พี่ๆที่เล่นหุ้นอย่างเดียวมีพอร์ทเท่าไหร่ถึงเล่นหุ้นเป็นอาชีพ

[picklife]

อยากทราบว่าส่วนมาก เพื่อนๆ พี่ๆ มีพอร์ทกันเท่าไหร่ ถึงเล่นหุ้นเป็นอาชีพกันครับ

[Blueblood]

อยากให้มีสัก 20 ล้านนะครับ ถ้าคิดจะเล่นหุ้นอย่างเดียว เผื่อเวลาขาดทุนหนักๆก็ยังมีกินมีใช้
ผมคิด return แค่ 1% นะครับ เอาเคสแย่สุดๆ ก็ได้เดือนละ 16000-17000 บาท ถ้าอยู่อย่างประหยัดก็พอไหวครับ ถ้าพอร์ตเล็กกว่านี้ เสี่ียงเกินไปครับ ถ้าไปเจอช่วงตลาดแย่ยาวนานอย่างวิกฤติต้มยำกุ้งของเรา อดตายพอดีครับ

[nanchan]

ผมว่ามีกี่บาทก็เล่นเป็นอาร์ตได้นะ

[nanchan]

ลงทุนเป็นอาชีพหมายความว่าต้องมีเงินเท่านั้นเท่านี้เหรอ
ผมว่าคิดแบบขายก๋วยเตี๋ยวซิ ลงทุนเริ่มต้นหลักหมื่น ก็เป็นอาชีพแล้ว

ผมชอบคิดว่าผมลงทุนเป็นอาชีพ ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มลงทุนแล้ว
และก็บอกตัวเองเสมอว่ามันคืออาชีพหนึ่ง ไม่เคยคิดเป็นมือสมัครเล่น
ไปพร้อมๆกับการบริหารธุรกิจส่วนตัว ทุกวันนี้ก็ยังทำ

ผมว่าอาชีพการลงทุน ไม่ได้ใช้เวลาอะไรเยอะแยะมากมาย
ไม่เห็นความจำเป็นต้องเลิกทำงานอื่น แล้วออกมาเล่นหุ้นแล้วคิดว่าเป็นอาชีพนักลงทุน
(นอกจากเบื่อ,ขี้เกียจ,ไม่อยากทำ)

ลงทุนในกรอปความรู้ความสามารถ และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ก็สามารถลงทุนเป็นอาชีพได้แล้ว

ส่วนมากเวลาที่ไร้สาระสำหรับนักลงทุนอาชีพก็คือช่วงเวลา10.00 - 16.40 น. ครับ
(ยกเว้นประเภทเดย์เทรด)

พูดง่ายๆ เริ่มต้นไม่กี่บาท ก็คิดจริงจังกับมันซะ
งานเดิมที่ทำอยู่ก็เต็มที่ด้วย ไม่มีความจำเป็นต้องเลิก

[picklife]

ผมว่ามีกี่บาทก็เล่นเป็นอาร์ตได้นะ

คืออะไรหรอครับพี่

[picklife]

อยากให้มีสัก 20 ล้านนะครับ ถ้าคิดจะเล่นหุ้นอย่างเดียว เผื่อเวลาขาดทุนหนักๆก็ยังมีกินมีใช้
ผมคิด return แค่ 1% นะครับ เอาเคสแย่สุดๆ ก็ได้เดือนละ 16000-17000 บาท ถ้าอยู่อย่างประหยัดก็พอไหวครับ ถ้าพอร์ตเล็กกว่านี้ เสี่ียงเกินไปครับ ถ้าไปเจอช่วงตลาดแย่ยาวนานอย่างวิกฤติต้มยำกุ้งของเรา อดตายพอดีครับ

ขอบคุณครับพี่ เผื่อกรณีเลวร้ายสุดก็น่าจะยังมีปันผล1%ปะครับพี่

[picklife]

ลงทุนเป็นอาชีพหมายความว่าต้องมีเงินเท่านั้นเท่านี้เหรอ
ผมว่าคิดแบบขายก๋วยเตี๋ยวซิ ลงทุนเริ่มต้นหลักหมื่น ก็เป็นอาชีพแล้ว

ผมชอบคิดว่าผมลงทุนเป็นอาชีพ ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มลงทุนแล้ว
และก็บอกตัวเองเสมอว่ามันคืออาชีพหนึ่ง ไม่เคยคิดเป็นมือสมัครเล่น
ไปพร้อมๆกับการบริหารธุรกิจส่วนตัว ทุกวันนี้ก็ยังทำ

ผมว่าอาชีพการลงทุน ไม่ได้ใช้เวลาอะไรเยอะแยะมากมาย
ไม่เห็นความจำเป็นต้องเลิกทำงานอื่น แล้วออกมาเล่นหุ้นแล้วคิดว่าเป็นอาชีพนักลงทุน
(นอกจากเบื่อ,ขี้เกียจ,ไม่อยากทำ)

ลงทุนในกรอปความรู้ความสามารถ และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ก็สามารถลงทุนเป็นอาชีพได้แล้ว

ส่วนมากเวลาที่ไร้สาระสำหรับนักลงทุนอาชีพก็คือช่วงเวลา10.00 - 16.40 น. ครับ
(ยกเว้นประเภทเดย์เทรด)

พูดง่ายๆ เริ่มต้นไม่กี่บาท ก็คิดจริงจังกับมันซะ
งานเดิมที่ทำอยู่ก็เต็มที่ด้วย ไม่มีความจำเป็นต้องเลิก

ขอบคุณครับพี่ ตอนนี้เงินน้อย เงินเดือนทั้งปีประมาณ20%ของพอร์ท มุมมองผมตอนนี้ก็มองจริงจังมากๆเหมือนกันครับ แต่วันหนึ่งถ้าสัดส่วนนี้น้อยๆ ก็อยากออกมาเต็มตัวเหมือนกันนะครับ เพราะอยากไปงานoppdayอยากไปประชุมผู้ถือหุ้นอยากไปcompanyvisitกับเขาบ้างนะครับ แล้วก็อยากเดินทางไปหาความรู้เพิ่มเติมจากเซียนที่นับถือนะครับ

[ซุนเซ็ก]

ผมยังนะ, แต่คิดไว้ว่า 20 ล้าน ถึงพอเลิกทำงานอื่นได้(ถ้าอยากเลิก) โดยไม่เครียดเกินไป
10 ล้านซื้อหุ้นกู้ดอก 6%, อีก 10 ล้านซื้อหุ้นสามัญ
ก็จะมีรายได้ที่ค่อนข้างแน่นอนเดือนละ 5 หมื่น up เพียงพอสำหรับครอบครัวเล็กๆแล้ว

[BABY TERMITE]

ลงทุนเป็นอาชีพหมายความว่าต้องมีเงินเท่านั้นเท่านี้เหรอ
ผมว่าคิดแบบขายก๋วยเตี๋ยวซิ ลงทุนเริ่มต้นหลักหมื่น ก็เป็นอาชีพแล้ว

ผมชอบคิดว่าผมลงทุนเป็นอาชีพ ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มลงทุนแล้ว
และก็บอกตัวเองเสมอว่ามันคืออาชีพหนึ่ง ไม่เคยคิดเป็นมือสมัครเล่น
ไปพร้อมๆกับการบริหารธุรกิจส่วนตัว ทุกวันนี้ก็ยังทำ

ผมว่าอาชีพการลงทุน ไม่ได้ใช้เวลาอะไรเยอะแยะมากมาย
ไม่เห็นความจำเป็นต้องเลิกทำงานอื่น แล้วออกมาเล่นหุ้นแล้วคิดว่าเป็นอาชีพนักลงทุน
(นอกจากเบื่อ,ขี้เกียจ,ไม่อยากทำ)

ลงทุนในกรอปความรู้ความสามารถ และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ก็สามารถลงทุนเป็นอาชีพได้แล้ว

ส่วนมากเวลาที่ไร้สาระสำหรับนักลงทุนอาชีพก็คือช่วงเวลา10.00 - 16.40 น. ครับ
(ยกเว้นประเภทเดย์เทรด)

พูดง่ายๆ เริ่มต้นไม่กี่บาท ก็คิดจริงจังกับมันซะ
งานเดิมที่ทำอยู่ก็เต็มที่ด้วย ไม่มีความจำเป็นต้องเลิก

อยากให้มีปุ่มกด Like จัง

[nanchan]

ผมว่ามีกี่บาทก็เล่นเป็นอาร์ตได้นะ

คืออะไรหรอครับพี่

ไม่มีไรหรอก เขียนเล่นๆ อาร์ต อาช อาชีพ

ขอบคุณครับพี่ ตอนนี้เงินน้อย เงินเดือนทั้งปีประมาณ20%ของพอร์ท มุมมองผมตอนนี้ก็มองจริงจังมากๆเหมือนกันครับ แต่วันหนึ่งถ้าสัดส่วนนี้น้อยๆ ก็อยากออกมาเต็มตัวเหมือนกันนะครับ เพราะอยากไปงานoppdayอยากไปประชุมผู้ถือหุ้นอยากไปcompanyvisitกับเขาบ้างนะครับ แล้วก็อยากเดินทางไปหาความรู้เพิ่มเติมจากเซียนที่นับถือนะครับ

เห็นหลายๆคนมาลงทุนซักพักแล้วก็อยากมาเล่นเป็นอาชีพ ไม่รู้เพราะอะไรนะ
เพราะคิดว่าเล่นเป็นอาชีพกำไรเยอะ ตรงนี้คิดว่าไม่เกี่ยว
หรือว่าต้องเอาเวลาไปopp dayเยอะๆ ตรงนี้คิดว่าดูทางเนตก็ได้ อาจไปเฉพาะบ.ที่เราโฟกัสจริงๆ
ไปcompany visit ก็น่าจะลางานไปได้บ้างนะ ผมไปมาแค่5ครั้งเอง เฉลี่ยไม่ถึง ปีละครั้ง
จะว่าไป ไปดูก็มีประโยชน์ เปิดหูเปิดตา เข้าใจมากขึ้น แต่คิดว่าก็ไม่จำเป็นต้องดูมากมายนัก
ได้ดูซักบริษัทสองบริษัท ก็พอจะนึกภาพออกแล้วมั้ง
(แต่ก็มีคนที่อยากไปดูเพื่อเอาข้อมูลอินไซ อันนี้ก็ไม่รู้นะ)
ถ้าไงอยากได้ข้อมูลก็ลองถามIrดูก็ได้ เผื่อได้อะไรดีๆ
อันหลังนี่ อยากเดินทางไปหาความรู้เพิ่มเติมจากเซียนที่นับถือนะครับ ฟังแล้วตลกดีนะ
ท่าทางจะทำงาน24hrแบบ7-11 7days ไม่มีเวลาเลย อิอิ

แต่ไงก็แล้วแต่ ก็แล้วแต่ความคิดท่านpicklife
ส่วนตัวผม ถ้าอนาคตถ้าสามารถหางานที่ชอบทำได้ และมีอิสระในการใช้ชีวิตบ้าง ก็คงหางานทำไป เล่นหุ้นไป
จริงๆวันนี้ก็คิดแต่อยากจะเลิกทำงาน ก็เลยเป็นทุกข์ไปซะงั้น
รอให้ถึงเวลาจะเลิกก็เลิกน่าจะดีกว่า

[thaloengsak]

ตั้งแต่วันแรกที่ผมเป็นนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์
ผมไม่เคยคิดสักครั้งเลยว่า
ผมกำลัง "เล่น"(หุ้น)
แต่ผมสิ่งที่ผมทำคือการ "ลงทุนเพื่อชีวิต"

[0N0111]

ผมว่าถ้าเรามีรายได้เพียงพอ จากการลงทุน เราก็สามาทำในสิ่ง(งาน)ที่เราอยากทำได้โดยตัดปัจจัยเรื่องรายได้ออกไป
อาจเป็น ภารโรง กวาดขยะ พนักงานร้านหนังสือ ๙ล๙

[Joga Bonito]

ลงทุนเป็นอาชีพหมายความว่าต้องมีเงินเท่านั้นเท่านี้เหรอ
ผมว่าคิดแบบขายก๋วยเตี๋ยวซิ ลงทุนเริ่มต้นหลักหมื่น ก็เป็นอาชีพแล้ว

ผมชอบคิดว่าผมลงทุนเป็นอาชีพ ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มลงทุนแล้ว
และก็บอกตัวเองเสมอว่ามันคืออาชีพหนึ่ง ไม่เคยคิดเป็นมือสมัครเล่น
ไปพร้อมๆกับการบริหารธุรกิจส่วนตัว ทุกวันนี้ก็ยังทำ

ผมว่าอาชีพการลงทุน ไม่ได้ใช้เวลาอะไรเยอะแยะมากมาย
ไม่เห็นความจำเป็นต้องเลิกทำงานอื่น แล้วออกมาเล่นหุ้นแล้วคิดว่าเป็นอาชีพนักลงทุน
(นอกจากเบื่อ,ขี้เกียจ,ไม่อยากทำ)

ลงทุนในกรอปความรู้ความสามารถ และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ก็สามารถลงทุนเป็นอาชีพได้แล้ว

ส่วนมากเวลาที่ไร้สาระสำหรับนักลงทุนอาชีพก็คือช่วงเวลา10.00 - 16.40 น. ครับ
(ยกเว้นประเภทเดย์เทรด)

พูดง่ายๆ เริ่มต้นไม่กี่บาท ก็คิดจริงจังกับมันซะ
งานเดิมที่ทำอยู่ก็เต็มที่ด้วย ไม่มีความจำเป็นต้องเลิก

เห็นด้วยเต็มที่นะครับ

ทำงานประจำ ก็ต้องทำให้เต็มที่
ลงทุนก็ต้องทุ่มเทกับมันให้เต็มที่เหมือนกัน
เต็มที่นี่คือเอาจริงเอาจังนะครับ ไม่ใช่หมายถึง ซัดมาร์จิ้นให้เต็มที่ อิๆ

[akekarat]

ไม่จำเป็นต้องเอาเวลามาลงทุนเป็นอาชีพหรอก
เพราะว่าถ้าคุณศึกษาจริง ๆ คุณจะรู้ว่าการลงทุนมันไม่จำเป็นต้องใช้เวลาประจำ
และไม่ได้ใช้เวลามากมายอะไรเลย อย่างมากปีละ 4 ครั้ง

เว้นเสียแต่คุณอยากเล่นแบบ trading ก็อีกเรื่องหนึ่ง

[picatos]

ถ้าตัดเรื่องความสุขความชอบ แล้วนับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างเดียว

Trade off ของการลงทุนอาชีพ ความเสี่ยง กับ การทำงานเป็นพนักงานกินเงินเดือนธรรมดาๆ ไม่ใช่ผู้บริหารระดับสูง ของผม อยู่ที่ 10 ล้านครับ

[sorawut]

มีซัก 20 ล้าน ผมอาจออกจากงานประจำมาทำงานเพื่อสังคมมากขึ้น

[กล้วยไม้ขาว]

ผมเข้าใจที่พี่นันจังจะสื่อนะ
คือคนส่วนใหญ่มักจะคิดว่ามีเงินเท่านั้นเท่านี้แล้วจะออกมาเป็นนักลงทุนเต็มตัว
ก็เหมือนกับพนักงานบริษัทที่บอกว่าถ้าได้เงินเดือนเพิ่มอีกเท่าตัวจะยอมทำงานหนักถวายชีวิต

คือคิดแบบ ถ้ามี... เราจะเป็น... แล้วจึงจะทำ...
แต่ในความเป็นจริง เราต้องทำ... ก่อนเราถึงจะเป็น... แล้วการมีคือผลลัพธ์ เช่น
ถ้าเราทำงานหนักรับผิดชอบเกินหน้าที่ เราจึงมีโอการเลื่อนขั้น แล้วผลลัพธ์คือเราได้เงินเดือนเยอะขึ้น

พูดง่ายๆ ก็คือคนเรามักอยู่กับความเพ้อฝันมากวว่าความจริง



ส่วนที่พี่ปิ๊กถามผมก็เข้าใจว่า น่าจะอยากรู้ความคิดเห็นของคนอื่นว่าถ้าอยากลงทุนในหุ้นอย่างเดียว
ควรมีเงินมากขนาดไหนจึงจะเหมาะสม เพราะงานที่ทำอยู่ไม่ใช่สิ่งที่ชอบ

ผมคิดว่าแต่ละคนไม่เท่ากันหรอกครับ ต้องลองเอารายจ่ายที่เรามีในแต่ละเดือน
มาคิดว่าทั้งปีเป็นเท่าไหร่แล้วคูณสอง เผื่อเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดในอนาคตอย่างมีลูก
แล้วลองหาว่าถ้าเราเอาเงินไปลงทุนหุ้นที่มี DIV สัก 5% ต่อปีต้องมีเงินเท่าไหร่
จึงจะพอกับรายจ่ายของเรา

บางคนรายจ่ายมาก บางคนรายจ่ายน้อยไม่เท่ากันทำให้มูลค่าของการ retire ต่างกันด้วยครับ
ส่วนตัวผมมีรายจ่ายสักเดือนละสองหมื่น ก็ต้องการพอร์ทสัก 20,000*2*12*100/5 = 9,600,000 บาท
ประมาณนี้ครับ

[Notelio]

ผมว่ามันไม่เกี่ยวกับว่าจะมีเท่าไหร่หรอกครับ มันเกี่ยวกับว่างานที่เราทำอยู่ปกติมันน่าเบื่อหรือไม่จูงใจแล้ว และเรามีรายได้จากการลงทุนเกินกว่ารายจ่ายที่เราต้องเสียทุกเดือน ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ออกมาเล่นอย่างเดียวได้แล้วแต่ระวังความเบื่อจากการที่ไม่มีงานหลักทำด้วยนะครับ

[densin]

กลับกัน ถ้าผมมีเงินมากเหลือล้น
หาหุ้นปันผลที่โตชนะเงินเฟ้อหลายๆตัวซื้อกินปันผลไปเรื่อยๆ
แล้วเลิกลงทุน ไปทำอย่างอื่นให้สังคมจะดีกว่า
เพราะเงินที่เกินกว่าจะใช้จ่ายได้ แทบไม่มีประโยชน์อะไรมากนัก

[viหัดคลาน]

อยากให้มีสัก 20 ล้านนะครับ ถ้าคิดจะเล่นหุ้นอย่างเดียว เผื่อเวลาขาดทุนหนักๆก็ยังมีกินมีใช้
ผมคิด return แค่ 1% นะครับ เอาเคสแย่สุดๆ ก็ได้เดือนละ 16000-17000 บาท ถ้าอยู่อย่างประหยัดก็พอไหวครับ ถ้าพอร์ตเล็กกว่านี้ เสี่ียงเกินไปครับ ถ้าไปเจอช่วงตลาดแย่ยาวนานอย่างวิกฤติต้มยำกุ้งของเรา อดตายพอดีครับ

+1 เห็นด้วยครับว่า ควรเกิน20ล้านขึ้นไปครับ และที่สำคัญต้องไม่มีหนี้สินหรือความรับผิดชอบอื่นๆนะครับ เช่นค่าบ้านค่ารถ รวมถึงค่านมลูก ถ้าคุณมี นอกจากนี้ในปัจจุบันการติดตามข่าวสารหรือติดตามกิจการบริษัทนั้นสามารถทำได้ง่ายขึ้นมากกว่าเมื่อก่อน ส่วนตัวแล้วถ้าวันนั้นมาถึงผมคงแค่ลดเวลาทำงานมากกว่าที่จะเลิกทำไปเลย

[MaiFuen]

อยากรู้ว่าพี่ picklife ตั้งไว้ที่เท่าไรครับ^^

[halfofw]

ผมคิดว่า ค่าใช้จ่าย หรือภาระของแต่ล่ะคนคงไม่เท่ากัน คงตอบเป็นตัวเลขไม่ได้ว่าต้องมี Port เป็นมูลค่ากี่ล้าน


สมมติว่า ค่าใช้จ่ายโสด เดือนล่ะ 20,000 -> ปีล่ะ 240,000 บวกค่าฉุกเฉินอีก 25% (60,000) รวม 300,000 ต่อปี
ถ้าคิดว่ามีผลตอบแทนเฉลี่ยปีล่ะ 1 % = เงินต้นควรมี 30 ล้าน
ถ้าคิดว่ามีผลตอบแทนเฉลี่ยปีล่ะ 2 % = เงินต้นควรมี 15 ล้าน
ถ้าคิดว่ามีผลตอบแทนเฉลี่ยปีล่ะ 5 % = เงินต้นควรมี 6 ล้าน
ถ้าคิดว่ามีผลตอบแทนเฉลี่ยปีล่ะ 10 % = เงินต้นควรมี 3 ล้าน
ถ้าคิดว่ามีผลตอบแทนเฉลี่ยปีล่ะ 15 % = เงินต้นควรมี 2 ล้าน


สมมติว่า ค่าใช้จ่ายมีครอบครัว (ภรรยา ลูก พ่อแม่) เดือนล่ะ 60,000 -> ปีล่ะ 720,000 บวกค่าฉุกเฉินอีก 25% (180,000) รวม 900,000 ต่อปี
ถ้าคิดว่ามีผลตอบแทนเฉลี่ยปีล่ะ 1 % = เงินต้นควรมี 90 ล้าน
ถ้าคิดว่ามีผลตอบแทนเฉลี่ยปีล่ะ 2 % = เงินต้นควรมี 45 ล้าน
ถ้าคิดว่ามีผลตอบแทนเฉลี่ยปีล่ะ 5 % = เงินต้นควรมี 18 ล้าน
ถ้าคิดว่ามีผลตอบแทนเฉลี่ยปีล่ะ 10 % = เงินต้นควรมี 9 ล้าน
ถ้าคิดว่ามีผลตอบแทนเฉลี่ยปีล่ะ 15 % = เงินต้นควรมี 6 ล้าน


ดังนั้นจะเห็นว่าเวลาเรามองให้เรามองระยะกลางหรือไกลหน่อย ว่าต่อไปเราจะมีครอบครัวไหม หรือว่าต้องดูแลพ่อแม่หรือปล่าว ค่าใช้จ่ายอาจจะมากขึ้นในอนาคต ... แต่อย่างไรก็ดีถ้าเรามีความสามารถในการสร้างผลตอบแทนได้ดีขึ้น มันก้อช่วยทำให้เรามีรายได้มากขึ้น หรือว่าช่วยลดเงินต้นได้มาก

เพื่อน ๆ ใน ThaiVi หลาย ๆ คนเริ่มต้นด้วยเงินเพียงหลักแสน หรือว่าหลักล้าน .. แต่ก้อสามารถทำผลตอบแทนเฉลี่ยมากกว่า 15% ติดต่อกันเป็นเวลาหลาย ๆ ปี ... ซึ่งถือว่าน่าเชื่อชมมากครับ

[picklife]

แต่ไงก็แล้วแต่ ก็แล้วแต่ความคิดท่านpicklife
ส่วนตัวผม ถ้าอนาคตถ้าสามารถหางานที่ชอบทำได้ และมีอิสระในการใช้ชีวิตบ้าง ก็คงหางานทำไป เล่นหุ้นไป
จริงๆวันนี้ก็คิดแต่อยากจะเลิกทำงาน ก็เลยเป็นทุกข์ไปซะงั้น
รอให้ถึงเวลาจะเลิกก็เลิกน่าจะดีกว่า

ขอบคุณครับพี่ แหะๆที่อยากไปoppเดย์และงานต่างๆ ไปข้อมูลส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่งอขากไปได้บรรยากาศและไปเจอพี่ๆด้วยนะครับ อารมณ์ล้วนๆครับมะมีเหตุผลเท่าไหร่

[picklife]

อยากรู้ว่าพี่ picklife ตั้งไว้ที่เท่าไรครับ^^

แหะๆเงินน้อยๆแบบพี่ มองไว้ที่ประมาณ10ล้านนะครับเพราะเงินเดือนทั้งปีจะประมาณ4%ของพอร์ทเท่านี้
ดั้งนั้นมองว่ายอมเสีย4%แลกกับเวลาที่มากขึ้น น่าจะคุ้มกับการแลกนะครับ
แต่พอฟังๆจากพี่ๆก็เริ่มชั่งใจที่20ล้านแทนครับ...เวลาที่มากขึ้นแลกกับ2%น่าจะเสถียรมากกว่า

[harikung]

ผมคิดว่ามันขึ้นอยู่กับเป้าหมายที่เราวางไว้นะครับว่าเราต้องการเลิกทำงานประจำแล้วมีรายได้จากเงินปันผลแทนเท่าไหร่ บางคนอาจจะต้องการแค่เดือนละ4-5หมื่นนั่นหมายความว่าเง์นลงทุนก้อประมาณ10ล้าน(สมมติปันผล5เปอเซน) แต่บางคนแค่นี้ก้อไม่พอครับ (เช่นผม)และอีกอย่างต้องดูห้นทุนชีวิตเราด้วยครับว่าเราเริ่มจากเท่าไหร่ ถ้าเราต้นทุนชีวิตไม่สูงต้องอาศัยแบ่งเงินจากเดํอนค่อยๆมาลง กว่าจะถึงระดับ10ล้าน เราอาจจะใช้เวลานานกว่าพวกที่ต้นทุนชีวิตสูงกว่าเรา บางคนสิบล้านนี่เป็นแค่เงินเริ่มต้นเปิดพอร์ตเค้าด้วยซำ้

[SEHJU]

like ให้ป๋านัน ล้าน ครั้ง..

[Blueblood]

ผมว่าเราต้องแยกประเด็นระหว่างลงทุนอย่างมีความสุขและประสบความสำเร็จทำอย่างไร กับ มีเงินเท่าไหร่ถึงจะลงทุนเป็นอาชีพอย่างเดียวได้นะครับ ถ้าเอาประเด็นแรกมีเงินเท่าไหร่ก็ได้ครับ แล้วแต่เราแต่ควรไปโฟกัสที่หลักการลงทุนและจริตของเราเป็นหลัก ส่วนประเด็นหลังผมว่ายังไงก็ต้องมีเงินพอสมควรครับ ไม่อย่างงั้นทำเป็นอาชีพเสี่ยงเกินไปครับ

[siebelize]

กระทู้แบบนี้แสดงถึงความคาดหวังของ นลท ที่อยู่ในตลาดรึเปล่าครับ
ว่า ยังดีอยู่


แต่ว่าแนวคิดของพี่ๆหลายคน ก็เป็นประโยชน์มากครับ

[หมักเตา]

โดยไม่พึ่งพิงรายได้ทางอื่นเลย และในระดับความเครียดท่ีพอรับได้
ผมยังเชื่อตามท่านดร.ว่าควรเป็น 200 เท่าของค่าใช้จ่ายรายเดือนท่ีคาดว่าจะเกิดขึ้นครับ

[aviruth]

ของผมถ้าเงินปันผลได้มากกว่าเงินที่ได้จากงานประจำทั้งปี ผมออกโลด ทำงานทุกวันนี้เครียดมากเลย