เสือสนามซ้อม หมูสนามจริง
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
เสือสนามซ้อม หมูสนามจริง
โพสต์ที่ 1
ผมอยากแนะนำเพื่อนๆน้องๆ นักลงทุนหน้าใหม่ครับ
สืบเนื่องจาก การที่ผมได้แนะนำหลายๆคนเข้ามาลงทุนในหุ้น
ช่วงที่ผ่านมา
ผมแนะนำให้เขาเตรียมตัว สะสมความรู้
ศึกษาหุ้น ศึกษาธุรกิจ และฝึกควบคุมอารมณ์
โดยการดูการซื้อขายประจำวัน
ในขณะที่กำลังสะสมเงินลงทุน
อยากให้มีความพร้อม ทั้งทุน ความรู้ และอารมณ์
เป็นเสือตัวหนึงพร้อมที่กระโดดลงสนาม
แต่หลายหลายคนเห็นราคาหุ้นวิ่งในช่วงที่ผ่านมาแล้ว "เสียดาย"
เอ....แล้วทำไมให้ศึกษาอยู่ได้ ทำไมไม่ให้ซื้อเลย..(พวกเขาคิด)
แต่ผมก็คิดว่า...ไม่อยากให้เหมือนผมตอนเข้าศึกษการลงทุนใหม่ช่วงปี
2007 ตอนตลาด 800 กว่า แล้วปี 2008 ตลาดก็ดิ่ง
ตอนนั้นผมก็คิดว่าตัวเองก็ศึกษามาดี มีความพร้อมทั้ง
ความรู้ และข้อมูลธุรกิจ และคิดว่าควบคุมอารมณ์ในการซื้อขายได้
แต่ที่สุดเป็นแค่ "เสือสนามซ้อม" พอเอาจริง กลายเป็น "หมูสนามจริง"
สืบเนื่องจาก การที่ผมได้แนะนำหลายๆคนเข้ามาลงทุนในหุ้น
ช่วงที่ผ่านมา
ผมแนะนำให้เขาเตรียมตัว สะสมความรู้
ศึกษาหุ้น ศึกษาธุรกิจ และฝึกควบคุมอารมณ์
โดยการดูการซื้อขายประจำวัน
ในขณะที่กำลังสะสมเงินลงทุน
อยากให้มีความพร้อม ทั้งทุน ความรู้ และอารมณ์
เป็นเสือตัวหนึงพร้อมที่กระโดดลงสนาม
แต่หลายหลายคนเห็นราคาหุ้นวิ่งในช่วงที่ผ่านมาแล้ว "เสียดาย"
เอ....แล้วทำไมให้ศึกษาอยู่ได้ ทำไมไม่ให้ซื้อเลย..(พวกเขาคิด)
แต่ผมก็คิดว่า...ไม่อยากให้เหมือนผมตอนเข้าศึกษการลงทุนใหม่ช่วงปี
2007 ตอนตลาด 800 กว่า แล้วปี 2008 ตลาดก็ดิ่ง
ตอนนั้นผมก็คิดว่าตัวเองก็ศึกษามาดี มีความพร้อมทั้ง
ความรู้ และข้อมูลธุรกิจ และคิดว่าควบคุมอารมณ์ในการซื้อขายได้
แต่ที่สุดเป็นแค่ "เสือสนามซ้อม" พอเอาจริง กลายเป็น "หมูสนามจริง"
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
เสือสนามซ้อม หมูสนามจริง
โพสต์ที่ 3
อยากขอคำแนะนำ จากพี่ที่มีประสบการณ์มากกว่าผม
แนะนำน้องๆที่เข้ามาใหม่หน่อยครับ ควรเตรียมตัว หรือ ปฏิบัติ
อย่างไร ในสภาวะตลาดตอนนี้
ผมได้แต่แนะนำว่าศึกษาเจาะจองตัวบริษัทให้มากๆ
เรื่องตลาดเป็นตัวที่สองที่ต้องระวัง
ถูกผิดเข้ามาแชร์ครับ
แนะนำน้องๆที่เข้ามาใหม่หน่อยครับ ควรเตรียมตัว หรือ ปฏิบัติ
อย่างไร ในสภาวะตลาดตอนนี้
ผมได้แต่แนะนำว่าศึกษาเจาะจองตัวบริษัทให้มากๆ
เรื่องตลาดเป็นตัวที่สองที่ต้องระวัง
ถูกผิดเข้ามาแชร์ครับ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
เสือสนามซ้อม หมูสนามจริง
โพสต์ที่ 4
ขอบคุณครับพี่ป้อม โห...หรูกว่าเยอะpor_jai เขียน: หมูหนามจริง สิงห์หนามซ้อม
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2846
- ผู้ติดตาม: 1
เสือสนามซ้อม หมูสนามจริง
โพสต์ที่ 5
ถ้าจะเข้าตลาดตอนนี้ ก็คงต้องหาตัวที่เติบโตสูงแต่ PE ในอนาคต ยังต่ำมั้งครับ การเติบโตก็จะช่วยเป็น เบาะกันกระแทกที่นุ่ม เวลาตลาด Crash เป็น บอลลูน ในเวลาตลาด บูมต่อdome@perth เขียน:อยากขอคำแนะนำ จากพี่ที่มีประสบการณ์มากกว่าผม
แนะนำน้องๆที่เข้ามาใหม่หน่อยครับ ควรเตรียมตัว หรือ ปฏิบัติ
อย่างไร ในสภาวะตลาดตอนนี้
ผมได้แต่แนะนำว่าศึกษาเจาะจองตัวบริษัทให้มากๆ
เรื่องตลาดเป็นตัวที่สองที่ต้องระวัง
ถูกผิดเข้ามาแชร์ครับ
“Market prices are always wrong in the sense that they present a biased view of the future.”, Soros.
Blog about the investment playbook https://www.blockdit.com/alphainvesting
Blog about the investment playbook https://www.blockdit.com/alphainvesting
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 411
- ผู้ติดตาม: 1
เสือสนามซ้อม หมูสนามจริง
โพสต์ที่ 8
เล่นหุ้นมี2องค์ประกอบคือ
ความรู้กับอารมณ์
ความรู้อ่านศึกษาล่วงหน้าได้
อารมณ์ต้องเจอของจริงในตลาดหุ้น
กองทุนฝรั่งบริหารโดยนักเศรษฐศาสตร์โนเบลยังล้มละลาย
ขี่จักรยานไม่ล้มไม่มีวันขี่เป็น
เล่นหุ้นไม่ขาดทุนหนักครั้ง2ครั้งไม่มีทางเป็นเซียน
ความเป็นเซียนเกิดจากการเรียนรู้จากความผิดพลาดของตนเอง
ใครไม่เรียนรู้ก็หมดตัวไม่ได้เป็นเซียน
สําหรับมือใหม่ไปห้ามก็เหมือนไปยุ
ถ้าเจ้าตัวเขาคิดว่าพร้อมก็เอาเลย
แต่เล่นด้วยเงินจํานวนน้อยก่อน
ถ้าทํากําไรติดต่อกันได้สัก5ปีก็เรียกว่าเก่งแล้ว
ความรู้กับอารมณ์
ความรู้อ่านศึกษาล่วงหน้าได้
อารมณ์ต้องเจอของจริงในตลาดหุ้น
กองทุนฝรั่งบริหารโดยนักเศรษฐศาสตร์โนเบลยังล้มละลาย
ขี่จักรยานไม่ล้มไม่มีวันขี่เป็น
เล่นหุ้นไม่ขาดทุนหนักครั้ง2ครั้งไม่มีทางเป็นเซียน
ความเป็นเซียนเกิดจากการเรียนรู้จากความผิดพลาดของตนเอง
ใครไม่เรียนรู้ก็หมดตัวไม่ได้เป็นเซียน
สําหรับมือใหม่ไปห้ามก็เหมือนไปยุ
ถ้าเจ้าตัวเขาคิดว่าพร้อมก็เอาเลย
แต่เล่นด้วยเงินจํานวนน้อยก่อน
ถ้าทํากําไรติดต่อกันได้สัก5ปีก็เรียกว่าเก่งแล้ว
- SEHJU
- Verified User
- โพสต์: 1238
- ผู้ติดตาม: 0
เสือสนามซ้อม หมูสนามจริง
โพสต์ที่ 9
ผมว่าดีออกนะครับพี่โดม เค้าจะได้โดนซะมั่ง เพราะถ้าไม่โดนมันก็คงจะไม่เข็ดหลาบ เหมือนที่พี่โดมโดนมาซึ่งผมก็โดนด้วย เอิ๊กๆ ผมว่าเราก็ทำหน้าที่พี่เลี้ยงของเราให้เต็มที่ ท้ายที่สุดแล้วเค้าจะไปเจออะไรก็สุดแล้วแต่กระแสแห่งฟันด์โฟลว์จะพาไป อาเมน... :lol:
-
- Verified User
- โพสต์: 146
- ผู้ติดตาม: 0
เสือสนามซ้อม หมูสนามจริง
โพสต์ที่ 10
ของบางอย่างห้ามกันยากครับ จนกว่าจะได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง ตอนเข้าตลาดใหม่ๆก่อนวิกฤติก็เป็นเหมือนกันครับ เจ็บไปไม่น้อยเลยทีเดียว
ความโลภไม่เคยปราณีใคร...Greed is Good?
แต่เวลาตัดสินผิดพลาด ตลาดก็ไม่เคยปราณีใครเหมือนกัน..
ความโลภไม่เคยปราณีใคร...Greed is Good?
แต่เวลาตัดสินผิดพลาด ตลาดก็ไม่เคยปราณีใครเหมือนกัน..
- BeSmile
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1178
- ผู้ติดตาม: 0
เสือสนามซ้อม หมูสนามจริง
โพสต์ที่ 13
ความรู้ + ประสบการณ์ ครับ ที่จะทำให้รอดจาก ตลาดแห่งนี้ไปได้
เอาข้อมูลสถิติเก่า ๆ ก่อนนะครับ ที่ต่างชาติเคยเก็บมา อ้างอิงได้ว่า
คนเล่นหุ้น 80-85% ขาดทุน 10-15% กำไร
คนไทยอาจจะเก่งกว่าก็ได้ ผมให้ 30% กำไรเลย :lol:
ดังนั้น จะ ว่า คนเริ่มต้น เป็น หมูหนามซ้อม ไม่ได้ เพราะเค้า ได้ตามค่าเฉลี่ย ที่ต้องขาดทุน
ดังนั้น คนที่เริ่มต้น ควรคิดว่าเข้ามา % ขาดทุน สูงกว่าอยู่แล้ว
แถมสนามนี้ ไม่มี สนามซ้อมนะครับ คุณจะได้เล่นในสนามที่มียอดฝีมือ ระดับ มหาเทพ เทพ เซียน ต่างชาติ ฯลฯ
ทุกคนเล่นในสนามเดียวกัน
ผมว่าเป็น games ที่โหดมากที่มือใหม่ ไม่มี Handicap
ดังนั้น สิ่ง ที่ เราพอจะเตรียมตัว ได้บ้าง ก่อนลงเล่น
คือ ความรู้ และ ประสบการณ์
1. ความรู้ คงได้แต่อ่าน และทำความเข้าใจ ตำราที่มีให้มากที่สุด
2. ประสบกาณ์ มี 2 แบบ คือ
ทางอ้อม คือ อ่านหนังสือ เซียนที่เล่าประสบการณ์ ต่าง ๆ แต่ไม่เจอเองมักไม่ค่อยรู็
ทางตรง คือ เล่นมันเลย เดี่ยวรู้เอง
ดังนั้นถ้าจะเข้า ตลาด ไม่ว่า ตอนนี้ หรือ ตอนไหน ขอให้รู้ตัวเองก่อนที่จะทำอะไร
ถ้าโชคดีเลือกแนวทางถูกเข้ากับจริต ก็เริ่มต้นด้วยดีแล้วล่ะครับ
อย่างผมเอง เมื่อเร็ว ๆ นี้ ยังขาดสติ เลยครับ เวลาความโลภมันบังตา :lol:
ดีที่มีวิชา MOS Burger เลยพอจะรอดมาได้
คราวหน้าไม่รู้จะโชคดี หรือเปล่า
ที่สำคัญคือ ทำบุญเยอะ ๆ นะครับ ก่อนลงเล่น :D
เอาข้อมูลสถิติเก่า ๆ ก่อนนะครับ ที่ต่างชาติเคยเก็บมา อ้างอิงได้ว่า
คนเล่นหุ้น 80-85% ขาดทุน 10-15% กำไร
คนไทยอาจจะเก่งกว่าก็ได้ ผมให้ 30% กำไรเลย :lol:
ดังนั้น จะ ว่า คนเริ่มต้น เป็น หมูหนามซ้อม ไม่ได้ เพราะเค้า ได้ตามค่าเฉลี่ย ที่ต้องขาดทุน
ดังนั้น คนที่เริ่มต้น ควรคิดว่าเข้ามา % ขาดทุน สูงกว่าอยู่แล้ว
แถมสนามนี้ ไม่มี สนามซ้อมนะครับ คุณจะได้เล่นในสนามที่มียอดฝีมือ ระดับ มหาเทพ เทพ เซียน ต่างชาติ ฯลฯ
ทุกคนเล่นในสนามเดียวกัน
ผมว่าเป็น games ที่โหดมากที่มือใหม่ ไม่มี Handicap
ดังนั้น สิ่ง ที่ เราพอจะเตรียมตัว ได้บ้าง ก่อนลงเล่น
คือ ความรู้ และ ประสบการณ์
1. ความรู้ คงได้แต่อ่าน และทำความเข้าใจ ตำราที่มีให้มากที่สุด
2. ประสบกาณ์ มี 2 แบบ คือ
ทางอ้อม คือ อ่านหนังสือ เซียนที่เล่าประสบการณ์ ต่าง ๆ แต่ไม่เจอเองมักไม่ค่อยรู็
ทางตรง คือ เล่นมันเลย เดี่ยวรู้เอง
ดังนั้นถ้าจะเข้า ตลาด ไม่ว่า ตอนนี้ หรือ ตอนไหน ขอให้รู้ตัวเองก่อนที่จะทำอะไร
ถ้าโชคดีเลือกแนวทางถูกเข้ากับจริต ก็เริ่มต้นด้วยดีแล้วล่ะครับ
อย่างผมเอง เมื่อเร็ว ๆ นี้ ยังขาดสติ เลยครับ เวลาความโลภมันบังตา :lol:
ดีที่มีวิชา MOS Burger เลยพอจะรอดมาได้
คราวหน้าไม่รู้จะโชคดี หรือเปล่า
ที่สำคัญคือ ทำบุญเยอะ ๆ นะครับ ก่อนลงเล่น :D
มีสติ - อย่าประมาทในการใช้ชีวิต
-
- Verified User
- โพสต์: 1400
- ผู้ติดตาม: 0
เสือสนามซ้อม หมูสนามจริง
โพสต์ที่ 15
การลงทุนหุ้น จะทำให้เบาก็ได้ หรือหนักมากๆๆจนเป็น Dead match
ชนิดที่ว่า เป็น-ตายไม่เกี่ยว ชนะได้ตังค์ ก็ได้ อยุ่ที่การวางความคาดหวัง
ขั้นต่ำไว้เหมาะสมกับ ความรุ้ความสามารถของผู้เล่น
เท่าที่ประสบกับตัวเองในปีนี้ พบว่า ยิ่งคาดหวังมากเท่าไร ก็ยิ่งพาตัวพาใจ
สู่ Dead Match มากขึ้นทุกวันเท่านั้น
โดยลำพัง Dead Match ไม่อาจทำอันตรายใครได้ ถ้าผู้เล่นเตรียมตัวมาอย่างดี หาทางหนีทีไล่ไว้รอบด้าน และสำคัญคือ วางใจเป็นกลางได้ในทุกสถานการณ์ ก็จะยอมเซ็นต์ชื่อร่วมประลอง ภายใต้เงื่อนไข เป็น-ตาย ไม่เกี่ยว โดยไม่แยแสต่ออะไรได้
สำหรับผมตอนนี้ ประสบการณ์น้อย learning Curve ไม่เกิน 1 ปี ไม่กล้า
เซ็นต์ชื่อเข้าประลองครับ ขอเป็นเพียงผู้ชมที่ขอบเวทีอันทรงเกียรตินี้
ชนิดที่ว่า เป็น-ตายไม่เกี่ยว ชนะได้ตังค์ ก็ได้ อยุ่ที่การวางความคาดหวัง
ขั้นต่ำไว้เหมาะสมกับ ความรุ้ความสามารถของผู้เล่น
เท่าที่ประสบกับตัวเองในปีนี้ พบว่า ยิ่งคาดหวังมากเท่าไร ก็ยิ่งพาตัวพาใจ
สู่ Dead Match มากขึ้นทุกวันเท่านั้น
โดยลำพัง Dead Match ไม่อาจทำอันตรายใครได้ ถ้าผู้เล่นเตรียมตัวมาอย่างดี หาทางหนีทีไล่ไว้รอบด้าน และสำคัญคือ วางใจเป็นกลางได้ในทุกสถานการณ์ ก็จะยอมเซ็นต์ชื่อร่วมประลอง ภายใต้เงื่อนไข เป็น-ตาย ไม่เกี่ยว โดยไม่แยแสต่ออะไรได้
สำหรับผมตอนนี้ ประสบการณ์น้อย learning Curve ไม่เกิน 1 ปี ไม่กล้า
เซ็นต์ชื่อเข้าประลองครับ ขอเป็นเพียงผู้ชมที่ขอบเวทีอันทรงเกียรตินี้
เราต่างตื่นขึ้นมาทุกวัน เพื่อสร้างผลงานให้ได้ เราควรรู้ว่า ในทุกวันมีอะไรที่ต้องทำเพื่อให้เกิดผลงาน หากการตื่นขึ้นมา ไม่ได้เป็นไปเพื่อผลงาน เราก็ไม่สมควรที่จะตื่นขึ้นมาให้รกหูรกตาคนรอบข้าง
- picklife
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2567
- ผู้ติดตาม: 0
เสือสนามซ้อม หมูสนามจริง
โพสต์ที่ 17
ผมประสบการณ์น้อยนิดมากๆครับ แต่ก็อยากแชร์บางมุมที่อาจจะไม่มีคนพูด ขออนุญาติพี่โดมนะครับ
ผมมองว่าการศึกษามาดี แล้วเข้ามาในตลาดหุ้น จะเป็นสิงห์สนามซ้อมหรือหมูสนามจริงก็ตามครับ ผมว่าจงอย่าเสียเวลากับการรำมวยมากเกินไปครับ เพราะประสบการณ์จริงกับที่เรีนยรู้นั้นต่างกันมาก ดังนั้นการจะหวังเข้ามาแล้วไปได้ดีเลยกำไรเลยผมว่าคงยากครับ เพราะมันแล้วแต่สภาพตลาดครับ
สมมุติ
เข้ามาแล้วกำไร แล้วคิดว่าเรามาถูกทางแต่จริงๆแล้วอาจจะผิดก็ได้
เข้ามาแล้วขาดทุน แล้วคิดว่ามาผิดทางจริงๆแล้วอาจจะถูกก็ได้
ผมว่าการเข้ามาครั้งแรกนั้นสำคัญมากเพราะอาจจะเกิดอคติกับวิธีที่ใช้ได้
ดังนั้นผมมองว่าสิ่งที่สำคัญกว่าไม่ใช่ผลกำไร แต่!!เรามาถูกทางจริงหรือปล่าวตะหากครับ ซึ่งการที่จะวัดได้ว่าเรามาถูกทางผมมอวหลักๆอย่างครับ
1.เราประเมินงบมาแล้ว งบออกมาตามที่คาดหรือไม่อย่างไร
2.ราคาหุ้นของเราเทียบกับSETหรือเพื่อนๆนักลงทุนแล้วเราขึ้นดีกว่าหรือไม่
เพราะบางครั้งเราเลือกบริษัทที่ดีแล้วก็จริงและทุกอย่างเป็นไปตามคาด แต่มันอาจจะยังไม่ดีพอ หรือดีที่สุดหรือเปล่า เราสามารถประเมินต่อจากหุ้นเพื่อนๆที่ขึ้นไปได้ว่าเขาหุ้นเขามีอะไรดีกว่าเรา ถ้าไปเพราะอารมณ์ก็แล้วไป แต่ถ้าไปเพราะพื้นฐานก็ต้องถามเราต่อว่า ทำไมเขามองเห็น เราถึงมองไม่เห็น
ซึ่งการจะเติบโตไวๆได้ ผมมองว่าควรต้องรีบลงสนามจริงให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะกาเข้าไปแล้วกำไรเลยเป็นแค่รางวัลปลอบใจในช่วงนั้นเท่านั้น แต่รางวัลผมมองว่ามันมีค่าน้อยมากเมื่อเทียบกับความรู้ในการลงทุน โอกาส และเวลาที่เสียไป ถ้าหากคุณกลัวว่าจะขาดทุนเพราะช่วงนี้SETสูงแล้วหรืออะไรก็ตามที่คุณกลัว คุณก็อาจจะลงแค่ครึ่งเดียวที่ตั้งใจไว้ก็ได้ครับ
ซึ่งการลงสนามซ้อม100ปี ไม่เท่าลงสนามจริงแค่ปีเดียว ดังนั้นโดยส่วนตัวผมมองว่าลุยเลยดีกว่าครับ
ระหว่าง
1.ลงทุนครั้งแรกแล้วกำไร แลกกับเวลา
โอกาส และประสบการณ์ ความรู้ที่เสียไป
2.ลงทุนครั้งแรกกำไรขาดทุนไม่รู้
แลกกับเวลา โอกาส และประสบการณ์ ความรู้ที่ได้มา
ปล.อันนี้Base on จากกรณีที่ผมเจอมานะครับ พลังในการเรียนรู้จากเงินจริงๆ1หมื่น กับเงินในเกมส์3ล้านมันคนลบะเรื่องครับสำหรับผม^^
ผมมองว่าการศึกษามาดี แล้วเข้ามาในตลาดหุ้น จะเป็นสิงห์สนามซ้อมหรือหมูสนามจริงก็ตามครับ ผมว่าจงอย่าเสียเวลากับการรำมวยมากเกินไปครับ เพราะประสบการณ์จริงกับที่เรีนยรู้นั้นต่างกันมาก ดังนั้นการจะหวังเข้ามาแล้วไปได้ดีเลยกำไรเลยผมว่าคงยากครับ เพราะมันแล้วแต่สภาพตลาดครับ
สมมุติ
เข้ามาแล้วกำไร แล้วคิดว่าเรามาถูกทางแต่จริงๆแล้วอาจจะผิดก็ได้
เข้ามาแล้วขาดทุน แล้วคิดว่ามาผิดทางจริงๆแล้วอาจจะถูกก็ได้
ผมว่าการเข้ามาครั้งแรกนั้นสำคัญมากเพราะอาจจะเกิดอคติกับวิธีที่ใช้ได้
ดังนั้นผมมองว่าสิ่งที่สำคัญกว่าไม่ใช่ผลกำไร แต่!!เรามาถูกทางจริงหรือปล่าวตะหากครับ ซึ่งการที่จะวัดได้ว่าเรามาถูกทางผมมอวหลักๆอย่างครับ
1.เราประเมินงบมาแล้ว งบออกมาตามที่คาดหรือไม่อย่างไร
2.ราคาหุ้นของเราเทียบกับSETหรือเพื่อนๆนักลงทุนแล้วเราขึ้นดีกว่าหรือไม่
เพราะบางครั้งเราเลือกบริษัทที่ดีแล้วก็จริงและทุกอย่างเป็นไปตามคาด แต่มันอาจจะยังไม่ดีพอ หรือดีที่สุดหรือเปล่า เราสามารถประเมินต่อจากหุ้นเพื่อนๆที่ขึ้นไปได้ว่าเขาหุ้นเขามีอะไรดีกว่าเรา ถ้าไปเพราะอารมณ์ก็แล้วไป แต่ถ้าไปเพราะพื้นฐานก็ต้องถามเราต่อว่า ทำไมเขามองเห็น เราถึงมองไม่เห็น
ซึ่งการจะเติบโตไวๆได้ ผมมองว่าควรต้องรีบลงสนามจริงให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะกาเข้าไปแล้วกำไรเลยเป็นแค่รางวัลปลอบใจในช่วงนั้นเท่านั้น แต่รางวัลผมมองว่ามันมีค่าน้อยมากเมื่อเทียบกับความรู้ในการลงทุน โอกาส และเวลาที่เสียไป ถ้าหากคุณกลัวว่าจะขาดทุนเพราะช่วงนี้SETสูงแล้วหรืออะไรก็ตามที่คุณกลัว คุณก็อาจจะลงแค่ครึ่งเดียวที่ตั้งใจไว้ก็ได้ครับ
ซึ่งการลงสนามซ้อม100ปี ไม่เท่าลงสนามจริงแค่ปีเดียว ดังนั้นโดยส่วนตัวผมมองว่าลุยเลยดีกว่าครับ
ระหว่าง
1.ลงทุนครั้งแรกแล้วกำไร แลกกับเวลา
โอกาส และประสบการณ์ ความรู้ที่เสียไป
2.ลงทุนครั้งแรกกำไรขาดทุนไม่รู้
แลกกับเวลา โอกาส และประสบการณ์ ความรู้ที่ได้มา
ปล.อันนี้Base on จากกรณีที่ผมเจอมานะครับ พลังในการเรียนรู้จากเงินจริงๆ1หมื่น กับเงินในเกมส์3ล้านมันคนลบะเรื่องครับสำหรับผม^^
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
เสือสนามซ้อม หมูสนามจริง
โพสต์ที่ 18
มันพูดยากเหมือนกันครับ ว่าควรศึกษาให้ดีก่อนค่อยลงทุนpicklife เขียน:เข้ามาฟังพี่โดมด้วยครับ เห็นให้คนอื่นช่วยแนะนำ อยากฟังคุณโดมแนะนำบ้างครับ
เรามาพูดตอนตลาดมันวิ่งซะ อย่างนี้
แต่หากเราพูดตอนตลาดมันซึม หรือขาลง ก็น่าจะมีคนฟังนะ
แต่ยังไงผมเองก็ยังให้แนะนำให้ศึกษาให้ดีให้มั่นใจ ก่อนลงเงินจริงครับ
การรักษาเงินต้นให้อยู่กับเราควรเป็นสิ่งที่พึงคิดอย่างแรก
การศึกษา ทำความเข้าใจธุรกิจที่เราอยากลงทุน
มันไม่ได้ใช้เวลามากอะไร หากเราสวนใจ และใส่ใจที่อยากจะรู้
ผมตั้งกระทู้ขึ้นมาเพราะมันเกิดกับเพื่อนๆผมหลายคน
ซึ่งเขาไม่ได้อ่าน 56-1ไม่ได้สนใจงบการเงิน
แต่เขาเข้าไปอ่านกระทู้ หรือ อ่านข่าวอย่างเดียว
แล้วก็ไปดูราคาย้อนหลัง แล้วก็กระโดดลงสนามเลย
ผมหนักใจจริงๆ เพราะผมเป็นคนชวนพวกเขามาลงทุน
การที่เราซื้อหุ้นแล้วมันขึ้นเลย มันไม่ได้หมายว่าเราคิดถูก
ทางกลับกันเราซื้อแล้วหุ้นลงเลย มันก็ไม่ได้หมายความว่าเราคิดผิด
แต่การลงทุนที่ถูกหลักการ และ ใช้วิธีที่ตนถนัด น่าจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องครับ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
-
- Verified User
- โพสต์: 495
- ผู้ติดตาม: 0
เสือสนามซ้อม หมูสนามจริง
โพสต์ที่ 19
ประสบการณ์ ผม เพียง 2 ปี
ในฐานะ มือใหม่ จริงๆ
คงจะแนะนำว่า ถ้าไม่เจอหุ้นที่เติบโต ดีจริงๆ มีปันผลด้วยแล้ว
ตอนนี้ หาความรู้ กับ เก็นเงินไว้ก่อนดีกว่าครับ
เพราะช่วงปี 2007 ผมก็อยากลงทุนเหมือนกัน
แต่ช่วงนั้น ผมมีความคิดที่ว่า ยังไงรอบของมัน ต้องมาสักวันนึง
เก็บเงินอดทนรอไปไม่กี่ปี ดีกว่า เงินหาย ขาดทุน
ซึ่ง ปลายปี 2008 รอบขาขึ้นก็มา แต่ตอนนั้น ความรู้ผมก็ไม่พร้อมเท่าไร
อาศัยที่ว่า ราคาทุกตัว ต่ำแล้ว จึงซื้อเลย เอาที่รู้จักไว้ก่อน
ปัญหาที่ตามมาของความไม่พร้อม ก็คือผมไม่สามารถ ควบคุม ความกลัว ไว้ได้ กลัวมันลง ได้กำไรไม่เป็น ชิ้นๆ เลย ขายส่ะแล้ว แล้วก็รู้จักหุ้นน้อยตัว เลยทำให้พลาดโอกาสดีดี ไปมากเลยครับ
ขนาดว่าปี 2009 พอร์ตผมแทบจะไม่โต เท่ากับ ตลาดเลย
แต่พอปี 2010 นี้ ประสบการณ์ กับ ความรู้ผมเพิ่มขึ้น ทำให้สามารถ บริหารพอร์ตให้โต ชดเชยกับปี 2009 ที่ทำให้พลาดโอกาส ดีดีไปได้
ถ้าจะมีมือใหม่ มาตอนนี้ ผมคงจะแนะนำไปว่า ถ้าศึกษามาดีแล้ว ก็ซื้อได้เลยครับ มองกันไกลๆหน่อย เลือกบริษัท ที่ดีดี มีปันผล 7-10% ซึ่ง ถ้าเจอบอกผมด้วยนะครับ
เพราะว่าในตลาดหุ้นโอกาสมีเสมอ ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน
ถ้าผมไม่เจอเว็บนี้เข้าล่ะก็ ปานนี้ ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ครับ
ขอบคุณ พี่ๆทุกคนที่ช่วยแชร์ ความรู้ครับ
ในฐานะ มือใหม่ จริงๆ
คงจะแนะนำว่า ถ้าไม่เจอหุ้นที่เติบโต ดีจริงๆ มีปันผลด้วยแล้ว
ตอนนี้ หาความรู้ กับ เก็นเงินไว้ก่อนดีกว่าครับ
เพราะช่วงปี 2007 ผมก็อยากลงทุนเหมือนกัน
แต่ช่วงนั้น ผมมีความคิดที่ว่า ยังไงรอบของมัน ต้องมาสักวันนึง
เก็บเงินอดทนรอไปไม่กี่ปี ดีกว่า เงินหาย ขาดทุน
ซึ่ง ปลายปี 2008 รอบขาขึ้นก็มา แต่ตอนนั้น ความรู้ผมก็ไม่พร้อมเท่าไร
อาศัยที่ว่า ราคาทุกตัว ต่ำแล้ว จึงซื้อเลย เอาที่รู้จักไว้ก่อน
ปัญหาที่ตามมาของความไม่พร้อม ก็คือผมไม่สามารถ ควบคุม ความกลัว ไว้ได้ กลัวมันลง ได้กำไรไม่เป็น ชิ้นๆ เลย ขายส่ะแล้ว แล้วก็รู้จักหุ้นน้อยตัว เลยทำให้พลาดโอกาสดีดี ไปมากเลยครับ
ขนาดว่าปี 2009 พอร์ตผมแทบจะไม่โต เท่ากับ ตลาดเลย
แต่พอปี 2010 นี้ ประสบการณ์ กับ ความรู้ผมเพิ่มขึ้น ทำให้สามารถ บริหารพอร์ตให้โต ชดเชยกับปี 2009 ที่ทำให้พลาดโอกาส ดีดีไปได้
ถ้าจะมีมือใหม่ มาตอนนี้ ผมคงจะแนะนำไปว่า ถ้าศึกษามาดีแล้ว ก็ซื้อได้เลยครับ มองกันไกลๆหน่อย เลือกบริษัท ที่ดีดี มีปันผล 7-10% ซึ่ง ถ้าเจอบอกผมด้วยนะครับ
เพราะว่าในตลาดหุ้นโอกาสมีเสมอ ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน
ถ้าผมไม่เจอเว็บนี้เข้าล่ะก็ ปานนี้ ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ครับ
ขอบคุณ พี่ๆทุกคนที่ช่วยแชร์ ความรู้ครับ
- GeneraX
- Verified User
- โพสต์: 1141
- ผู้ติดตาม: 0
เสือสนามซ้อม หมูสนามจริง
โพสต์ที่ 20
ประสบการณ์ผมก็เท่าๆกับ วัน login น่ะครับ
อารมณ์เดียวกับพี่โดมเลยคือ เข้ามาช่วง 800 กว่าตอนต้นปี 08 ถามว่าตอนนั้นพร้อมแค่ไหน ถ้าเอาในแง่การลงทุนเลยก็ไม่มาก แต่ผมอาจจะโชคดีที่ผมมีพื้นฐาน finance อยู่แล้ว ก็เลยเข้าใจความรู้จากหนังสือ พวกของ ดร.นิเวศ, Bufett, Lynch พวกนี้ได้เร็วกว่าคนทั่วไป แต่ก็นั่นแหละครับ....ไม่รอด :lol:
ปีแรกคำนวนจาก time weighted average โดนไป -24% ครับ ซึ่งอาจจะดูน้อยกว่าตลาดแต่ก็ส่วนหนึ่งก็เพราะมีปรับ port ไปเป็นเงินสดส่วนนึงในช่วงก่อนเดือนตุลาด้วยครับ โดยผมคำนวน benefit จากตรงนี้ได้ประมาณ 4% จาก -24% ในปีนั้น
ส่วนตัวนะครับ ในปีแรกข้อผิดพลาดหลักๆของผมคือ ซื้อหุ้นตามคนอื่นครับ โดยที่บางตัวนั้น ไม่ได้ศึกษาเข้าใจให้ถ่องแท้ ซึ่งพอเกิดวิกฤตราคาหล่นลงมา หุ้นพวกนี้แหละครับที่ผมตกใจขายทิ้งก่อนเลย ทั้งๆที่อาจจเป็นโอกาสซื้อที่ดีก็ได้ ถ้าให้ผมเอ่ยทุกคนในนี้รู้จักดีครับ บางตัวถ้าถือตั้งแต่วันนั้น ก็กำไรเป็น 10 เด้งก็มี ในขณะที่บางตัว ราคา ณ วันนี้ไม่ได้ดีกว่า 2 ปีที่แล้วเลย
ที่แปลกคือในช่วงเวลานั้นมีหุ้นบางตัวครับที่ผมซื้อเพราะ เข้าใจและเชื่อมั่นในบริษัทสุดๆ แต่ราคาหล่นลงมาหนักๆ แต่ผมกลับไม่ตกใจหรือเดือนร้อนอะไรมากมายครับ (จริงๆควรซื้อเพิ่มด้วย แต่ตอนนั้นยังไม่กล้า) ในขณะที่หุ้นบางตัวที่เล็งๆไว้แต่ไม่ได้ซื้อ ผมก็ถือโอกาสเป็นเจ้าของเสียเลย
หลังจากนั้นมา หุ้นทุกตัวที่ซื้อต้องเข้าใจให้ได้ก่อนครับว่า โอกาสเติบโตของมันคืออะไร ก็ต้องอ่านข่าวให้มากหน่อยครับ ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ซื้อหุ้นที่คนอื่นแนะนำนะครับ เพียงแต่ว่าฟังมาแล้วต้องมาคิดต่อด้วยว่า เราเข้าใจธุรกิจมากพอที่จะบริหารความเสี่ยงได้รึเปล่า หุ้นดีๆที่ผมพลาดไปปีนี้มีเยอะแยะครับ เช่นพวก internet หรือ ขนส่งไรงี้ ไม่ได้มีเอี่ยวเลยครับ เพราะอ่านมาว่าดีจริงๆ แต่ถ้าไม่เข้าใจว่าดียังไง ผมก็ขอผ่านครับ :D
ที่ว่ามาความหมายก็คือแบบที่พี่ๆว่ากันแหละครับคือ ซื้อแล้วกำไรอาจจะเพราะโชค(หรือเพราะคนอื่นล้วนๆ)ก็ได้ ในขณะที่ซื้อแล้วขาดทุนก็ไม่ได้หมายว่าเราคิดผิด
จริงๆถ้ามือใหม่อยากเข้ามาตอนนี้ ถ้าคิดว่าตัวเองพร้อมจริงๆ แล้วจิตใจรับได้กับการขาดทุนที่อาจจะเกิดขึ้นก็มาเถอะครับ มาเร็วโดนเร็ว port ยังเล็กอยู่ ถ้าผ่านไปได้ผมว่าเป็นการพัฒนาประสบการณ์และจิตใจที่ดีมากเลยครับ เพราะถ้าผ่านไปได้ แล้วต่อไป port เติบโตขึ้น เวลาเจอวิกฤตรอบ 2 ก็น่าจะมีประสบการณ์มากพอที่รู้วาควรทำอย่างไรให้เป็นโอกาส :D ...
ยังไงก็ถือว่าเป็นคนประสบการณ์น้อยมาแชร์กันละกันนะครับ :D
อารมณ์เดียวกับพี่โดมเลยคือ เข้ามาช่วง 800 กว่าตอนต้นปี 08 ถามว่าตอนนั้นพร้อมแค่ไหน ถ้าเอาในแง่การลงทุนเลยก็ไม่มาก แต่ผมอาจจะโชคดีที่ผมมีพื้นฐาน finance อยู่แล้ว ก็เลยเข้าใจความรู้จากหนังสือ พวกของ ดร.นิเวศ, Bufett, Lynch พวกนี้ได้เร็วกว่าคนทั่วไป แต่ก็นั่นแหละครับ....ไม่รอด :lol:
ปีแรกคำนวนจาก time weighted average โดนไป -24% ครับ ซึ่งอาจจะดูน้อยกว่าตลาดแต่ก็ส่วนหนึ่งก็เพราะมีปรับ port ไปเป็นเงินสดส่วนนึงในช่วงก่อนเดือนตุลาด้วยครับ โดยผมคำนวน benefit จากตรงนี้ได้ประมาณ 4% จาก -24% ในปีนั้น
ส่วนตัวนะครับ ในปีแรกข้อผิดพลาดหลักๆของผมคือ ซื้อหุ้นตามคนอื่นครับ โดยที่บางตัวนั้น ไม่ได้ศึกษาเข้าใจให้ถ่องแท้ ซึ่งพอเกิดวิกฤตราคาหล่นลงมา หุ้นพวกนี้แหละครับที่ผมตกใจขายทิ้งก่อนเลย ทั้งๆที่อาจจเป็นโอกาสซื้อที่ดีก็ได้ ถ้าให้ผมเอ่ยทุกคนในนี้รู้จักดีครับ บางตัวถ้าถือตั้งแต่วันนั้น ก็กำไรเป็น 10 เด้งก็มี ในขณะที่บางตัว ราคา ณ วันนี้ไม่ได้ดีกว่า 2 ปีที่แล้วเลย
ที่แปลกคือในช่วงเวลานั้นมีหุ้นบางตัวครับที่ผมซื้อเพราะ เข้าใจและเชื่อมั่นในบริษัทสุดๆ แต่ราคาหล่นลงมาหนักๆ แต่ผมกลับไม่ตกใจหรือเดือนร้อนอะไรมากมายครับ (จริงๆควรซื้อเพิ่มด้วย แต่ตอนนั้นยังไม่กล้า) ในขณะที่หุ้นบางตัวที่เล็งๆไว้แต่ไม่ได้ซื้อ ผมก็ถือโอกาสเป็นเจ้าของเสียเลย
หลังจากนั้นมา หุ้นทุกตัวที่ซื้อต้องเข้าใจให้ได้ก่อนครับว่า โอกาสเติบโตของมันคืออะไร ก็ต้องอ่านข่าวให้มากหน่อยครับ ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ซื้อหุ้นที่คนอื่นแนะนำนะครับ เพียงแต่ว่าฟังมาแล้วต้องมาคิดต่อด้วยว่า เราเข้าใจธุรกิจมากพอที่จะบริหารความเสี่ยงได้รึเปล่า หุ้นดีๆที่ผมพลาดไปปีนี้มีเยอะแยะครับ เช่นพวก internet หรือ ขนส่งไรงี้ ไม่ได้มีเอี่ยวเลยครับ เพราะอ่านมาว่าดีจริงๆ แต่ถ้าไม่เข้าใจว่าดียังไง ผมก็ขอผ่านครับ :D
ที่ว่ามาความหมายก็คือแบบที่พี่ๆว่ากันแหละครับคือ ซื้อแล้วกำไรอาจจะเพราะโชค(หรือเพราะคนอื่นล้วนๆ)ก็ได้ ในขณะที่ซื้อแล้วขาดทุนก็ไม่ได้หมายว่าเราคิดผิด
จริงๆถ้ามือใหม่อยากเข้ามาตอนนี้ ถ้าคิดว่าตัวเองพร้อมจริงๆ แล้วจิตใจรับได้กับการขาดทุนที่อาจจะเกิดขึ้นก็มาเถอะครับ มาเร็วโดนเร็ว port ยังเล็กอยู่ ถ้าผ่านไปได้ผมว่าเป็นการพัฒนาประสบการณ์และจิตใจที่ดีมากเลยครับ เพราะถ้าผ่านไปได้ แล้วต่อไป port เติบโตขึ้น เวลาเจอวิกฤตรอบ 2 ก็น่าจะมีประสบการณ์มากพอที่รู้วาควรทำอย่างไรให้เป็นโอกาส :D ...
ยังไงก็ถือว่าเป็นคนประสบการณ์น้อยมาแชร์กันละกันนะครับ :D
Financial Discipline + Value Investment + Time = Financial Independence
- BeSmile
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1178
- ผู้ติดตาม: 0
เสือสนามซ้อม หมูสนามจริง
โพสต์ที่ 21
อันนี้มันเป็น เทคนิคเม่า ครับ ผมเองก็เคยใช้มาก่อน :lol:dome@perth เขียน:[...
ผมตั้งกระทู้ขึ้นมาเพราะมันเกิดกับเพื่อนๆผมหลายคน
ซึ่งเขาไม่ได้อ่าน 56-1ไม่ได้สนใจงบการเงิน
แต่เขาเข้าไปอ่านกระทู้ หรือ อ่านข่าวอย่างเดียว
แล้วก็ไปดูราคาย้อนหลัง แล้วก็กระโดดลงสนามเลย
ผมหนักใจจริงๆ เพราะผมเป็นคนชวนพวกเขามาลงทุน
...
เขียนให้ ขำ ขำ นะครับ
คุณโดมมี พื้นฐาน VI ที่ดีอยู่แล้ว ควรจะบอก+สอนเค้า ตรง ๆ นะครับ หลังจากนั้นก็ขึ้นกับ บุญที่เค้าทำมาล่ะครับ
trend ขาขึ้น โดยส่วนใหญ่ จะได้เงิน พอหุ้นมัน Sideway หรือ ลง ตอนนั้นล่ะครับ จะเหลือ แต่ตัวจริง
ผมเองยังไม่มั่นใจ เลยว่าจะรอด
มีสติ และ ไม่ประมาท ครับ
มีสติ - อย่าประมาทในการใช้ชีวิต
- picklife
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2567
- ผู้ติดตาม: 0
เสือสนามซ้อม หมูสนามจริง
โพสต์ที่ 22
พี่โดมกลับเมืองไทยแล้วบิกด้วยนะครับ อยากเจอตัวจริงมานาน อิอิdome@perth เขียน:มันพูดยากเหมือนกันครับ ว่าควรศึกษาให้ดีก่อนค่อยลงทุนpicklife เขียน:เข้ามาฟังพี่โดมด้วยครับ เห็นให้คนอื่นช่วยแนะนำ อยากฟังคุณโดมแนะนำบ้างครับ
เรามาพูดตอนตลาดมันวิ่งซะ อย่างนี้
แต่หากเราพูดตอนตลาดมันซึม หรือขาลง ก็น่าจะมีคนฟังนะ
แต่ยังไงผมเองก็ยังให้แนะนำให้ศึกษาให้ดีให้มั่นใจ ก่อนลงเงินจริงครับ
การรักษาเงินต้นให้อยู่กับเราควรเป็นสิ่งที่พึงคิดอย่างแรก
การศึกษา ทำความเข้าใจธุรกิจที่เราอยากลงทุน
มันไม่ได้ใช้เวลามากอะไร หากเราสวนใจ และใส่ใจที่อยากจะรู้
ผมตั้งกระทู้ขึ้นมาเพราะมันเกิดกับเพื่อนๆผมหลายคน
ซึ่งเขาไม่ได้อ่าน 56-1ไม่ได้สนใจงบการเงิน
แต่เขาเข้าไปอ่านกระทู้ หรือ อ่านข่าวอย่างเดียว
แล้วก็ไปดูราคาย้อนหลัง แล้วก็กระโดดลงสนามเลย
ผมหนักใจจริงๆ เพราะผมเป็นคนชวนพวกเขามาลงทุน
การที่เราซื้อหุ้นแล้วมันขึ้นเลย มันไม่ได้หมายว่าเราคิดถูก
ทางกลับกันเราซื้อแล้วหุ้นลงเลย มันก็ไม่ได้หมายความว่าเราคิดผิด
แต่การลงทุนที่ถูกหลักการ และ ใช้วิธีที่ตนถนัด น่าจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องครับ
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
-
- Verified User
- โพสต์: 111
- ผู้ติดตาม: 0
เสือสนามซ้อม หมูสนามจริง
โพสต์ที่ 23
ของอย่างนี้ พูดยาก
ถ้าไม่เคยเจ็บ ก็คงไม่เคยจำ
นักลงทุนหน้าใหม่เห็นกำไรอยู่ตรงหน้า เรื่องอะไรจะมานั่งอ่านตำราเสียเวลาทำกำไร
ผมคิดว่าทางหนึ่งที่พอจะปรามได้ ลองเล่าประวัติคนที่เคยพลาดกับตลาด เช่นคุณศิริวัฒน์ ดูเป็นตัวอย่าง น่าจะลดความคึกคะนองลงได้ แต่คงไม่สามารถเปลี่ยนความคิดได้หรอก
ความคิดที่ตกผลึกแล้ว ย่อมได้มาจากประสบการณ์จริงทั้งดีและโหดร้ายที่บ่มเพาะผ่านช่วงเวลามาระยะหนึ่ง
ตัวผมเองกว่าจะเปลี่ยนแนวคิดมาเป็น VI ได้ ก็ต้องอ่านหนังสือหลายๆ รอบ ซึมซับ ถึงแม้จะไม่เข้าใจ แต่ก็อ่านซ้ำๆ ซากๆ ประกอบกับขาดทุนหนักๆ ทำให้บรรลุสัจธรรมทันที ถ้าเล่นแบบไวไว ก็จะเจ๊งแบบไวไว แต่ถ้าเล่นแบบ VI ก็จะมีความสุขแบบ VI (ลงทุนแล้วมีความสุข)
ถ้าไม่เคยเจ็บ ก็คงไม่เคยจำ
นักลงทุนหน้าใหม่เห็นกำไรอยู่ตรงหน้า เรื่องอะไรจะมานั่งอ่านตำราเสียเวลาทำกำไร
ผมคิดว่าทางหนึ่งที่พอจะปรามได้ ลองเล่าประวัติคนที่เคยพลาดกับตลาด เช่นคุณศิริวัฒน์ ดูเป็นตัวอย่าง น่าจะลดความคึกคะนองลงได้ แต่คงไม่สามารถเปลี่ยนความคิดได้หรอก
ความคิดที่ตกผลึกแล้ว ย่อมได้มาจากประสบการณ์จริงทั้งดีและโหดร้ายที่บ่มเพาะผ่านช่วงเวลามาระยะหนึ่ง
ตัวผมเองกว่าจะเปลี่ยนแนวคิดมาเป็น VI ได้ ก็ต้องอ่านหนังสือหลายๆ รอบ ซึมซับ ถึงแม้จะไม่เข้าใจ แต่ก็อ่านซ้ำๆ ซากๆ ประกอบกับขาดทุนหนักๆ ทำให้บรรลุสัจธรรมทันที ถ้าเล่นแบบไวไว ก็จะเจ๊งแบบไวไว แต่ถ้าเล่นแบบ VI ก็จะมีความสุขแบบ VI (ลงทุนแล้วมีความสุข)
-
- Verified User
- โพสต์: 99
- ผู้ติดตาม: 1
เสือสนามซ้อม หมูสนามจริง
โพสต์ที่ 25
ถ้าเป็นไปได้ผมอยากเป็นสิงฆ์คู่สู้สิบทิศไปเลย(ทั้งซ้อมและสนามจริง) :lol:
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3352
- ผู้ติดตาม: 1
เสือสนามซ้อม หมูสนามจริง
โพสต์ที่ 27
ในมุมมองผม
เอาตัวรอดให้ได้ในตลาดหุ้นต้อง
1. มีสติ รู้ตัวว่าเรากำลังโลภในสิ่งที่สมควรโลภ และกำลังกลัวในสิ่งที่สมควรกลัว (ถ้ายังไม่รู้ว่าอะไรที่ควรโลภและกลัว แสดงว่าความรู้เรายังไม่ถึง ประสบการณ์เรายังไม่ได้ ควรลงทุนในสัดส่วนที่น้อยก่อนเพื่อลองวิชา)
2. มีสติ คุมไม่ให้ความโลภและความกลัวครอบงำจนทำให้ไปโลภในสิ่งที่ไม่สมควรโลภ และกลัวในสิ่งที่ไม่สมควรกลัว
3. มีสติ อย่าไปรักหรือเกลียด อย่าไปยึดติดจนเกินไป เพราะ ทุกสิ่งทุกอย่างไม่เที่ยง ไม่จีรังทั้งนั้น คนเจ๊งหุ้นตายไม่ได้เกิดเพราะเลือกซื้อหุ้นผิด แต่เกิดจากยึดติด
ประสบความสำเร็จในตลาดหุ้นต้อง
1. เอาตัวรอดให้ได้ก่อนค่อยหาทางทำเงิน
2. ขยันทำการบ้าน ศึกษาหุ้นเยอะๆ
3. รู้จุดเป็น จุดตาย ของหุ้นที่เราลงทุน ยกตัวอย่าง เช่น จะเล่นหุ้น Commo ต้องรู้ว่าจุดเป็นจุดตายของหุ้นอยู่ที่ Demand-Supply ไม่ใช่มัวแต่มาดู Business Model ดู Product Chain
เอาตัวรอดให้ได้ในตลาดหุ้นต้อง
1. มีสติ รู้ตัวว่าเรากำลังโลภในสิ่งที่สมควรโลภ และกำลังกลัวในสิ่งที่สมควรกลัว (ถ้ายังไม่รู้ว่าอะไรที่ควรโลภและกลัว แสดงว่าความรู้เรายังไม่ถึง ประสบการณ์เรายังไม่ได้ ควรลงทุนในสัดส่วนที่น้อยก่อนเพื่อลองวิชา)
2. มีสติ คุมไม่ให้ความโลภและความกลัวครอบงำจนทำให้ไปโลภในสิ่งที่ไม่สมควรโลภ และกลัวในสิ่งที่ไม่สมควรกลัว
3. มีสติ อย่าไปรักหรือเกลียด อย่าไปยึดติดจนเกินไป เพราะ ทุกสิ่งทุกอย่างไม่เที่ยง ไม่จีรังทั้งนั้น คนเจ๊งหุ้นตายไม่ได้เกิดเพราะเลือกซื้อหุ้นผิด แต่เกิดจากยึดติด
ประสบความสำเร็จในตลาดหุ้นต้อง
1. เอาตัวรอดให้ได้ก่อนค่อยหาทางทำเงิน
2. ขยันทำการบ้าน ศึกษาหุ้นเยอะๆ
3. รู้จุดเป็น จุดตาย ของหุ้นที่เราลงทุน ยกตัวอย่าง เช่น จะเล่นหุ้น Commo ต้องรู้ว่าจุดเป็นจุดตายของหุ้นอยู่ที่ Demand-Supply ไม่ใช่มัวแต่มาดู Business Model ดู Product Chain
-
- Verified User
- โพสต์: 1980
- ผู้ติดตาม: 0
เสือสนามซ้อม หมูสนามจริง
โพสต์ที่ 28
ง่ายๆ
ก็เงินจริงกะเงินปลอม
สภาพจิตเเละกิเลสมันต่างกันแยะ
ก็เงินจริงกะเงินปลอม
สภาพจิตเเละกิเลสมันต่างกันแยะ
The mother of all evils is speculation, leverage debt. Bottom line, is borrowing to the hilt. And I hate to tell you this, but it's a bankrupt business model. It won't work. It's systemic, malignant, and it's global, like cancer.