ปี 2536 หุ้นวิ่งจาก 800 ไป 1700 อารมณ์เหมือนตอนนี้มั๊ยครับ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
โดนแบนตลอด
Verified User
โพสต์: 172
ผู้ติดตาม: 1

ปี 2536 หุ้นวิ่งจาก 800 ไป 1700 อารมณ์เหมือนตอนนี้มั๊ยครับ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ผมมาดู ๆ ตัวที่วิ่ง หุ้นปั่นทั้งนั้น ก่อนไม่มีคนเล่น
ตอนนี้ Top Value Top Volume กันใหญ่
ทั้ง TMB BTS TRUE JAS N-PARK และอื่น ๆ
ผมย้อนหลังดู SET จาก 800 จุดวิ่งไป 1700 ใช้เวลาประมาณ
4 เดือน ลองดูผู้นำประเทศตอนนั้น คล้ายหนังม้วนเดียวกัน
อยากรู้ว่าอารมณ์ตลาดช่วงนั้น เป็นเหมือนตอนนี้รึเปล่าครับ
SET ไม่ตามใคร พี่ที่เกิดทันเล่าให้ฟังหน่อยครับ  :lol:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Juninho
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1054
ผู้ติดตาม: 1

ปี 2536 หุ้นวิ่งจาก 800 ไป 1700 อารมณ์เหมือนตอนนี้มั๊ยครับ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

โห เพิ่งรู้ว่าใช้เวลาแค่ 4 เดือน
You Can Get It If You Really Want
But you must try, try and try
ภาพประจำตัวสมาชิก
picklife
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2567
ผู้ติดตาม: 0

Re: ปี 2536 หุ้นวิ่งจาก 800 ไป 1700 อารมณ์เหมือนตอนนี้มั๊ยคร

โพสต์ที่ 3

โพสต์

[quote="โดนแบนตลอด"]ผมมาดู ๆ ตัวที่วิ่ง หุ้นปั่นทั้งนั้น ก่อนไม่มีคนเล่น
ตอนนี้ Top Value Top Volume กันใหญ่
ทั้ง TMB BTS TRUE JAS N-PARK และอื่น ๆ
ผมย้อนหลังดู SET จาก 800 จุดวิ่งไป 1700 ใช้เวลาประมาณ
4 เดือน ลองดูผู้นำประเทศตอนนั้น คล้ายหนังม้วนเดียวกัน
อยากรู้ว่าอารมณ์ตลาดช่วงนั้น เป็นเหมือนตอนนี้รึเปล่าครับ
SET ไม่ตามใคร พี่ที่เกิดทันเล่าให้ฟังหน่อยครับ
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 1

ปี 2536 หุ้นวิ่งจาก 800 ไป 1700 อารมณ์เหมือนตอนนี้มั๊ยครับ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

คำว่าปั่น

ตีความหมายกันอย่างไร  ครับ  จขกท.
โดนแบนตลอด
Verified User
โพสต์: 172
ผู้ติดตาม: 1

Re: ปี 2536 หุ้นวิ่งจาก 800 ไป 1700 อารมณ์เหมือนตอนนี้มั๊ยคร

โพสต์ที่ 5

โพสต์

[quote="picklife"][quote="โดนแบนตลอด"]ผมมาดู ๆ ตัวที่วิ่ง หุ้นปั่นทั้งนั้น ก่อนไม่มีคนเล่น
ตอนนี้ Top Value Top Volume กันใหญ่
ทั้ง TMB BTS TRUE JAS N-PARK และอื่น ๆ
ผมย้อนหลังดู SET จาก 800 จุดวิ่งไป 1700 ใช้เวลาประมาณ
4 เดือน ลองดูผู้นำประเทศตอนนั้น คล้ายหนังม้วนเดียวกัน
อยากรู้ว่าอารมณ์ตลาดช่วงนั้น เป็นเหมือนตอนนี้รึเปล่าครับ
SET ไม่ตามใคร พี่ที่เกิดทันเล่าให้ฟังหน่อยครับ
wpatsawat
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 27
ผู้ติดตาม: 0

มือใหม่ครับ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ตัวอื่น ผมไม่ค่อยรู้ ตัวที่ผมพอรู้บ้าง คือ jas =ช่วงหลังที่มีคนเล่นเยอะเพราะว่า jas เองเป็นตัวที่มาแรงในแง่ 3bb จะกลายมาเป็นที่ 1-3 ของกลุ่มหุ้นแรงมาก และมีสิทธิ์ได้ 3G ทำให้มันแรงทะลัก ไม่รู้คนอื่นว่าไง แต่ผมว่ามันเป็นหุ้น ฟู่ฟ่า คือ P/E ขณะนี้ประมาณ 50 --> ผมว่าราคามันเกินผลประกอบการจริงมากไปอยู่ดี ซึ่งโอกาสที่ตัว jas เองจะทำกำไร ตามราคาหุ้น น่าจะยาก ผมว่าราคาขณะนี้แพงไป แต่ถ้าถามว่าราคามันจะพุ่งไปอีกไหม ผมว่าอาจจะขึ้นไปอีกระยะ แต่อาจหล่นตุ่บเมื่อไหร่ก็ได้
ภาพประจำตัวสมาชิก
picklife
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2567
ผู้ติดตาม: 0

Re: มือใหม่ครับ

โพสต์ที่ 7

โพสต์

wpatsawat เขียน:ตัวอื่น ผมไม่ค่อยรู้ ตัวที่ผมพอรู้บ้าง คือ jas =ช่วงหลังที่มีคนเล่นเยอะเพราะว่า jas เองเป็นตัวที่มาแรงในแง่ 3bb จะกลายมาเป็นที่ 1-3 ของกลุ่มหุ้นแรงมาก และมีสิทธิ์ได้ 3G ทำให้มันแรงทะลัก ไม่รู้คนอื่นว่าไง แต่ผมว่ามันเป็นหุ้น ฟู่ฟ่า คือ P/E ขณะนี้ประมาณ 50 --> ผมว่าราคามันเกินผลประกอบการจริงมากไปอยู่ดี ซึ่งโอกาสที่ตัว jas เองจะทำกำไร ตามราคาหุ้น น่าจะยาก ผมว่าราคาขณะนี้แพงไป แต่ถ้าถามว่าราคามันจะพุ่งไปอีกไหม ผมว่าอาจจะขึ้นไปอีกระยะ แต่อาจหล่นตุ่บเมื่อไหร่ก็ได้
PE50 คิดยังไงครับ?
P/E=50
E=P/50
E=1.46/50=0.03
ตอนนี้epsครึ่งปี0.06นะครับ การที่ทั้งปีจะเป็น0.03ได้
แสดงว่าครึ่งปีหลังQ3และQ4ไตรมาสละประมาณ-0.015นะครับ
พี่wpatsawatมองยังไงครับจึงคิดว่าครึ่งปีหลังจะขาดทุนขนาดนี้ช่วยแชร์ด้วยครับ :o
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
ภาพประจำตัวสมาชิก
picklife
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2567
ผู้ติดตาม: 0

ปี 2536 หุ้นวิ่งจาก 800 ไป 1700 อารมณ์เหมือนตอนนี้มั๊ยครับ

โพสต์ที่ 8

โพสต์

happiness เขียน:โห เพิ่งรู้ว่าใช้เวลาแค่ 4 เดือน
ครับเร็วมากครับพี่
ตอนนั้นรูสึกว่าจะมีข่าวว่าไทยจะเป็นNICS จะกลายเป็นเสือตัวที่5ของเอเซีย GPSโต2ดิจิต ตอนนั้นใครๆก็คิดว่าไทยจะกลายเป็นญี่ปุ่น

ซึ่งยุคนี้....เอาระดับอาเซียนให้รอดก่อนครับ :)  อ้ออาจจะมองภาพไกลไปมองว่าทำอย่างไรไม่ให้เวียดนามแซงให้ได้ก่อนดีครับ ไปทีละเสตปไม่อยากหวังมากละ :lol:
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
McDonald
Verified User
โพสต์: 93
ผู้ติดตาม: 0

Re: มือใหม่ครับ

โพสต์ที่ 9

โพสต์

wpatsawat เขียน:ตัวอื่น ผมไม่ค่อยรู้ ตัวที่ผมพอรู้บ้าง คือ jas =ช่วงหลังที่มีคนเล่นเยอะเพราะว่า jas เองเป็นตัวที่มาแรงในแง่ 3bb จะกลายมาเป็นที่ 1-3 ของกลุ่มหุ้นแรงมาก และมีสิทธิ์ได้ 3G ทำให้มันแรงทะลัก ไม่รู้คนอื่นว่าไง แต่ผมว่ามันเป็นหุ้น ฟู่ฟ่า คือ P/E ขณะนี้ประมาณ 50 --> ผมว่าราคามันเกินผลประกอบการจริงมากไปอยู่ดี ซึ่งโอกาสที่ตัว jas เองจะทำกำไร ตามราคาหุ้น น่าจะยาก ผมว่าราคาขณะนี้แพงไป แต่ถ้าถามว่าราคามันจะพุ่งไปอีกไหม ผมว่าอาจจะขึ้นไปอีกระยะ แต่อาจหล่นตุ่บเมื่อไหร่ก็ได้
PE 50 เข้าใจว่าเอามาจาก PE ในอดีต 4 ไตรมาสย้อนหลัง แต่ถ้าในอนาคตความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น PE จากแพงตอนนี้ อาจกลายเป็นถูกในอนาคต หุ้น Turn around มักมีลักษณะเป็นเช่นนี้ เช่นเดียวกับพวกหุ้นวัฎจักร

อีกมุมนึงคับ ผมก็มือใหม่
jojo_s
Verified User
โพสต์: 31
ผู้ติดตาม: 0

ปี 2536 หุ้นวิ่งจาก 800 ไป 1700 อารมณ์เหมือนตอนนี้มั๊ยครับ

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ผมว่าน่าจะมีสิทธินะ จาก 900 ไป 300 ก็เกิดมาแล้ว
1800 มา 200 ก็มีแล้ว ยังไงคงไม่ใครคาดเดาได้หรอกครับ แต่ถ้าเราอยู่ในหุ้นตลอดเวลา ผมรับรองว่าจะไม่พลาดแน่ครับ แต่ไม่รู้ว่า ไปขึ้นหรือลงเท่านั้นเอง
ภาพประจำตัวสมาชิก
picklife
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2567
ผู้ติดตาม: 0

ปี 2536 หุ้นวิ่งจาก 800 ไป 1700 อารมณ์เหมือนตอนนี้มั๊ยครับ

โพสต์ที่ 11

โพสต์

jojo_s เขียน:ผมว่าน่าจะมีสิทธินะ จาก 900 ไป 300 ก็เกิดมาแล้ว
1800 มา 200 ก็มีแล้ว ยังไงคงไม่ใครคาดเดาได้หรอกครับ แต่ถ้าเราอยู่ในหุ้นตลอดเวลา ผมรับรองว่าจะไม่พลาดแน่ครับ แต่ไม่รู้ว่า ไปขึ้นหรือลงเท่านั้นเอง
มะแน่นะครับ อเมริกา กับยุโรปไม่โอเท่าไหร่ ส่วยจีนก็ต้องเสียวๆอยู่ :D
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
ภาพประจำตัวสมาชิก
picklife
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2567
ผู้ติดตาม: 0

Re: มือใหม่ครับ

โพสต์ที่ 12

โพสต์

McDonald เขียน:
wpatsawat เขียน:ตัวอื่น ผมไม่ค่อยรู้ ตัวที่ผมพอรู้บ้าง คือ jas =ช่วงหลังที่มีคนเล่นเยอะเพราะว่า jas เองเป็นตัวที่มาแรงในแง่ 3bb จะกลายมาเป็นที่ 1-3 ของกลุ่มหุ้นแรงมาก และมีสิทธิ์ได้ 3G ทำให้มันแรงทะลัก ไม่รู้คนอื่นว่าไง แต่ผมว่ามันเป็นหุ้น ฟู่ฟ่า คือ P/E ขณะนี้ประมาณ 50 --> ผมว่าราคามันเกินผลประกอบการจริงมากไปอยู่ดี ซึ่งโอกาสที่ตัว jas เองจะทำกำไร ตามราคาหุ้น น่าจะยาก ผมว่าราคาขณะนี้แพงไป แต่ถ้าถามว่าราคามันจะพุ่งไปอีกไหม ผมว่าอาจจะขึ้นไปอีกระยะ แต่อาจหล่นตุ่บเมื่อไหร่ก็ได้
PE 50 เข้าใจว่าเอามาจาก PE ในอดีต 4 ไตรมาสย้อนหลัง แต่ถ้าในอนาคตความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น PE จากแพงตอนนี้ อาจกลายเป็นถูกในอนาคต หุ้น Turn around มักมีลักษณะเป็นเช่นนี้ เช่นเดียวกับพวกหุ้นวัฎจักร

อีกมุมนึงคับ ผมก็มือใหม่
งั้นในSETก็น่าจะเป็นเป็น Q2-Q4/52+Q1/53 ยังไม่ได้UpdateQ2เข้าไป
น่าจะแบบนี้ปะครับ :o
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
vichais
Verified User
โพสต์: 36
ผู้ติดตาม: 0

ปี 2536 หุ้นวิ่งจาก 800 ไป 1700 อารมณ์เหมือนตอนนี้มั๊ยครับ

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ผลประกอบการของ JAS ในปีที่แล้วไตรมาส 1 2 3 กำไรดีมากครับแต่ พอไตรมาส 4
มาตั้งสำรอง impairmentของ tt&t ทำให้ขาดทุน ปีนี้ดูราคา tt&t คงไม่ต้องตั้งเพิ่มแล้ว ถ้าดุผลประกอบการตอนนี้ประมาณการไปถึงสิ้นปีโดไม่มี growth เลย กำไรน่าจะได้ .12 ราคานี้ pe 12 ก็ยังไม่สูงมากนะครับ ผมดูยังงัย JAS ก็ไม่ใช่หุ้นปันเพราะพื้นฐานยังมีครับ เพียงแต่ดู pe ของ set trade มันเป็น pe ในอดีต ใครไม่ได้ดูละเอียดก็คง misleadได้
vichais
Verified User
โพสต์: 36
ผู้ติดตาม: 0

ปี 2536 หุ้นวิ่งจาก 800 ไป 1700 อารมณ์เหมือนตอนนี้มั๊ยครับ

โพสต์ที่ 14

โพสต์

ผลประกอบการของ JAS ในปีที่แล้วไตรมาส 1 2 3 กำไรดีมากครับแต่ พอไตรมาส 4
มาตั้งสำรอง impairmentของ tt&t ทำให้ขาดทุน ปีนี้ดูราคา tt&t คงไม่ต้องตั้งเพิ่มแล้ว ถ้าดุผลประกอบการตอนนี้ประมาณการไปถึงสิ้นปีโดไม่มี growth เลย กำไรน่าจะได้ .12 ราคานี้ pe 12 ก็ยังไม่สูงมากนะครับ ผมดูยังงัย JAS ก็ไม่ใช่หุ้นปันเพราะพื้นฐานยังมีครับ เพียงแต่ดู pe ของ set trade มันเป็น pe ในอดีต ใครไม่ได้ดูละเอียดก็คง misleadได้
McDonald
Verified User
โพสต์: 93
ผู้ติดตาม: 0

ปี 2536 หุ้นวิ่งจาก 800 ไป 1700 อารมณ์เหมือนตอนนี้มั๊ยครับ

โพสต์ที่ 15

โพสต์

picklife เขียน:
McDonald เขียน:
wpatsawat เขียน:ตัวอื่น ผมไม่ค่อยรู้ ตัวที่ผมพอรู้บ้าง คือ jas =ช่วงหลังที่มีคนเล่นเยอะเพราะว่า jas เองเป็นตัวที่มาแรงในแง่ 3bb จะกลายมาเป็นที่ 1-3 ของกลุ่มหุ้นแรงมาก และมีสิทธิ์ได้ 3G ทำให้มันแรงทะลัก ไม่รู้คนอื่นว่าไง แต่ผมว่ามันเป็นหุ้น ฟู่ฟ่า คือ P/E ขณะนี้ประมาณ 50 --> ผมว่าราคามันเกินผลประกอบการจริงมากไปอยู่ดี ซึ่งโอกาสที่ตัว jas เองจะทำกำไร ตามราคาหุ้น น่าจะยาก ผมว่าราคาขณะนี้แพงไป แต่ถ้าถามว่าราคามันจะพุ่งไปอีกไหม ผมว่าอาจจะขึ้นไปอีกระยะ แต่อาจหล่นตุ่บเมื่อไหร่ก็ได้
PE 50 เข้าใจว่าเอามาจาก PE ในอดีต 4 ไตรมาสย้อนหลัง แต่ถ้าในอนาคตความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น PE จากแพงตอนนี้ อาจกลายเป็นถูกในอนาคต หุ้น Turn around มักมีลักษณะเป็นเช่นนี้ เช่นเดียวกับพวกหุ้นวัฎจักร

อีกมุมนึงคับ ผมก็มือใหม่
งั้นในSETก็น่าจะเป็นเป็น Q2-Q4/52+Q1/53 ยังไม่ได้UpdateQ2เข้าไป
น่าจะแบบนี้ปะครับ :o
ผมก็จำไม่ค่อยได้ครับ เพราะไม่ค่อยได้ใช้ PE ในตลทเลย ดูได้จาก
http://www.set.or.th/th/market/files/SE ... ossary.pdf
atitus.b
Verified User
โพสต์: 166
ผู้ติดตาม: 0

ปี 2536 หุ้นวิ่งจาก 800 ไป 1700 อารมณ์เหมือนตอนนี้มั๊ยครับ

โพสต์ที่ 16

โพสต์

แล้วใครพอจะเล่าเหตุการณ์ ปัจจัยต่างๆ รวมทั้งอารมณ์ตลาด จากตอนที่หุ้นวิ่งจาก 800 ไปแตะระดับ 1700 จุด และจาก 1700 ร่วงลงมาที่ 200 จุดได้บ้างครับ
หรือสามารถหาอ่านได้ที่ไหนรบกวนชี้แนะด้วยครับ

ตอนแรกผมก็อยากจะตั้งกระทู้ถามอยู่เหมือนกัน อยากจะรู้ไว้เป็นกรณีศึกษาน่ะครับ

สมัยที่เกิดเหตุการณ์นี้ผมยังอยู่อนุบาลหมีน้อยเลยครับ  :lol:  :lol:
โดนแบนตลอด
Verified User
โพสต์: 172
ผู้ติดตาม: 1

ปี 2536 หุ้นวิ่งจาก 800 ไป 1700 อารมณ์เหมือนตอนนี้มั๊ยครับ

โพสต์ที่ 17

โพสต์

[quote="blunaticz"]แล้วใครพอจะเล่าเหตุการณ์ ปัจจัยต่างๆ รวมทั้งอารมณ์ตลาด จากตอนที่หุ้นวิ่งจาก 800 ไปแตะระดับ 1700 จุด และจาก 1700 ร่วงลงมาที่ 200 จุดได้บ้างครับ
หรือสามารถหาอ่านได้ที่ไหนรบกวนชี้แนะด้วยครับ

ตอนแรกผมก็อยากจะตั้งกระทู้ถามอยู่เหมือนกัน อยากจะรู้ไว้เป็นกรณีศึกษาน่ะครับ

สมัยที่เกิดเหตุการณ์นี้ผมยังอยู่อนุบาลหมีน้อยเลยครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Juninho
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1054
ผู้ติดตาม: 1

ปี 2536 หุ้นวิ่งจาก 800 ไป 1700 อารมณ์เหมือนตอนนี้มั๊ยครับ

โพสต์ที่ 18

โพสต์

picklife เขียน:
happiness เขียน:โห เพิ่งรู้ว่าใช้เวลาแค่ 4 เดือน
ครับเร็วมากครับพี่
ตอนนั้นรูสึกว่าจะมีข่าวว่าไทยจะเป็นNICS จะกลายเป็นเสือตัวที่5ของเอเซีย GPSโต2ดิจิต ตอนนั้นใครๆก็คิดว่าไทยจะกลายเป็นญี่ปุ่น

ซึ่งยุคนี้....เอาระดับอาเซียนให้รอดก่อนครับ :)
You Can Get It If You Really Want
But you must try, try and try
ภาพประจำตัวสมาชิก
pornchai_w
Verified User
โพสต์: 247
ผู้ติดตาม: 0

ปี 2536 หุ้นวิ่งจาก 800 ไป 1700 อารมณ์เหมือนตอนนี้มั๊ยครับ

โพสต์ที่ 19

โพสต์

ให้เครดิต
http://www.gotomanager.com/news/details.aspx?id=5557
นิตยสารผู้จัดการ พฤศจิกายน 2536
"กองทุนรวม ขาใหญ่ ตลาดหุ้น!?"
โดย สุปราณี คงนิรันดรสุข จิตติมา คุปตานนท์  

การเกิดขึ้นของกองทุนรวมหรือบริษัทหลักทรัพย์กองทุนรวม เป็นผลพวงจากการยกเครื่องโครงสร้างตลาดทุน ภายใต้ พรบ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2535 โดยมีจุดประสงค์เพื่อเป็นเครื่องมือประการแรกในการสร้างความแข็งแกร่งและเสถียรภาพตลาดทุน ด้วยการเพิ่มนักลงทุนประเภทสถาบันในรูปของกองทุนรวม

กรณีที่ กลต. ประกาศดำเนินคดี "เสี่ยสอง" ในข้อหาปั่นหุ้นเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2535 แล้วทำให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงอยู่ที่ระดับ 868.04 หรือลดลงกว่า 23.45 จุดเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้านี้ ขณะที่มูลค่าการซื้อขายสูงถึง 10,692.54 ล้านบาท ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องหรือกว่า 33.87 โดยปิดที่ระดับ 834.17 ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6,492.54 ล้านบาท ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2535 หากเปรียบเทียบกับวันที่ 5 พฤศจิกายน 2535 ซึ่งเป็นวันที่ดัชนีพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 963.03 ด้วยมูลค่าการซื้อขายถึง 20,314.23 ล้านบาท

หมายถึงว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ลดลงถึง 105 จุด ขณะที่มูลค่าการซื้อขายมลายหายไปกว่า 10,000 ล้านบาทในช่วงเวลาเพียง 10 กว่าวัน ซึ่งแน่นอนว่าแสดงถึงความเปราะบางของตลาดหุ้นไทยหรือ "อิทธิพล" ของขาใหญ่อย่างมิพักสงสัย??

เจ้าหน้าที่ตลาดหลักทรัพย์ และผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะหน่วยงานภาครัฐบาล หรือเอกชนได้ร่วมมือกันแก้ไขวิกฤติการณ์ดังกล่าวหลายประการที่สำคัญ คือ "การจัดตั้งกองทุน" เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในตลาดหลักทรัพย์

ขณะเดียวกันก็ตรงกับปรัชญาการลงทุนของกองทุนรวมที่ต้องการซื้อหุ้นที่มีพื้นฐานดี แต่ต้นทุนราคาต่ำ ทำให้การไล่เก็บซื้อหุ้นในภาวะผันผวนระยะสั้นเช่นนี้ ก่อให้เกิดผลตอบแทนสูงในระยะยาวเมื่อตลาดหุ้นคืนสภาพปกติและปรับดัชนีหุ้นสูงขึ้นเมื่อปล่อยขายก็ทำกำไรมาก

นี่คือข้อดีของการบริหารความเสี่ยงแบบนักลงทุนสถาบันในรูปกองทุนรวม ที่มีความเป็นมืออาชีพพร้อมกับระบบข้อมูลที่ดี ทำให้การตัดสินใจแบบระยะยาวไม่หวือหวา เมื่อเจอดัชนีผันผวนเนื่องจากภาวะการเมืองในประเทศตอนข่าวปรับคณะรัฐมนตรีของชวน หลีกภัย ดัชนีหุ้นตกมากในเดือนพฤษภาคมปีนี้ ปรับตัวลดลงถึงระดับ 761.52 กองทุนรวมและกองทุนต่างประเทศก็นำตลาดด้วยการเข้าไปเลือกซื้อหุ้นที่น่าลงทุน ทำให้การปรับตัวดัชนีไต่ระดับ 900 จนทะลุหลักพันในวันที่ 20 กันยายน มีการลดต่ำของดัชนีหุ้นบ้างก่อนจะปรับฐานใหม่เป็นดัชนี 1037.54 จุดในวันที่ 6 ตุลาคมปีนี้ และไต่ดัชนี 1157 จุดในช่วงนี้ พร้อมมีการปรับพอร์ตของกองทุนรวมบางแห่ง ด้วยการขายหุ้นบางตัวที่ให้ผลกำไรสูงแล้วซื้อเก็บตัวอื่นที่น่าลงทุนเข้ามาในพอร์ต

การทำให้สุขภาพตลาดแข็งแรงประการที่สองคือ สร้างเสถียรภาพ โดยเปลี่ยนพฤติกรรมนักลงทุนรายย่อยสู่รูปของการสร้างนักลงทุนสถาบันให้เกิดขึ้น ซึ่งทางการไม่เพียงให้ใบอนุญาตการจัดการกองทุนรวมแก่บริษัทใหม่ถึง 7 แห่ง ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2535 เพิ่มเติมจากเดิมที่มีเพียงบริษัทหลักทรัพย์กองทุนรวม เพียงแห่งเดียว

ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2536 ที่ประชุม กลต. ได้มีมติเห็นชอบให้สถาบันการเงินไม่ว่าจะเป็นบริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ธนาคารพาณิชย์ (รวมสาขาธนาคารต่างประเทศ) และบริษัทเงินทุนสามารถดำเนินการจัดการกองทุนส่วนบุคคล (PRIVATE FUND MANAGEMENT) ได้ นอกเหนือจากการรับประกันจำหน่ายตราสารหนี้ การให้ใบอนุญาตครบทั้ง 4 ประเภท คือการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ การค้าหลักทรัพย์ การเป็นที่ปรึกษาการลงทุนและการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ แก่บริษัทหลักทรัพย์และบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ

ปฏิเสธไม่ได้ว่ามาตรการต่าง ๆ ของทางการ ล้วนแล้วแต่เป็นการเพิ่มนักลงทุนประเภทสถาบัน นอกเหนือจากการลดความเหลื่อมล้ำในการแข่งขันดำเนินกิจการ อันจะก่อให้เกิดตลาดการเงินที่มีเสถียรภาพและประสิทธิภาพอย่างมิพักสงสัย

อย่างไรก็ตามบทบาทของ "กองทุน" ไม่ว่าจะเป็นกองทุนเปิด กองทุนปิด กองทุนส่วนบุคคลหรือเม็กซิกันทรัสต์ฟันด์ ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงนักลงทุนรายใหญ่หรือนักลงทุนสถาบันที่ทำให้ตลาดมีเสถียรภาพเท่านั้น เพราะ "การสร้างเงินออม" ก็เป็นอีกบทบาทที่สำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะ "กองทุนบำเหน็จกลาง" ซึ่งจะเป็นสถาบันเงินออมภาครัฐ คาดว่าจะมีบทบาทไม่น้อยในอนาคต มติคณะรัฐมนตรีที่ว่าการปรับเงินเดือนข้าราชการพลเรือนจาก บัญชีหนึ่งไปบัญชีสอง จะต้องผูกเอากองทุนบำเหน็จกลางไปด้วยอธิบายได้ชัดเจน

"ประเด็นเรื่องการบริหารนั้นเราต้องดูละเอียดรอบคอบ โดยหลักเราจะยึดความมั่นคงไว้ก่อน เป็นสถาบันเงินออมมากกว่าเป็นสถาบันการลงทุนเพื่อที่จะแสวงหาผลประโยชน์สูงสุด" รมว. คลัง ธารินทร์กล่าวถึงนโยบายกองทุนใหม่นี้
ประการที่สามคือ เสริมสร้างสภาพคล่องและพัฒนาตลาดรอง (SECONDARY MARKET) ของสิทธิ์ในการซื้อหุ้นเพิ่มทุน การพัฒนาตลาดโอทีซีหรือศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์ และการพัฒนาตราสารแห่งหนี้เอกชน รวมทั้งสนับสนุนให้มีการทำ CREDIT RATING ให้กับกิจการสาธารณูปโภคพื้นฐานหรือบริษัทขนาดใหญ่ที่จะสามารถออกพันธบัตรในต่างประเทศได้

ดังกรณีของเจ็ดหุ้นยักษ์ใหญ่ที่จะเสริมสภาพคล่องตลาดหุ้นไทยในปีหน้า ได้แก่ บริษัทเทเลคอมเอเชีย ซึ่งเพิ่มทุน 223 ล้านบาท บริษัททีทีแอนด์ที บริษัทน้ำมันบางจากซึ่งมีจุดทะเบียน 5,220 ล้านบาท แต่คาดว่าจะกระจายหุ้น 20% บริษัทปิโตรเคมี บริษัทผลิตไฟฟ้า(ระยอง) บริษัทชินวัตรแซทเทิลไลท์ ทุนจดทะเบียน 1,700 ล้านบาทแต่จะกระจายหุ้น 300 ล้านบาท และบริษัทไทยออยล์ซึ่งมีทุนจดทะเบียน 12,000 ล้านบาท แต่จะกระจายหุ้น 25%

หลังจากแสงเงินแสงทองเริ่มเจิดจ้าจากนโยบายเปิดเสรีตลาดเงินตลาดทุน เสถียรภาพที่มุ่งสร้างนักลงทุนสถาบันมาก ๆ เพื่อให้ดุลยภาพ ทำให้ในปีหน้ากองทุนเปิด กองทุนส่วนบุคคล (ไพรเวท์ ฟันด์) และการเปิดเสรีที่จะให้กองทุนไทยไปขายต่างประเทศได้ ก็จะทำให้ความมั่นใจของนักบริหารกองทุนรวมต่างก็พุ่งขึ้นสูง บ้างก็วาดหวังผลตอบแทนภายในระยะห้าปีว่าจะต้องไม่ต่ำกว่า 20% แน่นอน

จุดขายของแต่ละกองทุนจึงแข่งขันกัน จนกระทั่งในอนาคต ตลาดกองทุนรวมอาจจะทำการตลาดสินค้าเป็นแบบคอนซูเมอร์ โปรดักส์เหมือนที่เกิดขึ้นในอเมริกา ปัจจุบัน ยากที่จะปฏิเสธว่า บลจ. ที่มีแบงก์ใหญ่ถือหุ้นอยู่ไม่ว่าจะเป็น บลจ. กสิกรไทย บลจ. ไทยพาณิชย์ จะได้เปรียบในเชิงการแข่งขัน เนื่องจากมีเครือข่ายสาขาเป็นตัวแทนส่งคำสั่งซื้อขายหน่วยลงทุนของกองทุนมากกว่า บลจ. ที่มีแบงก์เล็กเป็นหุ้นส่วน

การมีแบงก์หนุนหลังยังมีข้อดีในแง่ที่มีโอกาสในการธุรกิจกับสถาบันต่างประเทศในอนาคตที่ทางรัฐบาลเปิดให้มีการขายให้ได้ นอกจากนี้ฐานข้อมูลวิจัยที่สมบูรณ์ถูกต้องจากในและต่างประเทศจะมีมาก

สำหรับกองทุนเล็กซึ่งได้เปรียบในแง่ความคล่องตัวเข้า-ออกได้เร็ว ส่วนกองทุนรวมที่ไม่มีเครือข่ายของแบงก์ช่วย จะเสียเปรียบเชิงการตลาดบ้าง แต่อาศัยจุดเสริมด้านอื่น ๆ ช่วยจูงใจ และลักษณะการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกับธนาคารขนาดเล็กบางแห่งจะเกิดขึ้น เช่น บล. กองทุนรวมซึ่งจับมือกับธนาคารขนาดเล็กอย่างธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชยการ ออกกองทุนเปิดใหม่ชื่อ "สตางค์แดง" เมื่อ 26 ตุลาคมที่ผ่านมานี้

ขณะนี้ ผู้บริหารกองทุนต่างประเทศอยู่ระหว่างรอการอนุมัติจาก กลต. ที่จะได้รับอนุญาตบริหารความเสี่ยงที่ถูกดีไซน์ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์กองทุนใหม่ ๆ เช่น กองทุนเปิด-ปิด กองทุนตราสารหนี้ กองทุนหุ้นบลูชิพ กองทุนหุ้นอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ อันหลากหลายที่ตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่ยอมรับความเสี่ยงและผลตอบแทนในระดับมาก-น้อยต่างกัน

"แต่อย่างไรก็ตามกองทุนที่ขยายตัวเร็วเกินไป ก็อาจจะทำให้กองทุนรวมกลายเป็น MARKET MAKER ตลาดควรจะเป็นพหุนิยม เช่น บริษัทประกันชีวิตซึ่งเป็นสถาบันเงินออมระยะยาว การขยายตัวผมคิดว่าควรจะมีดุลยภาพด้านกำหนดราคาและชี้ขาดตลาด" ดร. สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ให้ความเห็น

เป็นที่คาดหวังว่า จากนี้ไปตลาดหุ้นไทยในมือกองทุนรวมซึ่งเป็นนักลงทุนสถาบัน "ขาใหญ่" จะพัฒนาตลาดทุนอย่างมีเสถียรภาพ ความเป็นธรรมและแข็งแรงยิ่งกว่าที่เคยมีมาในอดีต มิใช่เพื่อแสวงหาผลประโยชน์โอนย้ายถ่ายหุ้น หรือลงทุนให้หุ้นนอกตลาดซึ่งอยู่ในเครือ
Blog ของคนใช้เงินเก่ง ^_^
http://pefinance.wordpress.com/about/
ภาพประจำตัวสมาชิก
pornchai_w
Verified User
โพสต์: 247
ผู้ติดตาม: 0

ปี 2536 หุ้นวิ่งจาก 800 ไป 1700 อารมณ์เหมือนตอนนี้มั๊ยครับ

โพสต์ที่ 20

โพสต์

เพิ่งเข้าไปอ่านที่น้องChamp_st สรุปจากงานเมื่อวานที่ TMB
Posted: Sun Aug 22, 2010 9:26 pm    Post subject:    
--------------------------------------------------------------------------------
ธนชาติ : กังวลความผันผวนของฟัลโฟล ไทยก็เหมือนน้ำบ่อน้อย ต่างชาติเป้นช้างเวลากระโยนใส่ลงมาทีน้ำก็แตก (555) แต่ถ้าเขาขยับออกก็กระทบตรงๆ รอบนี้เขาเข้ามาด้วยความคาดหวังว่า ศก เราจะเติบโตกว่า ศก โลก และสัญยาณตอนนี้คือถ้าเขาออก ก็ได้กำไรสองต่อทั้งค่าเงินและส่วนต่างราคาหุ้น อีกด้านก็คือกรณียุบ ปชป เพราะสเถียรภาพของรัฐบาลจะส่งผลต่อโครงการต่างๆโดยตรง เงินเข้าง่าย ก้ออกง่าย ถ้าเงินบาทแข็งเร็วๆ ถึง 30 บาทก็จะกระตุ้นให้มีแรงขายทำกำไรเพราะทุนเฉลี่ยเข้าเอาเงินเข้าตอน 32 บาทได้กำไร 2 ต่อ แต่สิ่งที่ดีขึ้นคือนักลงทุนสถาบันของไทยที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้นจากเดิม 10 ปีที่แล้วมีการซื้อขายประมาณ 4-5% ปัจจุบันมีถึง 20% ซึ่งจะลดความผันผวนของตลาดหุ้นบ้านเรา ตอนฝรั่งขาย 7 หมื่นล้านตอนนี้ซื้อคืน 2 หมื่นล้านก็ยังมีช่องว่างอยู่ แต่ระยะสั้นต้องระวังแรงขายทำกำไร
พูดถึงกองทุนว่าจะเข้ามามีบทบาทเหมือนช่วง พย.2536 เลยแฮะบังเอิญจังเลย
Blog ของคนใช้เงินเก่ง ^_^
http://pefinance.wordpress.com/about/
ภาพประจำตัวสมาชิก
dome@perth
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4741
ผู้ติดตาม: 1

ปี 2536 หุ้นวิ่งจาก 800 ไป 1700 อารมณ์เหมือนตอนนี้มั๊ยครับ

โพสต์ที่ 21

โพสต์

อยากรู้หุ้นปั่น เป็นยังงายอะ :wink:
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง
"
มะลิ
Verified User
โพสต์: 221
ผู้ติดตาม: 0

ปี 2536 หุ้นวิ่งจาก 800 ไป 1700 อารมณ์เหมือนตอนนี้มั๊ยครับ

โพสต์ที่ 22

โพสต์

[quote="blunaticz"]แล้วใครพอจะเล่าเหตุการณ์ ปัจจัยต่างๆ รวมทั้งอารมณ์ตลาดจากตอนที่หุ้นวิ่งจาก 800 ไปแตะระดับ 1700 จุด และจาก 1700 ร่วงลงมาที่ 200 จุดได้บ้างครับหรือสามารถหาอ่านได้ที่ไหนรบกวนชี้แนะด้วยครับ

ตอนแรกผมก็อยากจะตั้งกระทู้ถามอยู่เหมือนกัน อยากจะรู้ไว้เป็นกรณีศึกษาน่ะครับ

สมัยที่เกิดเหตุการณ์นี้ผมยังอยู่อนุบาลหมีน้อยเลยครับ
viviosmanager
Verified User
โพสต์: 39
ผู้ติดตาม: 0

Re: ปี 2536 หุ้นวิ่งจาก 800 ไป 1700 อารมณ์เหมือนตอนนี้มั๊ยคร

โพสต์ที่ 23

โพสต์

ถ้าเทียบราคาน้ำมัน
รูปภาพ
lekommend
Verified User
โพสต์: 2
ผู้ติดตาม: 0

Re:

โพสต์ที่ 24

โพสต์

blunaticz เขียน:แล้วใครพอจะเล่าเหตุการณ์ ปัจจัยต่างๆ รวมทั้งอารมณ์ตลาด จากตอนที่หุ้นวิ่งจาก 800 ไปแตะระดับ 1700 จุด และจาก 1700 ร่วงลงมาที่ 200 จุดได้บ้างครับ
หรือสามารถหาอ่านได้ที่ไหนรบกวนชี้แนะด้วยครับ

ตอนแรกผมก็อยากจะตั้งกระทู้ถามอยู่เหมือนกัน อยากจะรู้ไว้เป็นกรณีศึกษาน่ะครับ

สมัยที่เกิดเหตุการณ์นี้ผมยังอยู่อนุบาลหมีน้อยเลยครับ  :lol:  :lol:
อารมณ์น่าจะต่างกัน
(หากจำไม่ผิด) ..ตอนนั้นปล่อยปละให้มีการปั่นราคาที่ดิน ตลาดโตเพราะฟองสบู่(ไม่ทราบยี่ห้อ) ทุกฝ่ายเชื่อว่าไม่มีการปฎิวัติ

ตอนนี้ ไม่ทราบครับ แหะๆ :)
หนอนน้อยถลาลม
โพสต์โพสต์