สรุปสัมนาสุดยอดกลยุทธ์หุ้นปี 54
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปสัมนาสุดยอดกลยุทธ์หุ้นปี 54
โพสต์ที่ 1
ขอสรุปดังนี้ครับ
ถาม “มอง ศก ไทย กับผลกระทบต่างๆที่เกิดขึ้นอย่างไรทั้งปัญหา JP หรือลิเบีย”
คุณกวี : ทางหลักทรัพย์กสิกรยังคงมองเหมือนเดิมคือ ปีนี้น่าจะมีโอกาสที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ เนื่องมาจาก
1.ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทเองได้แก่ พวก ฐานะทางการเงิน ปันผล เงินสดมากขึ้นกว่าเดิม
2.ศก ไทยยังไม่มีสัญญาณจองการหดตัว เพี่ยงแต่อาจชะลอตัวลงเนื่องมาจากปีก่อนหน้าเติบโตมาก ปีนี้อาจได้ซักประมาณ 4-5% จากเดิมที่ 7% ดัชนีความเชื่อมันผู้บริโภคสูงขึ้น การส่งออกที่โตถึง 30% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการ 2 เดือนล่าสุดโตถึง 27% โดยให้ภาพรวมทั้งปีน่าจะไม่ต่ำกว่า 10% การณีแผนดินไหวที่ JP ก็น่าจะทำมห้ไทยมีโอกาสส่งออกมากขึ้นด้วย
สิ่งที่ต้องระวังคือหุ้นมันคงไม่ขึ้นแรงๆไปแบบ 2 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้ความว่าปีนี้จะต้องลง จากสถิติหุ้นไทยเคยขึ้นติดต่อกัน 4 ปีก็เคยปรากฏมาแล้ว แต่ต้องติดตามพื้นฐานบริษัทและปัจจัยเสี่ยงที่เข้ามาเป้นระยะ ภาพของ 2 ปีที่ผ่านมา คือ ศก ฟื้นตัว เงินเฟ้อไม่สูงมาก 2 สิ่งนี้ทำให้หุ้นตอบสนองในทางบวกอย่างมาก แต่ปีนี้ สินค้าต่างๆปรับตัวขึ้นเงินเฟ้อสูงขึ้น ถึง สก จะเติบโต แต่ก็ไม่ส่งผลดกับหุ้นเท่าที่ควร ตลาดก็จะเปฯแบบไซด์เวย์ อึดอัดไม่เลือกจะไปทางไหน
ถ้าในแง่ของเทคนิคก็ดูยอดสูงสุดคือ 1050 จุดตั้งแต่ พย ที่ผ่านมายังไม่เคยทำจุดสูงสุดใหม่เลย ไต่ไปแถวๆ 1000 ตลอดเวลา แต่เริ่มเหเนจุดต่ำสุดใหม่ๆ
จับตาอัตราดอกเบี้ยที่ขึ้นตั้งแต่กลางปี 53 และคาดว่าจะขึ้นไปเรื่อยๆจนถึงกลางปีนี้ ดูว้าสามารถคุมเงินเฟ้อได้หรือไม่เพื่อเรียกความเขื่อมันกลับมา กับระวังเมษา กับ พค นี้สินค้าต่างๆจะทยอยปรับราคาขึ้นเงินเฟ้อของเราคงเพิ่มขึ้นอีกมาก ถ้าคุมเงินเฟ้ออยุ่หุ้นจะขึ้น คุมไม่อยู่ก็น่าจะลงแรง
เปรียบเทียบกลุ่มต่างๆตามวงจร ศก จะพบว่า 2 ปีที่ผ่านมา อสังหา กับยานยนต์หุ้นบวกมาก 200-300% ธนาคารก็ขึ้นมากกว่าตลาด เพราะเป้นกลุ่มที่ฟื้นตัวก่อน ศก พอมาปีนี้ 2 กลุ่มนี้ก็ไม่ไปไหน รอบนี้น่าจะเป้นรอบของพลังงานอย่างกลุ่ม ptt ที่จะเป้นตัวนำตลาดแทนปีที่แล้วขึ้นน้อย เพราะพลังงานเพิ่มขึ้นตามเงินเฟ้อ อีกกลุ่มที่ไม่ค่อยกระทบเงินเฟ้อก็พวกบริการที่ปีที่แล้วก็ขึ้นไม่มากปีนี้ก็น่าจับตาอย่างพวก โรงบาล บันเทิง โรงแรม กลุ่มพาณิชก็ได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อด้วย กลุ่มที่ดูไม่ดีก็ธนาคารเพราะเงินเฟ้อ+ดอกเบี้ยขึ้น มันจะกดดัน ศก ซึ่งกระทบกับการประกอบธุรกิจธนาคาร
ถาม “มอง ศก ไทย กับผลกระทบต่างๆที่เกิดขึ้นอย่างไรทั้งปัญหา JP หรือลิเบีย”
คุณกวี : ทางหลักทรัพย์กสิกรยังคงมองเหมือนเดิมคือ ปีนี้น่าจะมีโอกาสที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ เนื่องมาจาก
1.ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทเองได้แก่ พวก ฐานะทางการเงิน ปันผล เงินสดมากขึ้นกว่าเดิม
2.ศก ไทยยังไม่มีสัญญาณจองการหดตัว เพี่ยงแต่อาจชะลอตัวลงเนื่องมาจากปีก่อนหน้าเติบโตมาก ปีนี้อาจได้ซักประมาณ 4-5% จากเดิมที่ 7% ดัชนีความเชื่อมันผู้บริโภคสูงขึ้น การส่งออกที่โตถึง 30% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการ 2 เดือนล่าสุดโตถึง 27% โดยให้ภาพรวมทั้งปีน่าจะไม่ต่ำกว่า 10% การณีแผนดินไหวที่ JP ก็น่าจะทำมห้ไทยมีโอกาสส่งออกมากขึ้นด้วย
สิ่งที่ต้องระวังคือหุ้นมันคงไม่ขึ้นแรงๆไปแบบ 2 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้ความว่าปีนี้จะต้องลง จากสถิติหุ้นไทยเคยขึ้นติดต่อกัน 4 ปีก็เคยปรากฏมาแล้ว แต่ต้องติดตามพื้นฐานบริษัทและปัจจัยเสี่ยงที่เข้ามาเป้นระยะ ภาพของ 2 ปีที่ผ่านมา คือ ศก ฟื้นตัว เงินเฟ้อไม่สูงมาก 2 สิ่งนี้ทำให้หุ้นตอบสนองในทางบวกอย่างมาก แต่ปีนี้ สินค้าต่างๆปรับตัวขึ้นเงินเฟ้อสูงขึ้น ถึง สก จะเติบโต แต่ก็ไม่ส่งผลดกับหุ้นเท่าที่ควร ตลาดก็จะเปฯแบบไซด์เวย์ อึดอัดไม่เลือกจะไปทางไหน
ถ้าในแง่ของเทคนิคก็ดูยอดสูงสุดคือ 1050 จุดตั้งแต่ พย ที่ผ่านมายังไม่เคยทำจุดสูงสุดใหม่เลย ไต่ไปแถวๆ 1000 ตลอดเวลา แต่เริ่มเหเนจุดต่ำสุดใหม่ๆ
จับตาอัตราดอกเบี้ยที่ขึ้นตั้งแต่กลางปี 53 และคาดว่าจะขึ้นไปเรื่อยๆจนถึงกลางปีนี้ ดูว้าสามารถคุมเงินเฟ้อได้หรือไม่เพื่อเรียกความเขื่อมันกลับมา กับระวังเมษา กับ พค นี้สินค้าต่างๆจะทยอยปรับราคาขึ้นเงินเฟ้อของเราคงเพิ่มขึ้นอีกมาก ถ้าคุมเงินเฟ้ออยุ่หุ้นจะขึ้น คุมไม่อยู่ก็น่าจะลงแรง
เปรียบเทียบกลุ่มต่างๆตามวงจร ศก จะพบว่า 2 ปีที่ผ่านมา อสังหา กับยานยนต์หุ้นบวกมาก 200-300% ธนาคารก็ขึ้นมากกว่าตลาด เพราะเป้นกลุ่มที่ฟื้นตัวก่อน ศก พอมาปีนี้ 2 กลุ่มนี้ก็ไม่ไปไหน รอบนี้น่าจะเป้นรอบของพลังงานอย่างกลุ่ม ptt ที่จะเป้นตัวนำตลาดแทนปีที่แล้วขึ้นน้อย เพราะพลังงานเพิ่มขึ้นตามเงินเฟ้อ อีกกลุ่มที่ไม่ค่อยกระทบเงินเฟ้อก็พวกบริการที่ปีที่แล้วก็ขึ้นไม่มากปีนี้ก็น่าจับตาอย่างพวก โรงบาล บันเทิง โรงแรม กลุ่มพาณิชก็ได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อด้วย กลุ่มที่ดูไม่ดีก็ธนาคารเพราะเงินเฟ้อ+ดอกเบี้ยขึ้น มันจะกดดัน ศก ซึ่งกระทบกับการประกอบธุรกิจธนาคาร
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปสัมนาสุดยอดกลยุทธ์หุ้นปี 54
โพสต์ที่ 2
คุณสิริณัฎฐา : ไม่แนะนำกลุ่มธนาคาร เพราะโจทท์หนักคือ เงินเฟ้อ +ดอกเบี้ยขึ้น กดดันการทำธระกิจพอสมควร ดอกเบี้ยที่ขึ้นเป้นการขึ้นเพราะสินค้าต่างๆเพิ่มขึ้น ต้นทุนสูงขึ้นหรอื cost put เปเนต้นทุนจริงไม่ได้ประโยชน์ (ต่างจากการขึ้นดอกเยี้ยแบบ Demand pull ที่ขึ้นเพราะ ศก โตมากต้องลดความร้อนแรง ไมได้ทำให้ต้นทุนแพงขึ้นอันนี้จะได้ประโยชน์) อย่างในปี 08 ราคาน้ำมันอยู่ที่ 130 เหรียญ โภคภัณสูงหมด หุ้นธนาคารก็เน่าไป แม้จะมีการกู้เงินมากแต่เป้นการกู้ระยะสั้น กู้หมุนเวียน ไมได้ดอกเบี้ยเยอะอะไร ต่างจากการกู้เงินทำโครงการยาวๆได้ดอกเบี้ยดีกว่า
กรณี JP กระทบกลุ่มธนาคารระยะสั้นเนื่องจากเงินจะไหลกลับไปประเทสเขาก่อน แต่ในระยะยาวอาจได้ประโยชน์จากการที่บริษัทแม่ในญี่ปุ่นอาจต้องกระจายย้ายฐานการผลิตมาไทยเพื่อลดความเสี่ยง ซึ่งรวมถึงการปล่อยสินเชือ่พื่อการส่งออกก้ได้ประโยชน์ด้วย
กรณี JP กระทบกลุ่มธนาคารระยะสั้นเนื่องจากเงินจะไหลกลับไปประเทสเขาก่อน แต่ในระยะยาวอาจได้ประโยชน์จากการที่บริษัทแม่ในญี่ปุ่นอาจต้องกระจายย้ายฐานการผลิตมาไทยเพื่อลดความเสี่ยง ซึ่งรวมถึงการปล่อยสินเชือ่พื่อการส่งออกก้ได้ประโยชน์ด้วย
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปสัมนาสุดยอดกลยุทธ์หุ้นปี 54
โพสต์ที่ 3
คุณธนพร : เรื่อง JP กลุ่มพลังงานได้รับประโยชน์ เนื่องจาก JP เป้นผุ้นำเข้าพลังงานเปเนอันดับ 3 ของโลก โดยโครงสร้างพลังงานไฟฟ้าใน JP แบ่งเป็น 30%นิวเคลีย 30%LNGแก๊ส 25%ถ่านหิน ที่เหลืออื่นๆ โรงไฟฟ้านิวเคลียที่โดนไปก็หายไป 20% ของนิวเคลียหรือ 6% ของพลังงานทั้งหมด จึงคาดการได้ว่า jp จะต้องนำเข้าพลังงานพวกก๊าซ ถ่านหินไปเพื่อชดเฉยส่วนที่หายไป ทำมห้ช่วงสั้นๆ สเปรดการกลั่น น้ำมันเตา ต่างๆ วิ่งขึ้นไปสุงมากโรงกลั่นได้รับประโยชน์ ส้วนถ่านหินช่วงนี้อาจชะลอการนำเข้าเพราะปิดตรวจสอบโรงงานถ้าเปิดตามปกติก็คงนำเข้าสูงกว่าเดิม
ปิโตรเคมีก็เช่นกัน วิกฤตรอบนี้ หายไป 20% ซึ่งคาดว่าต้องมีการนำเข้าไปทดแทน แต่โรงกลั่นที่ปิดไป 30% ก็คาดว่าในอีก 2 สัปดาจะกลัยมได้ 2/3 ก็เป้นประโยชน์กับวัตถุดิบต้นนำ
ปิโตรเคมีก็เช่นกัน วิกฤตรอบนี้ หายไป 20% ซึ่งคาดว่าต้องมีการนำเข้าไปทดแทน แต่โรงกลั่นที่ปิดไป 30% ก็คาดว่าในอีก 2 สัปดาจะกลัยมได้ 2/3 ก็เป้นประโยชน์กับวัตถุดิบต้นนำ
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปสัมนาสุดยอดกลยุทธ์หุ้นปี 54
โพสต์ที่ 4
ดร.นิเวศน์ : ก็เห็นด้วยกับทุกคน แต่ถึงจุดหนึ่งไอ้หุ้นที่ว่าดีดี ก้อาจไปกันหมดถ้าเซตตกทั้งกระดาน เพราะหุ้นเหล่านี้เป้นกลุ่มใหญ่ๆทั้งนั้น
ส่วนตัวเชื่อว่า เงินเฟ้อ เป้นปัญหา เพราะที่ผ่านมาหลายๆปีไม่ค่อยได้เห้นเหตุการเงินเฟ้อขนาดนี้ รอบนี้เยอะจริงๆ เมกาก็โดน จีนโดนไปก่อนแล้ว ไทยยังไม่มากเพราะมีโปรโมชั่นคุมราคาสินค้าไปแต่เดือหน้าหมดโปรก็คงเป้นเงินเฟ้อแท้จริง ขอขึ้นราคา เงินเดือน ค่าแรงปรับขึ้น น้ำมันแพง ต้นทุนบริษัทก็เพ่มขึ้น ศก จะแย่ กำไรที่เคยมีจะดรอปเพราะปรับตัวไม่ทัน
ในตลาดหุ้นสิ่งที่น่ากลัวสุดก้คือเงินเฟ้อ บัฟเฟตกลัวเงินเฟ้อที่สุด เพราะมันกัดกร่อนอำนาจการซื้อ ก็จับตาถ้าดอกเบี้ยระยะสั้นสูงกว่าดอกเยี้ยระยะยาวเมือ่ไหร หุ้นไทยจะลงหนักมาก ตอนนี้ดอกระยะยาวก็อยุ่แถวๆ 5-6% ดอกระยะสั้นกำลังขยับขึ้นมาเรื่อยๆน่ากลัวมาก
ส่วนตัวเชื่อว่า เงินเฟ้อ เป้นปัญหา เพราะที่ผ่านมาหลายๆปีไม่ค่อยได้เห้นเหตุการเงินเฟ้อขนาดนี้ รอบนี้เยอะจริงๆ เมกาก็โดน จีนโดนไปก่อนแล้ว ไทยยังไม่มากเพราะมีโปรโมชั่นคุมราคาสินค้าไปแต่เดือหน้าหมดโปรก็คงเป้นเงินเฟ้อแท้จริง ขอขึ้นราคา เงินเดือน ค่าแรงปรับขึ้น น้ำมันแพง ต้นทุนบริษัทก็เพ่มขึ้น ศก จะแย่ กำไรที่เคยมีจะดรอปเพราะปรับตัวไม่ทัน
ในตลาดหุ้นสิ่งที่น่ากลัวสุดก้คือเงินเฟ้อ บัฟเฟตกลัวเงินเฟ้อที่สุด เพราะมันกัดกร่อนอำนาจการซื้อ ก็จับตาถ้าดอกเบี้ยระยะสั้นสูงกว่าดอกเยี้ยระยะยาวเมือ่ไหร หุ้นไทยจะลงหนักมาก ตอนนี้ดอกระยะยาวก็อยุ่แถวๆ 5-6% ดอกระยะสั้นกำลังขยับขึ้นมาเรื่อยๆน่ากลัวมาก
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปสัมนาสุดยอดกลยุทธ์หุ้นปี 54
โพสต์ที่ 5
คุณกวี : เรื่องเงินเฟ้อ ดอกเยี้ย น่ากลัวจริงๆ ถ้าคุมไม่อยู่ตลาดจะพังได้แต่คิดว่ายังไม่เกิดตอนนี้ จับตาราคาน้ำมันไว้ถ้ายืน 120 ซัก 1 เดือนก็ตัวใครตัว มันอังกฤษเงินเฟ้อ 4% ไทยก็น่าจะเกิน EU ตั้งเป้าไม่เกิน 2% ตอนนี้ก็เกินตลอด ทำให้ปัญญาต่างๆเลยแก้ไมได้ หนี้ก้ยังไม่จบแต่โดนข่าว jp มาบังชั่วคราว
กรณี JP มองพลังงานได้ประโยชน์ก็ซื้อ pTT ตัวแม่เลยได้ทุกตัว สินค้าเกษตร พวกพลังงานทดแทนก้น่าสนใจ ถัวเหลือง ปาม อาหารก้น่าจะมีการส่งไปญี่ปุ่นมากพวกอาหารแปรรูป เพราะญี่ปุ่นเองก็น่าจะขาดแคลนและปลาที่จับได้คงกลัวรังสี ขายไมได้ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ปูนเหล้ก ก็น่าสนใจ แต่สุดท้ายดูเงินเฟ้อ และดอกเบี้ยเป้นหลัก
กรณี JP มองพลังงานได้ประโยชน์ก็ซื้อ pTT ตัวแม่เลยได้ทุกตัว สินค้าเกษตร พวกพลังงานทดแทนก้น่าสนใจ ถัวเหลือง ปาม อาหารก้น่าจะมีการส่งไปญี่ปุ่นมากพวกอาหารแปรรูป เพราะญี่ปุ่นเองก็น่าจะขาดแคลนและปลาที่จับได้คงกลัวรังสี ขายไมได้ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ปูนเหล้ก ก็น่าสนใจ แต่สุดท้ายดูเงินเฟ้อ และดอกเบี้ยเป้นหลัก
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปสัมนาสุดยอดกลยุทธ์หุ้นปี 54
โพสต์ที่ 6
คุณสิริณัฏฐา : ธนาคารไม่น่าสนใจแต่ถ้าจะเลือกก็แระรำ tiscoที่เซฟหน่อยปันผล 2.25 บาท 26เมษา ปันผล 6% แถม pe ต่ำ 10 roe 20 กว่าๆสูงสุดในธนาคาร แต่ข้อเสียคือ จับธุรกิจเช่าซื้อรถยนเป้นหลัก ลอกดอกเบี้ยคงนี้ไม่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น
อีกตัวคือถ้าทุกอย่างจบ มีการลงทุนกลับมาก็ BBL เพราะมีศักยภาพในการปล่อยกู้ธุรกิจมากสุด
อีกตัวคือถ้าทุกอย่างจบ มีการลงทุนกลับมาก็ BBL เพราะมีศักยภาพในการปล่อยกู้ธุรกิจมากสุด
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปสัมนาสุดยอดกลยุทธ์หุ้นปี 54
โพสต์ที่ 7
คุณธนพร: เลือก PTT ได้ทุกอย่าง น้ำมัน ถ่านหิน ก๊าซ ปิโปร มองกำไรปกติโต 50% เพราะบริษัทลุกกำไรดีทุกตัว
2 Banpu การบริการจัดกรดีมาก ยอดขายปีนี้โตเยอะ กำไรปกติน่าจะโตได้ 70% ในปีนี้จาก ปริมาณถ่ายหินมากขึ้นและราคาถ่านหินที่สูงขึ้นประมาณ 20%
3 PTTCH โรงแครกเกอรืใหม่จะผลักดันกำไรให้ PTTCH โต 120%
2 Banpu การบริการจัดกรดีมาก ยอดขายปีนี้โตเยอะ กำไรปกติน่าจะโตได้ 70% ในปีนี้จาก ปริมาณถ่ายหินมากขึ้นและราคาถ่านหินที่สูงขึ้นประมาณ 20%
3 PTTCH โรงแครกเกอรืใหม่จะผลักดันกำไรให้ PTTCH โต 120%
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปสัมนาสุดยอดกลยุทธ์หุ้นปี 54
โพสต์ที่ 8
ดร.นิเวศน์ : ไอ้หุ้นในตลาดกำไรโต 100-200% มีเยอะพอหาได้ แต่มันก็มีความเสี่ยง ปลายปีค่อยว่ากันโอกาสลงทุนยังมี ไอ้หุ้นดีดี ถูกๆชัวๆ ตอนนี้ยังหาไม่เจอ รอไปก่อน ตอนนี้ก็อึดอัดอยู่ไม่รู้จะเข้าตัวไหน
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปสัมนาสุดยอดกลยุทธ์หุ้นปี 54
โพสต์ที่ 9
คุณกวี : ก้มี 2 ทางคือ ขึ้นรอบสุดท้าย กับลงแรงๆไปเลย เพราะเงินเฟ้อ ดอกเบี้ย ตอนนี้คนอึดอัดดุกันไปดูกันมา สุดท้ายจะไปตัดสินใจก็สายไปเสียแล้ว
ถ้าแบบนี้กรณีมองว่าขึ้นก่อนตัวไหนได้ประโยชน์ ก็มอง TVO เนื่องจากสินค้าจำเป็น รายได้ส่วนใหญ่มากกว่าต่างประเทศ ได้ราคาดี ปันผลอีก 6%
บริการได้ประโยชน์ แกรมมี่ แต่สภาพคล่องน้อยเลยเลือก major เพราะหนังใหญ่เข้าเยอะ ปันผล 6%
Centel กำรโต 900% ปีหน้าโตอีก 60% ราคาพื้นฐาน 6.7บาท 2 ปีที่ผ่านมาโรงแรมโดนเต็มๆแต่มันก็อยู่รอดมาได้
BGH แชร์โรงบาล 14% มีเตียง 4000 เตียง เกือบผูกขาดโรงบาลเอกชนไว้ เล่นกรณีไปซื้อกิจการมาเรื่อยๆ
หุ้นการเมืองที่น่าสนจากการเลือกตั้งก็ MCOT ที่จะมีรายได้จาการโฆษณาเลือกตั้ง หรือรับเหมาอย่าง STEC ที่เป้นเบอร์ 1 ในการสร้างโรงไฟฟ้า ไอ้รถไฟฟ้าสีต่างๆกำไรไม่ดีหรอก โรงไฟฟ้าที่ STEC ทำกำไรดีกว่า ถ้ารัฐบาลชุดเดิมกลับมาก็ได้ประโยชนืแต็มๆ
เสริมเรื่องโรงไฟฟ้าตอนนี้ มีการเปิดประมูล SPP จะประมูลขายไฟให้รัฐ 3500 เมกวัต ประมูลไปแล้ว 2000 ที่เหลือกำลังประมูลคิดเป้นโรงไฟฟ้าที่ต้องสร้าง 25-30โรงซึ่ง STEC เป้นผุ้เชี่ยวชาญตรงนี้ ใช้เวลาสร้าง 2-3ปี
ถ้าแบบนี้กรณีมองว่าขึ้นก่อนตัวไหนได้ประโยชน์ ก็มอง TVO เนื่องจากสินค้าจำเป็น รายได้ส่วนใหญ่มากกว่าต่างประเทศ ได้ราคาดี ปันผลอีก 6%
บริการได้ประโยชน์ แกรมมี่ แต่สภาพคล่องน้อยเลยเลือก major เพราะหนังใหญ่เข้าเยอะ ปันผล 6%
Centel กำรโต 900% ปีหน้าโตอีก 60% ราคาพื้นฐาน 6.7บาท 2 ปีที่ผ่านมาโรงแรมโดนเต็มๆแต่มันก็อยู่รอดมาได้
BGH แชร์โรงบาล 14% มีเตียง 4000 เตียง เกือบผูกขาดโรงบาลเอกชนไว้ เล่นกรณีไปซื้อกิจการมาเรื่อยๆ
หุ้นการเมืองที่น่าสนจากการเลือกตั้งก็ MCOT ที่จะมีรายได้จาการโฆษณาเลือกตั้ง หรือรับเหมาอย่าง STEC ที่เป้นเบอร์ 1 ในการสร้างโรงไฟฟ้า ไอ้รถไฟฟ้าสีต่างๆกำไรไม่ดีหรอก โรงไฟฟ้าที่ STEC ทำกำไรดีกว่า ถ้ารัฐบาลชุดเดิมกลับมาก็ได้ประโยชนืแต็มๆ
เสริมเรื่องโรงไฟฟ้าตอนนี้ มีการเปิดประมูล SPP จะประมูลขายไฟให้รัฐ 3500 เมกวัต ประมูลไปแล้ว 2000 ที่เหลือกำลังประมูลคิดเป้นโรงไฟฟ้าที่ต้องสร้าง 25-30โรงซึ่ง STEC เป้นผุ้เชี่ยวชาญตรงนี้ ใช้เวลาสร้าง 2-3ปี
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปสัมนาสุดยอดกลยุทธ์หุ้นปี 54
โพสต์ที่ 10
ผิดพลาด ประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ หากขาดตกตรงไหนไป ก็สามารถเพิ่มเติมได้นะครับเป้นประโยชน์กับทุกฝ่าย
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปสัมนาสุดยอดกลยุทธ์หุ้นปี 54
โพสต์ที่ 11
ขอบคุณครับ คุณแชมป์
Blueplanet
- CheNz
- Verified User
- โพสต์: 1612
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปสัมนาสุดยอดกลยุทธ์หุ้นปี 54
โพสต์ที่ 12
คุณกวีกล่าวว่า สิ่งที่ต้องระวังคือหุ้นมันคงไม่ขึ้นแรงๆไปแบบ 2 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้ความว่าปีนี้จะต้องลง จากสถิติหุ้นไทยเคยขึ้นติดต่อกัน 4 ปีก็เคยปรากฏมาแล้ว
จำได้คร่าวๆว่า เมื่อต้นปี ดร.นิเวศน์ แนะนำเตือนไว้ว่าตลาดหุ้นไทย ไม่เคยมีการขึ้นของหุ้นต่อกันมากกว่า 2 ปี
ข้อมูลไหนถูกต้องครับ หรืออาจเป็นเช่นว่าตลาดหุ้นเคยขึ้นติดต่อกัน 4 ปี แค่ครั้งเดียว ดร.จึงไม่นำมาเป็นนัยสำคัญ แต่กล่าวในภาพรวมที่เกิดขึ้นในตลาดประเทศไทย คือเฉลี่ยแล้วตลาดจะขึ้นติดต่อกันไม่เกิน 2 ปีครับ
จำได้คร่าวๆว่า เมื่อต้นปี ดร.นิเวศน์ แนะนำเตือนไว้ว่าตลาดหุ้นไทย ไม่เคยมีการขึ้นของหุ้นต่อกันมากกว่า 2 ปี
ข้อมูลไหนถูกต้องครับ หรืออาจเป็นเช่นว่าตลาดหุ้นเคยขึ้นติดต่อกัน 4 ปี แค่ครั้งเดียว ดร.จึงไม่นำมาเป็นนัยสำคัญ แต่กล่าวในภาพรวมที่เกิดขึ้นในตลาดประเทศไทย คือเฉลี่ยแล้วตลาดจะขึ้นติดต่อกันไม่เกิน 2 ปีครับ
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปสัมนาสุดยอดกลยุทธ์หุ้นปี 54
โพสต์ที่ 13
โห มาไวมาก พี่blueplanet ไม่หลับไม่นอนหรอครับblueplanet เขียน:ขอบคุณครับ คุณแชมป์
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปสัมนาสุดยอดกลยุทธ์หุ้นปี 54
โพสต์ที่ 14
คุณกวีน่าจะพูดให้กำลังใจนะครับ จริงๆที่ขึ้นยาว 4 ปีก็น่าจะมีไม่แน่ใจว่าปี 2528-2532 ใช่หรือเปล่าที่ขึ้นติดต่อกัน อิอิ นานไปหน่อยแต่ก็ไม่ได้ขึ้นแรงๆ ปี 2533-2536 และ2543-2546 ก็ขึ้นมา 3 ปีนะครับ ลองเชคดูครับCheNz เขียน:คุณกวีกล่าวว่า สิ่งที่ต้องระวังคือหุ้นมันคงไม่ขึ้นแรงๆไปแบบ 2 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้ความว่าปีนี้จะต้องลง จากสถิติหุ้นไทยเคยขึ้นติดต่อกัน 4 ปีก็เคยปรากฏมาแล้ว
จำได้คร่าวๆว่า เมื่อต้นปี ดร.นิเวศน์ แนะนำเตือนไว้ว่าตลาดหุ้นไทย ไม่เคยมีการขึ้นของหุ้นต่อกันมากกว่า 2 ปี
ข้อมูลไหนถูกต้องครับ หรืออาจเป็นเช่นว่าตลาดหุ้นเคยขึ้นติดต่อกัน 4 ปี แค่ครั้งเดียว ดร.จึงไม่นำมาเป็นนัยสำคัญ แต่กล่าวในภาพรวมที่เกิดขึ้นในตลาดประเทศไทย คือเฉลี่ยแล้วตลาดจะขึ้นติดต่อกันไม่เกิน 2 ปีครับ
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- CheNz
- Verified User
- โพสต์: 1612
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปสัมนาสุดยอดกลยุทธ์หุ้นปี 54
โพสต์ที่ 15
ขอบคุณมากครับคุณแชมป์
รบกวนถามเป็นความรู้นิดนึงนะครับ ดอกเบี้ยระยะสั้น กับดอกเบี้ยระยะยาว คืออะไรดูได้จากอะไรครับ ใช่ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารรึป่าวครับ
แล้วส่วนตัวผมสงสัยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างอัตราดอกเบี้ยกับเงินเฟ้อเงินฝืด
คือ เงินเฟ้อ > เพิ่มอัตราดอกเบี้ย , เงินฝืด < ลดอัตราดอกเบี้ย ...
เพิ่ม / ลด อัตราดอกเบี้ย จะมีผลยังไงครับ
แล้วอย่างการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 0.25% เพื่อให้ทันเงินเฟ้อนี่เป็นดอกเบี้ยระยะสั้นหรือยาวครับ
รบกวนถามเป็นความรู้นิดนึงนะครับ ดอกเบี้ยระยะสั้น กับดอกเบี้ยระยะยาว คืออะไรดูได้จากอะไรครับ ใช่ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารรึป่าวครับ
แล้วส่วนตัวผมสงสัยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างอัตราดอกเบี้ยกับเงินเฟ้อเงินฝืด
คือ เงินเฟ้อ > เพิ่มอัตราดอกเบี้ย , เงินฝืด < ลดอัตราดอกเบี้ย ...
เพิ่ม / ลด อัตราดอกเบี้ย จะมีผลยังไงครับ
แล้วอย่างการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 0.25% เพื่อให้ทันเงินเฟ้อนี่เป็นดอกเบี้ยระยะสั้นหรือยาวครับ
- kabu
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2149
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปสัมนาสุดยอดกลยุทธ์หุ้นปี 54
โพสต์ที่ 16
ลองดูข้อมูลจากเว็บนี้นะครับCheNz เขียน:ขอบคุณมากครับคุณแชมป์
รบกวนถามเป็นความรู้นิดนึงนะครับ ดอกเบี้ยระยะสั้น กับดอกเบี้ยระยะยาว คืออะไรดูได้จากอะไรครับ ใช่ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารรึป่าวครับ
แล้วส่วนตัวผมสงสัยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างอัตราดอกเบี้ยกับเงินเฟ้อเงินฝืด
คือ เงินเฟ้อ > เพิ่มอัตราดอกเบี้ย , เงินฝืด < ลดอัตราดอกเบี้ย ...
เพิ่ม / ลด อัตราดอกเบี้ย จะมีผลยังไงครับ
แล้วอย่างการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 0.25% เพื่อให้ทันเงินเฟ้อนี่เป็นดอกเบี้ยระยะสั้นหรือยาวครับ
http://goto.canon.co.th/itworks/corpora ... .php?id=33
อาจจะช่วยให้เข้าใจได้มากขึ้นครับ
อย่างไรก็ตาม มีบางประเทศที่ การลดดอกเบี้ยนโยบายไม่ได้ช่วยให้แก้ปัญหาเรื่องเงินฝืดได้เท่าไหร่ นั่นก็คือ ประเทศญี่ปุ่น ครับ เพราะดอกเบี้ยนโยบายเค้าติดดินมากๆมานานแล้ว
"หนทางเดียวที่จะก้าวพ้นขอบเขตของความเป็นไปได้ คือก้าวเข้าสู่ความเป็นไปไม่ได้", Arthur C. Clarke
สมุดบันทึก: http://kabuvi.wordpress.com/
สมุดบันทึก: http://kabuvi.wordpress.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปสัมนาสุดยอดกลยุทธ์หุ้นปี 54
โพสต์ที่ 18
คุณแชมป์ นี่เก่งในการรับข้อมูลมาก สังเกตุจากการโพสต์สรุปสิ่งที่
คุณแชมป์ฟังมา เก็บสาระสำคัญที่วิทยากรพูดได้เยอะมาก
ตอนนี้ผมเชื่อว่าคุณแชมป์เป็นผู้มีความรู้ความเข้าใจในการเลือกหุ้นอย่างมาก
ถ้าใครเป็นเพื่อนสนิทกับคุณแชมป์ ผมแนะนำให้ขอ
คุณแชมป์ เขียนหลักคิดที่ตกผลึกแล้ว เรียงความสำคัญ
มากที่สุด 1-5 แล้วใช้หลักคิดนั้นเลือกหุ้น
จะประสพความสำเร็จอย่างมากมาย
ที่เขียนแบบนี้ไม่ได้ต้องการให้คุณแชมป์โพสต์ความคิดที่ตกผลึกของ
คุณแชมป์นะครับ เพราะแค่การโพสต์สิ่งที่คุณแชมป์ฟังมา ก็เป็นประโยชน์ต่อคนทั่วไปอย่างมหาศาลแล้ว
ชอบและชื่นชมความใจดีของคุณแชมป์จริงๆ
คุณแชมป์ฟังมา เก็บสาระสำคัญที่วิทยากรพูดได้เยอะมาก
ตอนนี้ผมเชื่อว่าคุณแชมป์เป็นผู้มีความรู้ความเข้าใจในการเลือกหุ้นอย่างมาก
ถ้าใครเป็นเพื่อนสนิทกับคุณแชมป์ ผมแนะนำให้ขอ
คุณแชมป์ เขียนหลักคิดที่ตกผลึกแล้ว เรียงความสำคัญ
มากที่สุด 1-5 แล้วใช้หลักคิดนั้นเลือกหุ้น
จะประสพความสำเร็จอย่างมากมาย
ที่เขียนแบบนี้ไม่ได้ต้องการให้คุณแชมป์โพสต์ความคิดที่ตกผลึกของ
คุณแชมป์นะครับ เพราะแค่การโพสต์สิ่งที่คุณแชมป์ฟังมา ก็เป็นประโยชน์ต่อคนทั่วไปอย่างมหาศาลแล้ว
ชอบและชื่นชมความใจดีของคุณแชมป์จริงๆ
Blueplanet
-
- Verified User
- โพสต์: 1455
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปสัมนาสุดยอดกลยุทธ์หุ้นปี 54
โพสต์ที่ 20
แชมป์เก่งจริงๆๆๆ คริๆๆๆblueplanet เขียน:คุณแชมป์ นี่เก่งในการรับข้อมูลมาก สังเกตุจากการโพสต์สรุปสิ่งที่
คุณแชมป์ฟังมา เก็บสาระสำคัญที่วิทยากรพูดได้เยอะมาก
ตอนนี้ผมเชื่อว่าคุณแชมป์เป็นผู้มีความรู้ความเข้าใจในการเลือกหุ้นอย่างมาก
ถ้าใครเป็นเพื่อนสนิทกับคุณแชมป์ ผมแนะนำให้ขอ
คุณแชมป์ เขียนหลักคิดที่ตกผลึกแล้ว เรียงความสำคัญ
มากที่สุด 1-5 แล้วใช้หลักคิดนั้นเลือกหุ้น
จะประสพความสำเร็จอย่างมากมาย
ที่เขียนแบบนี้ไม่ได้ต้องการให้คุณแชมป์โพสต์ความคิดที่ตกผลึกของ
คุณแชมป์นะครับ เพราะแค่การโพสต์สิ่งที่คุณแชมป์ฟังมา ก็เป็นประโยชน์ต่อคนทั่วไปอย่างมหาศาลแล้ว
ชอบและชื่นชมความใจดีของคุณแชมป์จริงๆ
เขียนบทความ เล่าให้น้องๆเพื่อนๆฟังบ้างอย่างที่พี่เขาบอกก็ดีนะครับ
อย่าทำตัวเป็นนักแสดง เป็นเพียงผู้ดูก็พอ..
- thaloengsak
- Verified User
- โพสต์: 2716
- ผู้ติดตาม: 1
Re: สรุปสัมนาสุดยอดกลยุทธ์หุ้นปี 54
โพสต์ที่ 30
ขอบคุณมากๆเน้อ
ลงทุนเพื่อชีวิต