ทำบุญอย่างไรดีครับ

[สามัญชน]

ตอนนี้เว็บเรามีเงินล้านกว่า
อยากจะตอบแทนสังคมบ้าง
จึงน่าจะระบายเงินออกไปไม่ให้เหลือเยอะเกินไป
ดร.ไพบูลย์เคยทักว่า  เงินก้อนนี้ถ้าปล่อยให้ใหญ่ไปเรื่อยๆจะเป็นปัญหาในภายหลัง
ผมเองก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน
เรามีแค่พอค่าใช้จ่ายน่าจะดีกว่า

ผมถามความเห็นทีมงานก่อนแล้วค่อยไปถามสมาชิก
ใครมีไอเดียช่วยมาแชร์ด้วยนะครับ
ส่วนตัวผมมองในแง่ความรู้ก่อน
ถ้าทำบุญแล้วสมาชิกหรือสังคมได้ความรู้ที่ถูกต้องโดยเฉพาะในแง่การลงทุนน่าจะเป็นกุศลดีครับ  :lol:

[เด็กใหม่ไฟแรง]

ผมเสนอการจัดอบรมฟรี หรือถูกมากๆสำหรับสมาชิก
เช่นอบรม 1 วัน จ่ายค่าตัววิทยากรให้คุ้มหน่อย เช่น ชม.ละ 5000 บาท
จัดสถานที่ใหญ่ๆ จุคน 200-300
เช่นที่ห้องประชุมตลาดหลักทรัพย์ หรือที่อื่นๆ
สมาชิกจอง และต้องเสียเงินเล็กน้อย เพือให้จองแล้วต้องมา
เช่น 1 วัน เก็บ 200 บาท
web จ่ายส่วนต่างของค่าจัด
และอย่าทำเอง ให้คนเหมาไป เช่นให้บอยทำแบบมีค่าใช้จ่ายให้เขาด้วย

[โอ@]

ปกติเวลาเราจัดงานเราจะมีกำไรทั้งงานจิบเบียร์ และงาน TVI Meeting
ผมเสนอว่าต่อไปเราก็จัดงานทั้งสองงานแบบปริ่มๆ เกือบขาดทุนไปเลยดีไหมครับ
จิบเบียร์ก็ลดจาก 1000 -> 700
TVI Meeting ก็ลดราคาลงไปเลย

เงินมันก็จะได้ไม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆหน่ะครับ

[naris]

ชงเสนอแยกเป็นกองทุนออกมาจากเวป....เพื่อไม่ให้เป็นภาระของคนอื่นที่จะไม่กล้าทำอะไรกับเงินที่ตนเองไม่ได้หามา

แล้วจัดการกองทุนนี้ให้ได้สัก5-10ล้าน และจากนั้นนำไปซื้อกองทุนอสังหากระจายสัก3-5ตัวและเอาเฉพาะเงินปันผลมาทำบุญทุกๆปี โดยกำหนดเป็นนโยบาย เช่นอาจจะแบ่งเป็น3กอง การศึกษา พุทธศาสนา และทางการแพทย์ ครับ

[Paul VI]

1.คงต้องประเมินก่อนครับ ว่า ค่าใช้จ่ายที่พอเหมาะแล้ว จะไม่เกิดการขาดในภายภาคหน้า จะอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ เพราะผมเคยเจอลักษณะ แบบที่ว่านี้มาแล้วครับ ก็คือเจตนาดีๆ แบบนี้ล่ะครับ ครั้นพอได้ระบาย ด้วยการตอบแทนสังคม แล้วก็จริง แต่พอภายหลังมีปัญหาการขาดขึ้นมา เดือดร้อนกันหนักเลยครับ
แล้วที่น่าห่วงที่สุดก็คือ หมอแพะ เพราะเค้าจะมาไล่ย้อน กลับมาที่ประธานก่อนครับ

2.ข้อเสนอของคุณ เด็กใหม่ ก็ดีครับ แต่ ถ้าเราเอาคนคุณภาพมาแล้ว และจ่ายค่าวิชาแบบเต็มที่แล้ว เราก็อาจจะจัดให้มีจำนวนคนฟังมากหน่อยก็ได้ครับ จะได้ความรู้กันมากคน หน่อยครับ

3.ของโอ๊ต ก็ดีครับ แต่การจัดงานจิบเบียร์ผมเสนอให้จ่ายในราคาที่เท่าเดิม แต่ ถ้าเป็นงาน TVI meeting อาจจ่ายน้อยลงกว่าเดิม เป็นงานให้ความรู้(เพียงแต่สมาชิก อาจจะอยากมีส่วนร่วมช่วยเวป เค้าอาจจะอยากจ่ายเท่าเดิม)

4.ทำบุญแบบ ชง ก็ดีครับ แต่คงต้องแยกออกมาเป็น นิติบุคคลต่างหากก่อน
จะแยกมายังไงเป็น มูลนิธิ เป็นอะไร คงต้องคุยกัน

[CK]

เสนอให้บริจาคเพื่อการศึกษาสำหรับเด็กต่างจังหวัดครับ
ผมคิดว่าความตอบแทนสังคมในวงที่กว้างกว่า "นักลงทุน"
ถ้าเป็นการศึกษาระดับพื้นฐานในต่างจังหวัดน่าจะรีเทินสูงสุด

[ปรัชญา]

ถ้าแจกทุนการศึกษาก็ดีครับ

สมมุติ  แจก100ทุน  ทุนละ5พันบาท
แจกแล้วตรวจสอบได้  มีชื่อนามสกุลใครได้รับแจกบ้าง

บริจาคบ้านคนพิการ  บ้านคนชรา  บ้านเด็กอานาถา
ก็น่าคิดเลยขอเสนอเป็นทางเลือก  ให้ประธานและทีมงานพิจารณาดูครับ

[oatty]

มีความฝันหลายอย่างเลยครับ

อย่างแรก คือ ให้ทุนระดับปริญญาตรีเด็กต่างจังหวัดเรียนหมอ โดยไม่มีข้อผูกพัน...(ฝันไปหรือเปล่าเนี่ย)

อีกหลายอย่างฝันมานานจนนึกไม่ออกแล้ว

ที่พี่ ๆ ว่ามาก็ดีทั้งนั้นเลย เอาแบบไหนก็ได้

[Little Boy]

เห็นด้วยครับ สำหรับการนำเงินส่วนเกินของเว็ปออกไปช่วยเหลือสังคม
แต่ความคิดเห็นส่วนตัวของผม ในแง่ของการนำเงินจากองค์กรใดองค์กรหนึ่ง
ไปมอบให้ จ่ายแจก หรือบริจาค เพียงอย่างเดียว มันเหมือนเป็นการให้ปลา มากกว่าสอนให้จับปลา (คุ้นๆ เนอะคำพูดนี้ )
(ปล.ผมไม่ได้ต่อต้านการทำบุญ ทำทานนะครับ ปัจจุบันผมก็มีการบริจาคเงินส่วนตัว ในการแบ่งไปทำบุญหรือบริจาคในสถานที่ต่างๆ อยู่บ่อยๆ
รวมทั้งหลายๆ ท่านในที่นี้ก็คงจะทำอยู่บ่อยๆ แต่ในที่นี้ขอพูดในแง่เงินขององค์กร หรือเว็ปไซด์เราก่อนก็แล้วกันนะครับ)

การทำ CSR ขององค์กร หรือบริษัทฯ ต่างๆ ในปัจจุบัน ก็เคยชินกับการให้ จ่ายแจก ซะจนคนเข้าใจผิดคิดว่า CSR คือการให้ การแจกจ่าย การบริจาคไปแล้วซะงั้น
ซึ่งก็พอเข้าใจครับ เพราะมันเป็นวิธีการที่ง่าย ไม่ยุ่งยาก แต่ในทางกลับกัน ผมกับชื่นชมการทำ CSR ของบางบริษัท อาทิเช่น
สนับสนุนเงินเพื่อมีการให้ความรู้แก่เกษตรในการปลูกกาแฟ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีมีคุณภาพ และบริษัทก็กลับมารับซื้อในราคาสูง
หรืออย่างบางบริษัทฯ ที่ให้ลูกเจี๊ยบแก่เกษตรกร พร้อมทั้งให้คำปรึกษาแนะนำ และกลับมารับซื้อไข่ไก่ หรือเนื้อไก่จากเกษตรกรฯ

ทีนี้....แล้วเว็ปเราจะทำอะไรดีล่ะ จริงๆ ผมมีไอเดียนำเสนออยู่ 2 แนวทางครับ
หากท่านใดขึ้นเครื่องบินบ่อยๆ คงคุ้นเคยกับประโยคนี้ สวมหน้ากากให้ตัวท่านเองก่อน ก่อนสวมให้ผู้อื่น
เฉกเช่นเดียวกันครับ ช่วยเหลือคนในเว็ปไซด์ก่อน เพื่อจะให้ก้าวไปช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป

แนวทางแรก ผมเสนอให้หยิบยืม ขออนุญาติ หรือซื้อต่อ โปรแกรมของพี่ครรชิต แล้วนำมาปัดฝุ่น พัฒนา ต่อยอด
ให้มีการใช้งานได้อย่างสะดวกราบรื่น และครอบคลุมเนื้อหาให้ตรงกับความต้องการของนักลงทุนแนวเน้นคุณค่ามากที่สุด
โดยอาจจะทำเป็นโปรแกรมใหม่ไปเลย (คล้ายๆ ของ efin ที่มีโปรแกรมอ่ะครับ) โดยโปรแกรมนี้อาจเปิดให้สมาชิกได้ใช้งานฟรี
ส่วนเว็ปก็เจียดเงินส่วนหนึ่งมาเป็นค่าทีมงานที่ดูแลเป็นรายเดือน
คร่าวๆ ก่อนนะครับสำหรับแนวทางแรก เพราะผมก็ไม่ถนัดเรื่อง IT พวกโปรแกรมเท่าไหร่ แต่คิดว่ามันน่าจะทำได้
ซึ่งหากได้ทำโปรแกรมตามแนวคิดนี้จริงๆ เงินเก็บเว็ปไซด์ก็คงพร่องลงไปมาก จนอาจจะไม่สามารถดำเนินการตามแนวทางที่ 2 ได้
แต่หากเรายังมีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง ใช้เวลาสักนิด ก็จะสามารถดำเนินการต่อไปได้

แนวทางที่สอง จริงๆ แล้วผมเห็นคล้ายกับพี่เด็กใหม่ไฟแรงครับ แต่พูดไปก็เหมือนกับผมมีส่วนได้เสีย (กรณีเว็ปให้ผมช่วยทำ)
แต่ด้วยความบริสุทธ์ใจ ซึ่งเว็ปอาจจะไม่ต้องให้ผมทำก็ได้ ก็เลยขอแชร์ไอเดียวคร่าวๆ เกี่ยวกับการจัดอบรม สัมมนาดังนี้ครับ
ในฐานะที่เว็ปเราเป็นเว็ปแห่งความรู้ การลงทุน ผมเลยคิดว่าเราน่าจะจัดอบรมความรู้เกี่ยวกับการลงทุนโดยอาจแบ่ง
ออกเป็น 3 สเต็ป คือ
- การอบรมพื้นฐานเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้น (จัดในเดือนที่ 1)
- การอบรมการใช้งานโปรแกรมของเว็ปไซด์ (ตามแนวคิดที่1) เพื่อหาข้อมูลในการลงทุน (จัดในเดือนที่ 2)
- การอบรมเรื่องงบการเงิน และอัตราส่วนทางการเงิน (จัดในเดือนที่ 3)

โดยการอบรมดังกล่าว เราก็เชิญทีมงานในเว็ปที่มีความเชี่ยวชาญ ชำนาญ ในแต่ละสาขา เข้าให้ความรู้แก่ผู้เข้าอบรม
และด้วยการที่จัดเดือนละครั้ง และหัวข้อเรื่องในแต่ละเดือนก็ไม่ซ้ำกัน (จะวนซ้ำทุก 3 เดือน) ก็จะดูไม่เป็นการรบกวนวิทยากรจนเกินไป
กอปรกับเราก็จ่ายค่าตอบแทนให้แก่วิทยากรให้สมเหตุสมผลตามที่พี่เด็กใหม่ไฟแรงแนะนำ ก็น่าจะพอหาอาสาสมัครได้อยู่

สำหรับผู้ที่เข้าร่วมอบรม ทางเว็ปก็ไม่คิดค่าใช้จ่าย แต่จะขอรับเป็นการบริจาคแทน เช่น
เดือนมกราคม เราจะจัดอบรมพื้นฐานการลงทุนในหุ้น ทางเว็ปไซด์มีการประชาสัมพันธ์ไปเลยว่า เปิดรับผู้สนใจเข้าร่วมอบรม
โดยไม่เสียเงินค่าใช้จ่าย แต่ขอรับเป็นเงินบริจาคแทน เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือหน่วยงาน.......
(เช่นมอบทุนการศึกษา, เด็กอ่อน, คนชรา, ศพไร้ญาติ ฯลฯ) ตามแต่สมาชิกจะเห็นสมควรว่าจะนำไปบริจาคให้กับหน่วยงานใดในเดือนนั้นๆ

ซึ่งท้ายที่สุดเราก็ได้บริจาคเงินทำบุญ สมกับความตั้งใจตามเจตนารมย์แรก เพียงแต่อาจจะต้องผ่านขั้นตอน ตามแนวคิดที่ 1 และ 2 ก่อน  
อาจจะดูอ้อมโลกไปหน่อย แต่ผมคิดว่ามันสร้างคุณค่าได้หลากหลายดีครับ
ควรมิควรแล้วแต่ทีมงานจะพิจารณา

[MO101]

เห็นเหมือนคุณ Little Boy เลยครับ มีเงินแล้วจะแจกเงินมันทำง่ายครับ
แจกไปที่ไหนๆ ใครๆก็รับ ทำห้องสมุด แจกุนการศึกษา หรืออื่นๆ
ซึ่งผมคิดว่าเงินจำนวนนี้ควรมาแ้ก้ปัญหาเล็กๆน้อยๆที่ต้องใช้เงินดีไหมครับ
เช่น ออกค่าเดินทาง + ที่พักให้ คนที่อยู่ต่างจังหวัดมากรุงเทพบ้าง
หรือให้คนกรุงเทพไปต่างจังหวัดบ้าง เห็นอ.ไพบูลย์พูดบ่อยๆว่าไม่มีค่าเครื่องบินให้แขกรับเชิญในรายการ
ส่วนการทำบุญหรือบริจาคนั้นเท่าที่รู้มาองค์กรการกุศลมักจะมีเิงื่อนไขบางอย่างเช่นเิงินต้นห้ามนำมาใช้ เอาแต่ดอกผลมาใช้อย่างเดียวประมาณนี้
หรือองคกรณ์เอกชนก็จะมีกำหนดไว้ว่ากำไร 4% เอามาใช้ทำกิจกรรมเพื่อสังคม
ปีไหนกำไรมากก็จ่ายมากปีไหนกำไรน้อยก็จ่ายไม่ต่ำำกว่า 4 ล้าน แบบนี้เป็นต้น
เพราะถ้าเรารู้งบประมาณคร่าวๆ เราก็จะจำกัดโปรเจกที่ใช้เงินมากไป และน้อยไปได้บางส่วน

ตัวอย่างเช่นถ้าเอาอย่างข้างต้น งบ 1 ล้าน 4% ก็ 4 หมื่นบาท
1.แจกทุนการศึกษาก็จะได้ 8 ทุน
2.เอาไปลงทุนในโปรแกรมของพี่ครรชิดทั้งหมด ไม่รู้จะพอไหม จ่าง programmer ก็ไม่ใช่ถูกๆ
3. จิบเบียร์ครั้งหนึ่งตีซะ 200 คนก็ได้ลดคนละ 200 บาท
รู้งบคร่าวๆ ก่อนก็ดีนะครับ ความคิดจะได้ไม่หลากหลายจนเกินไป

[kongkang]

เห็นด้วยกับบอยในแนวทางที่ 1 ค่ะ โปรแกรมพี่ครรชิตมีประโยชน์มากแต่ใช้ไม่ค่อยเป็น ถ้ามาทำให้ใช้ง่ายขึ้นจะมีประโยชน์ต่อการลงทุนอย่างยิ่ง ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับพี่ครรชิตแล้วค่ะ
ส่วนเรื่องเงินบริจาคก็ต้องเลือกว่าจะให้กับสมาชิกในเวป หรือคนนอก ขอเสนออยากให้บริจาคหนังสือให้แก่ห้องสมุดโรงเรียนตามตจว. ยิ่งเป็นหนังสือการลงทุนยิ่งดี ให้เด็กได้มีการต่อยอดความคิดการลงทุน เพราะโอกาสที่คนทั่วไปที่ไม่ค่อยมีเงินจะได้อ่านหนังสือดี ๆ มีน้อย ยิ่งเด็กด้วยยิ่งยาก  แม้การบริจาคจะเป็นการเหวี่ยงแห แต่ถ้าเหวี่ยงแล้วได้ผลกับกลุ่มคนที่ไม่มีโอกาสหรือเงินที่จะซื้อหนังสืออ่าน ก็น่าจะเป็นประโยชน์บ้าง เผื่อคนนั้นเมื่อเติบโตขึ้นมาแล้วเป็นได้อย่างหมอประธาน ก็นับว่าคุ้มค่าแล้วโดยเฉพาะหนังสือพ่อรวยสอนลูก ,นักลงุทนเน้นคุณค่า ก็จุดประกายให้คนอีกหลายคนเลยค่ะ

[สามัญชน]

ย้ายมาห้อง value เพื่อรับข้อเสนอจากสมาชิกครับ  :lol:

[doodeemak]

คิดว่าควรนำเงินไปใช้เกี่ยวกับการลงทุนตามอุดมการณ์ของเว็บครับ

นั่นคือ จ่ายเงินปันผลให้กับสมาชิกที่สมัครก่อนปี 2008  :ep:  :ep:

ล้อเล่นครับ เห็นด้วยกับไอเดียพี่เด็กใหม่ครับ ตามหลักการบริหารแล้ว

ต้องใช้เงินให้ match กับวิสัยทัศน์ของเว็บคือการส่งเสริมความรู้

การลงทุนเน้นคุณค่า  :cheers:  :cheers:

[หมีขาว]

ผมเห็นว่าการบริจาคควรให้กับคนที่มีความจำเป็นจริงๆ เช่น คนยากจนในต่างจังหวัดหรืออื่นๆ ครับ
การช่วยเหลือสมาชิกด้วยกัน เช่น ลดค่าสัมนา หรือลดราคางานจิบเบียร์จริงๆ คงไม่มีผลกระทบกับเพื่อนๆ เกือบทุกท่าน
เพราะส่วนใหญ่มีกำลังทรัพทย์อยู่แล้ว  หรือถ้ามีบางคนต้องการจริงๆ (สมมุติเช่น คนต่างจังหวัดตัวแทนหมู่บ้านอยากมีความรู้เรื่องการลงทุน) อาจจะพิจารณาเป็นรายกรณีไปก็ได้นะครับ

และการช่วยเหลือขอเสนอให้มีการติดตามผลด้วยครับ ให้เป็นเงินแล้วก็จบไปคงไม่ใช่หลักการให้ที่ดีครับ

[หมีขาว]

ผมคิดว่าการให้ทุนการศึกษาตลอดการศึกษาในระดับชั้นมัธยม หรือปริญญาตรี เป็นการให้ที่ดีมากครับ เพราะทางทีมงานสามารถติดตามผลได้
(เช่น เด็กที่ได้ทุนตั้งใจเรียนหรือไม่ โดยมีการนัดพบเด็กๆ ทุกเทอมการศึกษา ในกรณีที่ทางทีมงานมีเวลา)

อาจจะมีการคัดเลือกเด็กที่จะได้รับทุน เพื่อที่จะได้เด็กที่มีความตั้งใจ แต่ขาดแคลนทรัพย์อย่างแท้จริงครับ

[moonchild]

ชอบแนวคิดพี่นริศครับ

ด้วยความสามารถของกลุ่ม mod ในไทยวีไอ
การบริหารเงินจะทำให้มูลค่าของเงินในปัจจุบันเพิ่มมากขึ้นครับ

ดังนั้น ถ้าบริจาคทั้งหมดที่มีอยู่ ก็สามารถช่วยเหลือคนได้เพียงบางกลุ่ม
แต่ถ้าสามารถสร้างมูลค่าได้เพิ่มขึ้น คนที่จะได้รับความช่วยเหลือก็จะมีมากยิ่งขึ้นครับ

แต่ต้องมีการจัดการทำให้จำนวนเงินมีไม่มากจนเกินไป
เมื่อเงินเกินจุดๆ หนึ่ง
เช่น
ทางเว็บจะกันเงินส่วนนึงไว้บำรุงรักษาเว็บและอื่นๆ
และนำเงินที่ได้จากงานต่างๆ มารวมกับพอร์ตการลงทุน
ส่วนเงินที่เหลือในแต่ละปีที่เกิน 5 ล้าน
จะเอาเงินส่วนเกินไปทำบุญครับ

[nlyn]

เสนอให้บริจาคเพื่อการศึกษาสำหรับเด็กต่างจังหวัดครับ
ผมคิดว่าความตอบแทนสังคมในวงที่กว้างกว่า "นักลงทุน"
ถ้าเป็นการศึกษาระดับพื้นฐานในต่างจังหวัดน่าจะรีเทินสูงสุด

เห็นด้วยที่สุดครับ สะดวกและเห็นผลได้ชัดเจนที่สุด คือสร้างโรงเรียน ซื้อหนังสือเรียน เสื้อผ้าเด็กนักเรียน และอื่นๆสำหรับเด็กในชนบท

ส่วนที่เพื่อนสมาชิกแนะนำว่านำไปลงทุนเพิ่มหรือจัดตั้งเป็นกองทุน กลัวว่าจะเกิดปัญหานะสิครับ ใครจะเป็นผู้จัดการ แล้วถ้าบริหารงานไมได้ตามเป้าหมายจะเป็นยังไง

[nasesus]

ชงเสนอแยกเป็นกองทุนออกมาจากเวป....เพื่อไม่ให้เป็นภาระของคนอื่นที่จะไม่กล้าทำอะไรกับเงินที่ตนเองไม่ได้หามา

แล้วจัดการกองทุนนี้ให้ได้สัก5-10ล้าน และจากนั้นนำไปซื้อกองทุนอสังหากระจายสัก3-5ตัวและเอาเฉพาะเงินปันผลมาทำบุญทุกๆปี โดยกำหนดเป็นนโยบาย เช่นอาจจะแบ่งเป็น3กอง การศึกษา พุทธศาสนา และทางการแพทย์ ครับ

เห็นด้วยครับพี่นริศ กำลังจะโพสแบบพี่เลยครับ แต่อาจลำบากใจคนดูแลพอร์ตครับ

[pairojtw]

เห็นด้วยกับคุณ little boy  ทั้ง2ข้อ

[ccc111]

[quote="หมีขาว"]ผมเห็นว่าการบริจาคควรให้กับคนที่มีความจำเป็นจริงๆ เช่น คนยากจนในต่างจังหวัดหรืออื่นๆ ครับ
การช่วยเหลือสมาชิกด้วยกัน เช่น ลดค่าสัมนา หรือลดราคางานจิบเบียร์จริงๆ คงไม่มีผลกระทบกับเพื่อนๆ เกือบทุกท่าน
เพราะส่วนใหญ่มีกำลังทรัพทย์อยู่แล้ว

[picatos]

ผมว่าเว็บเราเป็นเว็บที่ส่งเสริมการลงทุนแบบเน้นคุณค่า...

ดังนั้นการบริจาคน่าจะอยู่ใน Scope ที่ใช้ในการพัฒนาการลงทุนแบบเน้นคุณค่านะครับ เช่น
1. สนับสนุนงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง กับ VI
2. สนับสนุนหนังสือ หรืองานเขียนดีๆ ที่เกี่ยวกับ VI มาแปล
3. สนับสนุนให้มีการเรียนการสอน VI อย่างเป็นเรื่องเป็นราว
4. เป็นรางวัลให้แก่สมาชิกเว็บ ThaiVI เช่น Rookie of the year, MVP of the year จัดทำเป็นโล่ห์ให้กับสมาชิกที่ทำประโยชน์ให้กับเว็บ

เป็นต้น

[kurapica]

ถ้าบริจาคทั้งหมดที่มีอยู่ ก็สามารถช่วยเหลือคนได้เพียงบางกลุ่ม
แต่ถ้าสามารถสร้างมูลค่าได้เพิ่มขึ้น คนที่จะได้รับความช่วยเหลือก็จะมีมากยิ่งขึ้นครับ

ผมก็ชอบแนวคิดนี้เหมือนกันครับ

แต่ที่ผมอยากให้มีก็คือ
เอาส่วนหนึ่งไปซื้อ account ของ set smart หรือไม่ก็ bol
เพื่อช่วยเหลือสมาชิก เวลาต้องการข้อมูลของบริษัทเพื่อมาใช้วิเคราะห์
อย่างเช่น บริษัทลูกหรือบริษัทที่เกี่ยวโยงกันซึ่งไม่อยู่ในตลาด จะหางบยากมาก
ถ้าสมาชิกอยากได้ข้อมูลก็ขอไปที่คนดูแล account

[โว้กว้าก]

ผมขอสนับสนุนการลงทุนเพื่อการศึกษา เพื่ออนาคตของชาติครับ

บริจาคให้เด็กด้อยโอกาสทางการศึกษาครับ เห็นแล้วนึกถึงค่ายการสร้างโรงเรียนที่เพื่อนผมกำลังให้ช่วยหาเงินพอดีครับ ในขั้นต้นต้องการระดมเงิน 1 แสนบาทสำหรับก่อสร้างอาคารเรียนเล็กๆ 1 หลัง ( เป็นค่าใช่จ่ายโดยประมาณนะครับ ) แต่ถ้าได้ เพิ่มอีก 1 แสน เป็น 2 แสนบาท จะสามารถสร้างโรงอาหารเพิ่มได้อีก 1 หลังครับ

รายละเอียดย่อๆนะครับ

โรงเรียนบ้านห้วยมะน้ำ ก่อตั้งขึ้นมาได้ประมาณ 6 ปี โรงเรียนแห่งนี้แตกต่างจากโรงเรียนอื่นทั่วไป ตรงที่โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียน กสน.(การศึกษานอกเรียน) สังกัดกระทรวงศึกษาธิการเช่นเดียวกับโรงเรียนสายสามัญทั่วไป ต่างกันที่ ไม่มีงบสนับสนุนจากทางรัฐบาล ด้วยความร่วมมือร่วมใจจากชาวบ้าน ให้มีการเรียนการสอนในระดับประถมศึกษาอนุบาล 1 ถึง ชั้น ป.6 ปัจจุบันมีนักเรียนเข้ารับการเรียนการสอนประมาณ 80 คน จากทั้งในหมู่บ้านและหมู่บ้านใกล้เคียงมีครูสอน 2 สองคน (คุณครูดิว และคุณครูเบล เป็นครูสุภาพสตรีทั้งสอง) มีอาคารเรียน 2 อาคารเรียน อาคารหลังแรกได้รับจากความร่วมมือร่วมใจจากชาวบ้าน ก่อนเคยเป็นอาคารเฉพาะกิจเพื่อการประกอบพิธีกรรมและประชุมกันของชาวบ้านอีกอาคารเกิดจากการความร่วมมือร่วมใจกันช่วยเหลือจากชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ อุทยานแม่เงา และกลุ่มชมรมจำปาเหล็กเพื่อเด็กดอย (บริษัท การบินไทย) มีโซลาเซลล์ผลิตกระแสไฟฟ้าขนาด 1,500 วัตต์ จากการอนุเคราะห์จากกรมพัฒนาพลังงานและอนุรักษ์พลังงาน การเดินทางเข้าไปที่ โรงเรียนค่อนข้างยากลำบาก ต้องใช้รถ 4WD ของเจ้าหน้าที่อุทยานพาเข้าไป เส้นทางคดเคี้ยวไปตามลุ่มน้ำเงาลึกเข้าไปจนเกือบถึงอมก๋อย ช่วงฤดูฝนรถไม่สามารถขึ้นไปได้ ต้องใช่เรือชาวบ้านวิ่งทวนน้ำขึ้นไปจนถึงสรุบโครงแล้วลงเดินเท้าต่อขึ้นไปอีกประมาณ 15 กิโลแม้ว (เรือจะเขาไปได้เฉพาะช่วงหน้าฝนเท่านั้น) ช่วงหน้าหนาวอากาศเย็น บนดอยอุณหภูมิโดยเฉลี่ยประมาณ 5-8 องศา

อ่านเพิ่มเติมได้จากเอกสารแนบนะครับ

http://f2.uploadfile.biz/file/?i=EXEZMEIEMMENII

รายละเอียดที่อยู่เจ้าหน้าที่อุทยาน, เบอร์โทรคุณครู, ผม PM ไปให้คุณหมอบำรุงแล้วครับ ถ้าเพื่อน พี่ สมาชิกท่านใดต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม

[email protected]

หรือ PM มาหาผมได้ครับ

[Blueblood]

ผมเลยคิดว่าเราน่าจะจัดอบรมความรู้เกี่ยวกับการลงทุนโดยอาจแบ่ง
ออกเป็น 3 สเต็ป คือ
- การอบรมพื้นฐานเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้น (จัดในเดือนที่ 1)
- การอบรมการใช้งานโปรแกรมของเว็ปไซด์ (ตามแนวคิดที่1) เพื่อหาข้อมูลในการลงทุน (จัดในเดือนที่ 2)
- การอบรมเรื่องงบการเงิน และอัตราส่วนทางการเงิน (จัดในเดือนที่ 3)

โดยการอบรมดังกล่าว เราก็เชิญทีมงานในเว็ปที่มีความเชี่ยวชาญ ชำนาญ ในแต่ละสาขา เข้าให้ความรู้แก่ผู้เข้าอบรม
และด้วยการที่จัดเดือนละครั้ง และหัวข้อเรื่องในแต่ละเดือนก็ไม่ซ้ำกัน (จะวนซ้ำทุก 3 เดือน) ก็จะดูไม่เป็นการรบกวนวิทยากรจนเกินไป
กอปรกับเราก็จ่ายค่าตอบแทนให้แก่วิทยากรให้สมเหตุสมผลตามที่พี่เด็กใหม่ไฟแรงแนะนำ ก็น่าจะพอหาอาสาสมัครได้อยู่

เห็นด้วยกับแนวทางนี้ครับนี่คือการให้ความรู้ที่ผมคิดว่าเว็ปเราน่าจะมีมานานแล้วครับ เหมือนคอร์สอบรมพวกธุรกิจ MLM มีการเข้า class ตาม step 1 2 3 ... คนที่เข้ามาร่วมเมื่อไหร่ก็ตามก็สามารถพาตัวเองเข้าสู่กระบวนการเรียนรู้ได้ทันทีเนื่องจากคอร์สจะวนไปเรื่อยๆทุกเดือนอยู่แล้ว

ทางเว็ปก็สนับสนุนค่าใช้จ่ายการดำเนินงานไป โดยไม่ต้องรับบริจาคยังได้เลยครับ ไปหาเงินเอาจากงานจิบเบียร์หรือรอให้เงินทุนของเว็ปงอกเงยจนถึงจุดที่แค่เ่งินปันผลก็คุ้มกับค่าใช้จ่ายในการจัดคอร์สอบรมแบบนี้ทั้งปีก็ได้ครับ แล้วจะสร้างนักลงทุนที่มีคุณภาพได้อีกมากและตลอดเวลาเลยครับ

รูปแบบคอร์สก็แล้วแต่จะออกแบบกันไปครับ ส่วนตัวผมแอบคิดไปถึงขั้นที่อาจารย์ให้ผู้เข้าอบรมไปอ่านกระทู้นั้นนี้ให้จบแล้วเอามาคุยกันไรเงี้ยครับ เป็นการบ้าน และกระตุ้นให้คนใหม่ที่อยากเริ่มแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง แค่เข้ามาทางประตูนี้แล้วจบเลยครับ โรงงานผลิต VI คุณภาพของประเทศไทย อิอิ ฝันไปหรือเปล่านี่เรา

[VI Wannabe]

ผมว่าเว็บเราเป็นเว็บที่ส่งเสริมการลงทุนแบบเน้นคุณค่า...

ดังนั้นการบริจาคน่าจะอยู่ใน Scope ที่ใช้ในการพัฒนาการลงทุนแบบเน้นคุณค่านะครับ....

เห็นด้วยกับคุณ picatos และ เพื่อนๆท่านอื่นที่ เน้นให้ความรู้แบบ VI ครับ

ผมว่าการบริจาคหรือทำบุญนั้นเป็นสิ่งที่เราๆท่านๆ สามารถทำกันเองได้อยู่แล้ว (โดยส่วนตัวผมก็หักเงินเดือนทุกเดือนบริจาคให้เด็กด้อยโอกาส)

ส่วนการให้ความรู้ในวงกว้างแก่สังคมเรื่อง VI นั้นเห็นก็จะมีแต่ web นี้ กับ อ. นิเวศ, อ.ไพบูลย์ ที่ทำได้ครับ

ส่วนเรื่องรูปแบบ นั้นผมก็ยังคิดที่เด็ดๆไม่ออกเหมือนกัน  :lol:
ก็อาจจะเป็น จัดทีมไป (ให้ค่าเดินทาง + ค่าเหนื่อย)  สอนเรื่องการออมให้เด็กประถม, เรื่องการลงทุนเบื้องต้น ให้เด็กมัฐยม , แปลหนังสือสำหรับเด็กเกี่ยวกับเรื่องการออม การลงทุน  อะไรประมาณนี้ก็ได้ครับ

คือผมว่าเมืองไทย financial literacy เนี่ยต่ำมากนะครับ เอาเป็นว่าถ้าเรียนตามระบบจนจบมหาลัยยังไม่รู้เรื่องลงทุนอะไรเลยนะครับ นอกจากฝาก bank เพราะแม่สอนมา 55

[kasinbua]

ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งทำอะไรก็ได้ที่คนด้อยโอกาศได้รับสิ่งดีๆที่เราชาว VI มอบให้มีไม่พอขอบริจากจากชาว VI ได้ครับส่วนตัวผมยินดีครับ

[Tihdnab]

แนวทางแรก ผมเสนอให้หยิบยืม ขออนุญาติ หรือซื้อต่อ โปรแกรมของพี่ครรชิต แล้วนำมาปัดฝุ่น พัฒนา ต่อยอด
ให้มีการใช้งานได้อย่างสะดวกราบรื่น และครอบคลุมเนื้อหาให้ตรงกับความต้องการของนักลงทุนแนวเน้นคุณค่ามากที่สุด
โดยอาจจะทำเป็นโปรแกรมใหม่ไปเลย (คล้ายๆ ของ efin ที่มีโปรแกรมอ่ะครับ) โดยโปรแกรมนี้อาจเปิดให้สมาชิกได้ใช้งานฟรี
ส่วนเว็ปก็เจียดเงินส่วนหนึ่งมาเป็นค่าทีมงานที่ดูแลเป็นรายเดือน
คร่าวๆ ก่อนนะครับสำหรับแนวทางแรก

เห็นด้วยกับแนวทาง Little Boy นี้มากครับ
เพราะ file ที่พี่ครรชิตรวบรวมข้อมูลไว้ ถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางความคิดและความอุตสาหะ ที่ควรได้รับการพัฒนาต่อยอด ยังประโยชน์ให้เกิดแก่มหาชนโดยทั่วไปได้อย่างกว้างขวาง เอนกอนันต์ และน่าจะเรียนเชิญพี่ครรชิต มาเป็น Director ของทีม R&D Program ดังกล่าว (หากพี่ครรชิตจะให้ความอนุเคราะห์)

[akekarat]

นำไปลงทุนเพิ่มเติมสิครับ จะซื้อหุ้น กองทุน ตราสาร ทองคำ หรือโกอินเตอร์ก็แล้วแต่
โดยให้สิทธิประธาน Web TVI แต่ละสมัยเป็นผู้กำหนดนโยบายการลงทุนและเลือกทีมงานครับ
ระยะเวลาลงทุนก็จนกว่าจะหมดสมัยเลือกทั่นประธานกันใหม่

ผมว่าเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนคงไม่น่ากังวล
แถมกองทุน TVI ก็ไม่ใหญ่กว่าปอดท่านประธานในแต่ละสมัยแน่ ๆ  :lol:
ได้โชว์ฝีมือกันด้วย

[omega]

ผมว่านักลงทุนที่ประสบความสำเร็จในเว็บเรานี้มีอยู่มากทีเดียว และผมก็เชื่อว่าหลายๆท่านเหล่านั้นคงกำลังตั้งคำถามกับตัวเองเหมือนกับที่ท่านประธานถามพวกเราว่า "ทำบุญอย่างไรดี?" หรือที่จริงแล้วถ้าถามแบบวีไอก็น่าจะเป็น "ทำบุญแบบไหนคุ้มค่าสุดๆ?" ตามประสานักลงทุนเน้นคุณค่าอย่างพวกเรา

คำถามนี้ถูกถามซ้ำแล้วซ้ำอีกบ่อยๆจนผมเกิดความคิดที่ว่า น่าจะมีใครซักคนนะทำเว็บบริจาค(แบบเน้นคุณค่า)ขึ้นมา แล้วก็มีห้องร้อยคนร้อยบริจาคแบบห้องร้อยคนร้อยหุ้นให้เรานั่งลอก เอ้ย..เลือกบริจาค :lol:  นำเสนอการบริจาค ช่วยกันวิเคราะห์การบริจาคว่ามีความคุ้มค่ากับเงินบริจาคของเราไหม  MOS พอไหม :lol:

เว็บที่ว่านี้จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลยหากไม่มีการประชาสัมพันธ์ที่ดี เช่นอาจจะเป็นรูปแบบของการทำแบนเนอร์ไปโฆษณาตามเว็บดังๆ หรืออาจจะลงโฆษณาใน Google ซึ่งล้วนใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น

ก็เป็นเพียงแค่ไอเดียนึงเท่านั้น  :P

[meee]

อยากให้แบ่งเงินเป็น 2 ส่วนครับ

ส่วนที่1.  
ใช้ในการอบรมให้ความรู้สมาชิก โดยเฉพาะสมาชิกที่ยังหาปลาเองไม่เป็น

ส่วนที่2.  นำไปลงทุนแล้วนำดอกผลที่ได้มาใช้ในส่วนที่1 และแบ้งไปทำบุญ/บริจาค

เรื่องค่าใช้จ่ายในงานจิบเบียร์ ผมทราบว่าบางคนมีรายได้น้อย/พอร์ทเล็กมากแต่อยากจะมาร่วมงานด้วยแต่ติดขัดเรื่องค่าใช้จ่าย ส่วนนี้อยากให้พี่หมอช่วยพิจารณาด้วยครับ