เคยล้างพอร์ตกันไหมครับ?
- คนขายของ
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 792
- ผู้ติดตาม: 0
เคยล้างพอร์ตกันไหมครับ?
โพสต์ที่ 1
ไม่ทราบว่าท่านนักลงทุนทั้งหลานเคยล้างพอร์ตไหมครับ
ถ้าเคย ไม่ทราบว่าพอเล่าสู่กันฟังได้ไหมครับว่าเมื่อไหร่
เอาแบบว่า การล้าง=ถือเงินสดมากกว่า 80% ของมูลค่าลงทุนในหุ้นแล้วกัน
ถ้าเอาแบบ 100% เลยเกรงว่าจะไม่ค่อยมีใครมาตอบ
ถ้าเคย ไม่ทราบว่าพอเล่าสู่กันฟังได้ไหมครับว่าเมื่อไหร่
เอาแบบว่า การล้าง=ถือเงินสดมากกว่า 80% ของมูลค่าลงทุนในหุ้นแล้วกัน
ถ้าเอาแบบ 100% เลยเกรงว่าจะไม่ค่อยมีใครมาตอบ
อดทนไว้ กำไรยั่งยืน
-
- Verified User
- โพสต์: 1455
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เคยล้างพอร์ตกันไหมครับ?
โพสต์ที่ 3
ปีนี้ผมล้างไปสองครั้ง 100 % แต่ครั้งล่ะไม่นานคนขายของ เขียน:ไม่ทราบว่าท่านนักลงทุนทั้งหลานเคยล้างพอร์ตไหมครับ
ถ้าเคย ไม่ทราบว่าพอเล่าสู่กันฟังได้ไหมครับว่าเมื่อไหร่
เอาแบบว่า การล้าง=ถือเงินสดมากกว่า 80% ของมูลค่าลงทุนในหุ้นแล้วกัน
ถ้าเอาแบบ 100% เลยเกรงว่าจะไม่ค่อยมีใครมาตอบ
ประมาณสองอาทิตย์
แบบนี้เรียกว่าล้างไหมครับ
อย่าทำตัวเป็นนักแสดง เป็นเพียงผู้ดูก็พอ..
-
- Verified User
- โพสต์: 15
- ผู้ติดตาม: 0
เคยล้างพอร์ตกันไหมครับ?
โพสต์ที่ 4
ผมเคยล้าง port 100 % เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้วเนื่องจากคิดจะ trade หากำไรส่วนต่าง
แต่กลายเป็นว่าต้องมานั่งดูราคาหุ้นทุกวัน ถ้าราคาหุ้นที่ขายขึ้นก็รู้สึกเครียด
สุดท้ายเลยซื้อคืนทั้งหมด เสียค่าส่วนต่างกับค่า com ประมาณ 5 %
ตอนนี้เลยถือตลอด ถึงแม้ gain จะไม่มากที่สุด แต่ก็สบายใจครับ
แต่กลายเป็นว่าต้องมานั่งดูราคาหุ้นทุกวัน ถ้าราคาหุ้นที่ขายขึ้นก็รู้สึกเครียด
สุดท้ายเลยซื้อคืนทั้งหมด เสียค่าส่วนต่างกับค่า com ประมาณ 5 %
ตอนนี้เลยถือตลอด ถึงแม้ gain จะไม่มากที่สุด แต่ก็สบายใจครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 413
- ผู้ติดตาม: 0
เคยล้างพอร์ตกันไหมครับ?
โพสต์ที่ 7
บางครั้งก้อล้าง แล้วรับกลับได้ต่ำกว่า บางครั้งก้อล้างแล้วแพ้ ยอมซื้อกลับแพงขึ้น ผลัดๆกันไป ตามประสามือใหม่ในวงการครับ
ว่าแต่ผมสงสัยมากกว่าว่า ระดับเทพแบบพี่ คนขายของ มาถามคำถามแนวนี้ เพราะ มีแนวคิดยังไงบ้าง :oops:
ว่าแต่ผมสงสัยมากกว่าว่า ระดับเทพแบบพี่ คนขายของ มาถามคำถามแนวนี้ เพราะ มีแนวคิดยังไงบ้าง :oops:
-
- Verified User
- โพสต์: 1088
- ผู้ติดตาม: 0
เคยล้างพอร์ตกันไหมครับ?
โพสต์ที่ 8
ล้างแต่ไม่หมดอ่ะครับ คือขายไปเยอะเหลือแต่ตัวแกร่งๆ
ผลออกมาก็มีทั้งสองรูปแบบผมว่ามันแล้วแต่ดวงนะ
แบบแรกคือขายไปแล้วหุ้นลงคน panic sell ช่วงม็อบ ขายไปแล้วซื้อคืนก็ขาดทุนน้อยลงกว่าเพื่อนๆ
แต่มารอบหลังตกใจกลัววิกฤติยุโรปขายหุ้น smt ขายหมูขาดทุนกำไรไป 20-30% ได้ แต่โชคดีขึ้นจรวดอีกแท่งตามไปได้คับ
ตอนนี้ผมเหมือนเข็ดๆเรื่องล้างพอร์ทและคับแต่ผมเป็นคนขี้กลัวมากเห็นอะไรก็ตกใจขายก่อนหล่ะ ยิ่งชอบไปสังสรรค์กับพวกเทคนิคยิ่งทำให้ตกใจง่ายเข้าไปอีก
ผมว่าคนที่เคยโดนวิกฤติขาลงมาแล้วคงจะจิตใจสงบนิ่งกว่าผมเยอะเลย
ผลออกมาก็มีทั้งสองรูปแบบผมว่ามันแล้วแต่ดวงนะ
แบบแรกคือขายไปแล้วหุ้นลงคน panic sell ช่วงม็อบ ขายไปแล้วซื้อคืนก็ขาดทุนน้อยลงกว่าเพื่อนๆ
แต่มารอบหลังตกใจกลัววิกฤติยุโรปขายหุ้น smt ขายหมูขาดทุนกำไรไป 20-30% ได้ แต่โชคดีขึ้นจรวดอีกแท่งตามไปได้คับ
ตอนนี้ผมเหมือนเข็ดๆเรื่องล้างพอร์ทและคับแต่ผมเป็นคนขี้กลัวมากเห็นอะไรก็ตกใจขายก่อนหล่ะ ยิ่งชอบไปสังสรรค์กับพวกเทคนิคยิ่งทำให้ตกใจง่ายเข้าไปอีก
ผมว่าคนที่เคยโดนวิกฤติขาลงมาแล้วคงจะจิตใจสงบนิ่งกว่าผมเยอะเลย
เล่นหุ้นคนแก่ แต่แอบเปรี้ยวเป็นบางเวลา
- Juninho
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1054
- ผู้ติดตาม: 1
เคยล้างพอร์ตกันไหมครับ?
โพสต์ที่ 9
ไม่จริงครับ :DHughes เขียน: ผมว่าคนที่เคยโดนวิกฤติขาลงมาแล้วคงจะจิตใจสงบนิ่งกว่าผมเยอะเลย
อย่างน้อยก็ผมคนหนึ่ง พอโดนวิกฤติขาลงมาแล้ว
เหมือนเป็นความเจ็บปวดที่ฝัง อยู่ในซีลีบรัม :lol:
เรียกได้ว่า ลืมไม่ลงเลยทีเดียว
(สถานการณ์ที่ราคาหุ้นไม่ได้วิ่งไปสู่ มูลค่าที่ควรจะเป็น
แต่อย่างใด วิ่งไปทิศทางตรงข้ามซะอย่างนั้น
แม้ผลประกอบการจะออกมาดีตามที่คาด
ไม่ได้ลดลงเลยก็ตาม
และได้รู้ว่า ตลาดแคลชมันเป็นอย่างนี้นี่เอง)
เกิด snake bite effect กับตัวเอง
พอหุ้นเหมือนจะแย่ ความทรงจำเก่าก็กลับมาอีกแล้ว
ใจไม่นิ่งสุด ๆ ตกใจล้างพอร์ตไป 2 ที
แล้วก็มาซื้อแพงกว่าทุกที :(
เข็ดไปเลยทีเดียว
ไม่เหมือนตอนยังไม่เคยเจอวิกฤติ เต็มพอร์ตได้ตลอดเวลา ไม่หวั่นแต่อย่างใด
คิดแต่ว่าต่ำกว่ามูลค่าตั้งเยอะ จะขายทำไม
ซื้ออย่างเดียว เท่านั้น อิอิ:D
(เพราะไม่รู้จักตลาดหมี นั่นเอง :lol: ถึงจะมีคนเคยบอก
ความน่ากลัวของมันก็ไม่สน
ของแบบนี้ ผมว่าต้องเจอกับตัวเท่านั้น
และเข้าใจซึ้งเลยว่า ที่เขาบอกว่าไม่ผ่านวิกฤติ
ตลาดหุ้น 2 ครั้ง อย่าเรียกตัวเองว่าเซียน มันเป็นอย่างนี้
นี่เอง )
You Can Get It If You Really Want
But you must try, try and try
But you must try, try and try
-
- Verified User
- โพสต์: 1922
- ผู้ติดตาม: 0
เคยล้างพอร์ตกันไหมครับ?
โพสต์ที่ 10
[quote="newbie_12"]อย่าว่าแต่ล้าง port เลยครับ
แค่ล้าง margin ออกจาก port ให้หมดยังยากสำหรับผม
แค่ล้าง margin ออกจาก port ให้หมดยังยากสำหรับผม
-
- Verified User
- โพสต์: 942
- ผู้ติดตาม: 0
เคยล้างพอร์ตกันไหมครับ?
โพสต์ที่ 11
ล้างไม่เป็นครับ :lol:
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1223
- ผู้ติดตาม: 0
เคยล้างพอร์ตกันไหมครับ?
โพสต์ที่ 13
ผมก็ยึดหลักนี้ครับKGYF เขียน:ถือหุ้น ร้อยเปอร์เซ็นต์ ตลอดครับ
ตราบใดที่หุ้นในพอร์ตยัง undervalue อยู่ ผมจะไม่ขายครับ
แต่ในอนาคตหากหุ้นราคาสูงจนเกินมูลค่าที่ประเมินไว้มากๆ และหา(ลอก)หุ้นตัวใหม่ไม่ได้
คิดไว้ว่าค่อยล้างพอร์ตครับ :lol: :lol:
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
เคยล้างพอร์ตกันไหมครับ?
โพสต์ที่ 14
หากหาุ้นใหม่มาทดแทนหุ้นที่ขาย
เมื่อถึงราคาเป้าหมายไม่ได้
ผมใช้หลักการ การบริหารพอร์ตอย่าง น้องโย ครับ
(ขายตัวขึ้นมากบางส่วน ซื้อเพิ่มตัวที่ยังไม่ขึ้น)
การคัดเลือกหุ้นเข้าพอร์ตก็ ลอก.... เฮ้ย เลือก
สไตล์นริศบ้าง ลูกอิสานบ้าง
เลยรู้สึกว่าพอร์ตเรา ไม่มีโอกาสแห้งเลย
สรุปว่าไม่รู้จะล้างยังไง
:lol: :lol: :lol:
ปล. ใครพอร์ตใหญ่ๆ อย่าล้างเลยนะครับ
เดียวตลาดแห้ง
เมื่อถึงราคาเป้าหมายไม่ได้
ผมใช้หลักการ การบริหารพอร์ตอย่าง น้องโย ครับ
(ขายตัวขึ้นมากบางส่วน ซื้อเพิ่มตัวที่ยังไม่ขึ้น)
การคัดเลือกหุ้นเข้าพอร์ตก็ ลอก.... เฮ้ย เลือก
สไตล์นริศบ้าง ลูกอิสานบ้าง
เลยรู้สึกว่าพอร์ตเรา ไม่มีโอกาสแห้งเลย
สรุปว่าไม่รู้จะล้างยังไง
:lol: :lol: :lol:
ปล. ใครพอร์ตใหญ่ๆ อย่าล้างเลยนะครับ
เดียวตลาดแห้ง
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
- sorawut
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2494
- ผู้ติดตาม: 2
เคยล้างพอร์ตกันไหมครับ?
โพสต์ที่ 15
จิตใจสงบนิ่งครับ แต่ผลตอบแทนก็นิ่งเหมือนกัน :lol: :lol: :lol:Hughes เขียน: ผมว่าคนที่เคยโดนวิกฤติขาลงมาแล้วคงจะจิตใจสงบนิ่งกว่าผมเยอะเลย
ตัดสินใจว่า ธุรกิจไหนที่คุณต้องการจะเป็นเจ้าของ
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
-
- Verified User
- โพสต์: 347
- ผู้ติดตาม: 0
เคยล้างพอร์ตกันไหมครับ?
โพสต์ที่ 16
สงสัยว่าพี่คนขายของทำไมถึงตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาครับ มองเห็นอะไรที่ผิดปกติที่คนทั่วไปมองไม่เห็นหรือเปล่า
ผ่านประสบการณ์การลงทุนมาก็เกือบ 3 ปีแล้วครับเรียกว่าเริ่มตอนปลายกระทิงเปลี่ยวพอดี (850 ปลาย ๆ)จนถึงตลาดหมี (380 จุด :vm: ) ผมยังคงเต็มพอร์ทตามประสาคนที่รู้น้อย ๆ และต้องศึกษาเพิ่มเติมต่อไป ผลตอบแทนที่ได้ตอนนี้ก็ยังเขียวอยู่ครับ อาจจะไม่ได้เป็น % เยอะมากแต่ผมก็พอใจ พอร์ทก็มีการเติบโตทั้งจากเงินเก็บและปันผลที่ได้รับเติมลงไปทุก ๆ ปี ถ้าคิดจากตอนเริ่มต้นก็ 400% แล้วครับ
ส่วนตัวแล้วผมไม่เก่งที่จะทำนาย timing ของตลาด ตลอดจนอารมณ์ของผู้ที่มีส่วนร่วมในตลาด ผมจึงไม่สามารถที่จะขายล้างพอร์ทเพื่อที่จะมารอรับในราคาข้างล่างที่ต่ำกว่า ผมเคยลองเดาเล่น ๆ แล้วจดไว้ในกระดาษว่าหุ้นตัวนึงจะลงมาถึงที่ราคาเท่านั้นเท่านี้ ถ้าขายแล้วมาซื้อทำให้ลดต้นทุนลงได้ ซึ่งมันก็เป็นไปตามที่คิดไว้ เรียกว่า paper profit แต่ถ้าให้ผมทำจริง ๆ ในพอร์ทผมว่าบางทีอารมณ์ที่มีอยู่ ณ ขณะนั้นอาจทำให้ผมตัดสินใจผิดพลาด ขาดวินัยในการลงทุนก็ได้ ก็มันเงินจริง ๆ เนี่ยครับ เล่นจริงเจ็บจริง :lol:
สิ่งที่พอจะทำได้ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดคือ
1. ซื้อเพิ่มกรณีที่มีเงินสดเหลืออยู่ในมือในหุ้นที่มีอยู่กรณีที่ผลกระทบนั้นแค่ระยะสั้นและมีผลตอบแทนที่ดี upside เยอะหรือพอสมควรแต่ downside น้อยหรือแทบจะไม่มีเลย
2. ปรับพอร์ทหุ้นที่ถืออยู่ขณะนั้นครับ
3. อยู่เฉย ๆ
ปกติผมจะใช้ข้อ 1 และ 3 เพราะมนุษย์เงินเดือนมีเงินเติมเข้ามาตลอดครับ หรือเดี๋ยวมันก็ผ่านไปและกลับมาเหมือนเดิม
เนี่ยเป็นมุมมองและความเห็น ณ ครับ ไม่มีเจตนาจะสอนหรือแนะนำอะไร
มีความสุขกับการลงทุนและใช้ชีวิตครับ
ผ่านประสบการณ์การลงทุนมาก็เกือบ 3 ปีแล้วครับเรียกว่าเริ่มตอนปลายกระทิงเปลี่ยวพอดี (850 ปลาย ๆ)จนถึงตลาดหมี (380 จุด :vm: ) ผมยังคงเต็มพอร์ทตามประสาคนที่รู้น้อย ๆ และต้องศึกษาเพิ่มเติมต่อไป ผลตอบแทนที่ได้ตอนนี้ก็ยังเขียวอยู่ครับ อาจจะไม่ได้เป็น % เยอะมากแต่ผมก็พอใจ พอร์ทก็มีการเติบโตทั้งจากเงินเก็บและปันผลที่ได้รับเติมลงไปทุก ๆ ปี ถ้าคิดจากตอนเริ่มต้นก็ 400% แล้วครับ
ส่วนตัวแล้วผมไม่เก่งที่จะทำนาย timing ของตลาด ตลอดจนอารมณ์ของผู้ที่มีส่วนร่วมในตลาด ผมจึงไม่สามารถที่จะขายล้างพอร์ทเพื่อที่จะมารอรับในราคาข้างล่างที่ต่ำกว่า ผมเคยลองเดาเล่น ๆ แล้วจดไว้ในกระดาษว่าหุ้นตัวนึงจะลงมาถึงที่ราคาเท่านั้นเท่านี้ ถ้าขายแล้วมาซื้อทำให้ลดต้นทุนลงได้ ซึ่งมันก็เป็นไปตามที่คิดไว้ เรียกว่า paper profit แต่ถ้าให้ผมทำจริง ๆ ในพอร์ทผมว่าบางทีอารมณ์ที่มีอยู่ ณ ขณะนั้นอาจทำให้ผมตัดสินใจผิดพลาด ขาดวินัยในการลงทุนก็ได้ ก็มันเงินจริง ๆ เนี่ยครับ เล่นจริงเจ็บจริง :lol:
สิ่งที่พอจะทำได้ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดคือ
1. ซื้อเพิ่มกรณีที่มีเงินสดเหลืออยู่ในมือในหุ้นที่มีอยู่กรณีที่ผลกระทบนั้นแค่ระยะสั้นและมีผลตอบแทนที่ดี upside เยอะหรือพอสมควรแต่ downside น้อยหรือแทบจะไม่มีเลย
2. ปรับพอร์ทหุ้นที่ถืออยู่ขณะนั้นครับ
3. อยู่เฉย ๆ
ปกติผมจะใช้ข้อ 1 และ 3 เพราะมนุษย์เงินเดือนมีเงินเติมเข้ามาตลอดครับ หรือเดี๋ยวมันก็ผ่านไปและกลับมาเหมือนเดิม
เนี่ยเป็นมุมมองและความเห็น ณ ครับ ไม่มีเจตนาจะสอนหรือแนะนำอะไร
มีความสุขกับการลงทุนและใช้ชีวิตครับ
- คนขายของ
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 792
- ผู้ติดตาม: 0
เคยล้างพอร์ตกันไหมครับ?
โพสต์ที่ 17
มิได้ครับ ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อลองเช็คดูว่านักลงทุนแนว "หุ้นคุณค่า" นั้นจะมีช่วงเวลาใดที่จะถือครองเงินสดในอัตราส่วนสูงมาก หรือเรียกว่า แทบจะทั้งหมดบ้างไหม ไม่ได้มีเจตนาชี้นำไปด้านหนึ่งด้านใดTPH
PostPosted: Sat Jun 19, 2010 1:33 pm Post subject:
สงสัยว่าพี่คนขายของทำไมถึง ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาครับ มองเห็นอะไรที่ผิดปกติที่คนทั่วไปมองไม่เห็นหรือเปล่า Rolling Eyes
จากหลายท่านที่ตอบมาก็พอจะเข้าใจได้ว่าจะมีการถือครองหุ้นตลอดเวลาในอัตราที่มากกว่าเงินสดเป็นส่วนใหญ่
สำหรับผม ผมเคยล้างแบบหมดจรดถือเงินสดร้อยเปอร์เซ็น ตอนปีประมาณ 2541 หรือ 2542 ประมาณนั้น ทั้งนี้เพราะว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำตอนนั้น ขึ้นไปประมาณ 14-16% ผมยังจำวันที่ผมถือเช็คเข้าไปเปิดบัญชีได้อยู่เลยครับ
จากที่ตอบกระทู้กันมาผมเห็นพี่ๆ น้องๆ บางคนรู้สึกเสียใจ รู้สึกผิดกับการที่ตัดสินใจขายทำกำไรไป ผมเลยอยากขอเสนอแนวทางการทำใจสองข้อให้ลองพิจารณาดู เพื่อเป็นประโยชน์นะครับ
1) ไม่มีใครรู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น : นักลงทุนในอเมริกาที่ขายหุ้นล้างพอร์ตก่อนตลาดปิดในวันที่ 8 กันยา 2001 คงรู้สึกเหมือนถูกหวย Lotto (Dow closed -7.1% ในวันที่แรกที่ทำการซื้อขายหลังหยุดมาประมาณ อาทิตย์นึง) มีหลายปัจจัยมากมายที่มีผลต่อตลาดหุ้น ต่อให้คุณวิเคราะห์ทางการเงินมาแบบสุดยอดขนาดไหน คุณก็ไม่สามารถบอกได้ว่าตลาดพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร ขายแล้วก็ขอให้สบายใจกับกำไรที่ได้มาเถิดครับ
2) ขอให้รักลูกค้าของคุณ: ลูกค้าคุณก็คือคนที่มารับหุ้นต่อจากคุณไป ขอให้คุณมีความปรารณาดีต่อเขา ให้เขาได้กำไรบ้าง การคิดว่าเราจะขายที่จุดสูงที่สุด ขายแล้วต้องลง เป็นการคิดแบบเอาตัวเราเป็นใหญ่ ผมว่ามีโอกาสพลาดได้ง่าย รักลูกค้าของคุณ แล้วคุณจะลงทุนได้แบบสบายใจ และดีใจเมื่อลูกค้าของคุณสามารถทำกำไรได้ต่อจากคุณ
คุณหมอยง เคยให้สัมภาษณ์ว่า คนเล่นหุ้นนี่หาความสุขยาก แกว่า แกเห็นยามถูกหวยสองตัวดีใจแถบเป็นแถบตาย แต่แกเห็นอาม่าบ่นว่า โฮ....นี่ถ้าอั๊วไม่ขายไปก่อนนะป่านนี้กำไรมากกว่านี้เท่านี้นเท่านี้
ขอให้ทุกท่านโชคดี มีความสุขกับการลงทุนนะครับ :D
อดทนไว้ กำไรยั่งยืน
-
- Verified User
- โพสต์: 347
- ผู้ติดตาม: 0
เคยล้างพอร์ตกันไหมครับ?
โพสต์ที่ 19
ถ้าอัตราเงินฝากเท่านั้นและมีแนวโน้มเป็นอย่างเดิมหรือเพิ่มผมก็คงต้องขายเหมือนกันครับ 15% โดยที่แทบจะไม่มีความเสี่ยงเลย :ep:คนขายของ เขียน:สำหรับผม ผมเคยล้างแบบหมดจรดถือเงินสดร้อยเปอร์เซ็น ตอนปีประมาณ 2541 หรือ 2542 ประมาณนั้น ทั้งนี้เพราะว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำตอนนั้น ขึ้นไปประมาณ 14-16% ผมยังจำวันที่ผมถือเช็คเข้าไปเปิดบัญชีได้อยู่เลยครับ
ผมเคยขายหุ้นปรับพอร์ทก็ไม่เคยขายได้ที่ราคาสูงสุดเลย เหมือนกับตอนช้อนก็ไม่เคยได้ที่ต่ำสุดเลย :lol:
- Murphy.Bkk
- Verified User
- โพสต์: 37
- ผู้ติดตาม: 0
เคยล้างพอร์ตกันไหมครับ?
โพสต์ที่ 23
ไม่เคยล้างพอร์ตครับ แต่ปรับพอร์ตอยู่อย่างต่อเนื่อง
ช่วงไหนที่มีสัญญาณชัด (ซี่งไม่เคยแน่นอน บางทีก็ไม่เป็นตามสัญญาณ) ว่าตลาดกำลังจะเป็นขาขึ้น หรือหุ้นมีราคาถูก (set index ต่ำมาก หรือราคาหุ้นตัวนั้นสูง) ก็ถือเงินสดน้อย
ช่วงไหนมีสัญญาณชัดว่าตลาดกำลังจะเป็นขาลง หรือหุ้นมีราคาแพง ก็ขายหุ้นถือเงินสดมากหน่อย
แต่พวกนี้ไม่ถูกเสมอไป แต่การปรับพอร์ตโดยเฉลี่ยจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าไม่ทำอะไร และอยู่เฉยๆ ในกรณีที่สัญญาณชัด
ช่วงไหนที่มีสัญญาณชัด (ซี่งไม่เคยแน่นอน บางทีก็ไม่เป็นตามสัญญาณ) ว่าตลาดกำลังจะเป็นขาขึ้น หรือหุ้นมีราคาถูก (set index ต่ำมาก หรือราคาหุ้นตัวนั้นสูง) ก็ถือเงินสดน้อย
ช่วงไหนมีสัญญาณชัดว่าตลาดกำลังจะเป็นขาลง หรือหุ้นมีราคาแพง ก็ขายหุ้นถือเงินสดมากหน่อย
แต่พวกนี้ไม่ถูกเสมอไป แต่การปรับพอร์ตโดยเฉลี่ยจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าไม่ทำอะไร และอยู่เฉยๆ ในกรณีที่สัญญาณชัด
เราซื้อหุ้นดีทุกตัวไม่ได้ แต่หุ้นที่เราซื้อต้องดีเท่านั้น
เราซื้อหุ้นทุกตัวที่ขึ้นไม่ได้ แต่หุ้นที่เราซื้อต้องขึ้นเท่านั้น
เราซื้อหุ้นทุกตัวที่ขึ้นไม่ได้ แต่หุ้นที่เราซื้อต้องขึ้นเท่านั้น
- reiter
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2308
- ผู้ติดตาม: 0
เคยล้างพอร์ตกันไหมครับ?
โพสต์ที่ 24
สมัยเล่นกราฟ เคยล่้างตอนตุลา 51 เพราะกราฟสั่งขายอย่างรุนแรง
ตั้งแต่เป็น VI เต็มตัว เคบมีเงินสดมากสุด 10% :oops: :oops:
ตั้งแต่เป็น VI เต็มตัว เคบมีเงินสดมากสุด 10% :oops: :oops:
- SunShine@Night
- Verified User
- โพสต์: 2196
- ผู้ติดตาม: 0
เคยล้างพอร์ตกันไหมครับ?
โพสต์ที่ 26
นี้เป็นเหตุที่ผมต้องกันเงินส่วนที่มีแผนจะใช้ในอนาคตไว้แล้ว โดยไม่ลงในหุ้นหมด เพราะกลัวเจอเหตุการณ์แบบคุณนี้แหละครับpradyat เขียน:เคยครับ เมื่อปีที่แล้วนี่เอง ตอนหุ้นตกๆอยู่ได้ที่เลย ต้องเอาตังไปแต่งงานด่วนๆ ม่ายงั้นเด๋วอดกว่าจะเอาเงินกลับมาเข้าพอร์ตได้อีกทีก็ปลายปีเลย เสียดายส่วนต่างอยู่เหมือนกัน
VI ฝึกหัด สำนักปีเตอร์ ลินช์
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี
- jo7393
- Verified User
- โพสต์: 2486
- ผู้ติดตาม: 0
เคยล้างพอร์ตกันไหมครับ?
โพสต์ที่ 27
:D
“ถ้าราคาหุ้นแยกออกไปจากเส้นกำไร ไม่ช้าก็เร็วมันจะวิ่งกลับไปหาเส้นกำไรเสมอ”
เลือกบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม และถือมันตราบที่มันยังเป็นกิจการที่ดีอยู่
อย่าอายที่จะถาม ไม่มีใครรู้ลึกทุก บ. ถ้าไม่รู้แล้วไม่ถามก็จะยิ่งไม่ฉลาด
เลือกบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม และถือมันตราบที่มันยังเป็นกิจการที่ดีอยู่
อย่าอายที่จะถาม ไม่มีใครรู้ลึกทุก บ. ถ้าไม่รู้แล้วไม่ถามก็จะยิ่งไม่ฉลาด
- คนรักน้ำมัน
- Verified User
- โพสต์: 266
- ผู้ติดตาม: 0
เคยล้างพอร์ตกันไหมครับ?
โพสต์ที่ 29
เคยบ่อยไปครับ อย่างสมัยวิกฤติแฮมเบอเกอร์ ผมก็ล้างพอร์ต แล้วทำ Short Against Port เป็นระยะๆ สมัยปี 51 ทำให้เอาตัวรอดมาได้ ตอนนั้นยังเทรดหุ้นโดยอาศัยเครื่องมือทางเทคนิคเป็นหลัก ถ้าไม่ใช้เทคนิคตอนนั้นเจ็บตัวหนักแน่ แต่ถ้าถามวันนี้คงไม่ล้างไปอีกหลายปีเลยล่ะครับ เพราะไม่ได้เทรดแบบเทคนิคแล้ว
หุ้นไม่ใช่เพียงแค่กระดาษแผ่นหนึ่ง มันเป็นเอกสารที่แสดงถึงความมีส่วนเป็นเจ้าของในกิจการนั้นด้วย เมือคิดจะลงทุน จงใช้มุมมองอย่างเจ้าของกิจการ เน้นลงไปในกิจการและข้อมูลเบี้องหลัง ไม่ใช่แค่มองว่ามันเป็นแค่หุ้น ต้องรู้ใช้ชัดว่ากิจการนี้ทำอะไร และทำได้ดีแค่ไหน?