ตลาดบ้าคลั่งอย่างนี้ ยังจะมีหุ้น 5 เด้งเหลืออยู่บ้างไม๊
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ตลาดบ้าคลั่งอย่างนี้ ยังจะมีหุ้น 5 เด้งเหลืออยู่บ้างไม๊
โพสต์ที่ 31
ถ้าคนไม่ฝันว่าจะบินได้
ป่านนี้คงยังไม่มีเครื่องบิน
ปัญหาเครื่องบินตกมีไหม
มี
แต่ควรแก้โดยการปรับปรุงให้ตกน้อยลง
ไม่ใช่เลิกสร้างเครื่องบิน
ป่านนี้คงยังไม่มีเครื่องบิน
ปัญหาเครื่องบินตกมีไหม
มี
แต่ควรแก้โดยการปรับปรุงให้ตกน้อยลง
ไม่ใช่เลิกสร้างเครื่องบิน
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
-
- Verified User
- โพสต์: 289
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ตลาดบ้าคลั่งอย่างนี้ ยังจะมีหุ้น 5 เด้งเหลืออยู่บ้างไม๊
โพสต์ที่ 32
ธุรกิจที่มี Profit margin ต่ำ ๆ มักจะถูกหมางเมินสามัญชน เขียน: ...
อันนี้หมายถึงได้หลายเด้งนะครับ
แต่ถ้าหวังเด้งเดียว กลุ่มเติบโตน่าจะพอมีอยู่ครับ
...
สมมติว่าธุรกิจ ๆ หนึ่งมีปัจจัยมาสมังคีกัน ดังนี้
เดิม Profit margin บางเฉียบที่ 5% คือ Cost 95%
แล้วมีเหตุบางประการที่ทำให้ Cost เหลือ 85% (แบบถาวร เช่นลดภาษี หรือลดค่าธรรมเนียม)
ผนวกกับ Revenue growth 20% (ต่อเนื่องสัก 2-3 ปี)
สมังคีกันทำให้ Cost เหลือ 79.2%
ฉับพลัน Profit margin กลายเป็น 20.8%
model การเด้งอย่างนี้ 4 เด้งมีโอกาสเป็นไปได้มั้ยครับ
ขอความเห็น
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 71
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ตลาดบ้าคลั่งอย่างนี้ ยังจะมีหุ้น 5 เด้งเหลืออยู่บ้างไม๊
โพสต์ที่ 33
ขอบคุณพี่หมอที่ให้มุมมองดี ๆ และแรงใจให้ฮึดศึกษาเสมอมาครับAleAle เขียน:อืมมม...สามัญชน เขียน:"ตีลูกให้ไกลถึงดวงจันทร์ แม้ไม่ได้ด่ังฝัน ก็ยังอยู่ท่ามกลางดวงดาว"
ถ้าไม่อยู่บนดาว คงจะอยู่บนดอย รึเปล่าครับพี่
ขอบคุณ คุณ AleAle สำหรับคำเตือนให้รอบคอบ และ ความฮาที่ผมกลั้นอมยิ้มไม่อยู่จริงๆครับ :lovl:
Stay present, One step at a time, One breath at a time.
-
- Verified User
- โพสต์: 286
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ตลาดบ้าคลั่งอย่างนี้ ยังจะมีหุ้น 5 เด้งเหลืออยู่บ้างไม๊
โพสต์ที่ 34
ตัวไหนเหรอครับพี่ TihdnabTihdnab เขียน:ธุรกิจที่มี Profit margin ต่ำ ๆ มักจะถูกหมางเมินสามัญชน เขียน: ...
อันนี้หมายถึงได้หลายเด้งนะครับ
แต่ถ้าหวังเด้งเดียว กลุ่มเติบโตน่าจะพอมีอยู่ครับ
...
สมมติว่าธุรกิจ ๆ หนึ่งมีปัจจัยมาสมังคีกัน ดังนี้
เดิม Profit margin บางเฉียบที่ 5% คือ Cost 95%
แล้วมีเหตุบางประการที่ทำให้ Cost เหลือ 85% (แบบถาวร เช่นลดภาษี หรือลดค่าธรรมเนียม)
ผนวกกับ Revenue growth 20% (ต่อเนื่องสัก 2-3 ปี)
สมังคีกันทำให้ Cost เหลือ 79.2%
ฉับพลัน Profit margin กลายเป็น 20.8%
model การเด้งอย่างนี้ 4 เด้งมีโอกาสเป็นไปได้มั้ยครับ
ขอความเห็น
ในที่สุด ราคาจะวิ่งเข้าหา มูลค่าที่แท้จริง
-
- Verified User
- โพสต์: 13
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ตลาดบ้าคลั่งอย่างนี้ ยังจะมีหุ้น 5 เด้งเหลืออยู่บ้างไม๊
โพสต์ที่ 35
ขอบคุณครับ และเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ^_^สามัญชน เขียน:ถ้าคนไม่ฝันว่าจะบินได้
ป่านนี้คงยังไม่มีเครื่องบิน
ปัญหาเครื่องบินตกมีไหม
มี
แต่ควรแก้โดยการปรับปรุงให้ตกน้อยลง
ไม่ใช่เลิกสร้างเครื่องบิน
แต่ตอนนี้ รู้สึกแปลกๆครับ เหมือนสถานการณ์ต่างๆมันดีแปลกๆจนน่าแปลกใจ(กลัวด้วย)
เพราะคิดว่าเงินทุนต่างชาติออกไปตลาดไทยก็ยังวิ่งที่ 1000 จุดอยู่ได้
วิกฤติต่างๆเกิดขึ้นเราก็ยังปรับตัวขึ้นเรื่อยๆ
เราส่งออกเยอะเงินแข็ง...หุ้นก็ขึ้น
IPO ก็เปิดตัวแรงๆกันทั้งนั้น
หันไปทางไหนมีหนังสือเกี่ยวกับหุ้นมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด...ใครๆก็เริ่มพูดถึงหุ้น
และอีกหลายๆอย่างที่มันดูไม่ค่อยสอดคล้องกันยังไงไม่รู้
ทำให้รู้สึกเหมือนคนไข้ที่อาการแย่อยู่ๆก็ดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา ต่อมาอีกไม่กี่วันก็ทรุดลงซะงั้น -_-!!
เหมือนอะไรที่มันดูดีเกินไป... มันอาจจะไม่ใช่
แต่อย่างว่าครับมันเป็นแค่ความรู้สึกเท่านั้น..... จริงๆแล้วความรู้สึกผมอาจมั่วก็ได้ 5555
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ตลาดบ้าคลั่งอย่างนี้ ยังจะมีหุ้น 5 เด้งเหลืออยู่บ้างไม๊
โพสต์ที่ 36
ที่คุณgeeg พูดมานั้นคือภาพรวมตลาดหลักทรัพย์
ซึ่งแนวคิดเกี่ยวกับตัวดัชนีว่าจะขึ้นหรือลงนี้
ก็มีหลายสำนักที่มีความเห็นแตกต่างกันมีวิธีรับมือแตกต่างกัน
บางสำนักบอกว่า เมื่อดัขนีมีแนวโน้มจะลง
สำนักนี้จะขายหุ้นออกไปและออกจากตลาดไปเลย
เพราะเขาเชื่อว่าหุ้นจะลงทุกตัว
แต่มีอีกสำนักหนึ่งคือสำนักวีไอ
ทั้งบัฟเฟตต์ ปีเตอร์ ลินช์ ดร.นิเวศน์
จะไม่สนใจดัชนีเพราะเห็นว่าเดายาก
แต่จะโฟกัสไปที่ตัวหุ้น. ถ้าหุ้นยังดีก็ไม่มีเหตุผลที่จะขาย
และจะยังคงอยู่ในตลาด
ชอบแบบไหน เลือกเอาเลยครับ
ซึ่งแนวคิดเกี่ยวกับตัวดัชนีว่าจะขึ้นหรือลงนี้
ก็มีหลายสำนักที่มีความเห็นแตกต่างกันมีวิธีรับมือแตกต่างกัน
บางสำนักบอกว่า เมื่อดัขนีมีแนวโน้มจะลง
สำนักนี้จะขายหุ้นออกไปและออกจากตลาดไปเลย
เพราะเขาเชื่อว่าหุ้นจะลงทุกตัว
แต่มีอีกสำนักหนึ่งคือสำนักวีไอ
ทั้งบัฟเฟตต์ ปีเตอร์ ลินช์ ดร.นิเวศน์
จะไม่สนใจดัชนีเพราะเห็นว่าเดายาก
แต่จะโฟกัสไปที่ตัวหุ้น. ถ้าหุ้นยังดีก็ไม่มีเหตุผลที่จะขาย
และจะยังคงอยู่ในตลาด
ชอบแบบไหน เลือกเอาเลยครับ
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
-
- Verified User
- โพสต์: 95
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ตลาดบ้าคลั่งอย่างนี้ ยังจะมีหุ้น 5 เด้งเหลืออยู่บ้างไม๊
โพสต์ที่ 37
5 เด้งอาจจะยากนะครับ ... แต่ถ้า 1 เด้ง กำไร 100 % คิดว่ามีหลายตัว
ความเห็นส่วนตัวคิดว่า ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเด็ก ก็น่าจะยังขายได้เรื่อยๆ ยอขายเติบโต กำไรเติบโต ... ลองดูในกลุ่ม Person (ของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์) ละกัน แล้วตัดสินใจเองนะครับ
ปล. บอกชื่อหุ้นตรงๆมิได้ เด้วเข้าข่ายว่าเชียร์หุ้นอีก
ความเห็นส่วนตัวคิดว่า ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเด็ก ก็น่าจะยังขายได้เรื่อยๆ ยอขายเติบโต กำไรเติบโต ... ลองดูในกลุ่ม Person (ของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์) ละกัน แล้วตัดสินใจเองนะครับ
ปล. บอกชื่อหุ้นตรงๆมิได้ เด้วเข้าข่ายว่าเชียร์หุ้นอีก
-
- Verified User
- โพสต์: 13
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ตลาดบ้าคลั่งอย่างนี้ ยังจะมีหุ้น 5 เด้งเหลืออยู่บ้างไม๊
โพสต์ที่ 38
ขอบคุณครับ ^_^Peyton เขียน:5 เด้งอาจจะยากนะครับ ... แต่ถ้า 1 เด้ง กำไร 100 % คิดว่ามีหลายตัว
ปล. บอกชื่อหุ้นตรงๆมิได้ เด้วเข้าข่ายว่าเชียร์หุ้นอีก
ขอบคุณครับสามัญชน เขียน:ที่คุณgeeg พูดมานั้นคือภาพรวมตลาดหลักทรัพย์
ซึ่งแนวคิดเกี่ยวกับตัวดัชนีว่าจะขึ้นหรือลงนี้
ก็มีหลายสำนักที่มีความเห็นแตกต่างกันมีวิธีรับมือแตกต่างกัน
ที่ผมแปลกๆคือ มันจะทำให้ทำนายรายได้ บ ในอนาคตยากหรือเปล่าวครับ
หรือว่าดูจากงบการเงินในอดีตแล้วฟังข่าวที่ผู้ บริหารออกมาพูด เพื่อทำนาย
แล้วสภาพแปลกๆในบ้านเมืองต้องดูหรือเปล่าวหรือปล่อยผ่านไปครับ ^_^
-
- Verified User
- โพสต์: 286
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ตลาดบ้าคลั่งอย่างนี้ ยังจะมีหุ้น 5 เด้งเหลืออยู่บ้างไม๊
โพสต์ที่ 39
บอกหน้าเวปไม่ได้ ก็ PM บอกได้นะครับ :lol:Peyton เขียน:5 เด้งอาจจะยากนะครับ ... แต่ถ้า 1 เด้ง กำไร 100 % คิดว่ามีหลายตัว
ความเห็นส่วนตัวคิดว่า ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเด็ก ก็น่าจะยังขายได้เรื่อยๆ ยอขายเติบโต กำไรเติบโต ... ลองดูในกลุ่ม Person (ของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์) ละกัน แล้วตัดสินใจเองนะครับ
ปล. บอกชื่อหุ้นตรงๆมิได้ เด้วเข้าข่ายว่าเชียร์หุ้นอีก
ผมไม่คิดว่าเชียร์หุ้นหรอกครับ เพราะยังไงก็ต้องเอามาพิจารณาเองอีกทีครับ
ในที่สุด ราคาจะวิ่งเข้าหา มูลค่าที่แท้จริง