รบกวนถามเรื่อง กู้มาร์จิ้นครับ

[young_5432]

พี่ๆ ครับ ถามความรู้เรื่อง margin เห็นมีพี่คนนึงเคยมีประสบการณ์

ผมสงสัยว่าถ้าผมจะกู้มาจิ้นเพื่อชื้อหุ้นตัวนึงแล้ว เค้าให้ initial margin 50%
ผมวางเงิน อีก 50 %

[thaloengsak]

ไม่เข้าใจคำถาม สรุปให้ฟังง่ายๆหน่อยครับ

[Boring Stock Lover]

เข้าใจว่าโบรกที่ใช้ ไม่ให้มาร์จิ้นกับหุ้น ptl เลยซื้อไม่ได้

หุ้นแต่ละตัวได้มาร์จิ้นไม่เท่ากันครับ ดูรายชื่อหุ้นกับมาร์จิ้นได้ที่โบรกที่ใช้

[young_5432]

คำถามคือเรากู้มาจิ้นตัวนึง ทำไมสามารถไปชื่อ หุ้น อีกตัวนึงที่ห้ามกู้ มาจิ้นชื้อ  เช่น ผมจะชื้อ ptl แต่ kimeng บอกว่ากู้มาจิ้นไม่ได้  งัน้ทำกู้เพื่อชื้อ glow เค้าบอกว่าได้  
  แต่พอผมถามว่าพอผมได้เงินมาแล้ว ผมอยากชื้ออะไรหุ้นก็ได้ รึป่าว พนักงงานบอกว่าใช่ ผมเลยงงว่า จริงรึป่าว เพราะถ้างั้น เขาจะกันไม่ให้มีมาจิ้น ptl ทำไม ถ้าผมกู้และบอกว่าจะชื้อ glow แต่สุดท้ายพอได้เงินมา ก็มาชื้อ ptl ได้อยู่ดีครับ

[Boring Stock Lover]

รายชื่อหุ้นที่ได้มาร์จิ้น และสัดส่วน เปลี่ยนเรื่อยๆครับ ไม่รู้ว่ามีการกำหนดเวลาเป็นประจำหรือเปล่า หรือใช้สูตรคำนวณในการเปลี่ยนแปลง

อย่างหุ้นสภาพคล่องต่ำ มักจะไม่ให้มาร์จิ้น เพราะถ้าโดน force sell อาจจะโดนสองฟลอร์ได้ง่ายๆ แล้วก็เป็นความเสี่ยงของโบรก เพราะถ้า force sell แล้วเงินที่ขายยังไม่พอ ก็ต้องมาเสียเวลาไล่เบี้ยกับลูกค้าเอง เขาก็เลยไม่ค่อยปล่อยมาร์จิ้นกัน

แต่พูดถึงถ้าหากเรื่องพวกนี้ยังไม่รู้ ไม่น่าเล่นมาร์จิ้นหรอก

[young_5432]

พี่ๆ พูดถูกต้องเลยครับ ว่าบางตัวไม่ให้กู้ แต่ประเด็นคือว่าพอผมได้เงินจากตัวที่ให้กู้แล้วเนี่ย ทำไมผมสามารถไปชื้อตัวไหนก็ได้หละครับ ตัวที่ไม่ยอมให้กู้ก็ยังชื้อได้เลยงงมากครับ

[Boring Stock Lover]

การขอวงเงินมาร์จิ้น ไม่ต้องบอกว่าจะไปซื้อหุ้นตัวไหน มันไม่เกี่ยวกัน

ขอได้ ได้รับอนุมัติ ก็ได้วงเงินมา ตอนที่ซื้อ ถ้าสั่งซื้อหุ้นที่ให้มาร์จิ้น ก็ซื้อได้ ถ้าสั่งไปแล้วหุ้นที่สั่งไม่ได้มาร์จิ้น ก็ซื้อไม่ได้

ดูรายชื่อก่อนซื้อได้ทุกวันที่โบรกที่ใช้

[DeepTVI]

การขอวงเงินมาร์จิ้น ไม่ต้องบอกว่าจะไปซื้อหุ้นตัวไหน มันไม่เกี่ยวกัน

ขอได้ ได้รับอนุมัติ ก็ได้วงเงินมา ตอนที่ซื้อ ถ้าสั่งซื้อหุ้นที่ให้มาร์จิ้น ก็ซื้อได้ ถ้าสั่งไปแล้วหุ้นที่สั่งไม่ได้มาร์จิ้น ก็ซื้อไม่ได้

ดูรายชื่อก่อนซื้อได้ทุกวันที่โบรกที่ใช้

ถ้าซื้อไปแล้ว วันดีคืนดี เขาเกิดเปลืยนใจ ถอนมาจิ้นได้หรือเปล่า

[leaderinshadow]

ซื้อได้ทุกตัวครับ ยกเว้นตัวที่ตลาดประกาศห้าม

แล้วก็แต่ละโบรก จะกำหนด MM ต่างกัน

ตัวอย่างนะครับ

ถ้าเป็น SPALI  โบรกผมให้ MM 50%
หมายความว่า ใช้เงินซื้อหุ้น 100 บาท เป็นเงินผม 50 บาท กู้ 50 บาท
ส่วน PTL โบรกผมให้ MM 60 %
หมายความว่า ใช้เงินซื้อหุ้น 100 บาท เป็นเงินผม 60 บาท กู้ 40 บาท
ส่วน TCCC โบรกผมไม่ปล่อยมาร์จินครับ หรือ MM 100% (เหมือน PTL ในกิมเอ็ง)
แบบนี้เวลาซื้อหุ้น 100 บาท ก็จะเป็นเงินเรา 100 บาท ไม่มีกู้

แต่ผมไม่แนะนำมาร์จินนะครับ เวลาลงอาจจะหนาว ตัวผมเองยังต้องกำหนดระดับความเสี่ยงไว้เลย
ผมเปิดบัญชีมาร์จินครั้งแรกตอนดัชนี 800 กว่าจุด ก่อน Subprime แล้วซัดเต็มพอร์ต หลังจากนั้นดัชนี้วิ่งดิ่งนรกไปที่ 400 จุด  :!:


ปางตายเลยครับตอนนั้น  :lol:
(แต่ผมไม่โดน call margin นะครับ เพราะจำใจขายออกบางส่วน)

ก่อนที่ฟื้นคืนชีพมาอีกครั้ง

ตอนนี้ตั้งใจจะลดหนี้ลงด้วยซ้ำ (ถ้าไม่เจอหุ้นถูกใจเพิ่ม)

ความไม่หนี้ เป็นลาภอันประเสริฐนะครับ
ขอให้รู้จักและเข้าใจความเสี่ยงก่อน แล้วค่อยมองการเติบโต...

[Boring Stock Lover]

โดนถอนได้ครับ

แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าตอนนั้น ทั้งพอร์ทตัวที่นำมาค้ำประกันมีค่ามากพอมั้ย ถ้าน้อยเกิน โบรกก็จะขอเงินหรือหลักทรัพย์ค้ำประกันเพิ่ม ไม่งั้นก็ force sell

แต่ปกติก็ไม่ควรซื้อกันจนเต็มวงเงินนะ แต่ก็แล้วแต่คน บางคนเชื่อมั่นมาก อัดเต็มวงเงิน แต่ผมเองก็ยังมองว่า หุ้นยังไงก็ยังมีความเสี่ยง

ผมว่ามันอยู่ที่แผนการเล่นและการจัดสรรเงินด้วย ผมเปิดมาร์จิ้นในวงเงินที่ผมรู้ว่า สามารถโทรไปหามาเติมได้ทันทีถ้ามีปัญหา แล้วพอเวลาผ่านไป พอร์ทในบัญชีนั้นโตขึ้น เราก็จะมีหุ้นที่สามารถนำมาคำนวณเป็นเงินค้ำประกันได้มากขึ้น วงเงินมาร์จิ้นเราก็จะสูงขึ้นโดยอัตโนมัติ

และปกติก็ไม่ค่อยได้ใช้มาร์จิ้น เพราะทำหมือน OD มีไว้เผื่อฉุกเฉิน ถือมาร์จิ้นแล้วหุ้นไม่วิ่ง ดอกเบี้ยกินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

[young_5432]

[quote="leaderinshadow"]ซื้อได้ทุกตัวครับ ยกเว้นตัวที่ตลาดประกาศห้าม

แล้วก็แต่ละโบรก จะกำหนด MM ต่างกัน

ตัวอย่างนะครับ

ถ้าเป็น SPALI

[DeepTVI]

ถ้าเปิดบช.มาจิ้นไว้ แล้วไม่ได้ใช้ หรือใช้ไม่เต็มวงเงินที่ขอได้ไหมครับ
แล้วเขาคิดดอกอย่างไรครับ

[Boring Stock Lover]

เปิดแล้ว จะใช้ก็ได้ ไม่ใช้ก็ได้

แต่ถ้ามียอดกู้ค้าง จะคิดดอก ซึ่งวิธีคิดก็ซับซ้อน เพราะจะคิดในอัตราเพิ่มขึ้น ถ้าหากยอดซื้อขายต่ำลง

เช่น

ซื้อหุ้นวันนี้ ขายวันรุ่งขึ้น ก็คิดดอกสองวัน
ซื้อๆขายๆ ไปเรื่อยๆ ก็คิดดอกแบบที่ว่า

แต่ถ้าซื้อวันนี้ อมหุ้นไว้ แล้วไม่มีการซื้อขายเลย พอถึงสองหรือสามเดือน ดอกเบี้ยที่คิดจะเพิ่มขึ้น วิธีคิดดอกแบบนี้ น่าจะเป็นทุกโบรกนะ เท่าที่ผมเคยถามมาสี่โบรกคิดลักษณะนี้

ดอกตอนนี้ประมาณ 6%-12% ต่อปี

[picklife]

[quote="leaderinshadow"]ซื้อได้ทุกตัวครับ ยกเว้นตัวที่ตลาดประกาศห้าม
แล้วก็แต่ละโบรก จะกำหนด MM ต่างกัน
quote]
โบกไหนครับ ผมใช้KT-ZMICOซื้อตัวที่ไม่ให้มาร์จิ้นไม่ได้เซ็งมากเลยครับ
นึกว่าที่อื่นเป็นเหมือนกันนะเนี๊ยะ สงสัยต้องย้ายโบกละ  :evil:

[DeepTVI]

ถ้าเรามีหุ้น ABC อยู่ แล้วเปิดบช.มาจิ้นที่หลังโดยใช้หุ้นABCค้ำได้ไหมครับ

ถ้าได้ สมมุติว่า หุ้น ABC ที่ว่าให้ MM50% มีอยู่ 1 ล้านหุ้น ที่ราคา 2 บาท

ผมสามารถกู้ได้ 2ล้านใช่ไหมครับ

แล้วผมจำเป็นต้องซื้อหุ้นตัวเดิม หรือสามารถซื้อตัวอื่นได้

ส่วนถ้าหุ้น ABC ราคาเพิ่มขึ้นในอนาคตเป็น 3 บาท ผมสามารถขอวงเงินเพิ่มได้ไหมครับ

[Boring Stock Lover]

เอาหุ้นค้ำได้ครับ

ถ้าราคาหุ้นเพิ่ม วงเงินก็เพิ่มเอง ถ้าหากตอนที่ขอ ขอไว้มากกว่ามูลค่าหุ้นหรือของที่นำไปค้ำ แต่การขอวงเงินเพิ่ม ทำได้ง่ายๆครับ

แล้วจะซื้อขายตัวเดิม หรือตัวใหม่ก็ได้ ซึ่งก็ว่าไปตาม mm ของหุ้นแต่ละตัวที่จะซื้อ

เรื่องรายละเอียดของการคำนวณคงต้องถามมาร์แล้ว เพราะมันมีทั้ง mm ee  mr ซึ่งผมจำได้แค่คร่าวๆ เพราะผมไม่เคยเล่นมาร์จิ้นแบบเต็มพิกัด ชนิดต้องมาคำนวณทุกเวลา ไม่อยากใช้ชีวิตแบบไต่เส้นลวด

ผมมีมาร์จิ้นแค่เสริมสภาพคล่องเท่านั้น แล้วเวลาใช้ ก็ดูแค่อำนาจซื้อเท่าไหร่ ซึ่งเวลาซื้อจริงก็พยายามไม่ซื้อเกินครึ่งของอำนาจซื้ออยู่แล้ว

[leaderinshadow]

[quote="picklife"]ซื้อได้ทุกตัวครับ ยกเว้นตัวที่ตลาดประกาศห้าม
แล้วก็แต่ละโบรก จะกำหนด MM ต่างกัน
quote]
โบกไหนครับ ผมใช้KT-ZMICOซื้อตัวที่ไม่ให้มาร์จิ้นไม่ได้เซ็งมากเลยครับ
นึกว่าที่อื่นเป็นเหมือนกันนะเนี๊ยะ สงสัยต้องย้ายโบกละ

[Boring Stock Lover]

วิธีคำนวณของหลักเอ http://inv4.asiaplus.co.th/cms/index.ph ... it_balance

1.  ทรัพย์สินของลูกค้า (Assets)
Assets = Cash Balance + มูลค่าตลาดของหลักทรัพย์ (LMV) + Collateral  


2.  หนี้สิน (Liabilities)  
Liabilities = Loan + มูลค่าตลาดของหลักทรัพย์ที่ขายชอร์ต (SMV)  


3.  ทรัพย์สินสุทธิของลูกค้า (Equity)
Equity = Assets - Liabilities


4.  มูลค่าหลักประกันที่ต้องการ (Margin Requirement : MR)
MR = มูลค่าหลักทรัพย์ในบัญชีทั้งหมด * Initial Margin %


5.  ทรัพย์สินส่วนเกิน (Excess Equity : EE)
EE = Equity - MR  


6.  อำนาจซื้อ (Purchasing Power : PP)  
PP = EE/ Initial Margin


7.  มูลค่าหลักประกันที่ต้องดำรงไว้ (Maintenance Margin Requirement/Call Margin)
มูลค่าหลักประกันที่ต้องดำรงไว้ = มูลค่าหลักทรัพย์ในบัญชีทั้งหมด * อัตรา Call Margin


8.  มูลค่าหลักประกันขั้นต่ำ (Minimum Margin Requirement/Force Margin)
มูลค่าหลักประกันขั้นต่ำ = มูลค่าหลักทรัพย์ในบัญชีทั้งหมด * อัตรา Force Margin

[picklife]

[quote="leaderinshadow"][quote="picklife"]ซื้อได้ทุกตัวครับ ยกเว้นตัวที่ตลาดประกาศห้าม
แล้วก็แต่ละโบรก จะกำหนด MM ต่างกัน
quote]
โบกไหนครับ ผมใช้KT-ZMICOซื้อตัวที่ไม่ให้มาร์จิ้นไม่ได้เซ็งมากเลยครับ
นึกว่าที่อื่นเป็นเหมือนกันนะเนี๊ยะ สงสัยต้องย้ายโบกละ