เห็นช่วงนี้พูดถึงเรื่องการศึกษา เลยขอถามว่า

[harry]

ทำไม มหาลัยเมืองนอก เรียนโท รับแต่คนจบตรง ไม่ค่อยจะมีคอร์สที่รับคนจบสาขาไรก็ได้

แม้แต่ mba ยังต้องมีคอร์สต่างหากคือ mbs สำหรับคนที่ไม่ได้จบตรีบริหารธุรกิจ

แต่เมืองไทย ที่ผมจะเรียนเสดสาด กลับจบไรมาก็ได้ แต่มีคนที่เรียนบอกว่า ป.โท เสดสาด ยากมาก คนที่ไม่ได้จบมาโดยตรง หัวบาน หรือลาออกกลางคันได้เลยทีเดียว

[โป้ง]

เดี่ยวนี้จบนอกมา หลายบริษัทที่รับเข้าทำงาน จะต้องมีใบรับรองจาก กพ. ครับ เพราะบางท่านไปเรียนโท MBA มาแค่ 1 ปี ได้ใบปริญญา (เป็น master 's degree เลย ไม่ใช่ diploma ครับ)

มหาวิทลัยในต่างประเทศบางแห่งดูยังไงก็เป็นตึกแถว 3 ชั้น มีทั้งซื้อใบปริญญาได้ก็มี เลยต้องมีการมาเทียบกับ กพ. เพื่อวัดมาตราฐานสถาบันที่ท่านจบมาครับ

ส่วนมหาลัยชื่อดังในต่างประเทศ แม้แต่ตรงสาขา อาจยังต้องไปเรียนเทียบเพิ่มเติมก่อน กว่าจะเข้าโทได้อาจใช้เวลา 1-2 ปีเลยครับ

[โป้ง]

จี้มหา'ลัยไทยทบทวนศักยภาพ หลังไม่ติด 200 มหา'ลัยดีที่สุดในโลกของไทม์

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 23 มกราคม 2548 08:51 น.

เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษาเน้นสถาบันการศึกษาในสังกัดจัดทำงบประมาณรูปแบบใหม่ มุ่งเน้นผลผลิต แนะมหาวิทยาลัยแสดงศักยภาพเสนอโครงการสนองนโยบายรัฐบาล เพิ่มการทำงานวิจัย กระจายอำนาจลงท้องถิ่น จี้สถาบันอุดมศึกษาไทยทบทวนตัวเองหลังไม่ติด 200 อันดับการจัดมหาวิทยาลัยโลกของนิตยสารไทม์

เลขาธิการ กกอ. กล่าวด้วยว่ามหาวิทยาลัยต้องทบทวนตัวเอง เพราะถดถอยลงมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ อย่างที่นิตยสารไทม์ จัดอันดับ 200 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก แต่มหาวิทยาลัยไทยไม่ติดอันดับเลย แต่มหาวิทยาลัยในประเทศมาเลเซีย 2 แห่ง ที่เดินตามหลังไทยไม่เกิน 10 ปี หรือเดินไปด้วยกันกลับติดในการจัดอันดับ หรือมหาวิทยาลัยสิงคโปร์ 2 แห่งก็ติดอยู่ใน 50 อันดับแรกของมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก แสดงให้เห็นว่าอุดมศึกษาไทยน่าเป็นห่วงมากถ้ายังอ่อนด้อยคุณภาพ

อย่างในปี 2547 มหาวิทยาลัยไทยมีผลงานตีพิมพ์ในวารสารทางวิชาการนานาชาติ 2,000 กว่าเรื่อง เป็นผลงานของมหาวิทยาลัยมหิดลครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งเฉลี่ยใน 135 สถาบัน เฉลี่ยอาจารย์ 1 คน ต่อการตีพิมพ์งานวิจัย 3-4 วรรค ทั้งที่อุดมศึกษาเป็นองค์กรสร้างความรู้ ทุนทางปัญญา และวิจัย หากยังก๊อบปี้ความรู้ ปัญญา และอาจารย์สอนโดยไม่มีความรู้แท้จริง หรือสะสมอาจารย์คุณภาพต่ำไว้ในระบบมาก ๆ โดยอ้างการผลิตบัณฑิตจำนวนมากตามที่นักการเมืองต้องการ แต่ด้อยคุณภาพก็เป็นอันตรายต่อสังคม และถือเป็นการทำร้ายสังคม

ของเราล้าหลังแล้วจริงๆ คงต้องเน้นเรื่องงานวิจัย ตีพิมพ์ ออกมาให้มากๆครับ

[bangkokwu]

ต้องดูนะครับว่าเรียนสาขาอะไร

หากเป็น เศรษฐศาสตร์ บริหารธุรกิจ หรืออะไรที่เป็นกว้างๆ อย่างนี้ไม่ต้องจบมาโดยตรงก็ได้ ลองไปดูประวัตินักเศรษฐศาสตร์ดังๆ ไม่ได้จบป.ตรีด้านเศรษฐศาสตร์เป็นส่วนใหญ่หรอก อย่าง Krugman ก็จบ History หรือหลายๆคนก็จบปริญญาตรีสาขาทั่วไป (อย่างที่เรียกกันว่า Liberal Arts) MBA ส่วนใหญ่ก็จะจบสาขาอื่นมา

ถ้าเป็น วิศวกรรมศาสตร์ แพทย์ หรืออะไรที่เป็นเฉพาะทางและเชิงเทคนิคมากๆนั่นก็ย่อมแน่นอนว่าจำเป็นจะต้องมีพื้นฐานมาก่อน (ซึ่งก็คงจะต้องดูจากดีกรี)

และอย่างในอเมริกา คนที่เรียน Law หรือ Journalism พวกนี้ต้องได้ First Degree มาก่อนโดยไม่จำเป็นว่าต้องเป็นสาขาใด เพราะเขาถือว่าพวกที่จะอยู่ในวิชาชีพนี้ ต้องมี Maturity และไม่ได้รู้อยู่แต่สาขาเดียว คือไม่ได้เป็น Specialist แท้ๆ