พวกที่เรียกตัวเองว่า 'แวลูอินเวสเตอร์' (วีไอ) ช่วยกันดันราคา
- Ii'8N
- Verified User
- โพสต์: 3682
- ผู้ติดตาม: 0
พวกที่เรียกตัวเองว่า 'แวลูอินเวสเตอร์' (วีไอ) ช่วยกันดันราคา
โพสต์ที่ 1
ธุรกิจ : BizWeek
วันที่ 23 สิงหาคม 2553 01:00
ไล่ราคา 'เจ มาร์ท' บนความ 'คาดหวัง' ที่เกินตัว
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจ มาร์ท
ภาพประกอบข่าว
พวกที่เรียกตัวเองว่า 'แวลูอินเวสเตอร์' (วีไอ) ช่วยกันดันราคา JMART วิ่งล่วงหน้าไปไกล:roll: หุ้นตัวนี้กำลังแบกรับ 'ความคาดหวัง' ที่เกินตัว
รายย่อยติดหุ้นกันมาก หลังช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2553 มีกลุ่มนักลงทุนที่เรียกตัวเองว่า "แวลูอินเวสเตอร์" (วีไอ) แห่เข้าไปไล่เก็บหุ้น JMART ราคาพุ่งขึ้นจาก 2 บาท ไต่ทะยานไปแตะ 3.64 บาท หลังมีข่าวแพร่สะพัดว่า ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เข้าไปเก็บหุ้น JMART ไว้จำนวน 7 ล้านหุ้น เหล่าสาวกก็เลยแห่ซื้อตามกัน "ไม่ยั้ง" ทั้งที่ บมจ.เจ มาร์ท ไม่ใช่บริษัทที่โดดเด่น และเป็นม้านอกสายตามาโดยตลอด
ทั้งนี้เป็นเพราะว่าภายในงานสัมมนาหุ้นของกลุ่มนักลงทุนวีไอที่จัดขึ้นประจำไตรมาส หุ้น JMART ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นหัวข้อในการสนทนาในวันนั้น บทสรุปจบลงที่คำแนะนำ ซื้อ หลังจากนั้น 1 วัน ราคาหุ้นก็วิ่งขึ้นชนซิลลิ่ง ทำให้หุ้นตัวนี้ต้องแบกรับความคาดหวังที่เกินตัวอย่างไม่ได้ตั้งใจ
อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจ มาร์ท ออกตัวกับกรุงเทพธุรกิจ BizWeek ว่า ส่วนตัวไม่รู้มาก่อนว่า JMART เป็นหนึ่งในหุ้นขวัญใจนักลงทุนหุ้นคุณค่า แต่คาดเดาว่าสาเหตุที่ราคาหุ้นขึ้นมาติดซิลลิ่ง (วันที่ 7 มิถุนายน 2553) น่าจะเป็นเพราะนักลงทุนเห็นโอกาสที่บริษัทจะเติบโตในอนาคตเลยเข้ามาเก็บหุ้น
ถามว่าจุดเด่นของบริษัทคืออะไร เขาตอบว่า เจ มาร์ทเป็นผู้จัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ "เบอร์หนึ่ง" ของตลาดในแง่วอลุ่ม และเป็นรายเดียวที่ขายมือถือทุกยี่ห้อ รวมถึงเป็นแบรนด์ที่คนส่วนใหญ่รู้จักดี และที่สำคัญคือมีจุดจำหน่ายกว่า 210 สาขา ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในห้างบิ๊กซี และมีดีลเลอร์ที่รับของไปขายต่ออีกว่า 600 ราย
ความแตกต่างจากหุ้นมือถือตัวอื่นในตลาดถ้าเป็น เอ็มลิงค์, ไออีซี หรือ บลิสเทล อดิศักดิ์ บอกว่า พวกนั้นเขาเป็นเพียง "ผู้ขายส่ง" มีหน้าร้านของตัวเองน้อยมาก ส่วน สามารถไอ-โมบาย จะเป็นผู้ผลิตมือถือ "เฮ้าส์แบรนด์" มากกว่า ปัญหาใหญ่ของผู้จำหน่ายมือถือคือการบริหารสต็อกสินค้าล้าสมัย บริษัทไม่มีปัญหาตรงนี้จากจำนวนสาขาที่เยอะและมีประสบการณ์ในธุรกิจ ถึงตอนนี้มีการตั้งสำรองสินค้าที่ขายไม่ออกไปเพียง 20 ล้านบาทเท่านั้น ส่วนสถานะการเงินบริษัทไม่มีหนี้เลย และมีกระแสเงินสดเหลือเฟือ
อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2553 ออกมา "น่าผิดหวัง" มีกำไรสุทธิ 10.54 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 25.51 ล้านบาท และงวด 6 เดือนปี 2553 มีกำไรสุทธิ 33.84 ล้านบาท เทียบกับ 45.54 ล้านบาทในปีก่อน
ถามถึงอนาคตการเติบโต เขาเผยว่าตลาดมือถือระดับล่างหรือเฮ้าส์แบรนด์คงไม่มีการเติบโตที่หวือหวา แต่ระดับกลางถึงบนซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของบริษัทมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นจากกระแสโซเชียลเน็ตเวิร์ค กระตุ้นให้มีผู้ใช้มือถือประเภทสมาร์ทโฟนมากขึ้น
นอกจากนี้การมาของ 3จี ที่ใกล้จะประมูลไลเซ่นเร็วๆ นี้จะช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมโทรคมนาคมให้คึกคักมากขึ้น ร้านจำหน่ายก็จะได้อานิสงส์ไปด้วยเพราะผู้ให้บริการคลื่นความถี่ก็จะมีบริการใหม่ๆ ออกมากระตุ้นให้ผู้คนอยากซื้อมือถือใหม่ที่รองรับเทคโนโลยี 3จี มากขึ้น
พูดให้ชัดเลยตอนนี้โทรศัพท์มือถือไม่ใช่ของฟุ่มเฟือยอีกต่อไปแต่เป็นของจำเป็นในชีวิตประจำวัน อีกหน่อยสมาร์ทโฟนจะมีราคาที่ถูกลงจะเกิดกลุ่มผู้ใช้หน้าใหม่มากขึ้น ยอดขายก็จะสูงขึ้น เขาคาดการณ์
ปัจจุบันธุรกิจหลักของเจมาร์ทแบ่งเป็นสามส่วนคือ หนึ่ง.จัดจำหน่ายมือถือแบรนด์คนอื่น 75% สอง.จำหน่ายมือถือเฮ้าส์แบรนด์ในชื่อ เจโฟน 15% และสาม.อีก 10% จากพื้นที่ให้เช่าและบริษัทรับบริหารหนี้ในชื่อ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด
ในส่วนของธุรกิจติดตามหนี้ คาดว่าปีนี้กำไรน่าจะโตได้ถึง 100% จากปีก่อนมีกำไร 20 ล้านบาท แม้จะยังมีวอลุ่มไม่สูงแต่มีอัตรากำไรที่ดี ปัจจุบันมียอดหนี้รวมในพอร์ต 10,000 ล้านบาท แนวโน้มธุรกิจนี้มีแต่เติบโตคาดว่าในอนาคตจะมีสัดส่วนรายได้เพิ่มเป็น 5% จากตอนนี้อยู่ที่ 3% ล่าสุดเพิ่งเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 40 ล้านบาท เป็น 80 ล้านบาทรองรับการขยายธุรกิจ
เขายังบอกอีกว่ามีแผนที่จะปั้นแบรนด์เจโฟนให้ติดตลาดมากขึ้นกว่านี้ จากปัจจุบันอยู่ในอันดับสามหรือสี่ แต่ถ้ายึดติดกับแผนธุรกิจเดิมๆ ยอดขายก็คงไม่ขยับเพราะแบรนด์ดังๆ อย่างโนเกีย ซัมซุง เริ่มส่งมือถือราคาถูกมาตีตลาด เร็วๆ นี้เตรียมเปิดเผยถึงกลยุทธ์ธุรกิจใหม่ของเจโฟนที่เกี่ยวข้องกับคลื่นความถี่ 3จี ทำให้ในระยะยาวน่าจะกลับขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาดได้ รวมถึงเพิ่มสัดส่วนรายได้จากเจโฟนให้เป็น 30-40% อัตรากำไรก็จะเพิ่มสูงขึ้นด้วย
ธุรกิจใหม่นี้จะช่วยดันให้อัตรากำไรสุทธิของเราที่ปกติอยู่แค่ 1-2% จะขยับขึ้นไปที่ 3-4% ในอนาคตได้
สำหรับการขยายช่องทางจัดจำหน่าย ภายในปี 2554 จุดจำหน่ายน่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 280 แห่ง จะเน้นไปที่ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ ส่วนการขยายร้านที่สถานีรถไฟฟ้า BTS ขอรอดูความเหมาะสมก่อน
อดิศักดิ์ ให้ความเห็นว่าจุดเด่นของหุ้น JMART น่าจะเป็นการจ่ายปันผลในระดับที่สูงมาตั้งแต่เข้าตลาดหุ้น อนาคตเมื่อมีกำไรมากขึ้นอัตราการจ่ายปันผลก็จะสูงตามไปด้วยเพราะบริษัทไม่จำเป็นต้องมีการลงทุนหนักๆ ในอนาคต
"แนวโน้มในอีก 3 ปีข้างหน้า รายได้คงจะโตแบบไม่หวือหวาแต่เราจะโฟกัสให้กำไรเพิ่มขึ้นทุกปีแน่นอน"
ส่วนแนวโน้มการเติบโตในปีนี้ อดิศักดิ์ ยอมรับว่ากำไรสุทธิในปีนี้น่าจะเติบโตน้อยกว่าที่คาดคือโตเพียง 20% จากเดิมที่น่าจะโตได้ถึง 40% เหตุเพราะปัญหาทางการเมืองช่วงต้นปีนอกจากจะสร้างความเสียหายกับสาขาที่เซ็นทรัลเวิลด์แล้วยอดขายมือถือน่าจะลดลง
ถ้าดูทิศทางหุ้น JMART ย้อนหลังนับจากวันที่พุ่งชนซิลลิ่งจะเห็นว่ามีแต่แนวโน้ม "ทรง" กับ "ทรุด" เป็นไปได้ว่าอาจกำลังแบกรับความคาดหวังที่สูงลิ่วล่วงหน้าไปก่อนแล้ว
วันที่ 23 สิงหาคม 2553 01:00
ไล่ราคา 'เจ มาร์ท' บนความ 'คาดหวัง' ที่เกินตัว
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจ มาร์ท
ภาพประกอบข่าว
พวกที่เรียกตัวเองว่า 'แวลูอินเวสเตอร์' (วีไอ) ช่วยกันดันราคา JMART วิ่งล่วงหน้าไปไกล:roll: หุ้นตัวนี้กำลังแบกรับ 'ความคาดหวัง' ที่เกินตัว
รายย่อยติดหุ้นกันมาก หลังช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2553 มีกลุ่มนักลงทุนที่เรียกตัวเองว่า "แวลูอินเวสเตอร์" (วีไอ) แห่เข้าไปไล่เก็บหุ้น JMART ราคาพุ่งขึ้นจาก 2 บาท ไต่ทะยานไปแตะ 3.64 บาท หลังมีข่าวแพร่สะพัดว่า ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เข้าไปเก็บหุ้น JMART ไว้จำนวน 7 ล้านหุ้น เหล่าสาวกก็เลยแห่ซื้อตามกัน "ไม่ยั้ง" ทั้งที่ บมจ.เจ มาร์ท ไม่ใช่บริษัทที่โดดเด่น และเป็นม้านอกสายตามาโดยตลอด
ทั้งนี้เป็นเพราะว่าภายในงานสัมมนาหุ้นของกลุ่มนักลงทุนวีไอที่จัดขึ้นประจำไตรมาส หุ้น JMART ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นหัวข้อในการสนทนาในวันนั้น บทสรุปจบลงที่คำแนะนำ ซื้อ หลังจากนั้น 1 วัน ราคาหุ้นก็วิ่งขึ้นชนซิลลิ่ง ทำให้หุ้นตัวนี้ต้องแบกรับความคาดหวังที่เกินตัวอย่างไม่ได้ตั้งใจ
อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจ มาร์ท ออกตัวกับกรุงเทพธุรกิจ BizWeek ว่า ส่วนตัวไม่รู้มาก่อนว่า JMART เป็นหนึ่งในหุ้นขวัญใจนักลงทุนหุ้นคุณค่า แต่คาดเดาว่าสาเหตุที่ราคาหุ้นขึ้นมาติดซิลลิ่ง (วันที่ 7 มิถุนายน 2553) น่าจะเป็นเพราะนักลงทุนเห็นโอกาสที่บริษัทจะเติบโตในอนาคตเลยเข้ามาเก็บหุ้น
ถามว่าจุดเด่นของบริษัทคืออะไร เขาตอบว่า เจ มาร์ทเป็นผู้จัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ "เบอร์หนึ่ง" ของตลาดในแง่วอลุ่ม และเป็นรายเดียวที่ขายมือถือทุกยี่ห้อ รวมถึงเป็นแบรนด์ที่คนส่วนใหญ่รู้จักดี และที่สำคัญคือมีจุดจำหน่ายกว่า 210 สาขา ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในห้างบิ๊กซี และมีดีลเลอร์ที่รับของไปขายต่ออีกว่า 600 ราย
ความแตกต่างจากหุ้นมือถือตัวอื่นในตลาดถ้าเป็น เอ็มลิงค์, ไออีซี หรือ บลิสเทล อดิศักดิ์ บอกว่า พวกนั้นเขาเป็นเพียง "ผู้ขายส่ง" มีหน้าร้านของตัวเองน้อยมาก ส่วน สามารถไอ-โมบาย จะเป็นผู้ผลิตมือถือ "เฮ้าส์แบรนด์" มากกว่า ปัญหาใหญ่ของผู้จำหน่ายมือถือคือการบริหารสต็อกสินค้าล้าสมัย บริษัทไม่มีปัญหาตรงนี้จากจำนวนสาขาที่เยอะและมีประสบการณ์ในธุรกิจ ถึงตอนนี้มีการตั้งสำรองสินค้าที่ขายไม่ออกไปเพียง 20 ล้านบาทเท่านั้น ส่วนสถานะการเงินบริษัทไม่มีหนี้เลย และมีกระแสเงินสดเหลือเฟือ
อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2553 ออกมา "น่าผิดหวัง" มีกำไรสุทธิ 10.54 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 25.51 ล้านบาท และงวด 6 เดือนปี 2553 มีกำไรสุทธิ 33.84 ล้านบาท เทียบกับ 45.54 ล้านบาทในปีก่อน
ถามถึงอนาคตการเติบโต เขาเผยว่าตลาดมือถือระดับล่างหรือเฮ้าส์แบรนด์คงไม่มีการเติบโตที่หวือหวา แต่ระดับกลางถึงบนซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของบริษัทมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นจากกระแสโซเชียลเน็ตเวิร์ค กระตุ้นให้มีผู้ใช้มือถือประเภทสมาร์ทโฟนมากขึ้น
นอกจากนี้การมาของ 3จี ที่ใกล้จะประมูลไลเซ่นเร็วๆ นี้จะช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมโทรคมนาคมให้คึกคักมากขึ้น ร้านจำหน่ายก็จะได้อานิสงส์ไปด้วยเพราะผู้ให้บริการคลื่นความถี่ก็จะมีบริการใหม่ๆ ออกมากระตุ้นให้ผู้คนอยากซื้อมือถือใหม่ที่รองรับเทคโนโลยี 3จี มากขึ้น
พูดให้ชัดเลยตอนนี้โทรศัพท์มือถือไม่ใช่ของฟุ่มเฟือยอีกต่อไปแต่เป็นของจำเป็นในชีวิตประจำวัน อีกหน่อยสมาร์ทโฟนจะมีราคาที่ถูกลงจะเกิดกลุ่มผู้ใช้หน้าใหม่มากขึ้น ยอดขายก็จะสูงขึ้น เขาคาดการณ์
ปัจจุบันธุรกิจหลักของเจมาร์ทแบ่งเป็นสามส่วนคือ หนึ่ง.จัดจำหน่ายมือถือแบรนด์คนอื่น 75% สอง.จำหน่ายมือถือเฮ้าส์แบรนด์ในชื่อ เจโฟน 15% และสาม.อีก 10% จากพื้นที่ให้เช่าและบริษัทรับบริหารหนี้ในชื่อ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด
ในส่วนของธุรกิจติดตามหนี้ คาดว่าปีนี้กำไรน่าจะโตได้ถึง 100% จากปีก่อนมีกำไร 20 ล้านบาท แม้จะยังมีวอลุ่มไม่สูงแต่มีอัตรากำไรที่ดี ปัจจุบันมียอดหนี้รวมในพอร์ต 10,000 ล้านบาท แนวโน้มธุรกิจนี้มีแต่เติบโตคาดว่าในอนาคตจะมีสัดส่วนรายได้เพิ่มเป็น 5% จากตอนนี้อยู่ที่ 3% ล่าสุดเพิ่งเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 40 ล้านบาท เป็น 80 ล้านบาทรองรับการขยายธุรกิจ
เขายังบอกอีกว่ามีแผนที่จะปั้นแบรนด์เจโฟนให้ติดตลาดมากขึ้นกว่านี้ จากปัจจุบันอยู่ในอันดับสามหรือสี่ แต่ถ้ายึดติดกับแผนธุรกิจเดิมๆ ยอดขายก็คงไม่ขยับเพราะแบรนด์ดังๆ อย่างโนเกีย ซัมซุง เริ่มส่งมือถือราคาถูกมาตีตลาด เร็วๆ นี้เตรียมเปิดเผยถึงกลยุทธ์ธุรกิจใหม่ของเจโฟนที่เกี่ยวข้องกับคลื่นความถี่ 3จี ทำให้ในระยะยาวน่าจะกลับขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาดได้ รวมถึงเพิ่มสัดส่วนรายได้จากเจโฟนให้เป็น 30-40% อัตรากำไรก็จะเพิ่มสูงขึ้นด้วย
ธุรกิจใหม่นี้จะช่วยดันให้อัตรากำไรสุทธิของเราที่ปกติอยู่แค่ 1-2% จะขยับขึ้นไปที่ 3-4% ในอนาคตได้
สำหรับการขยายช่องทางจัดจำหน่าย ภายในปี 2554 จุดจำหน่ายน่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 280 แห่ง จะเน้นไปที่ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ ส่วนการขยายร้านที่สถานีรถไฟฟ้า BTS ขอรอดูความเหมาะสมก่อน
อดิศักดิ์ ให้ความเห็นว่าจุดเด่นของหุ้น JMART น่าจะเป็นการจ่ายปันผลในระดับที่สูงมาตั้งแต่เข้าตลาดหุ้น อนาคตเมื่อมีกำไรมากขึ้นอัตราการจ่ายปันผลก็จะสูงตามไปด้วยเพราะบริษัทไม่จำเป็นต้องมีการลงทุนหนักๆ ในอนาคต
"แนวโน้มในอีก 3 ปีข้างหน้า รายได้คงจะโตแบบไม่หวือหวาแต่เราจะโฟกัสให้กำไรเพิ่มขึ้นทุกปีแน่นอน"
ส่วนแนวโน้มการเติบโตในปีนี้ อดิศักดิ์ ยอมรับว่ากำไรสุทธิในปีนี้น่าจะเติบโตน้อยกว่าที่คาดคือโตเพียง 20% จากเดิมที่น่าจะโตได้ถึง 40% เหตุเพราะปัญหาทางการเมืองช่วงต้นปีนอกจากจะสร้างความเสียหายกับสาขาที่เซ็นทรัลเวิลด์แล้วยอดขายมือถือน่าจะลดลง
ถ้าดูทิศทางหุ้น JMART ย้อนหลังนับจากวันที่พุ่งชนซิลลิ่งจะเห็นว่ามีแต่แนวโน้ม "ทรง" กับ "ทรุด" เป็นไปได้ว่าอาจกำลังแบกรับความคาดหวังที่สูงลิ่วล่วงหน้าไปก่อนแล้ว
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 170
- ผู้ติดตาม: 0
พวกที่เรียกตัวเองว่า 'แวลูอินเวสเตอร์' (วีไอ) ช่วยกันดันราคา
โพสต์ที่ 6
ธุรกิจโทรศัพท์ มือถือโดยเฉพาะอย่างยิ่ง house brand ไม่น่าจะ growth เหมือนกับ 2-3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจาก inter brand ตั้งตัวได้ เปิดตัวสินค้าใหม่ที่ราคาถูกลง ทั้ง 2 sim มี tv และ touch screen มาสู้ จึงน่าจะเป็นเวลาที่
เหนื่อยมากสำหรับ มือถือจากจีนแดงทุกยี่ห้อ
เหนื่อยมากสำหรับ มือถือจากจีนแดงทุกยี่ห้อ
-
- Verified User
- โพสต์: 807
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกที่เรียกตัวเองว่า 'แวลูอินเวสเตอร์' (วีไอ) ช่วยกันดัน
โพสต์ที่ 7
อ่านแล้วงง ตรงนี้ใครเป็นคนพูด เท่าที่อ่าน ไม่น่าใช่คุณตุ้มนะIi'8N เขียน:รายย่อยติดหุ้นกันมาก หลังช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2553 มีกลุ่มนักลงทุนที่เรียกตัวเองว่า "แวลูอินเวสเตอร์" (วีไอ) แห่เข้าไปไล่เก็บหุ้น JMART ราคาพุ่งขึ้นจาก 2 บาท ไต่ทะยานไปแตะ 3.64 บาท หลังมีข่าวแพร่สะพัดว่า ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เข้าไปเก็บหุ้น JMART ไว้จำนวน 7 ล้านหุ้น เหล่าสาวกก็เลยแห่ซื้อตามกัน "ไม่ยั้ง" ทั้งที่ บมจ.เจ มาร์ท ไม่ใช่บริษัทที่โดดเด่น และเป็นม้านอกสายตามาโดยตลอด
ทั้งนี้เป็นเพราะว่าภายในงานสัมมนาหุ้นของกลุ่มนักลงทุนวีไอที่จัดขึ้นประจำ ไตรมาส หุ้น JMART ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นหัวข้อในการสนทนาในวันนั้น บทสรุปจบลงที่คำแนะนำ “ซื้อ” หลังจากนั้น 1 วัน ราคาหุ้นก็วิ่งขึ้นชนซิลลิ่ง ทำให้หุ้นตัวนี้ต้องแบกรับความคาดหวังที่เกินตัวอย่างไม่ได้ตั้งใจ
อย่ายอมแพ้
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 1
พวกที่เรียกตัวเองว่า 'แวลูอินเวสเตอร์' (วีไอ) ช่วยกันดันราคา
โพสต์ที่ 8
หลังๆนี่ คนเขียนกรุงเทพธุรกิจบางคน รู้สึกไม่ดีกับVI ทำให้ข่าวที่ออกมาเป็นในเชิงลบหลายครั้งแล้ว ถ้าพวกเราคอมเมนต์ไปดังๆบรรณาธิการคงจะได้ยินบ้างหล่ะ :lol:
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
- กล้วยไม้ขาว
- Verified User
- โพสต์: 1074
- ผู้ติดตาม: 1
พวกที่เรียกตัวเองว่า 'แวลูอินเวสเตอร์' (วีไอ) ช่วยกันดันราคา
โพสต์ที่ 9
[quote="naris"]หลังๆนี่ คนเขียนกรุงเทพธุรกิจบางคน รู้สึกไม่ดีกับVI ทำให้ข่าวที่ออกมาเป็นในเชิงลบหลายครั้งแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 1400
- ผู้ติดตาม: 0
พวกที่เรียกตัวเองว่า 'แวลูอินเวสเตอร์' (วีไอ) ช่วยกันดันราคา
โพสต์ที่ 10
เหตุการณ์มันผ่านมาหลายเดือนแล้ว เพิ่งมาเขียนพาดหัวโอดโอยตอนนี้เรอะ
:lovl:
:lovl:
เราต่างตื่นขึ้นมาทุกวัน เพื่อสร้างผลงานให้ได้ เราควรรู้ว่า ในทุกวันมีอะไรที่ต้องทำเพื่อให้เกิดผลงาน หากการตื่นขึ้นมา ไม่ได้เป็นไปเพื่อผลงาน เราก็ไม่สมควรที่จะตื่นขึ้นมาให้รกหูรกตาคนรอบข้าง
- Joga Bonito
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 278
- ผู้ติดตาม: 0
พวกที่เรียกตัวเองว่า 'แวลูอินเวสเตอร์' (วีไอ) ช่วยกันดันราคา
โพสต์ที่ 11
คนเขียนข่าวเป็นอะไรมากป่าวเนี่ย
- Ii'8N
- Verified User
- โพสต์: 3682
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกที่เรียกตัวเองว่า 'แวลูอินเวสเตอร์' (วีไอ) ช่วยกันดัน
โพสต์ที่ 12
เขาถึงบอกว่า อ่านข่าวยุคนี้ต้องดูให้ดี เพราะมีทั้ง "ข้อคิดเห็น" และ "ข้อเท็จจริง" ผสมกันอยู่Anti-Aircraft เขียน:อ่านแล้วงง ตรงนี้ใครเป็นคนพูด เท่าที่อ่าน ไม่น่าใช่คุณตุ้มนะIi'8N เขียน:รายย่อยติดหุ้นกันมาก หลังช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2553 มีกลุ่มนักลงทุนที่เรียกตัวเองว่า "แวลูอินเวสเตอร์" (วีไอ) แห่เข้าไปไล่เก็บหุ้น JMART ราคาพุ่งขึ้นจาก 2 บาท ไต่ทะยานไปแตะ 3.64 บาท หลังมีข่าวแพร่สะพัดว่า ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เข้าไปเก็บหุ้น JMART ไว้จำนวน 7 ล้านหุ้น เหล่าสาวกก็เลยแห่ซื้อตามกัน "ไม่ยั้ง" ทั้งที่ บมจ.เจ มาร์ท ไม่ใช่บริษัทที่โดดเด่น และเป็นม้านอกสายตามาโดยตลอด
ทั้งนี้เป็นเพราะว่าภายในงานสัมมนาหุ้นของกลุ่มนักลงทุนวีไอที่จัดขึ้นประจำ ไตรมาส หุ้น JMART ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นหัวข้อในการสนทนาในวันนั้น บทสรุปจบลงที่คำแนะนำ ซื้อ หลังจากนั้น 1 วัน ราคาหุ้นก็วิ่งขึ้นชนซิลลิ่ง ทำให้หุ้นตัวนี้ต้องแบกรับความคาดหวังที่เกินตัวอย่างไม่ได้ตั้งใจ
คิดว่าเป็นข้อคิดเห็นคนเขียนมากกว่า
- unnop.t
- Verified User
- โพสต์: 924
- ผู้ติดตาม: 1
พวกที่เรียกตัวเองว่า 'แวลูอินเวสเตอร์' (วีไอ) ช่วยกันดันราคา
โพสต์ที่ 13
ถึงแม้ข่าวจะเขียนค่อนข้าง bias อยู่บ้าง แต่ความจริงก็คือ คนซื้อต้องกลับมาดูตัวเองว่า ซื้อเพราะเหตุผลนั้นจริงหรือเปล่า น่าจะเป็น case ที่ดีสำหรับเรื่องซื้อตามเซียน
หน้าที่ ผบห คือ ผลประกอบการ ไม่ใช่ราคาหุ้น เคยได้ยินมา บางบริษัทโดยนักลงทุนต่อว่าเรื่องราคาหุ้นไม่ไปไหน ทั้ง ๆที่ ผบห ไม่ได้มีหน้าที่รับผิดชอบราคาหุ้นซะหน่อย
หน้าที่ ผบห คือ ผลประกอบการ ไม่ใช่ราคาหุ้น เคยได้ยินมา บางบริษัทโดยนักลงทุนต่อว่าเรื่องราคาหุ้นไม่ไปไหน ทั้ง ๆที่ ผบห ไม่ได้มีหน้าที่รับผิดชอบราคาหุ้นซะหน่อย
ตลาดหุ้นมักจะหลอกเราด้วย ความโลภ และความกลัว.....
- thaloengsak
- Verified User
- โพสต์: 2716
- ผู้ติดตาม: 1
พวกที่เรียกตัวเองว่า 'แวลูอินเวสเตอร์' (วีไอ) ช่วยกันดันราคา
โพสต์ที่ 14
ซื้อตามคนอื่นเอง สม!
บริหารไม่ดี โทษVI !?
มีเหตุผลจริงๆ
ลงทุนเพื่อชีวิต
-
- Verified User
- โพสต์: 1746
- ผู้ติดตาม: 0
พวกที่เรียกตัวเองว่า 'แวลูอินเวสเตอร์' (วีไอ) ช่วยกันดันราคา
โพสต์ที่ 15
อาจจะฟังดูแล้วรู้สึกไม่ดี
แต่ที่เค้าพูดมามันก็เป็น fact นะครับ
เพียงแต่ พวกที่เรียกตัวเองว่า 'แวลูอินเวสเตอร์' (วีไอ) กลายเป็นจำเลย
จากการกระทำโดยรวมของตลาด ที่มีผลต่อหุ้น JMART เท่านั้นเอง
อย่างน้อยถ้ามองในแง่ดี
ก็ถือว่าผู้บริหารออกมาเบรกกระแสแบบนี้
ยังดีกว่าตามน้ำแล้วสุดท้ายนาวาก็ออกทะเลไม่ใช่เหรอ
แต่ที่เค้าพูดมามันก็เป็น fact นะครับ
เพียงแต่ พวกที่เรียกตัวเองว่า 'แวลูอินเวสเตอร์' (วีไอ) กลายเป็นจำเลย
จากการกระทำโดยรวมของตลาด ที่มีผลต่อหุ้น JMART เท่านั้นเอง
อย่างน้อยถ้ามองในแง่ดี
ก็ถือว่าผู้บริหารออกมาเบรกกระแสแบบนี้
ยังดีกว่าตามน้ำแล้วสุดท้ายนาวาก็ออกทะเลไม่ใช่เหรอ
-
- Verified User
- โพสต์: 456
- ผู้ติดตาม: 0
พวกที่เรียกตัวเองว่า 'แวลูอินเวสเตอร์' (วีไอ) ช่วยกันดันราคา
โพสต์ที่ 16
น่าจะถือเป็นการสะท้อนปรากฏการณ์หนึ่งของการ "ซื้อตามเซียน" ให้แก่นักลงทุนได้คิดมากกว่า ส่วนการที่หุ้นดังกล่าวมีราคาสูงขึ้นมากนั้นเป็นเพราะแรงซื้อจาก VI ตามที่ระบุหรือไม่ ก็คงต้องถามชาว VI ว่าเป็นเหตุนั้นจริงหรือไม่
อันที่จริงในสังคมที่มีความเห็นที่แตกต่างกันน่าจะดีนะคะ จะได้ช่วยกันสร้างสมดุลให้กับสังคม เพียงแต่เราผู้บริโภคสื่อต้องทำใจเป็นกลางและยอมรับความเห็นที่แตกต่างนั้น สังคมของเราก็จะได้มีความคิดเห็นที่รอบด้าน หลากหลายและเปิดกว้าง นักลงทุนต่าง ๆ จะได้มีโอกาสใช้ปัญญาของตนวิเคราะห์อะไร ๆ ได้มากขึ้น
อันที่จริงในสังคมที่มีความเห็นที่แตกต่างกันน่าจะดีนะคะ จะได้ช่วยกันสร้างสมดุลให้กับสังคม เพียงแต่เราผู้บริโภคสื่อต้องทำใจเป็นกลางและยอมรับความเห็นที่แตกต่างนั้น สังคมของเราก็จะได้มีความคิดเห็นที่รอบด้าน หลากหลายและเปิดกว้าง นักลงทุนต่าง ๆ จะได้มีโอกาสใช้ปัญญาของตนวิเคราะห์อะไร ๆ ได้มากขึ้น
- simplelife
- Verified User
- โพสต์: 756
- ผู้ติดตาม: 0
พวกที่เรียกตัวเองว่า 'แวลูอินเวสเตอร์' (วีไอ) ช่วยกันดันราคา
โพสต์ที่ 17
[quote="ssmith"]ธุรกิจโทรศัพท์ มือถือโดยเฉพาะอย่างยิ่ง house brand ไม่น่าจะ growth เหมือนกับ 2-3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจาก inter brand ตั้งตัวได้
"I believe what I said yesterday. I don't know what I said, but I know what I think... and I assume it's what I said." -- Donald Rumsfeld
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3352
- ผู้ติดตาม: 1
พวกที่เรียกตัวเองว่า 'แวลูอินเวสเตอร์' (วีไอ) ช่วยกันดันราคา
โพสต์ที่ 18
นานาจิตตัง... มีคนชอบ ย่อมมีคนเกลียด...
ใจเราจะเป็นทุกข์ไปทำไม ในเมื่อทุกๆ วันก็มีคนไม่ชอบขี้หน้าเรา เกลียดเรา อยู่มากมายเต็มไปหมด เพียงแต่เราจะได้ยินมัน หรือไม่ได้ยินมันก็เท่านั้น...
ใจเราจะเป็นทุกข์ไปทำไม ในเมื่อทุกๆ วันก็มีคนไม่ชอบขี้หน้าเรา เกลียดเรา อยู่มากมายเต็มไปหมด เพียงแต่เราจะได้ยินมัน หรือไม่ได้ยินมันก็เท่านั้น...
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
พวกที่เรียกตัวเองว่า 'แวลูอินเวสเตอร์' (วีไอ) ช่วยกันดันราคา
โพสต์ที่ 19
สาธุ สาธุpicatos เขียน:นานาจิตตัง... มีคนชอบ ย่อมมีคนเกลียด...
ใจเราจะเป็นทุกข์ไปทำไม ในเมื่อทุกๆ วันก็มีคนไม่ชอบขี้หน้าเรา เกลียดเรา อยู่มากมายเต็มไปหมด เพียงแต่เราจะได้ยินมัน หรือไม่ได้ยินมันก็เท่านั้น...
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 78
- ผู้ติดตาม: 0
พวกที่เรียกตัวเองว่า 'แวลูอินเวสเตอร์' (วีไอ) ช่วยกันดันราคา
โพสต์ที่ 20
โอ้ ใช่เลยครับพี่ อย่าไปแคร์สื่อๆๆๆ :lol:picatos เขียน:นานาจิตตัง... มีคนชอบ ย่อมมีคนเกลียด...
ใจเราจะเป็นทุกข์ไปทำไม ในเมื่อทุกๆ วันก็มีคนไม่ชอบขี้หน้าเรา เกลียดเรา อยู่มากมายเต็มไปหมด เพียงแต่เราจะได้ยินมัน หรือไม่ได้ยินมันก็เท่านั้น...
- hsf
- Verified User
- โพสต์: 256
- ผู้ติดตาม: 0
พวกที่เรียกตัวเองว่า 'แวลูอินเวสเตอร์' (วีไอ) ช่วยกันดันราคา
โพสต์ที่ 21
เห็นหุ้นนี้ที่ไรยิ้มทุกที แม่ซื้อไว้นึกว่าติดดอยหุ้นอะไรไม่รู้จักเลยซื้อเพราะมีวอลุ่มอีกแล้ว ที่ไหนได้ พอ อ.นิเวศ บอกซื้อไว้เท่านั้นแหละจากที่ปิดขาดทุนอยู่กับบวกกำไรเยอะจนตกใจเลยนึกว่าตาฟาดซื้อแค่ก่อนหน้านั้น2-3วันเอง
:D :) :) :)
:D :) :) :)
ฟ้าหลังฝนย่อมสดใส แต่ทำไมฝนตกนานจัง
-
- Verified User
- โพสต์: 807
- ผู้ติดตาม: 0
พวกที่เรียกตัวเองว่า 'แวลูอินเวสเตอร์' (วีไอ) ช่วยกันดันราคา
โพสต์ที่ 22
+1picatos เขียน:นานาจิตตัง... มีคนชอบ ย่อมมีคนเกลียด...
ใจเราจะเป็นทุกข์ไปทำไม ในเมื่อทุกๆ วันก็มีคนไม่ชอบขี้หน้าเรา เกลียดเรา อยู่มากมายเต็มไปหมด เพียงแต่เราจะได้ยินมัน หรือไม่ได้ยินมันก็เท่านั้น...
อย่ายอมแพ้
- thaloengsak
- Verified User
- โพสต์: 2716
- ผู้ติดตาม: 1
พวกที่เรียกตัวเองว่า 'แวลูอินเวสเตอร์' (วีไอ) ช่วยกันดันราคา
โพสต์ที่ 23
+1 :Pakekarat เขียน:อาจจะฟังดูแล้วรู้สึกไม่ดี
แต่ที่เค้าพูดมามันก็เป็น fact นะครับ
เพียงแต่ พวกที่เรียกตัวเองว่า 'แวลูอินเวสเตอร์' (วีไอ) กลายเป็นจำเลย
จากการกระทำโดยรวมของตลาด ที่มีผลต่อหุ้น JMART เท่านั้นเอง
อย่างน้อยถ้ามองในแง่ดี
ก็ถือว่าผู้บริหารออกมาเบรกกระแสแบบนี้
ยังดีกว่าตามน้ำแล้วสุดท้ายนาวาก็ออกทะเลไม่ใช่เหรอ
ลงทุนเพื่อชีวิต
- Paul VI
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 10548
- ผู้ติดตาม: 1
พวกที่เรียกตัวเองว่า 'แวลูอินเวสเตอร์' (วีไอ) ช่วยกันดันราคา
โพสต์ที่ 25
ในโลกใบนี้ ไำม่มีใครรักเราทั้ง 100 %
เช่นกัน ไม่ใคร เกลียดเรา 100 %
ขึ้นชื่อว่า สัตว์สังคม ก็ต้องมีจุดยืน ไม่งั้น คนนั้นซัดที คนนี้ซัดที แล้วเต้นไป เต้นมาตามเค้า
ก้ไม่ต้องทำอะไรกันล่ะ
ผมเชื่อว่ายังไง ผลที่ได้ในแต่ล่ะคนก็อยู่ที่เจตนา
ถ้าเราเจนาดี บริสุทธิ์ก็ไม่สนใจอะไร
เช่นกัน ไม่ใคร เกลียดเรา 100 %
ขึ้นชื่อว่า สัตว์สังคม ก็ต้องมีจุดยืน ไม่งั้น คนนั้นซัดที คนนี้ซัดที แล้วเต้นไป เต้นมาตามเค้า
ก้ไม่ต้องทำอะไรกันล่ะ
ผมเชื่อว่ายังไง ผลที่ได้ในแต่ล่ะคนก็อยู่ที่เจตนา
ถ้าเราเจนาดี บริสุทธิ์ก็ไม่สนใจอะไร
-
- Verified User
- โพสต์: 805
- ผู้ติดตาม: 0
พวกที่เรียกตัวเองว่า 'แวลูอินเวสเตอร์' (วีไอ) ช่วยกันดันราคา
โพสต์ที่ 26
แล้วตกลงว่าท่าน ดร. ซื้อมา 7 ล้านหุ้นจริงหรือครับ แต่ทำไมดูในรายชื่อผู้ถือหุ้นไม่เห็นมีเลย
ถึงตลาดจะฟูมฟายมากแค่ไหน ก็ยินดียืมไหล่ให้เธอซบ ยืมอกให้เธอซับน้ำตา
-
- Verified User
- โพสต์: 532
- ผู้ติดตาม: 0
พวกที่เรียกตัวเองว่า 'แวลูอินเวสเตอร์' (วีไอ) ช่วยกันดันราคา
โพสต์ที่ 27
ผมก็ได้ยินก่อนนี้ว่า มีเซียน วีไอ ซื้อไปประมาณ 7 ล้านหุ้น แล้วมาทำให้ นลท แนววีไอ คนอื่นในเว็บนี้ได้ยิน แล้วจู่ ๆ ตัวนี้ก็ขึ้นลิ่งเลย ผมเองก็ได้ยินเลย ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ไปงานจิบเบียร์คราวนั้น
ปกติเขาคนนั้นก็ไม่ค่อนชอบหุ้นแนวเทคโนโลยี่เท่าไร แต่ทำไมซื้อตัวนี้ได้ อาจจะมีโมเดลธุรกิจโมเดอร์นเทรดที่ชอบก็ได้
และก็ไม่ใช่ตัวนี้เท่านั้นนะ ที่มักทำให้คนอื่นได้ยิน
ปกติเขาคนนั้นก็ไม่ค่อนชอบหุ้นแนวเทคโนโลยี่เท่าไร แต่ทำไมซื้อตัวนี้ได้ อาจจะมีโมเดลธุรกิจโมเดอร์นเทรดที่ชอบก็ได้
และก็ไม่ใช่ตัวนี้เท่านั้นนะ ที่มักทำให้คนอื่นได้ยิน
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 155
- ผู้ติดตาม: 0
พวกที่เรียกตัวเองว่า 'แวลูอินเวสเตอร์' (วีไอ) ช่วยกันดันราคา
โพสต์ที่ 30
อันตรายนะครับlychee เขียน:ผมก็ได้ยินก่อนนี้ว่า มีเซียน วีไอ ซื้อไปประมาณ 7 ล้านหุ้น แล้วมาทำให้ นลท แนววีไอ คนอื่นในเว็บนี้ได้ยิน แล้วจู่ ๆ ตัวนี้ก็ขึ้นลิ่งเลย ผมเองก็ได้ยินเลย ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ไปงานจิบเบียร์คราวนั้น
ปกติเขาคนนั้นก็ไม่ค่อนชอบหุ้นแนวเทคโนโลยี่เท่าไร แต่ทำไมซื้อตัวนี้ได้ อาจจะมีโมเดลธุรกิจโมเดอร์นเทรดที่ชอบก็ได้
และก็ไม่ใช่ตัวนี้เท่านั้นนะ ที่มักทำให้คนอื่นได้ยิน
กลายเป็นแห่ตาม..ดร....กันไป
แต่จะไปดีหรือร้าย ก้ไม่มีทางรู้
อันตรายจริงๆ