1 ล้านบาทแรกในชีวิต
- Skyforever
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1221
- ผู้ติดตาม: 0
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 1
มีคำกล่าวจากคนที่สร้างเนื้อสร้างตัวมาเป็นเศรษฐีหลายๆคนว่า "เงิน 1 ล้านบาทแรกนั้นเป็นเงินก้อนที่หามาด้วยความยากลำบากมากที่สุด ยากกว่าการหาเงินอีกหลายสิบหลายร้อยล้านบาทในเวลาต่อมา"
วันนี้ผมตัดสินใจตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพราะรู้สึกดีใจ ภูมิใจว่าในที่สุด หลังจากทำงานมาเป็นเวลาถึง 10 ปี ก็สามารถมีพอร์ทลงทุนในหุ้นที่มีมูลค่าเกิน 1 ล้านบาทเป็นครั้งแรกในชีวิต (ถึงแม้ว่าพรุ่งนี้หุ้นจะมีราคาลงไปบ้างก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็ได้ชื่อว่ามีเงินล้านแล้วในวันนี้ อิอิ :D ) และหวังว่าประสบการณ์ชีวิตผมจะเป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆคนมีความพยายามในการไปให้ถึงเป้าหมายในอนาคตต่อไป
บางคนอาจจะรู้สึกว่าเงิน 1 ล้านบาทนั้นหามาได้ไม่ยากนัก แต่สำหรับผมแล้ว มันช่างเป็นจำนวนเงินที่มากมายเหลือเกิน ผมมาจากฐานะทางบ้านที่ไม่ดีนัก เรียนหนังสือก็อาศัยทุนการศึกษา ทุนอาหารกลางวัน มาตลอด แม่ก็เข็นรถเข็นขายข้าวแกงมีรายได้ไม่มากนัก ผมได้เงินไปเรียนมหาวิทยาลัยวันละ 50 บาท พอเรียนจบมาได้ไม่นาน แม่ก็หยุดขายข้าวแกงเพราะไม่ไหว ผมกับพี่และน้องชายต้องช่วยกันรวมเงินมาไว้ให้แม่ทุกเดือน ทำงานครั้งแรกเงินเดือน 15,000 บาท ผมให้แม่เดือนละ 10,000 บาททุกเดือน ใช้เอง2-3 พันบาท เหลือเก็บเดือนละ 2 พันบาท และไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าในชีวิตนี้จะมีวันที่มีเงิน 1 ล้านบาทได้
ผมเริ่มเล่นหุ้นครั้งแรกเมื่อประมาณ 8 ปีที่แล้ว (ปี 2002) ตอนนั้นผมทำงานเป็นวิศวกรได้ประมาณ 2 ปี ตอนนั้นเล่นไปตามบทวิเคราะห์ ได้บ้างเสียบ้าง จนเมื่อผมทำงานมาได้ 5 ปี (ปี 2005) ผมก็ตัดสินใจไปทำงานเป็น มาร์เก็ตติ้ง โดยมีความเชื่อว่าถ้าเป็นคนเคาะซื้อเคาะขายหุ้นด้วยตัวเอง น่าจะสร้างผลตอบแทนได้เป็นกอบเป็นกำ ตอนนั้นมีเงินเก็บอยู่ 5 แสนบาทได้ รวมกับเงินที่พี่ชายฝากมาเล่นหุ้นด้วยอีก 2 แสน รวมเป็นเงิน 7 แสนบาท
หลังจากทำงานมาร์เก็ตติ้งมา 1 ปีเต็ม จนถึงสิ้นปี 2005 ในที่สุดผมก็หมดตัว เนื่องจากเล่นไปตามอารมณ์เหมือนการพนัน เล่นหนักๆเกินตัว ต้องไปขอยืมเงินพี่ชายเพิ่มมาอีกเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน พี่ชายผมพอรู้ว่าเงิน 2 แสนของพี่สูญไปหมด ก็โกรธผมอย่างมาก ทำให้ความสัมพันธ์ที่เคยดีๆในครอบครัวต้องเลวร้ายลงอย่างมาก
ผมลาออกจากมาร์เก็ตติ้งมาทำงานเป็นวิศวกรในโรงงานอีกครั้ง และห่างหายไปจากตลาดหุ้นในช่วงปี 2006-2008 แต่ก็เฝ้าดูอยู่ห่างๆ จนถึงช่วงที่ตลาดหุ้นตกหนักในปลายปี 2008 ผมก็เริ่มเอาเงินที่มีอยู่ทั้งหมดประมาณ 3 หมื่นบาทมาลงทุนในช่วงมกราคม 2009 แล้วก็เอาเงินเดือนที่เก็บเพิ่มได้ในแต่ละเดือนอีกประมาณเดือนละหมื่นบาทไปลงทุนเพิ่มทุกเดือน เนื่องจากผมรู้สึกเข็ดกับอดีตอันเลวร้ายของผม ผมจึงตั้งใจศึกษาและค้นหาวิธีการลงุทนที่เป็นหลักการจนมาพบเวบไซต์ของคุณโย (yoyo) เมื่อได้อ่านก็ยิ่งรู้สึกว่าใช่แนวทางที่ถูกต้อง แล้วผมก็มารู้จักหนังสือของ ดร.นิเวศน์ และเวปไซต์แห่งนี้ในภายหลัง โดยเฉพาะที่สำคัญที่สุด ผมได้มารู้จักสิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลก คือดอกเบี้ยทบต้น ผมนั่งคำนวณด้วย Excel นั่งคำนวณทั้งวันโดยเปลี่ยนตัวเลขไปเรื่อยๆ แล้วก็เหมือนดวงตาเห็นธรรม เพราะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมได้รู้และมั่นใจว่าผมเจอหนทางที่จะมีเงินได้ถึงร้อยล้านพันล้านในชีวิตของผมได้
ผมจะเตือนตัวเองเสมอว่าอย่าผิดพลาดอีก อย่าขาดทุนเด็ดขาด ดังนั้นผมจึงค่อยๆพัฒนาตัวเองมาเรื่อยๆ โดยในตอนต้นปี 2009 ผมจะลงทุนในหุ้นที่รู้สึกว่าตกต่ำลงมามาก แต่คาดว่าผลประกอบการไตรมาสถัดไปน่าจะดีอยู่ พอถึงกลางปี 2009 ผมก็เริ่มเปลี่ยนมุมมอง คือมองหาบริษัทที่คิดว่าในอีก 1-2 ปีข้างหน้าจะมั่นใจได้ว่าผลประกอบการจะต้องดีขึ้นอย่างโดดเด่น จนมาถึงตอนนี้ ผมจะเลือกลุงทุนในบริษัทที่ผมคิดว่าในอีก 5-10 ปีข้างหน้าผลประกอบการก็จะมั่นใจได้แน่ว่าจะดีขึ้นอย่างแน่นอน อาจจะไม่ได้ก้าวกระโดดมากมาย แต่เติบโตต่อเนื่องทุกปี อย่างน้อย 15% ต่อปี และผมจะคิดถึคงกรณีที่เลวร้ายสุดไว้เสมอ ว่าหากมีปัญหาการเมือง หรือวิกฤติการเงินจะส่งผลอะไรต่อบริษัทหรือไม่ ผมจะเลือกบริษัทที่มีภูมิต้านทานสูง เสมือนมาอยู่หอพัก หรือคอนโดสูงแล้วมองหาประตูหนีไฟเอาไว้ก่อน
ผมตั้งเป้าระยะยาวไว้กับตัวเองจนถึงอายุ 60 ปี ทำเป็น Grant chart เอาไว้ว่าแต่ละปีจะมีทรัพย์สินมูลค่าเท่าไร ผมคาดหวังไว้ที่ 18% ต่อปี ซึ่งเมื่อหักค่าใช้จ่าย ผมจะมีเงินประมาณ 100 ล้านบาทเมื่อมีอายุประมาณ 55 ปี ซึ่งเป็นปีที่ผมตั้งใจว่าจะตั้งมูลนิธิขึ้นเพื่อช่วยเหลือสังคมซึ่งเป็นความใฝ่ฝันของผมมาตลอดตั้งแต่สมัยเรียนอยู่มหาวิทยาลัย
จากประสบการณ์ของผม ยามที่ผมโลภ ไม่รู้จักพอ หวังรวยเร็ว ผมจะขาดทุนอย่างหนัก แต่ยามที่ผมรู้จักพอ ไม่หวังรวยเร็ว กลับมีกำไรมากกว่าที่คาด มันเป็นสัจธรรมสำหรับชีวิตผม ผมเรียนรู้ว่าในตลาดหุ้น จิตใจสำคัญกว่าความรู้มากยิ่งนัก
วันนี้ผมตัดสินใจตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพราะรู้สึกดีใจ ภูมิใจว่าในที่สุด หลังจากทำงานมาเป็นเวลาถึง 10 ปี ก็สามารถมีพอร์ทลงทุนในหุ้นที่มีมูลค่าเกิน 1 ล้านบาทเป็นครั้งแรกในชีวิต (ถึงแม้ว่าพรุ่งนี้หุ้นจะมีราคาลงไปบ้างก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็ได้ชื่อว่ามีเงินล้านแล้วในวันนี้ อิอิ :D ) และหวังว่าประสบการณ์ชีวิตผมจะเป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆคนมีความพยายามในการไปให้ถึงเป้าหมายในอนาคตต่อไป
บางคนอาจจะรู้สึกว่าเงิน 1 ล้านบาทนั้นหามาได้ไม่ยากนัก แต่สำหรับผมแล้ว มันช่างเป็นจำนวนเงินที่มากมายเหลือเกิน ผมมาจากฐานะทางบ้านที่ไม่ดีนัก เรียนหนังสือก็อาศัยทุนการศึกษา ทุนอาหารกลางวัน มาตลอด แม่ก็เข็นรถเข็นขายข้าวแกงมีรายได้ไม่มากนัก ผมได้เงินไปเรียนมหาวิทยาลัยวันละ 50 บาท พอเรียนจบมาได้ไม่นาน แม่ก็หยุดขายข้าวแกงเพราะไม่ไหว ผมกับพี่และน้องชายต้องช่วยกันรวมเงินมาไว้ให้แม่ทุกเดือน ทำงานครั้งแรกเงินเดือน 15,000 บาท ผมให้แม่เดือนละ 10,000 บาททุกเดือน ใช้เอง2-3 พันบาท เหลือเก็บเดือนละ 2 พันบาท และไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าในชีวิตนี้จะมีวันที่มีเงิน 1 ล้านบาทได้
ผมเริ่มเล่นหุ้นครั้งแรกเมื่อประมาณ 8 ปีที่แล้ว (ปี 2002) ตอนนั้นผมทำงานเป็นวิศวกรได้ประมาณ 2 ปี ตอนนั้นเล่นไปตามบทวิเคราะห์ ได้บ้างเสียบ้าง จนเมื่อผมทำงานมาได้ 5 ปี (ปี 2005) ผมก็ตัดสินใจไปทำงานเป็น มาร์เก็ตติ้ง โดยมีความเชื่อว่าถ้าเป็นคนเคาะซื้อเคาะขายหุ้นด้วยตัวเอง น่าจะสร้างผลตอบแทนได้เป็นกอบเป็นกำ ตอนนั้นมีเงินเก็บอยู่ 5 แสนบาทได้ รวมกับเงินที่พี่ชายฝากมาเล่นหุ้นด้วยอีก 2 แสน รวมเป็นเงิน 7 แสนบาท
หลังจากทำงานมาร์เก็ตติ้งมา 1 ปีเต็ม จนถึงสิ้นปี 2005 ในที่สุดผมก็หมดตัว เนื่องจากเล่นไปตามอารมณ์เหมือนการพนัน เล่นหนักๆเกินตัว ต้องไปขอยืมเงินพี่ชายเพิ่มมาอีกเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน พี่ชายผมพอรู้ว่าเงิน 2 แสนของพี่สูญไปหมด ก็โกรธผมอย่างมาก ทำให้ความสัมพันธ์ที่เคยดีๆในครอบครัวต้องเลวร้ายลงอย่างมาก
ผมลาออกจากมาร์เก็ตติ้งมาทำงานเป็นวิศวกรในโรงงานอีกครั้ง และห่างหายไปจากตลาดหุ้นในช่วงปี 2006-2008 แต่ก็เฝ้าดูอยู่ห่างๆ จนถึงช่วงที่ตลาดหุ้นตกหนักในปลายปี 2008 ผมก็เริ่มเอาเงินที่มีอยู่ทั้งหมดประมาณ 3 หมื่นบาทมาลงทุนในช่วงมกราคม 2009 แล้วก็เอาเงินเดือนที่เก็บเพิ่มได้ในแต่ละเดือนอีกประมาณเดือนละหมื่นบาทไปลงทุนเพิ่มทุกเดือน เนื่องจากผมรู้สึกเข็ดกับอดีตอันเลวร้ายของผม ผมจึงตั้งใจศึกษาและค้นหาวิธีการลงุทนที่เป็นหลักการจนมาพบเวบไซต์ของคุณโย (yoyo) เมื่อได้อ่านก็ยิ่งรู้สึกว่าใช่แนวทางที่ถูกต้อง แล้วผมก็มารู้จักหนังสือของ ดร.นิเวศน์ และเวปไซต์แห่งนี้ในภายหลัง โดยเฉพาะที่สำคัญที่สุด ผมได้มารู้จักสิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลก คือดอกเบี้ยทบต้น ผมนั่งคำนวณด้วย Excel นั่งคำนวณทั้งวันโดยเปลี่ยนตัวเลขไปเรื่อยๆ แล้วก็เหมือนดวงตาเห็นธรรม เพราะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมได้รู้และมั่นใจว่าผมเจอหนทางที่จะมีเงินได้ถึงร้อยล้านพันล้านในชีวิตของผมได้
ผมจะเตือนตัวเองเสมอว่าอย่าผิดพลาดอีก อย่าขาดทุนเด็ดขาด ดังนั้นผมจึงค่อยๆพัฒนาตัวเองมาเรื่อยๆ โดยในตอนต้นปี 2009 ผมจะลงทุนในหุ้นที่รู้สึกว่าตกต่ำลงมามาก แต่คาดว่าผลประกอบการไตรมาสถัดไปน่าจะดีอยู่ พอถึงกลางปี 2009 ผมก็เริ่มเปลี่ยนมุมมอง คือมองหาบริษัทที่คิดว่าในอีก 1-2 ปีข้างหน้าจะมั่นใจได้ว่าผลประกอบการจะต้องดีขึ้นอย่างโดดเด่น จนมาถึงตอนนี้ ผมจะเลือกลุงทุนในบริษัทที่ผมคิดว่าในอีก 5-10 ปีข้างหน้าผลประกอบการก็จะมั่นใจได้แน่ว่าจะดีขึ้นอย่างแน่นอน อาจจะไม่ได้ก้าวกระโดดมากมาย แต่เติบโตต่อเนื่องทุกปี อย่างน้อย 15% ต่อปี และผมจะคิดถึคงกรณีที่เลวร้ายสุดไว้เสมอ ว่าหากมีปัญหาการเมือง หรือวิกฤติการเงินจะส่งผลอะไรต่อบริษัทหรือไม่ ผมจะเลือกบริษัทที่มีภูมิต้านทานสูง เสมือนมาอยู่หอพัก หรือคอนโดสูงแล้วมองหาประตูหนีไฟเอาไว้ก่อน
ผมตั้งเป้าระยะยาวไว้กับตัวเองจนถึงอายุ 60 ปี ทำเป็น Grant chart เอาไว้ว่าแต่ละปีจะมีทรัพย์สินมูลค่าเท่าไร ผมคาดหวังไว้ที่ 18% ต่อปี ซึ่งเมื่อหักค่าใช้จ่าย ผมจะมีเงินประมาณ 100 ล้านบาทเมื่อมีอายุประมาณ 55 ปี ซึ่งเป็นปีที่ผมตั้งใจว่าจะตั้งมูลนิธิขึ้นเพื่อช่วยเหลือสังคมซึ่งเป็นความใฝ่ฝันของผมมาตลอดตั้งแต่สมัยเรียนอยู่มหาวิทยาลัย
จากประสบการณ์ของผม ยามที่ผมโลภ ไม่รู้จักพอ หวังรวยเร็ว ผมจะขาดทุนอย่างหนัก แต่ยามที่ผมรู้จักพอ ไม่หวังรวยเร็ว กลับมีกำไรมากกว่าที่คาด มันเป็นสัจธรรมสำหรับชีวิตผม ผมเรียนรู้ว่าในตลาดหุ้น จิตใจสำคัญกว่าความรู้มากยิ่งนัก
-
- Verified User
- โพสต์: 1400
- ผู้ติดตาม: 0
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 4
ขอเสียงเฮดังๆ ให้กับพี่ skyforever ด้วยครับ
[size=24]เฮ...[/size]
เราต่างตื่นขึ้นมาทุกวัน เพื่อสร้างผลงานให้ได้ เราควรรู้ว่า ในทุกวันมีอะไรที่ต้องทำเพื่อให้เกิดผลงาน หากการตื่นขึ้นมา ไม่ได้เป็นไปเพื่อผลงาน เราก็ไม่สมควรที่จะตื่นขึ้นมาให้รกหูรกตาคนรอบข้าง
-
- Verified User
- โพสต์: 942
- ผู้ติดตาม: 0
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 6
สุดยอดนักสู้ชีวิต
เริ่มจากเงิน 30,000 บาท ในมกราคม ปี 2009 และบวกเพิ่มเดือนละ 10,000 (นิดหน่อย) อีก 16 เดือน ปัจจุบันกลายเป็น 1 ล้านบาท
ว่าแต่ เอาเงินไปคืนไปคืนพี่ชายยัง :lol:
เริ่มจากเงิน 30,000 บาท ในมกราคม ปี 2009 และบวกเพิ่มเดือนละ 10,000 (นิดหน่อย) อีก 16 เดือน ปัจจุบันกลายเป็น 1 ล้านบาท
ว่าแต่ เอาเงินไปคืนไปคืนพี่ชายยัง :lol:
- ดำ
- Verified User
- โพสต์: 4366
- ผู้ติดตาม: 1
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 8
อ่านแล้วงง
คุณบอกว่าเงินหมดตอนออกจากงานมาร์สิ้นปี 05 จากนั้นทำงานวิศวกร 3 ปี มีเงินเก็บ 3 หมื่น?? แล้วก็ลงทุนหุ้นตอนต้นปี 09 บวกกับเงินเก็บมาเรื่อยๆ ถึงตอนนี้ก็ประมาณปีครึ่ง ได้เงินล้าน ??
ผมอ่านเข้าใจผิดตรงไหนหรือเปล่าครับ ถ้าถูกต้องแล้ว ช่วยรับผมเป็นศิษย์ด้วยคน
ช่วยเล่าประสบการณ์ตอนเป็นมาร์หน่อยครับ เชื่อว่าหลายคนคงอยากรู้
คุณบอกว่าเงินหมดตอนออกจากงานมาร์สิ้นปี 05 จากนั้นทำงานวิศวกร 3 ปี มีเงินเก็บ 3 หมื่น?? แล้วก็ลงทุนหุ้นตอนต้นปี 09 บวกกับเงินเก็บมาเรื่อยๆ ถึงตอนนี้ก็ประมาณปีครึ่ง ได้เงินล้าน ??
ผมอ่านเข้าใจผิดตรงไหนหรือเปล่าครับ ถ้าถูกต้องแล้ว ช่วยรับผมเป็นศิษย์ด้วยคน
ช่วยเล่าประสบการณ์ตอนเป็นมาร์หน่อยครับ เชื่อว่าหลายคนคงอยากรู้
- VI Wannabe
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1014
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 10
Skyforever เขียน: จากประสบการณ์ของผม ยามที่ผมโลภ ไม่รู้จักพอ หวังรวยเร็ว ผมจะขาดทุนอย่างหนัก แต่ยามที่ผมรู้จักพอ ไม่หวังรวยเร็ว กลับมีกำไรมากกว่าที่คาด มันเป็นสัจธรรมสำหรับชีวิตผม ผมเรียนรู้ว่าในตลาดหุ้น จิตใจสำคัญกว่าความรู้มากยิ่งนัก
ขอบคุณที่ share ประสบการณ์ และ ยินดีด้วยกับล้านแรกครับ
"Attempt to be fearful when others are greedy and to be greedy only when others are fearful"
"It's far better to buy a wonderful company at a fair price than a fair company at a wonderful price"
"It's far better to buy a wonderful company at a fair price than a fair company at a wonderful price"
- Skyforever
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1221
- ผู้ติดตาม: 0
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 11
ขอบคุณสำหรับกำลังใจจากทุกๆคนนะครับ
[quote="Undertaker"]สุดยอดนักสู้ชีวิต
เริ่มจากเงิน 30,000 บาท ในมกราคม ปี 2009 และบวกเพิ่มเดือนละ 10,000 (นิดหน่อย) อีก 16 เดือน
[quote="Undertaker"]สุดยอดนักสู้ชีวิต
เริ่มจากเงิน 30,000 บาท ในมกราคม ปี 2009 และบวกเพิ่มเดือนละ 10,000 (นิดหน่อย) อีก 16 เดือน
-
- Verified User
- โพสต์: 1400
- ผู้ติดตาม: 0
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 12
ขออนุญาต นำบทความพี่ไปลงในกระทู้ผมนะครับ อ่านแล้วรู้สึกดีมาก
จนอยากเก็บไว้ เผื่อคนผ่านมาภายหลังจะได้ ตามเก็บได้
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... 7&start=60
จนอยากเก็บไว้ เผื่อคนผ่านมาภายหลังจะได้ ตามเก็บได้
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... 7&start=60
เราต่างตื่นขึ้นมาทุกวัน เพื่อสร้างผลงานให้ได้ เราควรรู้ว่า ในทุกวันมีอะไรที่ต้องทำเพื่อให้เกิดผลงาน หากการตื่นขึ้นมา ไม่ได้เป็นไปเพื่อผลงาน เราก็ไม่สมควรที่จะตื่นขึ้นมาให้รกหูรกตาคนรอบข้าง
- sathaporne
- Verified User
- โพสต์: 1661
- ผู้ติดตาม: 0
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 15
ยอดเยี่ยมมากครับ สู้ๆครับ
- theerasak24
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 621
- ผู้ติดตาม: 0
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 16
อ่านแล้วมีความหวังขึ้นมาแสดงว่าดวงตาเห็นธรรม แล้วมั้งเรา แนวทางที่ว่านี้ก็มีตัวอย่างให้เห็นอยู่ก็เยอะนะครับ ดังนั้นน่าจะสรุปได้ว่าเป็นแนวทางที่มั่นคงและมั่งคั่ง ไปอย่างเต่า ช้าๆ แต่ยั่งยีนน่าจะดีกว่านะครับ
"เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่จะยังคงทำสิ่งต่างๆ ต่อไปตราบใดที่มันยังให้ความรื่นรมย์และคุณก็ทำมันได้ดี"
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1021
- ผู้ติดตาม: 1
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 17
ยินดีด้วยครับ แล้วก็อยากแชร์ประสบการณ์เพิ่มเติม ในส่วนของอาชีพ mktingหลายคนคิดว่าถ้ามีโอกาสหรือมีเวลาอยู่หน้าจอจะทำให้ชนะตลาดได้ เลยมาสมัครเป็น mkting จะได้มีโอกาสอยู่ใกล้ชิดตลาดมีข่าว inside มากขึ้น แต่ความเป็นจริงที่ผมเห็นคือมี mkting หลายคนที่เจ๊งหุ้น ไม่มีเงินเก็บ เพราะหาเงินมาได้เท่าไหร่ก็เสียหุ้นไปหมด ส่วนใหญ่คนที่อยากจะมาเป็น mkting จะมองโลกในแง่ดีว่ายิ่งอยู่ใกล้หน้าจอจะมีโอกาสได้เงินมากกว่าคนอื่นไม่ค่อยมีคนมองมุมกลับว่าถ้าไม่รู้จักควบคุมตัวเองดีๆ ผลอาจจะตรงกันข้ามได้ อย่างน้อยที่ผมเห็นคือไม่ค่อยมี mkting คนไหนที่ถือหุ้นลงทุนระยะยาวส่วนใหญ่จะเน้นเล่นฉาบฉวย คนที่จะมาแกะงบวิเคราะห์หุ้นมีน้อยมากๆ ทุกคนจะมองว่าเป็นหน้าที่ของ research แล้วก็เป็นเรื่องยุ่งยากเสียเวลา พรุ่งนี้หุ้นตัวไหนมา เคาะไปเดี๋ยวก็ได้เงินแล้ว ไม่เห็นต้องเสียเวลาวิเคราะห์ ผมมองว่าคุณ skyforever น่าจะตัดสินใจถูกแล้ว ที่ย้ายจากอาชีพนี้แล้วปรับวิธีการเล่นใหม่ มันเหมือนกับการเล่นหุ้นถ้าผิดทางก็ต้อง cutloss แล้วเปลี่ยนแนวทางใหม่ครับ ยังไงก็ขอให้มีล้านต่อไปเร็วๆ ครับ ล้านแรกหายากแต่ล้านต่อไปจะง่ายขึ้นครับ
สุดท้าย
จากประสบการณ์ของผม ยามที่ผมโลภ ไม่รู้จักพอ หวังรวยเร็ว ผมจะขาดทุนอย่างหนัก แต่ยามที่ผมรู้จักพอ ไม่หวังรวยเร็ว กลับมีกำไรมากกว่าที่คาด มันเป็นสัจธรรมสำหรับชีวิตผม ผมเรียนรู้ว่าในตลาดหุ้น จิตใจสำคัญกว่าความรู้มากยิ่งนัก
ถ้าคิดได้อย่างนี้ คงได้เห็น 10 ล้านในไม่ช้าครับ
สุดท้าย
จากประสบการณ์ของผม ยามที่ผมโลภ ไม่รู้จักพอ หวังรวยเร็ว ผมจะขาดทุนอย่างหนัก แต่ยามที่ผมรู้จักพอ ไม่หวังรวยเร็ว กลับมีกำไรมากกว่าที่คาด มันเป็นสัจธรรมสำหรับชีวิตผม ผมเรียนรู้ว่าในตลาดหุ้น จิตใจสำคัญกว่าความรู้มากยิ่งนัก
ถ้าคิดได้อย่างนี้ คงได้เห็น 10 ล้านในไม่ช้าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1746
- ผู้ติดตาม: 0
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 18
ยินดีด้วยครับ แต่อย่าประมาทนะครับ ปีที่แล้วกับปีนี้ เป็นเหมือนปีทองในการลงทุน
ผมว่าหาคนที่ขาดทุน ยากกว่าหาคนที่ได้กำไร
ยิ่งพอเงินเยอะ ๆ ดูเหมือนว่าเรามาถูกทาง แต่มันอาจทำให้เราชะล่าใจ
เงินเยอะ ๆ เวลาได้ มันก็ได้เยอะ แต่เวลาเสีย เมื่อคิดเป็น % มันเยอะเอาเรื่องนะครับ
ตอนผมสะสมเงิน 1 ล้านบาทแรก เวลาทำงานแล้วเอาเงินเข้ามาในพอร์ต ดู ๆ ก็ขึ้นทีละเยอะเหมือนกัน
หลัง ๆ พอทำงานเอาเงินเข้ามาในพอร์ต ไหงมันน้อยอย่างนี้หว่า ... ตัวเลขไม่ได้สะดุ้งเลย
ก็อยากให้ระวังไว้ด้วยครับ แต่โดยรวมแล้วผมว่าการที่คุณเจอทางที่ถนัด
ถือว่ากำลังมาถูกทางแล้วล่ะ
ผมว่าหาคนที่ขาดทุน ยากกว่าหาคนที่ได้กำไร
ยิ่งพอเงินเยอะ ๆ ดูเหมือนว่าเรามาถูกทาง แต่มันอาจทำให้เราชะล่าใจ
เงินเยอะ ๆ เวลาได้ มันก็ได้เยอะ แต่เวลาเสีย เมื่อคิดเป็น % มันเยอะเอาเรื่องนะครับ
ตอนผมสะสมเงิน 1 ล้านบาทแรก เวลาทำงานแล้วเอาเงินเข้ามาในพอร์ต ดู ๆ ก็ขึ้นทีละเยอะเหมือนกัน
หลัง ๆ พอทำงานเอาเงินเข้ามาในพอร์ต ไหงมันน้อยอย่างนี้หว่า ... ตัวเลขไม่ได้สะดุ้งเลย
ก็อยากให้ระวังไว้ด้วยครับ แต่โดยรวมแล้วผมว่าการที่คุณเจอทางที่ถนัด
ถือว่ากำลังมาถูกทางแล้วล่ะ
-
- Verified User
- โพสต์: 1601
- ผู้ติดตาม: 0
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 21
สุดยอดครับ ผมเริ่ม 6xxxx เอง สุโก่ย เป็นกำลังใจให้ครับ ...... :cheers:
- vi_tal signs
- Verified User
- โพสต์: 631
- ผู้ติดตาม: 0
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 22
สุดยอดดกครับ
ให้แม่เดือนละหมื่น
ผู้บูชาบุพการี เจริญแน่นอนครับ คอนเฟิร์ม !!!
ให้แม่เดือนละหมื่น
ผู้บูชาบุพการี เจริญแน่นอนครับ คอนเฟิร์ม !!!
มันจะมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 1601
- ผู้ติดตาม: 0
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 23
ก็ใช้กำไรในอนาคตงัยครับ .... :lol:firstee เขียน:ไม่ทราบว่าใช้หลักการยังงัยครับ
วิธีคิดp/eอนาคตคิดยังไงอ่ะครับ
เด็กฝึกหัดครับ
พึ่งเริ่มลงทุน
- Skyforever
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1221
- ผู้ติดตาม: 0
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 26
ผมก็คิดอยู่เหมือนกันครับว่าผมกลับมาในช่วงที่ตลาดขาขึ้น ยังไม่รู้ว่าตอนตลาดตกต่ำจะเป็นยังไง ผมคิดเสมอว่าบริษัทที่ผมจะลงทุนนั้นมีภูมิต้านทานต่อสภาพเศรษฐกิจตกต่ำมากพอมั้ย กำไรจะลดลงมากแค่ไหน มีโอกาสที่จะขาดทุนมากแค่ไหน ผมจะคิดถึงโอกาสในทางร้ายๆสุดๆก่อนจะคิดถึงโอกาสในการทำกำไรเสมอครับ กำไรโตก้าวกระโดด แต่มีโอกาสผิดพลาดสูงก็ไม่เอาครับakekarat เขียน:ยินดีด้วยครับ แต่อย่าประมาทนะครับ ปีที่แล้วกับปีนี้ เป็นเหมือนปีทองในการลงทุน
ผมว่าหาคนที่ขาดทุน ยากกว่าหาคนที่ได้กำไร
ยิ่งพอเงินเยอะ ๆ ดูเหมือนว่าเรามาถูกทาง แต่มันอาจทำให้เราชะล่าใจ
เงินเยอะ ๆ เวลาได้ มันก็ได้เยอะ แต่เวลาเสีย เมื่อคิดเป็น % มันเยอะเอาเรื่องนะครับ
ตอนผมสะสมเงิน 1 ล้านบาทแรก เวลาทำงานแล้วเอาเงินเข้ามาในพอร์ต ดู ๆ ก็ขึ้นทีละเยอะเหมือนกัน
หลัง ๆ พอทำงานเอาเงินเข้ามาในพอร์ต ไหงมันน้อยอย่างนี้หว่า ... ตัวเลขไม่ได้สะดุ้งเลย
ก็อยากให้ระวังไว้ด้วยครับ แต่โดยรวมแล้วผมว่าการที่คุณเจอทางที่ถนัด
ถือว่ากำลังมาถูกทางแล้วล่ะ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 381
- ผู้ติดตาม: 1
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 27
ยินดีด้วยครับ
ผมเห็นด้วยเลยครับ ว่าล้านบาทแรกยากที่สุดเลย
ผมเอง เมื่อวานก็เพิ่งได้ล้านบาทแรก เป็นครั้งที่สอง หลังจากได้ครั้งแรกมาปลายปีที่แล้ว แล้วต้องถอนเงินออกมาดาวบ้าน
ในที่สุดตอนนี้ ก็กลับมาครบอีกครั้ง
หวังว่าเราจะไปถึงล้านที่สองเร็วๆนี้พร้อมกันครับ
ปล คุณ skyforever ลงมากินข้าวกับพี่โจด้วยใช่มั้ยครับ แหะๆ ผมจำไม่ได้แล้วว่าคนไหน
ผมเห็นด้วยเลยครับ ว่าล้านบาทแรกยากที่สุดเลย
ผมเอง เมื่อวานก็เพิ่งได้ล้านบาทแรก เป็นครั้งที่สอง หลังจากได้ครั้งแรกมาปลายปีที่แล้ว แล้วต้องถอนเงินออกมาดาวบ้าน
ในที่สุดตอนนี้ ก็กลับมาครบอีกครั้ง
หวังว่าเราจะไปถึงล้านที่สองเร็วๆนี้พร้อมกันครับ
ปล คุณ skyforever ลงมากินข้าวกับพี่โจด้วยใช่มั้ยครับ แหะๆ ผมจำไม่ได้แล้วว่าคนไหน
- Skyforever
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1221
- ผู้ติดตาม: 0
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 29
ผมก็อาศัยศึกษาเอาจากพี่ๆในเวป และในหนังสือน่ะครับfirstee เขียน:ไม่ทราบว่าใช้หลักการยังงัยครับ
วิธีคิดp/eอนาคตคิดยังไงอ่ะครับ
เด็กฝึกหัดครับ
พึ่งเริ่มลงทุน
ประเมินแนวโน้มกำไรในอนาคตก่อน อย่างหุ้นที่ผมถืออยู่ปัจจุบันนี้ ผมจะคำนวณดูกำไรในอีก 10 ปีข้างหน้าคร่าวๆว่าประมาณเท่าไหร่ เป็นช่วงราคา แล้วผมดูว่าอัตราการเติบโตแบบนี้ PE ที่ตลาดให้ควรอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ แล้วก็คำนวณช่วงราคาที่เป็นไปได้ในอีก 10 ปีข้างหน้าครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 1
1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 30
ทุกครั้งที่ได้รับรู้เรื่องราวการทำงานสู้ชีวิตแล้วประสบความสำเร็จขึ้นมาจากหยาดเหงื่อแรงกายของตัวเองแล้ว ผมขนลุกทุกทีเลยครับ (ผมซะอีก ที่ไม่ค่อยได้ผ่านความลำบากมาเท่าไหร่ อนาคตอาจเจออะไรยากๆอาจจล้มเอาง่ายๆ ) รู้สึกชื่นชมจริงๆ โดยเฉพาะคุณ skyforever เป็นลูกที่กตัญญูอย่างนี้ด้วย การันตีได้เลยว่าชาตินี้เจริญแน่นอนครับ ไม่ต้องห่วง ขอเป็นกำลังใจให้ และยินดีด้วยครับ
:cheers: :cheers:
:cheers: :cheers:
It's earnings that count