มือใหม่ อยากลองเล่นหุ้นดู
- kosol
- Verified User
- โพสต์: 76
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มือใหม่ อยากลองเล่นหุ้นดู
โพสต์ที่ 3
เอาวิธีการของตัวผมเองแล้วกันนะครับ ผมจะแบ่งเงินส่วนหนึ่งไปซื้อหนังสือมาอ่านก่อนดีกว่าครับ เช่น ตีแตก ของท่านดร.นิเวศน์ และที่เกี่ยวกับ วอร์เรน บัฟเฟต อ่านให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ พอเริ่มเข้าใจแล้วค่อยไปลองลงทุนจริง ๆ ขนาดผมศึกษามาเป็นปีแล้วยังไม่ได้ซื้อสักตัวเลย แต่ผมเปิดบัญชีซื้อขายและโอนเงินเข้าไปรอไว้แล้ว ต่อไปแค่อนทนรอโอกาสดี ๆ สักครั้งผ่านเข้ามา หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างนะครับ
*ถ้าตลาดหุ้นต้องปิดอย่างน้อย 5 ปี แล้วเรายังต้องการซื้อหุ้นบริษัทนั้นอยู่ แสดงว่าเราเข้าใจในธุรกิจนั้นดีแล้ว*
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1487
- ผู้ติดตาม: 0
-
- Verified User
- โพสต์: 760
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มือใหม่ อยากลองเล่นหุ้นดู
โพสต์ที่ 6
นับถือคุณkosolมากเลยครับ อนาคตคุณน่าจะรวยมากแน่ๆ
เคยมีคนพูดไว้ว่า
อย่าร้อนกระเป๋าหุ้นไม่เคยขึ้นอย่างเดียว เดี๋ยวสักวันหนึ่งมันก็ตกลงมาให้เราได้ซื้ออย่างแน่นอน
คุณควรจะมีความอดทนถือหุ้นเป็นระยะเวลาที่นานพอ ตราบเท่าที่หุุ้นมันยังเติบโต และ/หรือ เป็นหุ้นที่ดี และคุณก็ควรมีความอดทนไม่ซื้อหุ้นจนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม (คุณสุมาอี้)
เราไม่จำเป็นต้องตีลูเบสบอลทุกครั้งที่พุ่งมาให้เราตีได้ แต่เราควรรอ และเลือกตีเฉพาะลูกที่ถูกขว้างมาเข้าทางเรามากที่สุด (วอเรนต์ บัฟเฟตต์)
ช้าๆได้พร้าเล่มงาม ระหว่างนี้อดทนสะสมความรู้และสะสมกระสุน(เงินลงทุน)ไว้ก่อนก็ได้ครับ
ก็แล้วแต่ใจของแต่ละคน ผมยังคันไม้คันมือ ทนไม่ไหวยังต้องซื้อเพิ่มเมื่อเร็วๆนี้เลย
เคยมีคนพูดไว้ว่า
อย่าร้อนกระเป๋าหุ้นไม่เคยขึ้นอย่างเดียว เดี๋ยวสักวันหนึ่งมันก็ตกลงมาให้เราได้ซื้ออย่างแน่นอน
คุณควรจะมีความอดทนถือหุ้นเป็นระยะเวลาที่นานพอ ตราบเท่าที่หุุ้นมันยังเติบโต และ/หรือ เป็นหุ้นที่ดี และคุณก็ควรมีความอดทนไม่ซื้อหุ้นจนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม (คุณสุมาอี้)
เราไม่จำเป็นต้องตีลูเบสบอลทุกครั้งที่พุ่งมาให้เราตีได้ แต่เราควรรอ และเลือกตีเฉพาะลูกที่ถูกขว้างมาเข้าทางเรามากที่สุด (วอเรนต์ บัฟเฟตต์)
ช้าๆได้พร้าเล่มงาม ระหว่างนี้อดทนสะสมความรู้และสะสมกระสุน(เงินลงทุน)ไว้ก่อนก็ได้ครับ
ก็แล้วแต่ใจของแต่ละคน ผมยังคันไม้คันมือ ทนไม่ไหวยังต้องซื้อเพิ่มเมื่อเร็วๆนี้เลย
- จุดแข็งทางธุรกิจที่เลียนแบบได้ยาก มักต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการสร้างและเพาะบ่มเสมอ ไม่สามารถเนรมิตได้ด้วยเงิน (สุมาอี้)
- จะเก่ง จะรวยหุ้น ก็ต้องใช้เวลาเพาะบ่มเช่นกัน เป็นวีไอ ต้องมี ศรัทธา ขยัน ประหยัด และ อดทน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ได้มาง่ายๆ
- จะเก่ง จะรวยหุ้น ก็ต้องใช้เวลาเพาะบ่มเช่นกัน เป็นวีไอ ต้องมี ศรัทธา ขยัน ประหยัด และ อดทน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ได้มาง่ายๆ
- boat37564
- Verified User
- โพสต์: 105
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มือใหม่ อยากลองเล่นหุ้นดู
โพสต์ที่ 7
www.settrade.com ครับ หรือไม่ก็ www.pantip.com ห้องสินธรจะมีเกมหุ้นจำลองครับ ไม่ต่างกันลองเล่นแล้วจะได้รู้ว่าเป็นอย่างไร
แล้วก็เหมือนกับที่คุณ kosol บอกครับหาหนังสือของ อ.นิเวศน์ มาอ่านมากๆ รวมทั้งบทความที่อ.เค้าเขียนไว้ใน นสพ.กรุงเทพธุรกิจ ทุกๆสัปดาห์ และถ้าสนใจอยากหาอ่านบทความเก่าๆของอ.ก็เวบ http://www.nidambe11.net/ ครับ
ผมขอนับถือคุณ kosol อีกคน ตอนที่ผมโอนเงินเข้าโบรคแล้ววันแรกก็ซื้อๆขายๆเป็นว่าเล่นเลย แต่คุณกลับมีความอดทนไม่โลภมากน่านับถือครับ
แล้วก็เหมือนกับที่คุณ kosol บอกครับหาหนังสือของ อ.นิเวศน์ มาอ่านมากๆ รวมทั้งบทความที่อ.เค้าเขียนไว้ใน นสพ.กรุงเทพธุรกิจ ทุกๆสัปดาห์ และถ้าสนใจอยากหาอ่านบทความเก่าๆของอ.ก็เวบ http://www.nidambe11.net/ ครับ
ผมขอนับถือคุณ kosol อีกคน ตอนที่ผมโอนเงินเข้าโบรคแล้ววันแรกก็ซื้อๆขายๆเป็นว่าเล่นเลย แต่คุณกลับมีความอดทนไม่โลภมากน่านับถือครับ
.......ทำยังไงได้ก็ไม่ได้เกิดมาบนกองทอง........
- kosol
- Verified User
- โพสต์: 76
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มือใหม่ อยากลองเล่นหุ้นดู
โพสต์ที่ 8
ขอบคุณพี่ๆทุกคนที่ชมผมนะครับ สงสัยผมอ่านหนังสือที่เกี่ยวกับวอร์เรน บัฟเฟตต์หลายรอบมากเกินไปจนบ้าไปแล้ว 55555ล้อเล่นนะครับ ขำ ๆ ๆ ที่ผมอนทนมากขนาดนี้ก็เพราะว่าเงินแต่ละบาทที่ผมเก็บสะสมจากเงินเดือน+โบนัสในแต่ละปีนั้นมันก็ไม่เยอะอะไรขืนถ้าผมไม่ระมัดระวังในการลงทุนแต่ละครั้งเกิดเสียหายมา คงไม่มีใครช่วยผมได้เลย อีกอย่างผมต้องส่งทางบ้าน+ใช้หนี้กยศ.แถมยังต้องเก็บเงินไว้แต่งงานด้วย ผมเลยต้องอนทนและวางแผนดี ๆ ไม่งั้นต่อไปลำบากแน่ ๆ ครับ
*ถ้าตลาดหุ้นต้องปิดอย่างน้อย 5 ปี แล้วเรายังต้องการซื้อหุ้นบริษัทนั้นอยู่ แสดงว่าเราเข้าใจในธุรกิจนั้นดีแล้ว*
- Renne
- Verified User
- โพสต์: 322
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มือใหม่ อยากลองเล่นหุ้นดู
โพสต์ที่ 9
หนังสือเพิ่มเติมนอกจากของ ดร.นิเวศน์กับบัฟเฟตแล้ว ที่ผมว่าอ่านแล้วน่าจะเข้าใจได้ง่ายสำหรับมือใหม่ก็ของปีเตอร์ลินซ์ (one up on wallstreet)
(ลินซ์เขียนไว้ดีมาก สำหรับมือใหม่ผมมองว่าอ่านง่าย เข้าใจง่ายและอ่านสนุก ไม่วิชาการหนักเกินไปครับ ถึงจะเขียนนานแล้ว แต่แนวทางยังคงใช้ได้)
เล่มอ่านง่ายเล่มอื่นๆก็ของคุณเทพ(หุ้นห่านทองคำ)อ่านเป็นแนวทางได้ เข้าใจได้ง่ายเหมือนกัน
ถ้าสูงขึ้นมาหน่อยจะเป็น intelligent investorของเกรแฮม แล้วก็ของฟิลิป ฟิชเชอร์อีก 2 เล่ม ตอนนี้มีแปลไทยแล้ว(ของฟิชเชอร์แนะนำว่าต้องมีพื้นมาบ้าง
เพราะเข้าใจยากกว่าเล่มแรกๆที่แนะนำพอสมควร)
อ่านหมดนี่ก็จะพอมีแนวทางในการคัดเลือกหรือมองตลาดได้บ้างแล้ว(ถ้าสามารถหาอ่านได้อีกให้หาหนังสือมาอ่านเพิ่ม ไม่ต้องจำกัดแค่แนวทาง
VIครับ เพราะผมอ่านหมดทั้งเทคนิเคิล fundflow งบการเงิน จิตวิทยา หนังสือการตลาดของคอทเลอร์ผมก็อ่าน อย่างน้อยๆช่วยเปิดมุมมองให้กว้างขึ้น
กับเข้าใจอารมณ์ตลาดดีขึ้นครับ ว่ากันตรงๆ หนังสือการลงทุนที่แผงหนังสือ มีกี่เล่มก็อ่านให้หมดเลยยิ่งดี ถึงจะมีเนื้อหาบางส่วนซ้ำบ้างไม่้ซ้ำบ้าง
แต่มันจะช่วยทำให้เราเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น)
เริ่มลงทุน ให้เลือกsectorที่ตัวเองถนัด วิเคราะห์ได้ง่ายๆหรือเข้าถึงข้อมูลได้ดีก่อน เช็คข้อมูลกรองจากตระแกรงร่อนหุ้นคร่าวๆ(P/E,P/Bv,ROE,ROA,
GROWTH และอื่นๆ)โดยดูประเภทของอุตสาหกรรมด้วย เพราะธุรกิจคนละประเภท แนวทางการดูหรือการกรองไม่เหมือนกัน เสร็จแล้วไปหาดูข้ิอมูลทั่วไป
ของหุ้นแต่ละตัวในร้อยคนร้อยหุ้น พอเริ่มรู้แบคกราวด์หุ้นตัวนั้นคร่าวๆแล้วก็ไปอ่าน56-1 งบการเงิน หนังสือชี้ชวนต่อ
จบหมดนี่อย่างน้อยๆน่าจะพอมองหรือวิเคราะห์ฺหุ้นตัวที่จะัสนใจลงทุนได้ระดับนึง ถ้าเห็นว่าหุ้นที่ตัวเองสนใจมีMOSมากกว่าที่จะลงทุนได้ก็ซื้อเก็บเ้ข้า
พอร์ตไว้ จำไว้ว่าซื้่อด้วยเหตุผลอะไร เวลาขายพยายามขายด้วยเหตุผลเดียวกัน(ซื้อเพราะunder value ขายก็เพราะ fairหรือover value , ซื้อเพราะ
เทคนิคบอกให้เข้าได้ ขายก็ต้องเพราะเทคนิคให้ัสัญญาณว่าขาย , ซื้อเพราะเป็นหุ้นโตเร็ว ต้องตรวจเช็คงบการเงินเป็นระยะๆว่าแนวโน้มการเติบโต
ยังดีหรือไม่และคุ้มค่าที่จะลงทุนหรือเปล่า , ซื้อเพราะรอturn around ก็ดูว่ามันturnหรือยัง และอื่นๆ)
(ลินซ์เขียนไว้ดีมาก สำหรับมือใหม่ผมมองว่าอ่านง่าย เข้าใจง่ายและอ่านสนุก ไม่วิชาการหนักเกินไปครับ ถึงจะเขียนนานแล้ว แต่แนวทางยังคงใช้ได้)
เล่มอ่านง่ายเล่มอื่นๆก็ของคุณเทพ(หุ้นห่านทองคำ)อ่านเป็นแนวทางได้ เข้าใจได้ง่ายเหมือนกัน
ถ้าสูงขึ้นมาหน่อยจะเป็น intelligent investorของเกรแฮม แล้วก็ของฟิลิป ฟิชเชอร์อีก 2 เล่ม ตอนนี้มีแปลไทยแล้ว(ของฟิชเชอร์แนะนำว่าต้องมีพื้นมาบ้าง
เพราะเข้าใจยากกว่าเล่มแรกๆที่แนะนำพอสมควร)
อ่านหมดนี่ก็จะพอมีแนวทางในการคัดเลือกหรือมองตลาดได้บ้างแล้ว(ถ้าสามารถหาอ่านได้อีกให้หาหนังสือมาอ่านเพิ่ม ไม่ต้องจำกัดแค่แนวทาง
VIครับ เพราะผมอ่านหมดทั้งเทคนิเคิล fundflow งบการเงิน จิตวิทยา หนังสือการตลาดของคอทเลอร์ผมก็อ่าน อย่างน้อยๆช่วยเปิดมุมมองให้กว้างขึ้น
กับเข้าใจอารมณ์ตลาดดีขึ้นครับ ว่ากันตรงๆ หนังสือการลงทุนที่แผงหนังสือ มีกี่เล่มก็อ่านให้หมดเลยยิ่งดี ถึงจะมีเนื้อหาบางส่วนซ้ำบ้างไม่้ซ้ำบ้าง
แต่มันจะช่วยทำให้เราเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น)
เริ่มลงทุน ให้เลือกsectorที่ตัวเองถนัด วิเคราะห์ได้ง่ายๆหรือเข้าถึงข้อมูลได้ดีก่อน เช็คข้อมูลกรองจากตระแกรงร่อนหุ้นคร่าวๆ(P/E,P/Bv,ROE,ROA,
GROWTH และอื่นๆ)โดยดูประเภทของอุตสาหกรรมด้วย เพราะธุรกิจคนละประเภท แนวทางการดูหรือการกรองไม่เหมือนกัน เสร็จแล้วไปหาดูข้ิอมูลทั่วไป
ของหุ้นแต่ละตัวในร้อยคนร้อยหุ้น พอเริ่มรู้แบคกราวด์หุ้นตัวนั้นคร่าวๆแล้วก็ไปอ่าน56-1 งบการเงิน หนังสือชี้ชวนต่อ
จบหมดนี่อย่างน้อยๆน่าจะพอมองหรือวิเคราะห์ฺหุ้นตัวที่จะัสนใจลงทุนได้ระดับนึง ถ้าเห็นว่าหุ้นที่ตัวเองสนใจมีMOSมากกว่าที่จะลงทุนได้ก็ซื้อเก็บเ้ข้า
พอร์ตไว้ จำไว้ว่าซื้่อด้วยเหตุผลอะไร เวลาขายพยายามขายด้วยเหตุผลเดียวกัน(ซื้อเพราะunder value ขายก็เพราะ fairหรือover value , ซื้อเพราะ
เทคนิคบอกให้เข้าได้ ขายก็ต้องเพราะเทคนิคให้ัสัญญาณว่าขาย , ซื้อเพราะเป็นหุ้นโตเร็ว ต้องตรวจเช็คงบการเงินเป็นระยะๆว่าแนวโน้มการเติบโต
ยังดีหรือไม่และคุ้มค่าที่จะลงทุนหรือเปล่า , ซื้อเพราะรอturn around ก็ดูว่ามันturnหรือยัง และอื่นๆ)
"มีสติ คิดก่อนทำ และอย่าดูถูกตลาดมากเกินไป"
"เป็นเรื่องง่ายที่จะถือหุ้นเอาไว้ให้นานและี่ยากที่จะรอซื้อในราคาที่เหมาะสม"
"เป็นเรื่องง่ายที่จะถือหุ้นเอาไว้ให้นานและี่ยากที่จะรอซื้อในราคาที่เหมาะสม"
- kosol
- Verified User
- โพสต์: 76
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มือใหม่ อยากลองเล่นหุ้นดู
โพสต์ที่ 10
สุดยอดเลยครับคุณ Renne ผมขอนับถือครับ ผมว่า ฟิลิป ฟิชเชอร์ อ่านแล้วมึนจริง ๆ ครับ ผมต้องอ่านหลาย ๆ รอบถึงจะเข้าสมอง ผมว่าถ้าใครอย่างศึกษาเชิงคุณภาพต้องฟิลิป ฟิชเชอร์ เลยครับ
*ถ้าตลาดหุ้นต้องปิดอย่างน้อย 5 ปี แล้วเรายังต้องการซื้อหุ้นบริษัทนั้นอยู่ แสดงว่าเราเข้าใจในธุรกิจนั้นดีแล้ว*
-
- Verified User
- โพสต์: 1980
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มือใหม่ อยากลองเล่นหุ้นดู
โพสต์ที่ 12
The mother of all evils is speculation, leverage debt. Bottom line, is borrowing to the hilt. And I hate to tell you this, but it's a bankrupt business model. It won't work. It's systemic, malignant, and it's global, like cancer.
-
- Verified User
- โพสต์: 12
- ผู้ติดตาม: 0