ลองคำนวณพื้นฐาน ROI Margin_of_Safety ROE P/BV
-
- Verified User
- โพสต์: 2690
- ผู้ติดตาม: 0
ลองคำนวณพื้นฐาน ROI Margin_of_Safety ROE P/BV
โพสต์ที่ 1
ลองคำนวณพื้นฐาน ROI Margin_of_Safety ROE P/BV
ROI
ในการลงทุน ถ้า ROI Return on Investment มากกว่า 15% ถือว่าดี
สำหรับ defensive investor ฝากแบงค์ ก็ได้ 1-4% หุ้นกู้เกรดBBB+ถึงAAA ก็ได้ 5-7%
แต่ถ้าเป็นผู้จัดการกองทุนหุ้นEnterprise Investor นั้น ต้อง พยายามให้ได้ เหนือกว่าตลาดหรือ Benchmark ซึ่งสถิติระยะยาวแล้ว ใน 10ปี+ ตลาดหุ้นให้ผลตอบแทนเฉลี่ยถึง 20% +
แต่กองทุนดังๆ หรือ Berkshire ตอบแทนได้สูงกว่า 26%-30% อย่างต่อเนื่องเกินกว่า 10-30ปีได้.
-------
ok
Case1
คราวนี้จะลองทำโจกท์ ROI ง่ายดังนี้
ถ้่า หุ้นABC มี ROE 30% P/BV 1:1 Yield 5%
และนักลุงทุนไม่ชาญฉลาดพอ ซื้อที่ยอดดอยพอดี
ซื้อปั๊บ 1 อาทิตย์ ราคาลงมา -10%
อีกหนึ่ง อาทิตย์ ราคาลงมา จากราคาซื้อ -20%
----
จะคำนวณว่า Margin of Safety
เป็นอย่างไร?
----
ROE 30%
หมายถึง
ราคา Book Value 100 ใน 1ปี บริษัทจะทำ Return on Equity 30% net
นั้นคือ 100+30 หลังปันผลแล้ว
----
P/BV 1:1
เท่ากับ
ราคาตลาด หรือราคาที่เราซื้อ 100 บริษัทก็มี Equity 100 หรือ BV เท่ากับ100
---
เท่ากับ
เงินลงทุนเรา 100 Price = BV 100
ผลตอบแทนรวม ณ สิ้นปี
30+5 (ปันผล Yield 5%)=35% return
==========
คราวนี้ สถานการณ์1
ราคาลงไป-10%
ทุน 100 ราคา -10% = -10
ผลตอบแทน ที่คำนวณได้เดิม 35%-10% =25%
=ราคาลงมา-10%
เรายังมีกำไร 25% = Margin of Safety ยัง Ok
===========
คราวนี้ สถานการณ์2
ราคาลงไป-20%
ทุน 100 ราคา -20% = -20
ผลตอบแทน ที่คำนวณได้เดิม 35%-20% =15%
=ราคาลงมา-20%
เรายังมีกำไร 15% = Margin of Safety ก็ยัง Ok
===============
สรุปว่า ถ้า P/BV ยิ่งต่ำเท่าไหร่
และ ROE+Yield ยิ่งสูงเท่าไหร่
เราก็จะมี Margin of Safety มากเท่านั้น
...
ROI
ในการลงทุน ถ้า ROI Return on Investment มากกว่า 15% ถือว่าดี
สำหรับ defensive investor ฝากแบงค์ ก็ได้ 1-4% หุ้นกู้เกรดBBB+ถึงAAA ก็ได้ 5-7%
แต่ถ้าเป็นผู้จัดการกองทุนหุ้นEnterprise Investor นั้น ต้อง พยายามให้ได้ เหนือกว่าตลาดหรือ Benchmark ซึ่งสถิติระยะยาวแล้ว ใน 10ปี+ ตลาดหุ้นให้ผลตอบแทนเฉลี่ยถึง 20% +
แต่กองทุนดังๆ หรือ Berkshire ตอบแทนได้สูงกว่า 26%-30% อย่างต่อเนื่องเกินกว่า 10-30ปีได้.
-------
ok
Case1
คราวนี้จะลองทำโจกท์ ROI ง่ายดังนี้
ถ้่า หุ้นABC มี ROE 30% P/BV 1:1 Yield 5%
และนักลุงทุนไม่ชาญฉลาดพอ ซื้อที่ยอดดอยพอดี
ซื้อปั๊บ 1 อาทิตย์ ราคาลงมา -10%
อีกหนึ่ง อาทิตย์ ราคาลงมา จากราคาซื้อ -20%
----
จะคำนวณว่า Margin of Safety
เป็นอย่างไร?
----
ROE 30%
หมายถึง
ราคา Book Value 100 ใน 1ปี บริษัทจะทำ Return on Equity 30% net
นั้นคือ 100+30 หลังปันผลแล้ว
----
P/BV 1:1
เท่ากับ
ราคาตลาด หรือราคาที่เราซื้อ 100 บริษัทก็มี Equity 100 หรือ BV เท่ากับ100
---
เท่ากับ
เงินลงทุนเรา 100 Price = BV 100
ผลตอบแทนรวม ณ สิ้นปี
30+5 (ปันผล Yield 5%)=35% return
==========
คราวนี้ สถานการณ์1
ราคาลงไป-10%
ทุน 100 ราคา -10% = -10
ผลตอบแทน ที่คำนวณได้เดิม 35%-10% =25%
=ราคาลงมา-10%
เรายังมีกำไร 25% = Margin of Safety ยัง Ok
===========
คราวนี้ สถานการณ์2
ราคาลงไป-20%
ทุน 100 ราคา -20% = -20
ผลตอบแทน ที่คำนวณได้เดิม 35%-20% =15%
=ราคาลงมา-20%
เรายังมีกำไร 15% = Margin of Safety ก็ยัง Ok
===============
สรุปว่า ถ้า P/BV ยิ่งต่ำเท่าไหร่
และ ROE+Yield ยิ่งสูงเท่าไหร่
เราก็จะมี Margin of Safety มากเท่านั้น
...
-
- Verified User
- โพสต์: 2690
- ผู้ติดตาม: 0
ลองคำนวณพื้นฐาน ROI Margin_of_Safety ROE P/BV
โพสต์ที่ 2
Case2
คราวนี้จะลองทำโจกท์ ROI ง่ายดังนี้
ถ้่า หุ้นABC มี ROE 30% P/BV 2:1 Yield 5%
และนักลุงทุนไม่ชาญฉลาดพอ ซื้อที่ยอดดอยพอดี
ซื้อปั๊บ 1 อาทิตย์ ราคาลงมา -10%
อีกหนึ่ง อาทิตย์ ราคาลงมา จากราคาซื้อ -20%
----
จะคำนวณว่า Margin of Safety
เป็นอย่างไร?
----
ROE 30%
หมายถึง
ราคา Book Value 100 ใน 1ปี บริษัทจะทำ Return on Equity 30% net
นั้นคือ 100+30 หลังปันผลแล้ว
----
P/BV 2:1
เท่ากับ
ราคาตลาด หรือราคาที่เราซื้อ 200 บริษัทก็มี Equity 100 หรือ BV เท่ากับ100
---
เท่ากับ
เงินลงทุนเรา 200 Price = BV 100
ผลตอบแทนรวม ณ สิ้นปี
30+5 (ปันผล Yield 5%)=35% return
แต่คราวนี้ 35/200 เท่ากับ ROI 17.5%
==========
คราวนี้ สถานการณ์1
ราคาลงไป-10%
ทุน 100 ราคา -10% = -10
ผลตอบแทน ที่คำนวณได้เดิม 17.5%-10% =7.5%
=ราคาลงมา-10%
เรายังมีกำไร 7.5% = Margin of Safety ยัง Ok
===========
คราวนี้ สถานการณ์2
ราคาลงไป-20%
ทุน 100 ราคา -20% = -20
ผลตอบแทน ที่คำนวณได้เดิม 17.5%-20% =-2.5%
=ราคาลงมา-20%
เราขาดทุน -2.5% = Margin of Safety ก็ ไม่Okแล้ว
===============
คราวนี้จะลองทำโจกท์ ROI ง่ายดังนี้
ถ้่า หุ้นABC มี ROE 30% P/BV 2:1 Yield 5%
และนักลุงทุนไม่ชาญฉลาดพอ ซื้อที่ยอดดอยพอดี
ซื้อปั๊บ 1 อาทิตย์ ราคาลงมา -10%
อีกหนึ่ง อาทิตย์ ราคาลงมา จากราคาซื้อ -20%
----
จะคำนวณว่า Margin of Safety
เป็นอย่างไร?
----
ROE 30%
หมายถึง
ราคา Book Value 100 ใน 1ปี บริษัทจะทำ Return on Equity 30% net
นั้นคือ 100+30 หลังปันผลแล้ว
----
P/BV 2:1
เท่ากับ
ราคาตลาด หรือราคาที่เราซื้อ 200 บริษัทก็มี Equity 100 หรือ BV เท่ากับ100
---
เท่ากับ
เงินลงทุนเรา 200 Price = BV 100
ผลตอบแทนรวม ณ สิ้นปี
30+5 (ปันผล Yield 5%)=35% return
แต่คราวนี้ 35/200 เท่ากับ ROI 17.5%
==========
คราวนี้ สถานการณ์1
ราคาลงไป-10%
ทุน 100 ราคา -10% = -10
ผลตอบแทน ที่คำนวณได้เดิม 17.5%-10% =7.5%
=ราคาลงมา-10%
เรายังมีกำไร 7.5% = Margin of Safety ยัง Ok
===========
คราวนี้ สถานการณ์2
ราคาลงไป-20%
ทุน 100 ราคา -20% = -20
ผลตอบแทน ที่คำนวณได้เดิม 17.5%-20% =-2.5%
=ราคาลงมา-20%
เราขาดทุน -2.5% = Margin of Safety ก็ ไม่Okแล้ว
===============
-
- Verified User
- โพสต์: 2690
- ผู้ติดตาม: 0
ลองคำนวณพื้นฐาน ROI Margin_of_Safety ROE P/BV
โพสต์ที่ 6
ควรศึกษาเพิ่มเติม
บทความนี้
http://www.thaivi.com/2010/02/444/
บทความนี้
http://www.thaivi.com/2010/02/444/
ทำความเข้าใจ PBV Ratio0
มนตรี นิพิฐวิทยา 30 พฤษภาคม 2551
PBV = PE x ROE
สูตร นี้บอกเราว่าค่า PBV ถูกกำหนดด้วยค่าสองค่าคือ PE และ ROE (อัตราผลตอบแทนส่วนผู้ถือหุ้น) เรื่องPE ผมกล่าวไปแล้วเมื่อคราวที่แล้ว ส่วนROE นั้นค่านี้บอกเราว่าบริษัทเอาเงินทุนที่ได้จากผู้ถือหุ้นไปลงทุนแล้วสร้างผล ตอบแทนได้คุ้มค่าหรือไม่
คราว นี้เรามาดูว่า หุ้นที่ PBV มีค่าสูงค่าต่ำนั้นบ่งบอกอะไร บ้าง
หุ้นที่ PBV ต่ำ PE สูง ROE ต่ำ เป็นหุ้นที่อาจมีมูลค่าเกินพื้นฐานไปแล้ว เพราะPEสูงแต่กลับ ให้ผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้นต่ำ มันจึงมาสะท้อนออกที่ PBV
หุ้นที่ PBV ต่ำ PE ต่ำ ROE สูง อาจเป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงสูง (สะท้อนออกทาง PE) หรืออาจจะมีมูลค่าต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน อันนี้ต้องเข้าไปดูรายละเอียดการดำเนินงานของบริษัท ถ้าธุรกิจดี ไม่เสี่ยงอย่างที่ตลาดคิดก็น่าลงทุนมาก
หุ้นที่ PBV สูง PE สูง ROE ต่ำ หุ้นแบบนี้อันตรายมาก เพราะผลตอบแทนผู้ถือหุ้นต่ำ PE กลับสูง และเชื่อว่าต้องสูงมากถึงสามารถดึง PBV ให้สูงตามไป ด้วย
-
- Verified User
- โพสต์: 2690
- ผู้ติดตาม: 0
ลองคำนวณพื้นฐาน ROI Margin_of_Safety ROE P/BV
โพสต์ที่ 7
หุ้นที่ PBV สูง PE ต่ำ ROE สูง หุ้นแบบนี้อาจเป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงสูง หรือความไม่แน่นอนของการทำกำไรไม่แน่นอน หรือบางครั้งราคาสูงเกินมูลค่าไปแล้วก็ได้ เพราะผลตอบแทนผู้ถือหุ้นสูงมาก แต่ PEกลับต่ำมาก การที่ROEสูงอาจเป็นเพราะมี หนี้สินมากกว่าทุนมากๆก็ได้ แน่นอนครับว่าหนี้สินมากๆก็นำมาซึ่งความเสี่ยงที่สูงตามไปด้วย
ทั้งหมดนี้เราต้องดูพื้นฐานทางธุรกิจประกอบกันเพื่อให้เป็นการยืน ยันซึ่งกันและกันว่า ทั้งธุรกิจซึ่งเป็นเหตุนั้นส่งผลให้ผลที่ได้ออกมาคืออัตราส่วนต่างๆนั้นออก มาในรูปแบบใด
-
- Verified User
- โพสต์: 2690
- ผู้ติดตาม: 0
ลองคำนวณพื้นฐาน ROI Margin_of_Safety ROE P/BV
โพสต์ที่ 8
ตัวอย่างการคำนวณของจริง
จะใช้
BECL เป็นกรณีศึกษา
http://www.set.or.th/set/companyhighlig ... country=TH
ณ 18/08/2553
==
P/BV=0.80
PE=8.57
ROE(%)=9.51
อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน(%)=6.83
ราคาล่าสุด(บาท)=18.30
ROI = (ROE+Yield))/PBV*100
ROI = (9.51+6.83)/0.80*100=16.34/80 =20.425%
จะใช้
BECL เป็นกรณีศึกษา
http://www.set.or.th/set/companyhighlig ... country=TH
ณ 18/08/2553
==
P/BV=0.80
PE=8.57
ROE(%)=9.51
อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน(%)=6.83
ราคาล่าสุด(บาท)=18.30
ROI = (ROE+Yield))/PBV*100
ROI = (9.51+6.83)/0.80*100=16.34/80 =20.425%
-
- Verified User
- โพสต์: 2690
- ผู้ติดตาม: 0
ลองคำนวณพื้นฐาน ROI Margin_of_Safety ROE P/BV
โพสต์ที่ 11
แนะนำา อ่าน ต่อ
ที่มา
http://www.sarut-homesite.net/pe-pbv-%e ... %e0%b8%b2/
ที่มา
http://www.sarut-homesite.net/pe-pbv-%e ... %e0%b8%b2/
ในมุมมองของผม ส่วนใหญ่การลงทุนที่ผ่านมาที่ทำให้ผมประสบความสำเร็จอยู่ซ้ำๆคือ หุ้นประเภท 2 ที่มี ROE สูงแม้จะมี P/BV สูง … เพราะฉะนั้นเวลาลงทุนจริงๆ ผมแทบจะไม่ได้มอง P/BV เลยครับ ส่วนใหญ่ก็จะมอง P/E ROE และอนาคตของบริษัทซะมากกว่า ซึ่งตอนนี้มาดูหุ้นใน Port ของผม ก็เป็นหุ้นที่มี P/BV อยู่ในระดับ 3 – 4 เท่าทั้งนั้น (มีเพียงตัวเดียวที่ P/BV ประมาณ 1 เท่าหน่อยๆ) และ ROE ประมาณ 30-40%
สาเหตุที่ผมเลือกหุ้นที่มี ROE สูงมากกว่าหุ้นที่มี P/BV ต่ำ เพราะการลงทุนแบบเน้นคุณค่านั้น ก็แบ่งออกเป็น 2 แนวหลักๆคือ แนวเกรแฮมที่เน้นหุ้นที่ราคาถูกเพียงอย่างเดียว ซึ่งจะเน้นการซื้อหุ้นที่ P/BV ต่ำ P/E ต่ำ และแนวที่ 2 คือ แนว Buffett ที่เน้นหุ้นที่มีคุณภาพสูงราคาเหมาะสม คือซื้อที่มี ROE สูงอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มจะดีต่อไป ในขณะที่ P/E ก็ไม่แพงมากเกินไป การลงทุนทั้ง 2 แนวนั้นถ้าจริงๆแล้วผมว่าใช้ได้ดีทั้งคู่ แต่จากผลงานของทั้งบัฟเฟตเทียบกับเกรแฮมก็จะเห็นว่าแม้เกรแฮมจะทำผลงานได้ดี แต่ Buffett นั้นทำผลงานได้ดีกว่ามาก …
แล้วเมื่อไหร่เราถึงจะควรซื้อหุ้นที่มี ROE ต่ำและมี P/BV ต่ำ?
1. เมื่อนักลงทุนเป็นนักลงทุนที่อาจจะไม่มีความรู้หรือไม่มีเวลาติดตามข่าวสาร การลงทุนอย่างต่อเนื่อง การลงทุนในหุ้นที่มี P/E และ P/BV ต่ำหลายๆตัว (ผมว่าอย่างต่ำต้อง 10 ตัว) เนื่องจากเป็นการลงทุนที่มีการพิสูจน์มาระดับหนึ่งแล้วว่าให้ผลตอบแทนที่ชนะ ตลาดได้ แต่สำหรับคนที่มีความรู้ในด้านการลงทุนด้านธุรกิจ และต้องการผลตอบแทนที่สูงกว่า ผมว่าการซื้อหุ้น P/BV ต่ำคงไม่ใช่คำตอบที่ดีเท่าไหร่
2. เมื่อเราเจอหุ้นที่มีพื้นฐานเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน สมมติมีหุ้นตัวหนึ่ง ในอดีตอาจจะมีผลกำไรที่ไม่ค่อยดีทำให้มีค่า ROE ต่ำอยู่นาน แต่ถ้าเรามีข้อมูลเพียงพอว่าบริษัทมีพื้นฐานที่เปลี่ยนไป เช่น มีการลงทุนในโครงการบางอย่างที่ได้ผลดีมากและสามารถสร้างกำไรในอนาคตได้เป็น กอบเป็นกำ ซึ่ง ROE ในอนาคตจะเพิ่มสูงขึ้น ถ้าเรามีโอกาสได้เจอหุ้นแบบนี้ โอกาสที่จะกำไรหลายๆเท่าต้วนั้นมีสูงมาก หุ้นพวกนี้เห็นได้บ่อยๆในกลุ่มธุรกิจวัฏจักร ที่อยู่ในช่วงต่ำสุดของ Cycle และกำลังมีแนวโน้มที่ดี ในอดีตก็จะเห็นหุ้นเรือเมื่อหลายๆปีก่อนมี ROE ต่ำมากๆ P/BV ก็ต่ำมากๆเช่นกัน จนค่าระวางเพิ่มขึ้น ROE ก็เพิ่มขึ้นสูงถึงระดับ 100% ใครได้ซื้อหุ้นพวกนี้ไว้ลงทุนระยะยาวจนปัจจุบันน่าจะทำกำไรได้หลาย 10 เท่าภายในระยะเวลาไม่นานมากนัก
จริงๆแล้วค่า ROE นี่ยังมีความหมายลึกๆที่สามารถเขียนได้อีกเยอะเลย .. ยังไงผมจะเก็บเอาไว้ต่อในคราวหน้าละกันนะครับ ..
####
ROE (ต่อ)
เมื่อบริษัทใดๆก็ตาม ทำธุรกิจมีกำไร บริษัทมีทางเลือกหลักอยู่ 4 ทางในการจัดสรรเงินดังกล่าว ได้แก่
1. เก็บเงินไว้ลงทุนต่อ – ถ้าบริษัทมีแผนในการลงทุน และคิดว่าการเก็บกำไรเอาไว้ลงทุนต่อ จะทำให้บริษัทมีกำไรในอนาคตที่ดีขึ้นก็เป็นทางเลือกที่ดี
2. เก็บเงินไว้จ่ายคืนหนี้ – ถ้าบริษัทมีหนี้สินมากเกินไป หรือภาระดอกเบี้ยสูงซึ่งทำให้บริษัทความเสี่ยงมาก บริษัทก็ควรเก็บเงินบางส่วนไว้จ่ายคืนหนี้สินเพื่อลดภาระดอกเบี้ยและลดความ เสี่ยง
3. จ่ายออกมาเป็นเงินปันผล – ถ้าบริษัทไม่มีแผนในการใช้เงินลงทุน การจ่ายเงินสดคืนออกมาให้กับผู้ถือหุ้นก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะการที่บริษัทเก็บเงินสดไว้กับบริษัทมากๆ โดยเอาเงินไปฝากธนาคารจะให้ผลตอบแทนที่ต่ำ สู้จ่ายออกมาเป็นเงินปันผล แล้วให้ผู้ถือหุ้นเอาเงินไปลงทุนต่อเองจะดีกว่า
4. ซื้อหุ้นคืน – กรณีที่บริษัทมีเงินสดเหลือและไม่มีแผนในการลงทุน พร้อมกับการที่ราคาหุ้นของบริษัทนั้นมีมูลค่าต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง บริษัทนั้นอาจจะนำกำไรที่เหลือมาซื้อหุ้นของบริษัทคืน เพื่อทำให้จำนวนหุ้นน้อยลง กำไรต่อหุ้นก็จะดีขึ้น รวมถึงปันผลในอนาคตก็จะสูงขึ้นเพราะตัวหารน้อยลง
ทางเลือกทั้ง 4 วิธีนั้นสามารถแสดงถึงวิธีการบริหารจัดการกับเงินของบริษัทได้เป็นอย่างดี และทางเลือกทั้ง 4 นั้นก็มีผลกระทบกับค่า ROE โดยแสดงเป็นตัวอย่างได้ดังนี้
บริษัท A – อยู่ในธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทเห็นว่าการเก็บผลกำไรไว้ลงทุนต่อจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า บริษัทจึงไม่จ่ายเงินปันผลออกมาและเก็บเงินไปลงทุนทั้งหมด ถ้าเราดูจาก ROE จะเห็นว่าค่า E จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเพราะบริษัทกำไรจะไปทำให้ E เพิ่มขึ้น (เพราะบริษัทไม่ได้จ่ายเป็นเงินปันผลออกมา) แต่ในขณะเดียวกันเมื่อบริษัทลงทุนเพิ่มขึ้นรายได้ก็เพิ่มขึ้น กำไร (Return) ก็เพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้น ROE ของบริษัท A จะยังคงสูงต่อไป ตราบใดก็ตามที่บริษัท A สามารถนำไปลงทุนได้อย่างเหมาะสม (สูงกว่าค่า ROE เดิมของบริษัท) หุ้น A จะถือว่าเป็นหุ้น Growth Stock ที่น่าลงทุนตัวหนึ่ง
บริษัท B – อยู่ในธุรกิจที่ผ่านช่วงลงทุนครั้งใหญ่มาไม่นาน ในอดีตบริษัทต้องลงทุนขยายกำลังการผลิตครั้งใหญ่เพื่อให้สอดคล้องกับความ ต้องการสินค้าของบริษัทจนทำให้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาบริษัทต้องกู้หนี้ยืม สิ้นเป็นจำนวนมากทำให้อัตราส่วน D/E ของบริษัทเพิ่มสูงขึ้นถึง 2.5 เท่า บริษัทเห็นว่าการมีหนี้สินมากจะทำให้ความเสียงของบริษัทนั้นสูงเกินไป บริษัทจึงเก็บผลกำไรไว้คืนหนี้สิ้นเพื่อลด D/E ลงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ จะเห็นว่าทางเลือกนี้ทำให้ค่า E เพิ่มขึ้น (เพราะกำไรแล้วไม่จ่ายออกมาเป็นปันผล) แต่อย่างไรก็ ทั่วไปเมื่อบริษัทมีการลงทุนครั้งใหญ่แนวโน้มรายได้ของบริษัทมักจะอยู่ใน ช่วงขาขึ้น (ถ้าบริษัทคาดการณ์ถูก) ทำให้กำไรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นค่า ROE ก็จะคงอยู่ในระดับสูง การคืนหนี้ก็จะทำให้บริษัทนั้นมีผลตอบแทนที่ดีในระดับความเสี่ยงที่ลดลงได้ บริษัท B นั้นจะเห็นตัวอย่างได้ชัดเจนจากหุ้น cycle ในช่วงต้อนๆของวงจรขาขึ้นบริษัทจะลงทุนเป็นจำนวนมาก แล้วค่อยมาคืนหนี้ทีหลัง ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดหุ้น B ก็น่าลงทุนไม่น้อยเหมือนกัน
บริษัท C – อยู่ในธุรกิจที่อิ่มตัวแล้ว แทบไม่มีการเติบโต รายได้และกำไรคงที่มาหลายปี แต่ในขณะเดียวกันเมื่อบริษัทไม่เห็นการเติบโตบริษัทจึงไม่จำเป็นต้องลงทุน เพิ่มเติมทำให้สามารถจ่ายปันผลได้ 100% ถึงแม้ว่ากำไรจะไม่เพิ่ม (R คงที่) แต่ค่า E ก็ไม่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน (ได้กำไรมาเท่าไหร่ก็จ่ายปันผลหมด จึงไม่มีสะสมเป็นกำไร) ค่า ROE ก็จะคงที่ต่อไป ถ้า ROE ของบริษัทอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องเช่น 15% ติดต่อกันนานๆ หุ้น C จะจัดได้ว่าเป็นหุ้นปันผลที่น่าลงทุนอีกตัวหนึ่ง
บริษัท D – เหมือนกับบริษัท C ทุกประการ แต่เนื่องจากผู้บริหารเห็นว่าหุ้น D ในกระดานนั้นมีราคาถูกมาก แทนที่บริษัทจะจ่ายออกมาเป็นเงินปันผล บริษัทจึงซื้อหุ้นคืนจากตลาดแทน การซื้อหุ้นคืนนั้นทำให้ส่วนทุนนั้นลดลง (ค่า E ลดลง) ถ้าบริษัทซื้อหุ้นคืนทุกปีโดยใช้เงินเท่ากับกำไรที่ทำได้ในแต่ละปีค่า E จะคงที่ไปเรื่อยๆ ถึงแม้ค่า R จะไม่เพิ่มขึ้น แต่ ROE ของบริษัทจะยังคงอยู่ในระดับเดิมได้ต่อไป
ถ้าหุ้นทั้ง 4 ตัวนั้นมีค่า ROE ที่สูงอยู่แล้ว และบริษัทสามารถใช้ทางเลือกทั้ง 4 ในการบริษัทเงินเพื่อทำให้ค่า ROE ไม่ลดต่ำลงจากเดิมได้ หุ้นทั้ง 4 ตัวนั้นจะจัดได้ว่าเป็นหุ้นที่น่าลงทุนได้ทั้งหมด
-
- Verified User
- โพสต์: 2690
- ผู้ติดตาม: 0
ลองคำนวณพื้นฐาน ROI Margin_of_Safety ROE P/BV
โพสต์ที่ 13
และ เพิ่ม GRowth factor ยัง Earning
สมมติ บ.ขาว
นั้น
มีกำไร 5000ล้าน
และ กำไร เติบโต แบบทบต้น สูงในอัตรา 36% ต่อปี
กะว่าจะถือครอง 10 ปี หยุดโตเลย.
72/36% เท่ากับ double ทุกๆ 2 ปี
10/2ปี double 5 ครั้ง 2ยกกำลัง5 =32x
เท่ากับใน 10ปี กำไร จะกลายเป็น 5000x32=160,000บาท
ถ้า PE ตอนนั้น เหลือ10 เท่า จะมี Market Cap =1.6ล้านบาท
----
แต่ปัจจุบัน PE 27x = มุลค่าตลาด 5000x27x=135000บาท
135000/PBV 9 เท่า=Book 15000 ไม่ต้องสน
ว่า
ิbook จะน้อยกว่า ราคาตลาด ถึง9เท่า
สนแต่ศักยภาพทำกำไร ในอนาคต...มิติเดียว
*************
สมมติ บ.ขาว
นั้น
มีกำไร 5000ล้าน
และ กำไร เติบโต แบบทบต้น สูงในอัตรา 36% ต่อปี
กะว่าจะถือครอง 10 ปี หยุดโตเลย.
72/36% เท่ากับ double ทุกๆ 2 ปี
10/2ปี double 5 ครั้ง 2ยกกำลัง5 =32x
เท่ากับใน 10ปี กำไร จะกลายเป็น 5000x32=160,000บาท
ถ้า PE ตอนนั้น เหลือ10 เท่า จะมี Market Cap =1.6ล้านบาท
----
แต่ปัจจุบัน PE 27x = มุลค่าตลาด 5000x27x=135000บาท
135000/PBV 9 เท่า=Book 15000 ไม่ต้องสน
ว่า
ิbook จะน้อยกว่า ราคาตลาด ถึง9เท่า
สนแต่ศักยภาพทำกำไร ในอนาคต...มิติเดียว
*************
-
- Verified User
- โพสต์: 2690
- ผู้ติดตาม: 0
ลองคำนวณพื้นฐาน ROI Margin_of_Safety ROE P/BV
โพสต์ที่ 14
ตัวอย่าง
บ. grade AAA ที่ PBV >5เท่า
http://finance.yahoo.com/q/ks?s=KO+Key+Statistics
Price/Book (mrq): 5.05
Trailing P/E (ttm, intraday): 17.55
Return on Equity (ttm): 30.55%
บ. grade AAA ที่ PBV >5เท่า
http://finance.yahoo.com/q/ks?s=KO+Key+Statistics
Price/Book (mrq): 5.05
Trailing P/E (ttm, intraday): 17.55
Return on Equity (ttm): 30.55%
-
- Verified User
- โพสต์: 2690
- ผู้ติดตาม: 0
ลองคำนวณพื้นฐาน ROI Margin_of_Safety ROE P/BV
โพสต์ที่ 17
ปัญหาคือเราที่สามารถทำนาย อนาคตได้ ถูกต้องและ กำไร เติบโต แบบทบต้น สูงในอัตรา 36% ต่อปี
กะว่าจะถือครอง 10 ปี หยุดโตเลย.
จึงต้องพึ่งข้อมูล สถิติ ใน อดีต
ว่า การประมาณการของ เรานั้น มี โอกาสสูงแค่ไหน
-----
p181 บทที่ 7 Commentary "Intelligent Investor" Revised Editionโดย B Garham และ Commentary by Jason Zweig นั้น
http://www.jasonzweig.com/book_investor.html
เก็บข้อมูล จาก50ปี ของ research ของ Sanford C Bernstein & co.
พบว่า
>>>
1. เพียง10% ของ บริษัทใหญ่ US สามารถเพิ่ม Earning 20% ต่อปี อย่างต่อเนื่องติดต่อกัน 5 ปี
2. เพียง3% ของ บริษัทใหญ่ US สามารถเพิ่ม Earning 20% ต่อปี อย่างต่อเนื่องติดต่อกัน 10 ปี
3. และไม่มี หรือ 0%ของ บริษัทใหญ่ US สามารถเพิ่ม Earning 20% ต่อปี อย่างต่อเนื่องติดต่อกัน 15ปี ติดกัน
-
- Verified User
- โพสต์: 807
- ผู้ติดตาม: 0
ลองคำนวณพื้นฐาน ROI Margin_of_Safety ROE P/BV
โพสต์ที่ 18
สุดยอดเลย มารอฟังด้วย
อย่ายอมแพ้
-
- Verified User
- โพสต์: 2690
- ผู้ติดตาม: 0
ลองคำนวณพื้นฐาน ROI Margin_of_Safety ROE P/BV
โพสต์ที่ 19
Figure 7-1 ของ Jason Zweig p182
ได้ให้ ต.ย. ราคา และ PE ของ บ โตเร็ว ชื่อดัง 3 บริษัท ซึ่ง
โตต่อเนื่อง ติดต่อ กัน 5 ปี 1995-1999
ได้แก่ GE Homedepot SunMicrosystem
ซึ่งทำให้ มีpe สูงถึง 53 , 68 , 97 ตามลำดับ
Figure 7-2 ปี 2002-2003
เพียง ปีเดียว
GE 51-->24
HomeDepot 68-->23
Sun 38-->3
<ซึ่งภาวะตลาดโดยรวม ปี 2002-2003 ของอเมริกา ลงหนักด้วย>
***
นั่นหมายถึง
บางครั้ง Growth อาจจะสะดุดได้ ดวย ภาวะ ตลาด หรือด้วย ตัวของบริษัท เอง
แต่กำไร ที่ได้มา ห้า ปี ก็ จะมาเจ้ง เอาปี ที่หก
----
คล้าย ทฤษภีดาวนิดๆ
อ่านเพิ่ม
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?i ... m&group=11
---
เพราะฉะนั้น การตาม บริษัท ที่ มี การเติบโตสูงๆ และ ราคา ไปมากแล้ว
นั้น ....ก็ต้องรู้ด้านนี้ด้วย
***
ตัวอย่าง p.473
ถึง
บ CISCO
march 27,2000 มี Market Cap $548billion สูงสุดในโลก
PE ที่ 219เท่า
ใช่
ไม่ได้พิมพ์ผิด
219เท่า
---
ความเป็นมาต่อ จากนั้น
จะมาเล่าต่อ
ได้ให้ ต.ย. ราคา และ PE ของ บ โตเร็ว ชื่อดัง 3 บริษัท ซึ่ง
โตต่อเนื่อง ติดต่อ กัน 5 ปี 1995-1999
ได้แก่ GE Homedepot SunMicrosystem
ซึ่งทำให้ มีpe สูงถึง 53 , 68 , 97 ตามลำดับ
Figure 7-2 ปี 2002-2003
เพียง ปีเดียว
GE 51-->24
HomeDepot 68-->23
Sun 38-->3
<ซึ่งภาวะตลาดโดยรวม ปี 2002-2003 ของอเมริกา ลงหนักด้วย>
***
นั่นหมายถึง
บางครั้ง Growth อาจจะสะดุดได้ ดวย ภาวะ ตลาด หรือด้วย ตัวของบริษัท เอง
แต่กำไร ที่ได้มา ห้า ปี ก็ จะมาเจ้ง เอาปี ที่หก
----
คล้าย ทฤษภีดาวนิดๆ
อ่านเพิ่ม
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?i ... m&group=11
---
เพราะฉะนั้น การตาม บริษัท ที่ มี การเติบโตสูงๆ และ ราคา ไปมากแล้ว
นั้น ....ก็ต้องรู้ด้านนี้ด้วย
***
ตัวอย่าง p.473
ถึง
บ CISCO
march 27,2000 มี Market Cap $548billion สูงสุดในโลก
PE ที่ 219เท่า
ใช่
ไม่ได้พิมพ์ผิด
219เท่า
---
ความเป็นมาต่อ จากนั้น
จะมาเล่าต่อ
-
- Verified User
- โพสต์: 2690
- ผู้ติดตาม: 0
ลองคำนวณพื้นฐาน ROI Margin_of_Safety ROE P/BV
โพสต์ที่ 22
บ้างก็ว่า************
บ. ขาว
PBV=9x
PE=27x
ROE=PE/PBV
ROE=9/27=33.33%
****************
บ. ดำ
PBV=1x
PE=3x
ROE=1/3=33.33%
************
ตลาดมีประสิทธิภาพสูง
บ. ที่ มี P/BV 9 เท่าก็เพราะว่า
เขามีค่าเท่านั้นจริงๆ
เช่น ค่า Goodwill ค่าBrandname หรือ ค่าเวลา ที่กว่า จะจัดสร้าง Distribution center ของ Modern Trade ต่างๆไม่ใช่ว่า จะทำได้ ทันที
ส่วน บ. ทีมี P/BV ต่ำนั้น
เพราะิินนา มันสูงเกินจริง เช่น ซื้อรถเข็นคันละ สามหมื่น กันว่าไป
-
- Verified User
- โพสต์: 2690
- ผู้ติดตาม: 0
ลองคำนวณพื้นฐาน ROI Margin_of_Safety ROE P/BV
โพสต์ที่ 24
.p181
"Like spacecraft that pick up speed as they rise unto the Earth's stratosphere, growth stocks often seem to defy gravity."
[ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว...แบบไทยๆ]
"A great company is not a great investment if you pay too much for the stock"
[เขาซื้อBrandnameตอนลดราคาsaleแย่งกันเลย แต่นักลงทุนคงจะบ้าถ้าแย่งกันซื้อบ.เยี่ยมยอดตอนราคาขึ้นnew highๆทุกๆวัน...ผู้เขียน]
"And when stocks grow faster than companies, investors always end up sorry"
"Like spacecraft that pick up speed as they rise unto the Earth's stratosphere, growth stocks often seem to defy gravity."
[ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว...แบบไทยๆ]
"A great company is not a great investment if you pay too much for the stock"
[เขาซื้อBrandnameตอนลดราคาsaleแย่งกันเลย แต่นักลงทุนคงจะบ้าถ้าแย่งกันซื้อบ.เยี่ยมยอดตอนราคาขึ้นnew highๆทุกๆวัน...ผู้เขียน]
"And when stocks grow faster than companies, investors always end up sorry"
-
- Verified User
- โพสต์: 2690
- ผู้ติดตาม: 0
ลองคำนวณพื้นฐาน ROI Margin_of_Safety ROE P/BV
โพสต์ที่ 25
Cisco Systems, Inc. (CSCO) On Aug 24: 21.13 0.00 (0.00%)
http://finance.yahoo.com/q/ks?s=CSCO+Key+Statistics
Market Cap (intraday)5: 120.19B
Enterprise Value (Aug 25, 2010)3: 95.61B
Trailing P/E (ttm, intraday): 15.91
Forward P/E (fye Jul 31, 2012)1: 10.62
PEG Ratio (5 yr expected): 1.08
Price/Sales (ttm): 3.00
Price/Book (mrq): 2.71
Enterprise Value/Revenue (ttm)3: 2.39
Enterprise Value/EBITDA (ttm)3: 8.54
http://finance.yahoo.com/q/ks?s=CSCO+Key+Statistics
Market Cap (intraday)5: 120.19B
Enterprise Value (Aug 25, 2010)3: 95.61B
Trailing P/E (ttm, intraday): 15.91
Forward P/E (fye Jul 31, 2012)1: 10.62
PEG Ratio (5 yr expected): 1.08
Price/Sales (ttm): 3.00
Price/Book (mrq): 2.71
Enterprise Value/Revenue (ttm)3: 2.39
Enterprise Value/EBITDA (ttm)3: 8.54
-
- Verified User
- โพสต์: 2690
- ผู้ติดตาม: 0
ลองคำนวณพื้นฐาน ROI Margin_of_Safety ROE P/BV
โพสต์ที่ 27
-
- Verified User
- โพสต์: 2690
- ผู้ติดตาม: 0
ลองคำนวณพื้นฐาน ROI Margin_of_Safety ROE P/BV
โพสต์ที่ 28
-
- Verified User
- โพสต์: 2690
- ผู้ติดตาม: 0
ลองคำนวณพื้นฐาน ROI Margin_of_Safety ROE P/BV
โพสต์ที่ 29
http://www.set.or.th/en/market/market_statistics.html
Month-Year SET PE
ก.ค.-10 13.34
มิ.ย.-10 12.45
พ.ค.-10 11.71
เม.ย.-10 13.79
มี.ค.-10 14.27
ก.พ.-10 16.35
ม.ค.-10 24.22
ธ.ค.-09 25.56
พ.ย.-09 23.95
ต.ค.-09 26.41
ก.ย.-09 27.4
ส.ค.-09 24.95
ก.ค.-09 21.14
มิ.ย.-09 20.03
พ.ค.-09 19
เม.ย.-09 12.67
มี.ค.-09 11.09
ก.พ.-09 7.85
ม.ค.-09 6.86
ธ.ค.-08 7.01
พ.ย.-08 6.28
ต.ค.-08 6.33
ก.ย.-08 9.06
ส.ค.-08 11.11
ก.ค.-08 11.3
มิ.ย.-08 12.94
พ.ค.-08 14.04
เม.ย.-08 15.26
มี.ค.-08 14.96
ก.พ.-08 16.58
ม.ค.-08 15.24
ธ.ค.-07 17.03
พ.ย.-07 16.29
ต.ค.-07 17.16
ก.ย.-07 15.9
ส.ค.-07 14.21
ก.ค.-07 15.15
มิ.ย.-07 13.63
พ.ค.-07 12.84
เม.ย.-07 11.44
มี.ค.-07 11.01
ก.พ.-07 10.29
ม.ค.-07 9.16
ธ.ค.-06 9.44
พ.ย.-06 10.21
ต.ค.-06 9.6
ก.ย.-06 9.11
ส.ค.-06 9.03
ก.ค.-06 9.34
มิ.ย.-06 9.14
พ.ค.-06 9.62
เม.ย.-06 10.47
มี.ค.-06 9.99
ก.พ.-06 10.85
ม.ค.-06 10.76
ธ.ค.-05 10.14
พ.ย.-05 9.34
ต.ค.-05 9.73
ก.ย.-05 10.3
ส.ค.-05 9.93
ก.ค.-05 9.83
มิ.ย.-05 9.79
พ.ค.-05 9.63
เม.ย.-05 9.97
มี.ค.-05 10.34
ก.พ.-05 11.51
ม.ค.-05 11.37
ธ.ค.-04 10.79
พ.ย.-04 10.57
ต.ค.-04 11.16
ก.ย.-04 11.62
ส.ค.-04 11.65
ก.ค.-04 11.91
มิ.ย.-04 11.75
พ.ค.-04 11.61
เม.ย.-04 12.48
มี.ค.-04 12.5
ก.พ.-04 16.6
ม.ค.-04 16.61
ธ.ค.-03 18.18
พ.ย.-03 14.96
ต.ค.-03 15.19
ก.ย.-03 13.63
ส.ค.-03 13.38
ก.ค.-03 12.24
มิ.ย.-03 11.43
พ.ค.-03 10.43
เม.ย.-03 10.8
มี.ค.-03 10.56
ก.พ.-03 9.89
ม.ค.-03 11.17
ธ.ค.-02 6.98
พ.ย.-02 7.07
ต.ค.-02 7.68
ก.ย.-02 7.41
ส.ค.-02 6.54
ก.ค.-02 7.09
มิ.ย.-02 7.95
พ.ค.-02 6.72
เม.ย.-02 6.27
มี.ค.-02 6.23
ก.พ.-02 6.09
ม.ค.-02 5.7
ธ.ค.-01 4.92
พ.ย.-01 4.82
ต.ค.-01 3.52
ก.ย.-01 3.54
ส.ค.-01 5.47
ก.ค.-01 5.15
มิ.ย.-01 5.55
พ.ค.-01 5.24
เม.ย.-01 5.31
มี.ค.-01 5.24
ก.พ.-01 6.64
ม.ค.-01 6.57
ธ.ค.-00 5.52
พ.ย.-00 5.67
ต.ค.-00 6.13
ก.ย.-00 6.28
ส.ค.-00 7.51
ก.ค.-00 6.71
มิ.ย.-00 7.06
พ.ค.-00 7.37
เม.ย.-00 8.73
มี.ค.-00 9.06
ก.พ.-00 11.61
ม.ค.-00 14.35
-----
sample ซักนิด พอ
----
Month-Year SET PE
ก.ค.-10 13.34
มิ.ย.-10 12.45
พ.ค.-10 11.71
เม.ย.-10 13.79
มี.ค.-10 14.27
ก.พ.-10 16.35
ม.ค.-10 24.22
ธ.ค.-09 25.56
พ.ย.-09 23.95
ต.ค.-09 26.41
ก.ย.-09 27.4
ส.ค.-09 24.95
ก.ค.-09 21.14
มิ.ย.-09 20.03
พ.ค.-09 19
เม.ย.-09 12.67
มี.ค.-09 11.09
ก.พ.-09 7.85
ม.ค.-09 6.86
ธ.ค.-08 7.01
พ.ย.-08 6.28
ต.ค.-08 6.33
ก.ย.-08 9.06
ส.ค.-08 11.11
ก.ค.-08 11.3
มิ.ย.-08 12.94
พ.ค.-08 14.04
เม.ย.-08 15.26
มี.ค.-08 14.96
ก.พ.-08 16.58
ม.ค.-08 15.24
ธ.ค.-07 17.03
พ.ย.-07 16.29
ต.ค.-07 17.16
ก.ย.-07 15.9
ส.ค.-07 14.21
ก.ค.-07 15.15
มิ.ย.-07 13.63
พ.ค.-07 12.84
เม.ย.-07 11.44
มี.ค.-07 11.01
ก.พ.-07 10.29
ม.ค.-07 9.16
ธ.ค.-06 9.44
พ.ย.-06 10.21
ต.ค.-06 9.6
ก.ย.-06 9.11
ส.ค.-06 9.03
ก.ค.-06 9.34
มิ.ย.-06 9.14
พ.ค.-06 9.62
เม.ย.-06 10.47
มี.ค.-06 9.99
ก.พ.-06 10.85
ม.ค.-06 10.76
ธ.ค.-05 10.14
พ.ย.-05 9.34
ต.ค.-05 9.73
ก.ย.-05 10.3
ส.ค.-05 9.93
ก.ค.-05 9.83
มิ.ย.-05 9.79
พ.ค.-05 9.63
เม.ย.-05 9.97
มี.ค.-05 10.34
ก.พ.-05 11.51
ม.ค.-05 11.37
ธ.ค.-04 10.79
พ.ย.-04 10.57
ต.ค.-04 11.16
ก.ย.-04 11.62
ส.ค.-04 11.65
ก.ค.-04 11.91
มิ.ย.-04 11.75
พ.ค.-04 11.61
เม.ย.-04 12.48
มี.ค.-04 12.5
ก.พ.-04 16.6
ม.ค.-04 16.61
ธ.ค.-03 18.18
พ.ย.-03 14.96
ต.ค.-03 15.19
ก.ย.-03 13.63
ส.ค.-03 13.38
ก.ค.-03 12.24
มิ.ย.-03 11.43
พ.ค.-03 10.43
เม.ย.-03 10.8
มี.ค.-03 10.56
ก.พ.-03 9.89
ม.ค.-03 11.17
ธ.ค.-02 6.98
พ.ย.-02 7.07
ต.ค.-02 7.68
ก.ย.-02 7.41
ส.ค.-02 6.54
ก.ค.-02 7.09
มิ.ย.-02 7.95
พ.ค.-02 6.72
เม.ย.-02 6.27
มี.ค.-02 6.23
ก.พ.-02 6.09
ม.ค.-02 5.7
ธ.ค.-01 4.92
พ.ย.-01 4.82
ต.ค.-01 3.52
ก.ย.-01 3.54
ส.ค.-01 5.47
ก.ค.-01 5.15
มิ.ย.-01 5.55
พ.ค.-01 5.24
เม.ย.-01 5.31
มี.ค.-01 5.24
ก.พ.-01 6.64
ม.ค.-01 6.57
ธ.ค.-00 5.52
พ.ย.-00 5.67
ต.ค.-00 6.13
ก.ย.-00 6.28
ส.ค.-00 7.51
ก.ค.-00 6.71
มิ.ย.-00 7.06
พ.ค.-00 7.37
เม.ย.-00 8.73
มี.ค.-00 9.06
ก.พ.-00 11.61
ม.ค.-00 14.35
-----
sample ซักนิด พอ
----