ตลาดทำ new high ในรอบ 15 ปี
-
- Verified User
- โพสต์: 353
- ผู้ติดตาม: 0
ตลาดทำ new high ในรอบ 15 ปี
โพสต์ที่ 1
ตลาดทำ new high 1,06X ในรอบ 15 ปี
ปีที่แล้วทำnew high 1,000 ในรอบ 14 ปี
2 ปีที่แล้ว...
3 ปีที่แล้ว....
มีการทำ new high มั้ยครับ
พอดีผมซื้อหุ้นยังไม่ถึงปีเลย
ซื้อตอนนี้มันจะดอย มั้ยครับ แล้วมันจะเป็น VI ได้หรอครับ
เห็นพี่ๆบอกไม่มีเงินเลย ซื้อหุ้นหมด แถมยังอยากซื้ออีก
VI=value investor เน้นคุณค่า เกรงว่าตอนนี้คุณค่ามันจะเต็มแล้วรึป่าวครับ
ขออภัย มือใหม่หัดเคาะ!!
ขอความกรุณาอย่าตอบว่าถามตัวผมเองนะครับ
เพราะมือใหม่สมองยังปลอดโปร่งไม่มีข้อมูล เลยมาหาข้อมูลอยุ่ครับ
*หมายเหตุ หาข้อมูลไว้พิจารณา ไม่ได้เชื่อ 100% นะครับ
เผื่อมีคนเตือน เลยเริ่มจากเตือนตัวเองก่อน
ปีที่แล้วทำnew high 1,000 ในรอบ 14 ปี
2 ปีที่แล้ว...
3 ปีที่แล้ว....
มีการทำ new high มั้ยครับ
พอดีผมซื้อหุ้นยังไม่ถึงปีเลย
ซื้อตอนนี้มันจะดอย มั้ยครับ แล้วมันจะเป็น VI ได้หรอครับ
เห็นพี่ๆบอกไม่มีเงินเลย ซื้อหุ้นหมด แถมยังอยากซื้ออีก
VI=value investor เน้นคุณค่า เกรงว่าตอนนี้คุณค่ามันจะเต็มแล้วรึป่าวครับ
ขออภัย มือใหม่หัดเคาะ!!
ขอความกรุณาอย่าตอบว่าถามตัวผมเองนะครับ
เพราะมือใหม่สมองยังปลอดโปร่งไม่มีข้อมูล เลยมาหาข้อมูลอยุ่ครับ
*หมายเหตุ หาข้อมูลไว้พิจารณา ไม่ได้เชื่อ 100% นะครับ
เผื่อมีคนเตือน เลยเริ่มจากเตือนตัวเองก่อน
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1487
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ตลาดทำ new high ในรอบ 15 ปี
โพสต์ที่ 2
ก่อน Lehman Brother ล้ม ก็มี New high เทียบกับต้มยำกุ้งเรื่อยๆครับ 800 จุด 900 จุด สูงสุดที่ SET เคยไปได้ก็ก่อนต้มยำกุ้งเคยไป 1700 จุด
อันนี้ใครจะซื้อหรือไม่ซื้อคงแล้วแต่ ผมว่าสนใจหุ้นดีกว่าดรรชนีครับ ตอนนี้ก็มีหลายตัวที่มองว่าน่าซื้อ หุ้นบางตัวอย่าง SCC ถึงซื้อตอน 1700 จุดเก็บมาตอนนี้ก็ยังได้หลายเด้งครับ
อันนี้ใครจะซื้อหรือไม่ซื้อคงแล้วแต่ ผมว่าสนใจหุ้นดีกว่าดรรชนีครับ ตอนนี้ก็มีหลายตัวที่มองว่าน่าซื้อ หุ้นบางตัวอย่าง SCC ถึงซื้อตอน 1700 จุดเก็บมาตอนนี้ก็ยังได้หลายเด้งครับ
- ซุนเซ็ก
- Verified User
- โพสต์: 1104
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ตลาดทำ new high ในรอบ 15 ปี
โพสต์ที่ 4
SET new high เมื่อวานยังมีบางหุ้นทำ new low เลยครับ
ดูเป็นบริษัทๆไปดีกว่า...ไม่ว่าตลาดจะดีหรือจะแย่ เราก็ต้องดูเป็นรายตัวอยู่ดี
ดูเป็นบริษัทๆไปดีกว่า...ไม่ว่าตลาดจะดีหรือจะแย่ เราก็ต้องดูเป็นรายตัวอยู่ดี
ผมไม่ได้อยู่ในเว็บนี้แล้ว, มีอะไรติดต่อได้ทาง FB - 27/9/2555
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ตลาดทำ new high ในรอบ 15 ปี
โพสต์ที่ 5
จากประสบการณ์ของผม ผมคิดว่าเราจะหาหุ้นลงทุนได้ยากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากนักลงทุนมีความรู้ ความเข้าใจในการลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งพอร์ตของนักลงทุนก็โตมากขึ้น ในขณะที่มีบริษัทที่ดีๆเข้ามาจดทะเบียนเพิ่มขึ้นไม่มากนัก
ในช่วงวิกฤตเมื่อสองปีก่อน ราคาหุ้นหลายบริษัทก็ลดลงไม่มากนัก ต่างจากวิกฤตครั้งก่อนๆที่นักเก็งกำไรจะเทขายหุ้นทุกบริษัท เพราะคิดแต่เพียงว่า ขายวันนี้ เพื่อซื้อถูกกว่าในอนาคต แต่ยุคสมัยนี้ขายแล้วอาจตกรถ เพราะจะมีนักลงทุนที่มีเงินเย็น พร้อมที่จะซื้อหุ้นแล้วอดทนรอ
แน่นอนว่า ดัชนีแถวนี้ ราคาหุ้นส่วนใหญ่มีราคาไม่ถูกเมื่อพิจารณาด้วยหลักเกณฑ์ง่ายๆ คงต้องใช้ความรู้ ความเข้าใจในธุรกิจของบริษัทมากขึ้น เพื่อที่จะค้นหาบริษัทที่จะมีผลการดำเนินงานที่เติบโตมากๆ
ในช่วงวิกฤตเมื่อสองปีก่อน ราคาหุ้นหลายบริษัทก็ลดลงไม่มากนัก ต่างจากวิกฤตครั้งก่อนๆที่นักเก็งกำไรจะเทขายหุ้นทุกบริษัท เพราะคิดแต่เพียงว่า ขายวันนี้ เพื่อซื้อถูกกว่าในอนาคต แต่ยุคสมัยนี้ขายแล้วอาจตกรถ เพราะจะมีนักลงทุนที่มีเงินเย็น พร้อมที่จะซื้อหุ้นแล้วอดทนรอ
แน่นอนว่า ดัชนีแถวนี้ ราคาหุ้นส่วนใหญ่มีราคาไม่ถูกเมื่อพิจารณาด้วยหลักเกณฑ์ง่ายๆ คงต้องใช้ความรู้ ความเข้าใจในธุรกิจของบริษัทมากขึ้น เพื่อที่จะค้นหาบริษัทที่จะมีผลการดำเนินงานที่เติบโตมากๆ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 551
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ตลาดทำ new high ในรอบ 15 ปี
โพสต์ที่ 6
แสดงว่าใครที่มีเงินเย็นๆและรอจะซื้อหุ้นดีๆในราคาส่วนลด MOS สูงมากๆ จะมีโอกาสน้อยลงเรื่อยๆหรือป่าวครับ เพราะหุ้นพื้นฐานดีอาจจะตกไม่มากมี MOS ไม่จูงใจในสถาวะที่มีวิกฤต หรือไม่ก็คนเข้าใจหลักการลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้น ทำให้อารมณ์นื่งขึ้น ไม่ตาม Mr.Market อย่างไรก็ตามผมก็ยังเชื่อว่าพอตอนวิกฤตมาจริงๆ ตลาดก็ยังคงมีคนจำนวนหนึ่งเทขายหุ้นดีๆออกมาอยู่ดี ด้วยความหวังอย่างนั้น ในขณะที่เรารอโอกาสบบนั้นมาถึง เราก็อาจจะถือโอกาสศึกษาไปเรื่อยๆ เก็บข้อมูล ความรู้หุ้นแต่ละตัวที่เราสนใจในขอบเขตความรู้ของเราไปเรื่อยๆ เมื่อโอกาสมาจะได้รู้ว่าจะลงตัวไหนด้วยสัดส่วนเท่าไหร่ หรือบางทีอาจจะพบหุ้นที่ undervalue มากพอโดยไม่ต้องรอตลาด crash ก็เป็นได้ โดยส่วนตัวผมยังไม่ได้ซื้อตัวไหนเลยศึกษามาหลายเดือนแล้ว เพราะคิดว่าตัวเองยังหาหุ้นที่ดีๆ ราคาเหมาะสมได้ รอไปเรื่อยๆดีกว่าลงทุนไปด้วยความเสี่ยง
-
- Verified User
- โพสต์: 1746
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ตลาดทำ new high ในรอบ 15 ปี
โพสต์ที่ 7
Value Investment ไม่ได้อยู่ที่ราคาหุ้น หรือ SET Index
แต่อยู่ที่ตัวคุณเองครับ ว่าให้มูลค่า ให้ราคา มุมมองกับหุ้นแต่ละตัวในตลาดอย่างไร
ตลาดหุ้นเปิดโอกาสให้ทุกคนเสมอครับ ไม่มีเร็วไป ช้าไป
ไม่เชื่อลองถามคนที่ซื้อเมื่อ 15 ปีที่แล้วครับ
แต่อยู่ที่ตัวคุณเองครับ ว่าให้มูลค่า ให้ราคา มุมมองกับหุ้นแต่ละตัวในตลาดอย่างไร
ตลาดหุ้นเปิดโอกาสให้ทุกคนเสมอครับ ไม่มีเร็วไป ช้าไป
ไม่เชื่อลองถามคนที่ซื้อเมื่อ 15 ปีที่แล้วครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ตลาดทำ new high ในรอบ 15 ปี
โพสต์ที่ 9
ถ้าศึกษาหลายเดือนยังไม่ลงทุน
อยากทราบว่าศึกษากี่เดือนครับ
ถือเงินก็เสี่ยง เพราะธรรมชาติของเงินจะมีค่าลดลงไปเรื่อยๆ แต่มีดอกเบี้ยนิดหน่อย
ถือหุ้นก็เสี่ยงเพราะธรรมชาติของหุ้นมันขึ้นๆลงๆ ตอนขึ้นก็ขึ้นมากกว่าเงินเฟ้อตอนลงก็ลงมากกว่าเงินเฟ้อ
ไม่มีใครถือเงินสดและอาศัยดอกเบี้ยแล้วรวย
แต่มีคนหลายคนที่เลือกหุ้นถูก ถือหุ้นแล้วรวย
ถ้าเราหวังว่าวันนึงจะเกิดวิกฤติ แล้วหุ้นตกอย่างแรงแล้วเราจะซื้อ
รู้มั้ยทุกครั้งที่หุ้นตกอย่างแรง เราก็จะเชื่อว่าพรุ่งนี้หุ้นจะถูกกว่าวันนี้
ทุกวันเหมือนกัน คือ พรุ่งนี้หุ้นจะขึ้นหรือตกมีโอกาสเท่ากัน
อยากทราบว่าศึกษากี่เดือนครับ
ถือเงินก็เสี่ยง เพราะธรรมชาติของเงินจะมีค่าลดลงไปเรื่อยๆ แต่มีดอกเบี้ยนิดหน่อย
ถือหุ้นก็เสี่ยงเพราะธรรมชาติของหุ้นมันขึ้นๆลงๆ ตอนขึ้นก็ขึ้นมากกว่าเงินเฟ้อตอนลงก็ลงมากกว่าเงินเฟ้อ
ไม่มีใครถือเงินสดและอาศัยดอกเบี้ยแล้วรวย
แต่มีคนหลายคนที่เลือกหุ้นถูก ถือหุ้นแล้วรวย
ถ้าเราหวังว่าวันนึงจะเกิดวิกฤติ แล้วหุ้นตกอย่างแรงแล้วเราจะซื้อ
รู้มั้ยทุกครั้งที่หุ้นตกอย่างแรง เราก็จะเชื่อว่าพรุ่งนี้หุ้นจะถูกกว่าวันนี้
ทุกวันเหมือนกัน คือ พรุ่งนี้หุ้นจะขึ้นหรือตกมีโอกาสเท่ากัน
Blueplanet
- nasesus
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1278
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ตลาดทำ new high ในรอบ 15 ปี
โพสต์ที่ 10
หุ้นขึ้นต้องมีเราครับ แต่หากในอนาคตเงินเฟ้อมากๆ ตลาดปรับ pe หุ้นที่ชื่อเงินสด จากดอกเบี้ย 2% (pe 50 เท่า) เหลือ pe สัก 10 เท่า (ดอกเบี้ยเท่าไหร่หว่า) หุ้นที่ชื่อเงินสดก็ชักจะเริ่มน่าสนครับ
ทางที่ไม่มีไฟ ใช่ว่าไม่มีทาง เพียงแค่การก้าวไปข้างหน้าต้องใช้มากกว่าการหวังพึ่งแค่ดวงตา
- SunShine@Night
- Verified User
- โพสต์: 2196
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ตลาดทำ new high ในรอบ 15 ปี
โพสต์ที่ 11
ดอกเบี้ย 10% ครับnasesus เขียน:หุ้นขึ้นต้องมีเราครับ แต่หากในอนาคตเงินเฟ้อมากๆ ตลาดปรับ pe หุ้นที่ชื่อเงินสด จากดอกเบี้ย 2% (pe 50 เท่า) เหลือ pe สัก 10 เท่า (ดอกเบี้ยเท่าไหร่หว่า) หุ้นที่ชื่อเงินสดก็ชักจะเริ่มน่าสนครับ
VI ฝึกหัด สำนักปีเตอร์ ลินช์
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2846
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ตลาดทำ new high ในรอบ 15 ปี
โพสต์ที่ 12
หากเชื่อมั่นว่าในระยะยาวแล้ว มูลค่าหุ้นจะเพิ่มหรือลดไปพร้อมกับ ผลประกอบการ (กำไร) ของบริษัทแล้วsylph เขียน:ตลาดทำ new high 1,06X ในรอบ 15 ปี
ปีที่แล้วทำnew high 1,000 ในรอบ 14 ปี
2 ปีที่แล้ว...
3 ปีที่แล้ว....
มีการทำ new high มั้ยครับ
พอดีผมซื้อหุ้นยังไม่ถึงปีเลย
ซื้อตอนนี้มันจะดอย มั้ยครับ แล้วมันจะเป็น VI ได้หรอครับ
เห็นพี่ๆบอกไม่มีเงินเลย ซื้อหุ้นหมด แถมยังอยากซื้ออีก
VI=value investor เน้นคุณค่า เกรงว่าตอนนี้คุณค่ามันจะเต็มแล้วรึป่าวครับ
ขออภัย มือใหม่หัดเคาะ!!
ขอความกรุณาอย่าตอบว่าถามตัวผมเองนะครับ
เพราะมือใหม่สมองยังปลอดโปร่งไม่มีข้อมูล เลยมาหาข้อมูลอยุ่ครับ
*หมายเหตุ หาข้อมูลไว้พิจารณา ไม่ได้เชื่อ 100% นะครับ
เผื่อมีคนเตือน เลยเริ่มจากเตือนตัวเองก่อน
เราควรเลือกเฉพาะบริษัทที่จะสามารถเติบโตในอนาคตในระยะยาวได้ เพราะมันควรจะทำให้มูลค่าหุ้นของบริษัทนั้นๆ เพิ่มไปด้วย ทำให้เราได้กำไร
แต่ มันขึ้นอยู่กับเราด้วย ว่าเราซื้อมาที่ราคาเท่าไหร่ แพงไปมั้ย หรือว่า ถูกอยู่
หากเราซื้อธุรกิจที่ กิจการดีในราคาที่ถูกมาก --> อนาคตชัวร์เลยครับ ราคามันต้องปรับมาอยู่ในระดับที่เหมาะสม หรือ ราคาปรับไปในระดับแพงเราก็ รวยสองต่อ
หากเราซื้อธุรกิจที่ กิจการดีในราคาเหมาะสม --> อนาคตก็ชัวร์ ระดับนึง ว่าหากกำไรมันเพิ่มขึ้นจริง แล้วตลาดหุ้นไม่มีเหตุการณ์อะไรที่คาดไม่ถึง ราคามันก็ควรปรับไปในกับการเติบโตของบริษัท
หากเราซื้อธุรกิจที่ กิจการดีในราคาแพง --> ถ้ากิจการดี ตลาดหุ้นคึกคักอยู่ ราคาเราก็ควรได้ปรับเพิ่ม บ้างแต่อาจจะไม่มาก เพราะราคามันแพง คือ มันขึ้นไปรอแล้ว เราต้องรอให้บริษัทมันโตได้กว่านี้อีก ซึ่งอาจจะรออีกหน่อย แต่หาก มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกินขึ้น ตลาดลงมาเยอะ คุณอาจจะต้องรอนาน คือติดดอยนั้นเอง
ดังนั้นหา บริษัทที่ดีอย่างเดียวไม่พอ ต้องได้ราคาที่เราว่าถูก หรือ อย่างน้อยให้ได้ในราคาเหมาะสมด้วย
หากเรายังไม่มั่นใจว่า เราเจอของดีราคาถูกแล้ว เราจะแกว่งมากเมื่อเห็นราคาหุ้นมันสวิง และทำให้ขาดทุนได้ง่าย
ดังนั้น รอเจอตัวที่เรามั่นใจจริงๆ ก่อนดีกว่า ว่าถูกและดีจริง ถ้ายังไม่เจอ ก็ถือเป็นเงินสดไว้ก็ได้ครับ
อย่าไป รังเกียจ Cash ครับ เพราะอย่างลุงบัพเพ่ต์ เอง เค้าบริหารเงินสดในบริษัทเค้า ไว้มีอย่างเหลือเฟือตลอด เก็บเอาไว้ซื้อไม้ใหญ่ๆ เฉพาะเวลาเกิดวิกฤติ ทั้งวิกฤตมหาภาค ( เช่นตอนซัมพาร์ม ) และ วิกฤติเฉพาะบริษัทนั้นๆ ( อย่างเช่น coke and American Express ) เค้ารวยได้ขนาดนั้น เพราะเค้ารู้ว่า เค้าควรจะทำอะไร เมื่อไหร่ และ สามารถอดทนรอ ได้ ครับ
“Market prices are always wrong in the sense that they present a biased view of the future.”, Soros.
Blog about the investment playbook https://www.blockdit.com/alphainvesting
Blog about the investment playbook https://www.blockdit.com/alphainvesting
-
- Verified User
- โพสต์: 2690
- ผู้ติดตาม: 0
-
- Verified User
- โพสต์: 2690
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ตลาดทำ new high ในรอบ 15 ปี
โพสต์ที่ 14
- CHOOKY
- Verified User
- โพสต์: 540
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ตลาดทำ new high ในรอบ 15 ปี
โพสต์ที่ 16
ช่วงนี้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากแบบขั้นบันได ที่หลายๆ bank ออกมาแข่งกัน เฉลี่ยแล้วเมื่อคิดเป้นผลตอบแทนต่อปีจะประมาณ 3.x - 3.7 % ต่อปี แล้วครับSunShine@Night เขียน:ดอกเบี้ย 10% ครับnasesus เขียน:หุ้นขึ้นต้องมีเราครับ แต่หากในอนาคตเงินเฟ้อมากๆ ตลาดปรับ pe หุ้นที่ชื่อเงินสด จากดอกเบี้ย 2% (pe 50 เท่า) เหลือ pe สัก 10 เท่า (ดอกเบี้ยเท่าไหร่หว่า) หุ้นที่ชื่อเงินสดก็ชักจะเริ่มน่าสนครับ
สำหรับผมแล้ว ผลตอบแทนจากเงินฝาก ต่อปี ซัก 5 - 6% ต่อปี ผมว่าก็น่าสนใจแล้ว (นั่นแสดงว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จะเกือบๆ 8 - 10% แล้ว ซึ่งยากที่ธุรกิจจะทานทนได้)
"ค้นหาคุณค่าให้พบ แล้วซื้อหุ้นกิจการที่ดีนั้น ซึ่งมีกำไรต่อเนื่อง ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ ในเวลาที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ และถือมันไว้ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดี และยังมีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง"
-
- Verified User
- โพสต์: 2690
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ตลาดทำ new high ในรอบ 15 ปี
โพสต์ที่ 17
อธิบาย
15ปี ที่ผ่านมา มี บริษัท จดทะเบียนใหม่ มากมาย เช่น PTT TOP เป็นต้น
ขณะเดียวกัน
15ปี ที่แล้ว GDP ประเทศไทย
เทียบไม่ได้ก็ GDPวันนี้
วิธ๊ ทาง Quatitattive อีกวิธี ที่จะดูว่า ตลาดแพงหรือถูก คือ เทียบ MarketCap/GDP
15ปี ที่ผ่านมา มี บริษัท จดทะเบียนใหม่ มากมาย เช่น PTT TOP เป็นต้น
ขณะเดียวกัน
15ปี ที่แล้ว GDP ประเทศไทย
เทียบไม่ได้ก็ GDPวันนี้
วิธ๊ ทาง Quatitattive อีกวิธี ที่จะดูว่า ตลาดแพงหรือถูก คือ เทียบ MarketCap/GDP
-
- Verified User
- โพสต์: 2690
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ตลาดทำ new high ในรอบ 15 ปี
โพสต์ที่ 18
ต.ย. เช่น
ปี2552
จากรูป
http://xn--12c6cez7ezb.net/images/57931 ... 431868.jpg
PE ตลาด ณ สิ้นปี 2552 อยู่ที่ 25.56เท่า (จะเห็นว่าสูงมาก) แต่ SET Index แค่ 734.54
และ Market Cap ก็แค่ 5.873ล้านล้านบาท
ขณะที่ GDP ปี52(2009)ก็สูงถึง..9.041ล้านล้านบาท
MarketCap/GDP ณ ปี 2552 จึงเป็น 5.873/9.041 (ข้อมูลอาจผิด ควรตรวจสอบใหม่)=64.49%เท่านั้น
ถึงแม้น PE ตลาดปี52จะช25.56เท่า จึงยังถูกมาก
..
ส่วนปีปัจจุบัน..ใครว่าง..ก็ช่วยคำวณให้ดูหน่อย..
ปี2552
จากรูป
http://xn--12c6cez7ezb.net/images/57931 ... 431868.jpg
PE ตลาด ณ สิ้นปี 2552 อยู่ที่ 25.56เท่า (จะเห็นว่าสูงมาก) แต่ SET Index แค่ 734.54
และ Market Cap ก็แค่ 5.873ล้านล้านบาท
ขณะที่ GDP ปี52(2009)ก็สูงถึง..9.041ล้านล้านบาท
MarketCap/GDP ณ ปี 2552 จึงเป็น 5.873/9.041 (ข้อมูลอาจผิด ควรตรวจสอบใหม่)=64.49%เท่านั้น
ถึงแม้น PE ตลาดปี52จะช25.56เท่า จึงยังถูกมาก
..
ส่วนปีปัจจุบัน..ใครว่าง..ก็ช่วยคำวณให้ดูหน่อย..
-
- Verified User
- โพสต์: 2690
- ผู้ติดตาม: 0
-
- Verified User
- โพสต์: 2690
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ตลาดทำ new high ในรอบ 15 ปี
โพสต์ที่ 20
- kmphol
- Verified User
- โพสต์: 417
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ตลาดทำ new high ในรอบ 15 ปี
โพสต์ที่ 21
ขอบคุณพี่ฉัตรชัยสำหรับคำเตือนครับchatchai เขียน:จากประสบการณ์ของผม ผมคิดว่าเราจะหาหุ้นลงทุนได้ยากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากนักลงทุนมีความรู้ ความเข้าใจในการลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งพอร์ตของนักลงทุนก็โตมากขึ้น ในขณะที่มีบริษัทที่ดีๆเข้ามาจดทะเบียนเพิ่มขึ้นไม่มากนัก
ในช่วงวิกฤตเมื่อสองปีก่อน ราคาหุ้นหลายบริษัทก็ลดลงไม่มากนัก ต่างจากวิกฤตครั้งก่อนๆที่นักเก็งกำไรจะเทขายหุ้นทุกบริษัท เพราะคิดแต่เพียงว่า ขายวันนี้ เพื่อซื้อถูกกว่าในอนาคต แต่ยุคสมัยนี้ขายแล้วอาจตกรถ เพราะจะมีนักลงทุนที่มีเงินเย็น พร้อมที่จะซื้อหุ้นแล้วอดทนรอ
แน่นอนว่า ดัชนีแถวนี้ ราคาหุ้นส่วนใหญ่มีราคาไม่ถูกเมื่อพิจารณาด้วยหลักเกณฑ์ง่ายๆ คงต้องใช้ความรู้ ความเข้าใจในธุรกิจของบริษัทมากขึ้น เพื่อที่จะค้นหาบริษัทที่จะมีผลการดำเนินงานที่เติบโตมากๆ