Set Market Cap เทียบกับ GDP
- CHOOKY
- Verified User
- โพสต์: 540
- ผู้ติดตาม: 0
Set Market Cap เทียบกับ GDP
โพสต์ที่ 1
สืบเนื่องจากกระทู้ ตลาดทำ new high ในรอบ 15 ปี
ก็เลยลองสรุปข้อมูล ทำเป็นตารางเปรียบเทียบระหว่าง มาร์เก็ตแคบ / GDP ครับ เผื่อจะเป็นประโยชน์ กับทุกๆท่าน
ผิดถูก/คลาดเคลื่อนประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
ก็เลยลองสรุปข้อมูล ทำเป็นตารางเปรียบเทียบระหว่าง มาร์เก็ตแคบ / GDP ครับ เผื่อจะเป็นประโยชน์ กับทุกๆท่าน
ผิดถูก/คลาดเคลื่อนประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
"ค้นหาคุณค่าให้พบ แล้วซื้อหุ้นกิจการที่ดีนั้น ซึ่งมีกำไรต่อเนื่อง ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ ในเวลาที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ และถือมันไว้ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดี และยังมีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง"
-
- Verified User
- โพสต์: 3
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Set Market Cap เทียบกับ GDP
โพสต์ที่ 3
เจ๋ง! ขอบคุณสำหรับข้อมูลอีกมุมครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2690
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Set Market Cap เทียบกับ GDP
โพสต์ที่ 4
http://www.gurufocus.com/stock-market-valuations.php
3. Market Valuations
Over the long run, stock market valuation reverts to its mean. A higher current valuation certainly correlates with lower long-term returns in the future. On the other hand, a lower current valuation level correlates with a higher long-term return. The total market valuation is measured by the ratio of total market cap (TMC) to GNP -- the equation representing Warren Buffett's "best single measure". This ratio since 1970 is shown in the second chart to the right. Gurufocus.com calculates and updates this ratio daily. As of 04/08/2011, this ratio is 96.9%.
We can see that, during the past four decades, the TMC/GNP ratio has varied within a very wide range. The lowest point was about 35% in the previous deep recession of 1982, while the highest point was 148% during the tech bubble in 2000. The market went from extremely undervalued in 1982 to extremely overvalued in 2000.
Based on these historical valuations, we have divided market valuation into five zones:
Ratio = Total Market Cap / GDP Valuation
Ratio < 50% Significantly Undervalued
50% < Ratio < 75% Modestly Undervalued
75% < Ratio < 90% Fair Valued
90% < Ratio < 115% Modestly Overvalued
Ratio > 115% Significantly Overvalued
Where are we today (04/08/2011)? Ratio = 96.9%, Modestly Overvalued
The Sources of Investment Returns
-
- Verified User
- โพสต์: 2690
- ผู้ติดตาม: 0
- jo7393
- Verified User
- โพสต์: 2486
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Set Market Cap เทียบกับ GDP
โพสต์ที่ 7
ขอบคุณครับ ใช้เป็น Indicator ได้อีกตัวนึง
“ถ้าราคาหุ้นแยกออกไปจากเส้นกำไร ไม่ช้าก็เร็วมันจะวิ่งกลับไปหาเส้นกำไรเสมอ”
เลือกบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม และถือมันตราบที่มันยังเป็นกิจการที่ดีอยู่
อย่าอายที่จะถาม ไม่มีใครรู้ลึกทุก บ. ถ้าไม่รู้แล้วไม่ถามก็จะยิ่งไม่ฉลาด
เลือกบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม และถือมันตราบที่มันยังเป็นกิจการที่ดีอยู่
อย่าอายที่จะถาม ไม่มีใครรู้ลึกทุก บ. ถ้าไม่รู้แล้วไม่ถามก็จะยิ่งไม่ฉลาด
-
- Verified User
- โพสต์: 2690
- ผู้ติดตาม: 0
- Paul Octopus
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Set Market Cap เทียบกับ GDP
โพสต์ที่ 9
ขอบคุณที่แบ่งปันครับ
ปล web Seeking Alpha เป็น web ที่ดีมากครับ ถ้าภาษาอังกฤษ แข็งแรงพอ
ปล web Seeking Alpha เป็น web ที่ดีมากครับ ถ้าภาษาอังกฤษ แข็งแรงพอ
- CHOOKY
- Verified User
- โพสต์: 540
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Set Market Cap เทียบกับ GDP
โพสต์ที่ 10
ที่โพสกระทู้นี้ ตอนแรกก็อยากแบ่งกันข้อมูล ว่า เราจะรับได้มั้ยถ้า มาร์เก็ตแคป (ไม่กี่ร้อยบริษัท) มีมูลค่ามากกว่า GDP ของทั้งประเทศ
"ค้นหาคุณค่าให้พบ แล้วซื้อหุ้นกิจการที่ดีนั้น ซึ่งมีกำไรต่อเนื่อง ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ ในเวลาที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ และถือมันไว้ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดี และยังมีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง"
- Paul Octopus
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Set Market Cap เทียบกับ GDP
โพสต์ที่ 11
อ่านครั้งแรกคิดว่า Logically ไม่น่าจะอยู่ในระดับนั้นได้ บริษัท 400 กว่าๆมีมูลค่าเท่าประเทศไทย มัน Bubble รึเปล่า
แต่พออ่านที่คุณ imerlot เอามา Post กลายเป็นหนังคนละม้วน
ผมยังตกผลึกเรื่องนี้ไม่ได้เลย ว่ามันเป็นไปได้อย่างไร
ใครมี Idea บ้างครับ
แต่พออ่านที่คุณ imerlot เอามา Post กลายเป็นหนังคนละม้วน
ผมยังตกผลึกเรื่องนี้ไม่ได้เลย ว่ามันเป็นไปได้อย่างไร
ใครมี Idea บ้างครับ
- VI Wannabe
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1014
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Set Market Cap เทียบกับ GDP
โพสต์ที่ 12
จะว่าอย่างนั้นก็ไม่ถูกซะทีเดียวครับPaul Octopus เขียน:อ่านครั้งแรกคิดว่า Logically ไม่น่าจะอยู่ในระดับนั้นได้ บริษัท 400 กว่าๆมีมูลค่าเท่าประเทศไทย มัน Bubble รึเปล่า
เพราะ GDP คือ "market value of all final goods and services produced within a country in a given period." หรือ สินค้าและบริการที่ผลิตมาในปีหนึ่งๆ
แต่ SET market cap คือ ส่วนผู้ถือหุ้นที่ตลาดให้มูลค่ารวมกันทั้ง SET นะจุดเวลาหนึ่งๆ (ผมคิดว่าคนใช้จริงๆน่าจะอยากได้ market cap ของประเทศมากกว่า แต่คงไม่รู้จะหาอย่างไร)
มันคงจะประมาณ Market Cap/Sales ทั้งปี ของ firm หนึ่งๆกระมังครับ (หรือมองเป็น Price/Sales per share ก็น่าจะได้ครับ)
เลยไม่แน่ใจว่าจะดีความอย่างไร เช่น ถ้า market cap เป็น 2 เท่าของ sales เราจะถือว่า firm นั้น overvalue หรืออย่างไร?
ผมคิดต่อได้เท่านี้เองครับ
"Attempt to be fearful when others are greedy and to be greedy only when others are fearful"
"It's far better to buy a wonderful company at a fair price than a fair company at a wonderful price"
"It's far better to buy a wonderful company at a fair price than a fair company at a wonderful price"
- Alastor
- Verified User
- โพสต์: 2590
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Set Market Cap เทียบกับ GDP
โพสต์ที่ 15
หัก import ก็ถูกต้องแล้วครับ เพราะไทยก็ import มาเพื่อผลิตแล้ว export เยอะนะครับ คนส่วนใหญ่ก็ใช้น้ำมัน ทุกคนใช้ไฟฟ้า ซึ่งก็นำเข้ามานะครับKriangL เขียน:อีกอย่างนึง GDP เขาเอามูลค่า import มาหัก คนส่วนใหญ่ใช้ของในประเทศกับซื้อของนำเข้า โอกาส export งานของตัวเองน้อยครับ
Wir sind das Rar, der Stolz und der Wert
- jo7393
- Verified User
- โพสต์: 2486
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Set Market Cap เทียบกับ GDP
โพสต์ที่ 16
บางที่การมองของเขา อาจมองในแง่เปรียบเทียบเชิงสัมพัทธ์ หรือเปล่าครับ
คือมองแบบเปรียบเทียบที่ภาพรวมไปเลย เพราะ GDP ภาพใหญ่น่าจะหมายถึง ผลผลิตของประเทศ แต่เอามาเปรียบเทียบกับ Market cap. ซึ่งภาพใหญ่ของเขาน่าจะหมายถึง ต้นทุนการลิต แต่ต้่นทุนการผลิตของGDP มันมีมากว่าที่อยู่ในตลท คือมีระดับรากหญ้า SME และ บ.ที่อยู่นอกตลาด ดังนั้นภาพที่เหรียบเทียบน่าจะออกมาเป็น
(Market cap.+K)/GDP
K=ต้นทุนการผลิตที่อยู่นอกตลาด
แต่เนื่องจากค่า K อาจหาได้ยาก จึงตัดค่า K ออกและ ไปกำหนดที่ผลลัพธ์ให้ต่ำลงแทนโดยอาจใช้เรื่องสถิติที่ผ่านมา เข้ามาช่วย ว่า ควรจะอยู่ที่ประมาณเท่านี้ จึงเรียกว่า under value หรือไม่
Ratio = Total Market Cap / GDP Valuation
Ratio < 50% Significantly Undervalued
50% < Ratio < 75% Modestly Undervalued
75% < Ratio < 90% Fair Valued
90% < Ratio < 115% Modestly Overvalued
Ratio > 115% Significantly Overvalued
แต่หากนำมาใช้กับประเทศไทย อาจไม่ได้เป็นตามเงื่อนไขข้างบนซะทีเดียว เพราะค่าสถิติที่เอามาช่วยเพื่อตัดค่า K ออกไปย่อมแตกต่างตามแต่ละประเทศ
คิดว่าเขามองที่ภาพใหญ่ในการเปรียบเทียบมากกว่า ที่จะเจาะเข้าไปในรายละเอียดกระมังครับ เพราะภาพเชิงเปรียบเทียบก็คงใช้ดูคร่าวๆเท่านั้นร่วมกับ การดูอย่างอื่น
คือมองแบบเปรียบเทียบที่ภาพรวมไปเลย เพราะ GDP ภาพใหญ่น่าจะหมายถึง ผลผลิตของประเทศ แต่เอามาเปรียบเทียบกับ Market cap. ซึ่งภาพใหญ่ของเขาน่าจะหมายถึง ต้นทุนการลิต แต่ต้่นทุนการผลิตของGDP มันมีมากว่าที่อยู่ในตลท คือมีระดับรากหญ้า SME และ บ.ที่อยู่นอกตลาด ดังนั้นภาพที่เหรียบเทียบน่าจะออกมาเป็น
(Market cap.+K)/GDP
K=ต้นทุนการผลิตที่อยู่นอกตลาด
แต่เนื่องจากค่า K อาจหาได้ยาก จึงตัดค่า K ออกและ ไปกำหนดที่ผลลัพธ์ให้ต่ำลงแทนโดยอาจใช้เรื่องสถิติที่ผ่านมา เข้ามาช่วย ว่า ควรจะอยู่ที่ประมาณเท่านี้ จึงเรียกว่า under value หรือไม่
Ratio = Total Market Cap / GDP Valuation
Ratio < 50% Significantly Undervalued
50% < Ratio < 75% Modestly Undervalued
75% < Ratio < 90% Fair Valued
90% < Ratio < 115% Modestly Overvalued
Ratio > 115% Significantly Overvalued
แต่หากนำมาใช้กับประเทศไทย อาจไม่ได้เป็นตามเงื่อนไขข้างบนซะทีเดียว เพราะค่าสถิติที่เอามาช่วยเพื่อตัดค่า K ออกไปย่อมแตกต่างตามแต่ละประเทศ
คิดว่าเขามองที่ภาพใหญ่ในการเปรียบเทียบมากกว่า ที่จะเจาะเข้าไปในรายละเอียดกระมังครับ เพราะภาพเชิงเปรียบเทียบก็คงใช้ดูคร่าวๆเท่านั้นร่วมกับ การดูอย่างอื่น
“ถ้าราคาหุ้นแยกออกไปจากเส้นกำไร ไม่ช้าก็เร็วมันจะวิ่งกลับไปหาเส้นกำไรเสมอ”
เลือกบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม และถือมันตราบที่มันยังเป็นกิจการที่ดีอยู่
อย่าอายที่จะถาม ไม่มีใครรู้ลึกทุก บ. ถ้าไม่รู้แล้วไม่ถามก็จะยิ่งไม่ฉลาด
เลือกบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม และถือมันตราบที่มันยังเป็นกิจการที่ดีอยู่
อย่าอายที่จะถาม ไม่มีใครรู้ลึกทุก บ. ถ้าไม่รู้แล้วไม่ถามก็จะยิ่งไม่ฉลาด
- โอ@
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4246
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Set Market Cap เทียบกับ GDP
โพสต์ที่ 17
ประเทศที่ Market cap / GDP สูงๆส่วนมากเป็นประเทศที่ส่งออกเยอะเลยหนิครับ
เวลาคำนวน market cap เนี่ยมันมีผลกระทบจากยอด sale และ profit (profit x PE)
แต่ว่า GDP นับแต่มูลค่าส่วนเพิ่ม (export - import)
ดันนั้นถ้ายิ่งมีการนำเข้าส่งออกเยอะๆ market cap ก็น่าจะต้องสูงกว่า GDP ในสัดส่วนที่มาก
เวลาคำนวน market cap เนี่ยมันมีผลกระทบจากยอด sale และ profit (profit x PE)
แต่ว่า GDP นับแต่มูลค่าส่วนเพิ่ม (export - import)
ดันนั้นถ้ายิ่งมีการนำเข้าส่งออกเยอะๆ market cap ก็น่าจะต้องสูงกว่า GDP ในสัดส่วนที่มาก
_________
- Paul Octopus
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Set Market Cap เทียบกับ GDP
โพสต์ที่ 18
ใช่เลย ทั้งคุณ KriangL และ คุณ VI Wannabe
อีกอย่าง SET เป็นมูลค่าที่แฝงไว้ด้วย "มูลค่าในอนาคต" เป็นมูลค่าที่ครอบคลุมระยะเวลาตลอดชั่วอายุของ 400 บริษัทฯทีขีดความสามารถปัจจุบัน แต่ GDP เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นปัจจุบันปีนี้เดี๋ยวนี้
ดังนั้นมันอาจไม่จำเป็นต้อง corelate กัน ในแต่ละประเทศที่มีระดับการพัฒนาที่ไม่เท่ากัน และ แม้แต่ในประเทศเดียวกัน ก็อาจแตกต่างกันได้ในแต่ละช่วงเวลา ฯลฯ
แต่อย่างน้อยมันน่าจะมี Upper Limit และ Lower Limit โดยเฉพาะช่วงเวลาที่เศรษฐกิจ Boom สุดๆ (bubble) และ ตกต่ำขีดสุด (Crash) ก็น่าจะมีประโยชน์อย่างมากมาย
จากที่สังเกตุ (จากการอ่านเร็วๆ) Market Cap. น่าจะอยู่ตั้งแต่ 0.35 (Crash) จนถึง 1.5 (Bubble) ของ GDP (ดูจาก Dow ช่วง Crisis และ Bubble ของ SSI (Shanghai Composite ณ จุด ที่ลุง Buffett ขาย Sinopec ทิ้งที่ SSI 4,000 ....แต่ Bubble SSI แตกที่ 6,000 ประมาณ 2.1 เท่า GDP หลังจากนั้นไม่กี่เดือน )
ผมว่ามันเป็น Lead Indicator ที่มีประโยชน์ที่คอยบอกว่า "ให้ระวัง ขายดีกว่ามั๊ย?" หรือ "ให้เข้าซื้อได้แล้ว"
ขอบคุณสำหรับการตั้งกระทู้ และ การ Share Ideas ครับ
- Paul Octopus
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Set Market Cap เทียบกับ GDP
โพสต์ที่ 19
อ้าว น้องโจ กับ คุณ โอ ก็มา Share ด้วยเหรอครับ
ผมไม่ทันเห็น
ขอบคุณครับ ที่ Share
ผมไม่ทันเห็น
ขอบคุณครับ ที่ Share
- jo7393
- Verified User
- โพสต์: 2486
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Set Market Cap เทียบกับ GDP
โพสต์ที่ 20
ผมความรู้น้อยต้่องแอบมาฟังพี่ๆคุยกันบ่อยๆครับ กลัวตกเทรนครับPaul Octopus เขียน:อ้าว น้องโจ กับ คุณ โอ ก็มา Share ด้วยเหรอครับ
ผมไม่ทันเห็น
ขอบคุณครับ ที่ Share
“ถ้าราคาหุ้นแยกออกไปจากเส้นกำไร ไม่ช้าก็เร็วมันจะวิ่งกลับไปหาเส้นกำไรเสมอ”
เลือกบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม และถือมันตราบที่มันยังเป็นกิจการที่ดีอยู่
อย่าอายที่จะถาม ไม่มีใครรู้ลึกทุก บ. ถ้าไม่รู้แล้วไม่ถามก็จะยิ่งไม่ฉลาด
เลือกบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม และถือมันตราบที่มันยังเป็นกิจการที่ดีอยู่
อย่าอายที่จะถาม ไม่มีใครรู้ลึกทุก บ. ถ้าไม่รู้แล้วไม่ถามก็จะยิ่งไม่ฉลาด
- CHOOKY
- Verified User
- โพสต์: 540
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Set Market Cap เทียบกับ GDP
โพสต์ที่ 21
เพิ่มเติม นะครับ กรณี สิงคโปร์ หรือไต้หวัน ที่ Market cap / GDP สูงมาก ทั้งๆที่เป็นประเทศเล็ก นั้นอาจจะมาจาก เน้นการส่งออก (ไต้หวัน) หรือ บริษัท ที่ลิส ในตลาดนั้นๆ เป้นพวก โฮลดิ้ง ซึ่งมีบริษัทลูก, บริษัท ร่วมทุน ในต่างประเทศ มากๆๆ (สิงคโปร์) ทำให้ผลประกอบการรวมของ บริษัทแม่ มีกำไรมหาศาล และนี่น่าจะเป้นมูลเหตุให้ Market cap / GDP สูงโอ@ เขียน:ประเทศที่ Market cap / GDP สูงๆส่วนมากเป็นประเทศที่ส่งออกเยอะเลยหนิครับ
เวลาคำนวน market cap เนี่ยมันมีผลกระทบจากยอด sale และ profit (profit x PE)
แต่ว่า GDP นับแต่มูลค่าส่วนเพิ่ม (export - import)
ดันนั้นถ้ายิ่งมีการนำเข้าส่งออกเยอะๆ market cap ก็น่าจะต้องสูงกว่า GDP ในสัดส่วนที่มาก
"ค้นหาคุณค่าให้พบ แล้วซื้อหุ้นกิจการที่ดีนั้น ซึ่งมีกำไรต่อเนื่อง ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ ในเวลาที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ และถือมันไว้ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดี และยังมีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง"
- jo7393
- Verified User
- โพสต์: 2486
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Set Market Cap เทียบกับ GDP
โพสต์ที่ 22
กำไรจากบ.ลูกไหลเข้าประเทศ รายได้เข้า GDP มากCHOOKY เขียน: เพิ่มเติม นะครับ กรณี สิงคโปร์ หรือไต้หวัน ที่ Market cap / GDP สูงมาก ทั้งๆที่เป็นประเทศเล็ก นั้นอาจจะมาจาก เน้นการส่งออก (ไต้หวัน) หรือ บริษัท ที่ลิส ในตลาดนั้นๆ เป้นพวก โฮลดิ้ง ซึ่งมีบริษัทลูก, บริษัท ร่วมทุน ในต่างประเทศ มากๆๆ (สิงคโปร์) ทำให้ผลประกอบการรวมของ บริษัทแม่ มีกำไรมหาศาล และนี่น่าจะเป้นมูลเหตุให้ Market cap / GDP สูง
ดังนั้น Market cap / GDP น่าจะต่ำไม่ใช่หรือครับ หรือผม งง เอง
“ถ้าราคาหุ้นแยกออกไปจากเส้นกำไร ไม่ช้าก็เร็วมันจะวิ่งกลับไปหาเส้นกำไรเสมอ”
เลือกบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม และถือมันตราบที่มันยังเป็นกิจการที่ดีอยู่
อย่าอายที่จะถาม ไม่มีใครรู้ลึกทุก บ. ถ้าไม่รู้แล้วไม่ถามก็จะยิ่งไม่ฉลาด
เลือกบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม และถือมันตราบที่มันยังเป็นกิจการที่ดีอยู่
อย่าอายที่จะถาม ไม่มีใครรู้ลึกทุก บ. ถ้าไม่รู้แล้วไม่ถามก็จะยิ่งไม่ฉลาด
- CHOOKY
- Verified User
- โพสต์: 540
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Set Market Cap เทียบกับ GDP
โพสต์ที่ 23
ผมเองก็ไม่แน่ใจครับ ว่า ส่วนแบ่งกำไร จากบริษัทลูก บริษัทย่อย บริษัทร่วมทุน
เวลา เขานำส่งให้บริษัท แม่ ในประเทศบ้านเกิด มันจะอยู่ในดุลบัญชีไหน ของประเทศนั้นๆ
ผมเองก็ งง อยู่ครับ
เวลา เขานำส่งให้บริษัท แม่ ในประเทศบ้านเกิด มันจะอยู่ในดุลบัญชีไหน ของประเทศนั้นๆ
ผมเองก็ งง อยู่ครับ
"ค้นหาคุณค่าให้พบ แล้วซื้อหุ้นกิจการที่ดีนั้น ซึ่งมีกำไรต่อเนื่อง ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ ในเวลาที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ และถือมันไว้ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดี และยังมีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง"
- jo7393
- Verified User
- โพสต์: 2486
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Set Market Cap เทียบกับ GDP
โพสต์ที่ 24
มาคิืดอีกที ที่ผมบอกว่า
ในเมื่อเราไม่สามารถหาค่า K (ต้นทุนการผลิตที่อยู่นอกตลาด)ได้
ทำไมเราไม่ตัด earning ส่วนที่อยู่นอก ตลท จะได้เห็นภาพชัดกว่า
ก็จะกลายเป็น Market cap/earningของบ.ในตลท
หรือพูดง่ายๆก็คือ P/E ของ SET นั่นเอง
กลายเป็น สูงสุดสู่สามัญ อะไรที่ง่ายๆพื้นๆ ใช้ดีอยู่แล้ว
หากอยากรู้ว่าภาพรวมของ SET under value หรือ bubble ก็ดู P/E ของ SET ก็เหมือนกัน นี่ครับ คิดไปคิดมากลับมาที่เิดิม
GDP ก็คือ earning ของทั้งประเทศ ซึ่งเท่ากับ earningของ บ.ในตลท+ ส่วนที่อยู่นอก ตลท(Market cap.+K)/GDP
K=ต้นทุนการผลิตที่อยู่นอกตลาด
ในเมื่อเราไม่สามารถหาค่า K (ต้นทุนการผลิตที่อยู่นอกตลาด)ได้
ทำไมเราไม่ตัด earning ส่วนที่อยู่นอก ตลท จะได้เห็นภาพชัดกว่า
ก็จะกลายเป็น Market cap/earningของบ.ในตลท
หรือพูดง่ายๆก็คือ P/E ของ SET นั่นเอง
กลายเป็น สูงสุดสู่สามัญ อะไรที่ง่ายๆพื้นๆ ใช้ดีอยู่แล้ว
หากอยากรู้ว่าภาพรวมของ SET under value หรือ bubble ก็ดู P/E ของ SET ก็เหมือนกัน นี่ครับ คิดไปคิดมากลับมาที่เิดิม
“ถ้าราคาหุ้นแยกออกไปจากเส้นกำไร ไม่ช้าก็เร็วมันจะวิ่งกลับไปหาเส้นกำไรเสมอ”
เลือกบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม และถือมันตราบที่มันยังเป็นกิจการที่ดีอยู่
อย่าอายที่จะถาม ไม่มีใครรู้ลึกทุก บ. ถ้าไม่รู้แล้วไม่ถามก็จะยิ่งไม่ฉลาด
เลือกบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม และถือมันตราบที่มันยังเป็นกิจการที่ดีอยู่
อย่าอายที่จะถาม ไม่มีใครรู้ลึกทุก บ. ถ้าไม่รู้แล้วไม่ถามก็จะยิ่งไม่ฉลาด
- VI Wannabe
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1014
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Set Market Cap เทียบกับ GDP
โพสต์ที่ 25
เมื่อ วานผมก็คิดอยู่เหมือนกันว่าเราควรคิด GDP เป็น earning หรือ sales ของประเทศดี ตอนนี้ก็ยังคิดไม่ออกแต่คิดว่าน่าจะเป็น sales ซะมากกว่าเพราะ consumption นี่ไม่น่าจะใช่กำไรเพราะไม่หัก cost ใดๆ (หรือเปล่า)jo7393 เขียน:มาคิืดอีกที ที่ผมบอกว่าGDP ก็คือ earning ของทั้งประเทศ ซึ่งเท่ากับ earningของ บ.ในตลท+ ส่วนที่อยู่นอก ตลท(Market cap.+K)/GDP
K=ต้นทุนการผลิตที่อยู่นอกตลาด
ในเมื่อเราไม่สามารถหาค่า K (ต้นทุนการผลิตที่อยู่นอกตลาด)ได้
ทำไมเราไม่ตัด earning ส่วนที่อยู่นอก ตลท จะได้เห็นภาพชัดกว่า
ก็จะกลายเป็น Market cap/earningของบ.ในตลท
หรือพูดง่ายๆก็คือ P/E ของ SET นั่นเอง
กลายเป็น สูงสุดสู่สามัญ อะไรที่ง่ายๆพื้นๆ ใช้ดีอยู่แล้ว
หากอยากรู้ว่าภาพรวมของ SET under value หรือ bubble ก็ดู P/E ของ SET ก็เหมือนกัน นี่ครับ คิดไปคิดมากลับมาที่เิดิม
GDP = private consumption + gross investment + government spending + (exports − imports)
จากสมการคุณ jo ผมว่าน่าจะเพิ่ม X อีกตัวจะได้สมบูรณ์ เพราะ ถ้า K คือ ต้นทุนการผลิตที่อยู่นอกตลาด
X ก็คือ GDP ของตลาดมืด พวก หวย ยา หรือ ธุรกิจบริการในตลาดมืดอื่นๆ ซึ่งทางเศรษฐศาตร์เค้าว่าในประเทศด้อยพัฒนา มันใหญ่กว่า GDP ของ ประเทศนั้นๆซะอีก
(Market cap.+K)/(GDP+X)
มองอีกมุม ถ้าไม่มีทั้ง X และ K คงประมาณได้ว่า ประเทศนั้นๆ capital market เจริญ ขนาดไหน หรือไม่ครับ
ประเทศที่ capital market เจริญมาก ratio นี้ก็น่าจะใหญ่ (บริษัทต่างๆเข้าไป list กันซะหมด) แต่ก็อีก มันมีเรื่องของ bubble มาทำให้ market cap มันใหญ่เว่อร์
"Attempt to be fearful when others are greedy and to be greedy only when others are fearful"
"It's far better to buy a wonderful company at a fair price than a fair company at a wonderful price"
"It's far better to buy a wonderful company at a fair price than a fair company at a wonderful price"
- CHOOKY
- Verified User
- โพสต์: 540
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Set Market Cap เทียบกับ GDP
โพสต์ที่ 26
อาจจะแค่ คอนโซลิเดท งบ อย่างเดียว โดยไม่ต้องนำส่งกำไรเป็นตัวเงินจริงๆjo7393 เขียน:กำไรจากบ.ลูกไหลเข้าประเทศ รายได้เข้า GDP มากCHOOKY เขียน: เพิ่มเติม นะครับ กรณี สิงคโปร์ หรือไต้หวัน ที่ Market cap / GDP สูงมาก ทั้งๆที่เป็นประเทศเล็ก นั้นอาจจะมาจาก เน้นการส่งออก (ไต้หวัน) หรือ บริษัท ที่ลิส ในตลาดนั้นๆ เป้นพวก โฮลดิ้ง ซึ่งมีบริษัทลูก, บริษัท ร่วมทุน ในต่างประเทศ มากๆๆ (สิงคโปร์) ทำให้ผลประกอบการรวมของ บริษัทแม่ มีกำไรมหาศาล และนี่น่าจะเป้นมูลเหตุให้ Market cap / GDP สูง
ดังนั้น Market cap / GDP น่าจะต่ำไม่ใช่หรือครับ หรือผม งง เอง
"ค้นหาคุณค่าให้พบ แล้วซื้อหุ้นกิจการที่ดีนั้น ซึ่งมีกำไรต่อเนื่อง ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ ในเวลาที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ และถือมันไว้ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดี และยังมีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง"
-
- Verified User
- โพสต์: 2690
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Set Market Cap เทียบกับ GDP
โพสต์ที่ 27
http://www.tradingeconomics.com/Economi ... Symbol=THB
ถ้าเราใช้ข้อมูลจากรูป จะได้ GDP ประมาณ 250-275 -272.43 billion dollars USD x 30 exchage
ก็จะได้ 275x30=8250ล้านล้าน
อาจจะเป็นConstant price ณ ปี ใดๆ จึง ควรดูแหล่ง
นี้
http://www2.bot.or.th/statistics/Report ... nguage=eng
ถ้าเราใช้ข้อมูลจากรูป จะได้ GDP ประมาณ 250-275 -272.43 billion dollars USD x 30 exchage
ก็จะได้ 275x30=8250ล้านล้าน
อาจจะเป็นConstant price ณ ปี ใดๆ จึง ควรดูแหล่ง
นี้
http://www2.bot.or.th/statistics/Report ... nguage=eng
Thailand Gross Domestic Product is worth 264 billion dollars or 0.43% of the world economy, according to the World Bank. From 1960 until 2009, Thailand's average Gross Domestic Product was 75.64 billion dollars reaching an historical high of 272.43 billion dollars in December of 2008 and a record low of 2.76 billion dollars in December of 1960. The economy of Thailand is an emerging economy which is heavily export-dependent, with exports accounting for more than two thirds of gross domestic product (GDP). Well-developed infrastructure, a free-enterprise economy, and generally pro-investment policies, made Thailand one of East Asia's best performers. However, overall economic growth has fallen sharply in 2008 and 2009 as global downturn and persistent political crisis stalled infrastructure mega-projects, eroded investor and consumer confidence. This page includes: Thailand Gross Domestic Product (GDP) chart, historical data and news.
-
- Verified User
- โพสต์: 2690
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Set Market Cap เทียบกับ GDP
โพสต์ที่ 28
http://www2.bot.or.th/statistics/Report ... nguage=eng
เพราะเรากำลังเทียบ กับ Market Cap ณ current price
จึง ควรเป็น
ช่องที่ 9
GDP at current price =10,102.9 billion bahts
เพราะเรากำลังเทียบ กับ Market Cap ณ current price
จึง ควรเป็น
ช่องที่ 9
GDP at current price =10,102.9 billion bahts
-
- Verified User
- โพสต์: 2690
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Set Market Cap เทียบกับ GDP
โพสต์ที่ 29
ส่วน SET market cap
http://marketdata.set.or.th/mkt/marketsummary.do
http://marketdata.set.or.th/mkt/marketsummary.do
Key Market Statistics and Performance (SET)
as of 08 Apr 2011
Market Cap. (M.Baht)
8,767,563.83
Turnover Ratio (YTD) (%)
31.05
P/E (times)*
14.78
P/BV (times)
2.09
Market Yield (%)
3.41