mprandy เขียน:ผมว่าทุกคนที่ลงทุนก็เพื่อจุดประสงค์อิสรภาพทางการเงิน แต่เงินไม่ใช่จุดประสงค์สุดท้ายของการลงทุนหรอกครับ
คนที่มีพอร์ท 5 หลักก็ฝันอยากได้ 6 - 7 - 8 - 9 หรือแม้กระทั่ง 10 หลัก ... แต่ความเป็นจริง การมีเงินมาก ๆ ขึ้นไปนั้นทำให้เรามีความสุขได้มากกว่าจริงหรือ
หลายคนอาจจะเชื่อเช่นนั้น แต่ผมไม่เชื่อครับ ... เงินทำให้เรามีทางเลือกเพื่อซื้อสินค้าและบริการ ก่อให้เกิดความสุขสบายได้มากขึ้นจริง แต่มันมีขีดจำกัด การมีเงินมากเกินระดับหนึ่ง ไม่ได้ทำให้เราสุขขึ้นกว่ามากไปกว่าเดิมเท่าไหร่หรอก
ขนาดพอร์ท หรือผลตอบแทนที่ได้ต่อปี ไม่ได้เทียบเท่ากับความเก่ง, และความเก่ง ก็ไม่ได้เทียบเท่ากับความสุข
เรามีความพอใจในสิ่งที่ตนมี ตนได้ หรือไม่ต่างหาก ... เรามักชอบจะไปเปรียบเทียบกับคนอื่นแล้วคิดว่าเขาดีกว่าเรา ในขณะเดียวกันคนที่เรากำลังไปเปรียบเทียบอยู่ เขาก็อาจจะคิดอิจฉาที่ตัวเราดีกว่าเขาก็เป็นได้
การคิดมากเช่นนั้น ไม่สามารถเปลี่ยนสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว ให้เป็นอย่างที่เราต้องการ ... การวางแผนการของเราต่อไปต่างหาก ที่จะทำให้เกิดสิ่งที่เป็นอย่างที่เราต้องการในอนาคตได้
ตั้งเป้าหมายกับตัวเองครับแล้วทำตามเป้าหมาย ไม่ต้องไปเทียบอะไรกับใคร ... จะพบว่าเรามีความสุขกว่ามาก
หมอกับการลงทุน
-
- Verified User
- โพสต์: 47
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หมอกับการลงทุน
โพสต์ที่ 31
-
- Verified User
- โพสต์: 53
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หมอกับการลงทุน
โพสต์ที่ 32
โดยส่วนตัวแล้ว ดีใจที่ได้มีโอกาสเป็นแพทย์ ทำงานช่วยเหลือผู้คนในขณะที่สามารถหาเงินเลี้ยงชีพได้ด้วย
ตั้งใจไว้นานแล้วว่า อยากจะมีเงินโดยที่ไม่ได้มาจากอาชีพแพทย์
โชคดีที่มีโอกาสได้เรียนรู้เรื่องการเงิน การลงทุนในหุ้นจากแพทย์รุ่นพี่
ตอนนี้คิดว่าน่าจะมีโอกาสมีอิสระทางการเงิน โดยเป้าหมายไม่ต้องสูงมากนัก มีชีวิตแบบพอเพียงมีความสุข
เมื่อถึงเวลานั้น อยากทำงานอาชีพแพทย์แบบจิตอาสา โดยไม่ต้องมีสิ่งตอบแทน
เงินที่ได้มา หลังจากเก็บสำหรับตัวเองและครอบครัวแล้ว อยากจะนำไปทำประโยชน์คืนกลับให้สังคม เช่น สนับสนุนมูลนิธิการกุศลต่างๆ และน่าจะมีเวลาไปร่วมสังสรรค์กับกลุ่มในชมรม VI และชวนชาว VI มาร่วมทำบุญด้วย
สมาชิกชมรม VI มีคนเก่งมากมาย น่าจะช่วยในเรื่องบริหารการเงินให้มูลนิธิการกุศลต่างๆ ได้มาก
ตั้งใจไว้นานแล้วว่า อยากจะมีเงินโดยที่ไม่ได้มาจากอาชีพแพทย์
โชคดีที่มีโอกาสได้เรียนรู้เรื่องการเงิน การลงทุนในหุ้นจากแพทย์รุ่นพี่
ตอนนี้คิดว่าน่าจะมีโอกาสมีอิสระทางการเงิน โดยเป้าหมายไม่ต้องสูงมากนัก มีชีวิตแบบพอเพียงมีความสุข
เมื่อถึงเวลานั้น อยากทำงานอาชีพแพทย์แบบจิตอาสา โดยไม่ต้องมีสิ่งตอบแทน
เงินที่ได้มา หลังจากเก็บสำหรับตัวเองและครอบครัวแล้ว อยากจะนำไปทำประโยชน์คืนกลับให้สังคม เช่น สนับสนุนมูลนิธิการกุศลต่างๆ และน่าจะมีเวลาไปร่วมสังสรรค์กับกลุ่มในชมรม VI และชวนชาว VI มาร่วมทำบุญด้วย
สมาชิกชมรม VI มีคนเก่งมากมาย น่าจะช่วยในเรื่องบริหารการเงินให้มูลนิธิการกุศลต่างๆ ได้มาก
NL
-
- Verified User
- โพสต์: 53
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หมอกับการลงทุน
โพสต์ที่ 34
ทำงานเป็นกุมารแพทย์มานานกว่า 20 ปี ตอนนี้ รู้สึกว่าเริ่มตกผลึกความคิด อยากเขียนหนังสือเพื่อเป็นประโยชน์กับผู้ปกครองในการดูแลเด็กให้เก่ง ดี มีความสุข ดูแลเด็กได้เบื้องต้นเมื่อเจ็บป่วย ตลอดจนให้ความรู้กับคุณพ่อ คุณแม่ในการจัดการด้านการเงินให้มั่นคงขึ้น แล้วนำไปให้อาจารย์ที่โรงเรียนแพทย์เพิ่มเติมให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
อยากให้เป็นแบบอ่านสนุก เป็นประเด็นสำคัญ เอาไปใช้ประโยชน์ได้จริงๆ (ตอนนี้ยังไม่ค่อยมีเวลา แต่เริ่มๆ เรียบเรียงแล้วค่ะ)
ต้องขอบคุณโอกาสที่ได้มาเรียนรู้เรื่องการลงทุน ทำให้มีโอกาสที่จะมีอิสระทางการเงิน และมีเวลาทำในสิ่งที่อยากทำ
ตอนนี้ยังไม่เก่งด้านการลงทุนเท่าใดนัก แต่เชื่อว่าจะเก่งขึ้นเรื่อยๆ เพราะ ได้เรียนรู้มากขึ้น มีประสบการณ์มากขึ้นทุกวัน
ถ้าเราลดอัตตาลง มีตัวเรา ของเราให้น้อยลง เราก็จะมีความสุข สงบเย็นยิ่งขึ้น
เวลาหุ้นตก ก็คิดว่า เราจะมีเงินไปช่วยเหลือสังคมช้าลงหน่อย จำนวนเงินน้อยลงหน่อย ทำให้สบายใจดี ตลาดหุ้น เป็นเรื่องของความโลภ และความกลัว ถ้าลดตรงนี้ไปได้ มีสติ คิดว่าน่าจะประสบความสำเร็จนะคะ
อยากให้เป็นแบบอ่านสนุก เป็นประเด็นสำคัญ เอาไปใช้ประโยชน์ได้จริงๆ (ตอนนี้ยังไม่ค่อยมีเวลา แต่เริ่มๆ เรียบเรียงแล้วค่ะ)
ต้องขอบคุณโอกาสที่ได้มาเรียนรู้เรื่องการลงทุน ทำให้มีโอกาสที่จะมีอิสระทางการเงิน และมีเวลาทำในสิ่งที่อยากทำ
ตอนนี้ยังไม่เก่งด้านการลงทุนเท่าใดนัก แต่เชื่อว่าจะเก่งขึ้นเรื่อยๆ เพราะ ได้เรียนรู้มากขึ้น มีประสบการณ์มากขึ้นทุกวัน
ถ้าเราลดอัตตาลง มีตัวเรา ของเราให้น้อยลง เราก็จะมีความสุข สงบเย็นยิ่งขึ้น
เวลาหุ้นตก ก็คิดว่า เราจะมีเงินไปช่วยเหลือสังคมช้าลงหน่อย จำนวนเงินน้อยลงหน่อย ทำให้สบายใจดี ตลาดหุ้น เป็นเรื่องของความโลภ และความกลัว ถ้าลดตรงนี้ไปได้ มีสติ คิดว่าน่าจะประสบความสำเร็จนะคะ
NL
- Paul VI
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 10548
- ผู้ติดตาม: 1
Re: หมอกับการลงทุน
โพสต์ที่ 35
ไอเดียยอดเยี่ยมมากครับsnonglak1 เขียน:ทำงานเป็นกุมารแพทย์มานานกว่า 20 ปี ตอนนี้ รู้สึกว่าเริ่มตกผลึกความคิด อยากเขียนหนังสือเพื่อเป็นประโยชน์กับผู้ปกครองในการดูแลเด็กให้เก่ง ดี มีความสุข ดูแลเด็กได้เบื้องต้นเมื่อเจ็บป่วย ตลอดจนให้ความรู้กับคุณพ่อ คุณแม่ในการจัดการด้านการเงินให้มั่นคงขึ้น แล้วนำไปให้อาจารย์ที่โรงเรียนแพทย์เพิ่มเติมให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
อยากให้เป็นแบบอ่านสนุก เป็นประเด็นสำคัญ เอาไปใช้ประโยชน์ได้จริงๆ (ตอนนี้ยังไม่ค่อยมีเวลา แต่เริ่มๆ เรียบเรียงแล้วค่ะ)
ต้องขอบคุณโอกาสที่ได้มาเรียนรู้เรื่องการลงทุน ทำให้มีโอกาสที่จะมีอิสระทางการเงิน และมีเวลาทำในสิ่งที่อยากทำ
ตอนนี้ยังไม่เก่งด้านการลงทุนเท่าใดนัก แต่เชื่อว่าจะเก่งขึ้นเรื่อยๆ เพราะ ได้เรียนรู้มากขึ้น มีประสบการณ์มากขึ้นทุกวัน
ถ้าเราลดอัตตาลง มีตัวเรา ของเราให้น้อยลง เราก็จะมีความสุข สงบเย็นยิ่งขึ้น
เวลาหุ้นตก ก็คิดว่า เราจะมีเงินไปช่วยเหลือสังคมช้าลงหน่อย จำนวนเงินน้อยลงหน่อย ทำให้สบายใจดี ตลาดหุ้น เป็นเรื่องของความโลภ และความกลัว ถ้าลดตรงนี้ไปได้ มีสติ คิดว่าน่าจะประสบความสำเร็จนะคะ
เป็นการเอื้อเฟื้อให้กับเพื่อนมนุษย์ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 251
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หมอกับการลงทุน
โพสต์ที่ 36
เป็นหมอครับ เริ่มเข้าตลาด1เดือนก่อนอุ๋ย100จุด เริ่มแรกเลือกลงทุนแนวVI และเข้าใจผิดว่าตัวเองวิเคราะห์หุ้นเก่ง แต่หลังจากเจอวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์มาเต็มๆ โดนเต็มๆรู้ทันทีว่าการมั่นใจในหุ้นที่ตัวเองซื้อมากๆไม่ใช่สิ่งที่ดี ช่วงที่ได้รับบาดเจ็บผมพยายามค้นหาวิชาที่จะเอาตัวรอดได้ในทุกสถานการณ์ จึงได้ฝึกวิชาเทกนิค (ถ้าเทียบวิชาVI เป็นวิชาของเจไดผมว่า เทกนิคก็เปรียบเหมือนวิชาของSith) เจไดที่ไม่รู้วิชาของพวกซิทก็ยากที่จะเข้าใจโอกาสและพลังที่ซ่อนอยู่ในทุกแห่ง เวอร์ไปป่าวเนี่ย
ตอนนี้ผมเป็นนักลงทุนHybridครับ พอร์ตครึ่งนึงถือหุ้นVI เพียวๆเลย บางตัวไม่คิดจะขายเลย บางตัวถือกันมาแล้วหลายเดือนถึงเป็นปี บางตัวถือแล้วไม่มีทางลงเลย bid ทุกช่องยังไม่พอทิ้ง อีกครึ่งหนึ่งลงทุนในหุ้นบลูชิปที่มีโวลุ่มมากๆ อาศัยเกาะ fund flow และ/หรือ เล่นหุ้นปั่นโดยดูเทกนิคล้วนๆ ซื้อแพงไม่กลัวเพราะจะเอาไปขายแพงกว่า
ผมสังเกตได้ว่าเวลาหุ้นขึ้นแรงๆถ้าเราถือแต่หุ้นVIมันมักจะไม่ขยับไปกับเพื่อนเราจะเซ็งมากๆ แต่หุ้นVI มักจะเป็นเกราะกำบังในเวลาหุ้นตกได้ดีมากๆ เวลาหุ้นขาลงผมจะขายหุ้นปั่นและบลูชิปออกหมดและหาจังหวะเข้าไปซื้อหุ้นVIที่ปันผลดี
ผลปรากฎว่าปีนี้พอร์ตVI ได้ปันผลประมาณ 9% แต่แทบไม่มีcapital gain ส่วนครึ่งพอร์ตหลังโตมากๆ ได้มาจากPTTEP JAS UAC SYMC
ตอนนี้ผมเป็นนักลงทุนHybridครับ พอร์ตครึ่งนึงถือหุ้นVI เพียวๆเลย บางตัวไม่คิดจะขายเลย บางตัวถือกันมาแล้วหลายเดือนถึงเป็นปี บางตัวถือแล้วไม่มีทางลงเลย bid ทุกช่องยังไม่พอทิ้ง อีกครึ่งหนึ่งลงทุนในหุ้นบลูชิปที่มีโวลุ่มมากๆ อาศัยเกาะ fund flow และ/หรือ เล่นหุ้นปั่นโดยดูเทกนิคล้วนๆ ซื้อแพงไม่กลัวเพราะจะเอาไปขายแพงกว่า
ผมสังเกตได้ว่าเวลาหุ้นขึ้นแรงๆถ้าเราถือแต่หุ้นVIมันมักจะไม่ขยับไปกับเพื่อนเราจะเซ็งมากๆ แต่หุ้นVI มักจะเป็นเกราะกำบังในเวลาหุ้นตกได้ดีมากๆ เวลาหุ้นขาลงผมจะขายหุ้นปั่นและบลูชิปออกหมดและหาจังหวะเข้าไปซื้อหุ้นVIที่ปันผลดี
ผลปรากฎว่าปีนี้พอร์ตVI ได้ปันผลประมาณ 9% แต่แทบไม่มีcapital gain ส่วนครึ่งพอร์ตหลังโตมากๆ ได้มาจากPTTEP JAS UAC SYMC
-
- Verified User
- โพสต์: 156
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หมอกับการลงทุน
โพสต์ที่ 38
หมอคงมีหลายแบบครับ
ช่วงแรกๆ
ผมเป็น risk taker เลย
speculate ตลอด pure technic
อย่ามาพูดพื้นฐานให้ระคายหูเลย
ตอนนี้ เริ่มโตขึ้น port ใหญ่ขึ้น เปิดรับมากขึ้น
เริ่มศึกษาพื้นฐานแล้ว
อยากได้ปันผลเยอะๆบ้างอะไรบ้างครับ
ช่วงแรกๆ
ผมเป็น risk taker เลย
speculate ตลอด pure technic
อย่ามาพูดพื้นฐานให้ระคายหูเลย
ตอนนี้ เริ่มโตขึ้น port ใหญ่ขึ้น เปิดรับมากขึ้น
เริ่มศึกษาพื้นฐานแล้ว
อยากได้ปันผลเยอะๆบ้างอะไรบ้างครับ
Common system, Uncommon profit.