวงตาเห็นธรรม" แนวคิดเรื่องการลงทุนทุกสิ่งที่เขียนออกมาในหนังสือ สมเหตุสมผลในทุกๆเรื่อง อ่านแล้วรู้สึกว่า มันใช่ ไอ้นี่ใช่ ไอ้นี่เจ๋ง นี่แหละที่หามานาน
เปรียบเทียบกับที่เคยไปแตะๆด้านเทคนิคคอล แค่ฉาบฉวย อ่านได้ไม่กี่หน้า ก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่ ไม่ชอบ
สรุปง่ายๆถ้าพูดตามประสาพระ พระท่านว่า "มันถูกจริตกัน"
เปรียบเทียบกับที่เคยไปแตะๆด้านเทคนิคคอล แค่ฉาบฉวย อ่านได้ไม่กี่หน้า ก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่ ไม่ชอบ
สรุปง่ายๆถ้าพูดตามประสาพระ พระท่านว่า "มันถูกจริตกัน"
.
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง
----------------------------
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง
----------------------------
- ดำ
- Verified User
- โพสต์: 4366
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ทำไม ถึง คิดว่าแนวทาง VI เป็นคำตอบของการเล่นหุ้น?
โพสต์ที่ 4
ดูดีๆ นะว่าที่ได้ไปเป็นตัวหุ้น หรือ หลักการลงทุนamornchai เขียน: แต่ 1 ปี ที่ผ่านมาหลังจาก เข้ามาแอบดู แอบอ่านจาก เวป นี้
ผลลัพธ์การลงทุนเปลี่ยนไป จึงทำให้มั่นใจในแนวทางการลงทุนนี้มากขึ้น
เลยอยากจะถาม พี่สมาชิกกันว่า เพราะอะไร จึงเชื่อในแนวทาง VI ครับ ???
เอาวิธีตกปลานะครับ อย่าไปเน้นที่ตัวปลา
-
- Verified User
- โพสต์: 115
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไม ถึง คิดว่าแนวทาง VI เป็นคำตอบของการเล่นหุ้น?
โพสต์ที่ 6
ความปลอดภัยและความมีเหตุผลครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 807
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไม ถึง คิดว่าแนวทาง VI เป็นคำตอบของการเล่นหุ้น?
โพสต์ที่ 7
มันเท่ครับ :8)
อย่ายอมแพ้
- ซุนเซ็ก
- Verified User
- โพสต์: 1104
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไม ถึง คิดว่าแนวทาง VI เป็นคำตอบของการเล่นหุ้น?
โพสต์ที่ 8
มันมีเหตุมีผลดีครับ ถ้าเราเป็น VI
มันลง เราก็รู้ว่าลงเพราะอะไร
มันขึ้น เราก็รู้ว่าขึ้นเพราะอะไร
-เริ่มแรกผมเล่นตามข่าว
เจ๊งไม่เป็นท่า ทำไมขึ้นทำไมลง ผมก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ
-ต่อมาเล่นกราฟ
หัดกราฟมา เส้นอีรุงตุงนัง MACD RSI STO EMA แท่งนั่งเทียน ฯลฯ
ก็ได้บ้างเสียบ้าง บางครั้งกราฟบอกว่าขึ้นชัดๆ ดันลงฮวบซะงั้น
ถ้ามันเชื่อถือไม่ได้แบบนี้ มันก็ไม่ต่างกับแทงไฮโลเท่าไร
-ลองหัดVI
ก็ยังไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเท่าไร แต่อย่างน้อยก็รู้ว่าลงเพราะอะไร
ขึ้น ขึ้นเพราะอะไร มีเหตุมีผลรับรอง เหมือนทำธุรกิจ
มันลง เราก็รู้ว่าลงเพราะอะไร
มันขึ้น เราก็รู้ว่าขึ้นเพราะอะไร
-เริ่มแรกผมเล่นตามข่าว
เจ๊งไม่เป็นท่า ทำไมขึ้นทำไมลง ผมก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ
-ต่อมาเล่นกราฟ
หัดกราฟมา เส้นอีรุงตุงนัง MACD RSI STO EMA แท่งนั่งเทียน ฯลฯ
ก็ได้บ้างเสียบ้าง บางครั้งกราฟบอกว่าขึ้นชัดๆ ดันลงฮวบซะงั้น
ถ้ามันเชื่อถือไม่ได้แบบนี้ มันก็ไม่ต่างกับแทงไฮโลเท่าไร
-ลองหัดVI
ก็ยังไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเท่าไร แต่อย่างน้อยก็รู้ว่าลงเพราะอะไร
ขึ้น ขึ้นเพราะอะไร มีเหตุมีผลรับรอง เหมือนทำธุรกิจ
ผมไม่ได้อยู่ในเว็บนี้แล้ว, มีอะไรติดต่อได้ทาง FB - 27/9/2555
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ทำไม ถึง คิดว่าแนวทาง VI เป็นคำตอบของการเล่นหุ้น?
โพสต์ที่ 10
เห็นด้วยครับ นี่เป็นจุดตายของคนที่เข้ามาอ่านเว็ปนี้ใหม่ๆทุกคน ยังไงระวังเรื่องการเอาชื่อหุ้นไปใช้ต่อด้วยครับดำ เขียน: ดูดีๆ นะว่าที่ได้ไปเป็นตัวหุ้น หรือ หลักการลงทุน
เอาวิธีตกปลานะครับ อย่าไปเน้นที่ตัวปลา
It's earnings that count
- Paul VI
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 10548
- ผู้ติดตาม: 1
ทำไม ถึง คิดว่าแนวทาง VI เป็นคำตอบของการเล่นหุ้น?
โพสต์ที่ 12
สมัยก่อน ผม เล่นหุ้น จริงๆ ซื้อไป ขายมา ได้กำไรมาก็ดีใจ ขาดทุนไป ก็ เดี๋ยวไปแก้ตัว คราวหน้า
ช่วงแรก เล่นตาม พรายกระซิิบ มาร์เกตติ้ง บอก ก็เชื่อ ซื้อตาม ดีที่ ไม่ขาดทุน
ช่วงหุ้น พีค สูงสุด แล้ว ตกดิ่งลงมาจาก 1700 กว่าจุด เหลือ 200-300 จุด เป็นช่วงที่โชคดี สำหรับ ผมมาก เพราะ ตอนนั้น เป็น ช่วงไปเรียนต่อเฉพาะทางพอดี
วุ่นจนไม่ต้องคิดเรื่องอื่น ก็เลยรอดไป
ช่วงลอยตัวค่าเงินบาท ปิด 56 ไฟแนนซ์ ก็ยังเรียนเพิ่งจบ กำลังเริ่มสนใจ ก็เกิดเหตุการณ์พอดี เพื่อนๆ ที่รู้จัก ก็โทรมาบอกแต่ ข่าวร้าย เลยยังไม่เข้า
แล้วก็ลืมเรื่องหุ้นไปพักใหญ่ๆ
กลับมาสนใจอีกที ปี 47-48 ก็มาศึกษาอีกที แต่ ไม่ได้ ใช้มารเกตติ้งแล้ว ใช้ เทรดทางเนต เอง อ่านเอง ซื้อเอง วิเคราะห์เอาเอง เข้าไปดูเวปนั้นที เวปนี้ที ซื้อหนังสือเกี่ยวกับหุ้น มาอ่านเยอะแยะ
แต่ก็แปลกไม่ยัก จะเจอแนว VI แบบนี้ ยังสนใจเล่นแบบซื้อมา ขายไป เพียงแต่ไม่เล่นเก็งกำไร ไม่ใช้ มาร์จิ้น แต่ก็ไม่ได้ยึดหลักอะไรเป็นพิเศษ
เทคนิค เคยเข้าไปดูบ้าง เดย์เทรด ก็เข้าไปดูบ้าง แต่ตอนนั้น ก็รู้สึกว่าไม่ใช่ แต่ก็พอเอาความรู้ช่วงนั้น
ช่วงแรก เล่นตาม พรายกระซิิบ มาร์เกตติ้ง บอก ก็เชื่อ ซื้อตาม ดีที่ ไม่ขาดทุน
ช่วงหุ้น พีค สูงสุด แล้ว ตกดิ่งลงมาจาก 1700 กว่าจุด เหลือ 200-300 จุด เป็นช่วงที่โชคดี สำหรับ ผมมาก เพราะ ตอนนั้น เป็น ช่วงไปเรียนต่อเฉพาะทางพอดี
วุ่นจนไม่ต้องคิดเรื่องอื่น ก็เลยรอดไป
ช่วงลอยตัวค่าเงินบาท ปิด 56 ไฟแนนซ์ ก็ยังเรียนเพิ่งจบ กำลังเริ่มสนใจ ก็เกิดเหตุการณ์พอดี เพื่อนๆ ที่รู้จัก ก็โทรมาบอกแต่ ข่าวร้าย เลยยังไม่เข้า
แล้วก็ลืมเรื่องหุ้นไปพักใหญ่ๆ
กลับมาสนใจอีกที ปี 47-48 ก็มาศึกษาอีกที แต่ ไม่ได้ ใช้มารเกตติ้งแล้ว ใช้ เทรดทางเนต เอง อ่านเอง ซื้อเอง วิเคราะห์เอาเอง เข้าไปดูเวปนั้นที เวปนี้ที ซื้อหนังสือเกี่ยวกับหุ้น มาอ่านเยอะแยะ
แต่ก็แปลกไม่ยัก จะเจอแนว VI แบบนี้ ยังสนใจเล่นแบบซื้อมา ขายไป เพียงแต่ไม่เล่นเก็งกำไร ไม่ใช้ มาร์จิ้น แต่ก็ไม่ได้ยึดหลักอะไรเป็นพิเศษ
เทคนิค เคยเข้าไปดูบ้าง เดย์เทรด ก็เข้าไปดูบ้าง แต่ตอนนั้น ก็รู้สึกว่าไม่ใช่ แต่ก็พอเอาความรู้ช่วงนั้น
แก้ไขล่าสุดโดย Paul VI เมื่อ เสาร์ มิ.ย. 26, 2010 7:26 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 1
ทำไม ถึง คิดว่าแนวทาง VI เป็นคำตอบของการเล่นหุ้น?
โพสต์ที่ 13
ที่จริง VI ใช้ในการดำรงชีวิตได้ด้วยนะครับ
เราเลือกหุ้นเพราะมัน undervalue
แล้วขายเพราะมัน fair หรือ overvalue
หรือสรุปง่ายๆว่าเลือกอันที่ดีกว่า
แล้วทิ้งอันที่แย่กว่า
ทำอย่างนี้รอบแล้วรอบเล่า
value สะสมของเราก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
จากล้านเดียวอาจจะเป็นร้อยล้านได้ในไม่กี่ปี
ชีวิตจริงเราก็สามารถมองหาสิ่งที่มันมีคุณค่าอย่างอื่นได้อีก
การลงทุนในหุ้นเป็นคุณค่าเพียงอย่างหนึ่งเท่านั้นเอง
อย่างการศึกษา เป็นต้น
หรือการมีน้ำใจ
ความกตัญญู เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่มีคุณค่าควรอย่างยิ่งต่อการนำไปปฏิบัติ
หรือความสงบสุข ความสันติ
การเป็นผู้ให้/การเป็นผู้รับ
การรู้จักตัวเอง
การระลึกถึงความตาย
การแตกดับของตัวเองในอนาคต
การรู้จักกิเลสตัวเอง
การรู้จักด้านมืดของตัวเอง/ไม่เฉพาะด้านดีๆที่อยากโชว์ใครๆ
การรู้จักด้านเลวร้ายของตัวเองสำคัญกว่าด้วยซ้ำ
การรู้จักจิตใจตัวเอง
การรู้จักความผันแปรของจิตใจเราเอง(ขนาด mr.market เรียกพ่อเลยล่ะ)
การรู้อารมณ์ตนเอง
การยึดติดในความคิดตัวเอง
การยึดติดในอัตตาของเราเอง
การเห็นว่าเราเองไม่ได้ดีเลิศประเสริฐศรีอะไร
การไม่หลงงมงาย
การรู้จักอวิชา/ปัญญา
และอื่นๆอีกมาก
ทำอย่างนี้รอบแล้วรอบเล่า
value สะสมของเราก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
จะเปลี่ยนชีวิตตัวเราเองเลยทีเดียว
ผมยังทำไม่ได้ก็จริง
แต่ผมหวังอย่างนั้นนะครับ :lol:
เราเลือกหุ้นเพราะมัน undervalue
แล้วขายเพราะมัน fair หรือ overvalue
หรือสรุปง่ายๆว่าเลือกอันที่ดีกว่า
แล้วทิ้งอันที่แย่กว่า
ทำอย่างนี้รอบแล้วรอบเล่า
value สะสมของเราก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
จากล้านเดียวอาจจะเป็นร้อยล้านได้ในไม่กี่ปี
ชีวิตจริงเราก็สามารถมองหาสิ่งที่มันมีคุณค่าอย่างอื่นได้อีก
การลงทุนในหุ้นเป็นคุณค่าเพียงอย่างหนึ่งเท่านั้นเอง
อย่างการศึกษา เป็นต้น
หรือการมีน้ำใจ
ความกตัญญู เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่มีคุณค่าควรอย่างยิ่งต่อการนำไปปฏิบัติ
หรือความสงบสุข ความสันติ
การเป็นผู้ให้/การเป็นผู้รับ
การรู้จักตัวเอง
การระลึกถึงความตาย
การแตกดับของตัวเองในอนาคต
การรู้จักกิเลสตัวเอง
การรู้จักด้านมืดของตัวเอง/ไม่เฉพาะด้านดีๆที่อยากโชว์ใครๆ
การรู้จักด้านเลวร้ายของตัวเองสำคัญกว่าด้วยซ้ำ
การรู้จักจิตใจตัวเอง
การรู้จักความผันแปรของจิตใจเราเอง(ขนาด mr.market เรียกพ่อเลยล่ะ)
การรู้อารมณ์ตนเอง
การยึดติดในความคิดตัวเอง
การยึดติดในอัตตาของเราเอง
การเห็นว่าเราเองไม่ได้ดีเลิศประเสริฐศรีอะไร
การไม่หลงงมงาย
การรู้จักอวิชา/ปัญญา
และอื่นๆอีกมาก
ทำอย่างนี้รอบแล้วรอบเล่า
value สะสมของเราก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
จะเปลี่ยนชีวิตตัวเราเองเลยทีเดียว
ผมยังทำไม่ได้ก็จริง
แต่ผมหวังอย่างนั้นนะครับ :lol:
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
- Paul VI
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 10548
- ผู้ติดตาม: 1
ทำไม ถึง คิดว่าแนวทาง VI เป็นคำตอบของการเล่นหุ้น?
โพสต์ที่ 14
เผลอกด submit ซะนี่
มาเจอหนังสือ ตีแตก อ่าน value way ของคุณ วิบูลย์ เข้าบลอก มาอ่านของ yoyo สุมาอี้ ก็เริ่ม เอ๊ะ ที่เราคิดว่าเรา ลงทุน มันก็ยังไม่ใช่ซะทีเดียว เพราะเราคิดว่า ถ้าเราไม่ได้เล่นหุ้นปั่น เราก็ไม่ใช่ พวกเล่นหุ้น แล้วนา คิดไปคิดมา คงต้องทบทวนการลงทุนใหม่ซะแล้ว
ก็เลย ลองกลับเข้ามาเวป thaivi อีกทีซึ่งเคยเข้ามานานแล้ว และก้ไม่สนใจต่อ อีกอย่างที่นึกออกว่า ไม่ได้ชอบแนวนี้ ในช่วงแรก เพราะ เข้ามาเจอ อ่านกระแสเงินสด คิด WACC DCF FCF เจอเข้าไปแบบนี้ ผมถอยเลยตอนนั้น
พอกลับมาอีกที ก็เอ๊ะ ในแนว VI น่าจะเป็น คำตอบ เพราะอะไร
เพราะว่า
ผมต้องการ อิสรภาพ ในทุกด้้าน ของชีวิต
ผมไม่ อยาก เป็น หมาล่าเนื้อ มีชีวิต ที่ต้องหาเงินไปวันๆ หาเงินเอาไปฝากเงินก็ สู้เงินเฟ้อลำบาก ตอนเกษียณก็คง ไม่พอตาม lifestyle ที่ผมต้องการ
ถูกล่ะ เราใช้ชีวิตพอเพียง แต่ ผมก็พอเพียง ใน แบบ lifestyle ของผม และ ลูกเมีย ไม่มาก ไม่น้อยเกินไป และมีความสุข ตอบโจทย์ชีวิตตัวเองได้ด้วย
การลงทุนแบบ VI ของผม ก็เลยเริ่มขึ้น พี้อมกับ อุปสรรค ทางใจ และ ความคิด นั่นก็คือ เรา ไม่เก่ง ด้าน ตัวเลขเลย แล้วก็ท้อแท้ รู้สึกไม่ใช่เรา
แต่ก้ได้กำลังใจจากหลายๆคน ในที่นี้ และ ก็คิดว่า ถึงแม้ เราจะไม่ชอบ ไม่ถนัด แต่ถ้านั่นเป็นสิ่งที่เราต้องใช้ประกอบในการที่จะประสบความสำเร็จกับมัน
ยังไงก็ต้องผ่านไปให้ได้
แล้วก็ ปรับที่ ทัศนคติ ของตัวเอง ใหม่
เราเปลี่ยนใครไม่ได้ เราต้องเริ่มเปลี่ยน ที่ตัวเอง
ก็เริ่มเข้าใจ หลักการ VI ประยุกต์ใช้
พอร์ต ปีที่ผ่านมาก็ ให้ผลตอบแทน ที่ดี น่าพอใจ พอร์ต ในปีนั้ ก็ยังดีมาก
แล้วยิ่งผม เป็นคนมีเวลาน้อย ทำงานทั้งวัน บางวันแทบ ไม่ได้ดู หน้าจอเลย มันก็ยิ่งเหมาะ มาก
ตอนนี้ ผมก็มีความสุขกับ แนวทางนี้มาก แล้วก็รู้สึกได้เลย
ยิ่งกว่านั้น ตอนนี้ ไม่ว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับ ตลาดหุ้น เราก็ สามารถควบคุมตัวเองได้ดีขึ้นมาก
และผมรู้สึก ได้เลยว่า EQ ดีขึ้น อย่างน่าประหลาดใจ จากแนวทางนี้ (แต่ยังมีหลุดนิดๆ 55)
และสังคม ที่นี่ ก็ ดีมากๆ
ตอนนี้ผมรู้สึกว่า ผมได้ อิสรภาพ แห่งชีวิต ได้แน่นอน :D จาก วิถี VI นี้
มาเจอหนังสือ ตีแตก อ่าน value way ของคุณ วิบูลย์ เข้าบลอก มาอ่านของ yoyo สุมาอี้ ก็เริ่ม เอ๊ะ ที่เราคิดว่าเรา ลงทุน มันก็ยังไม่ใช่ซะทีเดียว เพราะเราคิดว่า ถ้าเราไม่ได้เล่นหุ้นปั่น เราก็ไม่ใช่ พวกเล่นหุ้น แล้วนา คิดไปคิดมา คงต้องทบทวนการลงทุนใหม่ซะแล้ว
ก็เลย ลองกลับเข้ามาเวป thaivi อีกทีซึ่งเคยเข้ามานานแล้ว และก้ไม่สนใจต่อ อีกอย่างที่นึกออกว่า ไม่ได้ชอบแนวนี้ ในช่วงแรก เพราะ เข้ามาเจอ อ่านกระแสเงินสด คิด WACC DCF FCF เจอเข้าไปแบบนี้ ผมถอยเลยตอนนั้น
พอกลับมาอีกที ก็เอ๊ะ ในแนว VI น่าจะเป็น คำตอบ เพราะอะไร
เพราะว่า
ผมต้องการ อิสรภาพ ในทุกด้้าน ของชีวิต
ผมไม่ อยาก เป็น หมาล่าเนื้อ มีชีวิต ที่ต้องหาเงินไปวันๆ หาเงินเอาไปฝากเงินก็ สู้เงินเฟ้อลำบาก ตอนเกษียณก็คง ไม่พอตาม lifestyle ที่ผมต้องการ
ถูกล่ะ เราใช้ชีวิตพอเพียง แต่ ผมก็พอเพียง ใน แบบ lifestyle ของผม และ ลูกเมีย ไม่มาก ไม่น้อยเกินไป และมีความสุข ตอบโจทย์ชีวิตตัวเองได้ด้วย
การลงทุนแบบ VI ของผม ก็เลยเริ่มขึ้น พี้อมกับ อุปสรรค ทางใจ และ ความคิด นั่นก็คือ เรา ไม่เก่ง ด้าน ตัวเลขเลย แล้วก็ท้อแท้ รู้สึกไม่ใช่เรา
แต่ก้ได้กำลังใจจากหลายๆคน ในที่นี้ และ ก็คิดว่า ถึงแม้ เราจะไม่ชอบ ไม่ถนัด แต่ถ้านั่นเป็นสิ่งที่เราต้องใช้ประกอบในการที่จะประสบความสำเร็จกับมัน
ยังไงก็ต้องผ่านไปให้ได้
แล้วก็ ปรับที่ ทัศนคติ ของตัวเอง ใหม่
เราเปลี่ยนใครไม่ได้ เราต้องเริ่มเปลี่ยน ที่ตัวเอง
ก็เริ่มเข้าใจ หลักการ VI ประยุกต์ใช้
พอร์ต ปีที่ผ่านมาก็ ให้ผลตอบแทน ที่ดี น่าพอใจ พอร์ต ในปีนั้ ก็ยังดีมาก
แล้วยิ่งผม เป็นคนมีเวลาน้อย ทำงานทั้งวัน บางวันแทบ ไม่ได้ดู หน้าจอเลย มันก็ยิ่งเหมาะ มาก
ตอนนี้ ผมก็มีความสุขกับ แนวทางนี้มาก แล้วก็รู้สึกได้เลย
ยิ่งกว่านั้น ตอนนี้ ไม่ว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับ ตลาดหุ้น เราก็ สามารถควบคุมตัวเองได้ดีขึ้นมาก
และผมรู้สึก ได้เลยว่า EQ ดีขึ้น อย่างน่าประหลาดใจ จากแนวทางนี้ (แต่ยังมีหลุดนิดๆ 55)
และสังคม ที่นี่ ก็ ดีมากๆ
ตอนนี้ผมรู้สึกว่า ผมได้ อิสรภาพ แห่งชีวิต ได้แน่นอน :D จาก วิถี VI นี้
- unnop.t
- Verified User
- โพสต์: 924
- ผู้ติดตาม: 1
ทำไม ถึง คิดว่าแนวทาง VI เป็นคำตอบของการเล่นหุ้น?
โพสต์ที่ 16
แนวทาง VI คล้ายกับศาสนาพุทธนะครับ สอนความมีเหตุมีผล สอนให้รู้จักใช้สติ เกิดเป็นปัญญา
ผมเองเริ่มเล่นหุ้นตอนสมัยฟองสบู่ เจ็บตัวจนขยาดไปนาน จนสุดท้ายเริ่มต้นใหม่อีกครั้งกับ VI ค่อย ๆสะสมความรู้ไปเรื่อย ๆ และมีความสุขกับการลงทุน :D
ผมเองเริ่มเล่นหุ้นตอนสมัยฟองสบู่ เจ็บตัวจนขยาดไปนาน จนสุดท้ายเริ่มต้นใหม่อีกครั้งกับ VI ค่อย ๆสะสมความรู้ไปเรื่อย ๆ และมีความสุขกับการลงทุน :D
ตลาดหุ้นมักจะหลอกเราด้วย ความโลภ และความกลัว.....
- reiter
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2308
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไม ถึง คิดว่าแนวทาง VI เป็นคำตอบของการเล่นหุ้น?
โพสต์ที่ 18
ความแน่นอนมันสูงกว่า
จิตใจสงบกว่า
จิตใจสงบกว่า
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 476
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไม ถึง คิดว่าแนวทาง VI เป็นคำตอบของการเล่นหุ้น?
โพสต์ที่ 20
เพราะได้ศึกษาด้วยตัวเองแล้ว ได้ผลตอบแทนสูงในระดับความเสี่ยงต่ำจริๆครับ :8)
ลงทุนแนว VI ได้กำไรในทุกสภาวะตลาดครับ
ลงทุนแนว VI ได้กำไรในทุกสภาวะตลาดครับ
Simple is Always Best.
นักลงทุนแบบ vi แก่น 4 ประการ 3 กลยุทธ
แก่น vi : เป็นเจ้าของ หามูลค่า มี MOS และ อยู่เหนือนายตลาด
นักลงทุนแบบ vi แก่น 4 ประการ 3 กลยุทธ
แก่น vi : เป็นเจ้าของ หามูลค่า มี MOS และ อยู่เหนือนายตลาด
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1021
- ผู้ติดตาม: 1
ทำไม ถึง คิดว่าแนวทาง VI เป็นคำตอบของการเล่นหุ้น?
โพสต์ที่ 23
เล่นเก็งกำไรส่วนใหญ่ได้มาแล้วเสียไป ที่สำคัญคือความเครียดครับซื้อแล้วต้องมาลุ้น ตลาดต่างประเทศ ลุ้นข่าวนั้นข่าวนี้ มีเหตุการณ์อะไรนิดนึงก็ต้องมาคิดวิธีว่าจะปรับพอร์ตยังไงดี จะล้างพอร์ตมั้ย (ดูห้องสินธรเป็นตัวอย่างได้ครับ) แต่ถ้าลงทุนแนว vi ขอให้บริษัทที่เราถือกำไรไม่เปลี่ยนแปลงเราก็ไม่ต้องไปสนใจภาวะแวดล้อมภายนอกมากนัก ที่สำคัญคือความเครียดหายไปเยอะครับ อีกเรื่องคือการที่เรารู้จักบริษัทที่เราถือก็ทำให้เรากล้าที่จะถือหุ้นนาน ๆ แต่ถ้าเล่นเก็งกำไรส่วนใหญ่ได้กำไรมา 3 ช่อง ก็ขาย แต่พอขาดทุนก็ถือยาวครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1150
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไม ถึง คิดว่าแนวทาง VI เป็นคำตอบของการเล่นหุ้น?
โพสต์ที่ 25
ผมยังเชื่อนะครับว่าตั้งแต่ VI ได้รับควานิยมเนียะ เรายังไม่เคยได้รับการทดสอบอย่างจริงจังเลย ยกเว้นปี51 แต่ใช้เวลาแป๊ปเดียว ตลาดก็กลับมาแล้ว
เอาไว้เวลาตลาดลงติดๆสัก 4-5 ปี เราก็จะรู้ว่า VI ทีเราบอกว่าสุดยอดนั้น จะรอดสักกี่คน
เอาไว้เวลาตลาดลงติดๆสัก 4-5 ปี เราก็จะรู้ว่า VI ทีเราบอกว่าสุดยอดนั้น จะรอดสักกี่คน
- reiter
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2308
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไม ถึง คิดว่าแนวทาง VI เป็นคำตอบของการเล่นหุ้น?
โพสต์ที่ 26
ระดับดร ท่านก้ผ่านตลาดช่วงปี 40 มาสบายๆนะครับtt เขียน:ผมยังเชื่อนะครับว่าตั้งแต่ VI ได้รับควานิยมเนียะ เรายังไม่เคยได้รับการทดสอบอย่างจริงจังเลย ยกเว้นปี51 แต่ใช้เวลาแป๊ปเดียว ตลาดก็กลับมาแล้ว
เอาไว้เวลาตลาดลงติดๆสัก 4-5 ปี เราก็จะรู้ว่า VI ทีเราบอกว่าสุดยอดนั้น จะรอดสักกี่คน
แต่ระดับพวกเราเนี่ยน่าคิด ถ้าเจอตลาดหมียาวนานแบบนั้นจะเป็นอย่างไร
- charnengi
- Verified User
- โพสต์: 2395
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไม ถึง คิดว่าแนวทาง VI เป็นคำตอบของการเล่นหุ้น?
โพสต์ที่ 27
Vi คือการลงทุนโดยมองไปที่คุณค่า เข้าใจง่าย มีเหตุมีผลครับ ผมลงทุนมา4ปีเริ่ม
ลงทุนจากการอ่านตีแตก เหมือนกับหลายคน ไม่เคยดูเทคนิค ตอนแรกพอร์ตมีหุ้นเกือบ20ตัว เพราะว่าอยากเป็นเจ้าของมันไปทุกบริษัท กำไร 5-10% ก็ขายทิ้งส่วนตัวที่ติดก็ซื้อเฉลี่ย มั่วมากครับ อาศัยข้อมูลจากบทวิเคราะห์เป็นส่วนใหญ่ อ่านวันนึงเป็น 10ตัว แต่ไม่เคยอ่านงบจริงจัง ดูแต่ยอดขาย กำไร pe pb ปันผล แล้วก็ราคาหุ้นในอดีต เจอเหตุการณ์ทดสอบแรก คือ การเมือง เริ่มประท้วงทักษิณ ผลเป็นไง
ลงทุนจากการอ่านตีแตก เหมือนกับหลายคน ไม่เคยดูเทคนิค ตอนแรกพอร์ตมีหุ้นเกือบ20ตัว เพราะว่าอยากเป็นเจ้าของมันไปทุกบริษัท กำไร 5-10% ก็ขายทิ้งส่วนตัวที่ติดก็ซื้อเฉลี่ย มั่วมากครับ อาศัยข้อมูลจากบทวิเคราะห์เป็นส่วนใหญ่ อ่านวันนึงเป็น 10ตัว แต่ไม่เคยอ่านงบจริงจัง ดูแต่ยอดขาย กำไร pe pb ปันผล แล้วก็ราคาหุ้นในอดีต เจอเหตุการณ์ทดสอบแรก คือ การเมือง เริ่มประท้วงทักษิณ ผลเป็นไง
-
- Verified User
- โพสต์: 1598
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไม ถึง คิดว่าแนวทาง VI เป็นคำตอบของการเล่นหุ้น?
โพสต์ที่ 29
สำหรับผมแล้วไม่มีวิธีที่ดีที่สุด ในการลงทุน
มีแต่วิธีที่เหมาะสมกับผม
มีแต่วิธีที่เหมาะสมกับผม
อย่ามัวติดกับเรื่องในอดีต กังวลกับเรื่องในอนาคต จนลืมว่าปัจจุบันต้องทำอะไร
-
- Verified User
- โพสต์: 235
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไม ถึง คิดว่าแนวทาง VI เป็นคำตอบของการเล่นหุ้น?
โพสต์ที่ 30
เมื่อก่อน หลายปีที่แล้ว บอกตรงๆว่าผมอ่านน้อยไปหน่อย เหมือนในที่เค้าบอกในหนังสือเปี๊ยบ ว่าพอมีเงินลงทุนก็จะซื้อหุ้น ทุกวัน ผมรับครับว่าตอนนั้นขาดทุน แต่ ไม่มากเพราะลงเงินไปน้อยมาก
พอเมื่อปลายปีที่ผ่านมา มาเลือกหุ้นแบบแนว VI จริงๆ ตอนแรกซื้อมา เขียวไปนิดนึง แล้วก็ลงต่อหนักๆ จนแดงแจ๋ แต่คราวนี้เราศึกษามาดี ก็เลยมองไปที่ระยะยาวมากกว่าเลยไม่ได้ขายออกไปซักกะหุ้นเดียว ทุกวันนี้ MOS ที่ซื้อวันนั้น ยังช่วยผม ทุกวิกฤติ ที่พึ่งเกิดขึ้นไป ปัจจุบัน พอต ผมยังเขียวได้อยู่ แม้ว่าจะมี panic เกิดขึ้น ทำให้เข้าใจว่า การซื้อที่ MOS มันดีอย่างไร แล้วทำไมเวลาซื้อต้องมี MOS
พอเมื่อปลายปีที่ผ่านมา มาเลือกหุ้นแบบแนว VI จริงๆ ตอนแรกซื้อมา เขียวไปนิดนึง แล้วก็ลงต่อหนักๆ จนแดงแจ๋ แต่คราวนี้เราศึกษามาดี ก็เลยมองไปที่ระยะยาวมากกว่าเลยไม่ได้ขายออกไปซักกะหุ้นเดียว ทุกวันนี้ MOS ที่ซื้อวันนั้น ยังช่วยผม ทุกวิกฤติ ที่พึ่งเกิดขึ้นไป ปัจจุบัน พอต ผมยังเขียวได้อยู่ แม้ว่าจะมี panic เกิดขึ้น ทำให้เข้าใจว่า การซื้อที่ MOS มันดีอย่างไร แล้วทำไมเวลาซื้อต้องมี MOS