ทำไมหลายท่านมองข้าม FANCY !
-
- Verified User
- โพสต์: 942
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมหลายท่านมองข้าม FANCY !
โพสต์ที่ 2
ผมผิดหวังผลประกอบการ q4 มากครับ
ทั้งที่มีปัจจัยบวกเอื้ออำนวยจากการที่จีนถูก anti-dump
ขึ้นภาษีนำเข้าเฟอร์นิเจอร์
แต่ fancy ไม่สามารถพลิกจุดนี้ให้มีกำไรเติบโตขึ้นมาได้
ตรงนี้ผมไม่ทราบว่าเพราะอะไร...
เรื่องโรงงานใหม่ น่าจะแก้ปัญหาได้แล้ว เพราะเป็นปีแล้ว
ถ้ายังแก้ไขอะไรไม่ได้ แสดงว่าเกิดอะไรขึ้น...
ค่าเงินบาทก็แข็งขึ้นอีกแบบนี้ อนาคตจะทำกำไรเพิ่มขึ้นได้?
ถ้าเวียดนามมีโรงงานเพิ่มขึ้น จะไม่เหนื่อยกว่านี้หรือครับ
รวมๆ แล้วผมผิดหวัง q4 มากๆ เลยครับ
ทั้งที่มีปัจจัยบวกเอื้ออำนวยจากการที่จีนถูก anti-dump
ขึ้นภาษีนำเข้าเฟอร์นิเจอร์
แต่ fancy ไม่สามารถพลิกจุดนี้ให้มีกำไรเติบโตขึ้นมาได้
ตรงนี้ผมไม่ทราบว่าเพราะอะไร...
เรื่องโรงงานใหม่ น่าจะแก้ปัญหาได้แล้ว เพราะเป็นปีแล้ว
ถ้ายังแก้ไขอะไรไม่ได้ แสดงว่าเกิดอะไรขึ้น...
ค่าเงินบาทก็แข็งขึ้นอีกแบบนี้ อนาคตจะทำกำไรเพิ่มขึ้นได้?
ถ้าเวียดนามมีโรงงานเพิ่มขึ้น จะไม่เหนื่อยกว่านี้หรือครับ
รวมๆ แล้วผมผิดหวัง q4 มากๆ เลยครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
ทำไมหลายท่านมองข้าม FANCY !
โพสต์ที่ 3
แม้ว่า fancy จะมีผลการดำเนินงานที่ไม่ดีนักในช่วงที่ผ่านมา
(กำไรลดลงแต่ไม่ได้ขาดทุน)
แต่ก็ไม่ได้แสดงว่าจะเป็นอย่างนั้นตลอดไป ตราบใดที่บริษัทยังมีจุดเด่น หรือที่เรียกว่ามีขีดความสามารถในการแข่งขัน...
จุดเด่นมากของ fancy คือการปันผลรายไตรมาส หรือ 4 ครั้งในหนึ่งปี ไตรมาสล่าสุดบริษัทมีกำไรประมาณ 52 ล้านหรือ 0.11 บาทต่อหุ้น แต่กำไรที่แท้จริงไม่รวมการตัดหนี้สูญและขาดทุนค่าเงินจะมีกำไรประมาณ 74 ล้านบาท หรือประมาณ 73 ล้านบาท (0.15-16) บาทต่อหุ้น ดังนั้นนี่อาจจะเป็นเหตุผลที่บริษัทประกาศจ่ายปันผลไตรมาสสุดท้ายที่ 0.16 บาทต่อหุ้น
และที่น่าแปลกใจคือปันผลเหล่านี้สามารถเครดิตปันผลได้ถึง 33% สมมุติว่าบริษัทจ่ายปันผลได้ทั้งปี 0.5 บาท รวมเครดิตปันล 0.15 บาท รวมเป็น .65 บาท ที่ราคาตลาดปัจจุบัน 6.1 บาท คิดเป็นผลตอบแทน 11%
และหากมองไกลกว่านั้น หากบริษัทสามารถจ่ายปันผล 0.16 บาทต่อหุ้นทั้ง 4 ไตรมาส จะได้ผลตอบแทนเงินปันผลเกือบๆ 14% ซึ่งไม่ได้มองในแง่ดีเกินไปนะครับ เพราะไตรมาสที่ 4 เป็นไตรมาสที่บริษัทมักทำกำไรได้ดี รองจากไตรมาสที่ 3 (ไตรมาส 1 และ 2 ทำได้เท่าๆกัน)
ไม่เลวเลยใช่ไหมครับ ผลตอบแทนมากว่า 10% ต่อปี ถามว่าทำไม fancy จ่ายเงินปันผลได้มากอย่างนี้ แล้วอย่างนี้จะมีเงินไปขยายกิจการได้อย่างไรกัน สาเหตุที่ fancy ทำอย่างนี้ได้ เพราะบริษัทได้ผ่านช่วงลงทุนไปแล้วครับ ก็เงินที่ได้จากการเพิ่มทุนเมื่อ 2 ปีที่แล้วนั่นเอง ตอนนี้ค่าเสื่อมที่ตัดแต่ละปี ก็นำไปลงทุนเพิ่มได้สบายๆ โดยที่ไม่ต้องอาศัยเงินจากกำไรเลยครับ...
(กำไรลดลงแต่ไม่ได้ขาดทุน)
แต่ก็ไม่ได้แสดงว่าจะเป็นอย่างนั้นตลอดไป ตราบใดที่บริษัทยังมีจุดเด่น หรือที่เรียกว่ามีขีดความสามารถในการแข่งขัน...
จุดเด่นมากของ fancy คือการปันผลรายไตรมาส หรือ 4 ครั้งในหนึ่งปี ไตรมาสล่าสุดบริษัทมีกำไรประมาณ 52 ล้านหรือ 0.11 บาทต่อหุ้น แต่กำไรที่แท้จริงไม่รวมการตัดหนี้สูญและขาดทุนค่าเงินจะมีกำไรประมาณ 74 ล้านบาท หรือประมาณ 73 ล้านบาท (0.15-16) บาทต่อหุ้น ดังนั้นนี่อาจจะเป็นเหตุผลที่บริษัทประกาศจ่ายปันผลไตรมาสสุดท้ายที่ 0.16 บาทต่อหุ้น
และที่น่าแปลกใจคือปันผลเหล่านี้สามารถเครดิตปันผลได้ถึง 33% สมมุติว่าบริษัทจ่ายปันผลได้ทั้งปี 0.5 บาท รวมเครดิตปันล 0.15 บาท รวมเป็น .65 บาท ที่ราคาตลาดปัจจุบัน 6.1 บาท คิดเป็นผลตอบแทน 11%
และหากมองไกลกว่านั้น หากบริษัทสามารถจ่ายปันผล 0.16 บาทต่อหุ้นทั้ง 4 ไตรมาส จะได้ผลตอบแทนเงินปันผลเกือบๆ 14% ซึ่งไม่ได้มองในแง่ดีเกินไปนะครับ เพราะไตรมาสที่ 4 เป็นไตรมาสที่บริษัทมักทำกำไรได้ดี รองจากไตรมาสที่ 3 (ไตรมาส 1 และ 2 ทำได้เท่าๆกัน)
ไม่เลวเลยใช่ไหมครับ ผลตอบแทนมากว่า 10% ต่อปี ถามว่าทำไม fancy จ่ายเงินปันผลได้มากอย่างนี้ แล้วอย่างนี้จะมีเงินไปขยายกิจการได้อย่างไรกัน สาเหตุที่ fancy ทำอย่างนี้ได้ เพราะบริษัทได้ผ่านช่วงลงทุนไปแล้วครับ ก็เงินที่ได้จากการเพิ่มทุนเมื่อ 2 ปีที่แล้วนั่นเอง ตอนนี้ค่าเสื่อมที่ตัดแต่ละปี ก็นำไปลงทุนเพิ่มได้สบายๆ โดยที่ไม่ต้องอาศัยเงินจากกำไรเลยครับ...
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
- คัดท้าย
- Verified User
- โพสต์: 2917
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมหลายท่านมองข้าม FANCY !
โพสต์ที่ 4
ลูกอิสาน เขียน:แม้ว่า fancy จะมีผลการดำเนินงานที่ไม่ดีนักในช่วงที่ผ่านมา
(กำไรลดลงแต่ไม่ได้ขาดทุน)
แต่ก็ไม่ได้แสดงว่าจะเป็นอย่างนั้นตลอดไป ตราบใดที่บริษัทยังมีจุดเด่น หรือที่เรียกว่ามีขีดความสามารถในการแข่งขัน...
จุดเด่น หรือที่เรียกว่ามีขีดความสามารถในการแข่งขัน... ที่พี่ลูกอีสานมอง มีอะไรบ้างครับ ?
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
ทำไมหลายท่านมองข้าม FANCY !
โพสต์ที่ 5
ต้นทุนในการผลิตของ Fancy แยกแยะได้ดังนี้ครับ...
- ต้นทุนค่าไม้ยางพาราประมาณ 53%
- ต้นทุนค่าแรง ประมาณ 26-27%
- ค่าเสื่อม-ค่าโสหุ้ยประมาณ 11-15%
ในเมื่อต้นทุนไม้ยางพาราเป็นต้นทุนที่มีสัดส่วนมากที่สุด fancy ก็เลยลดต้นทุนส่วนนี้ โดยการไปตั้งโรงงานผลิตไม้ที่แหล่งวัถุดิบคือทางภาคใต้ จังหวัดพังงา สุราษฯ และนครศรีฯ โดยทำครบวงจรตั้งแต่รับซื้อไม้ซุงจากพ่อค้าไม้ นำมาเลื่อย อบ ไล่ความชื้น อัดน้ำยา ทำเป็นชิ้นส่วนกึ่งสำเร็จรูป ส่งขายให้ fancy ส่วนที่เหลือก็ส่งออกขายให้กับรายอื่นๆ ทั้งหมดนี้ดำเนินงานงานโดยบริษัทลูกชื่อ fancy wood international ครับ และทำกำไรได้ดีมาก มากกว่าบริษัทแม่ด้วยซ้ำ
นอกจากนั้นเพื่อให้ครบวงจรมากขึ้น fancy ก็เลยตั้งโรงงานเพื่อผลิตสินค้าใหม่ไลน์เครื่องนอนที่แหล่งวัตถุดิบด้วย คือที่จ.สุราษฯ แต่บริษัทแห่งนี้เข้าใจว่ายังไม่ทำกำไรครับ
ที่โพสต์มาทั้งหมดก็ตอบคำถามน้องคัดท้ายได้ว่า fancy มีความสามารถในการแข่งขันในด้านที่มีวัตถุดิบต้นทุนต่ำ หากเปรียบเทียบกับผู้ผลิตในจีนหรือเวียดนามที่มีต้นทุนในส่วนนี้สูงกว่า (เพราะต้องนำเข้าไม้จากไทยหรืออินโด ซึ่งมีต้นทุนค่าขนส่ง) ถึงแม้ว่าต้นทุนด้านแรงงานของทั้งสองประเทศจะต่ำกว่ามาก แต่บวกลบกับต้นทุนวัตถุดิบแล้ว ผมคิดว่าคู่แข่งทั้งสองประเทศน่าจะมีต้นทุนในการผลิตๆพอๆหรือสูงกว่า fancy นิดหน่อยครับ..
- ต้นทุนค่าไม้ยางพาราประมาณ 53%
- ต้นทุนค่าแรง ประมาณ 26-27%
- ค่าเสื่อม-ค่าโสหุ้ยประมาณ 11-15%
ในเมื่อต้นทุนไม้ยางพาราเป็นต้นทุนที่มีสัดส่วนมากที่สุด fancy ก็เลยลดต้นทุนส่วนนี้ โดยการไปตั้งโรงงานผลิตไม้ที่แหล่งวัถุดิบคือทางภาคใต้ จังหวัดพังงา สุราษฯ และนครศรีฯ โดยทำครบวงจรตั้งแต่รับซื้อไม้ซุงจากพ่อค้าไม้ นำมาเลื่อย อบ ไล่ความชื้น อัดน้ำยา ทำเป็นชิ้นส่วนกึ่งสำเร็จรูป ส่งขายให้ fancy ส่วนที่เหลือก็ส่งออกขายให้กับรายอื่นๆ ทั้งหมดนี้ดำเนินงานงานโดยบริษัทลูกชื่อ fancy wood international ครับ และทำกำไรได้ดีมาก มากกว่าบริษัทแม่ด้วยซ้ำ
นอกจากนั้นเพื่อให้ครบวงจรมากขึ้น fancy ก็เลยตั้งโรงงานเพื่อผลิตสินค้าใหม่ไลน์เครื่องนอนที่แหล่งวัตถุดิบด้วย คือที่จ.สุราษฯ แต่บริษัทแห่งนี้เข้าใจว่ายังไม่ทำกำไรครับ
ที่โพสต์มาทั้งหมดก็ตอบคำถามน้องคัดท้ายได้ว่า fancy มีความสามารถในการแข่งขันในด้านที่มีวัตถุดิบต้นทุนต่ำ หากเปรียบเทียบกับผู้ผลิตในจีนหรือเวียดนามที่มีต้นทุนในส่วนนี้สูงกว่า (เพราะต้องนำเข้าไม้จากไทยหรืออินโด ซึ่งมีต้นทุนค่าขนส่ง) ถึงแม้ว่าต้นทุนด้านแรงงานของทั้งสองประเทศจะต่ำกว่ามาก แต่บวกลบกับต้นทุนวัตถุดิบแล้ว ผมคิดว่าคู่แข่งทั้งสองประเทศน่าจะมีต้นทุนในการผลิตๆพอๆหรือสูงกว่า fancy นิดหน่อยครับ..
แก้ไขล่าสุดโดย ลูกอิสาน เมื่อ อังคาร มี.ค. 08, 2005 12:19 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
ทำไมหลายท่านมองข้าม FANCY !
โพสต์ที่ 9
buglife เขียน:ผมผิดหวังผลประกอบการ q4 มากครับ
ทั้งที่มีปัจจัยบวกเอื้ออำนวยจากการที่จีนถูก anti-dump
ขึ้นภาษีนำเข้าเฟอร์นิเจอร์
แต่ fancy ไม่สามารถพลิกจุดนี้ให้มีกำไรเติบโตขึ้นมาได้
ตรงนี้ผมไม่ทราบว่าเพราะอะไร...
เรื่องโรงงานใหม่ น่าจะแก้ปัญหาได้แล้ว เพราะเป็นปีแล้ว
ถ้ายังแก้ไขอะไรไม่ได้ แสดงว่าเกิดอะไรขึ้น...
ค่าเงินบาทก็แข็งขึ้นอีกแบบนี้ อนาคตจะทำกำไรเพิ่มขึ้นได้?
ถ้าเวียดนามมีโรงงานเพิ่มขึ้น จะไม่เหนื่อยกว่านี้หรือครับ
รวมๆ แล้วผมผิดหวัง q4 มากๆ เลยครับ
ท่านบัคครับ อย่างที่โพสต์ครับ ไตรมาส 4 กำไรลดลงมากจากไตรมาส 3
เพราะมีค่าใช้จ่ายการขายและบริหารสูงขึ้นมาก เพราะตัดหนี้สูญประมาณ 9 ล้านครับ และยังมีขาดทุนค่าเงินอีก (ค่าเงินอ่อนก็ได้กำไร) ประมาณ 12-13 ล้านบาท
แนวโน้มการทำกำไรของ fancy มีแนวโน้มลดลงมาตลอด 2 ปีนี้ เพิ่งจะมีกระเตื้องก็ 2 ไตรมาสหลังนี้ ที่เป็นเช่นนี้ก็มีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากต้นทุนไม้ยางพาราสูงขึ้นมากนั่นเองครับ .... 2-3 ปีทีผ่านมาทำกำไรได้สูงสุด 132 ล้านไตรมาส 2 ปี 2002 และต่ำสุด 36 ล้าน ไตรมาส 4 ปี 2003 ครับ...
เดี๋ยวมาดูข้อดีข้อต่อไปของ fancy..
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
ทำไมหลายท่านมองข้าม FANCY !
โพสต์ที่ 11
ที่โพสต์มาเป็นข้อเด่นของ fancy 2 ประเด็นคือ
1.ผลตอบแทนเงินปันผล
2.ผู้ผลิตต้นทุนต่ำ
เหลือข้อเด่นอีกประมาณ 3 ข้อ และจะสรุปปิดท้ายด้วยข้อเสีย
หากท่านใดมีมุมมองที่แตกต่าง ทั้งด้านดีและด้านเสียก็ยินดีครับ โดยเฉพาะข้อเสีย เพราะผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่อาจจะมีอคติในแง่ดีกับหุ้นที่ถือ ทำให้ไม่ได้ความสำคัญกับข้อเสีย ซึ่งบางครั้งส่งผลให้เป็นการลงทุนที่ผิดพลาดได้ครับ
(และที่ต้องพูดบ่อยๆ คือข้อมูลที่โพสต์เป็นความเห็นส่วนตัว ส่วนวิจารณญานเป็นของเพื่อนๆ นะครับ และไม่อยากให้มองว่าเป็นการเชียร์หุ้น เพราะผมไม่ได้หวังรวยในทางที่ไม่ชอบอย่างนั้นครับ คนที่โดนข้อหานี้บ่อยๆ คงน้อยใจครับในขณะที่คนชอบติ กลับไม่นำเสนออะไร แต่อย่างไรก็ตามการเชียร์หุ้นในเวปเป็นสิ่งที่เป็นปกติอยู่แล้ว แต่ทำให้เนียนหน่อยละกันครับ )
ต่อนะครับด้วยข้อดีข้อที่ 3
ผมคิดต้นทุนไม้ยางพาราไม่น่าจะสูงขึ้นมากกว่านี้ครับ จากข้อมูลในอดีต กำไรของ fancy จะขึ้นอยู่กับต้นทุนไม้ยางพาราซะมากครับ ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาที่กำไรลดลงมาก เพราะต้นทุนไม้ยางพาราสูงขึ้น เนื่องจากราคายางดี ทำให้ชาวสวนชะลอการโค่นต้นยาง
แต่ผมคิดว่าต้นยางก็เหมือนเรือบรรทุกสินค้า คือมีอายุการใช้งานจำกัด ปกติต้นยางเริ่มกรีดยางได้ประมาณ 6-7 ปี และต้องโค่นทิ้งที่อายุประมาณ 25 ปี ที่เป็นอย่างนี้เพราะ ..(ฟังเพื่อนมันเล่ามา)
ต้นยางที่มีอายุมากให้น้ำยางน้อย (ไม่รู้เป็นเพราะอะไร) นอกจากนั้นยางที่มีอายุมากไม่สามารถกรีดได้เพราะหน้ายางเสีย คือชาวสวนจะกรีดยางเป็นวงครึ่งต้น โดยกรีดบริเวณเปลือกยางห้ามโดนเนื่อไม้ หลังจากกรีดไปไม่นานเปลือกไม้บริเวณนั้นจะงอกขึ้นมาใหม่ ปกติหลังจากกรีดซ้ำบริเวณเดิมประมาณ 3-4 ครั้ง เนื่อไม้จะเริ่มไม่งอกออกมา นอกจากนั้นหากกรีดโดนบริเวณเนื่อไม้ เปลือกไม้จะไม่งอกออกมาอีกเลย ดังนั้นการอายุต้นยางมากกว่า 25 ปีขึ้นไป หน้ายางจะเสีย กรีดไม่ได้ หรือได้น้ำยางน้อย จำเป็นต้องปลูกทดแทนใหม่
ช่วงที่ผ่านมาชาวสวนชะลอการโค่นต้นยางมาแล้วประมาณ 2 ปี แต่ในที่สุดก็ต้องโค่นขายไม้อยู่ดี ประกอบกับช่วงนี้ราคายางไม่ดีมากนัก แต่ราคาไม้ยางยังดี ผมจึงมองว่าต้นทุนไม้ของ fancy ไม่น่าจะสูงกว่านี้อีกแล้วครับ...
1.ผลตอบแทนเงินปันผล
2.ผู้ผลิตต้นทุนต่ำ
เหลือข้อเด่นอีกประมาณ 3 ข้อ และจะสรุปปิดท้ายด้วยข้อเสีย
หากท่านใดมีมุมมองที่แตกต่าง ทั้งด้านดีและด้านเสียก็ยินดีครับ โดยเฉพาะข้อเสีย เพราะผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่อาจจะมีอคติในแง่ดีกับหุ้นที่ถือ ทำให้ไม่ได้ความสำคัญกับข้อเสีย ซึ่งบางครั้งส่งผลให้เป็นการลงทุนที่ผิดพลาดได้ครับ
(และที่ต้องพูดบ่อยๆ คือข้อมูลที่โพสต์เป็นความเห็นส่วนตัว ส่วนวิจารณญานเป็นของเพื่อนๆ นะครับ และไม่อยากให้มองว่าเป็นการเชียร์หุ้น เพราะผมไม่ได้หวังรวยในทางที่ไม่ชอบอย่างนั้นครับ คนที่โดนข้อหานี้บ่อยๆ คงน้อยใจครับในขณะที่คนชอบติ กลับไม่นำเสนออะไร แต่อย่างไรก็ตามการเชียร์หุ้นในเวปเป็นสิ่งที่เป็นปกติอยู่แล้ว แต่ทำให้เนียนหน่อยละกันครับ )
ต่อนะครับด้วยข้อดีข้อที่ 3
ผมคิดต้นทุนไม้ยางพาราไม่น่าจะสูงขึ้นมากกว่านี้ครับ จากข้อมูลในอดีต กำไรของ fancy จะขึ้นอยู่กับต้นทุนไม้ยางพาราซะมากครับ ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาที่กำไรลดลงมาก เพราะต้นทุนไม้ยางพาราสูงขึ้น เนื่องจากราคายางดี ทำให้ชาวสวนชะลอการโค่นต้นยาง
แต่ผมคิดว่าต้นยางก็เหมือนเรือบรรทุกสินค้า คือมีอายุการใช้งานจำกัด ปกติต้นยางเริ่มกรีดยางได้ประมาณ 6-7 ปี และต้องโค่นทิ้งที่อายุประมาณ 25 ปี ที่เป็นอย่างนี้เพราะ ..(ฟังเพื่อนมันเล่ามา)
ต้นยางที่มีอายุมากให้น้ำยางน้อย (ไม่รู้เป็นเพราะอะไร) นอกจากนั้นยางที่มีอายุมากไม่สามารถกรีดได้เพราะหน้ายางเสีย คือชาวสวนจะกรีดยางเป็นวงครึ่งต้น โดยกรีดบริเวณเปลือกยางห้ามโดนเนื่อไม้ หลังจากกรีดไปไม่นานเปลือกไม้บริเวณนั้นจะงอกขึ้นมาใหม่ ปกติหลังจากกรีดซ้ำบริเวณเดิมประมาณ 3-4 ครั้ง เนื่อไม้จะเริ่มไม่งอกออกมา นอกจากนั้นหากกรีดโดนบริเวณเนื่อไม้ เปลือกไม้จะไม่งอกออกมาอีกเลย ดังนั้นการอายุต้นยางมากกว่า 25 ปีขึ้นไป หน้ายางจะเสีย กรีดไม่ได้ หรือได้น้ำยางน้อย จำเป็นต้องปลูกทดแทนใหม่
ช่วงที่ผ่านมาชาวสวนชะลอการโค่นต้นยางมาแล้วประมาณ 2 ปี แต่ในที่สุดก็ต้องโค่นขายไม้อยู่ดี ประกอบกับช่วงนี้ราคายางไม่ดีมากนัก แต่ราคาไม้ยางยังดี ผมจึงมองว่าต้นทุนไม้ของ fancy ไม่น่าจะสูงกว่านี้อีกแล้วครับ...
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
- Heroine
- Verified User
- โพสต์: 196
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมหลายท่านมองข้าม FANCY !
โพสต์ที่ 13
ตรงลายเซ็นจะใช้คำว่า คร้าบ เพื่อให้สอดคล้องกับคำว่าเสี่ย (คิดว่าถ้าพูดถึงเสี่ยมักนึกถึงผู้ชายค่ะ)
โลกมายา...ดินแดนที่ต้องใส่หน้ากากคุยกัน
เหนื่อยค่ะ! อยากหยุดพักการแสดงสิ่งที่ฝืนกับการเป็นตัวของตัวเอง
ล้มหาย ..ยังไม่ตายจาก
เหนื่อยค่ะ! อยากหยุดพักการแสดงสิ่งที่ฝืนกับการเป็นตัวของตัวเอง
ล้มหาย ..ยังไม่ตายจาก
- วัวแดง
- Verified User
- โพสต์: 1429
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมหลายท่านมองข้าม FANCY !
โพสต์ที่ 15
ผมยืนยันว่าไม่ได้มองข้ามนะครับ...........ทำไมหลายท่านมองข้าม FANCY !
ซื้อตั้งแต่ 5.15 บาทแล้ว ได้ปันผลมา3ครั้ง..........
ในจำนวนหุ้นที่ซื้อชอบ แฟนและแฟนพี่ มากที่สุดๆๆๆๆๆ.........
ถึงแม้ราคาหุ้นจะได้กำไรไม่เท่าไหร่ แต่ปันผลกระเป๋าตุง...........
ถ้าแฟนเหลือ 8 บาทและ แฟนพี่ 5.5 บาท ผมต้องนอกใจน้องระยองแล้วมั้ง........
ถ้าผมคิดเหมือนคนทั่วๆไป ผลตอบแทนผมก็เหมือนคนทั่วๆไป
ใจผมคงละลาย ถ้าผมคิดตามคนอื่น
ผู้ชนะไม่แน่ว่าจะต้องเป็นคนที่วิ่งเร็วที่สุด...แต่เป็นผู้ที่อดทนที่สุดต่างหาก
ใจผมคงละลาย ถ้าผมคิดตามคนอื่น
ผู้ชนะไม่แน่ว่าจะต้องเป็นคนที่วิ่งเร็วที่สุด...แต่เป็นผู้ที่อดทนที่สุดต่างหาก
- Heroine
- Verified User
- โพสต์: 196
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมหลายท่านมองข้าม FANCY !
โพสต์ที่ 16
ขอบคุณค่ะที่แนะนำ แต่คิดว่าแบบเดิมดีแล้วล่ะค่ะharry เขียน:เปลี่ยนเป็น อนาคตจะเป็นเถ้าแก่เนี้ย เจ้าของโรงงานให้เช่า ค่า....
อาจดีกว่าก็ได้ 555
โลกมายา...ดินแดนที่ต้องใส่หน้ากากคุยกัน
เหนื่อยค่ะ! อยากหยุดพักการแสดงสิ่งที่ฝืนกับการเป็นตัวของตัวเอง
ล้มหาย ..ยังไม่ตายจาก
เหนื่อยค่ะ! อยากหยุดพักการแสดงสิ่งที่ฝืนกับการเป็นตัวของตัวเอง
ล้มหาย ..ยังไม่ตายจาก
-
- Verified User
- โพสต์: 2509
- ผู้ติดตาม: 1
ทำไมหลายท่านมองข้าม FANCY !
โพสต์ที่ 18
แล้วในแง่ของตลาดหรือลูกค้าล่ะครับ??
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
ทำไมหลายท่านมองข้าม FANCY !
โพสต์ที่ 19
หายไปนาน มัวยุ่งอยู่กับเจ้าตัวเล็ก..
ต่อด้วยข้อเด่นข้อต่อไป เพื่อนๆมีอะไรก็เสริมหรือแสดงความคิดเห็นได้เต็มที่เลยครับ..
โรงงานใหม่ที่ทำเฟอร์เครื่องนอน ยังไม่ทำกำไร เป็นข้อมูลที่อ้างจากคุณ IH นะครับ ผมมองว่านี้เป็นข้อดีคือไลน์เครื่องนอนที่โรงงานใหม่สุราษเริ่มผลิตมาได้ประมาณปีกว่าๆ แต่ยังไม่ทำกำไร ปีที่แล้วลุงขวด-น้อง someone ไปประชุม ผู้บริหารก็บอกว่ายังอยู่ในช่วงเรียนรู้งาน ทำให้ผลิตได้ไม่เต็มที่และยังขาดทุน นี่อาจจะเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้กำไร fancy ลดลงก็เป็นได้
แต่มองอีกด้านผ่านมาระยะหนึ่งแล้ว ผมคิดว่าโรงงานแห่งนี้ควรจะเริ่มทำกำไรได้ซะที และหากเป็นอย่างนั้นจริง ก็น่าจะมีผลต่อกำไรของ fancy ในอนาคตอันใกล้นี้พอสมควรครับ
fancy ผลิตสินค้าโต๊ะ เก้าอี้ (ที่ใช้ทานข้าว)โรงงานสมุทรปราการ และเพิ่งมาเริ่มผลิตชุดเครื่องนอนที่โรงงานใหม่สุราษ ท่านที่สนใจสินค้าสามารถเข้าไปดูรูปแบบสินค้าได้ที่เวปบริษัทครับ ผมเข้าไปดูมาแล้วก็ยอมรับว่าเป็นสินค้าธรรมดาๆ ออกจะเชยๆ แต่ผมมองว่ามันก็น่าจะเป็นอย่างนั้นเอง คือไม่ใช่เป็นสินค้าแฟชั่น แต่ลูกค้านำไปใช้งานจริงๆ (ทานข้าว) ดังนั้นรูปแบบก็ออกจะง่ายๆ ไม่ซับซ้อนครับ
ส่วนการกีดกันการค้าของสินค้าเฟอร์นิเจอร์ มองว่าน่าจะปานกลางถึงน้อยนะครับ ไม่เหมือนอาหารที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพที่จะมีมาตการกีดกันการค้ามากหน่อย ในยุโรปเคยอ่านเจอว่าสินค้าเฟอร์ที่ผลิตจากไม้ MDF หรือ Partical board ที่ใช้กาวฟอร์มัลดีไฮน์เหมือนที่ vng ผลิต จะห้ามนำเข้านะครับ เพราะเค้าถือว่าฟอร์มัลดีไฮน์เป็นสารก่อมะเร็ง ส่วนการที่จีนโดนภาษีทุ่มตลาดผมมองว่าเป็นเรื่องการเมืองซะมาก คือตอนนี้อเมริการขาดดุลการค้ากับจีนมหาศาลทำให้ต้องออกมาตการกีดกันการค้ากับจีนมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นสินค้าสิ่งทอบางประเภท สินค้าเฟอร์นิเจอร์ สินค้ากุ้งแช่แข็ง ส่วนสินค้าจากไทยคงไม่เจอการกีดกันมากเท่าจีนครับ (ผมรู้สึกว่าคุณอเมริกัน ไม่ชอบคนจีนครับเพราะหลายๆสาเหตุ)
ต่อด้วยข้อเด่นข้อต่อไป เพื่อนๆมีอะไรก็เสริมหรือแสดงความคิดเห็นได้เต็มที่เลยครับ..
โรงงานใหม่ที่ทำเฟอร์เครื่องนอน ยังไม่ทำกำไร เป็นข้อมูลที่อ้างจากคุณ IH นะครับ ผมมองว่านี้เป็นข้อดีคือไลน์เครื่องนอนที่โรงงานใหม่สุราษเริ่มผลิตมาได้ประมาณปีกว่าๆ แต่ยังไม่ทำกำไร ปีที่แล้วลุงขวด-น้อง someone ไปประชุม ผู้บริหารก็บอกว่ายังอยู่ในช่วงเรียนรู้งาน ทำให้ผลิตได้ไม่เต็มที่และยังขาดทุน นี่อาจจะเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้กำไร fancy ลดลงก็เป็นได้
แต่มองอีกด้านผ่านมาระยะหนึ่งแล้ว ผมคิดว่าโรงงานแห่งนี้ควรจะเริ่มทำกำไรได้ซะที และหากเป็นอย่างนั้นจริง ก็น่าจะมีผลต่อกำไรของ fancy ในอนาคตอันใกล้นี้พอสมควรครับ
fancy ผลิตสินค้าโต๊ะ เก้าอี้ (ที่ใช้ทานข้าว)โรงงานสมุทรปราการ และเพิ่งมาเริ่มผลิตชุดเครื่องนอนที่โรงงานใหม่สุราษ ท่านที่สนใจสินค้าสามารถเข้าไปดูรูปแบบสินค้าได้ที่เวปบริษัทครับ ผมเข้าไปดูมาแล้วก็ยอมรับว่าเป็นสินค้าธรรมดาๆ ออกจะเชยๆ แต่ผมมองว่ามันก็น่าจะเป็นอย่างนั้นเอง คือไม่ใช่เป็นสินค้าแฟชั่น แต่ลูกค้านำไปใช้งานจริงๆ (ทานข้าว) ดังนั้นรูปแบบก็ออกจะง่ายๆ ไม่ซับซ้อนครับ
ส่วนการกีดกันการค้าของสินค้าเฟอร์นิเจอร์ มองว่าน่าจะปานกลางถึงน้อยนะครับ ไม่เหมือนอาหารที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพที่จะมีมาตการกีดกันการค้ามากหน่อย ในยุโรปเคยอ่านเจอว่าสินค้าเฟอร์ที่ผลิตจากไม้ MDF หรือ Partical board ที่ใช้กาวฟอร์มัลดีไฮน์เหมือนที่ vng ผลิต จะห้ามนำเข้านะครับ เพราะเค้าถือว่าฟอร์มัลดีไฮน์เป็นสารก่อมะเร็ง ส่วนการที่จีนโดนภาษีทุ่มตลาดผมมองว่าเป็นเรื่องการเมืองซะมาก คือตอนนี้อเมริการขาดดุลการค้ากับจีนมหาศาลทำให้ต้องออกมาตการกีดกันการค้ากับจีนมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นสินค้าสิ่งทอบางประเภท สินค้าเฟอร์นิเจอร์ สินค้ากุ้งแช่แข็ง ส่วนสินค้าจากไทยคงไม่เจอการกีดกันมากเท่าจีนครับ (ผมรู้สึกว่าคุณอเมริกัน ไม่ชอบคนจีนครับเพราะหลายๆสาเหตุ)
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
ทำไมหลายท่านมองข้าม FANCY !
โพสต์ที่ 20
พิมพ์จนเมื่อยมือเลยครับ
ข้อเด่นข้อต่อไปแบบสั้นๆครับ
-จีนกำลังโดนบีบให้ค่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้น ทำให้สินค้าจากจีนมีราคาแพงขึ้นในสายตาของคนอเมริกัน ทำให้ผู้ผลิตในไทยอย่าง fancy ได้เปรียบครับ
-fancy สามารถรับสินค้าล็อตใหญ่ๆได้ เพราะมีวัตถุดิบเครื่องจักรเพียงพอ ในขณะที่รายเล็กๆทำไม่ได้
ส่วนประเด็นผู้ถือหุ้นอันดับหนึ่งของ fancy ที่ผู้บริหารบอกว่าไม่รู้จัก ผมไม่คิดอย่างนั้น ไปดูข้อมูล Royal trust copperation of Canada ก็คือ Chase nominee เก่า ผมเดาเอาว่าก็คือตัวแทนของผู้ถือหุ้นใหญ่นั่นละครับ..
ส่วนข้อเสียขอสรุปสั้นๆเช่นกัน
1.แม้ว่า fancy จะไม่มีลูกค้ารายใหญ่ที่มีอำนาจต่อรองมาก แต่กลับมียอดขายที่อเมริกาเป็นส่วนใหญ่ หากมีเศราษกิจมีปัญญา fancy ก็มียอดขาย-กำไรลดลงแน่
2.ผมยังไม่มั่นใจธรรมาภิบาลมาก เพราะมีการซื้อและขายหุ้นเหมือนจะรู้ผลประกอบการ และยังมีค่ากำเหน็จกรรมการด้วย ซึ่งค่อนข้างสูง
3.ต้นทุนพลังงานคงสูงขึ้นจากน้ำมันดีเซล ที่ใช้ในการขนส่งไม้ และโรงงานที่สุราษอยู่ห่างจากท่าเรือน้ำลึกทำให้เสียค่าใช้จ่ายในการขนส่งมาก
ใครมีอะไรเพิ่มเติมก็เพิ่มได้เลยครับ..
อ้อลืมบอกพีอี fancy ที่ราคา 6.05 บาท ประมาณ 9.35 เท่าครับ..
ข้อเด่นข้อต่อไปแบบสั้นๆครับ
-จีนกำลังโดนบีบให้ค่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้น ทำให้สินค้าจากจีนมีราคาแพงขึ้นในสายตาของคนอเมริกัน ทำให้ผู้ผลิตในไทยอย่าง fancy ได้เปรียบครับ
-fancy สามารถรับสินค้าล็อตใหญ่ๆได้ เพราะมีวัตถุดิบเครื่องจักรเพียงพอ ในขณะที่รายเล็กๆทำไม่ได้
ส่วนประเด็นผู้ถือหุ้นอันดับหนึ่งของ fancy ที่ผู้บริหารบอกว่าไม่รู้จัก ผมไม่คิดอย่างนั้น ไปดูข้อมูล Royal trust copperation of Canada ก็คือ Chase nominee เก่า ผมเดาเอาว่าก็คือตัวแทนของผู้ถือหุ้นใหญ่นั่นละครับ..
ส่วนข้อเสียขอสรุปสั้นๆเช่นกัน
1.แม้ว่า fancy จะไม่มีลูกค้ารายใหญ่ที่มีอำนาจต่อรองมาก แต่กลับมียอดขายที่อเมริกาเป็นส่วนใหญ่ หากมีเศราษกิจมีปัญญา fancy ก็มียอดขาย-กำไรลดลงแน่
2.ผมยังไม่มั่นใจธรรมาภิบาลมาก เพราะมีการซื้อและขายหุ้นเหมือนจะรู้ผลประกอบการ และยังมีค่ากำเหน็จกรรมการด้วย ซึ่งค่อนข้างสูง
3.ต้นทุนพลังงานคงสูงขึ้นจากน้ำมันดีเซล ที่ใช้ในการขนส่งไม้ และโรงงานที่สุราษอยู่ห่างจากท่าเรือน้ำลึกทำให้เสียค่าใช้จ่ายในการขนส่งมาก
ใครมีอะไรเพิ่มเติมก็เพิ่มได้เลยครับ..
อ้อลืมบอกพีอี fancy ที่ราคา 6.05 บาท ประมาณ 9.35 เท่าครับ..
แก้ไขล่าสุดโดย ลูกอิสาน เมื่อ พุธ มี.ค. 09, 2005 8:25 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
- ch_army
- Verified User
- โพสต์: 1352
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมหลายท่านมองข้าม FANCY !
โพสต์ที่ 21
ปีนี้จะแล้งมากจะมีผลต่อยางพาราไหมครับ เข้าใจว่ายางที่ใช้คือยางที่กรีดเอาน้ำยางไม่ได้แล้วไม่ทราบว่าเข้าใจถูกหรือไม่ครับ
หากปีีนี้น้ำยางไม่ดีเค้าจะตัดต้นยางมาส่งโรงงานไหมครับ คือไม่ค่อยรู้เรื่องยางเลย
หากปีีนี้น้ำยางไม่ดีเค้าจะตัดต้นยางมาส่งโรงงานไหมครับ คือไม่ค่อยรู้เรื่องยางเลย
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมหลายท่านมองข้าม FANCY !
โพสต์ที่ 23
คุณลูกอิสาน วิเคราะห์ได้ ดีมากเลย...... ปัญหาใหญ่ตอนนี้คือ ค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากเกินไป เท่าที่ติดตามเงินบาทอยู่ ก็ คงไม่ลงไปต่ำกว่า 38 บาทเป็นแน่.........การขาดดุลการค้า ผมว่าจะช่วยให้เงินบาทอ่อนตัวลง อาจกลับเข้ามาแถว 40 บาทอีก......ในคราวประชุมปีที่แล้ว ผมเสนอให้ เขา ทำดังนี้-
1. ปรับราคาสินค้าขึ้น (ซึ่งเขาว่า ได้ปรับไปแล้ว 10%) ผมว่าคงไม่พอ เพราะต้นทุนสินค้า ไม้ยางพาราขึ้น ค่าใช้จ่ายมากขึ้น แถมยังมีโรงงานใหม่ที่ยังผลิตไม่ได้ตามเป้าหมาย
2. ให้พยายามสร้างแบรนด์ของตนเอง เพื่อใช้เป็นความแข็งแกร่งในอนาคต เพราะผมรู้ว่า FANCY ผลิตสินค้าได้มาตรฐานของเขาอยู่ในระดับหนึ่ง
3. ผลิตสินค้าอื่น เช่น ไม้พื้น เพราะผมมองว่า การผลิตเตียงค่อนข้างจะยุ่งยาก ต้องมีส่วนประกอบอื่น ๆ อีกมาก แถมยังเปลืองเนื้อที่ การทำหีบห่อ ในการส่งออก นี่ เป็นปัญหา............ถ้าทำไม้พื้น นั้น ง่าย การบรรจุ ก็ สะดวก สะบาย กว่ากันมากเลย ผมว่ามีอนาคตมากกว่า ทำเตียงเสียอีก
4. ให้หันไปส่งออกทาง ยุโรป อย่าเน้นที่ อเมริกา ถ้าเขาหาลูกค้ายุโรปได้ ผมว่าจะไปได้ดีกว่านี้อีก จะได้ขายในสกุลเงิน EU จึงจะมี 2 สกุลไป ถ่วงดุลกัน ไม่ต้องพึ่งแต่ US$ อย่างเดียว
เท่าที่จำได้ ก็ เสนอไปแบบนี้ เรามัน ไม่ใช่ฝ่ายบริหาร....แค่นักลงทุนที่มองจากภายนอก... ได้แต่ฝันและอยากให้อนาคตที่ดีของ FANCY เป็นจริงมากขึ้น เท่านั้นเองครับ
ผมบอกเลยว่า FANCY ไม่มีโอกาส ขาดทุนเลยครับ มีทั้งสภาพคล่องที่ดี การบริหารแบบประหยัดมาก ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย.....ลูกค้าที่ดี แถมประเทศเรามีต้นยางพาราเหลือเฝือ มีโรงงานอบไม้ยางที่มีคุณภาพมากที่สุดในโลก แค่นี้ก็ชนะคู่แข่ง (จีน เวียตนาม) ไประดับหนึ่งแล้ว..........ปีที่ผ่าน ๆ มา เช่นปี 46 กำไร 0.55 บาทต่อหุ้น จ่ายปันผล มา 0.51 บาท ปีที่แล้ว 47 กำไร 0.62 บาทต่อหุ้น ปันผลมา 0.60 บาท..........จะเห็นได้ว่า ปันผล มาเกือบหมด ปีนี้ ถ้าเขาพยายามแบบที่ผมบอกข้างบนได้ ผมว่า น่าจะกำไรเกิน 0.70 บาทต่อหุ้น....แต่ถ้ายังไม่พยายาม ก็ คง ไม่น่าเกิน 0.70 บาท คงอยู่แถว ๆ เหมือนปี 47 นั่นแหละ
สรุปได้ว่า โรงงานใหม่ทางใต้ยังคงเป็นปัญหา แต่ปัญหานี้ คือ อนาคตอันดีมาก ถ้าเขาหาทางทำประโยชน์จากมันได้มากขึ้นเรื่อย ๆ.... หวังในความสามารถของผู้บริหาร ถ้าไม่ ท้อแท้ไปเสียก่อน
เป็นความคิดส่วนตัวนะครับ อาจจะผิดก็ได้ ขอให้ใช้วิจารณาน ในการตัดสินใจ ซื้อหรือขายหุ้นตัวนี้ด้วย :lol: :lol: :lol: (ส่วนผมแก่แล้ว ก็ hold เพื่อเก็บปันผลไปเรื่อย ๆ)
1. ปรับราคาสินค้าขึ้น (ซึ่งเขาว่า ได้ปรับไปแล้ว 10%) ผมว่าคงไม่พอ เพราะต้นทุนสินค้า ไม้ยางพาราขึ้น ค่าใช้จ่ายมากขึ้น แถมยังมีโรงงานใหม่ที่ยังผลิตไม่ได้ตามเป้าหมาย
2. ให้พยายามสร้างแบรนด์ของตนเอง เพื่อใช้เป็นความแข็งแกร่งในอนาคต เพราะผมรู้ว่า FANCY ผลิตสินค้าได้มาตรฐานของเขาอยู่ในระดับหนึ่ง
3. ผลิตสินค้าอื่น เช่น ไม้พื้น เพราะผมมองว่า การผลิตเตียงค่อนข้างจะยุ่งยาก ต้องมีส่วนประกอบอื่น ๆ อีกมาก แถมยังเปลืองเนื้อที่ การทำหีบห่อ ในการส่งออก นี่ เป็นปัญหา............ถ้าทำไม้พื้น นั้น ง่าย การบรรจุ ก็ สะดวก สะบาย กว่ากันมากเลย ผมว่ามีอนาคตมากกว่า ทำเตียงเสียอีก
4. ให้หันไปส่งออกทาง ยุโรป อย่าเน้นที่ อเมริกา ถ้าเขาหาลูกค้ายุโรปได้ ผมว่าจะไปได้ดีกว่านี้อีก จะได้ขายในสกุลเงิน EU จึงจะมี 2 สกุลไป ถ่วงดุลกัน ไม่ต้องพึ่งแต่ US$ อย่างเดียว
เท่าที่จำได้ ก็ เสนอไปแบบนี้ เรามัน ไม่ใช่ฝ่ายบริหาร....แค่นักลงทุนที่มองจากภายนอก... ได้แต่ฝันและอยากให้อนาคตที่ดีของ FANCY เป็นจริงมากขึ้น เท่านั้นเองครับ
ผมบอกเลยว่า FANCY ไม่มีโอกาส ขาดทุนเลยครับ มีทั้งสภาพคล่องที่ดี การบริหารแบบประหยัดมาก ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย.....ลูกค้าที่ดี แถมประเทศเรามีต้นยางพาราเหลือเฝือ มีโรงงานอบไม้ยางที่มีคุณภาพมากที่สุดในโลก แค่นี้ก็ชนะคู่แข่ง (จีน เวียตนาม) ไประดับหนึ่งแล้ว..........ปีที่ผ่าน ๆ มา เช่นปี 46 กำไร 0.55 บาทต่อหุ้น จ่ายปันผล มา 0.51 บาท ปีที่แล้ว 47 กำไร 0.62 บาทต่อหุ้น ปันผลมา 0.60 บาท..........จะเห็นได้ว่า ปันผล มาเกือบหมด ปีนี้ ถ้าเขาพยายามแบบที่ผมบอกข้างบนได้ ผมว่า น่าจะกำไรเกิน 0.70 บาทต่อหุ้น....แต่ถ้ายังไม่พยายาม ก็ คง ไม่น่าเกิน 0.70 บาท คงอยู่แถว ๆ เหมือนปี 47 นั่นแหละ
สรุปได้ว่า โรงงานใหม่ทางใต้ยังคงเป็นปัญหา แต่ปัญหานี้ คือ อนาคตอันดีมาก ถ้าเขาหาทางทำประโยชน์จากมันได้มากขึ้นเรื่อย ๆ.... หวังในความสามารถของผู้บริหาร ถ้าไม่ ท้อแท้ไปเสียก่อน
เป็นความคิดส่วนตัวนะครับ อาจจะผิดก็ได้ ขอให้ใช้วิจารณาน ในการตัดสินใจ ซื้อหรือขายหุ้นตัวนี้ด้วย :lol: :lol: :lol: (ส่วนผมแก่แล้ว ก็ hold เพื่อเก็บปันผลไปเรื่อย ๆ)
หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถของผู้บริหารกับ ธรรมาภิบาล.........ใหญ่ในเล็กย่อม ดีกว่าเล็กในใหญ่
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
ทำไมหลายท่านมองข้าม FANCY !
โพสต์ที่ 24
ขอบคุณครับลุงขวด ผมเห็นด้วยหลายประเด็นครับ
โดยเฉพาะการทำเครื่องนอนนี่ดูยุ่งยากจริงๆครับ เพราะมีชิ้นส่วนมากกว่าการผลิตโต๊ะ-เก้าอี้มาก ส่วนการทำพื้นไม้ก็น่าสนใจครับ..เหมือน singh แต่ไม่แน่ใจว่าจะทำพื้นไม้จากไม้ยางพาราได้เหลือเปล่า คือจะมีลายไม้เหมือนไม้เนื้อแข็งที่ singh ใช้หรือเปล่าครับ..
ผมมองว่า fancy ไม่ใช่หุ้นที่ดีเลิศที่ระดับราคานี้ แต่ก็เป็นหุ้นที่ปลอดภัยระดับหนึ่ง ในยามที่ฝนฟ้าคะนองหาความแน่นอนไม่ได้เหมือนตอนนี้ หลบอยู่ใต้โต๊ะไม้ของ fancy ก็ดูจะเป็นไอเดียที่ไม่เลวครับ..
โดยเฉพาะการทำเครื่องนอนนี่ดูยุ่งยากจริงๆครับ เพราะมีชิ้นส่วนมากกว่าการผลิตโต๊ะ-เก้าอี้มาก ส่วนการทำพื้นไม้ก็น่าสนใจครับ..เหมือน singh แต่ไม่แน่ใจว่าจะทำพื้นไม้จากไม้ยางพาราได้เหลือเปล่า คือจะมีลายไม้เหมือนไม้เนื้อแข็งที่ singh ใช้หรือเปล่าครับ..
ผมมองว่า fancy ไม่ใช่หุ้นที่ดีเลิศที่ระดับราคานี้ แต่ก็เป็นหุ้นที่ปลอดภัยระดับหนึ่ง ในยามที่ฝนฟ้าคะนองหาความแน่นอนไม่ได้เหมือนตอนนี้ หลบอยู่ใต้โต๊ะไม้ของ fancy ก็ดูจะเป็นไอเดียที่ไม่เลวครับ..
คุณ stockms พอจะใบ้ให้เพื่อนๆได้สักตัวสองตัวได้ไหมครับ หุ้นที่น่าสนใจ มีความสามารถในการแข่งขัน มีปันผลสูงๆ และมีโอกาศที่จะได้ cap gain ผมสนใจหุ้นอย่างนี้ครับ และคิดว่าเพื่อนๆก็อยากจะทราบเหมือนกันยังมีหุ้นอื่นที่น่าจะให้ผลตอบแทนทั้งในรูปเงินปันผลและ capital gain ที่ดีกว่าแฟนซีในระยะหนึ่งปีนี้ อยู่หลายตัวครับ....ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าเป็นข้อเสียได้รึเปล่าครับ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 456
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมหลายท่านมองข้าม FANCY !
โพสต์ที่ 25
เห็นด้วยกับการวิเคราะห์และข้อมูลทุกอย่างของคุณลูกอิสานค่ะ หากในภาวะที่ตลาดทุนผันผวนไม่แน่นอน ภาวะเศรษฐกิจของประเทศเริ่มจะฝืด การที่จะพิจารณาลงทุนใน fancy อีก 1 ตัว ก็เป็นทางเลือกที่ดีทีเดียวสำหรับการรับเงินปันผลสูงและมี margin of safety พอสมควร ณ ราคานี้(6.05 บ.) ไม่ต้องคอยเฝ้าหุ้นเพราะราคาไม่หวือหวาให้ต้องใจหายใจคว่ำ เหมาะในการลงทุนยาวๆค่ะ และเมื่อทุกอย่างลงตัว ผลประกอบการของ fancy ก็น่าจะกลับมาก้าวกระโดดและโดดเด่นอีกครั้งหนึ่งค่ะ เพียงแต่...คุณจะถือลงทุนจริงๆหรือไม่เท่านั้นค่ะ
สิ่งที่กังวลอย่างหนึ่งเกี่ยวกับ fancy ก็คือ ความสามารถของผู้บริหารค่ะ เพราะไม่ทราบว่า เมื่อธุรกิจของบริษัทเติบโตขึ้นมาก ผู้บริหารจะมีความสามารถในการบริหารงานได้ดีเพียงใด หากบริหารแบบครอบครัว ก็เป็นห่วงค่ะ.. เพราะธุรกิจประเภทนี้อยู่ที่การควบคุมคุณภาพการผลิตให้ได้มาตรฐาน เป็นงานฝีมือ ดังนั้นหากบุคลากรขาดคุณภาพ จะกระทบต่อการทำกำไรของบริษัทมาก ไม่ทราบว่าบริษัทได้มีการนำกระบวนการควบคุมคุณภาพงานอะไรมาใช้บ้าง ?
เหตุที่คิดว่า ถ้าบุคลากรขาดคุณภาพจะกระทบต่อการทำกำไรของบริษัท ก็เพราะว่า
1. จะเกิดสินค้าไม่ได้มาตรฐานจำนวนมาก ที่ตีว่าเสีย ---> กระทบต้นทุน กระทบรายได้
2. บริษัทยิ่งขยาย ยิ่งต้องมีการควบคุมคุณภาพและต้นทุนการผลิตให้ดีๆ
3. ไม่มีความสามารถในการแข่งขัน
4. ไม่มีการพัฒนา ย่ำอยู่กับที่ เช่น ไม่ขยายตลาดใหม่ๆ ไม่มีการคิดค้นวิธีการผลิตแบบใหม่ที่ช่วยพัฒนา ไม่คิดค้นออกแบบเฟอร์นิเจอร์ใหม่ๆ เป็นต้น
หาก fancy มีข้อได้เปรียบหลายอย่างเมื่อเทียบกับจีน เวียตนาม แต่ถ้าไม่พัฒนาตนเอง ก็มีโอกาสถูกแซงได้เช่นกันค่ะ ดังนั้น ตอนนี้คิดว่า fancy ต้องแข่งกับตัวเองแล้วละค่ะ แต่ที่ผ่านมา ยังไม่มีอะไรที่แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาของ fancy เท่าไหร่นับตั้งแต่การขยายโรงงานใหม่ ค่ะ
สิ่งที่กังวลอย่างหนึ่งเกี่ยวกับ fancy ก็คือ ความสามารถของผู้บริหารค่ะ เพราะไม่ทราบว่า เมื่อธุรกิจของบริษัทเติบโตขึ้นมาก ผู้บริหารจะมีความสามารถในการบริหารงานได้ดีเพียงใด หากบริหารแบบครอบครัว ก็เป็นห่วงค่ะ.. เพราะธุรกิจประเภทนี้อยู่ที่การควบคุมคุณภาพการผลิตให้ได้มาตรฐาน เป็นงานฝีมือ ดังนั้นหากบุคลากรขาดคุณภาพ จะกระทบต่อการทำกำไรของบริษัทมาก ไม่ทราบว่าบริษัทได้มีการนำกระบวนการควบคุมคุณภาพงานอะไรมาใช้บ้าง ?
เหตุที่คิดว่า ถ้าบุคลากรขาดคุณภาพจะกระทบต่อการทำกำไรของบริษัท ก็เพราะว่า
1. จะเกิดสินค้าไม่ได้มาตรฐานจำนวนมาก ที่ตีว่าเสีย ---> กระทบต้นทุน กระทบรายได้
2. บริษัทยิ่งขยาย ยิ่งต้องมีการควบคุมคุณภาพและต้นทุนการผลิตให้ดีๆ
3. ไม่มีความสามารถในการแข่งขัน
4. ไม่มีการพัฒนา ย่ำอยู่กับที่ เช่น ไม่ขยายตลาดใหม่ๆ ไม่มีการคิดค้นวิธีการผลิตแบบใหม่ที่ช่วยพัฒนา ไม่คิดค้นออกแบบเฟอร์นิเจอร์ใหม่ๆ เป็นต้น
หาก fancy มีข้อได้เปรียบหลายอย่างเมื่อเทียบกับจีน เวียตนาม แต่ถ้าไม่พัฒนาตนเอง ก็มีโอกาสถูกแซงได้เช่นกันค่ะ ดังนั้น ตอนนี้คิดว่า fancy ต้องแข่งกับตัวเองแล้วละค่ะ แต่ที่ผ่านมา ยังไม่มีอะไรที่แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาของ fancy เท่าไหร่นับตั้งแต่การขยายโรงงานใหม่ ค่ะ
- วัวแดง
- Verified User
- โพสต์: 1429
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมหลายท่านมองข้าม FANCY !
โพสต์ที่ 27
2-3ปี คงดีกว่านี้นะครับ ถือรับปันผลไปเรื่อยๆ ไม่นานก็เท่าทุน
ส่วนข้อมูลที่ผมมีอยู่ในหน้านี้หมดแล้ว เลยไม่รู้จะเสิรมอะไรดี
ช่วงนี้รู้สึกใจลอยๆ ยังไงไม่รู้ ไม่ค่อยมีสาระเลย
ว่าจะเขียนแผนธุรกิจ ยังไม่เสร็จเลย.............
ส่วนข้อมูลที่ผมมีอยู่ในหน้านี้หมดแล้ว เลยไม่รู้จะเสิรมอะไรดี
ช่วงนี้รู้สึกใจลอยๆ ยังไงไม่รู้ ไม่ค่อยมีสาระเลย
ว่าจะเขียนแผนธุรกิจ ยังไม่เสร็จเลย.............
ถ้าผมคิดเหมือนคนทั่วๆไป ผลตอบแทนผมก็เหมือนคนทั่วๆไป
ใจผมคงละลาย ถ้าผมคิดตามคนอื่น
ผู้ชนะไม่แน่ว่าจะต้องเป็นคนที่วิ่งเร็วที่สุด...แต่เป็นผู้ที่อดทนที่สุดต่างหาก
ใจผมคงละลาย ถ้าผมคิดตามคนอื่น
ผู้ชนะไม่แน่ว่าจะต้องเป็นคนที่วิ่งเร็วที่สุด...แต่เป็นผู้ที่อดทนที่สุดต่างหาก
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 1
ทำไมหลายท่านมองข้าม FANCY !
โพสต์ที่ 28
เวลาขยายไลน์การผลิตใหม่ๆ ผมว่าน่าจะรอให้เริ่มมีกำไรเห็นอนาคตแล้วค่อยซื้อก็ไม่น่าจะสายนะครับ ถ้าโรงงานใหม่เกิดล้มเหลวขึ้นมาอะไรจะเกิดขึ้น สิ่งที่เราคาดว่าจะได้จะคุ้มกับความเสี่ยงหรือไม่ครับ
It's earnings that count
-
- Verified User
- โพสต์: 920
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมหลายท่านมองข้าม FANCY !
โพสต์ที่ 29
TTA ครับ ทุกคนรู้จักข้อดี และข้อเสียของธุรกิจเดินเรือมาหมดแล้ว แต่ผมคิดว่ายังเป็นหุ้นที่ราคาต่ำอยู่ด้วยคนกลัวหุ้น cyclicle และการขายของผู้บริหาร ผมคิดอีกว่าเทคโนโลยีของอินเทอร์เนตสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมของหุ้น cyclicle บางประเภทได้ โดยเฉพาะหุ้น cyclical ที่มีระยะรอบยาวและไม่ขึ้นกับปัจจัยดินฟ้าอากาศ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ชัดเจนและเข้าถึงได้ง่าย จะทำให้รอบจะยาวขึ้นหรืออาจจะไม่เป็นรอบเลยก็ได้ ในเมื่อนักลงทุนรายย่อยหลายคนสามารถประมาณการกำไรรายไตรมาสได้อย่างแม่นยำโดยอาศัยข้อมูลจากอินเทอร์เนต ผู้บริหารบริษัทเดินเรือที่มีข้อมูลมากกว่าและตระหนักดีถึงลักษณะรอบของธุรกิจประเภทนี้ย่อมใช้ข้อมูลจำนวนเรือใหม่ในอนาคต แนวโน้มค่าระวาง แนวโน้มเศรษฐกิจของโลก ประมาณการอนาคตของรอบธุรกิจนี้ได้ดีกว่าในอดีตเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ผู้บริหารหลายคนออกมาพูดแล้วว่าจะไม่เพิ่มจำนวนเรืออย่างรวดเร็วเหมือนปีที่แล้ว แสดงให้เห็นถึงความกลัวที่มีต่อรอบธุรกิจประเภทนี้ ธุรกิจที่เป็นรอบถ้ารู้จักกลัวและระวังก็จะเจ็บตัวน้อย และที่ราคาหุ้นปัจจุบันแค่กำไรต่อหุ้นและปันผลก็น่าซื้อแล้ว...โดยไม่ต้องมี growth เลย...แต่ถ้าสมมติฐานเรื่องรอบของธุรกิจประเภทนี้ที่ผมคิดว่าจะยาวขึ้นหรือหมดไป...รับรองว่าหุ้นตัวนี้มี growth...อย่างไรก็ตามหุ้นตัวนี้เป็นหุ้นตลาดราคาคงผันผวนพอสมควร...แต่ระยะยาว...ต้องรอดูกันครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 45
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมหลายท่านมองข้าม FANCY !
โพสต์ที่ 30
อยากทราบว่า fancy อีก 2-3 ปีข้างหน้าจะมีโอกาสโตสัก 10-15% ต่อปีหรือเปล่า
เพราะผมยังทราบเลยว่า จะโตได้อีกหรือไม่ หากว่าโตไม่มาก แค่ 5% ผมว่า มองหาหุ้นที่มีโอกาสโตสัก 10-15% ใน 2-3 ปีข้างหน้า แล้วปันผลสัก 5% ก็น่าจะดูดีกว่านะครับ
แล้วถ้าให้เปรียบกับ vng ณ.ราคาตอนนี้ ผมว่า pe ก็พอ ๆ กัน ปันผล 5% กว่า ๆ แต่ผมมองว่า ในระยะใกล้นี้ น่าจะมีโอกาสโตได้มากกว่านะครับ
(ถ้าเพื่อน ๆ เห็นแววเติบโตของ fancy ก็บอกด้วยนะครับ)
เพราะผมยังทราบเลยว่า จะโตได้อีกหรือไม่ หากว่าโตไม่มาก แค่ 5% ผมว่า มองหาหุ้นที่มีโอกาสโตสัก 10-15% ใน 2-3 ปีข้างหน้า แล้วปันผลสัก 5% ก็น่าจะดูดีกว่านะครับ
แล้วถ้าให้เปรียบกับ vng ณ.ราคาตอนนี้ ผมว่า pe ก็พอ ๆ กัน ปันผล 5% กว่า ๆ แต่ผมมองว่า ในระยะใกล้นี้ น่าจะมีโอกาสโตได้มากกว่านะครับ
(ถ้าเพื่อน ๆ เห็นแววเติบโตของ fancy ก็บอกด้วยนะครับ)